ที่ผมกล่าวมาข้างต้น ผมก็ไม่ได้ บอกว่า ตกลง มันผิดหรือมันถูก
..................
แต่ผมรู้ว่า ที่ทำไป มันดี มันทำให้ผมมีความสุข และไม่เดือดร้อนใคร
..................
แล้วสรุป...ผมผิดไหมครับ
..................
ขอค้าน หลวงพ่อเกษม อาจิณสีโล
ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย ขันธ์, 27 กุมภาพันธ์ 2008.
หน้า 10 ของ 26
-
-
คุณเอกวีร์ครับ นี่ล่ะๆ ตรงนี้ล่ะที่ผมอยากบอก คือเวลาเราเข้าฌานขั้นสูง
กิเลสหลบไปหมด โดยข่มหมด เราก็จำใว้ว่าจิต ที่ผ่องใส ว่างจากอารมณ์ยังไง
พอถอนออกจากฌาน ลงมาทีฌานขั้นต้นอุปจารก่อน พิจารณา แล้วค่อยออกมา ตอนปกตินี่ล่ะที่เราจะต้องรักษาอารมณ์จิตที่เรา ได้จากฌานไม่ไห้มีกิเลส เข้ามาปรุงแต่ง เขาถึงเรียกว่า อริยะ เป็นผู้หมดกิเลส ทั้งภายในภายนอก
ไม่ต้องคอยให้ใครมาบอกว่าตัวเราดีไม่ดี ตรงไหน จะรู้ได้เองครับ. -
ก็ผมตอบไปแล้วไงครับ ว่า คุณไม่ผิด แต่คุณทำผิด พูดง่ายๆ คือ คุณไม่บาป แต่ คุณทำผิด
-
-
คุณก็รู้ว่า
ผิด ในที่นี้ ไม่ใช่ ผิดจริง แค่.......ทำไม่ถูกแบบแผน ไช่ไหมครับ
แค่ ทำไม่เหมือนคุณ ใช่ไหมครับ
และคนที่ทำไม่เหมือนคุณ เขาต้อง ผิด ใช่ไหมครับ
................
แล้วได้คำตอบในใจหรือยังครับ -
พระพุทธะทรงสอน
ทุกข์
สมุทัย
นิโรธ
มรรค
ตัวเราฟังอ่านด้วยปัญญา ทำดีเราก็มีความสุข คนอื่นไม่เดือดร้อน ท่านสอนอย่างไร ฟังด้วยปัญญา ยึดแนวทางของศิล สมาธิ ปัญญา 3 อย่างนี้ก็ประเสริฐแล้ว........ทอง -
ส่วนเรื่องพระอานนท์ผมไม่ขอออกความเห็น เพราะตัวท่านเองไม่มาบอก
ว่าเวลาท่านสำเร็จนั้น ท่านตัดยังไง นึกยังไง ปล่อยวางยังไง
เป็นเพียงคนอื่น มาชี้มาลงความเห็น ว่า ท่านน่าจะปล่อยวางยังงั้นยังงี้
วิถีจิตที่จะตัดกิเลสให้หมดสิ้นนั้น รู้ แต่ผมยังไม่เบื่อ จึงไม่เข้าครับ ส่วนวิถี
ของคนอื่น ขั้นต้นรู้ ขั้นสูง ตามไม่ทันครับ จึงไม่ขอออกความเห็นครับ -
นั้นแหละที่ผมชี้
จิต ไม่ต้องเข้าสู่ฌาณ แล้วถอย ขณะที่ตั้งมั่นอยู่ จะเห็นเองว่า มีอาสวะ หรือ
ไม่ แรกๆนะอาจดูไม่ทัน เพราะจิตมันจำไม่ได้ แต่เมื่ออาสวะปรากฏบ่อยๆก็
จะเห็นเองว่ามี และเมื่อมันจำได้ และทันเป็นปัจจุบันร มันก็ขาด ประหารลง
เดี่ยวนั้น ประหารแล้วรู้ทันทีว่าสิ้น ดับไปต่อหน้าต่อตา
แต่ถ้าดูไม่ทัน จำได้ แต่ยังไม่ทันเป็นปัจจุบัน ก็จะเกิดปัญญาเห็นว่า มันไม่ใช่
สิ่งถาวร เพราะมันจะต้องดับไปพร้อมสังขารของมัน ไม่อาจตั้งอยู่ได้ นี่ก็เห็น
ความเป็นจริงอีกว่า มันมีปัจจัยเป็นมาอย่างไร นี่เห็นแบบนี้ก็เอาไปสอนคนได้
สอนให้มองกันได้ แต่ถ้าไม่รู้ว่า มองอาสวะมองอย่างไรให้เห็น ก็คิดว่าชาติ
นี้ไม่ได้เห็น ก็กลายเป็นว่า ต้องใช้ฌาณถอยเข้าถอยออก เพื่อดูภาวะไร้
สังขารของอาสวะ มองแบบนั้น ไม่เห็นทั้งการมา การไป แต่ไปเล็งเอาผลเลย
มันก็เล็งผลเลิศ พออาสวะโพล่หัวก็น้อยอกน้อยใจ พาไปเป็นเทวดาดีกว่ากัน
มาสิ มาดูอาสวะให้เห็นคาตา กล้าๆหน่อย พระพุทธองค์ก็รับรองว่าทางสายนี้
ทำได้จริง ไม่ใช่ของหลอกลวงให้เสียเวลา อย่าพักอยู่ทีการเป็นเทวดาเลย
เมื่อมองมันบ่อยๆ กล้าๆเห็น ตอนไปเกิดเป็นเทวดานี้ วาสนาในการดูสติปัฏฐาน 4
มันจะตามไปด้วย เป็น สมบัติอริยะ ไม่ใช่มีแต่กองบุญของคนธรรมดา
คุณชี้ อริยะ แต่ผมขอชี้ สมบัติอริยะ ที่ติดตัวไปได้ไม่ว่ากี่อสงไขย กี่ชาติ
และถ้ามีแล้ว ไม่มีวันตกอบายภูมิ -
++
เมื่อ ผมอยู่ปกติมีสภาวะจิตที่ไม่มีกิเลสได้เหมือนกับใช้ฌานข่ม จนชินและ
รู้ทันกิเลสที่เข้ามา แม้จะยังไม่ถึงอรหันต์ ก็ใกล้เคียงละครับ -
ก็ใครชี้ให้เห็นวิถีจิตพระอานนท์เล่า
ใครๆเขาก็ชี้ให้ดูปฏิปทา นี่ของแบบนี้ ใครๆก็เห็นได้ เราไม่ได้โง่ไปชี้
วิถีจิตนะ -
++
"แล้ว ฌาณ ที่ตัดสังโยชน์ทั้งหมด ก็เป็น ฌาณ ที่เกิดกับ จิต เขาเอง สัมปยุตติ
กับดวงจิตเอง พ้นการควบคุมทั้งปวง ดังพระอานนท์ท่านสิ้นอาสวะก็เพราะ
ไม่ได้จงใจกระทำสิ่งใดๆอยู่ จิตไปรวมกับอัปปนาสมาธิเอง โดยอัปปนาสมาธิ
นั้นพระอานนท์กระทำอยู่ก็ไม่ใช่ เพราะกำลังเอนกายลงนอน."
"การที่บอกว่าจิตไปรวมกับอัปปนาสมาธิเองโดยอัปปนาสมาธินั้นฯ"นี่ไม่ใช่การตั้งใจจะบอกถึงวิถีจิต ในการบรรลุธรรมของพระอานนท์หรอกหรือ
ปติปทาสื่อความหมายยังงี้หรือ? -
ขอนอกเรื่อง
วันนี้ทานมาม่ามาครับ ได้หลักธรรมมาข้อนึง
"ปรุงแต่งสำเร็จรูป" -
ท่านจะเห็นเราชี้ตรงนั้นเป็นประเด็นหลัก ก็ได้
ประเด็นหลักของเราก็คือ พระอานนท์เป็นคนทำงาน มีภาระร้อยรัด
แต่ก็สามารถปฏิบัติสติปัฏฐาน 4 ควบคู่ไปได้
ตรงนี้ยกมาเพราะ ในเว็บวัดสามแยก ยกประเด็นขึ้นมาว่า
1.ใครไม่เคยมีวาสนา
2.ใครไม่เคยรักษาศีล
3.ใครที่ยังคู้ๆ นอนๆ
4.ใครที่ยังคอยหาอาหารเข้าปาก
บุคคลเหล่านี้ไม่สามารถหวังนิพพานได้
ไม่สามารถทำสติปัฏฐาน 4 ได้
ให้ไปทำบุญก่อน
นี้คือหัวใจ จุดขาย ณ หน้าเว็บสามแยกในเวลานี้ ตอนนี้
แน่ละ เพื่อการกวาดต้อนสาธุชนให้เข้าไปหา ให้รับ CD แต่ถ้าใคร
ฟัง CD แล้วไม่เข้าใจ ไม่สามารถเอออวยเห็นประโยชน์ตามกันแล้ว
ก็ไม่ต้องไปวัด ไปหาท่านให้เสียเวลา
นี่ก็คือจุดขายที่สอง ที่ชี้ไว้ในเว็บ
เราก็ไม่เห็นด้วย
เหตุผลนั้นคือ
1.พระที่เราไปพบมา ท่านชี้ว่าคนเราสามารถภาวนาสติปัฏฐาน 4 ได้ตลอด
เวลา เด็ก 7 ขวบปฏิบัติได้ดีที่สุด
2.เราไปปฏิบัติมาแล้ว โดยใช้เวลาแค่ 3 เดือน ตั้งแต่ธันวาคม ไปพบหลวง
พ่อแค่ สองครั้ง ถามคำถามเพียง 3 คำถามสั้นๆ ไม่เกิน 5 นาทีโดยรวม มาวัน
นี้ จิตก็ตั้งมั่นได้แล้ว ดูอาสวะอย่างของถูกดูได้แล้ว ไม่ได้ยากอะไรเลย
ศีล สมาธิ ปัญญา ก็สอนอย่างเดียวกัน ไม่ใช่ไม่ได้สอน จะว่าพร่องเพราะ
เรามาเถียงหรือไม่เห็นด้วยก็ไม่ใช่สิ่งตัดสิน
ศีล สมาธิ ปัญญา ก็สอนอย่างเดียวกัน สอนให้ง่ายๆ มันก็ง่าย แต่นี้ วัดสาม
แยก เอาแต่ชี้ว่า ยากส์ แน่ละ จะกวาดต้อนคนที่เห็นว่า การปฏิบัติธรรมเป็น
ของยากส์ นั่นก็กุศล
แต่กุศลแบบนี้ กุศลแค่การทำบุญนี้ มันของคู่โลก ไม่มีพระพุทธศาสนาก็มี
อยู่แล้ว เรื่องทำบุญ ทำกุศล จะโอนบุญ แผ่กุศลก็มีอยู่แล้ว
กุศลของการนั่งสมาธิ มันก็ของคู่โลก ไม่มีพระพุทธศาสนาก็มี
อยู่แล้ว เรื่องนั่งสมาธิให้เกิดกุศล
สติปัฏฐาน 4 นี่สิ เกิดแต่ในพระพุทธศาสนาเท่านั้น แล้วมาชี้ว่า ยากส์
ควรแล้วหรือที่เราจะเห็นดีเห็นงามตามนั้น โดยไม่ทักท้วง
ก็ตามแต่ใจท่านเถิด -
-
ท่าน เอกกวีร์
ท่านคิดจะหงายชามที่คว่ำแล้ว
ก็ยกวิธีการ โอนเงินของวัดนั้นมาด้วยสิ
เอามาทั้งหน้านั้นแหละ
ผมจำเวปไม่ได้แล้ว -
สำหรับ คุณ ขุนพล นะครับ
ถ้าเช่นนั้นแล้ว เทวทัต คงไม่ลงอเวจีหรอกครับ เพราะเทวทัต มีกำลังสมาธิ มากกว่า คุณ ขุนพล แน่นอน
รวมถึงมีปัญญา มากกว่า คุณ ขุนพลด้วย
และ ศาสนาพราหมณ์ และ การทำฌาณนั้นมีมาก่อน พระพุทธองค์จะประกาศ ศาสนาอีกด้วย
แต่ก็ไม่สามารถเข้าถึงการดับทุกข์ที่แท้จริงได้ ยังมีการบูชา ที่ผิดๆ
การทำอะไรที่ผิดๆ ยังร้อนรน อีกมาก
เชิญ พิจารณา -
วันนั้นกรูนั่งรถแท๊กซี่ไปทำงานกับแฟนกรู แล้วกรูทะเลาะกับแฟนในรถ อย่างดังเลย แฟนกรูมันแบบว่า ขี้โวยวายอ่ะ
ทะเลาะไปประมาณ 15 นาที แฟนกรูก็ยังไม่ยอมหยุดโวยวาย
แท๊กซี่แมร่งทนไม่ไหวเว้ย
ตะคอกพวกกรูดัง "ปู๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด"
แฟนกรูเงียบ !! เลย
กรูอย่างฮาอ่ะ อั้นหัวเราะไม่อยู่เลย แถมแมร่งเหม็นสาดอ่ะ กรูต้องเปิดหน้าต่าง แท๊กซี่แมร่งอายหน้าแดง เลยว่ะ กรั่กๆๆๆๆ -
โน เดี๋ยวนี้เพี้ยนไปแล้วหรือ นี่แหละกรรม
-
++
เอ..ผมเองไม่รู้จักกันกับพระเทวทัต เลยไม่รู้ว่าท่านอยู่ระดับจิตไหน
แต่สมาธิของผมนั้น เป็นสัมมาธิฐิเป็น การกำหนด รูป นาม เกิด ดับ
ตามหลักของ มรรค 8 เมื่อ เข้าแล้ว เวลาออกจะมาพิจารณาที่อุปจารสมาธิ
เสมอๆ ผมเอง ฝึกมาตั้งแต่ 7 ขวบ ลุงผมคือหลวงปู่ฝั้นเป็นคนฝึกให้ และแนะ
นำการฝึกมาตลอด อายุ 12 ปี ไปฝึกกับพระอาจารย์เสาร์ ที่บ้าน สามผง อ.
ศรีสงคราม พอดีทราบข่าวว่าท่านธุดงค์มาที่นั่น องค์อื่นๆอีกที่ไม่อยากยกมา
การฝึกของผมนั้น สอนโดยพระอริยะบุคคล สอนการใช้จิต ดูจิตตามมรรค 8
จนปัจจุบันก็นั่งมาหลายสิบปี ถ้าฝึกทำตามท่านบอกแล้วไปอยู่กับเทวทัต ก็ไม่รู้
จะไปฝึกกับใครอีกแล้วล่ะครับ. -
คุณขุนพลครับ
..................
น่าจะเสียเวลาเปล่าครับ
เดี๋ยวคุณก็โดนแหย่ โดนลองของ ...แต่ผมเชื่อว่า คุณขุนพลเยี่ยมพอตัว...เอาตัวรอดได้นะครับ
..................
ไปโปรดคุณผึ้งดีกว่าครับ เพราะ.. แกเริ่ม อยากแล้วครับ
หน้า 10 ของ 26