คุณบอยเข้าใจ จ๊ากครับ ที่เลี่ยมเงินหลวงพ่อเดิมท่านสร้างขึ้นครับ
ใครพกของขลังอะไรติดตัวกันบ้างค่ะ
ในห้อง 'กระทู้เก่า' ตั้งกระทู้โดย piramid111, 23 เมษายน 2008.
หน้า 3 ของ 7
-
-
ผมว่าปลัดขิก หรือเครื่องรางอื่นๆก็เหมือนๆกันนะครับ แตกต่างกันตรงรูปลักษณ์ เครื่องรางพระที่เก่งๆสร้างเอาไว้ให้คนนำไปใช้ในกิจต่างๆกันออกไป พระท่านสร้างวัตถุมงคลให้คนนำไปบูชาคล้องคอเพื่อเป็นศิริมงคล และเตือนสติให้คงอยู่ จะทำบาปทำกรรมก็ระลึกได้ว่ามีพระนั้นๆสวมคออยู่ แต่เครื่องรางหรือปลัดขิกนั้น พระที่ท่านสร้างก็คงจะในลักษณะเดียวกันเพียงแต่เปลี่ยนรูปลักาณะ และวิธีการที่จะใช้แตกต่างกัน เอาอย่างง่ายๆนะครับ ถ้าเราไปหาพระ บอกว่าอยากจะให้ค้าขายดีๆ หลวงพ่อท่านก็จะให้เรารักษาศีล ทำจิตใจให้สบาย พูดคุยกับลูกค้าเพราะๆ หรือาจจะให้พระมาเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวเพื่อเราจะได้สบายใจ แต่ถ้าเราบอกว่าหลวงพ่อครับ ผมจะไปจีบสาว มีอะไรให้ผมใช้ได้บ้างครับ ผมเชื่อว่าหลวงพ่อต่างๆท่านก็จะต้องสอนหรือบอกกล่าวก่อนว่าอะไรถูก อะไรควรอย่างไร แต่ถ้ายังคงอยากได้ของที่ช่วยให้จีบสาวได้ พระท่านก็คงจะไม่เอาพระให้ แต่ก็จะหาอย่างอื่นมาให้แทน และจะด้วยว่ามีตำราเล่าเรียนมากันยังไงก็สุดแท้แต่ ก็ทำให้เกิดเครื่องรางขึ้นมา เพื่อที่ว่าใครอยากจะได้อะไร พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ก็จะได้ไม่ต้องมาข้องเกี่ยว แต่ใช้วัตถุนั้นๆแทน ในการที่จะไปทำอะไรที่เราต้องการ เรียกว่าใช้วัตถุเครื่องรางนั้นเป็นอุปเท่ห์ แทนคุณพระ
เรียกง่ายๆว่าถ้าอะไรที่ไม่เกี่ยวข้องกับพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ พระท่านก็จะเลี่ยงโดยใช้เครื่องรางแทน ปลัดขิกแต่ละสำนัก ก็แตกต่างกันออกไปในอุปเท่ห์ก็แล้วแต่ว่าคนต้องการอะไรมากกว่า ยิ่งอธิบายผมยิ่งงง แต่อยากบอกว่า ปลัดขิก หรือเครื่องราง พระท่านทำให้คนเอาไปใช้ แทนพระเครื่องต่างๆ โยใช้จิตที่เข้มขลังของท่านเป็นตัวช่วย โดยที่ไม่ต้องการให้พระพุทธ พระธรรม ต้องมัวหมองไป กับกิจนั้นๆที่คนต้องการ เช่น เราได้พระเครื่องมา แล้วเอาไปจีบผู้หญิง คนก้จะบอกว่า โอ้ โห พระองค์นี้ช่วยให้จีบสาวติด นั่นก็ฟังดูแล้ว ทำให้พระมัวหมอง แต่ถ้าเป็นปลัดขิก หรือของอื่น คนก็จะพุ่งไปที่ของสิ่งนั้นๆแท้พระพุทธครับ และจะบอกว่าไม่ใช่กิจของสงฆ์ก็ไม่ได้นะครับ สิ่งที่เราต้องรู้ก็คือ
คนกับพระต้องพึ่งกัน ขาดอย่างใดอย่างนึงก็อยู่ไม่ได้ ฉะนั้นพระจึงต้องตามใจโยมเมื่อ อยากได้อะไร แต่ก็จะอยู่ในวิสัยที่จะทำได้ครับ อย่าเพิ่งงงนะครับ -
Specialized ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด
-
สรุปอีกทีนะครับ
ของขลังนั้น พระท่านทำให้เพราะขัดศรัธาที่โยมต้องการในเรื่องต่างๆไม่ได้ แต่ก็ไม่เอาพระพุทธ เข้าไปเกี่ยวข้อง ขอลขลังนั้นจะเป็นตัวช่วยให้สำเร็จเอง แต่ก็ขึ้นอยู่กับพลังจิตของพระรูปนั้น และกรรมเก่า บุญเก่าของเราด้วย -
ของผมที่ติดตัวบ่อยก็มี........
1. เหรียญครูบาคำหล้า
2. เหรียญหลวงพ่อเกษม
3. ล็อกเก็ตหลวงปู่ดู่
4. แหวนปลอกมีดหลวงปู่ดู่
5. แหวนครบรอบมรณะภาพหลวงปู่ดู่
6.......... -
ไฟล์ที่แนบมา:
-
-
ที่ ผมห้อยคอประจำ ก็ พระร่วง หลังรางปืน และแหวนของหลวงพ่อขวัญ ปวโร วัดบ้านใร่ จ.พิจิตร
ที่หิ้งพระ
หลวงพ่อ เงิน ( คุณ พ่อ ให้มา )
พระสมเด็จ ของหลวงพ่อขวัญ ปวโร วัดบ้านไร่ จ.พิจิตร
พระสมเด็จ ฝั่งตระกุด3กษัตร ด้านหลัง หลวงพ่อ คูณ วัดบ้านไร่
ทั้ง 3 องค์ นี้ผมไป วัดบ้านใร่ จ.พิจิตร กับคุณ พ่อ และลูกชาย ผม ได้ เข้าไป เยี่ยม หลวงพ่อขวัญ ปวโร ถึง ใน ห้อง ของท่าน คุณ พ่อ และผมและลูกชาย ผม ได้ บีบ ขาท่าน เสร็จ(มือ เสยหัวเพื่อ เป็น สิริมงคล ลูกชาย ผม ทำตามผม) แล้ว ผม ยื่น สร้อยพระทั้ง 3 องค์ ให้ ท่านดู , ท่าน ได้ เพ่ง มอง แล้ว บริกรรม คาถา พระทั้ง 3 องค์ , ผม นั้น ดีใจมาก คุณ พ่อ ผม มองหน้า ผม แล้ว บอกว่า " ดีแล้วลูก ท่าน ปลุกเสกเดียว ให้ เลย )
สาธุ -
ที่แขวนพระ
1.สมเด็จองค์ปฐม
2.พระปัจเจกพุทธเจ้า พระอาจารย์เล็ก 2องค์เนื้อเงิน
3.เหรียญกูผู้ชนะ ไพรีพินาศ +ยันต์เกราะเพ็ชร หลวงพ่อฤาษี (เอาไปอัดกรอบเองครับ)
4.ล็อคเก็ตหลวงปู่ธรรมรังษี
5.พระผงหลวงปู่ดู่อุ้มดวง หลวงตาม้าอธิษฐาน
6.ล็อคเก็ตหลวงพ่อมหาประยูร
ชุดตะกรุด ลูกอม ของขลัง
หลวงปู่ธรรมรังษี หลวงปู่ฉาบ หลวงพ่อชำนาญ หลวงปู่บุญ หลวงปู่พรหมา หลวงพ่อจำเนียร หลวงพ่อเปิ่น หลวงพ่อเที่ยง ครูบาผัด ครูบาน้อย หลวงปู่ทิม วัดพระขาว วัดละหารไร่ หลวงพ่อสาคร พระอาจารย์ประยง อาจารย์เรือง ขุนพันธ์ฯ ฯลฯ (เพราะจำไม่ได้ว่าของใครบ้าง)ไฟล์ที่แนบมา:
-
-
หลวงพ่อเพลินวัดหนองไม้เหลือง 2522 วัดหนองไม้เหลือง เพชรบุรี
ตะกรุดข้อมือ ยันต์เกราะเพชร หลวงพ่อปานวัดบางนมโค ออกวัดนก กรุงเทพฯ -
ที่แขวนขึ้นคออยู่ตอนนี้ก้อ บรมครูปู่ฤาษี(รุ่นฟ้าผ่า)ของวัดสว่างอารมณ์(แคแถว) อ.นครชัยศรี สร้างโดยพระครูยติธรรมานุยุต(พระอาจารย์แป๊ะ)ค่ะ บางครั้งก็สลับกับหลวงพ่อเงินจอบเล็กของวัดบางคลาน ค่ะ
-
ที่ผมบูชาติดตัวก็มี เหรียญหลวงปู่ทวดเปิดโลกเนื้อตะกั่ว เหรียญอาจารย์นำปี2519 เหรียญหลวงพ่อพรหมวัดช่องแครุ่น สช. เหรียญพรหมจักรพรรดิหลวงปู่หมุน พ่อปู่ฤาษีไม้แกะไม่ทราบที่ องค์สุดท้ายราหูเม็ดกระดุมรุ่นไตรภาคีศรีนคร
-
โพสต์มั่งนะครับ
1.พระผงจักรพรรดิ์ที่เขาแจกกันนั่นแหละครับ ติดตัวตลอดเลย
2. ตะกรุดจักรพรรดิ์หลวงปู่ดู่ดอกเล็ก
3. แหวนหลวงพ่อสนิทวัดลำบัวลอย
4. แหวนหลวงพ่อเอียดวัดไผ่ล้อม -
ไม่ห่างกาย และใจ
ที่ติดตัวก็ต้อง..1. หลวงพ่อกวย
2. ร.9 -
ต้องนี่ จระเข้โทน ของหลวงพ่อสนิท วัดลำบัวลอย
ดีจริงขอบอก -
เราพระธาตุเขาสามร้อยยอดค่ะ มหาอุด คงกะพัน จ้า
-
เป็นคนที่พกพาพระเครื่องรางของขลังติดตัว วันละมาก ๆ คนหนึ่ง เฉพาะสร้อยแขวนพระตอนนี้มีด้วยกันหลายเส้น แขวนสลับสับเปลี่ยนกันทุกวัน ทั้งนี้เนื่องจากมีอาชีพที่ต้องขับรถไปยังเมืองต่าง ๆ ทุกวัน วันละ ๒๕๐ ไมล์ หรือ ๔๐๐ กว่ากิโล รายละเอียดพระที่แขวนเป็นชุด ดังนี้
ชุดที่ ๑ ชุดนี้จะแขวนในวันจันทร์
๑. พระปิดตาพ่อท่านเจิม วัดหอยราก นครศรี ฯ
๒. พระสิวลีเนื้อผงผสมว่าน พิมพ์ใหญ่ มีเมล็ดพืชฝังไว้ด้วย ของ ล.พ.กวย
๓. พระสังกัจจายน์เนื้อผง พิมพ์ใหญ่ เจ้าคุณศรีสนธ์ วัดสุทัศน์
๔. พระสมเด็จเนื้อผง ล.พ.เงิน วัดดอนยายหอม
๕. พระสมเด็จบัวสองชั้นเนื้อดินเผา ข้างยันต์ มี พ.ศ. ๒๔๗๓ ล.พ.พ่วง วัดกก
๖. พระสมเด็จกลีบบัว เนื้อดินผสมผง ผสมว่าน ล.พ.คร้าม วัดพระเงิน นนทบุรี
๗. พระชินราชสะดุ้งกลับ ฐานบัว เนื้อผงผสมว่าน ลป.บุญ วัดกลางบางแก้ว
พระชุดนี้จัดขึ้นคอได้วันแรก ก็พบประสบการณ์ แคล้วคลาดจากการถูกรถสิบล้อชน คือ มีรถเก๋งคันอื่นถูกชนแทน รถหงายเก๋ง หลังคายุบ คนขับคอหักตายคาที่
พระชุดที่สอง (เป็นชุดเครื่องรางแขวนคอ) สำหรับใส่ในวันอังคาร
๑. เสด็จแม่พันธุรัตน์ ลป.อ้น วัดเหมืองใหม่ จ.สมุทรสงคราม หล่อลอยองค์ เนื้อทองเหลือง เก่ามากมีสนิมแดงจับทั่วองค์ (อายุ ๒๐๐ กว่าปี)
๒. กระดอนสะท้อน ล.พ.รุ่ง วัดท่ากระบือ สมุทรสาคร
๓. ตะกรุดลูกอม เนื้อตะกั่ว (สนิมแดง) ร้อยด้วยด้ายสายสิญจน์เป็นรูปแหวนพิรอด ของ ลป.ยิ้ม วัดหนองบัว กาญจนบุรี
๔. ตะกรุดเมตตาสอดในลูกอมเนื้อเมฆพัด ของ ล.พ.ทา วัดพะเนียงแตก นครปฐม
๕. ตะกรุดเมตตา สอดในลูกอมเนื้อผงยาจินดามณี ของ ล.พ.ห่วง วัดท่าใน จ.นครปฐม
๖. ตะกรุดพิสมร ของ ล.พ. แก้ว วัดพวงมาลัย สมุทรสงคราม
๗. ตะกรุดเนื้อชานหมาก ของ ล.ป.ขุ้ย วัดซับตะเคียน เพชรบูรณ์ (ของใหม่)
ชุดนี้ยังไม่มีประสบการณ์อะไรที่น่าหวาดเสียวครับ แขวนแล้วรู้สึกสบายใจ แคล้วคลาดปลอดภัยทุกด้าน เมตตาแรงมาก ๆ ชนิดเจ้านายที่ดุแสนดุ คนอื่นกลัวจนหัวหด เข้ามากอดคอทักทายก็แล้วกัน
ชุดที่ ๓ เป็นชุดเหรียญพระพุทธ กับเหรียญพระปิดตา สำหรับวันพุธ
๑. เหรียญหล่อปิดตาแปดทิศ เนื้อสัมฤทธิ์ทองแดง ล.ป.แดง วัดอ่างศิลา
๒. พระลีลา ๒๕ พุทธศตวรรษ ด้านหลัง เป็นปางมหาจักรพรรดิ์ เนื้อผงผสมว่าน ลพ.ผินะ วัดสนมลาว
๓. เหรียญ ลพ. วัดบ้านแหลม (เหรียญหล่อ) ปี พ.ศ. ๒๔๘๐ (รุ่นสอง)
๔. เหรียญพระประธาน ล.พ.เงิน วัดดอนยายหอม
๕. เหรียญพระเจ้าศรีธรรมโศกราช วัดหน้าพระธาตุ นครศรี รุ่นแรก พ.ศ.๒๕๐๖ เนื้ออัลปาก้า
๖. เหรียญพระพุทธศรีศากยมุนี เนื้อนวโลหะ วัดสุทัศน์ ปี ๒๕๑๖
๗. เหรียญพระพุทธชินราช วัดลานคา สุพรรณบุรี เนื้อเงินกาหลั่ยทอง (ปีหนู)ออกปี พ.ศ. ๒๔๖๗
๘. พระกลีบบัวอรหัง เนื้อโลหะผสม ล.พ.ดิษฐ์ วัดปากสระ นครศรี ฯ
๙. พระชู้มกอ เนื้อทองเหลืองผสม ล.พ.เส้ง วัดแหลมทราย
พระชุดนี้ มีประสบการณ์แคล้วคลาดเป็นยอด ชนิดที่ขับรถฝ่าไฟแดง แบบไม่รู้ตัว คือ ไม่ทันได้เห็นสัญญาณไฟ หรือ รู้ตัวว่าขับฝ่าสี่แยกไฟแดง อาจเป็นเพราะง่วงนอน หรือ คิดอะไรเพลิน ๆ ขณะนั้น มารู้อีกทีเมื่อมีรถเลี้ยวตัดหน้า เลยแตะเบรค บีบแตรด้วยสัญชาตญาณ ถึงรู้ว่าตัวเองฝ่าไฟแดง โชคดีมากที่ไม่มีรถคันใดมาชนเรา และเราไม่ชนใคร ไม่งั้น ไม่ตายก็คางเหลืองแหง ๆ
พระชุดที่สี่ เป็นชุดพระปิดตา สำหรับใส่ในวันพฤหัสบดี
๑. พระปิดตาเนื้อสัมฤทธิ์ ลป.รอด วัดโคนอน กทม.
๒. พระปิดตาเนื้อผงผสมว่าน กลีบบัว เข่าตุ่ม อุบน ลป.บุญ วัดกลางบางแก้ว
๓. พระปิดตาผสมผงธนบัตร ล.พ. กล่อม วัดหูแร่ นครศรี ฯ
๔. พระปิดตาเนื้อชินตะกั่ว ล.พ.โต วัดเนิน ชลบุรี
๕. พระปิดตา เนื้อสัมฤทธิ์แดง ลป.ทองเฒ่า วัดเขาอ้อ
๖. พระปิดตาเนื้อตะกั่ว รุ่นน้ำท่วม ลป.ทิม วัดละหารไร่
๗. พระปิดตาเนื้อผงคลุกรัก หลังยันต์สี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน ล.ป.เฮี้ยง วัดป่า ชลบุรี
พระปิดตาชุดนี้ ช่วยให้ผมพ้นเคราะห์จากการขับรถชนคน ขณะข้ามทางม้าลายมาแล้ว คือ เราเลี้ยวซ้าย (พวงมาลัยซ้าย)ไฟเขียว ไม่เห็นรถทางตรงก็เลยหักเลี้ยวเข้าไปครึ่งถนน ก็จ๊ะกับคนข้ามที่ข้ามสวนทางมาครึ่งถนนพอดี คนข้ามก็ก้มหน้าก้มตาข้าม เราก็เลี้ยวไม่มอง คือต่างคนต่างไม่เห็นกัน จังหวะแว๊บเดียวจริง ๆ ที่เห็นและเบรคทัน ไม่งั้น ชนเขาตายคาที่ เป็นคดีความแน่ ๆ
พระชุดที่ห้า เป็นรูปหล่อ เหรียญพระสงฆ์ ใส่วันศุกร์
๑. รูปหล่อ ล.พ.อยู่ วัดบางหัวเสือ รุ่นแรก
๒. เหรียญ ล.ป.คำมี วัดถ้ำคูหาสวรรค์ ปี ๒๕๑๗
๓. เหรียญรุ่นสอง พ่อท่านเพชร วัดวชิรประดิษฐ์ สุราษฎร์
๔. เหรียญสองหน้า ล.พ.เงิน ล.พ.แช่ม วัดดอนยายหอม ปี พ.ศ. ๒๕๑๖
๕. เหรียญรุ่นแรก ลพ.ทองอยู่ วัดบางนกแขวก หรือ วัดประชาโฆสิตาราม สมุทรสงคราม
ยังไม่มีประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้น มีแต่พวกขับรถถอยมาจะชน แล้วเราเห็นเข้าก็เลยบีบแตรบอก ถ้าเราไม่เห็น ไม่บีบแตรบอก เขาถอยมาชนเรา แล้วใส่ร้ายเราว่าเราชนท้ายเขา ก็เรื่องยาว
พระชุดที่หก ใส่วันเสาร์
๑. รูปหล่อพระสังกัจจายน์ เนื้อสัมฤทธิ์แดง เก่าไม่ทราบที่
๒. รูปหล่อ ล.พ.ทบ วัดชนแดน เพชรบูรณ์ ฐานตอกเลข ๙๔
๓. รูปหล่อรุ่นห้า ล.พ.ตาบ วัดมะขามเรียง สระบุรี
๔. รูปหล่อเปิดโลก ๒๕๓๒ ลป.ดู่ วัดสะแก อยุธยา
๕. รูปหล่อ ล.พ.เขียน วัดถ้ำขุนเณร พิจิตร ไม่ทราบรุ่น
ยังไม่มีประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้น
วันอาทิตย์ ไม่ค่อยไปไหน ถ้าไปก็ไปวัด ไม่ได้พกพาพระมาก ๆ ส่วนมากจะแขวนเดี่ยวเหรียญพระประจำวัน ของวัดชิโนรส ฯ ปี ๒๕๑๒ แขวนเหรียญ ลพ.เภา วัดพระญาติ ปี พ.ศ. ๒๕๑๑
และพระที่แขวนประจำทุกวัน (ข้างนอกเสื้อ) ชนิดที่ไม่เคยขาดจากคอ คือ พระราหู หล่อสัมฤทธิ์ ของ ล.ป.ทองเฒ่า วัดเขาอ้อ แขวนในสร้อยตะกรุด มีตะกรุด ๓ ดอก คือ ตะกรุดใบลาน ล.ป.โสฬส ปราจีนบุรี (ได้มาใหม่) ตะกรุดหนังหน้าผากเสือ พระพิมลธรรม (นาค) วัดอรุณ ฯ และตะกรุดเทวดา ชุบน้ำหมาก ของ ลป.ขุ้ย วัดซับตะเคียน
ส่วนที่เอวนั้น ทุกวัน จะคาดตะกรุดโทน ล.พ.ตาบ วัดมะขามเรียง สระบุรี, ตะกรุดหนังเสือ ล.พ.แช่ม วัดตาก้อง และ ตะกรุดหนังเสือ ล.พ.จง วัดหน้าต่างนอก
ประสบการณ์จากการคาดตะกรุดที่เอวก็คือ เคยมีหมามากัด แต่อ้าปากไม่ขึ้น เหมือนกับมันเอาปากมาชนน่อง ชนอยู่นั่นแหละ จนมีคนร้องบอกว่า หมามันจะกัด แต่อ้าปากไม่ขึ้น ผมก็เลยสงเคราะห์ยันมันเข้าไปเปรี้ยงหนึ่ง ร้องเอ๋ง วิ่งหนีหางจุกตูดเลย นับแต่นั้นมา มันเห็นผมทีไร ไม่ต่างอะไรกับเห็นเสือ นึกแล้วยังขำไม่หายจนทุกวันนี้ -
ตระกรุดธาตุวน
-
อึ้งกิมกี่ ^-^ , อนุโมทนาสาธุ อยากได้คับ
อ้อ..ลืมบอกไป ผมใส่พระของย่าคับ ไม่ทราบพระอะไร ไม่มีหน้าไม่มีตา แต่มีคุณค่าทางจิตใจคับผม -
ลิงไม้ไผ่ตันครับ
ไฟล์ที่แนบมา:
-
-
โอโห ของพี่ lekpluto นี่ชุดใหญ่เลยนะครับนี่
หน้า 3 ของ 7