เห็นถามกันบ่อย ๆ ผมจึงตั้งกระทู้นี้และพยายามจะรวบรวม ทั้งจากความรู้ที่มีอยู่และจากเว็บต่าง ๆ
ที่เขาได้นำเสนอไว้ เป็นประโยชน์แก่สาธารณะชน ไม่ได้คิดเงิน
ต้องขออนุญาตไว้นะที่นี้ด้วย ถ้าประสงค์จะให้ลบ ก็เข้ามาแสดงความคิดเห็นเลยนะครับ กระทู้นี้นำเสมอเรื่อง
รอยตัดขอบเหรียญที่มีประโยชน์เท่านั้น เพื่อน ๆ มีข้อมูลก็สามารถนำมาร่วมกันได้นะครับ เฉพาะเนื้อโลหะครับ
ปั้มตัดขอบแบบเครื่องทันสมัยครับ คือคม ที่ลงให้อ่านผมยังไม่ได้ตรวจทานอีกทีครับ
แต่ก็คงใกล้เคียง การที่จะเก่งได้ต้องรู้จักศึกษาและวิเคราะห์ อย่างเชื่อใครง่ายจะได้ไม่โดนหลอก
ผู้ชำนาญการทางด้านเหรียญพระคณาจารย์ต่างๆ จึงได้จำแนก พระเครื่อง พระเหรียญจากการปั๊มตัดข้างเหรียญไว้เป็น 3 ยุค
1. พระเครื่องเหรียญ ยุคประมาณ พ.ศ. 2440-พ.ศ. 2485
2. พระเครื่องเหรียญ ยุคประมาณ พ.ศ. 2485-พ.ศ. 2500
3. พระเครื่องเหรียญ ยุคประมาณ พ.ศ. 2500-ปัจจุบัน
เหรียญช่วงปี พ.ศ. 2440-2485 นิยมสร้าง พระเหรียญ ที่มีลักษณะเป็นรูปทรงกลม รูปไข่ รูปทรงอาร์ม และทรงเสมา รูปทรงเหรียญทั้งสี่แบบนี้สามารถแยกกรรมวิธีการสร้างได้เป็น 2 ชนิดคือ เหรียญปั๊มชนิดข้างเลื่อยและเหรียญปั๊มชนิดข้างกระบอก ซึ่งเหรียญที่มีกรรมวิธีการสร้างทั้ง 2 ชนิดนี้มีรายละเอียดดังนี้ เหรียญข้างเลื่อยก็คือการนำเหรียญที่ปั๊มเรียบร้อยแล้วมาตัดส่วนที่เกินออก ด้วยการใช้เลื่อยตัดออกทีละเหรียญ ส่วนเหรียญข้างกระบอกนั้น เขาจะทำบล็อกรูปทรงของเหรียญนั้นๆ แล้วตัดแผ่นโลหะที่จะทำเหรียญมาใส่ลงไปแล้วจึงทำการปั๊มขึ้นรูปเหรียญ จึงทำให้สะดวกไม่มีส่วนเกินที่ข้างเหรียญ เหรียญในยุคนี้เช่นเหรียญหลวงปู่เอี่ยม วัดหนัง (ข้างเลื่อย) เหรียญหลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติฯ (ข้างกระบอก) เป็นต้น
2. เหรียญปั๊มข้างตัด (ปั๊มตัดแบบยุคเก่า) การสร้างเหรียญชนิดนี้จะอยู่ในช่วงประมาณปี พ.ศ. 2485-2500 เนื่องจากการสร้างชนิดแบบเก่าที่มีการเข้ากระบอก และแบบเลื่อยขอบ มีความยุ่งยากและเสียเวลา อีกทั้งในช่วงนี้เริ่มมีวิวัฒนาการในการสร้างเหรียญปั๊มขึ้นมาตลอด เครื่องจักรก็เริ่มมีความทันสมัยขึ้น ทางโรงงานได้มีการทำตัวตัดขึ้นเพื่อความสะดวกในการตัดเหรียญให้ขาดโดยไม่ ต้องมาเลื่อยให้เสียเวลาอีก แต่การปั๊มเหรียญและตัดในยุคนี้นั้นจะแตกต่างกับเหรียญในปัจจุบันคือ ด้านข้างของเหรียญจะมนๆ ไม่ค่อยมีริ้วรอยมากนัก อีกทั้งเหรียญช่วง พ.ศ.นี้ ลักษณะของเหรียญด้านหน้าจะนูนเล็กน้อย แต่ด้านหลังจะเป็นแอ่งกระทะ ซึ่งเกิดจากการปั๊มและตัดเหรียญนั่นเอง ตัวอย่างของ พระเหรียญ ที่สร้างขึ้นในยุคนี้คือพระเหรียญเกจิ เหรียญหลวงพ่อแช่ม วัดฉลอง บล็อกยันต์วรรค ปี 2486 และเหรียญหลวงพ่อทอง วัดดอนสะท้อน เป็นต้น
3. เหรียญปั๊มตัดยุค พ.ศ. 2500-ปัจจุบัน ในยุคนี้ได้มีการพัฒนาตัวตัดด้านข้างเหรียญที่ทันสมัย เพื่อความสะดวกในการตัดเหรียญในจำนวนมากๆ การพัฒนาตัวตัดยุคนี้จึงค่อนข้างคมชัด บางครั้งในเหรียญหลวงพ่อเดียวกันมีตัวตัด 2 ตัว เนื่องจากการสร้างเหรียญในแต่ละครั้งมีจำนวนมากขึ้น เช่น เหรียญหลวงปู่ทวด วัดช้างให้ รุ่นแรก ปี พ.ศ. 2500 ด้วยเหตุนี้ตัวตัดในยุคนี้จึงค่อนข้างคมเพื่อสะดวกในการตัดเหรียญจำนวนมากๆ
และผมจะค่อย ๆ นำภาพตัวอย่างการตัดจากขอบเหรียญมาให้ชมครับ<!-- google_ad_section_end -->
@ขอบเลี่อย-ขอบกระบอก-ขอบปั้มตัด-ฐานกลึง@
ในห้อง 'วิธีดูพระเครื่อง-เครื่องรางของขลัง' ตั้งกระทู้โดย stoes, 22 กรกฎาคม 2011.
หน้า 1 ของ 10
-
ขอบคุณครับ..................
-
กระทู้ความรู้ครับ ขอบคุณพี่สโตร์มากครับ
-
เหรียญช่วงปี พ.ศ. 2440-2485 นิยมสร้าง พระเหรียญ ที่มีลักษณะเป็นรูปทรงกลม รูปไข่ รูปทรงอาร์ม และทรงเสมา รูปทรงเหรียญทั้งสี่แบบนี้สามารถแยกกรรมวิธีการสร้างได้เป็น 2 ชนิดคือ เหรียญปั๊มชนิดข้างเลื่อยและเหรียญปั๊มชนิดข้างกระบอก ซึ่งเหรียญที่มีกรรมวิธีการสร้างทั้ง 2 ชนิดนี้มีรายละเอียดดังนี้ เหรียญข้างเลื่อยก็คือการนำเหรียญที่ปั๊มเรียบร้อยแล้วมาตัดส่วนที่เกินออก ด้วยการใช้เลื่อยตัดออกทีละเหรียญ ส่วนเหรียญข้างกระบอกนั้น เขาจะทำบล็อกรูปทรงของเหรียญนั้นๆ แล้วตัดแผ่นโลหะที่จะทำเหรียญมาใส่ลงไปแล้วจึงทำการปั๊มขึ้นรูปเหรียญ จึงทำให้สะดวกไม่มีส่วนเกินที่ข้างเหรียญ เหรียญในยุคนี้เช่น
เหรียญหลวงพ่อโสธร 2460
การนำเสนอในครั้งนี้ไม่มีวัตถุประสงค์ชี้นำว่าเก๊หรือแท้..
เป็นการชี้ให้ดูว่าควรสังเกตุ อะไรได้บ้าง เพื่อเป็นแนวทางการดูเหรียญโบราณ
อย่างเหรียญอาร์มหลวงพ่อโสธร เราต้องทราบก่อนว่า เป็นเหรียญ ปั้ม
แล้วนำเหรียญมาใช้เลื่อยตัดปีกเหรียญส่วนนอกพื้นที่เหรียญออกไป
ดังตัวอย่างภาพภาพบนส่วนภาพล่างขอบเหรียญหลวงพ่อโสธร 2460 ครับ
รอยเลื่อยขอบเหรียญ
1)ระนาบตรง..
2)แนวระนาบจะไม่ตั้งฉากกับหน้าหรือหลังเหรียญเพราะ เลื่อยด้วยมือมักจะเอียง...และจะเอียงด้านล่างเข้าด้านในเหรียญเป็นส่วนใหญ่
3)เส้นรอยเลื่อยไม่ตั้งฉาก..อาจจะเอียง โย้ไปด้านหน้า หรือถอยหลัง แล้วแต่ ธรรมชาติของคนเลื่อย..
4)ตามมุมเหรียญเช่นซอกหูเหรียญ ต้องมีรอยหยุดประคองเลื่อยเพื่อเปลี่ยนแนวเลื่อย..
<img style="-webkit-user-select: none" src="http://palungjit.org/attachment.php?attachmentid=1580653&stc=1&d=1311299073">
<img style="-webkit-user-select: none" src="http://palungjit.org/attachment.php?attachmentid=1580693&stc=1&d=1399104042">
สำหรับท่านที่สนใจรอยเลื่อยจริงๆ..มีแนวทางศึกษาแบบนี้ครับ
1)หาพลาสติกที่หนาพอควร มาวาดรูปอาร์มหลวงพ่อนี่ละครับมาตราส่วน หนึ่งต่อหนึ่ง..แล้วใช้เลื่อยฉลุเลื่อยดูเลยละครับ
2)หาซื้อเหรียญขอบเลื่อยเก่าแท้ ที่ราคาเบาๆ มาเป็นตัวอย่าง..มาเป็นครู..ต้องเห็นของจริงครับ จึงจะใส..
3)หมั่นขอดูเหรียญแท้ จากเซียนใหญ่ หรือจากเพื่อนๆที่มี..แต่คงยากดูภาพในเว็บที่ผมนำเสนอไปก่อนไฟล์ที่แนบมา:
-
-
ขอบคุณครับ ที่สละเวลามาดูแลน้องๆ เสมอมา ครับ (||)(||)(||)
-
ขอบคุณครับ จะได้ศึกษาการดูขอบเหรียญให้ละเอียดเสียที ครับ งง มานาน :cool:
-
ต้องขอบคุณท่าน(stoes)มากครับ ที่ช่วยนำประสพการณ์ทั้งส่วนตัวและจากในเวปมาเผยแพร่ กล้าบอกได้เลยครับความรู้ทั้งนั้นและเป็นเทคนิคเฉพาะทางในการวิเคราะห์เหรียญว่าใช่หรือไม่ใช่ ในส่วนตัวที่เจอมาผมเพิ่มเติมให้อีกส่วนหนึ่งครับแต่เรียกตัวตัดไม่ถูก ตั้งแต่ช่วงปี4 ต้นๆจนถึงปัจจุบัน จะเริ่มมีการเปลี่นนตัวตัดเป็นอีกแบบหนึ่งสังเกตุง่ายๆจากเหรียญจตุคามและพระเกจิในยุคปัจุบันได้ครับ ด้วยความเคารพ
-
เหรียญขอบกระบอก 2440-2485
เหรียญที่มีขอบข้างกระบอกไม่ได้มีเพียง
รูปทรงกลมและรูปไข่เท่านั้น รูปทรงเสมา และรูปอาร์มก็มีเช่นกัน
แต่น้อยเพราะเป็นกรรมวิธีที่ยาก เท่าที่พบในการสร้างเหรียญ
ปั้มขอบข้างกระบอกรูปทรงอาร์มก็มีและรูปทรงเสมาก็มี ในปี 2440 -2485
ก็มีเหรียญหลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติ พิมพ์ขอเบ็ด เหรียญหลวงพ่อจง
วัดหน้าต่างนอก พิมพ์หน้าใหญ่เป็นต้น การปั้มแบบขอบข้างกระบอก
คือการนำแผ่นโลหะมาเลื่อยตามรูปทรงของเหรียญที่จะทำการปั้ม
เพื่อเข้ากระบอก และทำการปั้มรูปเหรียญนั้น ๆ แผ่นโลหะที่ถูกแรงกระแทก
จากการปั้มขึ้นรูปนั้น ขอบด้านข้างจะปลิ้นไปเบียดกับขอบกระบอกที่เป็นตัวบังคับ
ดังนั้นด้านข้างของเหรียญปั้มชนิดนี้จึงเรียบเนียน เนื่องจากการปั้ม
เข้ากระบอก โดยมีตัวกระบอกเป็นตัวบังคับ แต่หากพบรอยเส้นทิวบาง ๆ
ในขอบข้างของเหรียญชนิดนี้ ก็อย่าตกใจ เพราะสาเหตุที่เป็นเช่นนั้น
เนื่องจากการที่ช่างทำการแต่งตัวบล็อกกระบอกที่จะทำการปั้มเหรียญ
ไม่เรียบ เวลาปั้มออกมาจึงมีลักษณะไม่ค่อยเรียบตามตัวบล็อกครับ
ความรู้จากหนังสือของ บอย ท่าพระจันทร์
ตัวอย่างเหรียญขอบกระบอก เป็นเหรียญอาร์ม
หลวงพ่อธรรมจักร วัดธรรมมูล สร้างปี 2461
มีการตกแต่งด้วยปรากฏรอยตะไบให้เห็นด้วยเล็กน้อย
เหรียญที่ 2 เป็นบล็อคขอบกระบอก คือเหรียญกรมหลวงชุมพร
เขตอุดมศักดิ์ สร้างปี 2466 กทมเนื้อเงินกระไหล่ทอง
สำหรับตัวอย่างเหรียญที่ 3 คือเหรียญที่สร้าง 2440
เหรียญนี้จะเก่ากว่า 2 เหรียญที่กล่าวมา
เป็นเหรียญอะไร...ท่านที่ชอบศึกษาเรื่องเหรียญขอบกระบอก
ก็จะทราบดี เมื่อเป็นเหรียญเกากว่า ขอบข้างกระบอก
ของเหรียญจึงดูไม่ค่อยเนียนเรียบ และแน่นเท่ากับสองเหรียญแรก
แต่จะมีความเก่ากว่าอย่างเห็นได้จัด ขอเพิ่มเติมข้อมูลเมื่อ 4/5/57
ขอบคุณหนังสือ ของบอย ท่าพระจันทร์
ส่วนข้อมูลตัวอย่างเหรียญขอบเลื่อยปลอมด้านล่าง
ผมจำไม่ได้ว่าใส่เหรียญตัวอย่างอะไรไว้ ถ้าท่านใด ได้เซพภาพข้อมูล
ก็รบกวนนำมาเสนอได้ จะเป็นพระคุณอย่างสูง
<img style="-webkit-user-select: none; cursor: -webkit-zoom-in;" src="http://palungjit.org/attachments/a.2989856/" width="281" height="244"><img style="-webkit-user-select: none; cursor: -webkit-zoom-in;" src="http://palungjit.org/attachments/a.2989857/" width="205" height="248"><img style="-webkit-user-select: none; cursor: -webkit-zoom-in;" src="http://palungjit.org/attachments/a.2989858/" width="232" height="240">
ต่อเนื่องจากด้านบนเรื่องเหรียญขอบเลื่อย
แต่ตัวอย่างภาพเหรียญหายไปเพราะเว็บพลังจิตได้เป็นจาก.comเป็น.org
จึงทำให้ภาพในระบบได้หายไปบางส่วนครับ
เมื่อมีขอบเลื่อยจริง แล้วก็มีตัวอย่างที่เป็นขอบเลื่อยไม่จริงมานำเสนอให้เช่นกัน
เพราะว่าเหรียญย่อมมีสองด้านเสมอ แล้วความรู้ก็ควรที่จะมีสองด้านเช่นกัน
ดั่งเช่นเหรียญที่เขาทำปลอมกัน ขอบเหรียญตัดเป็นอย่างไร ตอบได้ว่าหน้าหลังตำหนิครบ
แต่ด้านขอบรอยตัด เขาจะตัดด้วยเครื่องจึงมีความคม และอีกภาพเขาใช้ตะไบ
และจะตะไบเหรียญทีละเหรียญ และผมได้นำความรู้จากเว็บอื่นมานำเสนอด้วย
ภาพแรกที่ผมเคยเปรียบไว้
ขอบข้างเหรียญตะไบ...ในเมื่อเป็นเหรียญขอบเลื่อย ด้านข้างก็ต้องเป็นขอบเลื่อย..
เหรียญนี้เป็นรอยตะใบ ดูจากการมุมตะไบที่ไม่สามารถทำให้เป็นระนาบเดียวได้ จะเห็นเป็นสันโค้ง สอง-สามจังหวะ..
ไฟล์ที่แนบมา:
-
-
สุดยอดกระทู้ความรู้ครับ ขอบคุณมากๆครับ แล้วเหรียญของหลวงปู่กลั่นวัดพระญาติ พิมพ์ขอเบ็ด ก็ต้องเป็นขอบเลื่อยหรือขอบกระบอกครับ ขอความรู้ด้วยครับ
-
เลอค่าปัญภูมิอ่าน..........ขยายข่ายองค์ปัญญา
-
-
2. เหรียญปั๊มข้างตัด (ปั๊มตัดแบบยุคเก่า) การสร้างเหรียญชนิดนี้จะอยู่ในช่วงประมาณปี พ.ศ. 2485-2500 เนื่องจากการสร้างชนิดแบบเก่าที่มีการเข้ากระบอก และแบบเลื่อยขอบ มีความยุ่งยากและเสียเวลา อีกทั้งในช่วงนี้เริ่มมีวิวัฒนาการในการสร้างเหรียญปั๊มขึ้นมาตลอด เครื่องจักรก็เริ่มมีความทันสมัยขึ้น ทางโรงงานได้มีการทำตัวตัดขึ้นเพื่อความสะดวกในการตัดเหรียญให้ขาดโดยไม่ ต้องมาเลื่อยให้เสียเวลาอีก แต่การปั๊มเหรียญและตัดในยุคนี้นั้นจะแตกต่างกับเหรียญในปัจจุบันคือ ด้านข้างของเหรียญจะมนๆ ไม่ค่อยมีริ้วรอยมากนัก อีกทั้งเหรียญช่วง พ.ศ.นี้ ลักษณะของเหรียญด้านหน้าจะนูนเล็กน้อย แต่ด้านหลังจะเป็นแอ่งกระทะ ซึ่งเกิดจากการปั๊มและตัดเหรียญนั่นเอง ตัวอย่างของ พระเหรียญ ที่สร้างขึ้นในยุคนี้คือพระเหรียญเกจิ เหรียญหลวงพ่อแช่ม วัดฉลอง บล็อกยันต์วรรค ปี 2486 พ่อทอง วัดดอนสะท้อน เป็นต้น
เหรียญตีปลอกหรือขอบกระบอก เป็นเทคนิคสมัยก่อน ตัดโลหะให้ใกล้เคียงกับบล๊อคแล้วปั๊ม ขอบจึงเรียบ บางเหรียญก็จะมีขอบคม ๆ ปลิ้นมาด้านหลัง เช่นเหรียญมงคลบพิตรปี ๒๔๖๐ เหรียญยอดนิยมอย่างเหรียญขอเบ็ด ก็มีตำหนิธรรมชาติจากการปั๊มตีปลอก คือผิวเหรียญยุบตรงไหนนูนตรงไหน หน้าหลังถ้าเข้าใจก็จะหลงทางยากครับ
ผมขอยกตัวอย่างผมขอเป็นเหรียญหลวงพ่อแช่ม วัดท่าฉลองจากหนังสือ
เหรียญยอดนิยม อมตะแดนสยาม
และเหรียญหลวงพ่อคง วัดบางกระพ้อม
ค่อย ๆ อ่านทำความเข้าใจ
เหรียญหลวงพ่อคงว้ดบางกระพร้อมปี 2484
ต้องขออนุญาติเจ้าของหนังสือคุณบอย ท่าพระจ้นทร์ ถ้าท่านมาพบเจอ
ประสงค์ให้ลบก็บอกเลยครับ (ป้องกันไว้ก่อนเดี๋ยวถูกฟ้อง)
ในภาพจะเห็นรอยตัดแบบขอบบังคับในภาพแรกและอาจมองเห็นอีกชั้นเพราะไม่มีการแต่ง
และอีกเหรียญจะมองเห็นเป็นขอบคล้ายเลื่อย ซึ่งบางคนเข้าใจว่าเลื่อยออก และเข้าใจว่า
<img style="-webkit-user-select: none" src="http://palungjit.org/attachments/a.1581096/"><img style="-webkit-user-select: none; cursor: -webkit-zoom-out;" src="http://palungjit.org/attachment.php?attachmentid=3144313&stc=1&d=1399107866" width="751" height="733"><img style="-webkit-user-select: none; cursor: -webkit-zoom-out;" src="http://palungjit.org/attachment.php?attachmentid=3144314&stc=1&d=1399107866" width="754" height="713">
เหรียญรุ่นนี้มีขอบ 2 ชนิด คือขอบกระบอกและขอบสตางค์
ความจริงมีชนิดเดียว แต่ภาพที่สองบรรยายว่าคล้ายรอยเลื่อย
ในมุนของผม.....ขอบสตางค์ที่เห็นเกิดจากบล็อกขอบกระบอกเป็นล่องไม่เรียบ
จึงเกิดขอบสตางค์ขึ้นมาเหมือนเหรียญห้า เหรียญบาท ที่เราใช้อยู่เป็นประจำ
ซึ่งบางเว็บก็ยกตัวอย่างบรรยายไว้ว่าเป็นขอบเลื่อย ซึ่งทำให้คนเข้าใจไขว้เขวได้
แต่ถ้าจะให้แน่นอนขอบสตางค์ที่เกิดจากบล็อคต้องมีเหรียญที่สองซึ่งมีขอบสตางค์ตรงกัน
แต่หาตัวอย่างยากเพราะเหรึยญขอบสตางค์ในของแท้หายากกว่า
การจะรู้จริงในเรื่องพวกนี้เราต้องเข้าถึงขบวนการผลิต process แต่ผมก็ไม่ได้ไปถึงขนาดนั้น
ก็ขอแนะน้อง ๆ ที่ต้องการความเข้าใจในเรื่องนี้ถ้ามีโอกาสก็ลองหาทางไปดูโรงงานที่เขาผลิต<!-- google_ad_section_end -->
<FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>
</FIELDSET>
ไฟล์ที่แนบมา:
-
-
แอบมา่อ่านเพลินเลยครับ....ฮ่าๆๆๆๆๆ
สาธุ สาธุ สาธุ...อนุโมทนาครับท่าน stoes.... -
เหรียญหลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติ เนื้อเงินหน้าทองคำ ปั้มข้างขอบเลี่อยทีละองค์
เหรียญหลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติ เนื้อทองแดง ด้านหน้าเป็นขึ้กลาก
ใช้บล็อกหน้าของเก่ามาปั้มใหม่ ส่วนด้านหลังแกะบล็อคขึ้นมาใหม่
เรียกว่าบล็อกหลังเรียบ เป็นเหรียญปั้มข้างขอบเลี่อยทุกเหรียญ
เหรียญหลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติ เนื้อทองแดงด้านหน้าเป็นขึ้กลาก
ใช้บล็อกหน้าของเก่ามาปั้มใหม่ ส่วนด้านหลังแกะบล็อคขึ้นมาใหม่
เรียกว่าบล็อกหลังเรียบ แยกออกได้อีกบล็อกเรียกว่า บล็อกหลังเสี้ยนตอง
เป็นเหรียญปั้มข้างขอบตัดโบราณแบบเดียวกับเหรียญหลวงพ่อแช่ม
มีคำถามในใจแล้วใช่ไหมครับ......?
-
-
yes...
-
มีดีมาให้น้องๆอีกแล้ว จะเก็บเกี่ยวไว้ให้มากๆครับ เพื่อไม่ให้พี่ stoes เสียแรงเปล่า
-
เขยอยุธยาถาม...ชาวอยุธยาตอบ...
ดีครับ...ท่าน stoes ท่านมีข้อมูลเรื่องเหรียญเพี้ยบเลย...แถมภาพประกอบอีกต่างหาก....
มาช่วยดันกระทู้ให้ละเอียดเข้มข้นมากขึ้นครับ....
สาธุ สาธุ สาธุ...โมทนาในทุกคำตอบแลคำถามครับ... -
บล็อค 1 ขอเบ็ด 2 เรียบ 3 เสี้ยนตอง
บล็อคหน้ามีบล็อคเดียว ขึ้กลาก กับไม่ขี้กลาก
ส่วนขี้กลากที่จะให้ถามว่าสร้าง พ.ศ.ใด เฉลย 2480 เท่านั้นเอง
-
ขอบคุณสำหรับความรู้ครับพี่สโตร์ พระเหรียญนี่ผมโดนประจำเลย
หน้า 1 ของ 10