NEW! NEW AGE PLUS+ พลังงานใหม่ พลังงานอิสระ....

บทความดีๆ นำมาให้อ่าน

...ใครที่ชอบสวดมนต์คงชอบใจที่มีผลวิจัยเช่นนี้..
การสวดมนต์เบาๆ - มีประโยชน์มาก อธิบายได้ทางวิทยาศาสตร์ จาก คุณหมอ รพ.รามา ในรายการ พบหมอรามา ค่ะ
ส ว ด ม น ต์ บำ บั ด .. Vibrational Therapy

การสวดมนต์ ด้วยเสียงเบาๆ แผ่วๆ ช้าๆ กระตุ้นการทำงาน ในร่างกาย
ให้ผลิตสารสื่อประสาท ปรับสมดุล
เสียงสวดมนต์กับสมอง :
1) การสวดเร็ว + ดัง :
เสียงสวด เข้าสู่สมองซีกซ้าย มีสารแห่งความอิ่มใจ ปีติหลั่งออกมา ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย แต่ยังไม่เข้าสู่ ระดับการเยียวยา
2) การสวดเสียงเบาๆ แผ่วๆช้าๆ
แบบฟังคนเดียว ในลำคอ : คลื่นเสียง จะเกิดการสั่นสะเทือน
> เสียงจะเข้า สู่หูส่วนกลาง
> แก้ลมในหู
> ช่วยการทรงตัวได้ดี
การสวดมนต์ที่เป็น วิทยาศาสตร์
เสียงสวดทุ้มๆ แผ่วๆ ช้าๆ จะส่งสัญญาณ สู่ระบบสมอง ส่วนที่กรองสัญญาณ ...
ต่อม Thalamus - กันชัก กันสับสน ได้สารสงบ สารเยียวยา บาดเเผลในร่างกาย สารที่ Thalamus นี้ จะหลั่งออกมา เป็นพรวน ความสั่นสะเทือนของเสียง ที่ต่ำกว่า 25Hz มีผลต่อThalamus
... ช่วยสกัดโกรธ
... ลดกังวล
... เยียวยาจิตใจ
จาก Thalamus > Pituitary
> Hypothalamus > Pineal
ย้อนมาที่สมองส่วนหน้า อันมีผลต่อ นาฬิกาชีวิตของคนเรา
** การ ส ว ด ห ลั บ ต า
จะได้สารต้านอนุมูลอิสระ
** การเยียวยา บำบัดที่ดีมาจากการ ก ด > สั่ น ส ะ เ ทื อ น > แ ต ะ นิ ดๆ
** ฟั ง เ สี ย ง ค น อื่ น ส ว ด
ได้แค่ผ่อนคลาย ที่สมองเท่านั้น
** ส ว ด เ อ ง ได้รับ
ความสั่นสะเทือนภายใน
เ สี ย ง ส ว ด ม น ต์ เ ป็ น ค ลื่ น เ สี ย ง ส่ ว น ตั ว ซึ่ ง ทำ แ ท น กั น ไ ม่ ไ ด้
ผลงานวิจัย :
สวดมนต์ 12-15 นาที เสียงเบาแผ่ว (<25Hz) ช้า ใช้บทสั้นๆ หลับตาสวด จะดีต่อร่างกาย ช่วยเยียวยาโรคร้ายได้ ลองทำดู
พบหมอรามา 28 ก.ย. 58
Big Story สวดมนต์บำบัด
‭

วิธีล้างพิษจากร่างกาย
รายการ หมอนอกกะลา
ตอน ล้างกรองอากาศกันหน่อยมั๊ย
ผมบังเอิญไปอ่านเจอบทความของ หมออารีย์ซึ่งท่านเป็นหมอผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจ จบปริญญาเอกจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดและที่มหาวิทยาลัยมอสโกด้วยและสอนนักศึกษาปริญญาเอกที่ฮาร์วาร์ดมาเป็นเวลา ๓๐ ปี
ท่านป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้ายครับ ตอนนั้นเมื่อปี 2551 ท่านมีอายุได้ 81 ปี และคุณหมอเลือกที่จะใช้ชีวิตอยู่ในชนบท และตั้งใจสู้ชีวิตครั้งใหม่ โดยต่อสู้กับมะเร็งด้วยการไม่ผ่าตัด ไม่ฉายรังสี ไม่ยอมให้คีโม แต่ใช้แนวทางแบบธรรมชาติบำบัด โดยการเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต ให้กลับไปสู่ธรรมชาติให้มากที่สุด..หายด้วย ..เอาล่ะซิ
ตอนอื่นก็มาทางเดียวกับผมนั่นแหละครับเพราะธรรมชาติบำบัดก็เหมือน ๆ กันหมด คือกลับไปที่ “สมดุล” แต่ตอนที่ผมประทับใจคือ !! การล้างกรองอากาศของท่าน ในที่นี้ ก็คือการหายใจเพื่อขับพิษในปอด ท่านกล่าวไว้อย่างนี้ครับ .....
“การแก้เลือดเป็นกรด แก้ได้สองอย่าง กินพืชผักผลไม้ให้มาก ๆ เพื่อเพิ่มโปแตสเซียม อีกอย่างคือหายใจเอาออกซิเจนเข้ามามาก ๆ เพราะยิ่งออกซิเจนเข้าไปในเลือดมากเท่าไหร่ ยิ่งทำให้เลือดเราเป็นด่าง แต่ถ้าเราไม่ฝึกหายใจเอาออกซิเจนเข้าไป เลือดเราเป็นกรด เพราะเลือดเราจะมีคาร์บอนไดออกไซด์สูงมาก พวกนี้จะปวดเมื่อยร่างกายมาก เขาจึงให้ฝึกหายใจเพื่อเอาคาร์บอนไดออกไซด์ออกไป แล้วเอาออกซิเจนเข้ามา มันถึงจะหายปวดเมื่อย
ท่านทำอย่างไรรึ!!!! ตามมา......
เงยหน้าเพื่อให้อากาศเข้ามากที่สุด เวลาหายใจเข้าพยายามให้เข้าทางรูจมูกเท่านั้น เพราะมันจะมีเครื่องกรองคือขนจมูก และจะมีเยื่อเมือก ๆ กรองด้วย การหายใจเข้าให้ปอดพองมากที่สุดสามครั้งติด ๆ กันเลย ครั้งแรก กลั้นไว้ ครั้งที่ ๒ กลั้นไว้ ครั้งที่ ๓ กลั้นไว้ เหมือนใจจะขาด พอครบสามครั้ง ค่อย ๆ โน้มตัวลง อ้าปากเอาพิษออกให้หมด ยิ่งทำบ่อยเท่าไหร่ ปอดท่านยิ่งมีพลัง มะเร็งปอดจะไม่เป็น เพราะออกซิเจนเข้าไปเต็มที่ ของเสียออกมาเต็มที่ ปอดมีความจุสองข้างประมาณ ๓ ลิตรครึ่งถึง ๔ ลิตรครึ่ง แต่ถ้าเรายังหายใจแบบธรรมดาอยู่ อากาศเข้าออกเพียงครึ่งลิตรเท่านั้น บางทีของเสียไม่ได้ออกเลย เหมือนหม้อกรองอากาศไม่เคยเป่าหม้อกรองตัวเองเลย ปอดของเราคือหม้อกรองอากาศ เราต้องช่วยตรงนี้มาก ๆ เราเปลี่ยนปอดไม่ได้ แต่เราต้องบริหารการหายใจ จะทำให้ปอดมีประสิทธิภาพที่สุด
แล้วพวกนักกีฬาที่ออกกำลังกายโดยการเตะฟุตบอล หรือพวกหักโหมจนเกิดความเครียดล่ะ..ท่านกล่าวไว้ว่า
นั่นไม่ใช่การออกกำลังกายที่ให้ประโยชน์ แต่เป็นการออกกำลังกายที่เกิดโทษแก่ร่างกาย เป็น unaerobic เราต้องรู้ว่าการออกกำลังกายแบบ aerobic กับ unaerobic เป็นยังไง การออกกำลังกายแบบ aerobic ร่างกายต้องเกิดด่างและได้ออกซิเจน แต่ unaerobic ได้คาร์บอนไดออกไซด์ ทำให้ร่างกายเกิดกรด ร่างกายก็เสื่อม คนที่ไปเต้นแอโรบิกทุกวันนี้ยังทำผิด เต้น ๆ แล้วเกร็ง เครียด กลัวจะไม่ถูกจังหวะ ชื่อแอโรบิก แต่ไม่ใช่แอโรบิก แอโรบิกทำแบบไหนก็ได้ ไม่ต้องเครียด ให้สนุกสนาน ถ้าเครียด ร่างกายจะเกิดกรด ฉะนั้นการแข่งกีฬาทุกวันนี้เป็นการทำลายสุขภาพ ทั้งสุขภาพกายและจิต คนไม่เล่นก็สุขภาพจิตเสีย เพราะต้องลุ้นแข่งขันกัน เครียดมั้ย ฉะนั้นนักกีฬาที่เล่นทุกวันนี้ นักฟุตบอล นักเล่นกล้าม นักวิ่ง มีใครอายุยืน... ไม่มีเลย เพราะร่างกายมันเสื่อม มีการพิสูจน์แล้วว่าการออกกำลังกายที่ดีที่สุดคือการเดินเร็ว และให้ถูกแสงแดด เพราะมันไม่เครียด ไม่เหนื่อย ไม่เกร็ง และเป็นการออกกำลังกายชนิดเดียวเท่านั้นที่ทำให้ระบบประสาทส่วนกลางได้สมดุล”
อ่านกันแล้ว ก็วิปัสสนากันเอาเองนะครับ แต่ถ้าลองทำก็ไม่เห็นเสียหายอะไร ว่ามั๊ย เพราะผมก็ทำอยู่ทุกวัน
สวัสดี

ข้าพเจ้าหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ทุกท่านคงได้สาระประโยชน์ จากข้อมูลเหล่านี้ไม่มากก็น้อย

ด้วยรัก

 

บอกแล้ว... สิ่งที่เป็นและปรากฎ ให้เห็น
เป็นเพียงภาพ เป็นเพียงผล

ร่างกายนี้คือผล จากอดีต

ผลก็คือผล เอามารวมกับคอมพิวเตอร์ น่าจะตีความออกได้แล้ว

ร่างแห่งนี้คือ เป็นแค่จอภาพ หรือผล

จอภาพจะทำอะไรได้เล่า?

หายใจสั้น หายใจยาว ก็คือผล

รู้หายใจสั้น(ปกติจะมีอาการหอบด้วย) นั้นแสดงว่า มีสิ่งผิดปกติ กำลังถูกคุกคาม

รู้หายใจยาว แต่กลับปรุงแต่ง ให้ยาว นี่จริงหรือเปล่าล่ะ

หรือ รู้ไม่มีหายใจเลย ไม่รับรู้สั้นหรือไม่รับรู้ยาว เซลล์ ทุกเซลล์ แบ่งรับหน้าที่

ความรู้ของลมหายใจ ... จะสั้นหรือจะยาว ไม่ใช่ประเด็น ปล่อยให้เป็นปกติของร่างกายไม่มีปรุงแต่ง ให้สั้นหรือให้ยาว ...ความรู้เป็นอย่างไร? รู้จักธรรมชาติดีแค่ไหน ... ธรรมคืออะไร ชาติคืออะไร ...เธอรู้แล้วเหรอ?

ไม่มีดัดจริตให้สั้น ไม่ดัดจริตให้ยาว จอภาพคอมพิวเตอร์เป็นอย่างไร ก็ให้เป็นแบบนั้น

ร่างกาย เธอ เป็นผลจากอดีต ..ที่ซับซ้อนจะเรียกว่า DNA ก็แล้วแต่เธอจะเรียก แต่เป็นความจำหรือผลที่ถูกโปรแกรมจากอดีต จะเรียกว่า กรรม อะไร นั่นเป็นเรื่องความเชื่อของเธอ ...
กรรมคืออะไร? รู้มากน้อยแค่ไหน?

อยากแก้ไขต้องย้อนเวลากลับไปแก้ไขที่เหตุ ตามความเชื่อ อริยสัจ4 ของเธอ (นี่ไม่ใช่ประเด็นที่ฉันจะพูดตอนนี้ เพราะพวกเธอ นับหนึ่งถูกกันแล้วหรือยัง?)

แล้วจะแก้ไขอย่างไร? ล่ะเพราะเมื่อเธอย้อนอดีตไปแก้ไขที่ต้นเหตุไม่ได้ ... เวลาผ่านมาแล้ว เธอจะอ้างอย่างนั้นใช่ไหม?

แล้วใครบอกว่าย้อนอดีตไม่ได้ล่ะ? .... อดีตขึ้นอยู่กับมิติเวลา เธอก้าวข้ามได้ไหมล่ะ?
ลำพังแค่ให้นับหนึ่งให้ถูกเธอยังทำไม่ได้เลย?
อริยสัจ จะทำได้หรือ?

การนับหนึ่งให้ถูกก็เหมือนจุด หนึ่งที่เธอจะเลือก?

เธอเลือกผิด สอง สาม จะถูกหรือ ....

ฉันไม่อยากพูดตรงๆ ว่าสิ่งที่เธอทำ ที่เธอผ่านมาถูกหรือผิด

แต่ฉันเปรียบเปรยให้แล้วว่า .. ปรารถนาเป็นผู้เยี่ยมยุทธ... ต้องศึกษาคำภีร์ไร้อักษร ให้ได้

และฉันก็บอกว่า คำภีร์ไร้อักษรหมายถึงอะไร? ก็ใบ้ไม่รู้จะใบ้ให้อยากไร?

พูดง่ายๆ คือ หากมันจะพ้นทุกข์ อะไรนั่น นับหนึ่งถูก แล้ว จะนับให้ถึงร้อย ก็แปบเดียวถึง

จะผ่านไปโดยอิสระ ไร้ขีดจำกัดของกระบวนท่า เข้าถึง เข้าใจ และจะพัฒนาโดยไม่ลำบาก

หากลำบากมาก นี่สิ คือสิ่งที่ผิดมาตั้งแต่ต้นแล้วครับ ..... เธอไปถามผู้รู้อื่นเถอะ ว่าอะไรที่ยากแล้วมันไม่ใช่ อย่างแน่นอน

นี่ก็ตัวอย่างให้เห็น เช่น เธอไปอดข้าวอดน้ำ นี่ก็ผิดนับหนึ่งผิด เธอเปลี่ยนมาทานข้าว แล้วใช้เวลาแปบเดียวก็ตรัสรู้ .... ใช่ไหม ... หากง่ายแล้วใช่

ถามว่าปัจจุบันนี้ ทำไมมันยาก ... เพราะเธอไปเอาคำภีร์โบราณเป็นสรณะ ใช้วิธีโบราณเป็นสรณะ ทั้งๆ ที่เธอก็รู้ว่าตอนนี้เข้ายุคใหม่ พลังใหม่ พลังเก่า ความรู้(วิธี)เก่ามันใช้ไม่ได้แล้วมันช้า มันยาก เธอยังใช้ OS เป็น Dos อยู่อีกจะทันกินไหมนั่น ....

ความรู้ที่เป็นจริงไม่ตายใช่ แต่มันมีง่ายกว่านั้นแล้ว ....

ยุคใหม่ รหัสใหม่ ความรู้ใหม่ .....มากันแล้ว

ฉันให้ว่าไม่ต้องไม่รวมศาสนา กันหรอก ? มันไม่จำเป็น หากเธอเป็นคนมีความรู้ระดับ อริยแล้ว เธอคิดจะไปทำกิจกรรมรวมศาสนาเหรอ

นั่นไม่ใช่ของ การเป็นอริย ที่ทำกันหรอก เสียเวลา ...

จะเป็นอริย หรือ ไม่ เธอต้องนับหนึ่งให้ถูกต้องกับ ยุคสมัยก่อน .... พลังใหม่

 

ลมหายใจ มีสั้น มียาว มีไม่สั้นมีไม่ยาว

ความรู้ในลมหายใจ ไม่ใช่รู้สั้น ไม่ใช่รู้ยาว ไม่ใช่รู้ไม่สั้นหรือไม่ยาว(นิ่งเงียบราวไม่หายใจ)

แต่อยู่ที่ความรู้สึก .... ไม่ใช่สติ

รู้สึกคือรู้สึก

ไม่ใช่สติ รู้หายใจสั้น หรือ รู้หายใจยาว >>

แค่รู้สึก อย่างเดียวก็ยังไม่พอ ....

เพราะ ยังมีปัจจัยอื่นมากระทบ ให้เธอผิดพลาดได้....เธอว่าต้องประกอบด้วย พลังบริสุทธิ์ ด้วยใช่ไหม

อะไรคือ พลังบริสุทธิ์ ล่ะ ... งานนี่บอกได้ไหม?

ความรู้จากลมหายใจ ก็จะถูกต้อง

หากเธอยังหาช่องทาง syn กับพลังบริสุทธิ์ ไม่ได้ ความรู้ที่เธอได้ ก็ไม่ถูกต้อง

ก็ตามที่บอก นับหนึ่งผิด มันก็จะผิดไปหมด สอง สาม สี่ ...

 

มาร สมัยนี้ กับสมัยก่อน ก็ต้องแตกต่างกัน OS Dos ไม่ทันพวกมันหรอก

สัจธรรม ก็ไม่เข้าใจ? เธอเอา OS อดีต มาใช้กับปัจจุบัน รอไปก่อนน่ะจ๊ะ

ความจริง ในปัจจุบัน เป็นอย่างไร? ...

เธอก็รู้นี่ ว่าต้องมี สัจธรรม สัจธรรมคืออะไร?

เธอยังคือ เป็นนักเรียกกอดคำภีร์ อยู่เลย

เธอยังเป็น นักเรียกที่รักในอาจารย์ ที่รักในตัวบุคคลอยู่เลย

เธอวางได้ไหมล่ะ ..... ความรู้จากพลังเก่า

เธอวางได้ไหมล่ะ......ครูของเธอ

เวลาเธอจะกลับบ้านเกิดของเธอ(วันปีใหม่) เธอกลับไปหาใคร? ..... นี่เป็นธรรมชาติของมนุษย์ไหม? เธอกลับไปหาครูคนแรก หรือครูคนที่สองเล่า ....

เมื่อเธอก้าวไปสู่มิติ(ใหม่) เธอจะรู้ว่า ความรู้ ที่เธอรู้มา .... มันไม่ใช่อีกแล้ว .... ฉันก็เปรียบให้เห็นว่า ความรู้มหาลัย กับ ความรู้มัธยม มันไม่ใช่ หรือ อีกนัยคือ มีเงื่อนไขที่มากขึ้น ในหัวข้อเดียวกัน ....

เวลาเปลี่ยนผ่านไปแล้ว ....

ยุคใหม่ไปแล้ว ....

 

สมัยก่อน บรมครู ของเธอ(ที่เธอกอดไว้สมัยมัธยม) มองเห็นความขัดแย้งเพียงแค่เมืองๆ หนึ่ง

สัจธรรม ของเธอคืออะไรตอนนี้

สัจธรรม ของเธอคือ พลังใหม่ ยุคใหม่ เธอมองเห็นโลกทั้งใบ เธอเห็นความรู้มากมาย ความจริงมากมาย

มาร สมัยนี้ไม่ใช่ยกทัพขี่ช้างม้า มา

สัจธรรมมันอยู่ตรงไหน ... ของเธอ

เธอจะเอากระบวนท่าไม่กี่ท่า มาใช้กับยุคใหม่
ยังไม่พอหรอก .. กระบวนท่าของมาร มันเปลี่ยนไปแล้ว

และ ไม่ใช่มีแค่มาร .... มี ปอบ มี ปิศาจ มี พ่อมด มี อสูร มี สัตว์ เยอะแยะ

มาร มันพัฒนาไปมากแล้ว ...

ดูเอา แค่สัตว์เซลล์ เดียวมันยังมีความคิดเอาตัวรอด กลายพันธ์

มันเอาสมองตรงไหนคิด หือ ....

ส่องกล้องก็ไม่เห็นว่าจะมีสมอง

หากมีสมอง แสดงว่าสมองมันเล็กจนมองไม่เห็นหรือไง

แสดงว่า หากสมองเล็ก แต่สามารถมีการพัฒนาได้

มันหมายความว่าไงเล่า มองความจริงตรงนี้ไม่เห็นเหรอ

มองก็มองผ่าน ทำไมเธอจึงมองผ่านเล่า

เพราะสมองเธอมีปัญหา สิ .... OS มีปัญหาสิ

นอกจาก OS แล้ว หน่วยความจำ Ram ก็มีปัญหา

มีน้อยเกินไป จึงใช้เวลาในการประมวลผล

Ram คืออะไร Ram คือ หน่วยบารมีใจ ไม่มากพอ

หน่วยบารมีใจ ไม่พอ เพราะ ไม่รู้จักสร้าง ทำ ความดี

ที่นี่มาดู อะไรคือความดี

เธอ เรียกรู้ว่า ต้องทำดี อะไรคือความดี ฉันถามหน่อย

ความดี คืออะไร อย่างไร ? เธอรู้แค่ไหน ?

แผ่เมตตาเหรอ? .... ฉันถามใครต้องการ?

แผ่เมตตานั้น ทำเพื่อใคร? จริงๆ ....

ทำเพื่อตัวเอง ทั้งนั้น ....เป็นอันดับแรก .... เพื่อตัวเองจะได้ยกระดับ

จริงๆ เป็นไง แผ่เมตตา คือ เธอกำลังส่งกำลังใจ ที่ได้ตีตราเป็นของเธอ

ออกไป ... ให้ใคร สรรพสัตว์งั้นเหรอ ออ เธอคงไม่รู้สิน่ะว่า สรรพสัตว์

มันหมายถึง สัตว์ดี และสัตว์ไม่ดี ด้วย

สัตว์ดี ได้ไปทำดี ก็ยินดี

สัตว์ร้าย สัตว์ไม่ดี ได้ไป ก็ยินดี(ไม่อยากยินดีเลย)ที่เธอไปสนับสนุน
ให้พวกมัน เอากำลังส่วนนี่เอาไปก่อการร้าย ต่อไป

หากสืบว่า ใจที่ตีตรา ว่ามาจากไหน ... เธอจะได้เป็นผู้มีส่วนร่วมในการก่อการร้าย

เธอรู้เหรอว่า เมื่อเธอกำลังแผ่ไป มีใครผู้ใดอยู่ใกล้ ที่จะเก็บเกี่ยว ผู้ดี หรือ ผู้ร้ายล่ะ

 

ขอบพระคุณท่านภูดิษครับ

 

ขอบคุณกุญแจสำคัญ DD (44) ทุกท่าน

ข้าพเจ้าไม่ใคร่เก่งเรื่อง IT สักเท่าไร แต่ข้าพเจ้าชอบเสียงเพลง ค่ำคืนนี้อยากนำเพลงนี้มาส่งทุกท่านเข้านอน พรุ่งนี้เราค่อยมาทำงานกันต่อไป

การเรียนรู้ไม่สิ้นสุด ดูซิฉันจะไปได้ไกลแค่ไหนกัน ^^
HOW FAR I'LL GO (Moana)

 

*** สูงสุด คือ สัจจะ ****

สัจจะเป็นแก่นสาร
ทำสำเร็จ ก็ด้วยสัจจะ
เปลี่ยนตนเองได้ ก็ด้วยสัจจะ
รอดพ้นจากความชั่ว ก็ด้วยสัจจะ
ความดี จึงไม่ได้ทำกันง่ายๆ
ทำได้ก็หลุดพ้นทุกข์

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

เมื่อโลกมีสันติ ไร้การขัดแย้ง ไร้ที่ซึ่งความทุรภาพ เธอจะหาที่ๆ ทำความดีได้ยากขึ้น

ความดีของโลกใหม่ต่อไป คือ การดูแลกันเองในมนุษย์ ให้มีความเจริญ...

เมื่อ พ่อ(พ่อและแม่)ได้จากพวกเธอไปแล้ว

คีย์ ของ ความดี คือ การดูแลกันเอง

การดูแลกันเอง ต้อง มีคุณสมบัติอย่างไร?

เมื่อความสมบูรณ์เกิดขึ้นแล้ว

เธฮจะหาโอกาศทำความดีได้น้อยแล้ว

กาลนานต่อไป ก็จะเหลือเป็นแค่ตำนาน

ความดี คือ อะไร?

 

มองความจริงให้กระจ่าง ....

มองความจริงให้แจ้ง รอบตัวเธอนั่นล่ะ

อาทิ

1. พ่อแม่ เลี้ยงลูก .... นิสัยลูกที่เกิดขึ้น พฤติกรรมของลูกที่แสดงต่อพ่อแม่ เป็นอย่างไร ที่ปรากฎจริง
... ให้ความเคารพยำเกรง มีความรักอบอุ่น
... ให้ความสนิทสนม อย่างถูกต้อง
....เล่นหัว หรือ อวดดี แสดงความไม่เคารพ
.... ไม่ค่อยจะเชื่อฟัง แต่จะฟังครู ที่สองมากกว่า
.... กล่าวไม่ต่อ บิดา มารดา มีความดื้อรั้น

..... เธอเห็นยังอดีต ตั้งแต่กำเนิดมามีอะไรเกิดขึ้นในความตีตนเสมอ ผู้ให้กำเนิด ไม่เชื่อฟังผู้กำเนิด ....

นี่คือความจริงที่ปรากฎในสายตาของเธอโดยตรง เรียงร้อยตามลำดับ (นี่คือคำภีร์ไร้อักษรหน้าแรก เพราะเป็นความผิดของมนุษย์ในมิติแสง)

ความจริงในธรรมชาติสรุปว่า คุณสมบัติของการเป็นมนุษย์คืออะไร?

ให้รู้จักสำนึกในคุณของผู้มีคุณ....

ผู้มีคุณของเธอคือใคร? ในฐานะที่เกิดมาเป็นมนุษย์

ความผิดของมนุษย์ในมิติแสง มีอิทธิพลต่อมนุษย์ในรุ่นถัดๆ ไป เพราะอะไร? ความคิดของมนุษย์ เธอคิดว่า เป็นคลื่นไหม .... คลื่นนั่นหายไปไหน ... คลื่นนั้นยังอยู่ไหม .... นี่พูดถึงแค่คลื่น...ยังไม่ได้พูดถึงเชื้อของพวกมันเลยน่ะจ๊ะที่รัก

มิติแสง มีทั้งมนุษย์ที่ดี และ กลับกลายเป็นมนุษย์ที่ไม่ดี สัดส่วนเหรอ เลวมากกว่า 80%

ปัจจุบันก็ดูได้ ...รอบโลก ดีหรือเลวล่ะ

ความเลว ที่สองของมนุษย์ คือ บ้าพลัง เป็นพวกชอบสะสมพลัง

เธอก็ดูสิ ปัจจุบันเป็นอย่างไร?

คำภีร์ไร้อักษรหน้าที่ 2 (ที่รอให้เธอทั้งหลายมาเขียนบันทึกเอาเอง เป็นคำภีร์ของเธอเอง)

มนุษย์ดื้อรั้น บ้าพลังพวกนี้ หากเป็นเธอ เธอจะทำอย่างไร กับพวกมันดี....

พวกนี้ เมื่อมันหมดอายุขัย มันคือมาร ดี ๆ นี่เอง

มาร... นิสัยหนึ่งของพวกมันคือ ต้องการความเป็นใหญ่ ... จะเหนือใครล่ะ บ้างความคิดหากมันรู้มันคงอยากเหนือธรรมชาติ ด้วยก็มี ...

นี่เป็นตัวอย่างให้เธอ

พินิจพิเคราะห์ ด้วยตัวเธอเอง

เมื่อเธอเห็นความจริง ที่ปรากฎด้วยตัวเธอเอง

จากสิ่งแวดล้อมรอบตัวเธอ ที่เป็นธรรมชาติ

ที่มองเห็นได้ เธอก็จะยกระดับ เปลี่ยนแปลง

ด้วยตัวเธอเอง ....

ความจริง..ที่ปรากฎ บทสรุปมีไม่มากนักหรอก

และไม่ยากอะไร มองความจริงด้วยความจริง

(แม้จะจริงน้อยนิด แต่เมื่อยอมรับ หรืออีกนัยคือ

การเปิดใจที่จะพิจารณา... และทำให้กระจ่าง

เธอก็จะรู้แจ้งเอง)

 

เมื่อรู้ว่าผู้มีคุณในฐานะของการเป็นมนุษย์ ควรกระทำ ....เธอจะทำอย่างไรต่อไป ?

ที่ผ่านมาเธอรู้ ... ก็สักแต่รู้ ... เมื่อเวลาผ่านไป

(ตายและเกิดใหม่) ลืมจ้า เพราะ ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเป็นกมลสู่ส้นดาน

 

พวกเธอคิดหรือว่า เมื่อเธอถือกำเนิดเป็นมนุษย์ สถานะภาพของการเป็นมนุษย์ปรากฎขึ้นแล้ว ผู้ที่ให้มนุษย์เกิดมา จะไม่มาดูแลพวกเธอ จะไม่มาเกิดเป็นมนุษย์ มาให้วิทยาการ มาให้ความเจริญแก่พวกเธอ .....

เธอดูเอา...คำภีร์ไร้อักษร..อีกชุดหนึ่ง

ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีความศักดิ์สิทธิ์

สูงสุดในโลก และเป็นที่ๆ มีมนุษย์ต่างดาว

ที่เป็น อริยเข้ามาจอดแห่งแรกของโลก... นานมาแล้ว ...
ตอนนี้ยานก็มีอยู่ จอดอยู่แต่ไม่สามารถบินได้

บางที่ก็กลายเป็นภูเขาเป็นดอยไป... (ไม่ใช่พวกกะลาดอย)

การที่มนุษย์จะลืม ความเป็นมาของตนเอง

ทำไม่อยากหรอก .... เพราะเป็นระบบคอม

นอกเรื่อง... กลับมาที่ประเทศไทย?

มาดูกัน.....

คิง เป็นสัญลักษณ์ของ ผู้นำ

นักการเมือง หรือ อุปราช เป็นสัญลักษณ์ของ มาร

มาร มันทำอะไรไว้กับ คิง

คิง เกิดมาเป็นมนุษย์

มาร เกิดมาเป็นมนุษย์

มนุษย์เหมือนกัน และดูมันทำกับคิง

มันไม่มีความเคารพยำเกรงต่อคิง

ในมิติแสงก็เหมือนกัน

ผู้ให้กำเนิดมนุษย์... หากจะให้เธอเข้าใจ

เธอไปดูเรื่อง อวตาร ให้ดี

การมาของ ผู้ให้กำเนิด ไม่ได้มาโดยตรง

แต่จะมีร่างตัวแทน เป็นมนุษย์

มนุษย์ที่เป็นร่างตัวแทน จะมีความรู้

แต่พวก มนุษย์อื่นๆ ในฐานะของผู้ถูกกำเนิด

มันกระทำอย่างไร ก็ไปดู ลำดับ ของ คิง

ที่ถูกกระทำโดยนักการเมือง อุปราช ดูเอาเอง

ฉันย่อให้....

คิง ไหนที่สร้างความดี ให้เธอปรากฎ

ก็ดำรงภาพที่ปรากฎในฐานะของผู้ให้ความเจริญ เป็นผู้นำของมนุษย์ ปรากฎในประเทศไทย เมืองที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุด

คิง เปรียบเสมือน พ่อ

ในมิติแสง มนุษย์ ที่เป็นร่างตัวแทนพ่อ ก็สิ้นอย่างโดดเดี่ยว

สอนความรู้ให้ มากมายแต่ มนุษย์บ้าอำนาจ ไม่ได้เชื่อฟัง

ดูแคลน ละเลยความรู้ที่ให้ มองเห็นเป็นเรื่องไม่สำคัญ ...

 

ฉันยกตัวอย่าง ... แต่ต่อไปเธอต้องทำเอง

คำภีร์ไร้อักษร เป็นคำภีร์ที่เธอต้องจดบันทึกเอาเอง

เธอต้องเป็นชามที่วางเปล่าก่อน .. ล่ะวางจากสิ่งรบกวนต่างๆ จากอดีต

มองความจริงด้วยตนเอง ....

พื้นฐานมันเป็นอย่างไร?

สิ่งปรากฎรอบเธอ....

 

โลกนี่คืออะไร .... เพราะตัวตนแท้เธออยู่อีกที่หนึ่ง ทำอะไร? ....

แต่ความดีจะส่งผลต่อตัวตนแท้....

เธอไปดู อวตาร เธอก็จะเข้าใจดีขึ้น

สิ่งที่ฉันกล่าว มนุษย์ ปรากฎภาพหลายมิติ

แล้วมนุษย์ ที่เป็นเธอเห็นเพื่ออะไร?

 

ต่อไปมนุษย์จะต้องดูแลกันเอง

พ่อ ผู้ให้กำเนิดกำลังจะไปแล้ว ...

ใครคือผู้ที่ถูกเลือก ....

โลกของการทดสอบ ผ่านมานานหลายยุค

เธอไม่ทำดี ก็ได้ เธอก็จะอยู่ในฐานะของ

มนุษย์ต่อไป

เธอทำดี เธอก็จะมาทำงาน... ในหน้าที่

ของผู้ดูแล...ในอีกมิติหนึ่ง

เธอบอกว่า เทพ ก็เคยเป็นมนุษย์

ฉันจะบอกอีกว่า เทพ ที่เธอว่า เป็นของปลอม

เพราะ พ่อ เธอยังไม่ได้ลงจากหน้าที่ดูแลมนุษย์

พ่อ เธอจะลงจากหน้าที่เมื่อไหร่ ....

เมื่อ พ่อ ของเธอ ทำลายบาปของมนุษย์จนหมดสิ้นแล้ว

ตอนนี้ ก็กำลังดำเนินการอยู่

ผลปรากฎเมื่อไหร่ รอดู พลังใหม่...ที่มาให้ดี

 

มนุษย์ที่ถูกเลือกทำหน้าที่ ....

เลือกจาก มนุษย์ ไม่ใช่ พระ

พวกที่แสวงหาความพิเศษของตัวเอง

มีกรอบของตนเอง ที่ไม่ดำรงการเป็นมนุษย์แล้ว (เรียกตัวเองว่า เหนือมนุษย์ จึงไม่ใช่มนุษย์)

หมดสิทธิ์การถูกเลือก ....

 

ใครจะเป็นผู้ที่ถูกเลือก....โลกของการทดสอบ ....ผ่านมาหลายยุคสมัย กลั่นกรองอย่างยิ่งยวด

ใครที่ไม่เคยทรยศ ต่อ พ่อ ก็ผู้นั้น

กระทำต่อพ่อ(ฐานะมนุษย์)ด้วยความเคารพ ก็ผู้นั้น

สร้างความดีต่อมนุษย์ด้วยกัน ก็ผู้นั้น

มัวหลงนั่งสมาธิ สวดมนต์ ความดีไม่ทำ เอาตัวเองรอด .... ไม่ได้รับเลือกหรอก

 

แต่ก็ไม่แน่....ใครที่ชั่วร้ายมาก

ไม่สามารถเยียวยาได้

เธอเป็นหมอ... เธอจะทำอย่างไร? ....

อย่าประมาณตนว่าเป็น หน่วย หนึ่งของ พ่อ

แล้วจะตีตนเสนอพ่อ หากคิดแบบนั้น แสดงว่าเธอมีญาติ

มีอดีตที่ ส่งคลื่น มาให้เธอคิดเพื่อ ตีตนเสมอ พ่อ

พ่อถือกำเนิดมนุษย์มา มีพลังมากมาย

ไม่จำเป็นหรอกว่า จะต้องมาอาศัย พลังของเธอ

ที่มีอยู่หน่วยเดียว ... ขับเคลื่อนหมุนเวียน ภาระกิจของพ่อ

จำไว้ว่า หากพ่อไม่ป้อนข้าวให้เธอกิน เธอจะมีพลังไหม ?

พ่อก็มีร่างกายของพ่อ ลูกก็มีร่างกายของลูก

พ่อลูก แยกกันอยู่แล้ว ....

สิ่งที่พ่อให้มา เพื่อให้ลูกๆ อยู่ หล่อเลี้ยงซึ่งกันเอง

หมุนเวียน เกื้อกูลกันเอง

สมบัติของพ่อยกให้ ... ทำกันเองต่อไปกันเอง

ดังนั้น การจะประมาณตนเองว่า ตนเอง เป็นส่วนหนึ่งของพ่อ

พ่อเองก็อาศัยมวลรวมของมนุษย์ทั้งหมด .... คิดผิดไหมเนี่ย

เข้าใจหรือเปล่า กายของพ่อก็คือกายของพ่อ

กายของลูกก็คือกายของลูก .... พ่อ ลูก แยกกันได้อิสระ

ดังนั้นอย่าเห็นอะไรผิด สำคัญตนผิด .... (ตอนนี้ยังไม่แยก แต่ต่อไปกำลังจะแยก)

 

โลกใหม่ พลังใหม่

อิสระ .... จากบาป ... และก็จะอิสระจากพ่อพร้อม เมื่อทุกอย่างเป็นไปตามประสงค์

เธอแสวงหาอิสระไม่ใช่เหรอ? เมื่อชำระบาปให้เธอทั้งหมด พ่อก็ไปเช่นกัน

พ่อทำทุกอย่างเพื่อให้ เธอ ได้เป็นอิสระจากสิ่งสกปรก

โดยมีมนุษย์ ที่มีความดีสะสม ...มีคุณสมบัติ
เป็นผู้ที่มาดูแลแทนพ่อ(และแม่)

โลกของอริย

มีศรีอริยปกครอง (ต่างมิติ)

โลกของกายหยาบ ก็จะไม่จำเป็นอีกต่อไป ...

เพราะเมื่อการเลือกได้จบลงแล้ว ....

เข้าใจน่ะ หมายถึงอะไร ....

ตัวเธอกายหยาบ เป็นเพียงผลหรือจอภาพ

เป็นแค่ตัวแทน .... เมื่อไม่แสดงความดี ไม่มี

ความดีปรากฎ ให้เห็นเด่นชัด ... เอาแต่สบาย

นั่งมะรือทื้อ เป็นสากกระบือ ... ปล่อยเวลาทิ้งไปวันๆ ... ออกเช้าหากิน เย็นนอน เสาร์ทิต ซ้อปปิ้ง .... พวกนี้ เน่าไปแล้ว เพราะไม่เปลี่ยนแปลงตนเองให้เจริญ เหมือนหนองน้ำที่อยู่กับที่ .... มีแต่ใบไม้เน่าเหม็นอยู่ข้างใต้
(ดูใสข้างบน แต่ลงไปเล่นด้วย ค้นสิจ๊ะ พวกเน่า)

 

เมื่อเธอเป็นอิสระ .... ความดีทำยาก แล้ว

กว่าจะได้หน่วยของความดี เพื่อเลือนระดับ

ต้องทำดีอย่างไร?

เพราะอะไร? จึงยาก