<TABLE class=alt1 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD align=middle>
</TD></TR></TBODY></TABLE>
ถาม : ศาสนาเสื่อม ?
ตอบ: เหตุผลก็ต่างๆ กัน แต่ว่าเหตุที่ศาสนาไม่สามารถจะดำรงอยู่ได้นานนั้น เกิดจากภายในทั้งสิ้น ไม่มีภายนอก ภายในคือ บริษัท ๔ ได้แก่ ภิกษุ พระสงฆ์ทั้งหมด ภิกษุณี ก็คือพระสงฆ์ที่เป็นหญิงทั้งหมด อุบาสก คือผู้ชายที่ปวารณาคนเข้าถึงพระรัตนตรัย อุบาสิกา คือผู้หญิงที่ปวารณาตนเข้าถึงพระรัตนตรัย ทั้ง ๔ เหล่านี้ไม่สามัคคีกัน ไม่ช่วยเหลือกัน ไม่รักษาและจรรโลงพระศาสนาก็จะเสื่อมหมด สาเหตุเกิดจากภายในทั้งนั้น ภายนอกใครตีเท่าไรก็ไม่มีผล เพราะว่าพุทธศาสนาเป็นของแท้พิสูจน์ได้ ก็เลยสำคัญอยู่ที่พวกเราเอง
ถาม : ถ้าเผื่อบริษัท ๔ ไม่สามัคคี โอกาสที่พุทธศาสนาจะไม่ถึง ๕,๐๐๐ ปี ?
ตอบ: จริงๆ แล้วมันต้องลากถูไปจนถึง เพราะว่าคนดีก็มีอยู่ สิ่งที่ พระพุทธเจ้าทำนายถูกต้องแน่นอนไม่มีพลาด เพียงแต่ท้ายๆ ของศาสนาในอันตรธานปริวรรตของปฐมสมโพธิถกาจะกล่าวถึง การเสื่อมสูญหมดสิ้นทั้ง ๔ อย่าง อันประกอบด้วย ปริยัติอันตรธาน ปฏิเวธอันตรธาน ปริยัติอันตรธาน คือการศึกษาเล่าเรียนธรรมะไม่มี ปริเวธอันตรธาน ก็คือผลของการศึกษา เล่าเรียนก็พลอยไม่มีไปด้วย ลิงคอันตรธาน เพศของภิกษุก็เสื่อมไป ธาตุอันตรธาน พระบรมสารีริกธาตุก็สูญสิ้นไป
ท่านกล่าวเอาไว้ว่า ถึงวาระปลายศาสนาอย่างนั้น มันจะเกิดเป็นมิคสัญญี คำว่า มิคสัญญี คือ สำคัญว่าเป็นเนื้อเป็นปลา เจอหน้าฆ่ากันแหลกเลย ถึงวาระนั้นถึงเวลานั้นก็บอกว่าพระอินทร์จะปลอมเป็นชายแก่ เอารถเข็ญทองคำเท่าลูกฟัก ไปเที่ยวประกาศว่าใครรู้ธรรมะขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แม้พระสูตรใดพระสูตรหนึ่งให้ท่องบ่นมาให้ฟัง จะมอบทองคำนี้ให้ ก็ไม่มีใครรู้ ประกาศว่าใครรู้แม้แต่หัวข้อใดหัวข้อหนึ่ง กล่าวมา จะมอบทองคำนั้นให้ก็ไม่รู้ จนกระทั่งรู้ว่าแม้แต่คำหนึ่งบอกให้ก็ไม่รู้ ถ้าอย่างนั้นแล้วจึงถือว่าศาสนาเสื่อมสิ้นลง พอถึงวาระถึงเวลาอย่างนั้น ท่านจะปล่อยให้ไฟบรรลัยกัลป์ล้างโลก
ถาม : ศาสนาของพระพุทธเจ้าบางพระองค์ไม่ได้รวบรวมพระไตรปิฎกไว้ ?
ตอบ: ก็จริงๆ เขาใช้มุขปาฐะ คือจำจดบอกเล่ากันปากต่อปากมาเรื่อยๆ อย่าลืมว่าคนสมัยก่อนปัญญาดีกว่าเรามาก เอาแค่พุทธกาล อย่างพระอานนท์ ๘๔,๐๐๐ พระธรรมขันธ์ ท่านท่องได้หมด จำได้หมด บอกได้หมด รู้ด้วยตั้งแต่ต้นยันปลาย เทศน์ที่ไหน เทศน์กับใคร เมื่อไร เนื้อหาว่าอย่างไร บอกได้ทุกคำ ระยะแรกๆ ก็จะเป็นมุขปาฐะสืบทอดกันมาเรื่อยๆ เหมือนกัน เสร็จแล้วพอมาหลังพุทธปรินิพพาน จึงมีการสังคายนาพระไตรปิฎก เพราะว่าถ้าไม่รวบรวมไว้เป็นหลักฐาน เดี๋ยวเขาจะคัดค้านคำสอนว่าไม่ทราบว่าออกจากพระโอษฐ์พระพุทธเจ้าจริงหรือเปล่า
เพราะเกิดจากพระสุภัททะวุฒบรรพชิตที่ท่านกล่าวจาบจ้วงพระพุทธเจ้า พระมหากัสสปเห็นว่าอันตรายจะเกิดกับธรรมวินัยถึงได้รวบรวมขึ้นมาไว้ พูดง่ายๆ ก็คือถ้ามีเป็นหลักฐาน อย่างปัจจุบันนี้ ฝรั่งเอะอะก็ต้องมีเอกสารยืนยัน คราวนี้เอกสารยืนยันนี้มัน ๒,๐๐๐ กว่าปี มันก็พยายามที่จะมายืนยันว่า อันนี้เป็นการแต่งเติมขึ้นมา อันนี้สรรเสริญคุณพระพุทธเจ้าเกินจริง ก็ว่าของมันไปไปเรื่อย
ศาสนาของพระพุทธเจ้านามว่า ปทุมมุตระ ศาสนาของท่านอายุ ๓๐,๐๐๐ กัป ไม่ใช่ ๓๐,๐๐๐ ปีโปรดทราบ อายุพระศาสนา ๓๐,๐๐๐ กัป อายุของคนประมาณ ๘๐,๐๐๐ หรือ ๑๐๐,๐๐๐ ปี แสดงว่ากำลังของท่านตั้งใจจะกวาดให้ไม่เหลือ
ถาม : (ไม่ชัด)
ตอบ: อันนี้จริงๆ บางทีก็ขึ้นอยู่กับสิ่งที่ท่านสร้างมา แล้วก็บริษัทบริวารทั้งหมดของท่านที่จะต้องสงเคราะห์ คราวนี้ถ้าบริษัทบริวารที่ท่านจะสงเคราะห์เพื่อเข้าถึงมรรคผลถ้ามันยังมาไม่หมด อายุของศาสนาก็ต้องยาวหน่อย เพื่อที่จะรอ
สนทนากับพระเล็ก สุธมฺมปญฺโญ
เดือนมกราคม ๒๕๔๗(ต่อ)
ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ
.
เหตุที่ทำให้ศาสนาเสื่อม
ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย tamsak, 17 กรกฎาคม 2009.
-
-
ก็เมื่อพระสุขวัปัสสิโก ด่าผู้ที่ชอบสายวิชชา3 หรืออภิญญา หรือปฎิสัมภิทาญาณ ว่าเป็นวิชาของพวกโยคี ไม่ใช่วิชาของพระพุทธเจ้า ยึดติดอยู่กับนิมิตร ยึดติดอยู่กับภาพพระ ไม่ใช่ทางหลุดพ้น(เจอบ่อย พวกองุ่นเปรี้ยวมะนาวหวาน)
และนับถือพุทธแล้วไม่รวย แน่นอนล่ะ สมัยนี้ใครบอกไม่อยากรวย รับรอง โกหกแน่.
....ฝรั่งนับถือคริสต์รวยกว่าเยอะ แต่ก็ยังมีบางท่านให้คำอธิบายว่าถึงเค้ารวย เค้าก็เป็นทุกข์ไม่ได้เป็นสุข(รู้ความรู้สึกเค้าขนาดนั้นเชียว) เมื่อเขามีเงินเยอะ เขาก็ต้องกลัวว่าจะมีคนมาขโมยเงินของเขา(ง่ายปานนั้นจะมีตำรวจไว้ทำไม) กลัวคนจะมาคดโกงเงินของเขา(เช่นกัน จะมีกฏหมายไว้ทำไม) หรือไม่บางทีมีคนรักก็ไม่ได้รักกันจริงๆ แต่รักกันที่เงินทอง(อันนี้ถ้าไม่โดนกับตัวเองคงไม่รู้ แต่รู้ขนาดนี้ก็แสดงว่า...^^) ถึงเขารวยแต่เขาก็ปวดหลังปวดขาปวดไหล่เหมือนคนจนน่ะแหละ(แต่เขาก็มีเงินจ้างคนมานวดหรือไม่ก็ซื้อเครื่องนวดแหละน่า) และที่สำคัญ ถึงเขารวย แต่ยังไงเขาก็เจ็บป่วยและตายเหมือนคนจน (ถึงเขาป่วยเขาก็มีปัญญาจ่ายค่าหมอแหละเอ้า และที่สำคัญเวลาตาย เค้าก็มีเงินพอจะจ้างโรงพิมพ์ตีพิมพ์ความดีของเขาแจกจ่ายให้มันคงอยู่นานหลายชั่วคน เรื่องไรจะตีพิมพ์ความเลวให้โง่ล่ะเอ๊อ เรื่องความเลวน่ะ เอาไว้ให้พระยายมราชรู้ก็พอ มนุษย์ธรรมดาไม่ต้องไปรู้หรอก ปล่อยให้โง่อยู่นั่นแหละ ^^)
ฝรั่งรวย------ส่วนใหญ่นับถือคริสต์-----กรรมที่ทำให้เกิดมานับถือคริสต์ส่วนใหญ่คือกรรมปรามาศพระรัตนไตรอย่างเบา - -*
รวยกว่าฝรั่งคือแขกเศรษฐีน้ำมัน-----มุสลิมล้วน----กรรมที่ทำให้เกิดมานับถืออิสลามส่วนใหญ่คือปรามารศพระรัตนไตรอย่างกลาง Y_Y*
อ้อ แต่ถ้าจะกล่าวถึงผู้ที่ปรามาศพระรัตนไตรอย่างแรงหรืออย่างหนัก ปัจจุบันนี้ไม่มีสังขารหรอก
อยู่ในโลกันต์มหานรกกันหมด :'((
เหตุผลที่สำคัญที่สุดที่ทำให้ศาสนาเสื่อม คงเพราะมีคนอย่างผมนี่แหละมั้ง ฟันธง คอนเฟิร์ม .... -
เห็นด้วยอย่างยิ่งค่ะ ถ้าพวกเราชาวพุทธแท้ๆไม่สามัคคี ไม่ช่วยเหลือกันเองแล้ว จะให้ใครมาช่วยได้อีกค่ะ
ขออนุโมทนาสาธุกับชาวพุทธทุกๆท่านที่ช่วยกันรักษา และจรรโลงพระพุทธศาสนาให้ดำรงสืบต่อไปด้วยค่ะ -
โมทนากับธรรมทานเป็นอย่างสูง
และโมทนากับทุก ๆ คคห.ค่ะ -
๑. กิมพิลสูตร
ว่าด้วยเหตุปัจจัยทำให้ศาสนาเสื่อม
[๒๐๑] สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ พระวิหารเวฬุวันใกล้เมืองกิมิลา ครั้งนั้น ท่านพระกิมพิละได้เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้าถึงที่ประทับถวายบังคมแล้ว นั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้วได้ทูลถามว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ อะไรหนอแลเป็นเหตุ เป็นปัจจัยเครื่องให้พระสัทธรรมไม่ดำรงอยู่นาน ในเมื่อพระตถาคตปรินิพพานแล้ว
พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ดูก่อนกิมพิละ เมื่อตถาคตปรินิพพานแล้ว พวกภิกษุ ภิกษุณีอุบาสก อุบาสิกา ในธรรมวินัยนี้เป็นผู้ไม่มีความเคารพ ไม่มีความยำเกรงในศาสดา เป็นผู้ไม่มีความเคารพ ไม่มีความยำเกรงในธรรม เป็นผู้ไม่มีความเคารพ ไม่มีความยำเกรงในสงฆ์ เป็นผู้ไม่มีความเคารพ ไม่มีความยำเกรงในสิกขา เป็นผู้ไม่มีความเคารพ ไม่มีความยำเกรงกันและกัน ดูก่อนกิมพิละ นี้แลเป็นเหตุเป็นปัจจัยเครื่องให้พระสัทธรรมไม่ดำรงอยู่นาน ในเมื่อตถาคตปรินิพพานแล้ว.
กิม. ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ก็อะไรเป็นเหตุเป็นปัจจัยให้พระสัทธรรมดำรงอยู่ได้นาน ในเมื่อตถาคตปรินิพพานแล้ว.
พ. ดูก่อนกิมพิละ เมื่อตถาคตปรินิพพานแล้ว พวกภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา ในธรรมวินัยนี้ เป็นผู้มีความเคารพ มีความยำเกรงในศาสดา เป็นผู้มีความเคารพ มีความยำเกรงในธรรม เป็นผู้มีความเคารพ มีความยำเกรงในสงฆ์ เป็นผู้มีความเคารพ มีความยำเกรงในสิกขา เป็นผู้มีความเคารพ มีความยำเกรงกันและกัน ดูก่อนกิมพิละ นี้แลเป็นเหตุเป็นปัจจัยเครื่องให้พระสัทธรรมดำรงอยู่ได้นาน ในเมื่อตถาคตปรินิพพานแล้ว. -
ชนะ สิริไพโรจน์ ทีมผูัดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต
-
ก็เพราะไม่รู้จริงแล้วจึงพูด จึงกลายเป็นบ่อนทำลายศาสนาไป -
เฮียปอ ตำมะลัง ทุกสิ่งจบสิ้นลงด้วยความตาย วุ่นวายทำไม ผู้สนับสนุนพิเศษ
ใครที่เกิดในยุคปลายศาสนาไม่รู้ทำกรรมบาปอะไรเอาไว้ ต้องมาฆ่ากัน
. -
ในฐานะชาวพุทธศาสนิกชน ที่นับถือพระพุทธศาสนาทั้งกาย วาจา และใจ รวมถึงใบสัมมโนครัว และอื่นๆ อีกฯลฯ ทุกฉบับศาสนาพุทธดีเลิศประเสริฐ หาที่ใดมาเปรียบได้เคยได้ยินคำโบราณกาลท่านฯ บอกเอาไว้บ้างกันบ้างหรือไม่ท่านฯ ว่า "เกิดมาเป็น "คน" เท่าๆ กัน แต่ไม่เหมือนกัน"(เท่าๆ กัน ซึ่งเท่ากับ ที่ได้เกิดมาเป็น "คน" ในชาตินี้)ดูคนใกล้ตัวเอาไว้ให้ดีเถอะ มัวแต่เฝ้ามองหา"ศัตรู"และถ้าจะให้ดีจริงๆ พิจารณามองดู ที่ "ตัวเอง" ก่อนซึ่งดีกว่าที่จะมองดูแต่ "ผู้อื่น"จะดีกว่าไหม นั่นก็เป็นเพราะ "คน" เนี่ยล่ะครับ ที่เป็นต้นเหตุทั้งหมดตั้งแง่ ตั้งมุม ตั้งประเด็น ชั่วชีวิตมีแต่คำถามที่ "ไร้สาระ"และไม่เกิดประโยชน์อะไร กับสิ่งใดๆ เลยดังนั้นก็มีแต่ "คน" ล่ะครับ ที่อยู่ ณ แห่งหนใด มักจะมีแต่สร้างปัญหากันทั้งนั้น
-
ธรรมทั้งหลายเกิดแต่เหตุ จงละที่เหตุ มิใช่สิ่งใดๆอะไรจะเกิดก็เกิด
ละนันทิ
ละนันทิ
ละนันทิ -
คนในสมัยนี้ไม่มีความยำเกรงกันแล้วล่ะคับ อีกอย่างที่เห็นได้ชัดคือไม่มีความสามัคคีกันแล้ว อยากให้คนไทยสามัคคีกันจังเลยคับ ไม่ใช่ทำเพื่อใครหรอก ทำเพื่อตัวเราเองคับ
-
ศาสนาไม่ได้เสื่อม แต่คนต่างหากที่เสื่อมศรัทธาจากศาสนา ...
ผมว่างั้นน่ะ -
เห็นด้วย มากที่สุด กับความเห็นนี้
อนุโมทนาครับ -
แล้วก็พวกที่รู้ไม่จริง ชอบแอบอ้างตนเป้นผู้รู้ เป็นอรหันต์ สอนธรรมะผิดๆ ทำให้ศาสนาเสื่อมก็เพราะพวกนี้ด้วยครับ