นี่ไง
แกล้งแย๊บๆถาม
คุณเคก็มีข้อวัตรดีดีมากมายมาเสนอแนะ...
โลกคือพระเจ้า...รู้หรือไม่...
ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย ผู้รู้แจ้ง, 19 กุมภาพันธ์ 2009.
หน้า 6 ของ 49
-
-
คำพูดก็ดูเฉือดเฉืยนมิใช่น้อย
หาว่าเราปฏิบัติไปหาแต่ความสงบ หุๆๆๆ
โยนขี้ให้แต่สมถะเนอะ...
"พอไม่รู้ ก็นึกไม่ออกว่า เขาทำสมาธิกันแบบไหน อะไรคือเหตุใกล้
ให้เกิดสมาธิ พอไม่รู้ ก็มุ่งแต่จะทำ จะทวน โดยไม่รู้หรอกว่าทำ
ไปนั้นเพื่ออะไร รู้แต่ว่า ทำแล้วได้ความสงบ แล้วความสงบ นั้น
ก็จะเป็นเรื่องดี มันรู้อยู่แค่นี้"
ท่านก็ชอบสรุปเอาเองเสียเหลือเกิน...
ผมเล่นกระทู้หนุกๆ ยามว่าง ไม่ได้ซีเรียสอะไร
ผมก็แสดงความเห็นตามที่เห็น
ถูกผิดก็แล้วแต่ใครจะฟังหรือไม่ ไม่ได้ไปบอกใครว่าต้องทำอย่างนั้นอย่างนี้
แล้วแต่ละกัน...อย่าพยาบาทผมเลย ท่านพี่เล่าปัง... -
ผมจึงเสนอให้พี่จินนี่อธิบายให้มากหน่อย จะเป็นการดีต่อสังคมเว็บพลังจิต สำหรับผู้ที่เข้ามาอ่าน
ท่านนิวรณ์ก็ไปสรุปเอาเองว่า ผมเอาแต่คิดว่า เป็นการนึกคิด เห็นเป็นวิปัสสนึก
ผมยังไม่เคยบอกสักนิดว่า ที่ท่านจินนี่ทำเป็นวิปัสสนึก
ท่านนิวรณ์มั่วเอาเองนะครับ... -
เพราะเรามักชอบเอาตัวรอดไว้ก่อน ไม่ได้ตั้งมั่นคิดจะช่วยเหลือผู้อื่น
แบบถึงที่สุด ถ้าเราเห็นว่าไร้ประโยนชน์ที่จะสนทนาธรรม หรือสนทนาไป
ยิ่งพาใจเศร้าหมอง เราก็หยุดที่ตัวเอง แม้ความเห็นที่เราเห็นว่าเป็นมิจฉาทิฏฐิ
เราก็วางลง ไม่เอามาเป็นธุระของตน เพราะเราเองก็ยังเอาตัวไม่รอดอยู่เลย
ก็ต้องระวังตน สำรวมตนไว้ก่อน ทำได้แค่แสดงความคิดส่วนตนที่คิดว่าเป็น
สัมมาทิฏฐิได้เท่านั้น ความคิดคนอื่นก็ต้องขอละไว้ก่อน อะนะ -
ในความจริง เราไม่ได้ต่อต้านสมาธิในรูปแบบหรอกนะ เพราะมันเป็นจริตส่วนตน
และพระพุทธองค์ ก็สรรเสริญเรื่องการปฏิบัติสมาธิ เรื่องฌาณสมาบัติ
เพียงแต่ในจริตของเราเองนั้น จิตของเราเขามีนิสัยความเคยชินส่วนตนอยู่
เราคิดว่า ถ้าเราทำสมาธิในรูปแบบจะทำให้ จิตเราเคยชินในการทำสมาธิเมื่อจะหัดรู้
แบบวิปัสสนาที่เป็นแบบไม่จงใจ จะยาก เพราะจิตมันจะเคยชินที่จะทำสมาธิ แล้วจะเคยชิน
ในการไปสร้างภพว่างเอาไว้ หรือการจดจ่ออยู่ในอารมณ์เดียว มันจะทำให้นิ่ง แล้วขาดอาหารให้จิต
ศึกษาหัดรู้ ความแปรปรวน เราจึงไม่ฝึกจิตแบบนั้น แต่หันมาฝึกแบบ รู้ ไปที่อาการของจิต
ตรงๆ แทน พอจิตเรามีความเคยชินในการรู้ ที่ถูกต้องแล้ว เป็นอัตโนมัติ เมื่อนั้น จิตพร่อง
ในเรื่องใด ค่อยเสริมไปเมื่อถึงเวลา แต่ที่เราฟังเทศน์พระอาจารย์ปราโมทย์ ก็เข้าใจว่า
เพียงระลึกถึงคุณความดีของพระพุทธองค์ หรือของครูบาอาจารย์ที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ
หรือระลึกถึงศีลที่ได้ทำไว้ดีแล้ว ก็ได้เป็นสมถะภาวนา ได้พลัง ได้สมาธิสู่จิต เหมือนกัน -
ปัญญา ใช้ในการประหารกิเลส
สมาธิ ช่วยให้ปัญญามีพลัง
ศีล ช่วยให้สมาธิเกิดได้ง่าย
ตามจริตครับ... -
คุณวิมุตติ ก็กล่าวไปเรื่อยๆ บอกว่าเข้าใจคุณจินนี่ ยอมรับคุณจินนี่
แล้วคุณจินนี่เขาพูดสั้นๆ อันนี้เข้าใจเขาหรือเปล่า หากเข้าใจจะไปทักให้
เขาพูดยาวๆ ทำไม หากเขาจะพูดยาวๆ เขาก็พูด หากยาวมากเขาก็
ยกพระสูตรมา
แต่ตอนหลังนี่ ใครยกพระสูตร หรือ คำครูมา จะโดนคนหนึ่งด่า แล้วบอกว่า
คำพูดของฉันดีที่สุด ส่วนพี่วิมุตติก็เอาด้วย สนับสนุนว่าเป็นคำง่ายๆ เข้าใจ
ง่าย แล้วก็สร้างคำพูดของตัวเอง สุดท้ายก็ต้องหยิบศัพท์มาใช้จนได้ เพราะ
มันไม่มีรสชาติ แต่พอหยิบคำศัพท์มาใช้ก็เสียหาย ใช้ผิดๆถูกๆ เพราะตัวเอง
ไม่ได้ชื่นชมการใช้ศัพท์ให้ตรงตามหลักการตามบัณฑิตเขา แต่พอแสดงธรรม
มากๆ มันก็เห็นชัดว่า มันขาดรสชาติ
เพราะ ธรรมะ ที่เป็นพระสูต เป็นคำครู คำเหล่านั้นเป็นคำสอนที่ดีแล้ว คนที่ชื่นชม
และมองออกว่าเป็นภาษิตเขาก็นมสิการมา คนบ้าอัตโนมัติเท่านั้นที่เห็นว่าเป็น
เรื่องติดตำรา
* * * *
ที่นี้ ดูจิต คืออะไร คือวิธีปฏิบัติทางเดียวหรือเปล่า ถ้าโง่ทำการเห็นแบบช้าง
มันก็จะโง่ตามเขา คิดว่าคนอื่นยึดทางเดียว ชี้ไม่รู้กี่หนว่า ธรรมะของพระพุทธ
องค์แบ่งเป็น สามภาคใหญ่ๆ คือ ศีลสิกขา จิตสิกขา และ ปัญญาสิกขา แต่ด้วย
ความเคยชินก็ไม่เคยได้ยินคำว่า จิตสิกขา เพราะคนไทยไม่นิยมศึกษา ทั้งๆที่เป็น
แม่แบบ แบบแผนที่พระพุทธองค์วางไว้ พระท่านก็เลยฟื้นฟู คำว่า สิกขา ก็คือ
ศึกษา เคยได้ยินไหม พระพูดใน cd แล้วคำว่า ศึกษา ก็คือ การสังเกต การดู
เพราะตอนนี้จะศึกษาจิต พฤติจิต หน้าที่ของจิต อาจารย์สุรวัฒน์เขาออกหนัง
สือ เขาเป็นฆารวาสจะเขียนคตำราชื่อ จิตสิกขา ก็ไม่ได้ เขาก็ต้องหาคำที่ขาย
ได้ ก็เลยเรียกว่า ดูจิต (ศึกษาจิต) ซึ่งก็คือ จิตสิกขาแม่แบบทั้งหมวด ครอบ
คลุมเรื่องสมาธิจิต กรรมฐานทุกรูปแบบ คนโง่เท่านั้นที่ไม่เข้าใจ เห็นว่าเป็นทาง
เดียว ทั้งๆที่ เรื่องใครจะทำกรรมฐานอะไรอยู่ก็ทำไป แต่ทำแล้วให้ทำการสังเกตจิต
หรือทำจิตสิกขา หรือ ดูจิตไปด้วย ตามแบบแผนของพระพุทธองค์ที่วางไว้
หากไม่เข้าใจ ก็อย่าปรามาสมั่วๆ -
<TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 7 คน ( เป็นสมาชิก 7 คน และ บุคคลทั่วไป 0 คน ) </TD><TD class=thead width="14%">
[ แนะนำเรื่องเด่น ] </TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>วิษณุ12, วิมุตติ, อั้งไล้ฮวกไช้ฮวกหก, k.kwan, no more, tro </TD></TR></TBODY></TABLE> -
ที่นี้กรรมฐานอะไรที่เขาใช้กัน จินนี่ใช้กัน คุณขวัญใช้ คุณบุคคลหนึ่งใช้ คุณผีเสื้อใช้
และคนอื่นๆ อีกเยอะแยะ
จะเห็นว่า เขาไม่ได้บอก ไม่ได้อธิบายว่าเขาทำกรรมฐานอะไร ใครจะทำอะไรก็เรื่อง
ของคนๆนั้น
อย่างหลวงพ่อ ท่านก็บอกท่านใช้อานาปานสติ อโลกสิณ และ อรูปฌาณ เป็นกรรมฐาน
เสร็จแล้วก็ยกดูจิต ศึกษาจิต ทำจิตสิกขา
ส่วนผมหากตามอ่านกระทู้อื่นๆบ้าง ก็จะเห็นผมทำหลายอย่าง จะไทเก๊ก PSI กสิณดิน
น้ำ ลม ไฟ มโนยิทธิ ฯ ผมก็ทำหมดทุกอย่าง ทำแล้วดูอะไร ก็เอามาศึกษาจิตไปด้วย
มันก็ทำให้กรรมฐานแต่ละอย่างที่ผมทำมันก้าวหน้าไปเรื่อยๆ แต่คนมันมั่ว ไม่รู้ว่าเราทำ
อะไรก็มาบอกว่าเราอยู่กับที่ เราอธิบายเหมือนรู้หมด คิดแต่ว่า สงสัยเอาแต่อ่านตำรา
ทั้งๆที่ เขาก็ทำของเขา แต่ส่วนที่เอามาอธิบายคืออะไร ก็เป็นเรื่อง จิตสิกขา ที่เอามา
อธิบายได้ ใครจะไปนั่งบ้าอธิบายสภาวะปัจจัตตัง เว้นแต่จะเอาไว้อธิบายกลุ่มตัณหา
จริตให้เขาได้ฟัง อะไรที่เราเห็น เราก็ชี้ทางต่อกรรมฐานของเขาได้ เราก็บอกไป -
ชา ละ วัน ปลอม -
จริงๆแล้ว บทสวดมนต์ทำวัตรเย็นเค้าก็บอกไว้นะว่า ธรรมเป็นเรื่องรู้เฉพาะบุคคล ถ้าเอามาขยาย อิอิอิ อัปมาโณ เน้อ ถ้าผู้ไปไกลแล้ว สอนพื้นฐานให้คนข้างหลังกันเถิด จะได้ไปกันได้เยอะๆ ผมจะไปด้วย อิอิอิ
-
<TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : หลายคน ( เป็นสมาชิกทุกคน และ บุคคลทั่วไป หลายคน ) </TD><TD class=thead width="14%">
[ แนะนำเรื่องเด่น ] </TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>อั้งไล้ฮวกไช้ฮวกหก, 16, 2zani, 51120066, A.41, A.P., โมเย, แม่น้องหมู, ภราดรภาพ, โมกลา, adiosnkid, ภะควา, ร่มโพธิ์, เส้นทางแห่งธรรม, aemie, ae_di_yae, alovesab2002, anuchang, anuwat63, รัช, รัชนี99, มันตรัย, aries, ภูมิพัฒน์รัตน, auming, ayamoto, แก่วัด, เจนัย, เชียร, โชคแสนดี, เด็กแดง, เด็กไร้เดียงสา, เด็กไทรน้อย, เดียงสา, โบราณคดี, ใบโพธิ์, เปลือกไม้, ใฝ่ทางธรรม, beleive, benay, benyapa, bht, bhuddameesuk, Bill PEA31, bopitb, Bull_psi, bundit_tong, c486, วรุณบุตร, chadamoonlite, chaivat chinkidjakar, chakapong, chanasorn, Chanko.8, chantasakuldecha, chart2k, chatchai_/\_, chimnui, chonatad, วิมุตติ, วิษณุ12, วาสนาน้อย, วิน ศิษย์หลวงปู่หงษ์, damrong.lap, dat2006, dejlee, deneta, dididada, Digital, DITCE, eakbordin, ศรีภูไท, ee56054, สักกะ, สังวรคุณ, สันติเค, สามโลก, สายครูบา, ศิษย์โลกอุดร, ศิษย์ต่างแดน, หนิง บางนา, หนุมาน ผู้นำสาร, สนุกสนาน, สุเมต, สุภา8989, fevernova, foxbike, guawn, ha801, haha4959, harajoogoo, HemmaymnBon, HolyWater, honghaier, hongsanart, อภิญญา8, อ่อนหัดธรรม, indice, iofeast, อธิมุตโต+, อบ., j999, jeab742, jean19, jinny95+, Joypor, k.kwan, kenyaku, kittisan, kratium, krisadapran, KRITA, Lek435, littleweb_cs, Liverpat, maneeda_ya, manoch_yjd, max77, mongkonchai, monsodsai2, moodang99@yahoo.com, mooo, moothai24, mootojang, moowasin, motana2008, motivegirl, Mr.Chao, mteradir, mucilin, namo.putmo, narayana2514, nathakrit, newcomer, nitithon, no more, no.9, noi88, nonglucp, noun_1966, NR, num_mon, Orora416, p4_sakul, panthila@hotmail.com, parapuda, Pawanrat-jin, Pdon60, peang25, pea_man, pheemawat, piak_piak, pipat_san, pjo2517, pooky, pranurat, PROPORASTUT, ptt2345, pubman98, Punyaris, raiderman, ransang, ratha, rescuelp, rosett, sakkamol, sakmalai, saksiam, Sanchai, sarsi_boleh, seata, SeoDiscounts, SHARK2009, siarayamarata, sio191, sithiphong, sophon, supaporn_lu, supun, suwi, T D-Da, Tackled, taw_wan, teerapat99, Teetab, thaiout9, Thanladda, thertoon182, TheyWat, thippanannat, threeam, tititi, TO-9198, to2504, ton344, tote, tro+, t_chakrapan, ug_buddha, uncle jing, upanya, usoak, vasan, vptech, wannabexcite, wanpos, wara43, wateee, weerapongki, WHITE_ROAD, widya, wittana, yordnakorn, ลาซาล, ลุงจิ๋ว, ไห่เฉากุหลาบไฟ, ฤษีเหิร, กระติ๊บ, กระพี้, ก็ว่า, กำพลศักดิ, ครูเซียน, คนคอนหวัน, คุณยายกลิ่นโสม, จรัล, จันทิพา, จิตตานุปัสสนา, ฉัตรชัย พรหมแก, ชวภณ ศ., ชัยพร เถาว์อั้น, ชาวประมง, ชนะ สิริไพโรจน์, ชนะมาร, ญ.ผู้หญิง, ณัฐชนก, ดอกสร้อย, ตรงแหน่ว, ต้อย&ปรีชา, ต้อมบ้านสวน, ต้นบุญ, ติณณ์, ทีมชุมพร, ธนานุวัตร, น.จุลรัตน์, นะเมติ๕, น้ำใส, นักเดินธรรม, นายเศรษฐกร, นายเทิด, นาระกันทา, นิพนธ์ รัตนผล, นิพพานให้ได้, บรึ๋นจ้า, ป.คุณูปการ, ประเสริฐ, ปู่ชอบเรียน, ปุณกะ, ผ่อนคลาย, ผีเสื้อราตรี, พระสมรัก, พระชยภัทร, พรสว่าง_2008, พันธุ์เดียวกัน, พามมะวดี, พุทธโกมุท, พุทธะธรรม</TD></TR></TBODY></TABLE><!-- currently active users --> -
อิอิ......อิอิ
-
ธรรมเป็นเรื่องรู้เฉพาะบุคคล การขยายความกันออกไปอาจทำให้ผู้ไม่เยปฏิบัตินั่งคิดตามจนอาจหลงได้ เพราะวิสัยของกิเลสที่ยังหยาบมักคิดเข้าข้างตัวเองแม้การศึกษาธรรมก็ไม่ยกเว้น เรามาเน้นกันที่พื้นฐานด้วย ศีล สมาธิ ปัญญากันเถิด ท่านผู้รู้ผู้ไปไกลผู้เจริญทั้งหลาย เพราะธรรมนั้นมีรสผู้ใช้สมองคิดจะไม่รู้รส มีเพียงผู้ปฏิบัติ(บางคนไปนึกว่าปฏิบัติคือทำตัวได้ตาม คติ อีกน่ะ)ที่จะได้สัมผัสรสธรรม และหนทางการสัมผัสรสธรรม ต้องประกอบไปด้วย ศีล สมาธิ และจึงจะมีปัญญาที่จะมองเห็นธรรมด้วยดวงตาเห็นธรรมได้
-
หนทางที่ถูกคือแบบนี้ครับ ดีแล้วชอบแล้ว ขออนุโมทนา -
-
-
-
หน้า 6 ของ 49