ครับผม ขออนุญาตครับ.
ย่อมทำได้ครับผม.
เห็นภาพคลื่นน้ำทะเลซัดท่วมภูเขามาเลย(พี่ที่ทำงานบอกนั่งสมาธิเห็น)
ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย Dhamma2, 19 ตุลาคม 2018.
หน้า 69 ของ 395
-
แหม.ๆๆๆๆ มาถึงให้มา ....อดบุหรี่...ฮ่วยมันซวยแถ้นอ...อดบุหรี่ก็ได้ ยังมียาเส้น. -
สังคมที่ไม่ต้องใช้เงินตรา ในยุคของพระเจ้าจักรพรรดิราช
สมบัติของพระเจ้าจักรพรรดิ ประกอบด้วย แก้ว ๗ ประการ
ใน จักกวัตติสูตร อังคุตตรนิกาย กล่าวถึงสมบัติของพระเจ้าจักรพรรดิ ว่าประกอบด้วย แก้ว ๗ ประการ คือ
๑. จักกรัตนะ (จักรแก้ว) ๒. อิตถิรัตนะ (นางแก้ว) ๓. มณีรัตนะ (ดวงแก้ว) ๔. ปรินายกรัตนะ (ขุนพลแก้ว) ๕. คหปติรัตนะ (ขุนคลังแก้ว) ๖. หัตถิรัตนะ (ช้างแก้ว) ๗. อัสสรัตนะ (ม้าแก้ว)
จักรแก้ว เป็นเครื่องหมายประกาศความเป็นพระเจ้าจักรพรรดิ อานุภาพแห่งจักรแก้วนั้น ยามปรากฏขึ้น จะดึงดูดเอามหาสมบัติทั้งหมดในสะดือทะเล มาไว้ในท้องพระคลังหลวง และเป็นพาหนะให้ขุนพลแก้ว พาทหารทั้ง ๔ เหล่าทัพ เหาะไปปราบปรามในทวีปทั้งสี่
นางแก้ว เป็นอัครมเหสีคู่บารมีพระเจ้าจักรพรรดิ กลิ่นกายหอมเหมือนดอกอุบล หน้าหนาวเนื้อจะอุ่น หน้าร้อนเนื้อจะเย็น งามพร้อมด้วยเบญจกัลยาณีอิตถีลักษณ์ทุกประการ จะมีเทวดานำจาก อุตรกุรุทวีปมาถวาย
ดวงแก้วมณีโชติ จะปรากฎผุดขึ้นใจกลางมหานคร แล้วเคลื่อนไปอยู่ในท้องพระคลัง ทำหน้าที่รักษาสมบัติของพระเจ้าจักรพรรดิ ให้มีเพียงพอเลี้ยงดูประชากรทั้งโลก ส่องสว่างอยู่ชั่วกาลนาน
ขุนพลแก้ว ผู้ประกาศบารมีของพระเจ้าจักรพรรดิ ให้ปรากฏไปตลอดทวีปทั้ง ๔ ใครไม่ยอมสวามิภักดิ์ ก็เป็นหน้าที่ของขุนพลแก้ว ที่จะปราบปรามให้ราบคาบ รบกับใครไม่มีคำว่าแพ้ ถ้าพระเจ้าจักรพรรดิสละราชสมบัติ ขุนพลแก้วก็จะขึ้นเป็นพระเจ้าจักรพรรดิแทน...
ขุนคลังแก้ว เป็นผู้ดูแลทรัพย์สมบัติของพระเจ้าจักรพรรดิ หากยามใดที่ทรัพย์สมบัติมีทีท่าว่าจะไม่พอเพียง ขุนคลังแก้วก็จะใช้ทิพจักขุญาณ มองหาขุมทรัพย์ใต้ดิน แล้วขุดขึ้นมาเก็บไว้ในท้องพระคลัง บ้านเมืองใดขัดสน ก็ขุดขึ้นมาให้เขาใช้จ่าย
ช้างแก้ว เป็นช้างเผือกตัวประเสริฐ สมบูรณ์บริบูรณ์ด้วยคชลักษณ์อันอุดมมงคล จะมาสู่โรงช้างต้นด้วยตนเอง ยามออกรบแค่ช้างศึกฝ่ายตรงข้ามได้กลิ่น ก็แตกพ่ายไปเอง
ม้าแก้ว เป็นม้าอาชาไนยแห่งลุ่มน้ำสินธุ เกิดมาผ่าเหล่าผ่ากอ ปรากฎเป็นลักษณะอันประเสริฐ มีฝีเท้าจัด ยามวิ่งเหมือนเดินบนที่ราบ จะเดินมาโรงม้าด้วยตนเองเช่นกัน...
ที่มา http://www.grathonbook.net/book/past/past7.html
และในยุคพระเจ้าจักรพรรดิ ยังมีต้นกัลปพฤกษ์ ซึ่งขออะไรก็ได้ตามความปรารถนา
กัลปพฤกษ์ หรือ กัลปตรุ (กลฺปวฤกฺษ/ กลฺปตรุ) ต้นนี้เป็น “ต้นไม้สารพัดนึก” ต้นนี้ มีในโลกมนุษย์ ก็เฉพาะเวลาที่พระเจ้าจักรพรรดิ์ และ พระศรีอารย์จะอุบัติในอนาคตกาลเท่านั้น นอกจากนั้นแล้ว มีอยู่เฉพาะในสวรรค์ เป็นต้นไม้ ที่สามารถบันดาลสิ่งต่างๆ ที่เทวดาปรารถนาได้ คนในยุคพระศรีอารย์ หรือ เทวดาในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์เมื่ออยากได้อะไร ก็ไปสอยเอาจากต้นไม้นั้น -
ขอบคุณมากครับผม คุณ.เกษม..
กำลังคิดถึงเรื่องนี้อยู่พอดี..และคิดว่าจะเขียนยังไงดี..รู้ใจ...ขอบคุณอีกครั้งครับ.
ท่าน ผู้ไม่มีตัวตน ไม่แจมไม่ได้แล้วนะครับท่าน. -
แต่เปิดเผยแบบเก็บตัวนะคร๊าบ#งงในงง
ใช่ลายมือสวัสดิกะแม่นบ่ -
ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ เป็นที่รู้จักกันดี
แล้วปีใหม่นี้ไม่มีใครอยากมาหาเราเลยรึเนี้ย...ไม่ใช่พระนะแค่บ้านใกล้วัด:)
มาไม่ต้องเรื่องเยอะ...ที่นอนหาเอาเอง..:D:D -
มาอีกแล้วเหรอเนี่ย สวดยอด มีความพยายามสูงมาก 5555555555555
มาขายของอีกแระ -
ไม่ได้งงสักหน่อย..สวัสดิกะครับ -
ใช่ดอกบัวป่ะ..ขอรับทุกท่าน
-
คนชอบใส่ร้ายโดนธรณีสูบ เป็นที่รู้จักกันดี
-
ไม่ไปไหนเลยนะ..แอบอ่านตลอดๆค่ะ -
Cheewin... อิ่มแล้ว...ไปต่อไม่ไหวแล้ว
-
คนชอบใส่ร้ายโดนธรณีสูบ เป็นที่รู้จักกันดี
-
-
ดอกบัวพันชั้น จะเอาดอกบัวสีน้ำเงินน่ะ -
Cheewin... อิ่มแล้ว...ไปต่อไม่ไหวแล้ว
-
ผีดิบคืนชีพ สนุกนะครับ. -
ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ เป็นที่รู้จักกันดี
มันจะเป็นไปได้ขนาดนั้นเลยหรือ?
..ใช่ว่าไม่เชื่อแต่มันเหมือนนิทาน:D:D -
Cheewin... อิ่มแล้ว...ไปต่อไม่ไหวแล้ว
-
เป็นไปได้ และเป็นได้มากกว่าบทความนี้ด้วยครับท่าน.
หน้า 69 ของ 395