เออ!...ตามมาทำไม..ถ้าไม่รักยายผีป่า?!!

ผมเคยฝึก มโนมยิทธิ ไปกับ กัลยาณมิตรธรรมท่านหนึ่ง....

... ผมให้เขาช่วยขอพร คติ สำหรับตัวเองให้หน่อย ..(ขอกับองค์ปัจจุบัน) ..

... กัลยาณมิตรธรรมท่านนั้นบอกว่า >>> ท่านฝากบอกว่า ... >> เวรเยอะ บุญมาก หุบปาก วิหารธรรม

... ให้สังเกตคำว่า หุบปาก

 

ตุ้ยกะบ่อดี เตี้ยไปกะบ่อดี ถึงว่าเฮานิสัยดีเขาก็ยังรังเกียจ
ดำกะบ่อดี ขี้ทุกกะบ่อดี มีรายได้จึงเข้าที แบบนี้เขาจึงมัก
*(ว่า)สเป็คสาวลาวเขามักขาวมักสูง สเป็คสาวลาวมักรวยมักจ่อย
สเป็คผู้สาวลาวมักขาวมักรวย จักแมนเฮาซวย ทั้งดำทั้งเตี้ย
**ตุ้ยก็น่าฮักถึงเตี้ยก็น่าฮัก ถึงว่าเจ้าบ่อมัก ข่อยกะบ่อสนใจ
ดำกะเป็นคนดี ขี้ทุกกะเป็นคนดี ถึงว่าเจ้าเห็นว่าบ่อดีข่อยกะบ่อเคยสนใจ

***white thin rich tall
white thin rich tall white thin rich tall
dark short poor fat dark short poor fat
Why don't they like !!
(**)
(ว่า)สเป็คสาวลาวเขามักขาวมักสูง สเป็คสาวลาวมักรวยมักจ่อย
สเป็คผู้สาวน้อยมักขาวมักรวย จักแมนเฮาซวย ทั้งตุ้ยทั้งเตี้ย
(***)
ไวท์ ติน ริช ทอลล ไวท์ ติน ริช ทอลล ไวท์ ติน ริช ทอลล
They love They like !!
ดาร์ค ชอท พัว แฟต ดาร์ค ช็อท พัว แฟต
ตุ้ย เตี้ย ดำ ทุก เป็นหยังคือบ่อมัก หา!!

 

[music]http://palungjit.org/attachments/a.17281/[/music]

 

Yai can not write in Thai!!! Sorry...Oh!...web went wrong again!!!...too slow ...Hacking?!!!!

"ภาวนา"วิถีทางมองตัวเอง

โดย อรุชา อัศวรัตนากร

ครั้งหนึ่ง ในงานป๋วยเสวนาคารที่ศูนย์เผยแพร่พุทธมามกะ โรงเรียนวัดปทุมคงคาวรวิหาร ย่านถนนทรงวาด กรุงเทพฯ มีการเสวนาธรรมเรื่อง "สตรีกับอุดมคติการภาวนา"

โดยมี *อนิตรา พวงสุวรรณ - โมเซอร์* นักแปลหนังสือและงานเกี่ยวกับเรื่องราวเชิงศาสนา ได้รับเชิญให้เป็นผู้บรรยาย

เธอพูดถึงการภาวนาว่า การภาวนาคือ การทำให้จิตเกิดความสงบเริ่มจากการหันมามองตนเอง เหมือนดังคำสอนของพระพุทธองค์ที่สอนให้มนุษย์มองเข้าไปภายในตัวเอง เพื่อให้มีสติ ซึ่งสามารถทำได้หลายรูปแบบอย่างเช่น การสวดมนต์ และการให้เวลากับตัวเองในการเข้าค่ายปฏิบัติธรรม

นอกจากนี้ อนิตรายังชี้ให้เห็นประโยชน์อันยิ่งใหญ่ของการภาวนาว่า

"การภาวนาทำให้คนเริ่มเห็นคุณค่าของความเงียบ จากที่สมัยก่อนเธออยู่เงียบ ๆ ไม่เป็น เหมือนกับที่วัยรุ่นสมัยนี้กำลังเป็นอยู่"

เธอบอกว่า การภาวนาทำให้เรามีสติรู้เท่าทันทุกขณะจิตของตัวเอง ทำให้เป็นทุกข์น้อยลง เมื่อโกรธก็จะรู้ตัวว่าโกรธ ส่งผลทำให้เรามีสติคิดได้ว่า เหตุใดถึงโกรธ และเมื่อใดจะหมดสิ้นความโกรธ และในวงเสวนาอีกหลายคนยังให้ความเห็นเสริมอีกว่า การไม่โกรธนั้นไม่ได้หมายถึงการปฏิเสธความโกรธ แต่เป็นการเรียนรู้ว่าจะอยู่ร่วมกับความโกรธอย่างไร อยู่ไปถึงเมื่อไร จะเผชิญหน้ากับความโกรธอย่างไร และการแสดงออกเมื่อโกรธนั้นไม่จำเป็นต้องเป็นวิธีที่ก้าวร้าวหรือด่าทอกันเสมอไป

สำหรับสถานที่ในการปฏิบัติธรรมนั้นจะเป็นที่ใด การสรรหาวัดหรือสถานที่ปฏิบัติธรรมที่ "ถูกจริต" หรือถูกทาง ถูกใจตนเองนั้นถือเป็นสิ่งที่จำเป็น เพราะจะทำให้คนที่เพิ่งเริ่มต้นยังคงสนใจปฏิบัติธรรมอย่างต่อเนื่อง และไม่เบื่อไปเสียก่อน

เมื่อมีผู้ตั้งคำถามขึ้นมาว่า ในความเป็นจริงชีวิตคนต้องประกอบอาชีพทำมาหากิน และกลับมาเลี้ยงดูครอบครัว แล้วจะเอาการภาวนาเข้าไปใส่ไว้ในช่วงใดของชีวิต ซึ่งคำถามนี้ อนิตราตอบว่า จริงๆ แล้วการภาวนาในแรกเริ่มต้องอาศัยเรื่องการปฏิบัติอย่างเข้มข้นเสียก่อนระยะหนึ่ง แล้วจึงจะสามารถนำเอาการภาวนาไปใช้ในชีวิตประจำวันได้

การภาวนาที่ดีนั้น ไม่เพียงแค่ตัวเองเพียงลำพังเท่านั้น อนิตราบอกว่า ยังต้องมีกัลยาณมิตรเพื่อคอยดูแลตักเตือนและพูดคุยแลกเปลี่ยน ถือว่าเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญ

หัวใจหรือแก่นของพุทธศาสนานิกายเถรวาทนั้นคือ การหลุดพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิด อนิตราเชื่อว่า การเวียนว่ายตายเกิดหรือภพนี้ภพหน้านั้นมีอยู่จริง แม้จะไม่มีการพิสูจน์ เธอจึงมองว่า แก่นของการภาวนา คือ ความต่อเนื่อง ความสืบเนื่อง เป็นการสั่งสมเอาไว้เพื่อภพหน้า ดังนั้น ทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำไปในภพนี้ จึงไม่มีอะไรเสียเปล่า

หากว่าคนในสังคมหันเหสักเสี้ยวหนึ่งของชีวิตให้เข้าไปใกล้ชิดกับ "ธรรมะ"มากขึ้น เชื่อว่าไม่ว่าทุกข์ร้อนเพียงไหน เขาเหล่านั้นจะยังคงมีกำลังใจและมีสติรู้เท่าทันความคิดและแก้ปัญหาได้อย่างแน่นอน

 

ที่มั่นสำคัญของพุทธศาสนา

โดย พระไพศาล วิสาโล เครือข่ายพุทธิกา http://budnet.info

หลังจากเกิดมหันตภัยสึนามิได้เพียงสัปดาห์เดียว ได้มีข่าวเล็กๆ ชิ้นหนึ่งจากประเทศแคนาดา ซึ่งสะท้อนน้ำใจอันยิ่งใหญ่ที่ชาวพุทธไทยน่าศึกษาเรียนรู้

ข่าวนั้นระบุว่า เจ้าอาวาสวัดพุทธเวียดนามชานกรุงแวนคูเวอร์ ประกาศ "ขายวัด" เพื่อหาเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยสึนามิ ท่านได้กล่าวว่า การขายวัดเป็นวิธีเดียวที่ท่านจะสามารถหาเงินมาช่วยเหลือผู้สูญเสียในเวลานั้นได้ เนื่องจาก "คนเหล่านี้ต้องการความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนและมากกว่าพวกเรา"

เหตุผลสำคัญอีกประการหนึ่งก็คือ ท่านปรารถนาที่จะตอบแทนบุญคุณแก่ประเทศอินโดนีเซีย ไทย และมาเลเซีย ที่เคยให้ที่พักพิงแก่ชาวเวียดนามเมื่อครั้งหนีภัยคอมมิวนิสต์ออกมาทางทะเลเมื่อ 20 กว่าปีก่อน ท่านกล่าวว่าการตอบแทนครั้งนี้นับว่าเล็กน้อยมาก เมื่อเทียบกับความช่วยเหลือที่คนในประเทศเหล่านั้นเคยให้แก่ชาวเวียดนาม เหตุผลดังกล่าวทำให้พระภิกษุในวัดนั้นซึ่งหลายรูปเคยเป็นผู้อพยพทางเรือ เห็นด้วยกับการตัดสินใจดังกล่าวของเจ้าอาวาส และเตรียมตัวที่จะหาวัดเล็กๆ อาศัยอยู่ต่อไป

ข่าวดังกล่าวชวนให้นึกถึงเหตุการณ์ในญี่ปุ่นเมื่อหลายร้อยปีก่อน เต ซื่อ เจ็น เป็นนักพรตที่ตั้งปณิธานแน่วแน่ว่าจะจัดพิมพ์พระไตรปิฎกภาษาญี่ปุ่นให้ได้ 7,000 ชุด เขาได้เดินเท้าจาริกไปทั่วญี่ปุ่น เพื่อระดมเงินบริจาคสำหรับการนี้ เงินส่วนใหญ่ได้จากชาวนาซึ่งให้คนละเล็กละน้อย หลังจากเดินทางได้สิบปี เขาก็รวบรวมเงินได้มากพอที่จะจัดพิมพ์พระไตรปิฎก แต่แล้วในช่วงนั้นเองเกิดน้ำท่วมใหญ่ คนจำนวนนับพันๆ ต้องไร้ที่อยู่และหิวโหย เต ซื่อ เจ็น ตัดสินใจนำเงินทั้งหมดที่เขาเก็บสะสมได้ไปช่วยเหลือคนเหล่านั้น

แล้วเขาก็จาริกหาเงินบริจาคอีกครั้งหนึ่ง หลังจากผ่านไปเกือบสิบปี เขาก็ได้เงินมากพอสำหรับการพิมพ์พระไตรปิฎก แต่ปรากฏว่าเกิดโรคระบาดไปทั่วประเทศ เขาจึงนำเงินทั้งหมดไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยเช่นเคย

เขาออกเดินทางอีกครั้งหนึ่ง คราวนี้ต้องใช้เวลาถึงยี่สิบปีกว่าความฝันของเขาจะเป็นจริง หลังจากที่ได้มีการตีพิมพ์พระไตรปิฎกจนสำเร็จแล้ว ชาวญี่ปุ่นได้ร่ำลือต่อ ๆ กันมาว่า เต ซื่อ เจ็น ได้พิมพ์พระสูตรออกมาสามครั้งด้วยกัน ฉบับพิมพ์สองครั้งแรกนั้นมองไม่เห็น แต่มีคุณค่ามากกว่าฉบับพิมพ์ครั้งที่สามมากนัก

วัดและพระไตรปิฎกนั้นเป็นสิ่งที่มีความหมายอย่างมากต่อจิตใจของชาวพุทธ เพราะถือว่าเป็นตัวแทนหรือสัญลักษณ์ของพุทธศาสนา ดังนั้น จึงเป็นธรรมดาที่หลายคนจะมองว่าวัดและพระไตรปิฎกนั้นมีความสำคัญเหนือความทุกข์ยากของผู้คน การยอมสละวัดและพระไตรปิฎกเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยจึงเป็นเรื่องที่ยอมรับได้ยากสำหรับผู้ที่มีศรัทธาแน่นแฟ้นในพระศาสนา เมื่อมองตามหลักเหตุผลก็น่าจะเป็นเช่นนั้น เพราะความทุกข์ยากของผู้คนนั้นเป็นเรื่องชั่วครั้งชั่วคราว แต่ศาสนานั้นให้ผลสืบต่อไปถึงอนาคตอันยาวไกล เพราะฉะนั้นวัดและพระไตรปิฎกจึงเป็นสิ่งที่ควรรักษาไว้ให้ยั่งยืนในฐานะที่เป็นตัวแทนของศาสนา

อย่างไรก็ตาม คำถามหนึ่งซึ่งหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องตอบก็คือ พุทธศาสนานั้นมีเพื่ออะไร? พุทธศาสนานั้นไม่ได้มีขึ้นเพื่อตัวเอง แต่เพื่อความผาสุกของมนุษย์ ดังนั้น เมื่อมนุษย์ประสบความทุกข์ยากเดือดร้อน จึงเป็นหน้าที่ที่พุทธศาสนาจะต้องเข้าไปบรรเทาความทุกข์ยากดังกล่าว แม้ว่าจะต้องเสียสละบางสิ่งบางอย่างก็ตาม จริงอยู่ในยามที่ประสบภัยพิบัติ ผู้คนไม่ได้มีความทุกข์กายเท่านั้น หากยังมีความทุกข์ใจที่ควรได้รับการเยียวยาบำบัดด้วย บทบาทของพุทธศาสนาจึงควรครอบคลุมทั้งการสงเคราะห์ด้วยวัตถุและด้วยธรรมะ

แต่ปัจจุบันดูเหมือนจะมีการจำกัดบทบาทของพุทธศาสนา โดยเฉพาะในฝ่ายพระสงฆ์ให้เหลือเพียงการสงเคราะห์ทางจิตใจอย่างเดียว(เห็นได้ชัดจากบทบาทพระสงฆ์ไทยหลังเกิดเหตุสึนามิ) โดยที่การสงเคราะห์ทางจิตใจนั้นก็เน้นที่การเทศนาสั่งสอนอย่างเดียว ทั้งๆ ที่ธรรมะหรือศาสนานั้นมีความหมายมากกว่านั้น

การขายวัดหรือเอาเงินจัดพิมพ์พระไตรปิฎกไปช่วยคนที่ประสบภัยนั้น ดูเผินๆ ก็เป็นเพียงการสงเคราะห์ด้วยวัตถุเท่านั้น แต่เมื่อมองให้ลึกแล้ว วัตถุเหล่านั้นไม่ว่าอาหาร ยา เครื่องนุ่งห่ม มิได้ช่วยบำบัดทุกข์ทางกายเท่านั้น หากยังมีความหมายในทางจิตใจ เพราะนั่นคือรูปธรรมหรือสื่อแห่งธรรมะที่ผู้ประสบภัยต้องการเป็นอย่างยิ่ง ได้แก่ เมตตาและกรุณาในยามประสบมหันตภัย ผู้คนย่อมรู้สึกท้อแท้ สิ้นหวังโดดเดี่ยว และรู้สึกว่าตนไร้คุณค่า แต่เมื่อได้สัมผัสกับเมตตาและกรุณาจากเพื่อนมนุษย์ เขาย่อมรู้สึกมีกำลังใจ เกิดความอบอุ่นและซาบซึ้งในคุณธรรม สิ่งเหล่านี้ย่อมช่วยให้เขามีพลังจะผ่านพ้นวิกฤตในชีวิตได้

เมตตาและกรุณานั้นคืออะไร หากไม่ใช่สารัตถะของศาสนา

วัดย่อมไร้ความหมายหากไม่สามารถเปล่งประกายแห่งการุณยธรรมให้ผู้คนสัมผัสได้ พระไตรปิฎกย่อมไร้ประโยชน์หากเป็นเพียงแค่ตัวอักษร แต่ไม่สามารถบันดาลใจให้ผู้คนมีความมั่นคงในธรรม หรือมีศรัทธาในคุณงามความดีได้ โดยอาศัยเงินที่รวบรวมได้ เต ซื่อ เจ็น ได้ช่วยให้ผู้คนเป็นอันมากไม่เพียงรอดชีวิต หากยังได้สัมผัสกับอานุภาพของเมตตาและมีศรัทธาในความดี การกระทำดังกล่าวมีคุณค่าไม่ต่างจากการเผยแผ่ธรรมะแก่ผู้คน ด้วยเหตุนี้จึงสมควรแล้วที่ผู้คนเปรียบการกระทำดังกล่าวว่าเสมอเหมือนการพิมพ์พระไตรปิฎก

สารัตถะของพุทธศาสนาที่แท้นั้นมิใช่วัดวาอารามหรือแม้แต่พระไตรปิฎก

แต่คือธรรมะที่สถิตกลางใจและชี้นำกำกับวิถีชีวิตของเรา

แน่นอนชาวพุทธทุกคนมีหน้าที่รักษาวัดและพระไตรปิฎกเอาไว้ แต่ก็ต้องไม่ลืมรักษาธรรมะในใจไว้ให้มั่นคง โดยมีกรุณาและปัญญาเป็นพื้นฐาน ทั้งนี้ พึงตระหนักว่าแม้รักษาวัดหรือพระไตรปิฎกไว้ได้ แต่ก็ไม่ชื่อว่ารักษาพุทธศาสนา หากในใจนั้นเต็มไปด้วยความโกรธ เกลียดและพยาบาท

ในปัจจุบันชาวพุทธทั้งหลายกำลังเผชิญกับบททดสอบที่สำคัญในสามจังหวัดภาคใต้ สวัสดิภาพในชีวิตของพระสงฆ์จำนวนไม่น้อยกำลังอยู่ในอันตราย วัดวาอารามจำนวนมากกำลังเสี่ยงต่อภัยคุกคามจากคนจำนวนหนึ่ง ซึ่งต้องการยั่วยุให้ผู้คนพลัดตกในกับดักที่วางล่อไว้ ในยามนี้จำเป็นอย่างยิ่งที่ชาวพุทธจะต้องตระหนักว่า แม้พระจะถูกปองร้าย วัดจะถูกเผา แต่อย่าให้ใจของเราถูกเผาลนด้วยความโกรธเกลียดและพยาบาท หากจะตอบโต้ก็พึงกระทำด้วยสันติวิธี

พุทธศาสนาจะไม่มีวันถูกทำลาย หากจิตใจของชาวพุทธยังมีธรรมะเป็นเครื่องกำกับ เพราะนั่นคือ ที่มั่นสำคัญที่สุดของพุทธศาสนา เพราะฉะนั้นหากรักพุทธศาสนาก็ต้องเพียรรักษาใจให้มั่นคงในธรรมมีเมตตาพร้อมจะให้อภัย และมีสติเตือนใจไม่ให้ลุแก่โทสะ มีปัญญาตระหนักชัดว่าตาต่อตา ฟันต่อฟัน ไม่ใช่คำตอบ มีแต่สันติวิธีเท่านั้นที่จะนำไปสู่สันติสุขอย่างแท้จริง

 

"พระพุทธเจ้า"...เราควรจะระลึกถึงพระองค์อย่างไรจึงจะมีความหมายมากที่สุด ?

เราอาจระลึกถึงพระองค์ในฐานะมหาบุรุษซึ่งครั้งหนึ่งเคยอุบัติขึ้นมาในโลกนี้ และได้เผยแผ่พระธรรมคำสอนอันล้ำค่า ซึ่งได้พัฒนามาเป็นพระพุทธศาสนาที่เรานับถือในปัจจุบัน การระลึกถึงในแง่นี้ย่อมช่วยให้เราเกิดความสำนึกในพระคุณของพระองค์และปรารถนาที่จะแสดงความกตัญญู จะด้วยอามิสบูชาหรือปฏิบัติบูชาก็ตาม

อีกด้านหนึ่งเราอาจระลึกถึงพระองค์ โดยมุ่งที่พุทธคุณหรือพระคุณสมบัติอันเป็นแก่นแท้แห่งความเป็นพระพุทธเจ้า หรือระลึกถึงพระธรรมในฐานะที่เป็นตัวแทนของพระองค์ ดังพระองค์เคยตรัสว่า "ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเราตถาคต" การระลึกถึงในแง่นี้ย่อมช่วยเตือนใจให้เราน้อมนำพุทธคุณนั้นมาเป็นเครื่องชี้นำกำกับชีวิต เกิดแรงบันดาลใจที่จะปฏิบัติตามพระธรรมคำสอน หรือพัฒนาฝึกฝนตนเพื่อเข้าถึงพระธรรมดังที่พระองค์ได้ทำมาแล้ว

ถ้าหากจะปฏิบัติกับพระองค์ในลักษณะหลัง อะไรคือพุทธคุณที่เราควรระลึกถึง? คำตอบก็คือ ปัญญา และ กรุณา ปัญญาคือความแจ่มแจ้งประจักษ์ชัดในความเป็นจริงของชีวิตและโลก หมดสิ้นซึ่งอวิชชา สามารถปล่อยวางจากความยึดมั่นสำคัญหมายในตัวตน จนพ้นจากความทุกข์อย่างสิ้นเชิง เข้าถึงความสงบเย็นสูงสุดคือนิพพาน ส่วนกรุณา คือความรักต่อสรรพชีวิตอย่างไม่มีเส้นแบ่ง ปรารถนาช่วยเหลือให้พ้นทุกข์ ด้วยจิตใจที่ปราศจากความเห็นแก่ตัว เปิดกว้างอย่างไม่มีประมาณ

ปัญญาและกรุณานั้นเป็นคุณสมบัติที่มีอยู่ในมนุษย์ทุกคน พระพุทธองค์คือมนุษย์ที่ได้พัฒนาคุณสมบัติดังกล่าวอย่างถึงที่สุด จนอยู่เหนือโลกได้ การตรัสรู้ของพระองค์เป็นเครื่องยืนยันว่ามนุษย์เรานั้นมีศักยภาพที่สามารถพัฒนาตนจนพ้นจากความเป็นปุถุชนได้ พระพุทธองค์จึงมิใช่อะไรอื่น หากคืออุดมคติของความเป็นมนุษย์ที่เราควรยึดถือและเข้าถึงให้ได้มากที่สุด ทั้งนี้ ก็ด้วยการพัฒนาปัญญาและกรุณาดังที่พระองค์ได้ทรงบำเพ็ญตนเป็นแบบอย่างมาแล้ว

ปัญญาและกรุณานั้นเป็นธรรมอันควรนำมาเป็นเครื่องกำกับชีวิตอย่างยิ่ง เพราะช่วยให้เราสามารถเผชิญกับความพลัดพรากสูญเสียในชีวิตได้อย่างไม่เป็นทุกข์ และสามารถเป็นสุขอยู่ได้ท่ามกลางความผันผวนปรวนแปรของโลก ขณะเดียวกันก็มีพลังที่จะสร้างสรรค์ความดีงามให้แก่โลกได้อย่างไม่ระย่อท้อแท้

ปัญญาและกรุณามิใช่สิ่งจำเป็นสำหรับชีวิตเท่านั้น หากยังมีความสำคัญสำหรับโลกโดยเฉพาะในยุคปัจจุบันซึ่งกำลังถูกท่วมท้นคุกคามด้วยกระแสใหญ่ 2 กระแส ได้แก่ วัฒนธรรมแห่งความละโมบ และวัฒนธรรมแห่งความเกลียดชัง ทั้งสองกระแสกำลังแผ่คลุมทั่วทั้งโลก และสร้างความทุกข์ยากนานัปการแก่สรรพชีวิต จนอาจเป็นอันตรายต่อความอยู่รอดของโลกเลยทีเดียว

วัฒนธรรมแห่งความละโมบ ได้แก่ ลัทธิบริโภคนิยม ซึ่งกระตุ้นเร้าความโลภของมนุษย์อย่างไม่หยุดหย่อนและรุนแรงขึ้นทุกที ไม่เพียงก่อความทุกข์ร้อนแผดเผาใจผู้คนเท่านั้น หากยังก่อให้เกิดการเอาเปรียบเบียดเบียนแย่งชิงทำร้ายกันทุกหนแห่ง นอกจากปัญหาอาชญากรรมจะลุกลามแล้ว ช่องว่างระหว่างผู้คนในสังคมก็เพิ่มมากขึ้น ความยากจนแพร่ระบาด จนล้มตายเพราะความหิวโหยปีละหลายล้านคน ไม่นับคนอดอยากอีกหลายร้อยล้านคน ขณะเดียวกันระบบนิเวศก็ถูกผลาญพร่าเพียงเพื่อตอบสนองความต้องการที่ไม่รู้จักพอของคนรุ่นนี้เท่านั้น

ส่วนวัฒนธรรมแห่งความเกลียดชัง ก็กำลังสร้างความรังเกียจเดียดฉันท์ให้เกิดขึ้นกับมนุษย์ทั่วทั้งโลกและในทุกระดับ ตั้งแต่ระดับประเทศลงมาถึงระดับหมู่บ้าน เพียงเพราะติดยึดกับความแตกต่างทางด้านเชื้อชาติ ศาสนา ภาษา สีผิว และความเชื่อ เพื่อนบ้านต้องกลายเป็นศัตรูกัน จับอาวุธฆ่าฟันกัน และทำลายความเป็นมนุษย์ของกันและกันในทุกรูปแบบ ไม่เพียงแต่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเท่านั้น แม้แต่ศาสนาก็ยังถูกใช้เพื่อประหัตประหารซึ่งกันและกัน

ทุกวันนี้วัฒนธรรมทั้งสองกำลังแพร่ระบาดมาในเมืองไทย และน่ากลัวยิ่งกว่าโรคระบาดทั้งหลายที่เรากำลังพรั่นพรึงอยู่ในปัจจุบัน ในสถานการณ์ดังกล่าว จำเป็นอย่างยิ่งที่เราต้องมีปัญญาและกรุณาเป็นเครื่องรักษาตนมิให้วัฒนธรรมอันเลวร้ายดังกล่าวครอบงำชีวิตจิตใจ ปัญญานั้นเป็นสิ่งจำเป็นก็เพราะว่าช่วยให้เราประจักษ์ว่า ความสุขนั้นที่เที่ยงแท้ยั่งยืนนั้นมิได้อยู่ที่การบริโภคหรือการครอบครองวัตถุ แต่อยู่ที่ความสงบภายในและการมีสัมพันธภาพที่บรรสานสอดคล้องกับผู้คนและธรรมชาติแวดล้อม ขณะเดียวกันปัญญาก็ช่วยให้เรามองทะลุมายาและอคติจากการชวนเชื่อทั้งหลาย จนเห็นว่าผู้คนทั้งหลายไม่ว่าจะนับถือพุทธ คริสต์ หรืออิสลาม ล้วนเป็นเพื่อนร่วมชาติ หรือเห็นยิ่งกว่านั้นคือเป็นเพื่อนร่วมโลก เป็นเพื่อนร่วมทุกข์เช่นเดียวกับเรา มนุษย์เรานั้นมีความเหมือนยิ่งกว่าความต่าง แม้จะมีความขัดแย้งกันแต่ก็ไม่มีวิธีอื่นใดที่จะดีกว่าการใช้สันติวิธี การใช้ความรุนแรงตอบโต้กันนั้นมีแต่จะทำให้ปัญหาลุกลามมากขึ้น ความรุนแรงอาจกำจัดคนชั่วร้ายได้ แต่ไม่สามารถขจัดความชั่วร้ายได้เลย

ส่วนกรุณานั้นก็ช่วยให้จิตได้สัมผัสกับความสุขที่เกิดจากการให้และความปรารถนาดี ไม่ถูกความละโมบและโกรธเกลียดแผดเผาใจ มีความใจกว้าง พร้อมให้อภัย อีกทั้งยังเป็นพื้นฐานอันมั่นคงสำหรับการแก้ไขความขัดแย้งโดยสันติวิธี กรุณาเป็นวิธีขจัดศัตรูที่ดีที่สุดเพราะสามารถเปลี่ยนเขามาเป็นมิตรได้ด้วยการชนะใจเขา

ในยามที่บ้านเมืองกำลังเผชิญกับปัญหาท้าทายต่างๆ มากมาย โดยเฉพาะความไม่สงบที่ภาคใต้

ให้เราตระหนักถึงอานุภาพของพุทธคุณอันได้แก่ปัญญาและกรุณา และเกิดความมั่นใจที่จะนำพุทธคุณดังกล่าวมาเป็นเครื่องชี้นำกำกับชีวิตให้เกิดความสงบร่มเย็น ขณะเดียวกันก็เป็นแนวทางในการร่วมกันนำพาสังคมไทยให้เกิดสันติสุขอย่างยั่งยืน


ปัญญาและกรุณา สามารถเปลี่ยนปุถุชนให้เป็นพระพุทธเจ้าได้ฉันใด เราชาวพุทธก็ควรเชื่อว่า พุทธคุณทั้งสองย่อมสามารถเปลี่ยนแผ่นดินที่รุ่มร้อนให้เป็นดินแดนแห่งความสงบสันติได้ ฉันนั้น

 

พระพุทธเจ้าของเรานั้นท่านเลิศล้ำ

โดย เสฐียรพงษ์ วรรณปก

สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช องค์ปัจจุบัน สมัยพระองค์ยังทรงสมณศักดิ์ที่พระสาสนโสภณ (ถ้าจำผิดก็ขออภัย) ทรงนิพนธ์ความขนาดยาวหลายตอน ชื่อว่า "พระพุทธเจ้าของเรานั้นทรงเลิศล้ำ" ลงในนิตยสารฉบับหนึ่งติดต่อกัน

ผมอ่านเพียงบางตอน ก็ประทับใจว่า "นี่ใช่แล้ว ควรที่จะให้เด็กๆ อ่าน เพื่อปลูกฝังศรัทธาในองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า" อายุผมขณะนั้นก็เป็นสามเณรโค่ง (ไม่ใช่ โข่ง) ยังนับว่าวัยรุ่นอยู่ ยังประทับใจ เด็กวัยเดียวกันหรือน้อยกว่าอื่นๆ ก็คงจะประทับใจเช่นเดียวกัน

สำนวนภาษาของผู้ทรงนิพนธ์นั้น ต้องยอมรับว่า สละสลวยไพเราะ สมัยก่อนเรียกว่า "ภาษาดี" เป็นอย่างยิ่ง ซึ่งหาได้ยากในพระเถรานุเถระสมัยนี้

โรงพิมพ์มหามกุฏฯ ไม่ทราบว่าพิมพ์หนังสือเล่มนี้เผยแพร่บ้างหรือเปล่า โฆษณาหน่อยก็ดีครับ

เรื่องราวของพระพุทธเจ้า อยากให้ศึกษากันในแง่มุมที่พระพุทธองค์เป็น "มนุษย์ตัวเอง" อันเรียกว่า พระมหาสัตว์ หรือ พระโพธิสัตว์ ทรงพัฒนาพระองค์เองจนสำเร็จเป็นพระพุทธเจ้า เป็นมนุษย์ในอุดมคติ ที่มวลมนุษยชาติพึงดำเนินรอยตาม

ไม่ต้องคิดว่าเป็นเทวดา หรือผู้แทนเทวดามาโปรดชาวบ้าน เพราะการคิดเช่นนั้นไม่ได้เสริมความยิ่งใหญ่ของพระศาสดาแต่อย่างไร การตรัสรู้ การได้บรรลุสัมมาสัมโพธิญาณ เป็นเพียงการ "หยิบยื่นให้" หรือการบันดาลใจจากอำนาจสูงสุดอยู่ที่ไหนก็ไม่รู้ มิได้เกิดจาก "ความพากเพียรพยายามเอง" แล้วมันจะยิ่งใหญ่อะไรเล่าครับ

พวกมหายานเขาพยายามชูประเด็นว่า พระพุทธเจ้านั้นเป็นอาทิพุทธ ไม่เกิดไม่ตาย อวตารลงมาเกิดเป็นนิรมานกาย (กายเนื้อ) เพื่อโปรดสัตว์โลก เพราะฉะนั้นถึงไม่ทรงบำเพ็ญเพียร ไม่เจริญสมาธิวิปัสสนา ก็เป็นพระพุทธเจ้าอยู่แล้ว เมื่อปรินิพพานแล้วก็กลับเข้าไปสู่อาทิพุทธ (ศัพท์เทคนิคอีกคำคือ "ธรรมกาย" ผมพยายามหลีกเลี่ยงกลัวจะไปปนกับสำนักของหลวงพี่ธรรมชโย เพราะมันคนละ concept)

ผู้รู้บางท่านกล่าวว่า แนวคิดมหายานแก้ข้อสงสัยได้เยอะ โดยเฉพาะเรื่องประสูติแล้ว ตรัสได้ เสด็จดำเนินได้ ถ้าเชื่อตามแบบมหายานแล้วไม่มีปัญหาเลย ก็พระองค์เป็นพระพุทธเจ้าอยู่แล้ว การพูดได้ เดินได้ เมื่อเกิดใหม่ๆ ไม่ใช่น่าประหลาดอันใด ท่านผู้นั้นว่าอย่างนั้น

แต่ท่าน "ผู้นี้" คือผมเอง ค้านว่า ไม่จำเป็นต้องมหายานมหายินก็ได้ เถรวาทเรานี้แหละก็อธิบายได้ พระคัมภีร์ดั้งเดิมที่ไม่แต่งเสริมเติมต่อนี้แหละ ท่านอธิบายไว้แล้ว เรามิได้อ่าน หรืออ่านไม่ละเอียดเอง

พระนางสิริมหามายาทรงยืน เหนี่ยวกิ่งสาละ (ไม่ควรแปลว่าต้นรัง ผมไปเห็นมาแล้ว ต้นสาละไม่ใช่ต้นรัง) พระราชกุมารน้อยก็ "ก้าวลงจากพระครรภ์ ผินพระพักตร์ไปทางทิศอุดร ทรงชี้พระดรรชนีขึ้นฟ้า เสด็จดำเนินไป 7 ก้าว ทรงเปล่ง "อาสภิวาจา" (วาจาอย่างองอาจ) ว่า "เราเป็นผู้เลิศในโลก เป็นผู้ประเสริฐที่สุดในโลก เป็นผู้ใหญ่ที่สุดในโลก นี้เป็นการเกิดครั้งสุดท้าย ไม่มีการเกิดใหม่อีกต่อไป"

คนส่วนมากตั้งคำถามว่า "พูดได้เดินได้จริงหรือ" บางท่านก็พูดออกมาตรงๆ ว่าไม่เชื่อ อมพระมาทั้งโบสถ์ก็ไม่เชื่อ เพราะไม่คิดว่าเรื่องอย่างนี้จะเป็นไปได้กระมัง อาจารย์รุ่นหลังๆ จึงหาทางออกว่า เป็น "สัญลักษณ์" หรือ "บุพนิมิต" แล้วก็แจกแจงอย่างน่าฟังเช่น

การที่ผินพระพักตร์ไปทางทิศเหนือ เป็นสัญลักษณ์ว่า ท่านผู้นี้ต่อไปจะเป็นผู้อยู่เหนือคือเอาชนะเจ้าลัทธิทั้งหลายในชมพูทวีป

การเสด็จดำเนิน 7 ก้าว เป็นสัญลักษณ์แทน แว่นแคว้นทั้ง 7 ที่จะได้ประกาศสัจธรรมที่ตรัสรู้ให้แพร่หลายหรือ (มีหรือด้วยครับ แสดงว่าตีความได้สองนัย) หมายถึงโพชฌงค์ 7 ประการ

ดอกบัวที่ผุดขึ้นรองรับพระบาท หมายถึงท่านผู้นี้จะเป็นผู้บริสุทธิ์จากกิเลสโดยสิ้นเชิง (หมายเหตุ ในพระไตรปิฎก ไม่พูดถึงดอกบัว ดอกบัวนี้เพิ่มมาภายหลัง)

การที่ทรงเปล่งอาสภิวาจา หมายถึง ท่านผู้นี้จะได้ประกาศสัจธรรมที่ยังไม่เคยมีใครประกาศมาก่อนเลย ฯลฯ

นี้คือการหาทางออก เพื่อไม่ให้ชาวพุทธอึดอัดใจเมื่อมีใครซักถาม แต่ขอกราบเรียนว่า คำตอบนั้นมีอยุ่แล้วในพระไตรปิฎก พระพุทธเจ้าตรัสเล่าให้พระสาวกของพระองค์เอง พวกเราชาวพุทธอ่านไม่ละเอียดเองจากข้อความในพระไตรปิฎก แสดงว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องจริง เกิดขึ้นได้จริง มิใช่สัญลักษณ์แต่อย่างใด

ในพระไตรปิฎก ได้เล่าเหตุการณ์พิเศษต่างๆ ดังกล่าวมาข้างต้น แล้วท่านก็สรุปลงด้วยคำพูดสั้นๆ ว่า "นี้เป็นธรรมดาของพระโพธิสัตว์"

ท่านบอกเราว่า เหตุการณ์พิเศษต่างๆ ที่เกิดขึ้นนี้ เป็นเรื่องธรรมดาของพระโพธิสัตว์ เจ้าชายสิทธัตถะ เป็นพระโพธิสัตว์คือผู้บำเพ็ญบารมีมาจนเต็มเปี่ยมแล้ว ท่านย่อมมี "ธรรมดา" ไม่เหมือนมนุษย์ทั่วไป

ถามว่าเรื่องอย่างนี้เป็นปาฏิหาริย์ไหม ตอบว่าไม่ใช่ เป็นอิทธิฤทธิ์ไหม ตอบว่าไม่ใช่ "มันเป็นธรรมดาของพระโพธิสัตว์"

"ธรรมดาของนกย่อมบินได้" ท่านเห็นนกบินได้ท่านอัศจรรย์ไหม เปล่าเลย มันธรรมดาของมัน ถ้าถามว่า ทำไมนกมันบินได้ คำตอบที่ถูกต้องที่สุดก็คือ "มันเป็นธรรมดาของนกมัน" นกบินไม่ได้สิผิดธรรมดา แน่ๆ ใช่ไหมครับ

เพราะฉะนั้นเหตุการณ์เกี่ยวกับการประสูติของเจ้าชายสิทธัตถะ ขอให้เข้าใจว่า ก็คือเหตุการณ์ธรรมดาๆ นั้นเอง ไม่ใช่เรื่องประหลาดมหัศจรรย์อะไร เพียงแต่เป็นธรรมดา ที่ไม่ทั่วไปสำหรับสามัญชนอื่นๆ เท่านั้นเอง

ผมเคยอ่านบันทึกจากกินเนสส์บุ๊ก (คนอื่นเขาลอกมาให้อ่านอีกที) บันทึกไว้ว่า มีเด็กชายสองคนชื่อ เจมส์ โซดิช คนหนึ่ง คริสเตียน ไฮเนเก้น อีกคนหนึ่งเป็นอัจฉริยะมนุษย์ โดยเฉพาะคริสเตียน ไฮเนเก้น เกิดมาสองชั่วโมงพูดได้ อายุสี่ขวบพูดได้เจ็ดภาษา อายุเจ็ดขวบขึ้นแสดงปาฐกถาเรื่องอภิปรัชญาชั้นสูง ให้ที่ประชุมนักปราชญ์ทั้งหลายฟัง ทึ่งไปตามๆ กัน ว่าทำได้ไง

กินเนสส์บุ๊ก เป็นที่รู้กันว่าบันทึกเรื่องจริง ไม่โกหกเราแน่นอน สมัยนี้ เด็กเกิดมาสองชั่วโมงพูดได้ ก็มีแล้วย้อนหลังไปสองพันห้าร้อยกว่าปี เจ้าชายแห่งราชวงศ์ศากยะ ทันทีที่เกิดมาก็พูดได้ จะต่างอะไรละครับ

อย่าคิดแต่เพียงว่า เป็นไปไม่ได้ๆ สมัยนี้มีกี่หมื่นกี่แสนอย่างที่เราไม่เคยคิดว่าจะเป็นไปได้ มันเป็นไปได้แล้วทั้งนั้น

 

<TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=tcat colSpan=2>Currently Active Users Viewing This Thread: 2 (2 members and 0 guests) </TD></TR><TR><TD class=alt1 colSpan=2>DevilBitch, Jin </TD></TR></TBODY></TABLE>

How do you do Jin?...Yai wants to see your girl pic, Na Jah...555...Yai will going to bed now...See You...nite nite...

 

...ขำเพลงนี้จัง พยายามแปลอยู่ค่ะ
....ดีนะคะมีเนื้อเพลงมาด้วย...

 

ขำพี่แดง ดี.เจ.จากกรุงเก่าเมื่อคืนเจงๆเรย ตามมาเล่นกับยายห้องน้องตุ๋ม...จ๋งจั๋ยลืมเปิดฟังเสียงจาก Kor. Wor.Yor. Call Center ที่พวกหนุ่มดาวหาง คำอ้น ลาภและยายเองต่างติดแจ... ลาภนี่นั่งเฝ้าเชียว !...แต่พี่แดงคงไม่สนใจเสียงเลยไม่ขำ เอ... หรือพี่แดงปลงและปล่อยวางเรื่องทะลึ่งตึงตังได้แระ ...เพราะชินแระ อ้าวไปว่าพี่เค้ายายนี่ อิอิ... คือยายขอดึงที่พี่แดงโพสต์จากห้อง Call Center มาลงเก็บที่ห้องนี้นะคะเพราะสาระกินใจดีค่ะ อิอิ...พี่แดงตามมานะคะคนดี

 

<TABLE class=tborder cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="FONT-WEIGHT: normal"><!-- status icon and date --> เมื่อวาน, 06:06 PM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="FONT-WEIGHT: normal" align=right> #14 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 width=175>ประกาศิต<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_84103", true); </SCRIPT>
สมาชิก

Join Date: Mar 2005
Age: 45
โพส: 157
Rep Power: 19


</TD><TD class=alt1><!-- message -->เทียนที่นำไปจุดเทียนเล่มอื่น
จะไม่สูญเสียความสว่างของตัวเอง
แต่จะทำให้ห้องสว่างไสวขึ้น

สวัสดีครับ ทุกท่าน มากับสายลมครับ
<!-- / message --></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE class=tborder cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="FONT-WEIGHT: normal"> เมื่อวาน, 06:13 PM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="FONT-WEIGHT: normal" align=right> #17 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 width=175>ประกาศิต<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_84106", true); </SCRIPT>
สมาชิก

Join Date: Mar 2005
Age: 45
โพส: 157
Rep Power: 19


</TD><TD class=alt1><!-- message -->เรือที่จอดอยู่ในท่าจะปลอดภัยที่สุด
แต่เรือไม่ได้ถูกสร้างมาเพื่อให้จอดอยู่ในท่า


ไม่รู้จะพิมพ์ไรดีน่ะครับ ขออถัยที่มาบ่นที่นี่น๊ะ หวังว่าคงไม่ว่าน๊ะครับ
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE class=tborder cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="FONT-WEIGHT: normal"> เมื่อวาน, 06:16 PM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="FONT-WEIGHT: normal" align=right> #19 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 width=175>DevilBitch<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_84108", true); </SCRIPT>
ธรรมะคือธรรมชาติที่จริง!



Join Date: Jan 2005
Location: เดินทางตามสายธารเวลา เพื่อค้นหา ค่าของตน ที่ได้เกิดเป็นคนภพนี้ อยากมอบสิ่งดีๆให้จากกำลังใจที่ล้นเปี่ยม ก่อนลา
Age: 37
โพส: 3,707
Rep Power: 381


</TD><TD class=alt1><!-- message -->Quote:
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">Originally Posted by ประกาศิต
เรือที่จอดอยู่ในท่าจะปลอดภัยที่สุด
แต่เรือไม่ได้ถูกสร้างมาเพื่อให้จอดอยู่ในท่า


ไม่รู้จะพิมพ์ไรดีน่ะครับ ขออถัยที่มาบ่นที่นี่น๊ะ หวังว่าคงไม่ว่าน๊ะครับ
</TD></TR></TBODY></TABLE>



ท่า?...(จะ)ปลอดภัยที่สุด!!!...
<!-- / message --><!-- sig --></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE class=tborder cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="FONT-WEIGHT: normal"><!-- status icon and date --> เมื่อวาน, 06:22 PM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="FONT-WEIGHT: normal" align=right> #20 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 width=175>ประกาศิต<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_84110", true); </SCRIPT>
สมาชิก

Join Date: Mar 2005
Age: 45
โพส: 157
Rep Power: 19


</TD><TD class=alt1><!-- message -->แบบว่า ใครๆก็ไม่รักผม ขนาดพัดลมยังส่ายหน้าเลย 5555555
<!-- / message --></TD></TR><TR><TD class=alt2> </TD><TD class=alt1 align=right><!-- controls --> <!-- / controls --></TD></TR></TBODY></TABLE><!-- post 84110 popup menu --><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ประกาศิต</TD></TR><TR><TD class=vbmenu_option style="CURSOR: default">View Public Profile</TD></TR><TR><TD class=vbmenu_option style="CURSOR: default">Send a private message to ประกาศิต</TD></TR><TR><TD class=vbmenu_option style="CURSOR: default">Find More Posts by ประกาศิต</TD></TR><TR><TD class=vbmenu_option style="CURSOR: default">Add ประกาศิต to Your Buddy List</TD></TR></TBODY></TABLE>
<!-- / post 84110 popup menu -->

​

<!-- / close content container --><!-- / post #84110 --><!-- post #84111 --><!-- open content container -->

<TABLE class=tborder cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="FONT-WEIGHT: normal"><!-- status icon and date --> เมื่อวาน, 06:24 PM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="FONT-WEIGHT: normal" align=right> #21 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 width=175>ประกาศิต<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_84111", true); </SCRIPT>
สมาชิก

Join Date: Mar 2005
Age: 45
โพส: 157
Rep Power: 19


</TD><TD class=alt1><!-- message -->Quote:
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">Originally Posted by DevilBitch
ท่า?...(จะ)ปลอดภัยที่สุด!!!...
</TD></TR></TBODY></TABLE>


เธอจะพบความสวยงามของมหาสมุทรได้อย่างไร
หากเธอไม่กล้าพอที่จะออกไปไกลจากฝั่ง
<!-- / message --></TD></TR></TBODY></TABLE>

​

 

<TABLE class=tborder cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="FONT-WEIGHT: normal"> เมื่อวาน, 06:25 PM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="FONT-WEIGHT: normal" align=right> #22 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 width=175>DevilBitch<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_84112", true); </SCRIPT>
ธรรมะคือธรรมชาติที่จริง!



Join Date: Jan 2005
Location: เดินทางตามสายธารเวลา เพื่อค้นหา ค่าของตน ที่ได้เกิดเป็นคนภพนี้ อยากมอบสิ่งดีๆให้จากกำลังใจที่ล้นเปี่ยม ก่อนลา
Age: 37
โพส: 3,707
Rep Power: 381


</TD><TD class=alt1><!-- message --><TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=tcat colSpan=2>Currently Active Users Viewing This Thread: 5 (2 members and 3 guests) </TD></TR><TR><TD class=alt1 colSpan=2>DevilBitch, ประกาศิต </TD></TR></TBODY></TABLE>

ไปใช้บริการเหรอคะ????? 555....
<!-- / message --><!-- sig -->__________________
นี่ๆ!...ตามยายมานะถ้าอยากลุยมิติลึกลับ (ทุกเรื่องที่กำลังค้นหา) ยายจัดให้นะที่ห้องนี้ไงจ๊ะ... เออ!...ตามมาทำไม..ถ้าไม่รักยายผีป่า?!!

หรือถ้าไม่กลัวบ้าก้อเข้าห้องนี้นะ ตามหาคุณยายที่รักคะ

*ยายผีป่า* จอมซ่าส์... บ้า...เพี้ยนห้ามเลียนแบบ!..
บุคคลสงวนพันธุ์คุ้มครองประเภทหนึ่ง แห่งบอรดจักรวานฯ at palungjit.org THE ONE AND ONLY
<!-- / sig --></TD></TR><TR><TD class=alt2> </TD><TD class=alt1 align=right><!-- controls --> <!-- / controls --></TD></TR></TBODY></TABLE><!-- post 84112 popup menu -->

<TABLE cellSpacing=1 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=thead>DevilBitch</TD></TR><TR><TD class=vbmenu_option style="CURSOR: default">View Public Profile</TD></TR><TR><TD class=vbmenu_option style="CURSOR: default">Send a private message to DevilBitch</TD></TR><TR><TD class=vbmenu_option style="CURSOR: default">Find More Posts by DevilBitch</TD></TR><TR><TD class=vbmenu_option style="CURSOR: default">Add DevilBitch to Your Buddy List</TD></TR></TBODY></TABLE>
<!-- / post 84112 popup menu --><!-- / close content container --><!-- / post #84112 --><!-- post #84114 --><!-- open content container -->

<TABLE class=tborder cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="FONT-WEIGHT: normal"><!-- status icon and date --> เมื่อวาน, 06:26 PM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="FONT-WEIGHT: normal" align=right> #23 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 width=175>DevilBitch<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_84114", true); </SCRIPT>
ธรรมะคือธรรมชาติที่จริง!



Join Date: Jan 2005
Location: เดินทางตามสายธารเวลา เพื่อค้นหา ค่าของตน ที่ได้เกิดเป็นคนภพนี้ อยากมอบสิ่งดีๆให้จากกำลังใจที่ล้นเปี่ยม ก่อนลา
Age: 37
โพส: 3,707
Rep Power: 381


</TD><TD class=alt1><!-- message -->nite...nite...Grezzzzzzzzzzzzz...#5..#...3..#...000000000....
<!-- / message --><!-- sig -->__________________
นี่ๆ!...ตามยายมานะถ้าอยากลุยมิติลึกลับ (ทุกเรื่องที่กำลังค้นหา) ยายจัดให้นะที่ห้องนี้ไงจ๊ะ... เออ!...ตามมาทำไม..ถ้าไม่รักยายผีป่า?!!

หรือถ้าไม่กลัวบ้าก้อเข้าห้องนี้นะ ตามหาคุณยายที่รักคะ

</TD></TR></TBODY></TABLE>

​

 

<TABLE class=tborder cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="FONT-WEIGHT: normal"><!-- status icon and date --> เมื่อวาน, 06:31 PM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="FONT-WEIGHT: normal" align=right> #24 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 width=175>ประกาศิต<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_84115", true); </SCRIPT>
สมาชิก

Join Date: Mar 2005
Age: 45
โพส: 157
Rep Power: 19


</TD><TD class=alt1><!-- message -->มหาสมุทรคงมีแต่ บริการ ของ ฉลาม เท่านั้นครับ แต่ ม่าย ขอ ใช้ ดีก่า 55555
<!-- / message --></TD></TR><TR><TD class=alt2> </TD><TD class=alt1 align=right><!-- controls --> <!-- / controls --></TD></TR></TBODY></TABLE><!-- post 84115 popup menu --><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ประกาศิต</TD></TR><TR><TD class=vbmenu_option style="CURSOR: default">View Public Profile</TD></TR><TR><TD class=vbmenu_option style="CURSOR: default">Send a private message to ประกาศิต</TD></TR><TR><TD class=vbmenu_option style="CURSOR: default">Find More Posts by ประกาศิต</TD></TR><TR><TD class=vbmenu_option style="CURSOR: default">Add ประกาศิต to Your Buddy List</TD></TR></TBODY></TABLE>
<!-- / post 84115 popup menu -->

​

<!-- / close content container --><!-- / post #84115 --><!-- post #84116 --><!-- open content container -->

<TABLE class=tborder cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="FONT-WEIGHT: normal"><!-- status icon and date --> เมื่อวาน, 06:32 PM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="FONT-WEIGHT: normal" align=right> #25 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 width=175>ประกาศิต<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_84116", true); </SCRIPT>
สมาชิก

Join Date: Mar 2005
Age: 45
โพส: 157
Rep Power: 19


</TD><TD class=alt1><!-- message -->วันที่ยาวนานที่สุด
คือวันที่หัวใจของเธอไม่มีรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ
<!-- / message --></TD></TR><TR><TD class=alt2> </TD><TD class=alt1 align=right><!-- controls --> <!-- / controls --></TD></TR></TBODY></TABLE><!-- post 84116 popup menu --><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ประกาศิต</TD></TR><TR><TD class=vbmenu_option style="CURSOR: default">View Public Profile</TD></TR><TR><TD class=vbmenu_option style="CURSOR: default">Send a private message to ประกาศิต</TD></TR><TR><TD class=vbmenu_option style="CURSOR: default">Find More Posts by ประกาศิต</TD></TR><TR><TD class=vbmenu_option style="CURSOR: default">Add ประกาศิต to Your Buddy List</TD></TR></TBODY></TABLE>
<!-- / post 84116 popup menu -->

​

<!-- / close content container --><!-- / post #84116 --><!-- post #84117 --><!-- open content container -->

<TABLE class=tborder cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="FONT-WEIGHT: normal"><!-- status icon and date --> เมื่อวาน, 06:33 PM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="FONT-WEIGHT: normal" align=right> #26 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 width=175>ประกาศิต<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_84117", true); </SCRIPT>
สมาชิก

Join Date: Mar 2005
Age: 45
โพส: 157
Rep Power: 19


</TD><TD class=alt1><!-- message -->สำหรับคนที่มีความอดทน
แม้ชั่วโมงที่ยากลำบากที่สุดก็ยาวนานเพียง 60 นาที
<!-- / message --></TD></TR></TBODY></TABLE>

​

 

<TABLE class=tborder cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="FONT-WEIGHT: normal"><!-- status icon and date --> เมื่อวาน, 06:34 PM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="FONT-WEIGHT: normal" align=right> #27 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 width=175>ประกาศิต<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_84118", true); </SCRIPT>
สมาชิก

Join Date: Mar 2005
Age: 45
โพส: 157
Rep Power: 19


</TD><TD class=alt1><!-- message -->บ่นก่อนนอน ซ้า อีกนิด อิอิอิ


บางครั้ง เราอาจไม่เข้าใจการกระทำของตัวเอง
ฉะนั้น จึงไม่ควรตัดสินการกระทำของคนอื่น
<!-- / message --></TD></TR><TR><TD class=alt2> </TD><TD class=alt1 align=right><!-- controls --> <!-- / controls --></TD></TR></TBODY></TABLE><!-- post 84118 popup menu --><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ประกาศิต</TD></TR><TR><TD class=vbmenu_option style="CURSOR: default">View Public Profile</TD></TR><TR><TD class=vbmenu_option style="CURSOR: default">Send a private message to ประกาศิต</TD></TR><TR><TD class=vbmenu_option style="CURSOR: default">Find More Posts by ประกาศิต</TD></TR><TR><TD class=vbmenu_option style="CURSOR: default">Add ประกาศิต to Your Buddy List</TD></TR></TBODY></TABLE>
<!-- / post 84118 popup menu -->

​

<!-- / close content container --><!-- / post #84118 --><!-- post #84119 --><!-- open content container -->

<TABLE class=tborder cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="FONT-WEIGHT: normal"><!-- status icon and date --> เมื่อวาน, 06:35 PM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="FONT-WEIGHT: normal" align=right> #28 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 width=175>ประกาศิต<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_84119", true); </SCRIPT>
สมาชิก

Join Date: Mar 2005
Age: 45
โพส: 157
Rep Power: 19


</TD><TD class=alt1><!-- message -->ถ้ามองแต่ความผิดของคนอื่น เธอจะมีแต่ความเกลียด
ถ้ามองแต่ความดีของคนอื่น เธอจะมีแต่ความรัก


แบบว่าเก็บกดมาทั้งวันคร้าบบบบบบบบ
<!-- / message --></TD></TR></TBODY></TABLE>

​

 

<TABLE class=tborder cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="FONT-WEIGHT: normal"> เมื่อวาน, 06:37 PM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="FONT-WEIGHT: normal" align=right> #29 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 width=175>ประกาศิต<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_84120", true); </SCRIPT>
สมาชิก

Join Date: Mar 2005
Age: 45
โพส: 157
Rep Power: 19


</TD><TD class=alt1><!-- message -->และสุดท้ายครับ


หากเธอยอมรับประโยชน์จากแสงสว่าง
และความอบอุ่นจากดวงอาทิตย์
เธอต้องยอมรับผลของพายุของฝนฟ้าคะนองด้วย
***********************
ความสำเร็จ ขึ้นอยู่กับการกระทำไม่ใช่การอธิษฐาน




ขอตัวไปนอนก่อนน๊ะครับ แล้วถ้ามีดโอกาส ผมจะมาบ่นให้รำคาญอีกครับ

บายครับ
<!-- / message --></TD></TR></TBODY></TABLE>


From this room... http://www.palungjit.org/board/showthread.php?t=9160

 

I am eating

 

เย้... บอร์ดแฺฮ้งค์เป็นอาชีพเรยเนอะ หายไปที่อื่นๆกันหมดเรย ทิ้งยายไว้คาบอร์ดอีกแระ

กรำเจงๆ...555...