VDOและภาพงานถวายตุงสุริยัน-จันทราและเครื่องจักพรรดิ์(ชเวดากอง-อินแขวน) ประเทศพม่า

ในห้อง 'พระพุทธรูป - วิหารทาน - สิ่งก่อสร้าง' ตั้งกระทู้โดย พชร (พสภัธ), 14 กรกฎาคม 2017.

  1. พชร (พสภัธ) ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,746
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +49,866
    สวัสดีญาติธรรมและท่านเจ้าภาพที่ได้ร่วมบุญในครั้งนี้ทุกๆท่าน
    การเดินทางไปแสวงบุญที่ประเทศพม่าในครั้งนี้ ถือเป็นทริปที่วิเศษอีกทริปหนึ่ง ที่สร้างความประทับใจกับคณะที่ติดตามทุกๆท่าน



    ครั้งนี้เราได้ถือโอกาสไปทำบุญในช่วงอาสาฬหบูชาและเข้าพรรษา ถึงแม้จะเป็นช่วงฤดูฝน แต่พวกเราก็ไม่หวั่น มีศรัทธาอันแรงกล้าที่จะนำเครื่อง"จักรพรรดิ" และ”ตุงสุริยัน-จันทรา”ไปถวายให้ทันในวันอาสาฬหบูชาเพื่อจะได้ถวายในพิธี"ห่มผ้าพระ"ของชาวพม่าในวันเพ็ญขึ้น15ค่ำเดือน8 ของทุกปี โตจิตนาการไม่ออกจริงๆว่าในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาของประเทศพม่าจะเป็นเช่นใด เพราะยังไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อนเลย

    เคยได้ยินแต่คำบอกเล่าจากผู้ประสานงานที่ประเทศพม่าว่าต้องมาให้ได้ ครั้งที่แล้วที่ไปพม่า คือหลังออกพรรษาแล้ว ครั้งนี้จึงถือเป็นครั้งแรกที่ได้ร่วมในวันสำคัญทางพระศาสนาจริงๆ ซึ่งทำให้ได้เข้าใจถึงวิถีชีวิตและศรัทธาของประชาชนชาวพม่าอย่างลึกซึ้ง(และสร้างความตราตรึงใจไม่รู้ลืม) อีกเหตุการณ์หนึ่งที่โตและน้องๆเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องมาพม่าในครั้งนี้เพราะเมื่อครั้งที่แล้วได้มีโอกาสไปกราบสักการะวัดพระจีนที่ในตัวเมือง(China Town) เพื่อขอพรเรื่องงานที่ประเทศจีนของโตและน้องชาย และขอพรเรื่องท่านทูตคุณพี่ เพื่อให้ได้ประจำในAsia ในที่สุดก็สมหวังทั้งๆที่มีแค่1เปอร์เซ็นเท่านั้น จึงเป็นเหตุให้ต้องไปกราบสักการะ ในความเมตตาของท่านที่มีต่อครอบครัวของโตในครั้งนี้

    วันแรก(6/7/17)ที่ไปถึงพวกเราได้รับการต้อนรับจาก พญ.Dr.Myint Shwe Zin (delight) มารับที่สนามบิน


    หลังจากนั้นก็มุ่งตรงสู่พระธาตุอินแขวน วันนี้ฝนตกหนัก ในใจก็หวั่นๆอยู่เหมือนกัน เพราะมีคนเฒ่าคนแก่เดินทางในคณะด้วย แต่ละท่าน80กว่าแล้วต้องใช้ไม้เท้า พอไปถึงพระธาตุอินแขวนก็ต้องทำให้ใจ ตุ้มๆ ต่อมๆ เพราะเจอทั้งฝนทั้งสัมภาระทุลักทุเล แถมจะต้องปีนขึ้นบนรถ10ล้อที่มีที่นั่งเป็นแถวๆเพื่อขึ้นดอย กะไดสำหรับขึ้นรถก็สู๊งสูง แต่คนเฒ่าคนแก่ก็ใจสู้ปีนขึ้นรถได้ เพราะคนหนุ่มคนสาวชาวคณะช่วยๆกันดีทุกๆคน ดูแลผู้เฒ่าผู้แก่ มาคิดๆดูนี่(บุญจัดสรรจริงๆ)ที่ส่งคนดีๆได้มารวมตัวกันช่วยเหลือกัน เรื่องยากๆก็เลยเป็นเรื่องง่ายๆไปหมด สาธุๆๆ

    พวกเราเหมารถขึ้นพระธาตุเพราะคณะของเรามีทั้งหมด27คน ทุกท่านลงมติให้โตกับหลวงพี่(พระอ.นเรศ)นั่งอยู่หน้ารถ ตลอดทางขึ้นพระธาตุได้ยินเสียงคนนั่งข้างหลังหัวเราะกันสนุกสนาน ทำให้สบายใจและคลายกังวลใจไปมากๆ ที่เห็นทุกๆท่านที่ไปมีแต่ความสุข สนุกสนาน รถใช้เวลาประมาน1ช.มถึงที่จุดหมาย พอถึงด้านบนพระธาตุอินแขวนเราจึงได้สัมผัสกับคำว่า(สวรรค์บนดิน)นั้นมีอยู่จริง คืออากาศข้างบนประมาน16-17องศา มีเมฆหมอกลอยอยู่รอบตัว เวลามองลงไปตีนดอยจะเห็นเป็นทะเลหมอก มันทำให้หายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง


    ทุกคนตื่นตาตื่นใจมากๆ เป็นของขวัญจากธรรมชาติและบุญที่เราตั้งใจทำ(ทำดี) ชาวคณะเก็บข้าวของที่โรงแรมแล้ว เวลาค่ำออกเดินทางไปที่พระธาตุอินแขวน บรรยากาศที่พระธาตุเย็นสบาย สดชื่นมากๆเค้าเปิดสปอร์ตไลท์ และยิงเรเซอร์ไปที่(เพชร)บนยอดฉัตรพระธาตุ แสงเรเซอร์กระทบกับประกายเพชรเป็นแสงพุ่งออกมา เมฆลอยมาปะทะกับตัวเราเหมือนอยู่บนสวรรค์มันสวยสุดคำบรรยายจริงๆ เป็นความทรงจำที่ไม่รู้ลืม พวกเราทุกๆคนสัญญาว่าจะกลับมาอีกแน่นอนและจะอยู่สัก2คืนเพื่อให้เต็มอิ่มมากกว่านี้ ....พวกผู้ชายสามารถเข้าไปด้านในพระธาตุนำตุงไปแขวนรอบพระธาตุและปิดทองถวายน้ำอบ เสร็จแล้วจึงออกมาที่ระเบียงด้านหน้าพระธาตุกล่าวคำสมาทานศีล และกล่าวคำถวายตุงสุริยัน-จันทราและเครื่องบูชาทั้งหลาย ขอบอกได้คำเดียวว่า...คุ้มค้าคุ้มเวลาเหลือเกินที่ได้ขึ้นมาพระธาตุอินแขวนในช่วงเข้าพรรษานี้ได้เห็นตุงแก้วแขวนรอบพระธาตุสวยสดงดงามเหลือเกิน มีความสุขจริงๆครับ




    วันรุ่งขึ้น(7/717) พวกเรากราบลาพระบรมธาตุแต่เช้า เพื่อเตรียมตัวไปเมืองมอญ (หงสาวดี) เพื่อให้ทันถวาย วิหารทาน-ธรรมทาน-สังฆทาน ที่วัดไจคะวาย(มหาวิทยาลัยสงฆ์ที่ใหญ่ที่สุดของประเทศพม่ามีพระจำพรรษาพันกว่ารูปและมีชื่อเสียงที่สุด) ระหว่างทางที่จะไปหงสาวดีเราได้แวะซื้อข้าวของ-พระพุทธรูปทองเหลือง12นิ้ว-ไตรจีวร-เทียน-และตู้ใส่พระบรมธาตุ เพื่อถวายวัดไจคะวาย เวลา11.00เราได้เดินทางมาถึงที่วัด พวกเราเตรียมข้าวของทุกๆอย่างกันสนุกสนาน ท่านเจ้าอาวาสวัดไจคะวาย มองดูพวกเราด้วยความชื่นชม(ท่านอมยิ่มน้อยๆที่มุมปาก) พอได้เวลาก่อนที่เราจะถวายทานต่างๆ ท่านเจ้าอาวาสได้บอกพวกเราว่าท่านกำลังจะสร้างบูรณะพระมหาเจดีย์สูง56เมตร (180ฟุต)” เหมือนสวรรค์มาโปรด “พวกเราทุกๆ คนปิติยินดีอย่างยิ่งๆ เพราะไม่นึกไม่ฝันว่าจะได้ร่วมสร้างพระมหาเจดีย์อันยิ่งใหญ่ขนาดนี้ และท่านเจ้าอาวาสยังเมตตาที่จะนำ(พระบรมสารีริกธาตุที่คณะได้อัญเชิญไปพร้อมพระพุทธรูปทองเหลือง12 นิ้วพร้อมพลอยต่างๆนำไปบรรจุพระมหาเจดีย์หลังจากที่สร้างเสร็จแล้ว) สาธุ สาธุ สาธุ





    พระพุทธเจ้าทรงสอนว่า...”คำว่าบังเอิญไม่มีในโลก” นี่คงเป็นบุญ เป็นวาระของชาวคณะจริงๆที่จะได้สร้างบารมีในส่วนนี้ สาธุ ๆๆ ออกจากวัดไจคะวาย เราได้ไปกราบพระ และ พระเจดีย์ สำคัญๆอีกหลายที่ ถึงโรงแรมที่Central Yangon ค่ำๆคุณแม่และน้องสาวโตเดินทางมาถึงพม่ามาร่วมสมทบกับชาวคณะ สุขสันต์หรรษากันท้วนหน้า .....

    เช้าวันที่(8/7/17 วันอาสาฬหบูชา) วันแห่งความสุข วันนี้รถติดสุดๆผู้คนหยุดงานกันหมด ต่างมุ่งตรงไปพระบรมธาตุเจดีย์ชเวดากอง


    พวกเราไปรวมตัวกันที่”ลานอธิฐาน” เพื่อแจกจ่าย(เครื่องจักรพรรดิ) เตรียมพร้อมถวายองค์พระบรมธาตุ ต่างเล็งพระพุทธรูปองค์ที่ตัวเองชอบใจ เพื่อถวายเครื่องจักรพรรดิ สิ่งหนึ่งที่เราสังเกตได้คือ ผู้คนที่อยู่รายรอบลานอธิฐาน ต่าง"มุ่งความสนใจมาที่คณะ "ผู้คนต่างสงสัยว่าเราจะทำอะไรกับ(วัตถุ)ในมือของพวกเรา พอได้เวลาเจ้าหน้าที่ช่วยกันนำเครื่องจักรพรรดิไปคล้องที่องค์พระ เท่านั้นแหละชาวพม่าที่นั่งอยู่ต่างตื่นตาตื่นใจถึงกับมีผู้หญิงชาวพม่าคนหนึ่งแต่งตัวเรียบร้อย เดินมาหาแล้วพูดเป็นภาษาอังกฤษว่า..."สิ่งนี้หาซื้อได้ที่ไหน ? ถ้าจะขอซื้อกับคุณได้ไหม?ราคาเท่าไหร่? " โตตอบไปว่า.."ได้นำมาจากประเทศไทยในราคา4000บาทไทย – 156000ks " คุณผู้หญิงท่านนั้นบอก..."กี่พันบาทไทย ฉันก็จะขอซื้อค่ะ" แต่ในที่สุดก็บอกกับเค้าว่าแต่ละเส้นมีเจ้าภาพแล้ว ส่วนตัวของโตเองถ้าคุณผู้หญิงอยากได้จะให้ไม่รับเงิน ก็ให้เค้าได้ถวายไป คุณผู้หญิงท่านนั้นดีใจมากๆแล้วนำไปถวายองค์พระที่บรรพบุรุษเค้าได้สร้างถวายที่เจดีย์ชเวดากอง(ณ. ตอนนั้นความรู้สึกตื้นตันใจสุดๆแอบน้ำตาไหลด้วย ที่เห็นผู้หญิงท่านนั้นดีใจและได้เห็นน้ำตาเค้าไหลออกมาด้วยความยินดี) พอเวลาเราถวายคล้องเครื่องจักรพรรดิบนองค์พระแล้วดูสง่างามจริงๆ นี่เป็นบุญของพวกเราจริงๆที่ได้มีโอกาสดีๆแบบนี้ในชีวิต....



    เป็นวันอาสาฬหบูชาที่วิเศษสุดๆในปีนี้ หลังจากนั้นพวกเราได้ไปติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่อร่วมถวายทองคำ(น้ำหนัก4บาท)จากคณะคุณจุ๋มจิ๋มทองคำ1บาท คุณม่อนทองคำ1บาท เพื่อนคุณม่อนทองคำ1บาท และครอบครัวคุณจอยทองคำ1บาท เพื่อบูรณะพระมหาเจดีย์ชเวดากอง ทางเจ้าหน้าที่จะโทรติดต่อให้พวกเรามาถวายข้างบนพระมหาเจดีย์ชเวดากองในวาระหน้า ขอบคุณ"ฟ้า"ที่ให้วันดีๆแบบนี้กับชาวคณะทุกๆคน สาธุ ๆ ๆ


    ภารกิจสุดท้ายก่อนกลับบ้าน คือพาทุกๆท่านไปที่ศาลพระจีนในตัวเมืองย่างกุ้ง(China Town) ที่มีนักธุรกิจใหญ่ๆของไทยและคนดังไต้หวัน สิงค์โป และในAsia มาสักการะกันมาก แต่คนไทยไม่ค่อยรู้จักเพราะไกด์จะไม่พามา ไกด์เองก็เข้าไม่ถึงบังเอิญโตรู้ภาษาจีนและไปพบเจอในรายการทีวีไต้หวัน จึงทราบ เหมือนเบื้องบนส่งลายแทงมาให้ เมื่อปีที่แล้วที่มาถวายตุงได้มาอธิฐานขอพรที่นี่เรื่องงานที่ประเทศจีน(มีความเชื่อกันว่าท่านที่ค้าขายover seaต้องมาอธิฐานที่นี่) และน้องสาวก็มาขอพรตอนเป็นตัวแทนสถานทูตอิตาลีมาออกบูท น้องก็มาขอพรให้ท่านทูตได้มาประจำในAsia ประเทศใดประเทศหนึ่ง เพราะว่าความเป็นไปได้แค่1เปอร์เซ็น เท่านั้น ตอนนั้นคือต้องกลับไปประจำที่ยุโรป แต่ปาฏิหาริย์ก็บังเกิด ท่านทูตได้มาประจำในAsia จริงๆ คุณแม่ น้องสาว น้องชาย และโต จึงต้องมากราบขอบพระคุณที่เทพเทวาในวัดจีนได้เมตตาครอบครัวโต(คุณแม่ได้นำเอาท่งฮวง หรือ เครื่องแขวนสีเหลืองๆที่ห้อยอยู่หน้าพระที่เห็นในภาพ มาถวาย ทางเจ้าหน้าที่บอกตั้งแต่สร้างวัดพระจีนมายังไม่เคยมีใครนำท่งฮวงมาถวายเลย คณะนี้เป็นคณะแรก ทั้งๆที่ส่วนใหญ่จะมีแต่คนไต้หวันมากันมากแต่ก็ไม่ได้นำมาถวาย) ชาวคณะเลยได้ร่วมถวายด้วย ทุกๆคนที่มามีความสุขมากๆ ทุกๆคนรู้สึกดีใจที่ได้มากราบสักการะที่วัดพระจีนแห่งนี้ เวลาที่คุณแม่ถวายของทางเจ้าหน้าที่จะตีฆ้องและกลองพร้อมๆกันดังๆ มันได้ความรู้สึกดีจริงๆเหมือนลั่นฆ้องกล้องชัยชนะ ทุกๆคนต่างมีความสุขกันทั่วหน้า


    ทุกคนสัญญาว่าจะกลับมากันอีก โดยเฉพาะคณะคุณจุ๋มจิ๋มมากันเกือบทุกเดือน ถามคุณจุ๋มว่าทำไมมาบ่อยจัง.....? คุณจุ๋มตอบว่า.....”อุปสรรคต่างๆผ่านไปได้ด้วยอานุภาพแห่งพระบรมธาตุเจดีย์ชเวดากอง” ส่วนตัวโตก็เชื่อแบบนั้นเชื่อในอานุภาพแห่งพุทธรัตนะ –ธรรมรัตนะ-สังฆรัตนะ พุทธะบูชา มหาเตชะวันโต ธัมมะบูชา มหาปัญโญ สังฆะบูชา มหาโภคาวโห กราบโมทนากับทุกๆท่านที่ร่วมบุญ สาธุ สาธุ สาธุ อานุโมทามิ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. พชร (พสภัธ) ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,746
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +49,866
    มีหลายๆท่านถามเรื่อง"ท่งฮวง"คืออะไร ท่งฮวงคือเครื่องแขวนที่เชื่อกันว่าเป็นที่"สถิต"พระญาณของเทพเจ้า หรือ "ดวงวิญญาน" (ท่งฮวง)มีทั้งใช้ในงานมงคล และ อวมงคล(ความเชื่อเดียวกับการถวาย"ตุง") ต่างกันที่สี สีแดงใช้ถวายเทวดา สีเหลืองใช้ถวายพระและมหาโพธิสัตว์ ส่วนสีขาวของคนที่เสียชิวิต อย่างงาน"กงเต็กหลวง"ที่ใช้พระภูษาทรงขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกฏคลุมท่งฮวง "สมมุต"เป็นที่สถิตของดวงพระวิญญาน ท่งฮวงที่ถวายหน้าพระพุทธรูปถือเป็นของสูง ของมงคลยิ่ง จะเขียนชื่อเจ้าภาพและครอบครัวไว้ในท่งฮวง เชื่อว่านำมาซึ่งความเป็นสิริมงคลกับครอบครัวผู้ถวาย เป็นเครื่องแขวนที่มีทุกวัดจีนในวิหารใหญ่ทุกๆวัด
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

แชร์หน้านี้