ใครศรัทธา หลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืด มาพูดคุยกันครับ

“นะโม โพธิสัตโต อาคันติมายะ อิติภะคะวา”
​

เป็นคาถาหลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืด โดยมีคติความเชื่อสืบต่อกันตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันว่า "อานุภาพแห่งพระคาถานี้ ประมาณมิได้เลย ภาวนาก่อนออกเดินทาง เป็นแคล้วคลาดปลอดภัย ภัยอันตรายไม่กล้ำกลาย"

อุปเท่ห์ หรือการใช้คาถาบทนี้ คือ ให้สวดภาวนา พระคาถา ก่อนขึ้นรถ ลงเรือ ติดต่อค้าขาย จักเกิดสิริมงคล โชคลาภมากมาย ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า ท่านว่าให้หมั่นสวด เจริญภาวนา พระคาถา หลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืดนี้เถิด จักบังเกิดสิ่งอัศจรรย์แก่ตนเองและครอบครัว

ขณะเดียวกันยังมีคติความเชื่อด้วยว่าพุทธคุณคาถานั้น หากท่องเป็นประจำจะคุ้มครองให้เราแคล้วคลาดปลอดภัยจากอันตรายต่างๆ เช่นเดียวกับการแขวนพระหลวงปู่ทวด โดยก่อนท่องคาถาบทหลวงปู่ทวดให้เริ่มต้นด้วยการตั้ง นะโม ๓ จบ แล้วก็ระลึกถึงคุณพระ เป็นการขอพรบารมี

ทั้งนี้ หากถอดคำแปลคาถาหลวงปู่ทวด แยกออกมาแต่ละตัว มีความหมายที่น่าสนใจ ดังนี้
"นะโม" หมายถึง พระผู้มีพระภาค ทรงเป็นใหญ่กว่ามนุษย์ เทพยดา พราหมณ์ มาร ยักษ์ และสัตว์ทั้งปวง
นอกจากนี้แล้ว "นะโม" แปลว่า "นอบน้อม" ดังคำแปลที่แปลไว้ต้นหมวดพุทธว่า "ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า" ทั้งนี้ หลวงปู่มั่น ภูริทตฺตเถร ท่านได้ชี้แจงไว้ในหนังสือมุตโตทัย ถึงที่มาที่ไปของ "นะโม" สรุปพอสังเขปได้ว่า
นะ คือ ธาตุน้ำ ซึ่งมาจากแม่
โม คือ ธาตุดิน ซึ่งมาจากพ่อ
ทั้งสองธาตุนี้ผสมกันจึงเกิดเป็นตัวเรา โดยมีธาตุไฟและธาตุลมเข้ามาอาศัยภายหลัง นะโม จึงสำคัญเพราะเป็นธาตุตั้งต้น และเมื่อครั้งหมดธาตุลมและธาตุไฟ ทุกอย่างก็จะสลายคืนธรรมชาติ ด้วยเหตุนี้จึงเห็นได้ว่า "นะโม" นอกจากจะแปลตรงตัวว่า "นอบน้อม" แล้วยังมีความหมายเชิงลึกเช่นนี้อีกด้วย
อย่างไรก็ตาม หากคำว่าผวน "นะโม" จะได้ว่า "มโน" แปลว่า "ใจ" ตรงนี้ก็ต้องยกพุทธพจน์ว่า "มโนปุพฺพงฺคมา ธมฺมา มโนเสฎฺฐา มโนมยา" หมายถึง "ธรรมทั้งหลายมีใจถึงก่อน มีใจเป็นใหญ่ สำเร็จแล้วด้วยใจนั่นเอง"

"โพธิสัตโต" ก็คือ พระโพธิสัตต์ ในที่นี้หมายถึง หลวงปู่ทวด ท่านเป็นพระโพธิสัตว์ มีเมตตาต่อสรรพสัตว์

"อิติภะคะวา" กร่อนมาจากบทสรรเสริญพระพุทธคุณ ที่ว่า "อิติปิโส ภะคะวา อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ วิชชาจะระณะสัมปันโน สุคะโต โลกะวิทู อะนุตตะโร ปุริสสะทัมมะสาระถิ สัตถา เทวะมนุสสานัง พุทโธ ภะคะวาติ" ซึ่งแปลความได้ดังนี้
อิติปิ โส ภะคะวา หมายถึง เพราะเหตุอย่างนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น
อะระหัง หมายถึง เป็นผู้ไกลจากกิเลส
สัมมาสัมพุทโธ หมายถึง เป็นผู้ตรัสรู้ชอบโดยพระองค์เอง
วิชชาจะระณะสัมปันโน หมายถึง เป็นผู้ถึงพร้อมด้วยวิชชาและจรณะ
สุคะโต หมายถึง เป็นผู้ไปแล้วด้วยดี
โลกะวิทู หมายถึง เป็นผู้รู้โลกอย่างแจ่มแจ้ง
อะนุตตะโร ปุริสสะธัมมะสาระถิ หมายถึง เป็นผู้สามารถฝึกบุรุษที่สมควรฝึกได้ อย่างไม่มีใครยิ่งกว่า
สัตถาเทวะมนุสสานัง หมายถึง เป็นครูผู้สอนของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย
พุทโธ หมายถึง เป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบานด้วยธรรม
ภะคะวาติ หมายถึง เป็นผู้มีความเจริญจำแกธรรมสั่งสอนสัตว์
ในการท่องคาบทอิติปิโสฯ นั้น หากท่องจากข้างหลังมาข้างหน้า จะเรียกว่า "บทอิติปิโสฯ แบบ ปฏิโลม" หรือท่องถอยหลัง มีคติความเชื่อว่า พุทธคุณจะเหนือกว่าท่องตามปกติ การท่องถอยหลังมีดังนี้

"ติ วา คะ ภะ โธ พุท นัง สา นุส มะ วะ เท ถา สัต ถิ ระ สา มะ ทัม สะ ริ ปุ โร ตะ นุต อะ ทู วิ กะ โล โต คะ สุ โน ปัน สัม ณะ ระ จะ ชา วิช โธ พุท สัม มา สัม หัง ระ อะ วา คะ ภะ โส ปิ ติ อิ ฯวิช โธ พุท สัม มา สัม หัง ระอะ วา คะ ภะ โส ปิ ติ อิ"

อย่างไรก็ตาม คาถาหลวงปู่ทวดที่ว่า “นะโม โพธิสัตโต อาคันติมายะ อิติภะคะวา” จะใกล้เคียงกับคาถาขอขมาพระโพธิสัตว์กวนอิมที่ว่า "นะโมโพธิสัตโต นะโมพุทธายะ อิติสุขะโต อะระหังพุทโธ อาคันติมายะ นะมะพะทะ นะโมพุทธายะ พุทธะรัตตะนัง ปะถะวีคงคา ธัมมะรัตตะนัง พระภุมมะเทวา อิติภะคะวา สังฆะรัตตะนัง ขะมามิหัง"

นอกจากนี้แล้ว เพื่อเพิ่มความเข้มขลังของคาถาหลวงปู่ทวด ยังมีการเพิ่มคาถาหัวใจพระเจ้า ๕ พระองค์ไว้ด้านหน้าและด้านหลัง กลายเป็น "คาถาหลวงปู่ทวดเปิดโลก" คือ “นะ เปิด โม เปิด พุท เปิด ธา เปิด ยะ เปิดโลกด้วย นะโมโพธิสัตโต อาคันติมายะ อิติภควา ยะธาพุทโมนะ” ทั้งนี้ในส่วนของคาถาบทหลังนั้น เป็นการท่องคาถาพระเจ้า ๕ พระองค์แบบถอยหลังที่ว่า “ยะ ธา พุท โม นะ”

คาถาพระเจ้า ๕ พระองค์ หรือ คาถาแม่ธาตุใหญ่ ที่ว่า “นะ โม พุท ธา ยะ” ซึ่งมีพุทธคุณเหนือยันต์ทั้งปวง รวมทั้งความเชื่อสืบต่อกันว่า "ผู้ใดที่ท่องหรือบริกรรมพระคาถาบทนี้ ด้วยจิตอันสงบและมั่นคงแล้ว จะมีพุทธคุณคุ้มครองครอบจักรวาล" หรืออาจกล่าวอีกนัยหนึ่งคือ "มีพุทธคุณครบทุกด้าน เช่น เมตตามหานิยม แคล้วคลาด ป้องกันภัย มหาเสน่ห์ มหาอุด รวมทั้งไล่ภูตผี และใช้กันเสนียดจัญไรได้อีกด้วย"

ขอขอบคุณบทความดีๆจาก หน้าพระเครื่อง นสพ.คมชัดลึก วันที่ 7 ก.พ.2554

 

นะโม โพธิสัตโต อาคันติมายะ อิติภะคะวา
​

 

จัดองค์ประกอบของรูปได้สวยมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

 

สวัสดีทุกท่าน บอร์ดเงียบ ๆ จังเลยครับช่วงนี้ เดือนนี้กับเดือนหน้า ผมไม่ว่างเลยครับ มาอัพเดตข้อมูลได้ประมาณเดือนเมษา ครับ :boo:

 

ขอบคุณความรู้ดี ที่มีคุณ ครับท่านรองฯ



แล้วไม่ทราบว่าองค์นี้นิมนต์มาจากวัดไหนครับ
อย่าบอกว่า มาจากอาจารย์ทอง ปี 05 วัดช้างไห้นะครับ อิอิ

 

อูหู ข้อมูลเพียบ..ได้ความรู้เพิ่มเยอะ........^^

 

สวัสดียามค่ำค่ะ
เข้ามาอ่านได้ความรู้มากเลยค่ะ..
“นะ โม พุท ธา ยะ” ซึ่งมีพุทธคุณเหนือยันต์ทั้งปวง
"มีพุทธคุณครบทุกด้าน เช่น เมตตามหานิยม แคล้วคลาด ป้องกันภัย มหาเสน่ห์ มหาอุด รวมทั้งไล่ภูตผี และใช้กันเสนียดจัญไรได้อีกด้วย"

ท่องสม่ำเสมอค่ะ....สวดคาถาหลวงปู่ทวด หลวงปู่ดู่...

 

สมเด็จเจ้าพะโคะ หลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืด ณ ดินแดนล้านนา

"ปู่ทวด สามครูบา"



สมเด็จเจ้าพะโคะ หรือ หลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืด มหาเถรยุคอโยธยาหลายร้อยปีก่อน
เป็นที่เคารพนับถือของสาธุชนไปทั่วประเทศ ท่านเป็นพระมหาโพธิสัตว์ใหญ่ บารมีล้นฟ้าเหนือดิน
สั่งสมบารมีธรรม จะอุบัติเป็นพระพุทธเจ้าในอนาคตในพระนาม พระศรีอาริยเมตไตรยพุทธเจ้า
ถิ่นฐานกำเนิดตำนานของท่านอุบัติขึ้นบนดินแดนลังกาสุกะ ภาคใต้ของประเทศไทย
แต่ด้วยบารมีท่าน ก็ได้แผ่มาปกคลุมคุ้มครองเป็นที่สักการบูชาของผู้คนในดินแดนล้านนาเช่นกัน

หลวงปู่ทวด รุ่นนี้สถาปนาขึ้นบนดินแดนล้านนา ปลุกเสกอัญเชิญบารมีโดยมหาเถรชาวล้านนา
ในนามที่ว่า สามครูบา สื่อถึงพระอริยคณาจารย์ครูบา ๓ องค์ที่ร่วมกันปลุกเสก ได้แก่

- หลวงปู่ครูบาตั๋น ปัญโญ แห่งสำนักสงฆ์ม่อนปู่อิ่น อายุ ๙๘ วัสสา
- หลวงปู่ครูบาจันทร์แก้ว คันธสีโล วัดศรีสว่าง(วัวลาย) อายุ ๙๖ วัสสา (มรณภาพ)
- หลวงปู่ครูบาดวงดี ยติโก วัดบ้านฟ่อน อายุ ๙๖ วัสสา

ครูบาทั้งสามองค์ได้เมตตาปลุกเสกด้วยพุทธคุณ ธัมมคุณ สังฆคุณ ให้เป็นอย่างดีในฤกษ์ วันพระญาวัน
หรือที่รู้จักกันในนาม วันมหาสงกรานต์ ปีพุทธศักราช ๒๕๕๓ ที่ผ่านมา
ซึ่งตามคติความเชื่อของชนชาวล้านนาถือว่าวันนี้เป็นวันอุดมมงคลฤกษ์ ดีที่สุดแห่งปี
ด้วยเหตุนี้จึงเลือกวันนี้เป็นวันปลุกเสก ประจุธาตุ ประจุธรรม อัญเชิญญาณบารมีหลวงปู่ทวด เข้าสู่องค์พระ



รูปลักษณ์ขององค์พระ เป็นพิมพ์ทรงหลวงปู่ทวดนั่งขัดสมาธิบนดอกบัว ในมือถือลูกแก้วสารพัดนึก
เคล็ดของการอธิษฐานขอพร ให้สมตามความปรารถนาทุกประการ ด้วยบารมีของหลวงปู่ทวด
ด้านหลังปั้มชื่อว่า "ปู่ทวด สามครูบา" อันแสดงถึง หลวงปู่ทวด ที่ปลุกเสกโดยครูบาชั้นเอกแห่งล้านนาสามองค์
สร้างด้วยผงมหามวลสารอันเป็นมงคลมากมายอย่างล้วนๆ มีเพียงกาวเท่านั้นเป็นตัวประสาน
มีทั้งผงพุทธคุณ ผงวิเศษ ผงว่าน ผงเกสร ผงมวลสารจากสถานที่ศักดิ์สิทธิ์หลายแห่ง
พร้อมด้วยผงอัญมณี หินอันมีค่า อาทิ หยก เป็นเนื้อหลัก หากส่องดูเนื้อพระแล้ว ระยิบระยับจับตา
และที่สำคัญยังมีผง อัฐิธาตุ อังคารธาตุ เกศาธาตุ แห่งพระอริยคณาจารย์ผู้ทรงคุณอันประเสริฐ กว่า ๑๐๘ องค์ อาทิ
๑.สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก ๒.สมเด็จพระมหามุนีวงศ์ ๓.สมเด็จพระพุทธปาพจนบดี ๔.สมเด็จพระญาณวโรดม ๕.สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ ๖.ครูบาเจ้าศรีวิไชย สิริวิชโย ๗.ครูบาอภิชัย(ขาวปี) ๘.ครูบาเจ้าเกษม เขมโก ๙.ครูบาหน้อย ชยวังโส ๑๐.ครูบาคำหล้า สังวโร ๑๑.ครูบาคำแสน คุณาลังกาโร ๑๒.ครูบาอินทจักร อินทจักโก ๑๓.ครูบาพรหมจักร พรหมจักโก ๑๔.ครูบาอิน อินโท ๑๕.ครูบาชัยวงศาพัฒนา ๑๖.ครูบาศรีนวล ญาณสิริ ๑๗.ครูบาธรรมชัย ธัมมชโย ๑๘.ครูบาหล้า(ตาทิพย์) จันโท ๑๙.ครูบาเผือก ฐิตเมโธ ๒๐.ครูบาอินตา ธนักขันโธ ๒๑.ครูบาดวงดี สุภัทโท ๒๒.ครูบาดวงดี ยติโก ๒๓.ครูบาจันทร์แก้ว คันธสีโล ๒๔.ครูบาตั๋น ปัญโญ ๒๕.ครูบาทอง สิริมังคโล ๒๖.ครูบาพรรณ พรหมเสโน ๒๗.ครูบาข่าย อติโย ๒๘.ครูบาคำ ติสสวัณโณ ๒๙.ครูบาคำแสง อธิจิตโต ๓๐.ครูบาพรชัย วรปัญโญ ๓๑.ครูบาอินทร ปัญญาวัฒโน ๓๒.หลวงปู่แหวน สุจิณโณ ๓๓.หลวงปู่ตื้อ อจลธัมโม ๓๔.หลวงปู่ดูลย์ อตุโล ๓๕.หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี ๓๖.หลวงปู่ชอบ ฐานสโม ๓๗.หลวงปู่หลุย จันทสาโร ๓๘.หลวงปู่ฝั้น อาจาโร ๓๙.หลวงปู่สิม พุทธาจาโร ๔๐.หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ ๔๑.หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน ๔๒.หลวงปู่เจี๊ยะ จุนโท ๔๓.หลวงปู่จันทร์ กุสโล ๔๔.หลวงปู่ชา สุภัทโท ๔๕.หลวงปู่หลวง กตปุญโญ ๔๖.หลวงปู่ทองบัว ตันติกโร ๔๗.หลวงปู่แว่น ธนปาโล ๔๘.หลวงปู่ศรี มหาวีโล ๔๙.หลวงปู่สาม อกิญจโน ๕๐.หลวงปู่จาม มหาปุญโญ ๕๑.หลวงปู่พุธ ฐานิโย ๕๒.หลวงปู่บุญจันทร์ จันทวโร ๕๓.หลวงปู่บุญจันทร์ กมโล ๕๔.หลวงปู่หนู สุจิตโต ๕๕.หลวงปู่คำดี ปัญโญภาโส ๕๖.หลวงปู่อ่อนศรี ฐานวโร ๕๗.หลวงปู่ผ่าน ปัญญาปทีโป ๕๘.หลวงปู่สุภาพ ธัมมปัญโญ ๕๙.หลวงปู่รักษ์ เรวโต ๖๐.หลวงปู่จันทร์ศรี จันททีโป ๖๑.หลวงปู่ลือ ปัญโญ ๖๒.หลวงปู่สิงห์ทอง ปภากโร ๖๓.หลวงปู่ทา จารุธัมโม ๖๔.หลวงปู่คำพอง ติสโส ๖๕.หลวงปู่บุญฤทธิ์ ปัณฑิโต ๖๖.หลวงปู่พวง สุขินทริโย ๖๗.หลวงปู่ท่อน ญาณธโร ๖๘.หลวงปู่หลอด ปโมทิโต ๖๙.หลวงปู่มหาโส กัสสโป ๗๐.หลวงปู่สีทน สีลธโน ๗๑.หลวงปู่บุญเพ็ง กัปปโก ๗๒.หลวงปู่พวง สุวีโร ๗๓.หลวงปู่ฟัก สันติธัมโม ๗๔.หลวงปู่สังข์ สังกิจโจ ๗๕.หลวงปู่จันทร์แรม เขมสิริ ๗๖.หลวงปู่มหาเจิม ปัญญาพโล ๗๗.หลวงปู่แบน ธนกาโร ๗๘.หลวงปู่วิริยังค์ สิรินธโร ๗๙.หลวงปู่สอ พันธุโล ๘๐.หลวงปู่เคน สุภโร ๘๑.หลวงปู่เมตตาหลวง(สิงห์ สุนทโร) ๘๒.หลวงปู่พรหมา จันทสีโล ๘๓.หลวงปู่สังวาลย์ เขมโก ๘๔.หลวงปู่จันทรา ถามวโร ๘๕.หลวงปู่สุจินต์ สุจิณโณ ๘๖.หลวงปู่สีทัตถ์ สุวัณณมาโจ ๘๗.หลวงปู่ปัญญา ปัญญาวัฑโฒ ๘๘.หลวงปู่สรวง สิริปุญโญ ๘๙.หลวงพ่อพระมหาทองอินทร์ กุสลจิตโต ๙๐.หลวงพ่อประสิทธิ์ ปุญญมากโร ๙๑.หลวงพ่อเปลี่ยน ปัญญาปทีโป ๙๒.หลวงพ่อคำบ่อ ฐิตปัญโญ ๙๓.หลวงพ่อมหาปราโมชย์ ปาโมชโช ๙๔.หลวงพ่อวิชัย เขมิโย ๙๕.หลวงพ่อไพโรจน์ วิโรจโน ๙๖.หลวงพ่อทองปาน ปัญญาสโร ๙๗.หลวงพ่อประสงค์ สุสันโต ๙๘.หลวงพ่อจันดี เขมปัญโญ ๙๙.พระพุทธวรญาณ(มงคล) ๑๐๐.หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ ๑๐๑.หลวงปู่ทิม อิสริโก ๑๐๒.หลวงปู่ชื้น พุทธสโร ๑๐๓.หลวงปู่ชื่น ติคญาโณ ๑๐๔.หลวงปู่สุภา กันตสีโล ๑๐๕.หลวงปู่ทรง ฉันทโสภี ๑๐๖.หลวงพ่อกวย ชุตินธโร ๑๐๗.หลวงพ่ออุตตมะ อุตตมรัมโภ ๑๐๘.หลวงตาวรงคต วริยธโร(หลวงตาม้า)

มาถึงตรงนี้แล้ว พระรุ่นนี้สามารถห้อยเดี่ยว ไม่หนักคอเปล่า ไม่อายใคร พุทธคุณบารมีเต็มร้อย
ผู้เขียนจึงอยากให้พระรุ่นนี้เป็นอีกรุ่นหนึ่งที่ผู้ศรัทธาควรมีไว้สักการบูชา ปกป้องคุ้มครอง ทั้งตนเองและครอบครัว รวมถึงคนรอบกาย
และที่สำคัญ พระรุ่นนี้แจกฟรี ดังพระสมเด็จ ของเจ้าพระคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี ที่ท่านแจกพระฟรีๆ พระท่านจึงมีพุทธคุณเหนือฟ้าเหนือแผ่นดินขนาดนี้

ผู้ใดศรัทธา และอยากมีพระรุ่นนี้ไว้คุ้มครองตน ขอรีบรีบขวนขวายหาพระรุ่นนี้มีอารธานาขึ้นคอไว้เสียเถิด

นโม โพธิสัตโต อาตันติมายะ อิติพะคะวา
ขอบารมีธรรมสมเด็จเจ้าพะโคะ หลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด ผู้มีบารมีเต็มเหลือฟ้าล้นแผ่นดิน
จงปกปักรักษาผู้ประพฤติธรรม และผู้เคารพองค์ท่านด้วยใจจริงด้วยเถิด

สายครูบา...๘ กพ. ๒๕๕๔

 

หลวงปู่ทวด อ.ชุม ไชยคีรีครับท่าน

 

สุดยอดดด

หลวงปู่ทวด 2497 อาจารย์ชุม ไชยคีรี หรือป่าวครับ ครบครันด้านพิธีกรรมแห่งพุทธาคมเขาอ้อ เกจิสายเขาอ้อ เก่ง ๆ เสกกันเป็นร้อยรูป สุดยอด ๆ (ออกหลังจาก วัดช้างให้ 97 3เดือนได้ครับ)

 

ไม่รู้ว่าเคยนำมาให้ดูกันหรือยัง
เห็นบอร์ดไปเรื่อยๆ
หลวงปู่ทวดในบัว
ไม่ทราบประวัติครับ

 

ไม่มั่นใจว่าเป็นองค์เดียวกกับ หลวงพ่อบัว วัดสารวัน หรือป่าวครับ

 

ตามรูปยืมรูปจากเน็ตแทนครับ ตอนโพสต์ใช้คอมอีกเครื่องหนึ่ง ที่ใช้อยู่เป็นองค์นี้ครับ

 

เข้ามาชมหลวงปู่งดงามทั้งนั้นเลยค่ะ
*หลวงพ่อทวดเนื้อว่านวัดเมืองยะลาก็งดงามนะคะ
ท่านดูยิ้มงดงาม... กรุที่บ้านไม่มีค่ะ
ดูภาพจากหนังสือนะคะ

หลวงพ่อทวดวัดเมืองยะลาสร้างเมื่อพ.ศ.๒๕๐๕
มีสามพิมพ์
-พิมพ์ใหญ่พิเศษ
-พิมพ์ใหญ่
-เล็กพิมพ์เล็ก


*ในภาพคือพิมพ์ใหญ่

สมาชิกท่านใดมีพระของวัดเมืองนำมาให้ชมบ้างนะคะ

​

 

เหรียญหลวงพ่อทวด วัดช้างให้ จ. ปัตตานี ปี 22



นับแต่พระอาจารย์ทิมมรณภาพไปตั้งแต่ปี พ.ศ. 2512 ที่วัดช้างให้ก็ไม่ได้มีการสร้างหลวงพ่อทวดขึ้นอีกเลย จนมาสร้างอีกครั้งเมื่อ พ.ศ. 2522 ครั้งนั้นมีพระเครื่องหลวงพ่อทวดสร้างขึ้นหลายแบบด้วยกัน เช่น พระเนื้อว่าน แบ่งออกเป็นพิมพ์กรรมการ พิมพ์ใหญ่ พิมพ์กลาง และก็พิมพ์พระรอด สำหรับหลวงพ่อทวดเนื้อว่านปี 22 วงการจะเรียกกันว่า “หลวงพ่อทวดปี 24” ทั้งนี้ก็เพราะว่าเมื่อสร้างและปลุกเสกเสร็จแล้ว ทางวัดได้เปิดให้ทำบุญไประยะหนึ่งแล้วยังมีพระเหลืออีกจำนวนมาก ทางวัดจึงได้ไปว่าจ้างโรงงานทำกล่องพลาสติกบรรจุพระเมื่อ พ.ศ. 2524 ที่กล่องพลาสติกใส่ปี พ.ศ. 2524 เอาไว้ จึงทำให้มีการเข้าใจผิดและเรียกหลวงพ่อทวด รุ่นนี้ว่าปี 24 ดังกล่าว นอกจากหลวงพ่อทวดเนื้อว่านแล้ว ครั้งนั้นยังได้สร้างวัตถุมงคลหลวงพ่อทวดแบบอื่นด้วย เช่นรูปเหมือนลอยองศ์เนื้อโลหะ รูปเหมือนพิมพ์สามเหลี่ยม เหรียญเสมา เหรียญหัวแหวน เหรียญหยดน้ำ และเหรียญเม็ดแตง เป็นต้น ส่วนเหรียญเม็ดแตงและหยดน้ำ จะมีส่วนที่ลงยาและไม่ลงยา เป็นต้น ส่วนพระเกจิอาจารย์ที่มาร่วมปลุกเสกก็มี หลวงพ่อดำ วัดตุยง พ่อท่านหมุน วัดเขาแดงตะวันออก หลวงพ่อสอน วัดปิยาราม พระอาจารย์นอง วัดทรายขาว ฯลฯ กล่าวกันว่าเหรียญหลวงพ่อทวด วัดช้างให้ พิมพ์ต่างๆเหล่านี้ แต่ก่อนไม่ค่อยได้รับความสนใจเท่าที่ควร เนื่องจากคนส่วนใหญ่ไปสนใจแต่พวกเนื้อว่านกัน มาปัจจุบันก็มีคนหันมาสนใจกันมากกว่าแต่ก่อน เพราะว่าประสบการณ์ก็เป็นที่กล่าว ขวัญกันมากว่าเยี่ยม ส่วนราคาก็ไม่แพงครับ เอาเป็นว่า น่าจะอยู่ประมาณหลักร้อยกลางๆไปจนถึงพันกว่าบาทขึ้นอยู่กับพิมพ์

 

อาจารย์จงอางคะ แม้แต่แผ่นพับก็ไม่กล้าทิ้งค่ะ
ถ้าเป็นหลวงปู่ทวดจะเก็บไว้ค่ะ.....

​

 

สวัสดีครับ คุณนวล และเพื่อนๆ สมาชิกทุกท่าน
ขอบารมีหลวงปู่ทวด จงอำนวยพรให้ ลูกๆ หลานๆ ปลอดภัย ตลอดไป

 

สุดย๊อดดดดครับ องค์นี้

ผมเองก็ใช้พระผงคงไชยชุม (หลวงพ่อคง วัดบ้านสวน พระอาจารย์ไชย วัดบ้านสวน อาจารย์ชุม) อยู่เหมือนครับ ประมาณปี 12-13 แล้วก็ พระอาจารย์ทองเฒ่า ออกวัดบ้านสวน ปี 11 ทั้ง 2 รุ่น พิธีกรรมใหญ่ เจตนาดี เนื่องจากสร้างแจกทหารสมัยปราบคอมฯ และบางส่วนบูรณะวัดบ้านสวน เกจิที่ปลุกเสกก็สุดยอดทั้งนั้นเลยครับ โดยเฉพาะ พระอาจารย์ปาล วัดเขาอ้อ :cool:

 

หลวงพ่อทวด....วัดพะโคะ............2543.......................................