โอวาทธรรมหลวงปู่แบน ธนากโร
วัดดอยธรรมเจดีย์ จ.สกลนคร
"..เราจะอยู่ในฐานะอย่างไรก็ปฏิบัติให้สมฐานะ ให้มีสติระมัดระวัง ขนาดไหนจึงพอดี ให้ปรับเอา มันเป็นอย่างนี้ ผลของความมีสติ
ระมัดระวังเรา ให้อยู่ในหน้าที่ที่ชอบธรรม ที่ถูกต้องที่ดีงามอย่างสม่ำเสมอ เรียกว่าเสมอต้นเสมอปลาย อันนี้เป็นไปเพื่อความร่มเย็นเป็นสุข.."
หลวงปู่แบน ธนากโร
แนวทางปฏิบัติธรรมของ หลวงปู่ต่างๆ
ในห้อง 'หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต' ตั้งกระทู้โดย aprin, 20 เมษายน 2008.
หน้า 25 ของ 94
-
ไฟล์ที่แนบมา:
-
-
โอวาทธรรมหลวงปู่มั่น ภูริทัตตเถระ
วัดป่าสุทธาวาส อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร
"ให้ท่องอยู่ในใจเสมอว่า เรามีความแก่เจ็บตายอยู่ประจำตัวทั่วหน้ากัน ป่าช้าอันเป็นที่เผาศพภายนอก และป่าช้าที่เผาศพภายในคือตัวเราเอง เป็นป่าช้าร้อยแปดพันเก้าแห่งศพที่นำมาฝังหรือบรรจุอยู่ในตัวเราตลอดเวลา ทั้งศพเก่าศพใหม่ทุกวัน"
หลวงปู่มั่น ภูริทตฺตเถระไฟล์ที่แนบมา:
-
-
โอวาทธรรมคุณแม่ชีแก้ว เสียงล้ำ
สำนักแม่ชีบ้านห้วย อำเภอคำชะอี จังหวัดมุกดาหาร
"รักษากายให้บริสุทธิ์ รักษาวาจาให้บริสุทธิ์ รักษาใจให้บริสุทธิ์ เด้อ หมู่เจ้าทั้งหลายทุกคน ให้ภาวนา “พุทโธ” - “พุทโธ” ให้พากให้เพียรกับเจ้าของ ตั้งใจให้ดี ตั้งสติให้ดี เกิดกับตายเป็นของคู่กัน อย่าลืมตาย อันใด๋ที่เฮาเฮ็ด มันมีน้ำหนักกว่าคำเว้า ขนฺติ อด ขนฺติ ทน เป็นไฟเผาบาป"
คุณแม่ชีแก้ว เสียงล้ำไฟล์ที่แนบมา:
-
-
โอวาทธรรมหลวงปู่สิม พุทธาจาโร
สำนักสงฆ์ถ้ำผาปล่อง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่
"การภาวนา" เป็นเรื่องของการบำเพ็ญเพื่อความสุข
ไม่ใช่เพื่อความทุกข์ แม้ว่าจะมีความยากลำบากบ้างก็อย่าท้อถอย
ให้เห็นเป็นธรรมดาของการจะทำสิ่งมีค่าให้เกิดขึ้น
หลวงปู่สิม พุทธาจาโรไฟล์ที่แนบมา:
-
-
โอวาทธรรมหลวงปู่ชา สุภัทโท
วัดหนองป่าพง จ.อุบลราชธานี
อย่าเป็นคนดี อย่าไปถึงระดับนั้น
เป็นคน อย่าเป็นคนดี
ถ้าเป็นคนดีแล้วต้องรำคาญคนไม่ดี
ทุกวันนี้คนที่ไม่ดีมากกว่าคนดีเยอะ
...ไปที่ไหนก็กลุ้มใจ มีแต่ความไม่พอใจ
เหมือนกับคนที่สูบบุหรี่เลิกแล้วดูคนอื่นสูบ
ก็ไปเทศน์ให้เขาฟัง นี่เรียกว่าติดดี
ท่านไม่ให้ติด แม้จะเป็นความดีท่านก็ไม่ให้เราติด
เพราะว่าความติดเป็นทุกข์ สร้างความทุกข์ใจ
หลวงพ่อชา สุภัทโทไฟล์ที่แนบมา:
-
-
โอวาทธรรมหลวงปู่อุ่นหล้า ฐิตธัมโม
วัดป่าแก้วชุมพล บ.ชุมพล ต.ค้อใต้ อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร
"คนเราจะดีได้ต้องอาศัยการฝึกฝนการอดทนลำบากไปก่อน คนสุขก่อนก็จะไปลำบากทีหลัง คนเรามิใช่จะอยู่เฉยๆแล้วจะดี ต้องฝึกฝน ต้องอดทนศึกษาเล่าเรียน ทนความลำบากไปก่อน มันถึงจะสุขทีหลัง ถ้าสุขก่อนมันก็จะมาทุกข์ทีหลัง"
หลวงปู่อุ่นหล้า ฐิตธมฺโมไฟล์ที่แนบมา:
-
-
โอวาทธรรมปู่เหรียญ วรลาโภ
วัดอรัญญบรรพต ต.บ้านหม้อ อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย
เห็นธรรม คือ เห็นอนิจจัง ทุกขัง อนันตา ทำอย่างไรเราจะพ้นจากกองทุกข์ เห็นว่าของทุกอย่างไม่ใช่เรา เป็นอนัตตา แม้ร่างกายที่อยู่ร่วมกันก็ไม่ใช่เราเลย มันอยากเจ็บ มันก็เจ็บ มันอยากแก่ มันก็แก่ มันอยากตาย มันก็ตาย ห้ามมันไม่ฟัง ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นไม่กลัวตาย ตายเมื่อไรช่างมัน ทำความดี..ดีกว่า
หลวงปู่เหรียญ วรลาโภไฟล์ที่แนบมา:
-
-
โอวาทธรรมหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน
วัดป่าบ้านตาด จ.อุดรธานี
อย่าหลงใหล! ไปตามเรื่อง "โลก สมมุตินิยม"
พระพุทธเจ้าไม่พาหลง ทรงสอนให้รู้ทุกแง่ทุกมุม
บรรดากลมายา ร้อยสันพันคม ของกิเลสตัณหา
ภายในหัวใจของเรา เอาให้รู้กลมายา
ของกิเลสในจิตใจ จึงชื่อว่า "เป็นผู้ฉลาด"
...ฉลาดใดก็ตาม ถ้าไม่ฉลาดในกลมายาของกิเลส
ที่มีอยู่ภายในจิตนี้ ไม่เรียกว่าฉลาด!
ถ้าฉลาดตรงนี้แล้ว อยู่ไหนก็ฉลาด
ไม่มีใครมีอะไรมาเสกสรร ก็พอตัว
ใครชมเชยสรรเสริญนินทา ก็พอตัว
ไม่เอื้อมไม่จับ ไม่ลูบไม่คลำ ไม่คว้าโน้นคว้านี้
เพราะ พอตัวแล้ว ด้วยความฉลาดแหลมคม
พอตัวแล้ว ด้วยความสมบูรณ์พูนผล ในมรรคในผล
มีเต็มอยู่ภายในใจนี้แล้ว ด้วยการประพฤติปฏิบัติ
อย่างเอาจริงเอาจัง! ตามทางศาสดา
หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโนไฟล์ที่แนบมา:
-
-
โอวาทธรรมพระราชวุฒาจารย์ (หลวงปู่ดูลย์ อตุโล)
วัดบูรพาราม จังหวัดสุรินทร์
"ในโลกนี้มีสิ่งที่มีความมี แต่ในทางธรรมนั้นมีสิ่งมีไม่มีความมี"...ความหมายก็คือ คนในโลกนี้ต้องมีสิ่งที่มี เพื่ออาศัยสิ่งนั้นเป็นอยู่ ส่วนผู้ปฏิบัติธรรมต้องปฏิบัติจนถึงสิ่งที่ไม่มี และอยู่กับสิ่งที่ไม่มี
หลวงปู่ดูลย์ อตุโลไฟล์ที่แนบมา:
-
-
โอวาทธรรมหลวงปู่บุญฤทธิ์ ปณฺฑิโต
สำนักสงฆ์สวนทิพย์ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี
“เอาสติอยู่กับตัว รู้ก็สักแต่รู้ เห็นก็สักแต่เห็น ทำเพียงเท่านี้ก็ไปนิพพานได้”
หลวงปู่บุญฤทธิ์ ปณฺฑิโตไฟล์ที่แนบมา:
-
-
โอวาทธรรมหลวงปู่ชา สุภัทโท
วัดหนองป่าพง จ.อุบลราชธานี
".. ผู้ที่เข้าใจธรรมะ ก็เป็นผู้ที่เข้าใจตนเอง
เมื่อใดที่เราเห็นธรรมะ เมื่อใดที่เราเห็นถูก
เมื่อนั้น..เราก็จะมีแต่ความปลอดโปร่ง
จะมีแต่ความเป็นอิสระ ตลอดเวลา ...... "
หลวงปู่ชา สุภัทโทไฟล์ที่แนบมา:
-
-
โอวาทธรรมหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน
วัดป่าบ้านตาด จ.อุดรธานี
"..เวลา 'รบรา' กับกิเลส ตอนต้นต้องแพ้กิเลสไปเรื่อย ๆ การแพ้ไม่เป็นไร เพราะกิเลสมันช่ำชองในวัฏวน หมุนจิตใจของสัตว์โลกให้ลงขั้นต่ำมานานแสนนาน แต่เราจะฟื้นจิตใจของเราให้ขึ้นสู่ความดีงามในเบื้องต้นนี้รู้สึกว่ายากลำบาก ประหนึ่งว่าจะไปไม่ไหว
เพราะอำนาจของกิเลสมันรุนแรงจนจะท้อถอยน้อยใจ ตำหนิก็มาซ้ำให้กิเลสได้กำลังเพิ่มเข้าอีก ว่ามีนิสัยวาสนาน้อย ไม่สมควรแก่การปฏิบัติความดีงามทั้งหลาย ปล่อยไปตามบุญตามกรรมอย่างนี้ดีกว่า นี้เรียกว่ากิเลสได้ชัยชนะแล้ว และนับวันที่จะอ่อนปวกเปียกลงไป หาวันที่จะเจริญก้าวหน้าไม่ได้ ใครถ้าคิดเช่นนั้น.."
หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโนไฟล์ที่แนบมา:
-
-
โอวาทธรรมหลวงพ่อจันทร์เรียน คุณวโร
วัดถ้ำสหาย อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี
"พวกเรามันภาวนาเอาเวลากัน ภาวนาได้เท่านั้นชั่วโมง เท่านี้ชั่วโมง เวลาจะภาวนาก็เอานาฬิกามาตั้ง ภาวนาไปก็หรี่ตาขึ้นดูนาฬิกา ได้กี่นาที เอ้าหลับตาใหม่ภาวนาต่อ หรี่ตาดูนาฬิกาอีก มันไม่ใช่นี่ ภาวนาต้องมีสติ ภาวนาให้ใจสงบ ภาวนาต้องเอาใจ ไม่ใช่ภาวนาเอาเวลา"
หลวงพ่อจันทร์เรียน คุณวโรไฟล์ที่แนบมา:
-
-
โอวาทธรรมหลวงปู่แหวน สุจิณโณ
วัดดอยแม่ปั๋ง จ.เชียงใหม่
ส้วมเคลื่อนที่
"ภายใต้หนังกำพร้าของคนเรามีแต่ความโสโครก น่าเกลียดน่าสะอิดสะเอียน มีอวัยวะภายใน เช่น ตับ ไต ไส้น้อย ไส้ใหญ่ กระเพาะ น้ำเลือด น้ำเหลือง น้ำหนอง น้ำดี อุจจาระ ปัสสาวะ เหงื่อไคล ขังอยู่ภายในร่างกายโดยมีหนังกำพร่าห่อหุ้มอยู่
ถ้าลอกหนังออกจะเห็นร่างมีเลือดไหลโซมกาย เนื้อที่ปราศจากผิวหนังห่อหุ้มจะมองไม่เห็นความสวยสดงดงามเลย มองแล้วอยากจะอาเจียนมากกว่าน่ารัก ที่พอจะมองเห็นว่าสวยงามก็ตรงผิวหนังห่อหุ้มเท่านั้น ผิวหนังนี้ก็ใช่ว่าจะเกลี้ยงเกลาเสมอไปไม่ คนเราต้องคอยอาบน้ำชำระล้างทุกวันเพราะสิ่งโสโครกเหงื่อไคลภายในหลั่งไหลออกมาลบเลือนความผุดผ่องของผิวกายอยู่ตลอดวัน
ถ้าไม่คอยชำระล้างก็จะสกปรกเหม็นสาบน่ารังเกียจ ทางช่องทวารขับถ่ายอุจจาระปัสสาวะ ก็หลั่งไหลออกมาตามกำหนดเวลาของมันทุกวัน น่ารังเกียจ เลอะเทอะโสมม ซึ่งเจ้าของไม่ปรารถนาจะแตะต้องทั้งๆ ที่เป็นของในกายของตัวเอง
ยิ่งพิจารณาไปคนเราก็คือส้วมเคลื่อนที่ หรือป่าช้าที่บรรจุซากศพเคลื่อนที่ และเป็นผีเน่าที่เดินได้ดีๆ นี่เอง"
หลวงปู่แหวน สุจิณโณไฟล์ที่แนบมา:
-
-
โอวาทธรรมหลวงพ่อกัณหา สุขกาโม
วัดป่าทรัพย์ทวี อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา
"จิตใจของคนเรานี้ มันล้วนแต่ตั้งอยู่ในความเห็นที่ไม่ถูกต้อง พระพุทธเจ้าท่านตรัสว่า ยังเป็นมิจฉาทิฐิอยู่มาก
อยากไปพระนิพพานก็อยากไป ก็ว่าพระนิพพานดี แต่ไม่อยากรักษาศีล ไม่อยากปฏิบัติธรรม รักษาศีลห้าก็กลัว รักษาศีลแปดก็ยิ่งกลัว รักษาศีล ๒๒๗ ก...็ยิ่งกลัวไปอีก
กลัวในสิ่งที่มันดี สิ่งไหนที่มันไม่ดีไม่กลัวนะ คนเรานี้ เหตุผลมันมีมากเหลือเกิน มันเถียงพระพุทธเจ้าในใจฉอด ๆ เพราะเหตุนั่นเหตุนี่ สารพัดเหตุที่จะเอามาเถียง มันกลัวความดี กลัวศีลกลัวธรรม มันกลัวที่จะริดรอนสิทธิ กลัวที่จะริดรอนอิสรภาพของกิเลส ราคะ ตัณหา อุปาทาน"
หลวงพ่อกัณหา สุขกาโมไฟล์ที่แนบมา:
-
-
โอวาทธรรมพระสุนทรธรรมากร(หลวงปู่คำพัน โฆษปัญโญ)
วัดธาตุมหาชัย อ.ปลาปาก จ.นครพนม
“...ราคะความกำหนัดถ้าไม่คิดถี่ถ้วนแล้ว ก็เป็นของเย็นเพระความรักเย็นฉ่ำในจิตใจแต่เป็นของร้อนข้างในมันร้อนอยู่ อย่างนั้นไม่เย็นได้ กิเลสทั้งหลายเป็นของ...ร้อน นิพานเป็นของเย็น เป็นของเย็นจริงๆถ้าใครได้ลิ้มรสแห่งพระนิพพาน จะรู้สึกเองว่า พระนิพพานเป็นสิ่งที่เยือกเย็น อย่างนี้ไม่มีความเดือดร้อน ด้วยกิเลสสวธรรมด้วยรูป เสียง กลิ่น รส สัมผัสอะไร..”
“...บานชีวิตได้แก่ ความเกิด ความแก่ ความเจ็บและวามตาย ชีวิตของเราทั้งหลายตั้งอยู่บนฐานอันนี้วึ่งเป็นของที่ไม่มีจีรังยั้งยืน เป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใคร...”
หลวงปู่คำพัน โฆษปัญโญไฟล์ที่แนบมา:
-
-
โอวาทธรรมหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน
วัดป่าบ้านตาด จ.อุดรธานี
ไม่มีคำว่า อนิจฺจํ ทุกฺขํ อนตฺตา
จะเข้าไปเกี่ยวข้องใน เมืองนิพพาน นั้นได้เลย
เรียกว่า เมืองนิพพาน ก็ได้ มหาวิมุตติ มหานิพพาน หรือ ธรรมธาตุ ก็ได้
นี่เรียกว่า สถานที่ดับทุกข์ โดยประการทั้งปวง
จาก ความดี ของเรา ที่ได้สร้างมามากน้อย...
...กฎอนิจฺจํ ทุกฺขํ อนตฺตา
เปลี่ยนแปลงแปรปรวนไปอย่างโลกทั่วๆ ไปอย่างนี้
ไม่มีในนิพพาน
นิพพานสิ้นสุดยุติตั้งแต่ขณะท่านตรัสรู้ปึ๋งขึ้นมา
พระอรหันต์ก็บรรลุธรรมปึ๋งขึ้นมา ทราบทันทีเลยว่าพ้นแล้วจากแดนแปรปรวน
แดนทุกฺขํ อนิจฺจํ อนตฺตา ถึงแล้วซึ่งพระนิพพาน
เรียกว่า เมืองเที่ยงตรง เที่ยงไปตลอดอนันตกาล
ไม่มีคำที่ว่าจะโยกย้ายผันแปรไปไหนอีกเลย
แม้ขณะหนึ่งก็ไม่มีใน แดนนิพพาน
จึงเรียกว่าเป็น แดนแห่งความเลิศเลอ ของท่านผู้บรรลุธรรมอันเลิศเลอแล้ว
สถิตอยู่ในสถานที่นั้น
ผู้อื่นผู้ใดไม่สามารถจะไปอยู่ใน สถานที่ นั้นได้
นอกจากผู้สิ้นกิเลสโดยสิ้นเชิงแล้วเท่านั้น
นี่ก็คือการสร้างบุญสร้างกุศล
หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน
เทศน์อบรมพระสงฆ์และฆราวาส ณ ศาลาใหญ่วัดป่าบ้านตาด
เมื่อวันที่ ๓๐ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๔๖[บ่าย]ไฟล์ที่แนบมา:
-
-
โอวาทธรรมท่านพ่อลี ธัมมธโร
วัดอโศการาม จ.สมุทรปราการ
สมบัติในโลกเป็นสมบัติอยู่ชั่วลมหายใจ
พอตายแล้วก็เป็นของคนอื่น
พญามัจจุราชนั้นเขามาแต่งตัวให้เราต่างๆ
เช่น เปลี่ยนตาให้บ้าง เปลี่ยนผม เปลี่ยนฟัน เปลี่ยนหนัง ฯลฯ เป็นต้น
เขาบอกให้เราเตรียมตัวว่า เราจะต้องถูกย้ายไปเมืองอื่นนะ
ถ้าเขาสั่งอพยพเมื่อไรเราจะลำบากถ้าไม่เตรียมมหาเสบียงไว้
เหตุนั้นเราต้องหาข้าวของถวายพระเจ้าพระสงฆ์ไว้
เพื่อเป็นการสะสมเสบียง
ดังนี้พระพุทธเจ้าจึงทรงสอนให้เราทำบุญทำทานให้มากๆ
จงทำตัวเราให้เหมือนมะม่วงสุก
ส่วนภายนอกของมันก็มีสีเหลืองงาม
ส่วนภายใน คือ เนื้อก็มีรสหวาน กินได้
ส่วนลึกเข้าไปอีก คือ เมล็ด (เปรียบกับดวงจิตของเรา)
เมื่อนำไปเพาะปลูกก็จะเป็นต้น ได้กินผลยืดเยื้อยาวนานต่อไปถึงลูกหลานอีก
ดวงจิตของเรา ถ้าดี ความดีก็แผ่ซ่านไปทั่วร่างกาย
แล้วก็ซึมซาบไปถึงลูกถึงหลานด้วย
ท่านพ่อลี ธมฺมธโรไฟล์ที่แนบมา:
-
-
โอวาทธรรมหลวงปู่เทสก์ เทสฺรํสี
วัดหินหมากเป้ง อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย
"สมาธิเป็นกำลังสำคัญมาก ถ้าไม่มีสมาธิแล้ววิปัสสนาจะเอากำลังมาจากไหน ปัญญาวิปัสสนามิใช่เป็นของจะพึงแต่งเอาได้เมื่อไร แต่เกิดจากสมาธิที่หัดได้ชำนิชำนาญมั่นคงดีแล้วต่างหาก
ถึงผู้ได้สุกขวิปัสสโกก็เถิด ถ้าไม่สมถะแล้วจะเอาวิปัสสนามาจากไหน เป็นแต่สมถะของท่านไม่คล่องเท่านั้น อย่างนี้พอฟังได้
ผู้ปฏิบัติทั้งหลาย เมื่อได้ทำสมาธิให้มั่นคงแน่นหนาดีแล้ว จนกระทั่งจะเข้าจะออกก็ได้ จะอยู่ให้นานๆ และพิจารณากายอันนี้ให้เป็นอสุภะหรือเป็นธาตุก็ได้ พิจารณาคนในโลกนี้ทั้งหมดให้เป็นโครงกระดูกทั้งหมดก็ได้ หรือพิจารณาให้เห็นในโลกนี้ทั้งหมดว่างเป็นอัชฌัตตากาศว่างเปล่าไปหมดก็ได้ ฯลฯ
จิตผู้มีอสุภะเต็มที่แล้ว ไม่ว่าจะยืน เดิน นั่ง นอน ย่อมเป็นสมาธิอยู่ตลอดเวลา แล้วก็มองเห็นกิเลสของตน ซึ่งเกิดจากจิตของตนได้ชัดเจนว่า กิเลส คือ ความโลภ ความโกรธ ความหลง มัน เกิด จากสิ่งนี้ๆ และมันตั้งอยู่ได้ด้วยอาการอย่างนี้ๆ แล้วหาอุบายละด้วยอย่างนี้ๆ เหมือนกับนํ้าในสระที่ขุ่นมาเป็นร้อยๆ ปี เพิ่งมาใสสะอาดมองเห็นสิ่งสารพัดที่มีอยู่ก้นสระว่า แต่ก่อนแต่ไรเราไม่นึกไม่คิดเลยว่า ในก้นสระมันจะมีของเหล่านี้ นั้นเรียกว่า วิปัสสนา คือ ความรู้ความเห็นตามสภาพจริง มันเป็นจริงอย่างไรก็เห็นตามความเป็นจริงอย่างนั้น ไม่วิปริตผิดแปลกจากความเป็นจริงของมัน"
หลวงปู่เทสก์ เทสรังสีไฟล์ที่แนบมา:
-
-
โอวาทธรรมหลวงปู่จันทร์ กุสโล
วัดเจดีย์หลวงวรวิหาร ต.พระสิงห์ อ.เมือง จ.เชียงใหม่
"...ให้ทุกคนปรับปรุงตัวเอง
ทำตัวเองให้ดีก่อนอื่น เมื่อปรับปรุงตัวเองให้ดีแล้ว
เท่ากับ ได้ปรับปรุงคนอื่นพร้อมกันไปด้วย
เพราะการสอนที่ดี คือการทำให้ดูเป็นตัวอย่างนั่นเอง.."
หลวงปู่จันทร์ กุสโลไฟล์ที่แนบมา:
-
หน้า 25 ของ 94