การศึกษาพระสมเด็จถ้ามีความพยายามในการพิจารณาพิมพ์พระอย่างละเอียดแบบนี้ การจดจำเป็นสิ่งสำคัญมากเนื้อหาในการศึกษาแบบเจาะเป็นจุดอย่างนี้ดีครับ ได้ความรู้มากๆ กำลังเก็บเกี่ยวรายละเอียดทุกเนื้อหาบทเรียนอยู่ เป็นกำลังใจครับ ขอบคุณสำหรับความรู้ครับ...อนุโมทนา...สาธุ
เส้นทางนักแสวงหาพระสมเด็จ
ในห้อง 'วิธีดูพระเครื่อง-เครื่องรางของขลัง' ตั้งกระทู้โดย phak622, 7 กรกฎาคม 2012.
หน้า 6 ของ 42
-
-
ต้องขอขอบคุณอีกครั้ง ให้แก่เพื่อนสมาชิก ทุกท่านที่เข้ามาชมกระทู้นี้ รวมทั้งผมด้วย ว่า คุณ phak622 มีจิตใจ มาเพื่อให้จริงๆ อนุโมทนา
อยากให้ สมาชิก ที่จะนำพระสมเด็จมาลงถาม ควรเข้ามาศึกษาด้วยตนเองก่อน แล้วนำข้อมูลที่ได้ ไปลองดูกับพระของตนเองว่าเข้าจุดไหนบ้างในกระทู้จะดีมากครับ อย่าปิดกั้นตนเอง ในเรื่องความรู้ รับไปแล้วเอาไปประมวลผล ถูกผิดอีกที และจะไปต่อยอดได้อีก นับถือ ๆ
ส่วนเรื่องมวลสารสีน้ำเงิน ในพระสมเด็จ ที่ผมเคยได้รับการถ่ายทอดข้อมูลมา นั้นว่ามีอยู่จริง อีกเสียง แต่ก็ไม่รู้ว่าทำมาจากอะไรเหมือนกันครับ -
-
ไฟล์ที่แนบมา:
-
-
ดูไปดูมาผมชักจะชอบเนื้อหาของพระองค์นี้แล้วครับคุณphak622
มีด้านหลังให้ดูไหมครับไฟล์ที่แนบมา:
-
-
ในเรื่องของเม็ดเขียว ผมอยากให้ทุกท่านเก็บเอาไว้ก่อนนะครับ. สี่นี้เป็นสิ่งท้ายๆในการพิจารณา. เมื่อทุกอย่างมาสิ่งนี้ก็มา. และผมอยากให้ท่านทั้งหลาย. เข้าใจสิ่งที่ควรรู้เทคนิคในเรื่องที่พิจารณาง่ายก่วาก่อนแต่ว่าสำคัญและผมว่าไม่เคยมีใครพูดเรื่องเกล็ดเล็กๆน้อยๆแต่สำคัญแบบนี้ให้ฟังมาก่อน. แต่ตอนนี้ผมยุ่งอยู่. แต่จะกลับมา. พูดถึงมวลสารเม็ดใหญ่ๆที่มักปรากดในองค์พระ. ทำการบ้านกันไว้ด้วยนะครับ เดี๋ยวค่อยว่ากัน พอดีมีภารกิจครับ
เมื่อรู้แล้วก็ดีแล้ว. แต่อย่าไปให้จุดใดจุดหนึ่งสำคัญ. ก่วาจุดอื่นๆ. เพราะจุดอื่นก็สำคัญ. เมื่อมาต้องมาหมด -
ฝากท่านผู้รู้ช่วยดูให้ผมที พิมพ์ใหญ่อกกระบอก องค์นี้ ยินดีรับฟังทุกคำติชม
ไฟล์ที่แนบมา:
-
-
รบกวนพิจารณา หน่อยครับที่ว่า มีเขียวๆๆ ในองค์พระ อย่างนี้ดีไหมอ่ะ น้อมรับคำติชม
ไฟล์ที่แนบมา:
-
-
รออ่านต่อครับ
สมัครแฟนคลับก่อนเลย -
ต้องขออภัยท่าน กระจอกแมน.และท่าน ตระ. ด้วย คอมผมเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย. ผมเลยเอาภาพมาวิจารชี้จุดให้เห็นภาพในความคิดส่วนตัวของผมไม่ได้ ทั้งสององค์. ถ้าจะให้ตอบเป็นตัวหนังสืออย่างเดี๋ยวไม่เห็นภาพผมว่ามันไม่พัฒนาน่ะครับผมว่าเดี๋ยวใจเย็นหน่อยนะ หรือท่านอื่นก็ช่วยวิเคราะวิจารณาด้วยนะครับ
-
ความรู้ใหม่
เรื่องบล็อคเขยื้อนเป็นความรู้ใหม่จริงๆ ผมยังไม่เคยรับรู้จากที่ไหนมาก่อน น่าสนใจจริงๆครับ ส่วนใหญ่จะบอกว่ามวลสารหดตัว โดยเฉพาะเส้นซุ้มโค้งบน ทั้งด้านซ้ายและขวา 9ใน10องค์ของพระแท้จะต้องมีการม้วนตัวของซุ้มเข้าด้านใน ไม่ด้านซ้ายก็ขวา ถ้าทั้งสองด้านโอกาสเป็นพระแท้แทบจะ100% โดยต้องทิ้งร่องรอยลายเส้นซุ้มติดพื้นผิวไว้ด้วยนะครับ เหมือนที่คุณphak622 นำเสนอนั่นแหละครับ สังเกตุดีๆ -
ไฟล์ที่แนบมา:
-
-
ผมขออนุญาต ชี้จุดสังเกตุก็แล้วกันนะครับว่า
1.มองภาพรวมทีแรกความรู้สึกได้ถึงการรวมตัวของมวลสารไม่แน่นพอ เอาเข้าช่องแช่แข็งมีหวังระเบิด
2.การม้วนตัวในจุดที่ลูกศรชี้นั้น ส่วนตัวผมมองว่าเป็นการใช้ของแหลมคมมาขีดเพื่อให้ดูเหมือนการม้วนตัวของมวลสาร มองแล้วขาดธรรมชาติ
ในเรื่องของพิมพ์พระผมไม่พูดถึงเนาะ เอาเรื่องธรรมชาติดีกว่า เพราะธรรมชาตเข้าใจยาก ขออภัยถ้าทำให้ท่านไม่พอใจร่วมศึกษาเพราะเพราะเราคือนักแสวงหาพระสมเด็จครับไฟล์ที่แนบมา:
-
-
ท่านถามเรื่องมวลสารสีเขียวว่าแบบนี้ดีมั้ย
1.ฐานสิงห์ในจุดด้านนี้นั้น ความชัดเจนจะต้องน้อยกว่าอีกฝั่งหึ่งเสมอแม้พิมพ์พระจะกดได้ดีแค่ไหน ถ้าเจอแบบนี้ระวัง
2. ในจุดที่ผมสังเกตุจุดที่2และ3นั้น หน้าอกพระใหญ่มากมองแล้วเหมือนจะเป็นพิมพ์อวบ แต่ใบหน้าองค์พระนั้นกับเล็กไม่ได้สัดส่วนที่สวยงามดูขัดๆ ซึ่งเมื่ออกใหญ่หน้าต้องใหญาตามด้วย
ในองค์นี้นั้นผมขอพูดในส่วนของพิมพ์พระว่า หาพิมพ์พระที่จะยึดแล้ววิเคราะไม่ได้ แสดงว่าผิดพิมพ์ และที่ผมไม่วิจารณ์เรื่องมวลสารเพราะพิมพ์ผิดมวลสารก็ไม่ใช่
สรุปเนื้อเขียวที่ว่า ไม่ดีครับ
ที่ผมตอบไปอาจจะมีคนที่ไม่พอใจว่าเฮ้ยไอ้นี่มัน.................อย่าโกรธกันครับ
เพราะเรามาแสวงหาร่วมศึกษา
ในบางครั้งความรู้สึกที่เป็นกลางว่า ขัดหรือไม่ขัดตา มันสามารถมาใช้ร่วมวิเคราะได้ แต่ความรู้สึก ที่ไม่เป็นกลาง คือ ใครว่าอย่างไรไม่สนเราชอบของเราหรือใครว่ายังไงก็ช่างเราไม่ชอบสะอย่าง อันนี้ออกทะเลแน่นอนนะครับ
ด้วยความเคารพจริงๆไฟล์ที่แนบมา:
-
-
สวัสดีครับท่านสมาชิกทุกท่านด้วยความเคารพจริงๆ
สิ่งที่จะชี้จุดให้สังเกตุดังต่อไปนี้นั้นมีความสำคัญมาก ซึ่งดูเหมือนว่าเราจะรู้จะจุดนี้กันดีอยู่แล้วให้ความสำคัญในการพิจารณากันพอสมควรเลยทีเดียว แต่ส่วนตัวผมว่าหลายๆท่านก็ยังคงมองข้ามความสำคัญที่มีในจุดนี้ไป จุดที่ว่าคือ "มวลสารผงวิเศษ" แล้วแต่จะเรียกหากัน
เมื่อเราพิจารณาทุกอย่างมาดีแล้วว่าใช่แล้วนั้น เมื่อเจอจุดนี้ผมอยากให้ทุกท่านเพิ่มความละเอียดลงไปมากกว่าเดิม
ก่อนอื่นเนื่องจากเป็นเกล็ดเล็กเกล็ดน้อยที่สำคัญมาก
ถ้าการบอกครั้งนี้เกิดประโยชน์แก่ใครมากน้อยก็ตามสำเร็จเป็นบุญกุศลขึ้นมา ข้าพเจ้าขออุทิศบุญกุศลครั้งนี้แม้น้อยนิดแก่
1.พระสมเด็จพุฒาจารย์(โต)แห่งวัดระฆัง
2.ท่านอาจารย์ของข้าพเจ้าและครอบครัวของท่านที่ได้กรุณาสอนบอก
3.บิดามารดา.ลูกสาว น้องภัคติมา(แพรมุก)ภรรยาของข้าพเจ้าและข้าพเจ้า
4.ท่านสมาชิกทุกท่านที่ได้อ่านข้อความในครั้งนี้
สาธุ
ในจุดนี้นั้นคือมวลสารที่เกิดขึ้นมาจากการตัดขอบพระ แต่ด้วยความที่มันเริ่มหมาดๆมากแล้วจะแห้งแล้วนั้น จึงเกาะรวมกันเป็นก้อนใหญ่ จึงอาจจะทุบหรือโขกให้เม็ดเล็กลงแล้วโยนใส่เข้ากับมวลสารที่ยังไม่ได้กดพิมพ์เหมือนเดิมเพราะถือว่าเป็นผงวิเศษ เมื่อนำเอามวลสารมากดพิมพ์ในบล็อกต่อไป มวลสารที่ถูกตัดขอบก็ผสมอยู่ในองค์พระ แต่เนื่องด้วย ความแห้งความชื้นที่ต่างกันของมวลสารนั้น ทำให้ไม่สามารถที่จะประสานกันได้ดี เมื่อการเวลาผ่านไปมวลสารเริ่มหดตัวยุบตัว มวลสารหลักในองค์พระจึงถูกดึงออกจากก้อนมวลสารที่เป็นมวลสารที่เกิดจากการตัดขอบออกนั้น และมวลสารก็หดตัวจึงทำให้เกิดความห่างระหว่างก้อนมวลสารผงวิเศษเก่าจากการตัดขอบกับมวลสารหลัก แต่นี่เป็นสิ่งที่จะเราจะต้องพิจารณาให้ดีแล้วถึงความเป็นธรรมชาติของก้อนมวลสารนั้นที่มีอยู่อย่างถี่ถ้วนด้วยดังที่ว่ามาแล้ว
จึงอยากที่จะบอกให้ทุกท่านรู้ว่า เมื่อเป็นมวลสารที่ถูกตัดขอบออกจากองค์พระเก่า เนื้อก้อนมวลสารที่ว่านั้น จะต้องมีสิ่งที่มีส่วนผสมที่มีในองค์พระเช่นเดียวกัเพราะเป็นมวลสารครกเดียวกัน ดังนั้นถ้าเราตั้งใจดีๆพิจารณาดีจะเห็นว่ามวลสารก้อนนั้นๆจะมีเม็ดดำเม็ดแดงฯลฯที่ผสมอยู่ในมวลสารเช่นเดียวกัน เพียงแต่จะมีขนาดเล็กๆมากๆรวมอยู่ด้วย เพราะจริงๆแล้วก้อนนั้นถ้าไม่ถูกตัดออกก็คือเนื้อพระที่เราจะต้องพิจารณานั่นเองครับ
ผมหวังว่าท่านนักแสวงหาทุกท่านจะมองเห็น และเป็นประโยชน์
จริงไม่จริงถูกผิดท่านพิจารณาเอาเถิด เพราะพระเก๊พระแท้ก็ต้องพิจารณาเช่นกันครับไฟล์ที่แนบมา:
-
-
-
ตอนนี้ตื่นเช้ามาต้องเปิดคอมอ่านก่อนทำงานอย่างอื่นเลยครับ
เป็นความรู้ที่เรียนรู้ได้ง่ายๆสบายๆอ่านไปพิจารณาตามองค์พระไปเข้าใจและทำให้รู้มากขึ้น
ขอบคุณครับ -
ภาพประกอบ หลังจากกดพิมพ์พระ เนื้อส่วนเกินจะถูกตัดขอบออก แล้วนำส่วน
ที่ถูกตัดกลับมาผสมใหม่ ทำให้มีมวลสารเป็นก้อนที่แข็งติดอยู่ตามเนื้อพระครับไฟล์ที่แนบมา:
-
-
อยากชมด้านหลังด้วยพอได้มั๊ยครับ -
เอาล่ะครับผมว่าความรู้เราก็ค่อยๆศึกษากันไป ผมมีอะไรที่พอจะเปิดเผยได้ก็จะบอกครับ แต่ถ้าบอกก็จะบอกในสิ่งที่ไม่ค่อยมีใครพูดถึงเท่าไหร่แต่ผมว่าสำคัญและนำไปใช้ได้ แต่ผมก็เคยบอกท่านสามาชิกที่เข้ามาอ่านสิ่งที่ผมได้กล่าวไว้แล้ว ว่าความรู้เป็นองค์ประกอบหนึ่ง มีแต่ความรู้ไม่มีวาสนาที่จะได้พบกันความรู้นั้นก็ไร้ผล ศรัทธาจากใจจริงก็เป็นองค์ประกอบหนึ่งผมว่าทุกๆท่านน่าจะมีอยู่เต็มเปี่ยมอยู่แล้วสำหรบนักแสวงหาพระสมเด็จทุกๆคน แต่ เชื้อ องค์ประกอบอย่างหนึ่งที่ผมเคยได้กล่าวใว้ข้างต้นเป็นสิ่งที่สำคัญมากในการแสวงหา บางท่านแม้แต่เชื้อยังแสวงหาไม่พบไม่เจอเลย ด้วยเหตุนี้เองครับเพราะกว่าผมจะรู้กว่าจะมีคนแนะนำกว่าจะมีเชื้อกว่าจะได้ครอบครอง ผมก็เลยพอที่จะทราบดีว่า
เชื้อก็หายากไม่แพ้กัน แต่ในวันนี้ไหนก็ให้ความรู้ที่ผมมีอยู่น้อยนิดแก่ท่านสมาชิกและผู้ที่ไม่ใช่สมาชิกแล้ว วันนี้ผมเลยนำ สิ่งที่เรียกว่า เชื้อ ที่ผมมีมาให้กับเพื่อนพี่น้องสมาชิกที่อยากได้ แต่ประเด็นคือผมมีแค่องค์เดียว ใครอยากได้ก็บอก ครับ
เชื้อที่ว่าคืออะไร เป็นผงพุทธคุณเก่าของพระสมเด็จบางขุนพรหมที่เอามาร่วมสร้างพระสมเด็จบางขุนพรหมปี09 เมื่อตัดขอบ้างสร้างได้ครบจำนวนบ้าง นายชะแล่มช่างที่ทำเห็นแล้วว่าของเป็นของมีค่า จะทิ้งไปเสียดายเลยเก็บรวบรวม แกะพิมพ์ขึ้นเองเอามวลสารนั้นๆมากดพิมพ์ที่แกะขึ้นเอง กลายเป็นพิมพ์นายชะแล่ม ในเรื่องพาณิชย์นั้นไม่มีราคาค่างวดอะไรเลย แต่สำหรับนักแสวงหาอย่างเรานั้นมากมายมหาสารในคุณค่าที่ได้รับ ได้ศึกษา ได้เป็นเชื้อ และที่สำคัญ พุทธคุณไม่แพ้พระสมเด็จเลยครับ เพราะอยากให้ท่านทั้งหลายลองคิดดูว่าเปิดกรุบางขุนพรหมมามีพระหักแตกก็มาบดเป็นส่วนผสม เราก็นึกย้อนกลับไปว่า มวลสารนั้นๆท่านแตกตัวมาจากอะไร จากองค์พระ มาเปิดกรุ เอามาบด สร้างพระให้คนได้บูชา แม้แต่เศษเหลือก็ให้คนเห็นค่า นำมากดพิมพ์ เพราะมวลสารนั้นท่านแตกตัวออกเพื่อให้ทุกๆคนได้รับพุทธคุณมวลสารนั้นได้สร้างกุศลให้แก่ผู้สร้างและผู้ครอบครอง เป็นเชื้ออย่างเดียวกันแยกกันไป ดังที่ผมได้กล่าวมาในตอนต้นนั้นในกระทู้นี้ ใครที่อยากได้บอกครับ ไร้ค่าในเรื่องราคา แต่ถ้าศรัทธามหาศาลครับ
ไม่ใช่นิยายหลอกขายของ เพราะไม่มีของมาขาย แต่สิ่งนี้ผมมอบให้ คนที่อยากได้ ฟรีครับ
หน้า 6 ของ 42