อ่านเจอมาค่ะ.......
อำนาจบาตรใหญ่
ในสมัยพระโคตมพุทธเจ้าของเรานี้ ยังมีบุตรปุโรหิตตระกูลพราหมณ์ของพระเจ้าอุเทนแห่งนครโกสัมพีอยู่คนหนึ่ง นามว่า ภารทวาชะ เมื่อเขาเจริญวัยขึ้น ก็ศึกษาคัมภีร์ไตรเพททั้ง 3 เล่มจนจบ และได้สอนมนตร์ให้แก่ลูกศษย์ที่เป็นมาณพจำนวน 500 คน แต่ทว่า ภารทวาชะนั้นมีนิสัยที่ไม่ดีอยู่ประการหนึ่งเป็นประจำตัว นั่นก็คือ เขาเป็นคนที่จะกละ ตะกละในการกิน มักมากในการบริโภค เวลาที่เดินทางไปรับภิกขาจาร (การเที่ยวขออาหาร) ภารทวาชะก็จะนำบาตรที่มีขนาดใหญ่มากกว่าปรกติไปด้วย พร้อมกับทำการรับอาหารของเหล่ามาณพทุกคนด้วยตัวเอง และไม่ว่าจะไปที่ใด ภราทวาชะก็จะเที่ยวหาข้าวต้ม ข้าวสวย และของรับประทานกับเหล่ามาณพเสมอ ที่ไหนเดินทางไปแล้วและภิกขาจารได้ก็จะเดินทางไปอีก จนชาวบ้านต่างรู้และต้อนรับเพียงแค่ข้าวถ้วยเดียวเท่านั้น (ในอินเดีย มีผู้ที่นับถือศาสนาฮินดูอยู่เป็นจำนวนมาก การต้อนรับและให้ทานแก่พราหมณ์ถือเป็นการทำบุญเช่นเดียวกับศาสนาพุทธเรา ที่ใส่บาตรพระสงฆ์)
เหล่ามาณพที่เป็นศิษย์ทนเห็นความประพฤติที่ไม่น่าเลื่อมใสของผู้เป็นอาจารย์ ต่างก็บังเกิดความเบื่อหน่ายและพากันออกจากสำนัก เมื่อถูกเหล่าลูกศิษย์ทิ้ง ภราทวาชะก็กลายเป็นคนสิ้นเนื้อประดาตัว เมื่อไม่เห็นทางทำมาหากินแล้วจึงเดินทางไปยังนครราชคฤห์ ที่ซึ่งขณะนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าของเราประทับอยู่ เมื่อภราทวาชะเดินทางมาถึง ก็เห็นว่าพระพุทธเจ้าและเหล่าภิกษุสงฆ์ของเรา ต่างได้ลาภสักการะเป็นอันมาก ภัตตาหารก็อุดมสมบูรณ์ จึงตัดสินใจขอเข้าบวชในพระศาสนา ด้วยความประสงค์เพียงแค่จะได้อาหาร (- -)
เมื่อท่านภารทวาชะบวชเป็นภิกษุแล้วก็ได้นามทางบาลีว่า ปิณโฑละ แปลว่า เที่ยวแสวงหาก้อนข้าว เพราะเนื่องจากท่านบวชเพื่อต้องการภัต (ก้อนข้าว) พระปิณโฑละเมื่อมาอยู่ในพุทธศาสนาแล้วก็ยังเป็นผู้ที่ไม่รู้ประมาณในการบริโภคอยู่เช่นเคย เวลาที่ออกบิณฑบาตก็จะถือเอาบาตรขนาดใหญ่เที่ยวบิณฑบาต ในการรับภัตท่านก็จะรับจนเต็มบาตร เวลาบริโภคไม่ว่าจะข้าว ข้าวยาคู ขนม ก็จะบริโภคอย่างเต็มภาชนะ ภิกษุทั้งหลายจึงกราบทูลพระศาสดาในการที่ท่านไม่ประมาณการบริโภค ฉันอาหารมากเกินพอดี พระศาสดาจึงไม่ทรงอนุญาตให้ถลกบาตรแก่ท่าน (ถลกบาตร คือ ถุงใส่บาตรที่มีสายคล้องบ่า ช่วยให้พระไม่ต้องอุ้มบาตรเวลาที่บาตรร้อน เพราะมีข้าวสุกอยู่) เพื่อไม่ให้ท่านสามารถรับภัตได้ครั้งละมาก ๆ แทกครั้งที่พระปิณโฑละฉันภัตเสร็จ หลังจากล้างบาตรแล้ว เวลาที่จะวาง ท่านก็จะคว่ำบาตรลงแล้วไสดันไปไว้ที่ใต้เตียง เมื่อถึงเวลาที่จะบิณฑบาต ก็จะลากบาตรครูดพื้นออกมา การที่บาตรถูกครูดกับพื้นไปมาอยู่อย่างนั้น เมื่อนานวันเข้าขอบปากบาตรก็สึกกร่อนลงไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งบาตรของท่านเหลือเกือบจะเหมือนแผ่นกระเบื้อง ที่สามารถรับภัตได้เพียงแค่ข้าวสุก 1 ทะนาน (ประมาณ 8 อุ้งมือตัก) เท่านั้น เมื่อภิกษุทั้งหลายเห็นดังนั้น จึงกราบทูลเรื่องที่เห็นกับพระศาสดา พระพุทธเจ้าจึงทรงอนุญาตให้ถลกบาตรแก่ท่านอีกครั้ง ต่อมาไม่นานท่านก็ได้สำเร็จบรรลุพระอรหันต์
จากเรื่องนี้เองครับ ที่เป็นที่มาของสำนวนไทยที่ว่า บาตรใหญ่ เพราะเนื่องจากที่ท่านปิณโฑละ ถือบาตรขนาดใหญ่เที่ยวขอภิกขาจาร คำว่า บาตรใหญ่ หมายถึง อำนาจที่ใช้ในทางข่มขี่ มักใช้คู่กับคำว่า อำนาจ เป็นคำว่า อำนาจบาตรใหญ่ อำนาจในที่นี้ก็มาจากตอนที่ท่านปิณโฑละยังเป็นพราหมณ์ เป็นอาจารย์ของเหล่ามาณพ แน่นอนว่าท่านย่อมมีอำนาจกว่าลูกศิษย์ ที่เห็นได้จากเวลาที่ท่านรับภิกขาจาร ท่านก็จะรับอาหารของลูกศิษย์ทั้งหมดด้วยตัวเอง อย่างนี้ไม่เรียกว่า ใช้อำนาจ (ในความเป็นอาจารย์) (ใช้) บาตรใหญ่ (กว่าลูกศิษย์) แล้วจะเรียกว่าอะไรล่ะครับ
ที่มา..PABOONMA.com: สำนักพิมพ์พาบุญมา เว็บบอร์ด • แสดงกระทู้ - อำนาจบาตรใหญ่
ใครศรัทธา หลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืด มาพูดคุยกันครับ
ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย คุณสนุก, 4 พฤศจิกายน 2010.
หน้า 184 ของ 1262
-
nuanhadyai@hotmail เป็นที่รู้จักกันดี
-
หลวงปู่ทวดเนื้อว่านดำปิดทอง หลังยันต์เกาะเพชร พร้อมผ้ายันต์
วัดห้วยมงคล ปี 2547
-
-
สัทธา ทานัง อนุโมทามิ
อนุโมทนาค่ะ -
เพื่อนเล่าให้ฟัง คุยกันหลายเรื่อง ระบายความในใจ เราก็ฟัง ก็เข้าใจดี เพราะเกิด
ในพื้นที่
เป็นเพื่อนที่่เรียนมาด้วยกันตอนเดกๆ เป็นรุ่นพี่เรา 1ปี เรียนไปเรียนมา เป็นรุ่นน้องเรา1ปี
ปล. เครื่องรางบางรุ่นอาจได้จริง แต่บางรุ่นก็ไม่ได้จริงๆ กลายเป็นรุ่นดังไปเพราะหายาก ต้องมาอยู่ในพื้นที่เอง ถึงรู้ ^^
ครับ พวกเจ้าหน้าที่ ข้าราชการ ในพื่นที่ก็น่าสงสาร
หลายคน ทำเพื่อชาติจริงๆ ชาวบ้าน ที่สัมพัส ก็รักยิ่งกว่า
ญาติเสียอีก แต่ก็นั่นแหละ ชีวิตใคร ใครก็รัก ปฏิบัติ หน้าที่มาตั้งนาน
น่าจะ ย้ายให้เขาไปอยู่ที่สบายบ้าง ก็ตามที่ จ่า.พ.แกขึ้นไปขอความเปนธรรม
ที่ กทม แต่ก็เงียบ ตามข่าวนั่นแหระ เฮ้อ
<table id="post4423702" class="tborder" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr valign="top"><td class="alt2" style="border-width: 0px 1px; border-style: none solid; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255);" width="175">
โมทนาสาธุ ครับเสี่ยพงษ์ ส่วนใหญ เดกพวกนี้มาจากภาคอื่นด้วยครับ น่าเห็นใจมาก รู้สึกตื้นตันใจแทนทหารครับ
^^จริงๆนะครับ
ปลุกเสกยังไม่นานเท่าไหร่ ก็เช่าหากันได้แระ แต่แพงหน่อย คิดๆเอามาจากไหน เขาสร้างแจกทหารมิใช่หรือ
แต่ใจนึงก็คิดบางรุ่นอาจแจกจริงแต่ พวกผลทหาร มาทำหน้าที่ในพื่นที่
เข้าใจว่าครึ่งปี ถ้าจำไม่ผิด อาจจะไม่ทันรุ่นที่เขาทำพระแจกก็เปนได้เลยไม่มี เพราะสับเปลี่ยนกำลังบ่อย
สุดท้าย นี้ ที่ผมพิมพ์มาเยอะ..เพราะ ตอนที่ผ่านไปแถวระหว่างอ.ธารโต- อ.บันนังสตา ทหาร ยืนเฝ้าระวัง ข้างถนน ..จุดละ 1 คนห่างกัน คนละ50เมตรได้..
เหมือนยืนโดดเดี่ยว เวลาขับรถผ่าน แล้วมองไป เวลาขับรถผ่านต่างคนต่างมองหน้ากันครับ
ผมก็พยายามยิ้มให้นะ. เห็นสีหน้า ของแต่ละคนรู้เลยครับว่ามีความกังวลใจ ผ่านทุกทีก็เห็นสีหน้าแบบนี้ทุกที อบากให้พวกนายพล มายืนแทนที่ซัก สองชั่วโมง เล่าแค่นี้แหระ จากคนพื้นที่สีแดงแจ๊ดดดด ๆ
</td> </tr></tbody></table> -
-
เหรียญปู่ทวด ขี่คอ อาจารย์จำเนียน วัดต้นเลียบ
เหรียญพุทธซ้อน หลวงปู่ทวด วัดช้างให้ ปี2539 บล็อคนิยม
-
รบกวนช่วยดูให้ด้วยครับว่าวัดไหน
ขอบคุณครับไฟล์ที่แนบมา:
-
-
ใช่ครับ รุ่นนี้
เหรียญหลวงตาแดง วัดศรีมหาโพธิ์ ปี 38 ประสบการณ์ปาระเบิดงานประชุมอะไรซักอย่าง เกิดประสบการณ์พร้อมพระยายเขียด คนในเหตุการณ์เล่าว่า เห็นวัยรุ่นขับจยย. เวียนไปเวียนมาแล้วก็โยนระบิดใส่เลย ... แต่ด้าน
คือโยนแม่นมาก ตกลงที่เท่าลุงแกพอดี (ลุงคนนี้แขวนพระยายเขียด หาเรื่องของแกอ่านได้จากใบฝอยวัดยางแดง) -
จำลองมาจากท่านั่งของท่านครับไฟล์ที่แนบมา:
-
-
-
-
-
-
ขอกราบนมัสการหลวงปู่ครับ
รูปนี้ผมก็ได้ตอนเดินทางไปกราบหลวงปู่ พร้อมลูกอม แต่หลวงปู่ท่านจำวัดเลยไม่ได้รอ มาได้กราบท่านอีกครั้งที่วัดป่ากอ รูปนี้เลยใส่กรอบบูชา ส่วนลูกอมก็แจกพี่ท่านหนึ่งที่เจอมาเลี่ยมพระใต้พานลอย แกบอกว่าเป็นทหารอยู่ สามจังหวัด ไม่รุ้ป่านนี้พี่ท่านนั้นจะมีประสบการณ์ไรมัง อิอิ -
-
อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ -
เหรียญหลวงพ่อพระวัดยายเขียด พ.ศ.2536
อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี
------------------------------------------------------------
ขออนุญาต นำข้อความที่เจ้าของโพสไว้ ประกอบอีกครั้ง ขอรับ
พระยายเขียด วัดนิคมย์สถิต(วัดยางแดง) หรือครับ อยู่อ.โคกโพธิ์ ครับใกล้ ๆวัดนาประดู่ ทางไปวัดช้างให้ น่ะแหละครับ แต่เวลาไปวัดยางแดงอย่าเลี่ยวผิดทางเชี่ยวนะครับเดี่ยวหลุดไป บ้านกะพ้อ ตรงนั้นแหละแหล่งกบดาบของโจรใต้ อันตรายอย่าบอกใครเชียว
วัดนี้มีพระพุทธรูปศักดิ์สิทธ์ประจำวัดอยู่ 1 องค์ คือ พระยายเขียดเหตุที่เรียกพระยายเขียด เพราะคนพบพระพุทธรูปองค์นี้ คือ คุณยายเขียดชาวบ้าวเลยเรียกติดปากว่า พระยายเขียด เรื่องมีอยู่ว่าคุณยายเขียด ชาวบ้านท่าเรืออำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี ได้ออกจากบ้านไปหาปลาได้พาชะนางซึ่งเป็นเครื่องมือหาปลาชนิดหนึ่ง ช้อนหาปลาตามแหล่งน้ำเผอิญวันนั้นคุณยายเขียดช้อนปลาไม่ได้เลย แต่ช้อนได้พระพุทธรูปองค์หนึ่งพากลับบ้านและนำไปถวายพระภิกษุองค์หนึ่ง ขณะนั้นจำพรรษาอยู่ที่วัดท่าเรือใกล้ๆบ้านคุณยายเขียดนั้นเอง หลายปีต่อมาวัดท่าเรือไม่มีพระภิกษุจำพรรษา จึงเป็นวัดร้างพระภิกษุรูปนั้นได้ไปจำพรรษาที่วัดมะกรูดพร้อมด้วยพระพุทธรูปยายเขียดอยู่ได้หลายพรรษา พระภิกษุรูปนั้นมีความประสงค์ที่จะสร้างกุฏิที่วัดมะกรูดนั้นจึงได้เดินทางมาที่วัดยางแดง สมัยนั้นเป็นหมู่บ้านเล็กๆได้สร้างที่พักชั่วคราวขึ้นเพื่อแปรรูปไม้ต่อมามีประชาชนเข้ามาจับจองที่ดินสร้างบ้านเรือนโรงแปรรูปไม้ได้กลายเป็นที่พักสงฆ์เพื่อให้ญาติโยมถวายสังฆทานในวันพระเป็นประจำต่อมาได้กลายเป็นสำนักสงฆ์ และเป็นวัดยางแดงโดยสมบูรณ์เมื่อ พ.ศ. ๒๔๑๙และพระพุทธรูปยายเขียดนี้ได้ตกอยู่ที่วัดยางแดงจนตราบเท่าทุกวันนี้ต่อมาการแบ่งเขตตำบลได้เปลี่ยนแปลงมา วัดยางแดงเปลี่ยนชื่อมาเป็นวัดนิคมสถิตย์(ยางแดง) มาขึ้นกับหมู่ที่ ๔ ตำบลนาประดู่อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี ดังที่เป็นอยู่ทุกวันนี้
อภินิหารพระพุทธรูปยายเขียดมีอภินิหารทางสัจจะเป็นที่ยำเกรงของพวกทุจริตชนเป็นอันมาก กล่าวคือ เมื่อผู้ใดกระทำผิดกับบุคคลอื่นเช่น ลักขโมย ฉ้อโกง หรือยักยอกทรัพย์สินผู้อื่นเมื่อเจ้าของทรัพย์นำตัวมาสาบานต่อหน้าพระพุทธรูปยายเขียดองค์นี้แล้วส่วนมากผู้กระทำผิดมักจะมีอันเป็นไปตามคำสาบานนั้น ถ้าบุคคลใดไม่มีความผิดก็มักจะไม่มีอะไรเกิดขึ้น พระพุทธรูปยายเขียดผสมว่านและผงศักดิ์สิทธิ์จากที่ต่างๆซึ่งผสมว่าน ๑๐๘ ผล อักขระพระธรรมขันธ์ ๘๔,๐๐๐ พระธรรมขันธ์, ผงตรีนิสิงเห, สัตตนาเค, ผงเกสรดอกไม้ ๑๐๘, ผงลูกไม้คนธรรพ์เป็นหิน, ดอกบัวหลวงเป็นหิน, ข้าวสารดำเป็นหิน, ผลเปลือกรากต้นดอกลูกพันธุ์พญาไม้ซึ่งมีอภินิหารคุ้มครองป้องกันภัยนาๆ คงกระพันชาตรีแคล้วคลาดอาวุธ เมตตามหานิยมขอเป็นน้ำมนต์สะเดาะก้างปลาติดคอ สะเดาะคลอดลูกง่ายพระพุทธรูปยายเขียดทำพิธีปลุกเสกโดยพระครูวิสัยโสภณ(ท่านอาจารย์ทิม) วัดช้างให้ปลุกเสกเมื่อวันที่ ๑๔ กรกฎาคม ๒๕๐๕ ตรงกับวันเสาร์ ขึ้น ๑๓ ค่ำ เดือน ๘และได้ปลุกเสกใหม่เมื่อวันที่ ๒๑ มิถุนายน ๒๕๓๖ มีทั้งเหรียญ, ว่านและพระบูชาการปลุกเสกพระพุทธรูปยายเขียด จัดดอกไม้ธูปเทียน บูชาพระรัตนตรัย คุณบิดามารดาครูบาอาจารย์ ว่านะโม ๓ จบนำพระเครื่องพระพุทธรูปยายเขียดอย่างใดอย่างหนึ่งที่มีอยู่ ประนมมือเหนือหน้าอกสงบสติบริกรรมคาถาปลุกเสก ดังนี้
“ พุทธังแคล้วคลาด ธัมมัง แคล้วคลาด สังฆัง แคล้วคลาด พระพุทธเจ้าย่างบาท แคล้วคลาดศัตรูอิติปิโสภควา”
พระยายเขียดวัดยางแดง เป็นพระเครื่อง top 10 ที่มีประสบการณ์สูงมากครับในพื้นที่จังหวัดปัตตานี
เมื่อก่อนไม่มีใครสนใจครับจนกระทั่งมีคนแขวนพระยายเขียด ปี 36 โดนยิงกะบาลด้วยอาวุธสงคราม ไม่เข้ากระโหลกศรีษะไม่แตก ไม่ตาย เลยดังขึ้นมาครับและก็มีประสบการณ์การปาระเบิดแต่ระเบิดไม่ทำงานโดยหาสาเหตุไม่ได้พระยายเขียดจึงดังกระทึ่มดังแต่นั้นเป็นต้นมาเลยครับ พระยายเขียด รุ่นแรก ปี 05 ได้รับการปลุกเสกจากยอดเกจิอาจารย์ในยุคนั้น เช่น พระอาจารย์ทิม พ่อท่านคล้าย ฯแค่สองรูปนี้ก็สุดยอดแล้วครับ ราคาแค่หลักร้อยต้น ๆ หรือพันต้น ๆ เท่านั้นเองครับพระยายเขียด รุ่น 2 ปี 36 ก็ร้อยต้น ๆ ครับ
วัดยางแดง เคยถูกผู้ก่อความไม่สงบจะมาเผาหลายครั้งแต่ไม่เคยมาเผาได้สักครั้งเดี่ยว กล่าวกันว่า สิ่งศักดิ์สิทธ์พรางตาชาวบ้านเชื่อว่าเป็นเพราะความศักดิ์สิทธ์และอำนาจทิพย์ของพระยายเขียด
พระยายเขียดจัดเป็นพระเครื่องที่น่าสนใจมากครับ สร้างขึ้นด้วยจิตใจที่บริสุทธ์กรรมวิธีการสร้างก็พิธีพิถันตามแบบฉบับพระเกจิโบราณทั้งยังได้รับการปลุกจากพระเกจิอาจารย์ชื่อดังในยุคนั้นหลายรูปครับ เช่นพระอาจารย์ทิม วัดช้างให้ และ พ่อท่านคล้าย วัดสวนขัน เอาง่ายเลยครับการรวมเอาอำนาจจิตของพระเถระผู้สร้างพระเครื่องหลักล้าน + หลักแสนมารวมกันในพระเครื่ององค์เดี่ยวกันและสนนราคายังไม่แพงครับแค่หลักร้อยต้น ๆหรือหลักพันต้น ๆ เท่านั้นเองครับ คุ้มสุดคุ้มอย่าบอกใครเชียว ...
พระยายเขียด ปี 05 น่าจะมีความสัมพันธุ์กับพระเครื่องหลวงพ่อพัฒน์ วัดใหม่พัฒนาราม จ.สุราษธานีพระอาจารย์ของ หลวงพ่อทอง วัดสำเภาเชย
ครับผมสังเกตุยันต์กสิน ของพระเครื่องหลวงพ่อพัฒน์ ปี 05 ปรากฏในพระเครื่องพระยายเขียดพิมพ์กลางชะลูด(ว่าง ๆ จะนำมาให้ชม) และสมัยก่อนคุณป๊ะป๋าผมไปเช่า พระยายเขียด ปี 05 จากวัดยางแดง ก็ได้เช่าพระเครื่องหลวงพ่อพัฒน์ ปี 05 มาด้วยตรงนี้ไม่ทราบว่าพระเครื่อง 2 วัดนี้มีความเกี่ยวพันอันใดกันหรือเปล่าครับ
===================================================================
[phattharaphong]เรื่องข้อมูลพระยายเขียด ข้อความนั้นผมเขียนข้อมูลผิดพลาดไปครับ พอดีหลงวัดหลงพิธี พ่อท่านคล้ายท่านไม่ได้เสกพระยายเขียดครับ ท่านอ.ทิม เสกเดี่ยว
ต้องขออภัยท่านอ.จงอาง ด้วยครับ ที่ผมนำเสนอข้อมูลที่ผิดพลาดไป
--------------------------------------------------------------------
ขอบคุณ น้องphattharaphong ขอรับ -
หลวงปู่ทวด วัด ฉอ้อนศิริวรรณบรรพรต ต.ขนงพระ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา 2536
ไฟล์ที่แนบมา:
-
หน้า 184 ของ 1262