คำสอนหลวงปู่ดูลย์

ไม่ได้เลี่ยงครับ แค่จะบอกให้คุณเห็นจิต น้ำที่เต็มแก้วอยู่แล้ว จะเติมได้ยังไงครับ

สาธุครับ

 

มันคนละเรื่องกับการเห็นจิต การแยกกาย ออกจากจิต และใจ ที่คุณพูดมาว่าสามารถทำได้
ตกลงคุณเห็นจิตผ่านดวงแก้วใสแบบธรรมกายใช่นะครับ อย่าเลี่ยงตอบอีกนะครับ:'(

 

วันที่สมัคร: Feb 2010
ข้อความ: 2,137
พลังการให้คะแนน: 278

 

ผมไม่ได้ปฎิบัติธรรมกายครับ และ ไม่ได้ปฎิบัติพุทโธครับ

ผมปฎิบัติแบบของตนเองครับ ผมเข้าใจว่าคุณถามวิธีการเห็นจิต

ที่แท้คุณถามผมว่า ผมปฎิบัติสายไหนใช่ไหมครับ

สาธุครับ

 

ขอทวนคำถามอีกครั้งนะครับ คุณแยกจิตแบบไหน โดยวิธีใด แยกอะไรก่อนหลัง เริ่มต้นยังไงครับ:cool:

 

คุณเห็นจิตรึยังครับ

สาธุครับ

 

ถ้าผมตอบว่าเห็นแล้ว.. ห้ามคุณถามคำถาม ต่อนะครับ แล้วคุณต้องตอบคำถามผมเลยให้ตรงคำถาม ตกลงไหมครับ:cool:

 

เมื่อคุณเห็นจิตแล้ว คุณนำจิตออกเพิกเฉยต่อความรู้สึก เมื่อเพิกเฉยต่อความรู้สึกบ่อยครั้ง

ความรู้สึกจะลดลง จนน้อยลงไปทุกที จนไม่มีเหลืออยู่

ร่างกายจะไม่ตอบสนอง เพราะการปรุงแต่งไม่เกิดขึ้นครับ

สภาวะของร่างกาย และ จิตใจ จะเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง หากทำได้เป็นนิตย์

สาธุครับ

 

คุณลังเล..อะไรครับ ความจริงจะผิดรึถูก ก็เอาความจริงมาคุย ผิดพลาดก็แก้ไขได้ ไม่มีใครคอยจะฆ่าคุณนี่ครับ คุณกังวลอะไรครับ ผมรอนานแล้วครับ

 

ขอทวนคำถามอีกครั้งนะครับ คุณแยกจิตแบบไหน โดยวิธีใด แยกอะไรก่อนหลัง เริ่มต้นยังไงครับ:cool:

 

ผมบอกคุณไปแล้ว ว่าไม่ต่อเนื่อง คุณคงเข้าใจนะครับ

สาธุครับ

 

ก็ที่บอกนั่นแหละครับ คุณไม่เข้าใจเองครับ ผมอธิบายไปหลายรอบแล้วครับ

เมื่อคุณไม่เข้าใจ ก็เชิญคุณเถอะครับ

สาธุครับ

 

เอาละ..พอเข้าใจได้ ที่คุณเห็นนั้นคือสติ(หรือจิตอ่อนๆ) นั่นเอง ผมเหนื่อยกับคุณแล้ว ผู้ติดตามอ่านเขาจะตัดสินคุณเอง คุณนี่ มีจิตสาไถย์ กะล่อนเหมือนกันนะ จิตใจไม่ตรงธรรม ปรับปรุงหน่อย ไม่ยอมรับความจริงแก้ยากหากไม่จริงใจกับตนเอง น่าสงสารนะครับ หากคุณไม่รู้จักตัวเอง ไปกราบครูอาจารย์ซะให้มากๆครับ ยังไม่สาย :cool:

 

ผมไม่ได้ต่อว่าคุณแม้แต่น้อยเลยครับ และ ไม่เข้าใจว่าคุณจะต่อว่าผมทำไม

ผมตอบอย่างจริงใจทุกคำ ไม่ได้กล่าวด้วยความเท็จ

คงต้องวางคุณลงแล้ว เพราะคุณไม่ได้ตั้งใจที่จะทำความเข้าใจแต่อย่างใด

สาธุครับ

 

การชี้เหตุ ตามนิสสัยคุณ เอาข้อมูลที่ตอบโต้กันมาเป็นหลัก ไม่ใช่การต่อว่าอย่างเดียว แต่นี่เป็นการชี้ขุมทรัพย์ให้คุณ ผมเป็นกัลยา ณ มิตร คุณมาตั้งแต่แรกแล้ว อย่าเข้าใจผิดครับ
.. ที่สุดแล้วเราก็ต้องอภัยกันหมด เพียงแต่คุณดื้อจัด ..มายาสาไถยจิต คุณอยู่ลึก.. หากไม่จนด้วยเหตุผล จำนนด้วยหลักฐาน ความรู้ คุณจะไม่แสดงมายาสาไถย์นี้ออกมา
..ผมจึงชี้ว่า คุณน่าเป็นห่วงตรงนี้ แต่ก็ไม่ถึงกับแก้ไม่ได้ หรือสายเกินไป แต่ยากมากครับ เพราะคุณเป็นคนมีความรู้พอตัวทีเดียว นะครับ:cool:
อาการเหมือน พวกตกฌานนะคุณนี่

 

ตรงนี้น่าสนใจมาก ปู่สับสนเห็นจิตแล้ว
ปู่ถามตรง เห็นจิต เป็นรูป หรือ นาม หรือเห็นอย่างไร

ผมอยากฟังปู่นะ ว่าปู่เห็นยังไง
แยกรูป นาม ยังไง
น่าสนๆ วันนี้นั่งฟังปู่ครับ

 

เน็ตที่ไม่ต่อเนื่อง คุณไม่เข้าใจหรือครับ ถ้าต่อเนื่องคุณคงเห้นว่าขึ้นตั้งนานแล้ว

วาจาจะส่ออารมณ์ครับ แล้ว นิสัย เขียนแบบนี้ไม่ใช่หรือครับ

เมื่อคุณไม่สนใจที่ผมบอกกล่าวไป ผมก็บอกได้แค่นี้ครับ

ผมอธิบายเรื่องการแยก กาย ใจ จิตไปแล้ว แต่คุณไม่เข้าใจ หรือ ไม่ได้อ่าน

ก็สุดแล้วแต่คุณครับ เพราะประโยชน์จะเกิดต่อเมื่อมีคนมาอ่านครับ

คุณจะต่อว่าผมยังไง ก็ไม่สำคัญครับ เพราะยังไงผมก็ไม่เดือดร้อนครับ

ก็คงต้องจบเพียงเท่านี้ครับ

สาธุครับ

 

มรึงงง..มายุกุให้รำ ตำให้รั่ว กูตอบผิดไปเดี๋ยวมีคนมาเล่นกุตายต่อเนื่อง..มรึงไปอ่านคำตอบกุให้ดีซะก่อน อย่ามายุน้ำใจกูให้ฮึกเหิมเดี๋ยวกุไม่ได้เกิด..
กุไม่เอากับมรึงงงหรอก..กูรู้ทันเว้ยยยส์ :cool:

 

ตรงนี้ ผมน่าจะเข้าใจคุณผิดซะแล้ว คุณแยกจิต ออกจากเวทนาใช่ไหมครับ:cool: อยากสนทนาต่อครับ