เวียงกือนานครสาบสูญ ตำนานที่รอการไปเยือน

'เวียงกือนา'นครสาบสูญ ตำนานที่รอการไปเยือน

"เวียงกือนา"นครสาบสูญ ตำนานที่รอการไปเยือน

รู้ก่อนเที่ยว



<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>
</TD></TR></TBODY></TABLE>ผู้คนที่ไปเยือนจังหวัดเชียงราย มักจะให้ความสนใจเกี่ยวกับเรื่องสภาพอากาศที่ดี สถานที่ท่องเที่ยวชายแดนและธรรมชาติ

แต่จะมีใครรู้ว่าเชียงรายยังมีความเป็นเมืองประวัติศาสตร์และตำนานที่ลี้ลับชวนให้ศึกษาอย่างลึกซึ้ง หนึ่งในนั้นคือ "เวียงกือนา" นครที่สาบสูญไปหลายร้อยปี

และหากได้เดินทางไปตามถนนสาย อ.เวียงชัย มุ่งสู่ กิ่ง อ.เวียงเชียงรุ้ง ผ่านหมู่บ้านป่ายางมน ต.เวียงเหนือ อ.เวียงชัย ลัดเลาะไปตามทุ่งนากว้างใหญ่เขียวขจี ไปประมาณ 10 กิโลเมตร ก็จะถึงโบราณสถานเวียงกือนาซึ่งเป็นโบราณสถานเพียงแห่งเดียวที่ยังคงบ่งบอกถึงความมีอยู่จริงของมหานครอันยิ่งใหญ่นี้

ที่น่าสนใจอย่างยิ่งคือนอกจากจะเป็นนครที่ลี้ลับ ยังเป็นเรื่องแปลกอย่างมากที่โบราณสถานแห่งนี้ยังคงอยู่ได้เพราะต้นไม้ใหญ่ช่วยค้ำจุนเอาไว้ จึงแปลงสภาพของพระพุทธรูปขนาดใหญ่ที่เป็นโบราณวัตถุที่ควรจะสูญสลายไปตามสภาพเมืองเหมือนสิ่งอื่นๆ ให้กลายเป็นโบราณสถานในต้นไม้ในที่สุดยิ่งกล่าวถึงก็ยิ่งแปลกคงต้องดูภาพประกอบ <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=right border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>
</TD></TR></TBODY></TABLE>

ปัจจุบันโบราณสถานแห่งนี้ตั้งแต่อยู่อย่างเงียบสงบติดกับแม่น้ำกกและถนนสายเวียงชัย-เวียงเชียงรุ้ง สถานที่ไม่กว้างขวางมากนักจึงมองเห็นต้นโพธิ์ขนาดใหญ่ได้อย่างชัดเจน ณ ต้นโพธิ์แห่งนี้เองที่เป็นที่ประดิษฐานของ "พระเจ้าเวียงกือนา" หรือที่ชาวบ้านเรียกกันจนคุ้นปากว่า "หลวงพ่อใหญ่"

โดยกิ่งก้านหรือแม้แต่ลำต้นของต้นโพธิ์ได้รัดรึงโอบเอาหลวงพ่อใหญ่เอาไว้เกือบทั้งองค์ ทั้งที่เป็นพระพุทธรูปองค์ใหญ่ที่สร้างด้วยการก่ออิฐถือปูน ที่มีความสูง ถึง 6 ศอกคืบและมีหน้าตักกว้างกว่า 6 ศอก ภายนอกหากมองผิวเผินคงจะไม่เห็นชัดเจนต้องเพ่งมองสักระยะจึงจะเห็นส่วนของอิฐและปูนที่โผล่ออกมาจากหลายๆ ซอกของต้นโพธิ์ <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>
</TD></TR></TBODY></TABLE>

ปัจจุบันสามารถมองเห็นเศียรรูปก้นหอย ไหล่ หลัง ผ้าจีวร ฯลฯ บางส่วนของพระพุทธรูปโผล่ออกมา จึงทำให้สามารถจินตนาการหรือปะติดปะต่อได้ถึงภาพขององค์พระพุทธรูปที่สมบูรณ์ว่ามีความสวยงามได้เช่นกัน

ตามตำนานเล่าขานว่าสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.1928 พระเจ้ากือนากษัตริย์ของอาณาจักรโยนกซึ่งสืบเชื้อสายมาจากพ่อขุนเม็งรายมหาราชกษัตริย์ผู้ยิ่ง ใหญ่ของอาณาจักรล้านนา ทรงใฝ่พระทัยในพระพุทธศาสนาตั้งแต่ทรงพระเยาว์ ต่อมาได้ครองเมืองเชียงใหม่เป็นกษัตริย์องค์ที่ 6 แต่ไม่ทรงโปรดจึง เสด็จกลับเมืองเชียงแสน

เมื่อเดินทางถึงบริเวณลุ่มแม่น้ำกกได้สร้างเมืองใหม่เรียกว่า "เวียงกือนา" และมีพระพุทธรูปองค์ใหญ่ ต่อมาเมื่อล่วงเลยเวลามาหลายร้อยปีอาณาจักรโยนกและล้านนาเสื่อมลง จึงเหลือเพียงหลวงพ่อใหญ่หรือพระเจ้าเวียงกือนาองค์เดียวในต้นไม้ดังกล่าว

ปัจจุบันบริเวณพุทธศาสนาเวียงกือนาอยู่ภายใต้การดูแลของสำนักพระพุทธศาสนา โดยมีองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) เวียงเหนือ ปัจจุบันมีการสร้างอาคารต่างๆ เอาไว้บริเวณดังกล่าวรองรับพร้อมสรรพ ทุกๆ ปีจะมีการจัดงานประจำปีเพื่อบูชาหลวงพ่อใหญ่ริมฝั่งแม่น้ำกก

กระนั้นสถานที่แห่งนี้ก็ยังมีนักท่องเที่ยวไปเยือนน้อยอาจเป็นเพราะไม่มีการประชาสัมพันธ์กันให้มาก จึงรู้กันเพียงในหมู่คนที่ต้องการศึกษาประวัติศาสตร์ สิ่งมหัศจรรย์ โบราณสถานหรือโบราณวัตถุ รวมทั้งคนที่มีศรัทธาจริงๆ เท่านั้น

หากมีโอกาสลองไปเยือน !!+
------------------
ที่มา:ข่าวสด
http://www.matichon.co.th/khaosod/k...g=03pro09250850&day=2007-08-25&sectionid=0313