พี่พีครับ พวกทางสิงคโป กับมาเล นี่ มักจะเข้าถึงเกจิเก่งหลายท่านเลยครับ เท่าที่ผมพบมา
พี่พีพอทราบไหมครับ เขาไปทราบมาจากไหนกันครับ ทั้งที่เราเองอยู่ประเทศไทยบางท่านเรายังไม่รู้จักเลยครับ
เหรียญบิน หลวงพ่อทรง - แพโบสถ์น้ำ หลวงตา (เล็ก) น. ๑๒๖๕
ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย พี เสาวภา, 7 เมษายน 2008.
หน้า 1379 ของ 3280
-
วันที่ 30นี้ป้าอี๊ดจะปล่อยปลาจำนวน 3 ตันครับ โทรหาป้าอี๊ดแล้วโอนเงินร่วมบุญได้ครับ
ชอบพี่พีเล่าเรื่องหลวงปู่บุญศรีมากคิดว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับหลวงปู่บุญศรีมาก่อนถึงแม้จะไม่ได้เจอท่านแม้แต่ครั้งเดียว -
-
-
รูปทรงงดงาม ผิวพระดูเข้มขลังมากๆ ครับพี่พีไฟล์ที่แนบมา:
-
-
หิ้งพระบ้านใครครับ...แหะๆ
น่าไปเยี่ยม -
ลูกศิษย์หลวงพ่อจงแท้ๆ ...เก่งทุกองค์ครับ...ฟันธง
หลวงพ่อแสวงนี่เป็นของจริง เสียดายมากผมรู้ช้า มารู้ท่านก็ล่ะสังขาร ไม่งั้นจะบ่อยๆ...แหะๆ
ได้ลูกอมมาเม็ดเดียว พี่น้องในนี้ส่งมาให้ ขอบคุณน่ะครับ -
ผมจะหาโอกาสไปเยี่ยมใหม่
เรียนถามพี่พี ผมเห็นพระกริ่งมีเนื้อพระ สอง สาม แบบ ตั้งแต่สีทองสุกทั้งองค์ ไปจนถึง เนื้อนวกลับดำ จึงพอจะเดาเองว่า องค์ที่มีสีทองเปล่งปลั่ง น่าจะเป็นพระที่อยู่ยอดช่อใช่ไหมครับ
ไฟล์ที่แนบมา:
-
-
กราบ กราบ กราบ หลวงพ่อทรง หลวงปู่บุญศรี ครับ
ได้อ่าน คำอธิฐาน ของหลวงปู่บุญศรี ที่อธิฐานพระชุดนี้แล้ว น้องถึงบาง อ้อ ถึงประสบการณ์ที่ผมที่เจอ สุดยอดพระในดวงใจ ครับพี่พี -
ส่วนเนื้อ เอ อันนี้ไม่แน่ใจ เพราะไม่เคยเอาที่มีมาส่องแบบเจาะดู
แต่ความจริงคือว่า พระกริ่งนี้แก่ไปทางทองเหลือง และ รมน้ำยามาทุกองค์ครับ อาจจะน้ำยาน้อยเลยดูออกสีทองเปล่งปลั่งหน่อย
พระชุดที่เทที่วัด น่าจะแตกต่างจากพระที่เท พระที่เทที่โรงงานน่าจะสวยกว่า ที่เทที่วัดบางทีจะฐานไม่เต็มพรุนๆไปบ้าง แต่เป็นพระที่หลวงปู่เทเองที่วัด เทที่โรงงาน เนื้อน่าจะเต็มๆ สวยงามกว่า แต่โดยรวมแล้ว น่าจะเหมือนๆกัน
มีสามองค์เชียวครับ...แหะๆ -
อิอิอิ รูปลูกผมครับ แต่ช่วงโปรโมชั่น พ่วงรูปพ่อไปด้วย 555 ในรูป avatar แทนตัวผมก็ใช่รูปลูกผมครับ -
ส่วนผมน่ะหมดโปรโมชั่นไปนานแล้ว ไม่งั้นจะโชว์บ้าง...อิอิ -
บันทึกหลังจากวันพิธี<O:p</O:p
พระบูชาจำลอง ๙ นิ้ว, และ พระกริ่ง พระชัยวัฒน์ รุ่น ๑ แพโบถส์น้ำ เป็นรุ่นแรกที่หลวงปู่พระครู บุญศรี เททองที่วัดใหม่ฯ และเต็มใจปลุกเสกเดี่ยวอย่างยาวนานที่สุด นับเวลารวมการปลุกเสกเดี่ยวโดยหลวงปู่บุญศรีเป็นเวลาประมาณปีเศษ ตั้งแต่ทองชนวนแผ่นแรกจนถึงการปลุกเสกบนแพโบสถ์น้ำ ซึ่งเป็นเป็นรุ่นแรกและรุ่นเดียวที่หลวงปู่บุญศรีปลุกเสกบนแพโบสถ์น้ำ ประมาณการปลุกเสกเป็นจำนวนครั้งมากเกินกว่า หนี่งร้อยครั้ง<O:p</O:p
<O:p</O:p
หลวงปู่ได้กล่าวแก่ศิษย์ว่าการปลุกเสกซ้ำกันหลายหลายครั้งจะดีกว่าการปลุกเสกครั้งเดียว ( ร.ท.สันติได้กราบเรียนถามหลวงปู่ด้วยความเคารพในตอนหลังว่า ตั้งแต่หลวงปู่สร้างพระมาเคย “ ลง ” มากอย่างนี้ไหมครับ หลวงปู่ตอบว่า “ ไม่เคย “ ) ประมาณว่าในการปลุกเสกเดี่ยวโดยหลวงปู่บุญศรีบนแพโบสถ์น้ำ ได้มีลูกศิษย์หลวงปู่ ๔ ท่าน ได้เห็นตรงกันว่ามีพญานาคมาร่วมพิธีจำนวน ๒ ตน ขณะที่หลวงปู่กำลังอธิฐานจิตอยู่ โดย ๑ ตนเลื้อยไปที่ตรงหน้าหลวงปู่ขณะปลุกเสก และอีก ๑ ตน เลื้อยไปที่หน้าเครื่องเซ่นบริเวณท้ายแพ ผู้ที่เห็นเป็นเด็กเล็ก ๑ ท่าน เป็นผู้ใหญ่ ๒ ท่าน และ เป็นพระ ภิกษุ ๑ ท่าน การเล่าเป็นการเล่าต่างกรรมต่างวาระกัน ซึ่งมีข้อความตรงกัน ถ้าผู้ที่ได้เห็นอนุญาต ให้เปิดเผยชื่อได้ โดยเฉพาะพระภิกษุ ทางคณะศิษย์ก็จะนำมาบันทึกไว้เป็นหลักฐานต่อไป
หลังพิธีผมบันทึกไว้แค่นี้ที่เป็นตัวสีฟ้า ไม่กล้าเล่ามากเดี๋ยวเขาว่าโม้...แหะๆ และเดี๋ยวหลวงปู่จะเหนื่อยรับแขกใน พ.ศ.นั้น เรื่องพญานาคนี่เล่ากันมานาน ใครไม่เชื่อเรื่องพญานาคก็ไม่น่าจะเป็นคนพุทธ เพราะมีเล่าไว้ในพระไตรปิฎก เรื่องเล่าคร่าวๆคือ มี พญานาคเขาแปลงกายเข้ามาบวช เพราะเลื่อมใสในพระรัตนตรัย หลังจากบวชแล้วก็แยกไปนอนต่างหากในพระวิหาร อยู่มาก็ไม่มีเรื่องอะไร พระที่อยู่ท่านดูไม่ออก พระที่มีตาในในสมัยพุทธกาลคงไม่ได้มีเยอะมาก พญานาคตนนี้ก็ปฏิบัติกิจสมณะไปตามปกติ
แต่พอจะนอนต้องแยกไปนอน สาเหตุ เพราะพอหลับแล้วสติมันจะหลุด สมาธิก็จะเคลื่อน มนต์ก็จะคลาย พอหลับ พระภิกษุพญานาคนี้ ไม่ทราบจะเรียกเป็นพระได้หรือไม่ ก็กลายร่างมาเป็นงูใหญ่ ที่นี้มีพระอีกองค์เข้ามาในพระวิหาร มาเจองูตัวใหญ่นอนอยู่ ก็ตกใจแทบช็อค ร้องเอะอะ วิ่งออกมา เรื่องเลยแตก ก็ถูกสอบสวนและให้สึก เพราะเป็นสัตว์เดรัจฉานห้ามบวช ( สัตว์ที่มีลำตัวขนานไปกับพื้น บวชไม่ได้ ) พญานาคตนนี้ก็ร้องไห้ และ ลาจากไป
เรียกว่าพญานาคมีมาแต่พุทธกาล มีบันทึกไว้ ครูบาอาจารย์เก่งๆ เจอมาทุกองค์ ยิ่งใกล้แม่น้ำโขง มีเรื่องราวแบบนี้เพียบ
ในแม่น้ำเจ้าพระยาก็มีครับ แต่คนไม่ค่อยเจอ อาจจะประชาชนคนเยอะมากกว่าแม่โขง พญานาคท่านเลยอายๆ ไม่ค่อยปรากฎตัว
เรื่องการปลุกเสกนี้มาเล่า เรื่องเด็กต่อ เพราะคนนี้อยู่ในพิธี อย่างที่บอก คนลงไปเต็มแพ น่าจะหลายสิบคน ให้ผมประมาณ น่าจะ ห้าสิบคน อาจจะใกล้ร้อยขึ้นไป เเละแพแข็งแรงมาก เพราะพวกผมทำกันเอง ทำฟรี ของฟรีดีเสมอ คนจำนวนมากนี้เรียกว่ามีพยานเพียบ ที่อยู่ในที่เกิดเหตุ แต่แปลก ลูกศิษย์หลวงปู่เขาจะไม่ปรากฎตัว จะซุ่มๆ ทั้งที่กลุ่มลุกศิษย์หลวงปู่ส่วนใหญ่จะเป็นคนมีกำลัง มีความรู้ แต่ไม่ปรากฎกายกัน มีชัดๆเจออยู่คนเดียวคือ ป้าอิ้ด ที่ดูแลสำนักต่อจากคุณแม่ประทุม เลยเป็นผู้สืบทอดหลวงปู่บุญศรีอีกสำนักไปโดยปริยาย ต่อมาก็ไม่เห็นใครออกมา ผมหลังจากซุ่มอยู่ สิบกว่าปี มีแต่คนต่อว่า ว่าไม่เล่าเรื่องหลวงปู่ซ่ะที ผมไปบวชล้างไพ่หลายเดือน ตั้งใจไว้ว่าหลังบวชนี่จะเล่าล่ะ ...แหะๆ ใครอยากอ่านก็อ่านน่ะครับ ใครไม่อยากอ่านก็ข้ามไป เอาว่าผมเชื่อของผมคนเดียว ใครไม่เชื่อก็ช่างเขา
ในขณะที่ปลุกเสก มีเหตุการณ์ชัดเจนสองอย่างนอกจากความเงียบคือ
๑) เสียงเคาะถัง อย่างดัง ได้ยินทุกคนที่นั่งอยู่ในพิธี เพียงแต่สงสัยว่าเสียงอะไร ใครมาเคาะ ถังนี้อยู่ใต้น้ำ เป็นถังน้ำมันใต้ดินขนาดใหญ่ที่บริษัทท่านจำหน่ายแล้ว เอามาต่อเป็นแพตามรูป ใครจะเล่นตลกต้องดำน้ำไปเคาะ และเเรงต้องมาก มี เหล็กท่อนใหญ่ๆไปเคาะด้วย เพราะถัง ทาสีหนา ทั้งนอกและใน และต้องดำน้ำอึดมาก มาไม่ให้ใครเห็น เคาะเสร็จแล้วก็ดำไป ต้องใช้เวลาหลายนาที ที่ดำมา และ ดำไป ไม่ไห้ใครเห็น น่าจะเป็นสิบๆนาทีขึ้นไป เพราะฉนั้นประเด็นนี้ตัดไปได้ รับประกันว่า มุขขนี้ไม่มีใครคิดมาโปรโมทพระชุดนี้แน่นอน
ให้ดูรูปถังเหล็กก่อนศร้างศาลา และ ศาลาตอนที่ปลุกเสก แพฯยังไม่มีข้างฝาแบบในรูป
ประเด็นที่เป็นไปได้ คือต้องมีตัวอะไร ตัวใหญ่มาเคาะถัง ส่วนจะเป็นตัวอะไร ตัวขนาดไหน จะเคาะด้วยอะไร อวัยวะส่วนไหน ก็คาดเดาเอากันเองน่ะครับ
มาที่เด็กคนต้นเรื่อง ขณะที่ปลุกเสกไปสักพัก ก็มีเสียงเด็ก ร้องว่า " แม่ ๆ สิงหไกรภพ ๆ " ไม่ดังมาก แต่พอได้ยินเพราะความเงียบ พร้อมกับเด็กชี้มือไปที่น้ำ ( ที่เด็กเห็นหลังจากมาถามไถ่กัน เพราะตอนนั้น แม่บอกให้เงียบๆก่อน เพราะอยู่ในขณะที่หลวงปู่เสกพระ คืองูตัวใหญ่กำลังว่ายน้ำ และเลื้อยขึ้นไปชะโงกดูบนฝั่ง หรือ คือพญานาคอีกตัว ที่ไปดูพระประธานอีกองค์ ) ใน พ.ศ. นั้น มีภาพยนต์โทรทัศน์เรื่องจักรๆ วงศ์ๆ เรื่องหนึ่งกำลังดังมาก คือ เรื่อง สิงหไกรภพ โดยมีตัวนำแสดงเป็นเด็กหน้าตาน่ารักมากที่เดียว เดี๋ยวนี้คงโตเป็หนุ่มแล้ว ในหนังเรื่องนั้นมีพญานาค version รุ่นแรกๆอยู่ด้วยคือ เป็นหุ่น แล้วชักเอาด้วยเอ็นใสๆ บางทีเห็นแว็บๆในหนัง ยังไม่เนียนเท่าไหร่ ขณะนั้นยังไม่มี CG ( Computer Graphic ) มากเหมือนเดี๋ยวนี้ เด็กคนนั้น ซึ่งป่านนี้คงโตเป็นหนุ่มแล้ว แต่ตอนยังเป็นเด็กเรียกไม่ถูกว่าพญานาค เลยเรียกว่า สิงหไกรภพ แทน
รูปพญานาค ตามเรื่องในหนัง และ รูปพระเอก สิงหไกรภพ ตอนเด็กๆ น่ารักมากครับ
ตกลงเรื่องนี้ก็เล่ากันมา แต่ดันไปเหมือนอีกสามท่าน ซึ่ง มาเล่ากันต่างกรรมต่างวาระกัน เพราะหลังจากปลุกเสก ต่างคนก็ต่างไป <O:p</O:p -
กราบหลวงพ่อทรง หลวงปู่บุญศรี
สวัสดีครับพี่พี
พี่พีครับเคยเป็นแบบนี้บ้างไหมครับ ทุกครั้งที่ครบกำหนดบริจาคโลหิต มักจะมีอุปสรรคมากมายเลยครับ อย่างเช่น มีเหตุให้ต้องนอนน้อยบ้างหละ มีประชุมบ้างหละ มีเหตุทำให้มาสายบ้างหละ
ทั้งที่ผมตั้งใจเตรียมตัวมาแต่เนิ่นๆ แล้วนะครับ T^T
แต่ส่วนใหญ่ผมก็พยายามบริจาคจนได้ครับ ^^
แต่อย่างวันนี้อยู่ๆ มีประชุมซะงั้นต้องรอประชุมครับ ประธาณยังไม่มาเลย (นัด 9.00 เช้าครับ ^^)
หมายเหตุ ที่นิคมผมเขาจะมีรถมารับบริจาคถึงที่ ทุก 3 เดือนครับ สะดวกมากครับ ^^ -
-
กราบ กราบ กราบ หลวงปู่บุญศรี หลวงพ่อทรงครับ
ติดตามอ่านตลอดเลยครับ เพียงแต่ช่วงนี้งานกับเวลายังไม่ลงตัวเท่าไหร่ ต้องค่อยๆปรับไปครับ -
กราบปลวงปู่บุญศรี หลวงพ่อทรง หลวงปู่อั๊บ
สวัสดีพี่พี และเพื่อนสมาชิกทุกท่านค่ะ
พี่พีคะ...พระกริ่ง-พระชัย รุ่นแพโบสถ์น้ำนี่มีการสร้างกี่รุ่นคะ -
-
-
หน้า 1379 ของ 3280