เออ!...ตามมาทำไม..ถ้าไม่รักยายผีป่า?!!

ในห้อง 'จักรวาลคู่ขนาน' ตั้งกระทู้โดย DevilBitch, 23 มีนาคม 2005.

  1. บ.ใบไม้ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    65
    ค่าพลัง:
    +325
    เล่าอีกๆๆ อยากฟังต่อครับ
     
  2. first เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2005
    โพสต์:
    181
    ค่าพลัง:
    +4,990
    ขอต่ออีกนิดชักมันเฮอะ......

    .........เด็กหนุ่มตอบพระอาจารย์ไปด้วยเสียงกล้าๆกลัวๆๆว่า..นอนข้างสมเด็จพ่อองค์ปฐมดีกว่าครับ..ในใจก็คิดว่าถ้ามีอะไรไม่ชอบมาพากล สมเด็จพ่อช่วยลูกด้วยนะครับ..พระอาจารย์ท่านก็เล่าสำทับต่อว่า สมเด็จพระองค์ปฐมนี่ใครคิดร้าย คิดไม่ดี อยู่นี่ไม่ได้หรอกไอ้ทิด ท่านว่า หลังจากนั้นท่านก็จุดธูบเทียนเตรียมนำสวดมนต์ ท่านสวดมากมายหลายบท เด็กหนุ่มความจำสั้นเหมือนปลาโดริจำไม่ได้หรอกจำได้เลาๆๆว่า ท่านบูชาพระอิตอปิโส 3 จบและบูชาพระแม่ธรณี พร้อมกับบอกพ่อปู่ดำและพ่อนาคแม่นาคให้ช่วยดูแลเด็กด้วยที่เข้ามาปฏิบัติสมณะธรรม...แล้วท่านก็หันมาสั่งว่า ไอ้ทิดถ้าไม่สว่างเอ็งห้ามลงไปข้างล่างนะ.....ไม่ว่าจะเกิดอะไรก็ตาม[b-wai]
     
  3. ลูกหลานหลวงปู่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    550
    ค่าพลัง:
    +3,588
    คุณ TAMSAK ครับช่วยแจ้งเบอร์โทรด้วยครับ
     
  4. tamsak ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2004
    โพสต์:
    7,857
    กระทู้เรื่องเด่น:
    22
    ค่าพลัง:
    +161,171
    ส่งไปให้ที่ "ข้อความส่วนตัว" แล้วครับ
     
  5. first เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2005
    โพสต์:
    181
    ค่าพลัง:
    +4,990
    เล่าต่อเนื่องจากถูกยายส่งมาขัดตาทัพไทยกับพม่า5555

    หลังจากที่พระอาจารย์ลงไปจากภูแล้วก็คงมีแต่เสียงป่าและสัตว์น้อยใหญ่ที่เป็นเพื่อนเขา รวมทั้งสิ่งที่เขามองไม่เห็นตัว..อากาศในถ้ำหนาวเย็นลงอีกตามค่ำคืนแห่งกาลเวลา เด็กหนุ่มค่อยๆบรรจงกราบสมเด็จองค์ปฐมลงช้า 5 ครั้งแล้วนอนหลับไป...ในค่ำคืนอันแสนเงียบในภวังค์ที่เกือบจะเป็นครึ่งหลับครึ่งตื่น ภาพในมโนสำนึกของเขาปรากฏร่างของเจ้าหญิงพระองค์หนึ่ง(ขอบอกโคตรสวยอะ...สวยจนไม่รู่จะบรรยายยังไง) พระวรกายอวบอิ่มได้ส่วน...แต่งพระองค์ด้วยเครื่องสูงเยี่ยงขัตติยราชนารี..พระนาภีเปลือยเห็นบั้นพระองค์ทรงเครื่องสูงแบบขอมโบราณยืนมองยิ้มพองาม พระเกศายาวสลวยหยักโสกพองามไม่ตรัสเอาแต่ยิ้ม....แล้วก็หายไป เขาก็ตื่นแล้วมานั่งสมาธิต่อ..ท่ามกลางเสียงเงียบสงัดและแสงเทียนเพียงดวงเดียวหน้าสมเด็จพ่อ เขาได้ยินเสียงคนเดินขึ้นมาบนถ้ำ..ก็ดีใจคิดว่าพระอาจารย์มารับกลับที่ไหนได้พอลืมตาดูแล้วส่องไฟไปกลับพบแต่ความว่างเปล่า...เท่านั้นยังไม่พอตรงข้ามกับถ้ำใหญ่มีถ้ำเล็กๆๆพอนั่งได้..ได้ยินเสียงประหลาดคล้ายสัตว์เลื้อยคลานขนาดใหญ่เลื้อยไปมาพอส่องไฟดูก็เงียบ...เป็นอย่างนนี้ 3-4ครั้ง..เขาจึงตัดสินใจนอนดีกว่า พอนอนยังไม่ทันหลับดีก็ฝันอีกแล้ว(เออะยังไงหว่า)มีผู้หญิงอายุราวสัก 60-70 เศษมานั่งคุกเข่าติดมุ้งก็เลยแปลกใจว่าเราอาราธนาสมเด็จพ่อไว้ คงไม่ใช่ผู้ร้ายแน่..หญิงชราแต่งตัวคล้ายกับซ้อนทับกันคือแบบยากจนคือนุ่งซิ่นแต่บางครั้งเห็นเป็นผ้าคล้ายๆแก้วแต่หมองมาก..เขาตกใจมากเพราะมันใกล้มากท่านพูดอะไรไม่รู้ไม่ได้ยินประกอบกับความกลัว จึงบอกท่านไปว่าโมทนานะครับท่าน...ท่านก็เลยหายไปกับความมืดทันที
    เปลวเทียนเล่มเดียวบนภูกำลังละลายจวนจะดับชายหนุ่มเผลอหลับไปอีกครั้งจนใกล้สว่างเพราะได้ยินเสียงไก่ป่าขันประชันกัน....เช้าแล้วหรือนี่เขารำพันกับตัวเองพร้อมกับแสงทองที่เข้ามาแทนแสงเทียนซึ่งดับลงแล้ว...เขากราบลงกับแท่นที่ประทับของสมเด็จพ่อองค์ปฐมกราบพร้อมฝากชิวิตที่แสนร้ายค่าไว้กับเบื้องพระบาทแห่งพระองค์ท่าน...เก็บเครื่องกันหนาวและค่อยเดินลงมาเบื้องล่างย่างช้าๆๆๆ....ด้วยใจคิดว่ารอดแล้วตู...
    .....ยังครับยังไม่หมดเพียงเท่านี้ขณะที่กำลังล้างหน้าล้างตาพลันเหลือบไปเห็นเส้นผมยายแต่หยักโสกสลวยและมีกลิ่นหอมเส้นหนึ่งติดที่เสื้อ ตายละหว่าผมใครเนี่ย...แฟนเราก็ผมยาวตรง...
    .....ครั้นเช้าได้ยินเสียงพระอาจารย์เปิดประตูออกมาถามว่า เป็นไงบ้างไอ้ทิด
    จึงกราบเรียนท่านๆถึงเรื่องทั้งหมด ท่านก็เมินหน้าไปทางอื่นและกล่าวด้วยเสียงเรียบๆว่า ดีแล้วของฝากจากถ้ำไง แล้วท่านก็หัวเราะบอกว่าอ้าวเตรียมตัวไปกราบท่านอาจารย์ได้แล้วเดี๋ยวข้าจะไปฉันเช้าด้วย.......
    .....พอไปกราบหลวงพ่อซึ่งเป็นอาจารย์ของพระอาจารย์ท่านก็ท่าน ชายหนุ่มว่า เฮ้ย......(ท่านเรียกชื่อ..)..เป็นไงได้เมียพญานาคหรือยังวะ...........จบเว้เรื่องจริงอิงนิทานยายจ๋าอีหนูมาขัดตาทัพให้แล้วนะจ๊ะที่เหลือยายคงต้องบรรเลงเพลงรักเอ้ยเพลงโอดตะหากไปเองละกันนะจ๊ะ...โอกาสหน้าถ้ายังไม่ตายเสียก่อนจะมาเล่านิทานให้ฟังอีกนะครับผม
    .....นัตถิเม สรณัง อัญญัง พุทโธ สรณังวรัง เอเตนะ สัจจวัชเชนะ โสตถิเม โหนตุ ชยมังคลัง... สาธุผิดพลาดไปก็ขอขมาสมเด็จไว้ด้วยนะขอรับ(bb-flower
     
  6. บ.ใบไม้ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    65
    ค่าพลัง:
    +325
    ยายมาเล่าต่อเร็วๆๆๆ อยากฟังอีก ครับ
     
  7. phuang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มกราคม 2005
    โพสต์:
    4,033
    ค่าพลัง:
    +10,043
    ใช่ ๆๆ เล่า อิอิ....ก่องที่หนุจาเมา
     
  8. khochpaak เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    216
    ค่าพลัง:
    +1,727
    ยายผมขออนุญาตซ้ำของยายอีกรอบนะ เผื่อคนตาไม่ดีอย่างผมแหล่ะ

    มาเล่าต่อ ถ้ามีแฟนคลับตามอ่าน ขอเสียงหน่อยจ้า
    <HR style="COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message -->ท้องฟ้าคืนนี้เกลื่อนด้วยแสงดาวพราวยิบยับเชียวล่ะ ระหว่างทางขึ้นถ้ำหวังว่าบริวารตัวยาวของท่านท้าววิรูปักษ์ไม่โผล่มาอย่างไม่บอกไม่กล่าวหรือแอบซุกตัวเงียบๆใต้ใบไผ่ที่แห้งกรอบร่วงเกลื่อนเขาด้วย แต่ในใจยายผีป่าโล่งๆ แสดงว่างานนี้ท่านที่รอต้อนรับเราไม่อยากให้เราวิ่งป่ากระเจิงก่อนผจญเป้าหมายใหญ่ข้างบนถ้ำ ffice:eek:ffice" /><O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    ท่านบังบด ท่านพี่เจ้าขา ท่านปู่ท่าน เจ้าย่า จอมนาง ย่าโสม อย่าสำแดงฤทธิ์มาทักทายแบบสดๆนะเจ้าขา ยายผีป่าที่ใจไม่กลัวแต่ยังไม่อยากเจอแบบโผล่แว่บๆ ในความมืดกลางป่าเช่นนี้ ผู้นำแก๊งค์ฯพูดไปเรื่อยๆ เด็กๆ คงนึกขำ แต่ด้วยอะไรไม่ทราบแต่ละคนก็ติดเชื้อยายผีป่าด้วยการบอกกล่าวไปเรื่อยๆทั้งในใจและออกเสียง อืมส์... ที่ไม่ออกเสียงเพราะเหนื่อยและกลัวหรือเปล่าน๊อ<O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    อีกไกลไหมจ๊ะพี่นาง ชมพูขอพักก่อนนะคะ นางฟ้าตาโตของเราคงเหนื่อยจริงๆ หลังลัดเลาะมายืนตรงจุดปากทางเข้าถ้ำโล่งๆ โค้งหลังนิดๆ ถ้านั่งได้คงนั่งล่ะสิ <O:p></O:p>
    ถึงแล้วจ๊ะ ก้อชมพูยืนปากทางเข้าแล้วนะคะ น้องฟ้าไหวมั๊ย เอ้า...ระวังนะคะ ยึดลำไผ่เกาะไว้ก่อนแล้วค่อยๆเหยียบหินขึ้นมาค่ะ มองทางเห็นมั๊ยยายผีป่าเองไม่ทันได้ฟังว่าน้องฟ้าพูดอะไรหรือไม่ ชอบมองฟ้าเลยมองให้ฉ่ำใจเลย <O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    โห...ดาวสวยมาก อากาศดี ขึ้นไปอีกนิดค่ะ เข้าไปชั้นแรกจะเป็นลานโล่งมีทางจงกลม และหลวงพี่แสงอัญเชิญพระพุทธรูปและพระแม่ธรณีขึ้นมาประดิษฐานค่ะ <O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    อากาศดีจริงๆ ทุกเสียงคิดเหมือนกัน และคุณ บ.ใบไม้เดินไปสำรวจถ้ำชั้นแรก คงเข้าใจว่าจะนอนชั้นนี้ <O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    เราต้องขึ้นไปอีกชั้นค่ะ มีบันไดปูนขึ้นไปค่ะ มีองค์ปฐม ปางกายมนุษย์องค์ใหญ่มาก เราขึ้นไปเถอะ ตรงนี้นอนไม่ได้ มีแต่ดิน โล่งมากลมโกรก <O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    แล้วทุกคนก็ขึ้นไปตามที่ยายผีป่ากล่าว<O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    พี่นางดูอะไรคะ น้องชมพูคงสงสัยที่ยายผีป่าแหงนคอตั้งฝ่ายอดไผ่บนถ้ำชั้นบน <O:p></O:p>
    มองดาวสิจ๊ะ ยายชอบมองท้องฟ้า นี่ขาดพระจันทร์นะรู้ไหม มองไปอีกฟากฟ้าสิ ยายผีป่าบ้าเดือนและดาวยังชะเง้อคอตั้งชมไปจนคอเคล็ด สองนางฟ้าแสนสวยชื่นชมบรรยากาศที่สดชื่นและไม่น่ากลัวอย่างที่คาดคิด( เหอ ๆ ๆ) <O:p></O:p>
    ใครสักคนในกลุ่ม คิดว่าน่าจะเป็นคุณ บ. ใบไม้ นี่ล่ะมังที่จุดเทียนพรรษาหน้าองค์ปฐมเพื่อเพิ่มแสงสว่าง ลมพัดโกรกแรงพอสมควร เราสำรวจพื้นที่รอบๆสักพัก ทั้งสามคนลังเลว่าจะนอนตรงไหน<O:p></O:p>
    ทางนี้จ๊ะ ตรงนั้นหลวงพี่แสงเอาเครื่องนอนมาเตรียมไว้นานแล้ว ทุกคนดินลอดเข้าห้องธรรมชาติที่มีผนังกำบังลมดีกว่ามุมอื่นๆ และหลวงพี่แสงได้สั่งช่างเทปูนฉาบเรียบไว้แล้ว จึงไม่ต้องเกรงว่าจะเจอแมลงมาป้วนเปี้ยนมากนัก น้องฟ้ากะน้องชมพูนี่หวั่นว่าเราจะเหยียบแมลง เป็นปาณาฯจะบาปง่ะ <O:p></O:p>
    เราช่วยกันเอาไม้กวาดทางมะพร้าวมากวาดรวกๆ ก้อมีเศษใบไม้แห้ง เศษฝุ่นที่ไม่เยอะนัก แล้วจัดตระเตรียมที่นอน จุดเทียนเล่มน้อยเพิ่มความสว่างหลายๆเล่ม (อิอิ....ม่ายอยากบอกว่าจุดเทียนเพราะกลัวความวังเวงมากก๋าน่ะซี๊) <O:p></O:p>
    แล้วเราสี่คน(เพี้ยน) พร้อมกันไปกราบไหว้องค์ปฐมและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ณ สถานที่อันลี้ลับแห่งนี้ โดยเฉพาะท่านอินทกะ(ยักษ์สีแดงตัวบึ๊กตนที่มายืนวันบวงสรวง และท่านพญานาคราช แม่จอมนาง อองมะนายขอมโบราณฯ ) น้องฟ้าเอาช่อดอกดาวเรืองที่เตรียมมาใส่แจกัน คุณ บ. ใบไม้นำสวด สักการะด้วยองค์ปฐม (เราสวดพร้อมๆกันล่ะ) แล้วยายผีป่าก้อพรึมพรำๆ บอกกล่าวท่าน ทั้งสามคนก้อคงบอกกล่าวไม่ต่างจากยายผีป่านักน่ะค่ะ แล้วที่นี้ก็ทำสมาธิ ตอนแรกๆ ยายผีป่าก้อหลับตาทำสมาธิค่ะ แต่ไม่ถนัดเท่ากับชมบารมีพระ และเพ่งเปลวงเทียน อันนี้เป็นความสามารถส่วนตัว ยินดีให้เลียนแบบ คือจิตตั้งมั่น และทำให้เบา ภาวนา พิจารณา ตีปัญหาธรรมที่เกิด เสียงลมพักตึง เทียนพรรษาเล่มใหญ่เปลวงไหวแรงเจียนดับแหล่มิดับแหล่ ยายผีป่าได้พิจารณาธรรมตามสถานะที่เกิด ที่เป็น ที่เห็น ที่สะท้อน แล้วค่อยๆ หลับตา เปลวเทียนแยกเป็นสามระยะในมโนภาพ แล้วจับมารวมที่จุดเดียว ก่อนสร้างเป็นวงแสงสีขาว เพิ่มความสว่างให้ในมโนฯ แล้วภาวนาขอบารมีเบื้องบน น้องชมพู น้องฟ้า นั่งไม่ไหวติง สงบนิ่ง ขนาบซ้ายขวายายผีป่า คุณ บ.ใบไม้นั่งสมาธิหลับตาข้างหลังพวกสามสาว(แหะๆ ขอสาวมั่ง) ยายผีป่าไม่ชอบนั่งนาน ชอบนอนสมาธิมากกว่า เลยแผ่เมตตาแล้วขอบารมี ขอขมาทุกภพทุกภูมิอีกรอบ แล้วค่อยๆ ขยับตัว ไม่อยากก่อให้เกิดเสียงดัง แต่ด้วยความที่เกรงเทวดาที่มาช่วยคุ้มครองวัตถุมงคลที่ยายมีจะตำหนิว่าไม่พาท่านมาด้วย เลยดังกร๊อกแกร๊กกระทบกัน น้องชมพูเลยเผยอตามามองแว๊บ น้องฟ้าเริ่มขยับบ้าง ยายบอกขอโทษ ชายหนุ่มคนเดียวของกลุ่มคงอยากถอนมั่ง แต่ยายบอกจะขอถ่ายภาพไว้ นั่งต่อไปเถอะ เดี๋ยวคืนนี้ท่านมาโปรดแน่ <O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    หลังถอนสมาธิ เราคิดว่าจะลงไปกราบพระพุทธรูปกับพระแม่ธรณีที่ถ้ำล่างดีไหม สุดท้ายก็เปลี่ยนใจ ชวนกันเข้าคูหาถ้ำ คุณ บ. ใบไม้เดินมาคนหลัง เราสามสาวนั่งคุยกันสักพัก ได้ยินเสียงดังสนั่น และพื้นถ้ำสั่นเล็กน้อย ต่างคนต่างมองหน้ากัน ชายหนุ่มรีบบอกสามสาวว่าผมเดินเตะโอ่งข้างๆทางเข้าครับ เฮ้อ! นี่ถ้าไม่รีบบอก ป่าคงราบแน่เรา 555...<O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    เราก็คุยกันพอประมาณได้ว่า เห็นอะไรมั๊ย สัมผัสอะไรได้บ้าง แล้วยายผีป่าก็บอกเรื่องการมองเปลวเทียน เห็นเปลวเทียนที่ลอยห่างจากแสงเทียนไหม เปลวที่สองน่ะ นั่นล่ะคือจิตของเราที่นิ่ง ที่เหมือนอาทิสมานยกายเรานั่นล่ะ เป็นจิตที่มีสมาธิ มีพลัง แล้วเห็นแสงเทียนที่สะท้อนเป็นเงาในกระจกไหม มันเป็นเงาเหมือนจริงอย่างกระจกเงา นั่นคือจิตใหม่ คือกรรมใหม่ของเรา เทียนที่เราจุดและเปลวที่เห็นจริง คือสังขารและวาระ ถ้ามันดับ จิตที่สองที่มีแต่เปลวแต่ไม่มีต้นเทียนยังลอยอยู่และไม่ดับ หากว่าเงานั้นเปลวเทียนดับตาม ถ้าไม่มีแสง จะไม่มีเงาเลย ถ้ามีแสงเล็กน้อย ไม่ว่าจากแสงจันทร์ก็ดี จากไฟฉายก็ดี ถ้าเราไม่จุดเทียนเล่มนั้น เงาก็จะเห็นเพียงแท่งเทียนตามจริง นี่คือบุญและกรรมที่เราจะได้รับหลังชีพดับ ทำแค่ไหนไปแค่นั้น จุดนานเทียนละลายแท่งมากยิ่งเหลือเทียนน้อยลง ยายว่าจิตเรามีสามจิตนะ นี่ไม่เป็นหลักการนะคะ ยายพิจารณาตามที่ยายคิดว่า มันอาจไม่เป็นที่ยอมรับนะคะสำหรับสายปฏิบัติอื่นๆ <O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    นิพพานคือการดับ การไม่เหลืออะไรให้เกิดต่อ นอกจากเปลวจิตที่สว่างจ้าดวงนั้น พลังบารมีหาดับไม่ ผู้มีบุญ เทวดา นางฟ้า พรหม ต่างเหมือนผู้ที่ทำบารมีตามกำลังแต่ไม่ถึงนิพพานนั่นล่ะ เหมือนเทียนลมพัดดับก่อน หรือรอการจุดใหม่ (มาเกิดใหม่เพื่อสร้างบารมีใหม่ ครั้งแล้วครั้งเล่า)<O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    ก็คุยกันพอหอมปากหอมคอ มีการนินทาผู้อื่นที่พลาดงานนี้ด้วย ยายยังขำไม่หายเรื่องน้องฟ้า (อันนี้ต้องรอน้องปลาน้อยมาอ่านก่อน จึงจะเฉลยที่มาของความขำ) แล้วยายก็รีบชวนกันนอนเพราะเกรงว่าขืนคุยต่อ ท่านต่างๆที่รอพบเราคงหมั่นไส้แน่ นอนกันเถอะ เราต้องตื่นแต่ตีห้าไปจัดของไปเข้าพิธีบวงสรวงที่วัดท่าขนุน <O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    ความเงียบ เย็นสบาย โล่ง เสียงเพลงจากบ้านงานอะไรสักอย่างยังแว่วมา เป็นงานเถิดเทิงแน่เพราะฟังจากจังหวะดนตรีที่เร้าใจ แต่ไม่ใช่เพลงไทยนะเจ้าคะ แถบนี่ชาวต่างด้าวมาปักหลักเยอะค่ะ น้องชมพูกับน้องฟ้ายังเย้าว่า เออ...พวกเขาฟังเพลงไทยวัยรุ่นก็เป็น<O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    ยายผีป่าพนมมือวันทาหัวนอนขอขมาและบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์และลี้ลับที่สถิต ณ แดนนี้ อีกทั้งย้ำเบาๆ ว่า เจ้าปู่ พี่นาง จอมนาง และท่านใดๆ ก็ตาม หากมาทักทายกรุณาทักทายอย่างที่เราพอรับได้นะเจ้าคะ ...สองสาวจากแอลเอล้มตัวลงนอนอย่างง่ายดายและไม่มีท่าทีจะกลัวจนไม่กล้านอน (มาเปิดเผยตอนก่อนกลับว่ากลัวเหมือนกันค่ะ) เสียงหายใจเบาๆของสองสาวแสดงว่าเพลียหลับ หรือไม่ก็พยายามหลับให้สนิท ยายผีป่าขี้หนาว เอาเสื้อแจ๊คเก็ตตัวยาวที่สวมในเมืองหนาวโดยเฉพาะเอามาคลุม มีผ้าขนหนูขนาดใหญ่ห่มได้หนุนนอน ต้องนอนงอเข่าและตะแคงหันหลังให้สองสาว(ไม่กล้าหันไปทางองค์ปฐมเพราะรู้ทางว่าขืนหันไปเจอดีแน่ๆ แหะๆ) ยายผีป่านี่ถ้าขาดผ้าคลุมเท้าจะนอนไม่ได้ นอนตะแคงบนผ้านวมผืนน้อยพอไม่เจ็บกระดูกกระเดี้ยว แต่ก็ด้วยความที่นอนขดเลยต้องพลิกตัวบ่อย อีกอย่างสัมผัสอะไรได้ลางๆ แว่บแรกที่ล้มตัวนอน พริบตานั้นเห็นเป็นหญิงสาวหน้าตาอิ่มเอิบหลายคนนั่งหันหน้าไปทางโขดหินที่ๆ หนึ่ง หุ่นไม่อ้วนไม่ผอมกันทุกคน สีผิวน้ำผึ้งอ่อนนะ ไม่ใช่น้ำผึ้งไหม้อย่างยายผีป่านะเจ้าคะ นุ่งซิ่นผ้าทอสีน้ำตาลแกมเขียวมีเชิงคล้ายผ้าจกลายแบบชาวผู้ไทยอะไรทำนองนี้ค่ะ พันรอบอกด้วยผ้าทอสีเดียวกับซิ่น (นี่แสดงว่าสาวบังบดหรือคนโบราณนำสมัยสาวยุคนี้มาหลายร้อยหลายพันปีแล้วค๊า แต่สาวสมัยนี้สวมใส่เกาะอกแล้วมันไม่งามเลย ยายเคยลองใส่แต่หาอกเกาะไม่ได้ง่ะ) ผมมวยเกล้าพันรอบด้วยผ้าทอจกลายโทนเข้ากับชุดเรียบง่ายแต่ขลังนะยายว่า พอหญิงงามเหล่านี้ค่อยๆเดินหายไปทางโขดหินช้าๆ ภาพแว่บอีกไปที่ลานโล่งใต้แสงจันทร์กระจ่าง มองเห็นเด็กน้อยมากมายวิ่งเล่นไล่จับกัน ร่าเริงสดใส ไม่สวมเสื้อ มีแต่โจงกระเบนด้วยผ้าทอสีคล้ายหญิงสาวกลุ่มนั้น แต่ละคนเหมือนกันหมดเลยดูไม่ออกว่าเพศไหน ไว้ผมจุกม้วยอย่างงดงาม ทุกคนตัวกลมกลึงแต่ไม่อ้วนฉุ หัวโตทุย ยายยังนึกชมว่าทำไมหัวพวกเจ้าถึงทุยหน้าทุยหลังงามนัก เด็กคนหนึ่งหันมามอง ทำตาระริก พร้อมยื่นมือมาให้ยายผีป่าจับ แต่ไม่กล้าจับแล้วบอกพ่อหนูน้อยในความรู้สึกตอนนิมิตว่า อย่ายิ้มนะพ่อคุณ ขยมหาหาญมองเขี้ยวเจ้า <O:p></O:p>
    แล้วพวกเขาก็หายวับไป หลายคราที่ต้องพลิกตัวทั้งๆ ที่ไม่อยากพลิก เพราะว่ากลัวถ้านิ่งแล้วจิตสัมผัสจะสงบจนลืมภพ อาสาวของยายผีป่าเพิ่งลาภพมนุษย์เนื่องจากคุยกับยายผีป่าเรื่องการถอดจิตไปเที่ยวช่วงงานช้างที่ยายผีป่ากับครอบครัวเพิ่งเหมารถโค้ชหรูยกคณะไปเที่ยวมา คุณปู่ คุณย่าต่างถอดจิตห้ามใครรบกวนแล้วไม่กลับมาภพนี้อีก ยายผีป่าจึงขลาดที่จะปล่อยให้หลุดหลงในมิติที่ขอยืนยันว่าถ้าเผลอเข้าไป ไม่อยากกลับ นี่เองที่เรียกว่าไหลตาย<O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    (ขณะที่น้องเฮาพิมพ์เรื่องเล่านี้นั้นเป็นเพลายามต้นของค่ำวันพุธ เจ้าน้องเฮาหานอนไม่ เจ้าน้องเผิ่นทุกข์ใจ เฮามาเยือนน้องแลพ้อว่าเผิ่นแฮงจิตบ่หย่อน เฮาจึ่งมาแบ่งภาระ หวังช่วย คราหน้าเฮาบ่จักมีวาระ เฮาบ่มาดอก เจ้าคิดว่าน้องเฮาที่เอิ้นหาคือผู้ใด ที่ฮ้องยายผีป่า นั่นแม่นแล นับวาระนี้เฮาจักเว่าในสิ่งที่สูพึงจำ เรื่องยุคใหม่เฮาขอจักเฮียน บ่ยากนัก แต่น้องเฮาจักสอนมาย่องเบิ่งนานเติบ มื้อสางน้องเฮาจักสงสัย ว่าแม่นแลพี่ข้ามาเยือน เฮาชื่อสมิงทอง(เจ้าชายสุดหล่อเมืองสุรินทร์ อดีตคนรักเก่าสาวที่อยู่แดนไกล เคยเป็นอ้ายต้นกาลก่อนเป็นเจ้าเมืองอ้าย โดนกำราบหมดโครต ยายผีป่าคือผู้นำน้องของเฮาๆ มาเยือนสูเจ้าทั้งหลาย เพราะมีหลายคนที่เคยผ่อเคยสู่ เฮาพยายามใช้นิ้วตามที่เฮาต้องการแปลออกมาให้สูเจ้าสำเหนียก น้องเฮามาอ่านคงกร่นจนเฮาย่านไปนาน เฮาจักบอกว่าหลายหนที่เฮามาแทรกเจ้าน้องนาง ตอบแทน เฮาไม่จิ้มกดเหมือนเจ้าน้องนาง เพราะเฮากดเร็วกว่าน้องนาง เวลาน้องนางคุยอยู่ที่เมืองนอก เฮาจะมากับน้องนางอีกคน คำนี้เฮาอยากฮ้องเพลงที่มีฉายบนกล่อง แล้วจะเตะอ้ายคนที่บังอาจทำร้ายน้องเฮา หดสูกับความเป็นไปในภพนี้ของน้องนัก ทุกอย่างเป็นตามวาระกรรม แลหาหนีพ้น หลายอย่างเป็นปัตจัตตัง จักเตือนจักว่า หาเชื่อไม่ เฮามาบอกว่า เฮาอยากมาช่วย เฮายังบ่จบ)

    ปล. ที่วงเล็บล่างสุดนั้น ยายผีป่าอยากลบออก เพราะไม่เกรงคนหาว่ายายผีป่าเพี้ยนอีกแระ แต่คุณตั้มศักดิ์บอกว่าลงเหอะ <O:p></O:p>

    <!-- / message --><!-- sig -->
     
  9. DevilBitch เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มกราคม 2005
    โพสต์:
    9,776
    ค่าพลัง:
    +36,838
    ท่องแดนลึกลับ อีกตอนกะยายผีป่าจ้า
    <HR style="COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message -->ffice:eek:ffice" /><O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    สองสาวคนนอนหลับอย่างสบายท่ามกลางอากาศที่เย็นพอสบายสำหรับสาวน้อยเมืองนอก แม้เสียงลมจะพัดตึง เปลวเทียนพรรษาเล่มใหญ่โดนลมจะดับมิดับแหล่ดังพรึบๆ แสงเทียนแผ่กระทบผนังถ้ำวับๆ
    เออ...อย่าดับนะเจ้าคะ ข้าน้อยเกรงว่าสัตว์ป่าจะมาซุกไออุ่นพวกเรา เพราะคิดว่าเป็นเพื่อนก๊กเดียวกัน ยายผีป่าเคยได้รับการสอนมาว่าอย่านอนดิ้นกลางป่ากลางเขา สัตว์ป่าหากินยามกลางคืนอย่างจงอาง งูเห่า งูเหลือมเนี่ยมันมาหาเหยื่อตามพลังการสั่นสะเทือน แต่คงช่วยไม่ได้ เพราะยายขี้หนาวต้องหดเข่าเอาเสื้อแจ็คเก็ตคลุมปลายเท้า นอนตะแคงก้อปวดกระดูก เพราะผอมมากงัยจ๊ะ อิอิ...นอนไปภาวนาไป พิจารณาไป มารู้สึกตัวเมื่อลำตัวของยายผีป่าได้รับถึงแรงเคาะข้างล่างตรงที่เรานอนอยู่ดัง ก๊อกๆๆๆๆๆๆ ยายผีป่าปล่อยให้มันดังต่อไปเพื่อหาที่มาของต้นเสียง แต่ดูเหมือนคนอื่นๆไม่ได้ยินเสียงนั้นเลย มันดังและสั่นใต้ที่ยายผีป่านอนทับน่ะค่ะ สักพักในนิมิตที่เรารู้ดีว่าเราไม่ได้หลับสนิทนัก เพราะเกรงว่าสองสาวอาจได้รับอันตรายจากแมลงพิษ หรือสัตว์ที่อาจออกมาในยามค่ำคืน ต้องคอยครึ่งหลับครึ่งตื่น แต่ไม่เปิดตา แหะๆ ภาพที่ปรากฏนั้นเป็นเศียรพญานาคราชหลายเศียร แยกออกจากกัน ไม่ได้สนใจนับเจ้าค่ะ เพราะในจิตถามท่านว่า ท่านประสงค์ใดพ่อเจ้าฯ แล้วพญานาคราชองค์นั้นก็แผ่พังพานแล้วตอนนั้นยายผีป่ารู้สึกว่ามองเห็นแต่ตรงเบี้ยของท่านตรงกลางมีแก้วมณีสีแดงกลมมหึมา แล้วมีรัตนะแก้วไล่โทนสีอย่างวิจิตรซ้อนๆกัน เกร็ดมณีรัตนะนั้นเป็นรูปหยดน้ำหรือกลีบบัวซ้อนๆ แยกออกเป็นรัศมี เป็นการไล่สีที่ยากจะทำได้ในความเป็นมนุษย์ โทนเขียวปีกแลงทับประมาณนั้นล่ะมัง แล้วท่านนาคราชค่อยๆ ถอยออกไป ให้มองเห็นที่ยอดหงอนแต่ละหงอน เป็นเพชรรัตนมณีเฉกเช่นตรงเบี้ย แต่ใสสว่างจ้ากว่าโดยเฉพาะตรงปลายหงอน ท่านจงใจล่ะมังที่อยากให้ยายผีป่าได้เห็นอีกคราว่า เพชรพญานาคราชที่แท้จริงเป็นอย่างไร เพราะเห็นถกกันเสียเหลือเกินกับเพื่อนๆ ในบอร์ด และก่อนขึ้นถ้ำยายผีป่ากับคุณตั้มศักดิ์ก็ได้คุยสายทำนองว่าอยากเห็นเพชรพญานาคที่จริงว่าจะสวยเช่นไร (ยายบอกคุณตั้มว่ายายทราบแต่เพื่อต้องการคำตอบและภาพยืนยัน) ต่อมาท่านพาไปเพียงไม่ถึงอึดใจ (แทบไม่ต้องหายใจ) พาไปชมปราสาทพลับพลาหลังหนึ่ง คือเป็นพลับพลาที่โล่ง มีหลังคาจั่วโค้งแหลมสามจั่วติดกัน(เรียกปั้นหยาได้ไหม) เรือนจั่วกลางสูงกว่าเล็กน้อย ทั้งเสา และองค์หลังคาประดับด้วยเพชรพลอยที่ไม่ต่างจากยอดเสียรและหงอนพญานาคฯ ค่ะ แล้วใจจิตยายผีป่าบอก นี่วิมานพ่อเจ้าฯรือ ท่านตอบทางพลังจิตว่า เจ้าอยากมา อยากรู้ มิใช่ฤๅ ในจิตยายผีป่าไม่คิดอยากได้ มองแค่ว่า นี่หรือที่เขาเรียกวิมาน นี่หรือที่เขาเรียกสวรรค์ ใช่นิพพานไหมพ่อเจ้าฯ ท่านตอบว่า แล้วเจ้าจะไปไหน ยายผีป่าบอกท่านพญานาคราชองค์ที่พาไปว่า เออ...ลูกจะกลับ ที่นี่สวย แต่ลูกจะกลับไปก่อน คราหน้าจะมาใหม่ถ้ามีวาสนา<O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    แล้วมาขยับตัวนิดๆ ดึง เอาผ้าขนหนูผืนใหญ่พอที่จะคลุมทั้งตัวได้มาคลี่แล้วห่มทับเสื้อตัวยาวอีกชั้น และคลุมโปงเปิดช่องพอหายใจ หรี่ตามองแสงเทียนใกล้ดับหรือยัง ได้ยินเสียงกรนไม่ดังนักของคุณ บ.ใบไม้ นึกคิดในใจว่า มีเราคนเดียวเองหรืองัยที่เอาแต่ขยับตัว สักพักได้ยินเสียงนกบินพรึบพรับออกทางปากถ้ำชั้นแรก และมีเสียงร้องของหนูถ้ำถ้าแยกแยะไม่ผิด เพราะเคยได้ยิน สงสัยมันเจองูตัวใหญ่เป็นแน่ ในใจนึกงูไม่เลื้อยขึ้นมาหรอก มันไม่ชอบพื้นปูน ยกเว้นเลื้อยตามซอกหินมาเลื้อยๆ แล้วห้อยมาจากผนังถ้ำ น้าน...นึกไม่ทันไร ได้ยินเสียงโอ่งสั่นตึงๆ หรี่ตามองผู้ชายคนเดียวในกลุ่ม เขายังนอนหลับสบาย ใครล่ะที่ไปชนโอ่งให้ดังง่ะ พอโอ่งสั่น ถ้ำก้อสนั่นพอประมาณ คงไม่ใช่แผ่นดินไหวล่ะมัง นึกในใจ แล้วบันไดที่ปลายเท้ายังมีแสงเทียนพอมองออกไปได้ ยายหรี่ตามองสักพักว่าจะมีงูหรือคนขึ้นมาไหม เพราะได้ยินเสียงหลังเสียงโอ่งเงียบแล้วสักพักเหมือนมีคนเดินขึ้นมา แต่ไม่มีแสงไฟฉาย แสดงว่าไม่ใช่คณะน้องเฟริสกับคุณตั้มศักดิ์ แล้วสัมผัสว่าเหมือนเสียงเท้านั้นเดินไปหยุดที่หน้าองค์ปฐม ยายเลยภาวนาว่า หากท่านมาดี โปรดอย่ามาแบบที่คนอย่างพวกเราขวัญหนีนะคะ คือยายผีป่ากลัวงูตัวใหญ่ๆเป็นที่สุดถ้ามาแผ่แม่เบี้ยต่อหน้าน่ะ อิอิ...<O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    ฟ่อๆๆๆๆๆๆฟิ๊ดสสสสสสสสสสสสสสสสส...ช่วงล่ะสองสามนาที ยายได้ยินไม่ไกลจากตัวนัก คือตอนนอนหันหลังนี่เหมือนต้นเสียงมาจากสองสาวนั่นล่ะ ครั้งแรกก็ไม่คิดอะไร แต่ดังครั้งหกครั้งเจ็ดนี่สิ ชักสงสัยว่า เฮ้ย!...ผู้หญิงอะไรว่ะนอนหายใจดังประหลาด เลยพลิกตัวมาทางสองสาว ชะเง้อคอนิดๆ จับอาการว่ากรนยังงัยของเขาเนี่ย แต่ไม่มีอาการอะไร ปากก็ปิดสนิด ย้ำลายก็ไม่ยืด นอนเรียบร้อยมากจ้าขอยืนยัน เอ...แล้วเสียงมันมาจากไหนเพราะตอนจะล้มหัวนอนอีกก็ได้ยินอีก ทีนี้นอนไปคอยมองการหายใจของสองสาวด้วยตาที่หรี่มองนะคะ ผ้ายังคลุมหัวโผล่นิดๆเพราะ แหะๆๆๆๆ...แล้วเสียงเริ่มดังยิ่งขึ้น เอาล่ะทีนี้ ปิดตาดีกว่า เพราะเสียงมันอยู่เหนือตัวพวกเรา แบบถ้าเห็นจะจะก็คงปลายจมูกรดกันล่ะว่าได้ พ่อเจ้าฯ อย่าแกล้งกันสิเจ้าข้า ลูกผิดอะไรฤๅ แล้วทีนี้ได้ยินเสียงคุณผู้ชายของทีม ขยับตัว ลุกขึ้น<O:p></O:p>
    เทียนดับยังคะ ยายผีป่าส่งเสียงถาม สักพักคุณ บ.ใบไม้ได้เดินออกไปเพื่อดูเทียนหน้าองค์พระ และคงหาคลื่นโทรศัพท์ตามตัวเพื่อนผู้กล้าอีกสองหนุ่ม ในใจยายคิดว่าถ้าสองคนนั้นมาคงไม่อยากขึ้นมาข้างบนแล้วเพราะนี่ก็ประมาณตีสามเห็นจะได้ แล้วคุณ บ.ใบไม้ก็รายงานมาว่าพวกเขามาถึงแล้วแต่ไม่ขึ้นมา ยายผีป่าเริ่มกระวนกระวายเนื่องด้วยได้เวลาฉิ่งฉ่องตอนใกล้สาง ยิ่งหนาวยิ่งฉี่บ่อย งานนี้อุตส่าห์บังคับฉี่ให้หมดเขื่อนก่อนขึ้นถ้ำ ก็เป็นอาการที่ไม่สบายเลยต้องอั้นฉี่ ไม่กล้าปล่อยเรี่ยราดเขตศักดิ์สิทธิ์ และมืดตึ๊ดตื๋อ <O:p></O:p>
    คุณ บ.ใบไม้ มานั่งระหว่างเสื่อของเขาและเรา แล้วทำสมาธิ หลังจุดเทียนเล่มเล็กที่ทางบันไดปลายเท้า ไม่อยากถามว่าทำไมถึงตื่นขึ้นมา รอเขาเอ๋ยขึ้นมาดีกว่า <O:p></O:p>
    เขามาใช่ไหมยาย <O:p></O:p>
    ยายผีป่าทราบดีว่าเขา ณ ที่นี้หมายถึงอะไร แต่ตอบไปเบาๆว่า มองเฉยๆนะ อย่าถาม แต่ดูเหมือนคนถามจะไม่ได้ยินคำตอบ เลยถามซ้ำ ยายผีป่าเลยพยักหน้าแล้วเอาผ้าคลุมโปงพยายามไม่นึกว่าปวดฉี่ ชายหนุ่มผู้มิกล้านอนยังคงนั่งสมาธิต่อ ยายผีป่าเผยอผ้าหรี่ตามอง เห็นเหมือนจะเอนไปข้างหลัง เอ้า...หลับในสมาธิหรือเนี่ยพ่อคุ๊ณ สักพักเขาจึงตัดสินใจไปนอนหงายบนเสื่อผืนเดิม คร๊อกๆๆๆๆๆ ครานี้คงหลับสนิท แหม...ดีจังเลยที่กรนดังกลบเสียงอันวิเวกวังเวงที่เราไม่อยากได้ยิน แต่ที่ไหนได้ได้ยินทั้งเสียงคนกรนดังกะหวูดรถไฟสายอิสาณ ตอนยกแรกทำไมไม่กรนดังปานนี้หนอ หรือว่าแกล้งกรนกลบความกลัวหว๋า แล้วด้วยความพยายามลืมความปวดฉี่และไม่อยากได้ยินเสียงฟ่อๆๆๆๆฟิ๊สสสสส์ ทุกๆ สามนาที ทำอย่างไรไม่ได้ใส่ใจ นิมิตไปว่า ได้ลงเดินไปตามทางบันไดที่ปลายเท้าแล้ววนออกนอกถ้ำก่อนจะเดินวนมาปากถ้ำที่อยู่ใต้ที่เรานอนอยู่ มันไม่มีหินปิดหรือตันอย่างที่เห็นในยามกลางวัน ภายในถ้ำโล่ง มีเสษใบไม้เกลื่อน แล้วยายผีป่ามองไปพบชายหนุ่มหุ่นสันทัด สวมเสื้อลายดอก กางเกงผ้าดิบสีดำทรงตรงยาวเลยหัวเข่าเล็กน้อย มีผ้าคล้ายๆ ขะม้าลายแปลกตาพันเตี๋ยว ไม่ได้สังเกตว่าสวมรองเท้าหรือไม่ ผมหยกศก ตาคม ผิวคล้ำ ว้าว! ซาเป็คยายผีป่าเร้ย ฮ่าๆๆๆ... นายจะกวาดทำไม พวกเรามากวาดยังไม่สะอาดพอหรือเจ้าคะ เขามองหน้าแล้วก้มหน้าก้มตากวาดต่อไป แต่ได้ยินเสียงแว่วมาว่า เดี๋ยวพ่อปู่จะมา ไม่ทันขาดคำ แสงสว่างจ้ากระทบที่โขดหินกลางถ้ำ หินก้อนนี้ขนาดใหญ่พอประมาณเป็นดั่งตั่งนั่งธรรมชาติ ณ ตรงนั้นที่แสงกระทบ ทำให้มองเห็นพระภิกษุชราร่างสูงหน้ายาวตาคมมีพลัง แก้มตอบนิดๆ พำนักบนตั่งหินนั้น <O:p></O:p>

    ยายผีป่าเดินเข้าไปใกล้ๆ แล้วชายหนุ่มคนนั้นบอกว่า นี่พ่อปู่ แล้วเขาก็หายไปทางด้านข้าง ยายผีป่าเลยกราบนมัสการพระชรารูปนั้น ท่านห่มจีวรสีกลัก

    พ่อมาที่นี่เสมอ อยู่ที่นี่มานาน เจ้าหวังอันใดบอกพ่อมาสิ ในจิตยายผีป่าคิดว่าท่านไม่ใช่พระธรรมดาแน่ๆ เลยถามท่านว่า

    หลวงปู่มรณภาพที่นี่หรือ หน้าตาท่านเหมือนไม่สบาย ท่านตอบว่า

    เราเป็นเราเช่นนี้ แล้วท่านลุกขึ้น บอกตามมา แต่ยายผีป่าลังเลที่จะตามไป เอี้ยวตัวจะออกจากถ้ำ มองเห็นแม่ของยายผีป่าเดินมาพร้อมน้องชมพู น้องฟ้า น้องเอิรท ทุกคนหน้าขาวเหมือนทาแป้งแต่งหน้าของงิ้ว ยายผีป่าเลยรี่ไปถามว่า แม่มาทำไม แล้วนี่พากันทาหน้าอย่านี้ทำไม เอามือช่วยลูบแป้งออก แล้วบอกทุกคนว่า กลับเถอะ ไปกราบพระรูปนั้นก่อนแล้วค่อยกลับ เหมือนท่านจะไม่อยากรั้งเราไว้ พอจะหันมาลา พระชรากลับหายไปเสียแล้ว <O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    ตื่นเถอะค่ะ ตีห้าแล้ว ยายผีป่าเรียกทุกคนตื่น หลังจากการฝันประหลาดนั้น ก็เก็บข้าวของและคุยกันนิดหน่อย <O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    อ้าว! นี่ผ้าห่มที่ใส่ถุงขึ้นมาให้น้องๆ ห่มกัน ลืมไปเลยว่าเอามาด้วย ยายผีป่านึกขำที่น้องชมพูกับน้องฟ้าทนนอนหนาวไม่กระดุกกระดิกด้วยผ้าห่มผืนบางที่มีบนถ้ำ <O:p></O:p>

    แล้วเราสี่คนไปกราบนมัสการสมเด็จองค์ปฐม และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่สถิต ณ ที่นี้ทุกภพทุกภูมิ เอาน้ำที่เตรียมไปให้น้องฟ้ารินใส่แจกันดอกไม้ แล้วลงมากราบพระองค์ที่ 10 (สมเด็จองค์ปัจจุบัน) และพระแม่ธรณี <O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    อากาศเย็นจัดกว่าคูหาที่เรานอนเพราะช่วงนี้จะโล่งทะลุหน้าหลัง และบนยอด นี่กระมังคือที่มาของชื่อถ้ำ <O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    ท่านเจ้าขาช่วยไปส่งด้วยนะคะ ไปเคลียร์ทางลงให้หน่อยนะคะ ยายผีป่าพูดออกมาลอยๆ แต่ขอให้ท่านใดท่านหนึ่งไปส่งจริงๆ ก่อนจะก้าวลงตามช่องทางลงถ้ำ เราลงตามลำดับเหมือนตอนขาขึ้น เทียนมีเหลือเล่มเดียว ไฟฉายดวงใหญ่เริ่มอ่อนกำลัง อาศัยแสงจากดวงดาวคงช่วยไม่ได้ สักพักดูเหมือนจะเดินได้ง่ายขึ้นเมื่อเดินตามสีของใบไผ่ที่แห้งเหลืองร่วงหล่นลงมาเกลื่อนพื้น<O:p></O:p>
    พยายามเหยียบขอบหินนะคะน้องฟ้า ยายผีป่าร้องเตือน น้องๆ น่ารักมาก ไม่มีปริปากบ่นเลยสักนิด นี่ถ้าไม่ทราบว่าเป็นนักเรียนนอก ลูกหลานผู้ดีมีสกุล เราคงไม่ห่วงมาก เพราะคงชินกับการลุย แต่น้องๆ กลับไม่มีอาการเกลียดความลำบากเลย ถ้าลูกๆ เขาเป็นอะไรขึ้นมา ยายผีป่าตายแน่ๆเร้ย<O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    กว่าจะลงมาได้ทุลักทุเลพอสมควร น้องฟ้าลื่นล้ม แต่ไม่ปริปากย่อท้อ ไม่ทำให้ใครๆ ลำบากใจด้วยเลยสักนิด <O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    เอ้า...มีแสงไฟข้างล่าง หนึ่งหนุ่มของคณะร้องบอก พวกเรามองตาม <O:p></O:p>
    หลวงพี่คงเปิดไฟศาลาไว้ค่ะ ยายผีป่าบอก<O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    เย้...ถึงแล้ว เสียงน้องชมพูร้องออกมาด้วยความดีใจที่เราลงมาข้างล่างอย่างปลอดภัย <O:p></O:p>
    มีเสียงกวาดลานวัดแกร๊กๆ...

    ใครจ๊ะ เฟิรสใช่มั้ย ตื่นมาเดินจงกลมสิท่า ยายร้องทักท่ามกลางความสลัวๆ แล้วเจ้าของที่มาของเสียงค่อยๆ ปรากฏตัวออกมาจากซอยมืด <O:p></O:p>

    สวัสดีครับ หนุ่มน้อยนักบุญเอ๋ยทัก เราทุกคนต่างตื่นเต้นที่ได้พบกันอย่างปลอดภัย อ่าๆๆๆ...แล้วมีการแนะนำตัวสองสาวให้รู้จักกันอย่างไม่ถือตัว <O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    เมื่อกี้ก่อนหน้าที่พวกยายจะลงมา เฟิรสเห็นมีคนเดินลงมาก่อน ไม่พูดอะไร ยายมากันกี่คนครับ <O:p></O:p>

    เฮ้ย!...มีแค่นี้ล่ะ พวกชาวบ้านคงไม่ขึ้นเขาตอนฤดูนี้หรอกเพราะมันไม่มีหน่อไม้หรือสัตว์ให้ล่า ยายผีป่าตอบไปแต่ในใจกลับนึกถึงคำพูดลอยๆ ก่อนจะลงมา<O:p></O:p>

    เอาแล้วไหมล่ะคุณยาย มีคนลงมาเคลียร์เส้นทางให้พวกเรา คุณ บ.ใบไม้เอ๋ย<O:p></O:p>

    สวัสดีจ้า...ฮิฮิ...ขี้โกง พากันนอนหลับสบายข้างล่าง ไม่แน่จริงนี่คะ ยายทักทายคุณตั้มศักดิ์ที่เดินหล่อเนี๊ยบออกมาจากทางจงกลม ยายแนะนำสองสาวให้รู้จักคุณตั้มศักดิ์ งานนี้ดูเหมือนว่าเราจะเห็นอะไรเริ่มเลื้อยยั้วเยี้ยบนหัวของสองหนุ่มที่ไม่ยอมขึ้นนอนบนถ้ำแล้วล่ะสิถ้าตายายผีป่าไม่ฝาด อิอิ...<O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    เอ้า...ตกลงจะไปบ้านยายก่อนไหมคะคุณตั้ม เราจะรีบไปจัดพระเข้าพิธี กว่าจะเตรียมตัวอาบน้ำอาบท่า คงนาน คุณฝุ่นรอที่บ้านยายค่ะ ต้องไปรับ <O:p></O:p>

    ยายไปก่อนเลย เดี๋ยวเจอกันที่วัด คุณตั้มศักดิ์ตอบ<O:p></O:p>
    หลวงพี่แสงยังไม่ออกมาจากกุฏิ เราเลยออกมาก่อน <O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    สองสาวช่วยกันย้ายพระสมเด็จสัมพุทเธมาเรียงในกล่องแล้วยกลงลังไม้ขาดใหญ่ ยายผีป่าจัดมงคลอื่นๆที่มีในห้องพระเอาเท่าที่นำไปได้ด้วย <O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    คุณฝุ่นคะ ช่วยคุณณุยกลังไม้บนห้องพระใส่ท้ายรถหน่อยค่ะ ยายร้องขอแรงจากสองหนุ่มพลังจิต.คอม <O:p></O:p>

    คุณยาย ในลังมีอะไร คุณฝุ่นหนุ่มร่างใหญ่บึกบึนหน้าตื่นลงมาถามยายผีป่า<O:p></O:p>
    หึๆ...ทำไมหรือคะ <O:p></O:p>
    ผมได้ยินเสียงกึกกักแล้วลังมันสั่นครับ<O:p></O:p>
    มีพระค่ะพี่ฝุ่น นั่นล่ะที่พี่นางจะเอาไปเข้าพิธี น้องชมพูตอบแทนยายผีป่า<O:p></O:p>
    เอ้า...รีบไปยกลงมาสิคะ คุณณุช่วยอีกแรง ไม่ต้องกลัวค่ะ ที่นี่ไม่มีผี ยายนึกขำในอาการของสองหนุ่ม คนหนึ่งกลัว คนหนึ่งงง <O:p></O:p>
    ตายแล้ว หนึ่งโมงแล้ว จะทันไหมคะนี่ เอ้า ไม่ต้องเอาเด็กไปด้วยหรอก เดี๋ยวไม่ทันพิธี ยายผีป่าเร่งพร้อมออกไปสตาร์ทรถปิ๊คอัพคู่บารมี ลูกเอิร์ทรีบบอกแม่เอิร์ทไปด้วย อาบน้ำแล้ว <O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    คุณณุหรือน้องชมพูจำไม่ได้ที่เป็นคนโทรศัพท์ไปถามอีกคณะว่าถึงไหนแล้ว <O:p></O:p>
    เอ้าถึงกันแล้วเหรอ ถามด้วยว่าจะเริ่มพิธียังล่ะ<O:p></O:p>
    แล้วมีเสียงตอบแล้วบอกต่อยายผีป่าว่า กำลังจะเริ่ม <O:p></O:p>
    เออ...บอกพระเจ้าว่าอย่าเพิ่งเริ่ม เทวดาเจ้าขารอสักสิบ ยี่สิบนาทีนะได้ไหม ยายนผีป่าบอกคนถือสายให้บอกปลายสาย <O:p></O:p>
    ทุกคนในรถคงขำที่ยายผีป่ากล้าต่อรองแม้กระทั่งฤกษ์งามยามมงคล<O:p></O:p>
    เร่งเต็มฝีเท้า 130 -140 ชั่วโมงต่อกิโลเมตร ถึงหน้าอุโบสถ มองนาฬิกาในรถ 07.36 น. (โดยประมาณ) แล้วยายผีป่ารีบช่วยกันยกวัตถุมงคลที่จะเอาเข้าพิธีพุทธาภิเสกไปเรียงกันไว้ ในเพลานั้นมีผู้คนมาร่วมงานประมาณ 35-50 ชีวิต รวมพระและชี <O:p></O:p>
    ด้วยความรีบเร่งยายผีป่าหาเสื้อแจ็คเก๊ตลูกฟูกไม่เจอ เลยหยิบตัวที่น้องชมพูสวมตอนดึก มันหนาเหมาะกับสวมบนภูสูง ตอนลงรถรีบถอดออกทำให้เหลือเพียงเสื้อแขนกุดผ้ายืดมันสีน้ำตาลคอย้วย พูดลอยๆ โดนหลวงพี่เล็กว่าเอาแน่ๆเลยใส่แขนกุด ช่างเหอะขืนใส่เสื้อตัวหนาโดนขำกลิ้งว่าบ้าอ๊ะป่าวว่ะ...<O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    ยายก้มลงกราบพระพุทธรูปสามจบ แล้วกราบหลวงพี่เล็ก รีบหาเรื่องพูดว่า มาช้าเพราะเกือบโดนบริวารพญานาคกินค่ะ <O:p></O:p>
    ไม่มีเสื้อคลุมหรือ ไปหาใส่ไป หลวงพี่เล็กพูดเหน็บมา ยายบอกท่านว่า ลืม แล้วออกมาเอาเสื้อตัวหนาที่รถ ท่านเทศน์บอกว่า ผู้หญิงสมัยนี้ทำบุญไม่เต็มเสียที เหมือนถวายผ้าก็ไม่เต็มผืน เลยต้องใส่เสื้อกันน้อยชิ้นลง ยายผีป่าไม่อายหรอก เพราะใจเราไม่มีความยั่วยวนแอบแฝง แต่ท่านไม่ต้องการให้คนอื่นๆที่คิดมาก เอาเราไปนินทาว่า นี่หรือยายผีป่า มาวัดมาว่า ยังแต่งตัวด้วยเสื้อแขนกุด เออ...ตอนใส่กระโปรงยาวคลุมมิดชิด ท่านเล็กก็ไล่ไปเปลี่ยนกางเกง เกรงว่าจะรุ่มร่าม พอใส่กางเกง พระบางองค์ก็ตำหนิว่า ดูสิแต่งตัวรัดรูปน่าเกลียด ไม่เป็นผู้หญิง<O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    วันนั้นมีคุณแซมและคุณหนูดีสมาชิกเวปพลังจิตที่พอทราบข่าวพิธีบวงสรวงขณะที่กำลังเดินทางไปปราจีนบุรี รีบบึ่งรถมาค้างคืนที่เมืองกาญจน์ก่อนที่จะมารอร่วมพิธีแต่เช้าตรู่ มาก่อนคณะยายผีป่าเสียอีก เรื่องช้าล่าสุดนี่ไม่ต้องพูดกันเลย ยายผีป่าสายเสมอจ้า เสียงคุณพี่มุกดา หรือใครสักคนไม่ททราบไม่ได้มองไปที่ต้นเสียง พูดว่า นี่ทางใต้ยายผีป่าดังมาก มีแต่คนถามถึง อ้าว...ขอเชียงชาวภาคใต้หน่อย เข้ามาอ่านห้องนี้แล้วกรุณาโพสหน่อยเจ้าค๊า ใครไม่โพสนี่ไม่ถูกหวยนะจ๊ะขอเตือนไว้ก่อน คุณซันนี่มาพร้อมลูกสาวแก้มยุ้ยคนเก่งเหมือนพ่อเลย ยายผีป่าเอากล้องอันเก่าของหลวงพี่เล็กตกทอดมาถึงหลวงพี่แสง แล้วให้ยายผีป่าใช้จนคล้ายจะเป็นของส่วนตัวเสียแระใช้เก็บภาพในงานต่างๆ พอจะถ่ายภาพหลวงพี่เล็ก ท่านบอกขำๆว่าเอ้าจะให้มาถ่ายฝ่ายเดียวได้งัย ถ่ายกลับบ้างว่ะ แล้วท่านก็หยิบกล้องขึ้นมาจะถ่ายโยมที่นั่งข้างหน้าท่านในอุโบสถช่วงรอฤกษ์งามยามมงคล <O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    เมื่อได้ดิถีฤกษ์บวงสรวง หลวงพี่เล็กนำกราบพระ และสวดนำ และทั้งพระ ชี โยม ต่างสวดมนต์พร้อมๆกัน ยายผีป่านั่งสวดไม่ออกเสียง เพราะเสียงไม่เพราะ อิอิ...เอาเป็นว่าทุกคนสวดได้เจริญนักเจ้าค่ะ ยายผีป่าสวดในจิตและชอบลักไก่อาศัยบารมีครูบาร์อาจารย์นำร่องไปข้างบน ตอนแรกก็ดอดไปเห็นพระค่ะ ท่านทรงเสด็จมาปางประทานพรด้วยพระหัตถ์ขวา สว่างจ้าดั่งทองทั้งองค์ รายล้อมด้วยพลังบารมีเรืองรองของเหล่าทวยเทพ เทวดาที่มาร่วมพิธีมงคลนี้ แล้วด้วยความที่สงสัยว่าเราสร้างภาพเองขึ้นมาหรือไม่จึงขอบารมีพระและขอขมาเพื่อที่จะนำกล้องดิจิตอลของน้องชมพูมาถ่ายพุทธพลังไว้เป็นพุทธานุสสติ แต่พอเปิดตามาทุกคนยังคงสวดอย่างพร้อมเพรียงไม่วอกแว่กเหมือนยายผีป่า เอางัยดีล่ะทีนี้ ไม่มีกล้องเลย กล้องเราไม่ค่อยเวิร์ค เลยกลับมาสวดในใจต่อ หลบไปอีกตามสันดานที่ไม่ชอบทำเหมือนชาวบ้านชาวช่องเขา ไปร่วมสวดกับชาวสวรรค์มองตัวเองเหมือนกาดำในฝูงหงส์จริงๆ (ที่จริงก็บารมีพวกที่นั่งในพิธีนั่นล่ะ ไปสวดที่ชั้นบนเช่นกันรวมกับเหล่าเทวดา นางฟ้า พรหม)

    ปล. อาจตัวเล็กไป ก๊อบไปขยายอ่านเอาเองนะจ๊ะ สนใจกรุณาขอเสียงกรี๊ดดังๆจ้า แล้วจะมาเล่าต่อถ้าติดตั้งเน็ตไร้สายได้ ไปซื้อมาเมื่อวาน เหมือนโยนเงินหมื่นทิ้ง 555 <O:p></O:p>

    <!-- / message --><!-- sig -->
     
  10. first เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2005
    โพสต์:
    181
    ค่าพลัง:
    +4,990
    ยายทักทายคุณตั้มศักดิ์ที่เดินหล่อเนี๊ยบออกมาจากทางจงกลม ยายแนะนำสองสาวให้รู้จักคุณตั้มศักดิ์ งานนี้ดูเหมือนว่าเราจะเห็นอะไรเริ่มเลื้อยยั้วเยี้ยบนหัวของสองหนุ่มที่ไม่ยอมขึ้นนอนบนถ้ำแล้วล่ะสิถ้าตายายผีป่าไม่ฝาด อิอิ...<O:p></O:p>

    คุณพี่ตั้มศักดิ์เจ้าขา งานนี้น้องเฟริสท์ไม่เกี่ยวนะเจ้าค่ะ...สงสัยยายจะเห็นพลาดไปเพราะเพิ่งตื่นนอน..5555

    <O:p></O:p>


     
  11. tamsak ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2004
    โพสต์:
    7,857
    กระทู้เรื่องเด่น:
    22
    ค่าพลัง:
    +161,171
    อ้าว....เจ้าเฟริสท์...ไหงเอาตัวรอดคนเดียวละนั่น...เฮ่อ..เฮ่อ..เฮ่อ...พี่มีพยานบุคคลที่จะพิสูจน์ความบริสุทธิ์จายยยย..ของตัวเองนะ..... ไม่เชื่อก็ไปถามหลวงพี่แสงชัยดูสิ... ใครก็ไม่รู้ยืนถ่ายรูปอยู่ที่ทองผาภูมิแท้ๆ.. แต่ใจดันลอยไปอยู่ที่อเมริกาซะแล้ววววว..... หุ..หุ..หุ....
     
  12. บ.ใบไม้ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    65
    ค่าพลัง:
    +325
  13. DevilBitch เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มกราคม 2005
    โพสต์:
    9,776
    ค่าพลัง:
    +36,838
    มาใช้คอมที่ออฟฟิสสุดหรูของน้องสาวที่พัทยา โห...คอมไวมากส์ มาถึงตะกี้ ไม่ต้องหลับต้องนอนเลย ออกจากบ้านป่า สี่ทุ่ม หลงทางอีกเช่นเคย มาถึงก้อไม่เข้าบ้าน เพราะต้องเตี๊ยมว่าจะต้องถามตอบเป็นไทยสลับอังกฤษอย่างไร ตายห่าเลยถ้าเผลอหลุดภาษาลาวแบบหน่อๆ 555...3 5 8 1 0 7
     
  14. DevilBitch เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มกราคม 2005
    โพสต์:
    9,776
    ค่าพลัง:
    +36,838
    สาวๆ ชาวพลังจิตดอทคอม เข้ามาห้องนี้ กรุณาถือไม่มาด้วยนะคะ
     
  15. tamsak ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2004
    โพสต์:
    7,857
    กระทู้เรื่องเด่น:
    22
    ค่าพลัง:
    +161,171
    วันนี้ (1 ก.พ.2549) ตั้งแต่เวลา 9.00 - 12.00 น. โดยประมาณ ยายผีป่าจะต้องถูกล่าม เอ๊ย..ทำหน้าที่เป็นล่ามในศาล เพราะฉะนั้น จึงไม่อาจรับโทรศัพท์ได้ หากใครประสงค์จะเม้าท์กะยาย ขอให้ติดต่อไปหลังเที่ยงนะครับ
     
  16. DevilBitch เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มกราคม 2005
    โพสต์:
    9,776
    ค่าพลัง:
    +36,838
    อิอิ...เพลียจังเรย จะเล่าต่อม่ายไหวแระ ขอตัวกลับไปบ้านก๋องนา พรุ่งนี้ค่อยเดินทางกลับ เอาผัวชาวบ้านเขามาขับรถช่วย เกรงเมียกะลูกๆเขาบ่นเอา เดี๋ยวเค้าเลิกให้ผัวเขาเข้าใกล้ครอบครัวผีป่า

    งัยล่ะ เจ้านางมาบอกเลขเด่น จับผสมกันเองเน้อ ท่านเพิ่งมาบอกตอนตีสี่ เจ้านางเนี่ยให้หวยแบบลอยมาทีล่ะตัว ไม่จับเรียงให้เร้ย บางตัวสีเข้ม บางตัวลางๆ

    อดอีกแระ มีใครถูกหวยบ้าง ส่งตังส์ให้ใช้บ้างดี๊
    ขอตัวก่อนนะจ๊ะ หิวและเพลียมาก
     
  17. first เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2005
    โพสต์:
    181
    ค่าพลัง:
    +4,990
    โห-...ยายไม่อยู่นี่เงียบเชียว...อ่านแล้วก็ไป เศร้าจัง
    วันนี้ยายก็ยังอยู่ที่ศาลเหมือนเดิม ไม่รู้เมื่อไรจะกลับคิดถึงจังเว้ยยยยยยยยยยย....
     
  18. KomAon11 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    4,803
    ค่าพลัง:
    +18,984
    เน็ตเร็ว

    ก็สวรรค์ของยายหล่ะสิ

    คิคิ
     
  19. มหาหินทร์ ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2005
    โพสต์:
    21,454
    ค่าพลัง:
    +181,786
    กราบเรียน ท่านผีป่า....

    หัวใจของพระพุทธศาสนา.... คือ
     
  20. น้องไข่แมงสาบ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    421
    ค่าพลัง:
    +501
    ไมได้เข้ามานานแสนนาน สวัสดีค่ะทุกคน หวาดดีค่ะยายผีป่า
     

แชร์หน้านี้