ตำนานรักพญานาค:เมืองล่มจมบาดาลที่หนองหาน
ติดตาม ธรรมะในมือคุณ ได้ที่
Dhamma Kuntraka (@Dhamma_kuntraka) on Twitter
มีหมู่บ้านที่อยู่ติดริมหนองหานและอยู่ในอาณาบริเวณรวมแล้วประมาณ ๖๐ หมู่บ้านจึงไม่ต้องสงสัยเลยว่าหนองหานมีความกว้างใหญ่เพียงใดและมีตำนานเรื่องราวเกี่ยวกับพญานาคที่มีชื่อเสียงว่า ตำนานผาแดงนางไอ่ ซึ่งคนในชุมชนยังมีความเชื่อในตำนานเรื่องนี้สืบต่อกันมายาวนาน
ตำนานโบราณเกี่ยวกับหนองหานที่เล่าขานกันมาตั้งแต่โบราณ กล่าวไว้ว่า นางไอ่เป็นธิดาของพระราชาเมืองขอม ซึ่งมีสิริโฉมงดงาม เป็นที่หมายปองของเจ้าชายเมืองต่าง ๆ มีอยู่ปีหนึ่ง เมืองขอมประสบปัญหาฝนแล้ง เจ้าเมืองขอมจัดการแข่งขันบั้งไฟ และมีการจุดบั้งไฟเพื่อเสี่ยงทายขอฝน และหากบั้งไฟของใครขึ้นสูงที่สุด จะยอมยกธิดา คือนางไอ่คำ ให้เป็นภรรยา มีเจ้าชายจากนครต่าง ๆ เข้าแข่งขัน รวมทั้งท้าวผาแดงแห่งเมืองผาโพง
ฝ่ายท้าวภังคี โอรสของพญานาค ในนครบาลดาล ทราบข่าว ก็ยกพลพญานาคปลอมตัวเป็นคนเข้ามาเข้าแข่งขันด้วย บั้งไฟของพญานาคภังคีไม่ชนะ
แต่เมื่อภังคีได้ยลโฉมนางไอ่คำก็ไม่สามารถจะถอนใจรักได้ จึงปลอมตัวเป็นกระรอกเผือกมาในสวนดอกไม้ของนางไอ่คำ ด้วยเคราะห์แต่ชาติปางก่อน นางไอ่คำเกิดคิดวิปริต ต้องการบริโภคเนื้อกระรอกเผือก จึงสั่งให้นายพรานตามล่ามาปรุงอาหาร และนายพรานก็ยิงกระรอกเผือกได้ ก่อนตายได้อธิษฐานว่า ใครก็ตามที่ได้บริโภคเนื้อของตนจงจมน้ำตายในบาดาล นางไอ่คำได้นำเนื้อกระรอกมาปรุงอาหาร และแจกจ่ายเนื้อกระรอกไปทั้งเมือง ในคืนนั้นเองเกิดพายุฝนแผ่นดินไหว น้ำท่วมพัดพาผู้คนลงสู่หนองหานและท้องบาดาล ท้าวนาคราชบิดาของภังคี โกรธที่โอรสถูกฆ่า จึงพานาคจากเมืองบาดาลมาอาละวาดถล่มเมืองขอมจนสิ้น ส่วนท้าวผาแดง เมื่อเห็นเมืองขอมถล่มได้พานางไอ่คำขึ้นม้าควบหนีไปทางทิศเหนือ หนีน้ำและบรรดาพญานาคที่ตามพ่นไฟไล่หลังมา วิญญาณแค้นของภังคีได้วนเวียนมาทวงความแค้นกับผาแดงนางไอ่ตลอดมาทุกชาติ ๆ
บริเวณที่พวกนาคถล่มจมพื้นบาดาล ได้กลายเป็นหนองหาน ณ ปัจจุบัน อยู่ในจังหวัดอุดรธานี
เป็นต้นลำน้ำปาว มีเกาะต่าง ๆ ที่เหลือจากการล่ม คือ เกาะเกษ ดอนสวน ดอนเตา ดอนดินจี่ ดอนแอ่น และดอนหลวง มีสถานที่เป็นทางผ่านของผาแดง นางไอ่ เช่น ห้วยพ่นไฟ ห้วยสามพาด ห้วยน้ำฆ้องห้วยกองสี ฯลฯ
ประชาชนรอบ ๆ หนองหาน ได้สร้างเจดีย์ วัด และสถานที่ศักดิ์สิทธิ์เพื่อเป็นที่สิงสถิตของวิญญาณ
ผู้ที่ประสบเคราะห์กรรมจมน้ำตายในครั้งนี้ ได้แก่ พระธาตุเชียงแก้ว พระธาตุดอยหลวง พระธาตุบ้านเดียมพระธาตุจอมศรี พระมหาธาตุเจดีย์(พระธาตุดอนแก้ว) ศาลท้าวผาแดง เป็นต้น
ศูนย์เผยแผ่ธรรมะออนไลน์กัณฑกะ
www.facebook.com/ศูนย์เผยแผ่ธรรมะออนไลน์กัณฑกะ
witsanutripprasert - YouTube
Dhamma Kuntraka (@Dhamma_kuntraka) on Twitter
ตำนานพญานาค:เมืองล่มจมบาดาลที่หนองหาน
ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย กัณฑกะ, 20 เมษายน 2012.
หน้า 1 ของ 3
-
ไฟล์ที่แนบมา:
-
-
มันเป็นความเชื่อท้องถิ่น
สงสัยนักก็ลองไปทำดูซิ -
-
แต่ยังมีบางคน ชอบลองของ นะ
โดยส่วนตัวดิฉันเคยไปหนองหารนี้เหมือนกัน ไม่เคยทราบมาก่อนว่าเค้าห้ามกล่าวถึงตำนานในอดีต ก็พูดคุยกันไปเรื่องผาแดง-นางไอ่-พญานาค-พังคี-พังพอน ก็เห็นเหตุการณ์ปกติดี นะคะ
ส่วนที่เกิดเหตุการณ์ไม่ดี อันนี้ไม่รู้เหมือนกัน ยังไม่เคยเจอ .. (*)(*)(*) -
[SIZE=+3]หนองหารสกลนคร กับหนองหานอุดร ทำไมเรื่องเหมือนกันจัง [/SIZE]
-
สวยจริงๆ:cool:
-
สวยนะ...อยากไปเที่ยวจัง...
-
nuanhadyai@hotmail เป็นที่รู้จักกันดี
-
มีหมู่บ้านที่อยู่ติดริมหนองหานและอยู่ในอาณาบริเวณรวมแล้วประมาณ ๖๐ หมู่บ้าน
ไฟล์ที่แนบมา:
-
-
ที่เชียงแสน จังหวัดเชียงราย ก็มีตำนานเมืองโยนกนาคนคร และที่ำลำพูน มีหนองสะเลียม เมืองล่มเพราะคนไปจับปลาไหลเผือกมากิน ยกเว้นแม่ม่ายชื่ออุ้ยเขียวไม่ได้กิน บ้านแม่ม่ายกลายเป็นเกาะเป็นดอนอยู่กลางหนองน้ำ
ตำนานหนองสะเลียม ตู่ ดารณี - YouTube -
ที่เวียงหนองล่มอำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงรายเป็นกรณีเรื่องภัยพิบัติแผ่นดินไหวและการผิดทำนองครองธรรมมีเรื่องเล่าเกี่ยวกับพญานาคด้วยเช่นกันครับ
จาก Chiangrai focus.com
เวียงหนองหล่ม ตั้งอยู่ที่เขตติดต่อระหว่างตำบลโยนก อำเภอเชียงแสนกับตำบลจันจว้าอำเภอแม่จัน จากหลักฐานที่ได้จากการสำรวจสันนิษฐานว่าอยู่ระหว่างยุคหินใหม่ ถึงไม่เกินพุทธศตวรรษที่ ๑๙ตำนานและพงศาวดารหลายเล่มกล่าวตรงกันว่า เจ้าชายสิงหนวัติ พาผู้คนมาหาที่ตั้งเมืองพอมาถึงแม่น้ำโขง ก็พบพญานาคจำแลงเป็นชายมาบอกสถานที่สร้างเมืองจึงตั้งเมืองโยนกนาคพันสิงหนวัติ โดยเอาชื่อองค์ผู้สร้างเมืองรวมกับชื่อพญานาคหรือโยนกนครหลวง
มีกษัตริย์ปกครองสืบจนถึงสมัยพระเจ้ามหาไชยชนะผู้คนจับปลาไหลเผือกได้ที่แม่น้ำกก จึงนำมาแบ่งกันกินทั่วเมืองเว้นแต่หญิงม่ายนางหนึ่งไม่มีลูกหลานไม่มีใครให้กิน ตกกลางคืนเกิดแผ่นดินไหวเมืองถล่มลงเหลือแต่บริเวณบ้านของหญิงม่ายจึงเรียกน้ำนั้นว่าเกาะแม่ม่ายและเรียกเมืองนั้นว่าเวียงหนองล่ม จากโครงการอนุรักษ์เมืองโบราณและประวัติศาสตร์เชียงแสนได้มีการสำรวจพื้นที่ของเวียงหนองล่มหลายครั้ง
<O:p</O:p
ภาพ 1 ภาพเวียงหนองล่มจากมุมสูง
ภาพ 2 ภาพที่ตั้งเวียงหนองล่มและพื้นที่โดยรอบไฟล์ที่แนบมา:
-
-
:cool:ภาพพยานาคงามแต้ๆเหมือนมีชีวิต(k) น่าไปลองของดูหากมีโอกาสอิอิ...:cool:({)(k):boo::cool:
-
เทียบกับสมัยนี้ก็เริ่มแล้ว หลุมยุบ
ไฟล์ที่แนบมา:
-
-
-
-
-
สองค่ะ แต่ก็สรุปไม่ได้ว่าอันไหนจริงหรือเท็จเพราะมันนานมาแล้วแต่ที่สกลนครมีภูน้ำลอดซึ่งเชื่อมต่อกับสระพังทองในอดีตมีชาวบ้านไปตักน้ำแล้วทำครุตกลงไปในบ่อน้ำนี้แล้วครุดันไปโผล่ที่สระพังทองเฉยเลย
และหนองน้ำในสระพังทองก็มีหนองจอกซึ่งมีที่มาจากตำนานในขณะที่ผาแดงและนางไอ่หลบหนีการไล่ล่าพญานาคก็ได้ทำตอกกินน้ำหล่นลงไปเลยกลายเป็นที่มาของสระแห่งนี้
ถ้าจะให้ดีก็อยากให้มีการพิสูจน์จริงๆลองส่งนักประดาน้ำดำลงดูทั้งสองที่เลยอันไหนของจริงก็น่าจะเหลือหลักฐานอยู่บ้างนะคะ -
อ่า..???คือสงสัยครับ.??..ที่ฟังประวัติที่เล่ามาแล้ว ผมเห็นแต่พยานาคที่ถูกฆ่าเอาเนื้อมากิน(น่าเห็นใจ) แล้วมาแก้แค้น ... ทำไมผมรู้สึกว่า ฝ่ายทาง ท้าว ผาแดง กับ นางไอ่ อยู่ ฝั่งพระเอก (ถ้าพูดถึงละคร เราจะรู้สึกว่าเราคิดแบบนั้น)ส่วน พระยานาค เป็นตัวโกง.?
-
ผาแดงนางไอ่เป็นตำนานของหนองหานอุดรธานีเข้าใจกันถูกแล้วครับ
แต่คนส่วนใหญ่เข้าใจผิดและสับสน
สกลนครจะเกี่ยวกับพญาขอมและเหล่าพญานาคเช่นกันแต่เป็นรุ่นพ่อของท้าวผาแดงและพี่ชายคือพระยาสุวรรณพิงคาระและมเหสีพระนางนารายเจงเวง
ยาวครับไว้มีโอกาสจะมาเล่าให้ฟัง มีเป็นประวัติเมืองสกลนครในแผ่นจาลึกเก็บไว้ที่ราชภัฏสกลนครอยู่ครับ แค่คล้ายกันแต่ไม่เหมือนกันครับ -
ลำน้ำก่ำ หรือ ลำน้ำกรรม (ตำนานฟานด่อน-หนองหานสกลนคร)
..............
ลำน้ำก่ำ หรือในตำนานอุรังคนิทานเรียกว่าลำน้ำกรรม เป็นลำน้ำขนาดเล็กที่ไหลจากหนองหานสกลนคร ไปออกแม่น้ำโขงที่อำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม จุดเริ่มต้นของน้ำก่ำก็อยู่แถวบ้านท่าวัด อำเภอเมืองสกลนคร ซึ่งเป็นชุมชนเก่าสมัยทวาราวดีก่อนที่อาณาจักรขอมจะเรืองอำนาจเสียอีก แม้มาถึงยุคขอมชุมชนบ้านท่าวัดก็ยังสามารถรักษาความเป็นชุมชนเอาไว้ และมีการปรับเปลี่ยนแนวความเชื่อแบบพุทธศาสนามาเป็นความเชื่อตามแบบขอม (อาจเป็นมูลเหตุที่โบราณสถาน-วัตถุโบราณ สมัยทวาราวดีสูญหายไปจำนวนมาก ทั้งๆที่จุดนี้น่าจะเป็นชุมชนที่มีความสำคัญและมีความเจริญพอสมควร)
มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตหนึ่งเดียวในโลกนี้ที่เป็นผู้มีจินตนาการ และมนุษย์มีระบบความเชื่อที่ผูกกับศาสนา ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ จึงก่อให้เกิดการผูกโยงเรื่องราวเกิดเป็นตำนาน นิทาน เพื่อนำมาเล่าสู่กันฟัง ทั้งเพื่อความสนุกสนานและเพื่อกำหนดพฤติกรรมของคนในสังคมนั้นๆ
ลำน้ำก่ำ หรือ ลำน้ำกรรม ที่มีความเกี่ยวข้องกับตำนานฟานด่อน หนึ่งในสองตำนาน(ผาแดง-นางไอ่)ที่เกิดมาควบกับเมืองหนองหานหลวง
ความในตำนาน..
ขุนขอม ราชบุตรเจ้าเมืองอินทปัฐนคร ได้มาสร้างเมืองหนองหานหลวงขึ้นบริเวณท่านางอาบ(บ้านน้ำพุ-บ้านท่าศาลา) ริมหนองหาน ขุนขอมมีบุตรคนหนึ่งชื่อสุรอุทก ในวันประสูติกุมารน้อยสุรอุทกมีอัศจารรย์บังเกิดน้ำพุขึ้นริมหนองหานใกล้ๆกับเมือง ขุนขอมจึงตั้งชื่อบริเวณนั้นว่า”ซ่งน้ำพุ” (ที่ตั้งบ้านน้ำพุ อ.โพนนาแก้ว) ต่อมาเจ้าสุรอุทกมีพระชนม์๑๕พรรษา ขุนขอมบิดาก็ถึงแก่กรรม
พระยาสุรอุทกได้ขึ้นครองเมืองปกครองไพร่ฟ้าสืบมา พระองค์มีบุตร๒องค์ คือ เจ้าสุวรรณภิงคาร และ เจ้าคำแดง วันหนึ่งพระยาสุรอุทกก็เกณฑ์ไพ่พลเพื่อออกตรวจตราแนวเขตบ้านเมือง ครั้นเดินทางไปถึงปากน้ำมูนนที ซึ่งเป็นเส้นแบ่งเขตระหว่างเมืองหนองหานหลวงกับเมืองอินทปัฐนคร เสนาอำมาตย์จึงเข้ารายงานว่า..”เส้นแบ่งเขตระหว่างเมืองหนองหานหลวง กับ เมืองอินทปัฐนคร ที่ยึดถือเอาลำน้ำมูนนที ไปจรดดงพระยาไฟ นั้น ขุนขอมซึ่งเป็นพระบิดาของพระองค์ได้ตกลงกับเจ้าเมืองอินทปัฐนคร โดยมอบหมายให้ “ธนมูนนาค” พญานาคผู้มิอิทธิฤทธิ์ให้ดูแลแนวเขตนี้ต่อไป
ฝ่ายพระยาสุรอุทกได้ฟังก็ทรงพิโรธ หาว่า..ทำไมปู่กับบิดาถึงมอบให้สัตว์เดรัจฉานเยี่ยงธนมูนนาคเป็นผู้ดูแลบ้านเมืองเช่นนี้ ซึ่งเป็นการไม่บังควร เป็นการลบหลู่พระเกียรติยศ ว่าแล้วพระยาสุรอุทกก็ชักพระขันธ์ออกมาแสดงอิทธิฤทธิ์ไต่ขึ้นเหนือน้ำธนมูนนทีเพื่อเป็นการข่มขู่ธนมูนนาค
ฝ่ายธนมูนนาค ก็ไม่พอใจเช่นกันที่ถูกลบหลู่เช่นนั้น ต่างฝ่ายจึงต่างแสดงอิทธิฤทธิ์ออกมาข่มกันแบบไม่มีใครยอมใคร
จนเมื่อพระยาสุรอุทกเดินทางกลับเมืองหนองหานหลวง ธนมูนนาคก็ยังไม่หายเจ็บแค้น จึงเกณฑ์ไพร่พลนาคตามมา โดยสำแดงเดชให้ไพร่พลทั้งหลายกลายร่างเป็น “ฟานด่อน” สีขาวบริสุทธิ์สวยงามแก่ผู้พบเห็น ไพร่พลของธนมูนนาคได้เดินทางมาถึงบ้านโพธิ์สามต้น(ปัจจุบันคือ ต.โพธิไพศาล อ.เมืองสกลนคร) ชาวเมืองได้พบเห็นความอัศจรรย์ฟานด่อนจำนวนมาก ก็นำความกราบบังคมทูลพระยาสุรอุทกให้ทรงทราบ
พระยาสุรอุทกเมื่อทรงทราบ ก็ไม่ได้เฉลียวใจในความอัศจรรย์นั้น สั่งให้นายพรานไปจับตัวมาถวาย ไม่ว่าจะจับเป็นหรือจับตาย เมื่อนายพรานพร้อมพวกเดินทางไปถึงบ้านโพธิ์สามต้น ก็เห็นฝูงฟานด่อนแทะเล็มหญ้าอยู่ ครั้นจะเข้าไปจับฝูงฟานด่อนนั้นกลับเร้นกายหายไปราวกับอยู่ในความฝัน ยังคงเหลือแต่ฟานด่อนที่ชื่อธนมูนนาคตัวเดียวที่ยังคงแทะเล็มหญ้าอยู่โดยไม่แสดงท่าทีตกใจหนีไป แต่ก็ใช่ว่าจะจับได้โดยง่าย ธนมูนนาคหลอกล่อจนนายพรานเหนื่อยก็ยังจับไม่ได้ จนมาถึงบ้านหนองบัวสร้าง(บ้านหนองบัวสร้าง ต.โพธิไพศาล ตั้งอยู่ติดกับถนนสายนาหว้า-สกลนคร) นายพรานจึงตัดสินใจใช้ปืนอาบยาพิษยิงฟานด่อนตัวนั้น
ฝ่ายธนมูนนาค เมื่อถูกยิงครั้นจะต่อสู้กับนายพรานซึ่งไม่มีฤทธิ์เดชอะไรก็กลัวจะเสื่อมเสียเกียรติยศ จึงสูบเอาวิญญาณของตนออกจากร่างฟานด่อน จากนั้นฟานด่อนก็ถึงแก่ความตาย
เมื่อฟานด่อนตายแล้ว ธนมูนนาคก็ทำอิทธิฤทธิ์ให้ฟานด่อนตัวนั้นใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ จนนายพรานไม่สามารถนำร่างฟานด่อนกลับไปเมืองหนองหานหลวงได้ จึงลากศพฟานด่อนตัวนั้นมาไว้ที่ริมหนองหานแล้วกราบบังคมทูลพระยาสุรอุทกให้ทรงทราบ
ฝ่ายพระยาสุรอุทกก็สั่งให้แล่เอาเนื้อไปถวาย ที่เหลือก็แบ่งกันไป นายพรานและชาวบ้านแถวนั้นพากันแล่เนื้อฟานด่อนตัวนั้นถึง๓วัน๓คืนก็ยังไม่หมด ยิ่งแล่ก็ยิ่งมากขึ้นจนคนในเมืองหนองหานหลวงได้กินกันทุกคน พระยาสุรอุทกเมื่อได้เสวยเนื้อฟานด่อนตัวนั้นแล้วก็รู้สึกมีความสุขยิ่งนัก
ฝ่ายธนมูนนาค ซึ่งยิ่งเพิ่มไฟแห่งความโกรธมากขึ้น ก็เตรียมไพร่พลนาคเข้าทำการขุดดินใต้เมืองหนองหานหลวง หวังให้ล่มเป็นหนองน้ำ การต่อสู้ระหว่างกองทัพพระยาสุรอุทก กับ ธนมูนนาค จบลงที่พระยาสุรอุทกถูกจับตัวได้ ธนมูนนาคใช้บ่วงบาศก์ที่เสกเวทย์มนต์พันธนาการพระยาสุรอุทกไว้ แล้วก็ชักลากพระยาสุรอุทกไปตามทุ่งนาป่าเขา วกไปวนมาหวังให้ได้รับความทุกขเวทนา ความลำบาก พอถึงแม่น้ำโขงพระยาสุรอุทกก็ขาดใจตาย ธนมูนนาคจึงส่งศพพระยาสุรอุทกไปยังเมืองอินทปัฐนครซึ่งเป็นเชื้อสายเดิม
หนทางที่ธนมูนนาค ชักลากพระยาสุรอุทกไปยังแม่น้ำโขงนั้นได้กลายเป็นล่องลึกและกลายมาเป็นลำน้ำ ชาวบ้านจึงเรียกลำน้ำนี้ว่าลำน้ำกรรม(ลำน้ำก่ำ ในปัจจุบัน) เพราะธนมูนนาคทรมานพระยาสุรอุทกให้ได้รับกรรมเช่นเดียวกับที่พระองค์สั่งให้คนลากร่างฟานด่อนมายังริมหนองหาน
ส่วนหนทางที่นายพรานลากฟานด่อนมาถึงริมฝั่งหนองหาน ก็เกิดเป็นร่องลึกจนกลายมาเป็น”คลองน้ำลาก” ไหลจากตำบลโพธิไพศาลมาตกยังหนองหานในปัจจุบัน
เมื่อสิ้นสมัยพระยาสุรอุทก พระยาสุวรรณภิงคารผู้เป็นโอรสองค์โตก็ครองเมืองแทน และอภิเษกสมรสกับพระนางนารายณ์เจงเวง ซึ่งเป็นเชื้อพระวงศ์จากเมืองอินทปัฐนคร(เชื้อสายเดียวกัน) ส่วนพระยาคำแดงพระอนุชา เมืองหนองหานน้อยห้วงเวลานั้นเว้นว่างผู้ครองเมือง เสนาอำมาตย์จึงเสี่ยงทายหาเจ้าผู้ครองนคร ปรากกว่าราชรถเสี่ยงทายมาเกยที่วังของเจ้าคำแดง ณ เมืองหนองหานหลวง พระยาคำแดงจึงได้ไปครองเมืองหนองหานน้อยนับแต่นั้นมา.
หน้า 1 ของ 3