ติดตามสถานะการณ์

ปอกเปลือก ทรราช
นั่นดูคลิปนี้แล้วขำกับคนอเมริกันที่กำลังเมาประชาธิปไตย การเผชิญหน้ากันระหว่างม็อบโปร-ทรัมป์ กับม็อบต่อต้านทรัมป์ที่ L.A. (1 พ.ค.60)
-------------

 

ปอกเปลือก ทรราช



ใกล้แล้วสินะ? จีนเรียกร้องให้สหรัฐยุติระบบขีนปาวุธ THAAD ในเกาหลีใต้ทันที แจ้งให้พลเมืองชาวจีนเดินทางออกจากเกาหลีเหนือ ปูตินยกหูโทรศัพท์คุยกับทรัมป์เกี่ยวกับปัญหาเกาหลีเหนือและซีเรียหลังรองรมว.ต่างประเทศเกาหลีเหนือคุยกับเอกอัครราชทูตของรัสเซีย





----------
วันที่ 2 พ.ค.60 RT พาดหัวข่าวว่า "จีนเรียกร้องให้ยุติการติดตั้งขีปนาวุธ THAAD ในเกาหลีใต้ทันที" (China demands ‘immediate’ halt to THAAD deployment in South Korea)
กรุงปักกิ่งได้เรียกร้องให้หยุดการติดตั้งระบบต่อต้านขีนาวุธ THAAD ในเกาหลีใต้ทันที และประกาศว่าพร้อมที่จะปกป้องผลประโยชน์ของตนเอง กระทรวงต่างประเทศจีนแถลง
นาย Geng Shuang โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีนกล่าวว่าจุดยืนของรัฐบาลจีนก็คือคัดค้านการเคลื่อนไหวในครั้งนี้ "พวกเราคัดค้านการติดตั้งระบบขีปนาวุธของสหรัฐในเกาหลีใต้ และขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายหยุดกระบวนการดังกล่าวในทันที พวกเราพร้อมที่จะใช้มาตรการต่างๆเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของพวกเรา จุดยืนของจีนเกี่ยวกับปัญหาขีปนาวุธ THAAD ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง" นาย Geng Shuang กล่าว วันเดียวกันนี้สื่อต่างประเทศรายงานว่าสหรัฐได้เปิดใช้งานระบบ THAAD ในเกาหลีใต้เรียบร้อยแล้ว
วันที่ 2 พ.ค.60 RT พาดหัวข่าวว่า "ปูตินและทรัมป์สนทนากันทางโทรศัพท์หารือปัญหาซีเรียและเกาหลีเหนือ - ทำเนียบเครมลินแถลง" (Putin, Trump speak by phone, discuss Syria, N.Korea – Kremlin)
ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินแห่งรัสเซีย และประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐได้คุยกันทางโทรศัพท์ซึ่งทั้งสองฝ่ายได้มีความเห็นร่วมกันในการประสานงานกันเกี่ยวกับการสนับสนุนกระบวนการทางการทูตในการจัดการกับความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลีและในซีเรีย ทำเนียบเครมลินกล่าว
"ปธน.วลาดิเมียร์ ปูตินได้เรียกร้องให้มีการยับยั้งและลดระดับของความตึงเครียดลง" เกี่ยวกับคาบสมุทรเกาหลี แถลงการณ์กล่าว "ได้มีการตกลงที่จะทำงานร่วมกันในการแก้ไขปัญหาด้วยวิธีทางการทูต ซึ่งจะแก้ไขวิกฤตได้"
เกี่ยวกับปัญหาในซีเรีย ปูตินและทรัมป์ได้ตัดสินใจที่จะ "เปิดการเจรจาระหว่างระดับรัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของทั้งสองประเทศซึ่งจะแสวงหามาตรการต่างๆเพื่อรับประกันข้อตกลงหยุดยิง ทำให้มีเสถียรภาพ และอยู่ภายในการควบคุม" แถลงการณ์กล่าว
วันที่ 2 พ.ค.60 สำนักข่าว CGTN (CCTV) ของรัฐบาลจีนรายงานว่า นาย Han Song Ryol รองรัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของเกาหลีเหนือด้านกิจการเกี่ยวกับสหรัฐ ได้พบกับนาย Alexander Matsegora เอกอัครราชทูตของรัสเซีย (ในกรุงเปียงยาง?) เมื่อวันอาทิตย์นี้ ทั้งสองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนมุมองต่อกันเกี่ยวกับสถานการณ์ปัจจุบันในคาบสมุทรเกาหลี
สำนักข่าว TASS ของรัสเซียรายงานว่าปูตินและทรัมป์จะประชุมรอบนอกร่วมกันในการประชุมผู้นำ G20 ที่เมือง Hamburg ประเทศเยอรมันระหว่างวันที่ 7 - 8 กรกฏาคมนี้
วันที่ 2 พ.ค.60 Sputnik พาดหัวข่าวว่า "จีนเตือนพลเมืองของตนเองในเกาหลีเหนือให้อพยพออกจากประเทศนั้น เนื่องจากความขัดแย้งกับปรากฏ" (China Warns its Citizens in North Korea to Leave as Conflict with US Looms)
สถานีวิทยุ Radio Free Asia ที่ได้รับการสนับสนุนทางการเงินจากสหรัฐ (กระบอกเสียงของสหรัฐในเอเซีย) ได้รายงานเมื่อวันอังคารนี้ว่า สถานทูตจีนในเกาหลีเหนือได้ส่งคำเตือนไม่ถึงสัปดาห์ก่อนวันครบรอบปีที่ 85 ของการจัดตั้งกองทัพเกาหลีเมื่อวันที่ 25 เมษายนที่ผ่านมา ในโอกาสนี้บางคน (พวกตะวันตกและเกาหลีใต้) คาดว่าฝ่ายเหนือจะถือโอกาสทดลองอาวุธนิเคลียร์ครั้งที่หก
[แต่สุดท้ายแล้วเกาหลีเหนือก็ไม่ได้ทดลองอาวุธนิวเคลียร์ แต่ทำการทดลองขีปนาวุธบอลลิสติกรุ่นใหม่แทน แต่ล้มเหลว ล่าสุดเกาหลีใต้บอกว่า เกาหลีเหนือจงใจทำให้มันระเบิดกลางอากาศเองหละ
ความหวาดกลัวว่าสหรัฐอาจจะโจมตีเกาหลีเหนือ กรุงปักกิ่งเรียกร้องให้พลเมืองของตนเองเดินทางกลับประเทศ เนื่องจากกรุงเปียงยางยังคงเดินหน้าทดลองอาวุธนิวเคลียร์และขีปนาวุธข้ามทวีปของตนเองต่อไป [ข่าวนี้เป็นข่าวจากฝั่งสหรัฐนะครับ ยังไม่มีการยืนยันจากรัฐบาลจีน - ผู้แปล]
The Eyes
เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
https://www.facebook.com/fisont
https://vk.com/theeyesproject
03/05/2560
------------
https://www.rt.com/news/386828-china-thaad-south-korea/
https://www.rt.com/news/386882-putin-trump-speak-by-phone/
https://sputniknews.com/politics/201705021053214732-trump-putin-talks/
http://tass.com/politics/944281
http://tass.com/world/944038
https://sputniknews.com/asia/201705021053215146-china-tells-dprk-citizens-return/

 

ปอกเปลือก ทรราช
รายงานชี้ คนผิวดำมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ด้อยกว่าคนผิวขาวถึง 30% ที่ไหนครับ? เกาหลีเหนือรึ? เปล่าครับ ที่อเมริกาครับ กรรม!



----------





วันที่ 2 พ.ค.60 RT พาดหัวข่าวว่า "ชาวอเมริกันผิวดำยังแย่กว่าคนผิวขาวถึง 30% ในแง่ของคุณภาพ (ด้านชีวิตความเป็นอยู่) รายงานชี้" (Black Americans still 30% worse off than whites – equality report)
[มันเป็นส่วนหนึ่งของประชาธิปไตยและเสรีภาพ สังคมเท่าเทียมกันแบบอเมริกันนะครับ ประเทศอื่นๆก็เป็นแบบนี้ทั้งนั้นแหละครับ มันเป็นเรื่องปรกติครับ โปรอเมริกาบอก คิมน้อยขอขำแป๊บนะครัช - ผู้แปล]
รายงานประจำปีของ National Urban League สรุปว่าภาพรวมเกี่ยวกับคุณภาพการดำรงชีวิตของคนผิวดำและคนอเมริกันเชื้อสายลาติยังคงล้าหลังคนผิวขาวอยู่ถึง 20-30 เปอร์เซ็นต์ อย่างไรก็ตาม ตัวเลขค่อยๆเพิ่มขึ้นเรื่อยๆในด้านของการศึกษาและสาธารณสุข แต่ก็ยังคงน้อยกว่าเมื่อเทียบกับคนขาว
รายงานได้ค้นพบว่า ในปีที่ผ่านมาชาวอเมริกันเชื้อสายแอฟฟริกันได้รับสิทธิประโยชน์การเข้าถึงสวัสดิการด้านการดูแลสุขภาพเพิ่มขึ้นจาก 79.4 เปอร์เซ็นต์ในปี 2016 เป็น 80 เปอร์เซ็นต์ในปี 2017 และการเข้าถึงการศึกษาเพิ่มขึ้นจากปี 2016 ซึ่งอยู่ที่ 77.4 เปอร์เซ็นต์เป็น 78.2 เปอร์เซ็นต์ในปี 2017 เปอร์เซ็นต์ของคนผิวดำที่เข้าถึงสวัสดิการเพิ่มมากขึ้น เมื่อเทียบกับคนผิวขาวซึ่งอยู่ที่ 100 เปอร์เซ็นต์
วันที่ 16 มีนาคม 2560 RT รายงานว่า ทรัมป์เปิดเผยร่างงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2018 เพิ่มงบกลาโหม 54,000 ล้านเหรียญ หั่นงบกระทรวงอื่นๆลง
ป.ล. พอเอาข้อมูลข้อเท็จจริงออกมาให้ดูแบบนี้ โปรอเมริกาบอกว่า เพจนี้ต่อต้านอเมริกา แต่พอตัวเองด่าคนอื่นกลับอ้าง "เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น" บางรายก็บอกว่า "เพจนี้เขียนยาว" สงสัยสมองคงรับไม่ไหว หัวจะระเบิดมั๊ง?
The Eyes
เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
https://www.facebook.com/fisont
https://vk.com/theeyesproject
03/05/2560
------------
https://www.rt.com/usa/386898-black-americans-third-behind-whites/
http://soba.iamempowered.com/2017-report
https://www.usatoday.com/story/news...-educational-economic-improvements/101054744/
https://www.rt.com/usa/381056-trump-congress-budget-2018/

 

ปอกเปลือก ทรราช
ข้ออ้างของโจร: รองมกุฏราชกุมมารของซาอุดิอาระเบียบอกว่าซาอุดิอาระเบียไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากการรุกรานเยเมน



----------









วันที่ 3 พ.ค.60 Sputnik พาดหัวข่าวว่า "Saudi Arabia Had No Option But to Invade in Yemen – Saudi Deputy Crown Prince"
เจ้าชาย Mohammad bin Salman al Saud รองมกุฏราชกุมารและรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมของราชอาณาจักรซาอุดิอาระเบียกล่าวกับสำนักข่าว MBC ว่า ซาอุดิอาระเบียไม่มีทางเลือกอื่น ยกเว้นการสนับสนุนประธานาธิบดี Abd Rabbuh Mansur Hadi ของเยเมน และทำการรุกรานเยเมน



"พวกเราไม่มีทางเลือกอื่นในการแทรกแซงสงครามในเยเมนเพื่อสนับสนุนรัฐบาลที่ชอบธรรม มิฉะนั้นสถานการณ์จะเลวร้ายยิ่งกว่านี้ การเลื่อนการแทรกแซงในสถานการณ์ในเยเมนอาจจะทำให้เกิดภัยคุกคามที่ร้ายแรงจากฝ่ายกบฏ [ฮูติ] ก็ได้" รองมกุฏราชกุมารซาอุดิอาระเบียกล่าว
เจ้าชาย Mohammad bin Salman al Saud กล่าวอีกว่า ซาอุดิอาระเบียได้สนับสนุนความริเริ่มทางการเมืองซึ่งมีจุดประสงค์เพื่อป้องการสงครามในเยเมนแล้ว กองทัพฝ่ายรัฐบาลเยเมน (เขาหมายถึงรัฐบาลนายฮาดี้) ได้เข้าควบคุมดินแดนเยเมนประมาณ 80- 85 เปอร์เซ็นต์ (แปลว่า ซาอุดิอาระเบียยึดดินแดนของเยเมนไปแล้ว 80 - 85 เปอร์เซ็นต์) ซาอุดิอาระเบียจะส่งกองทัพของตนเองเข้าไปในเยเมนเพื่อเอาชนะพวกกบฏฮูติชีอะห์ (Shia Houthi rebels) ในอนาคตอันใกล้นี้
[สงครามเยเมนเกิดจากความขัดแย้งภายในกล่าวคือการแย่งอำนาจทางการเมืองระหว่างอดีตประธานาธิบดีซาเลห์ กับประธานาธิบดีฮาดี้ (หุ่นเชิดของซาอุดิอาระเบียและสหรัฐ) แต่ละฝ่ายมีกองกำลังเป็นของตนเองปะทะกันจนเกิดสงครามกลางเมือง ชนเผ่าฮูติจึงเข้ายึดอำนาจในกรุงซานาอะ เมืองหลวงของเยเมน และเป็นพันธมิตรกับกลุ่มของซาเลห์ (พวกนี้เป็นชีอะห์ด้วยกัน) และได้รับการสนับสนุนจากอิหร่านด้วย
จากนั้นก็ลากคอนายฮาดี้มาลงนามให้ลาออกจากตำแหน่งประธานาธิบดี ซึี่งฮาดี้ก็ทำตาม คณะปฏิวัติฮูติเข้าควบคุมอำนาจบริหารของรัฐบาลเยเมน ฮาดี้ถูกกักบริเวณในบ้านพักของตนเองแต่ด้วยความช่วยเหลือของลูกน้องและผู้สนับสนุนจึงหลบหนีไปได้ และไปลี้ภัยอยู่ที่ประเทศซาอุดิอาระเบีย
จากนั้นก็ขอให้ซาอุดิอาระเบียมอบตำแหน่งประธานาธิบดีคืนให้อีกครั้ง แลกกับอนุญาตให้พันธมิตรอาหรับนำโดยซาอุดิอาระเบีย และการสนับสนุนทางเทคนิคจากสหรัฐและอังกฤษในด้านของกองทัพ ส่งกองทัพเข้าไปรุกรานเยเมนอย่างเป็นทางการ สหรัฐและพรรคพวกใช้อำนาจของตนเองกดดันให้ยูเอ็นคว่ำบาตรอาวุธชาวฮูติแห่งเยเมน แต่อนุญาตให้ซาอุดิอาระเบียขนอาวุธสงครามเข้าถล่มเข่นฆ่าประชาชนชาวเยเมนได้โดยอิสระ
ฮาดี้ตั้งเมือง Aden ทางใต้ให้เป็นเมืองหลวงแห่งที่สองของเยเมน (คล้ายลิเบีย แบ่งเป็นสองเมืองหลวง คล้ายเกาหลีแบ่งเป็นเกาหลีเหนือ-เกาหลีใต้ คล้ายเยอรมันตะวันออก-เยอรมันตะวันตก สมัยสงครามโลกครั้งที่สอง ฯลฯ) จากนั้นฮาดี้ก็ยกฐานทัพหลายแห่งของกองทัพเยเมนให้กับพันธมิตรอาหรับนำโดยซาอุดิอาระเบีย
ถ้าซาอุดิอาระเบียอ้างแบบนั้น อิหร่านและประเทศอื่นที่สนับสนุนฝ่ายฮูติก็ย่อมอ้างได้เช่นกัน ข้ออ้างของซาอุดิอาระเบียในการรุกรานอธิปไตยของเยเมนก็ไม่ต่างจากกรณีที่แอร์โดกันรุกรานอธิปไตยของซีเรียเลย เพราะว่าทั้งซาอุดิอาระเบียและตุรกีต่างก็อยู่แก๊งเดียวกัน และมีสันดานไม่ต่างกันเท่าไรนัก ยิวอิสราเอลนั่งปรบมือชอบใจ ดี! ฆ่ากันต่อไป ยิ่งฆ่ากันเยอะเท่าไร ยิ่งดีต่ออิสราเอลเท่านั้น ให้พวกอาหรับฆ่ากันเองไปเรื่อยๆ ก็จะไม่มีใครไปรุกรานอิสราเอล จากนั้นตาอยู่อิสราเอลก็ค่อยคว้าพุงปลาไปกินทีหลังก็ยังไม่สาย โลกของพวกเขามันก็เป็นแบบนี้แล
ทุกวันนี้นายฮาดี้ยังคงเสพสุขอยู่ในซาอุดิอาระเบีย ปลื้มใจกับการขายชาติเปิดทางให้ต่างชาติเข้าไปถล่มประเทศตนเองจนย่อยยับ และกับความฝันว่าจะได้กลับไปครองอำนาจในเยเมนอีกครั้ง - ผู้แปล]
The Eyes
เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
https://www.facebook.com/fisont
https://vk.com/theeyesproject
03/05/2560
------------
https://sputniknews.com/middleeast/201705031053218488-saudi-arabia-no-option-invade-yemen/

 

ปอกเปลือก ทรราช
กลาโหมรัสเซียปฏิเสธรายงานของ HRW ที่กล่าวหารัสเซียว่าใช้ระเบิดเคมี KhAB-250 สมัยโซเวียตโจมตีเมือง Khan Sheikhoun ในซีเรีย



----------














วันที่ 3 พ.ค.60 RT พาดหัวข่าวว่า "กลาโหมรัสเซียปฏิเสธรายงานของ HRW ซึ่งอ้างว่ามีการใช้ระเบิดเคมีสมัยโซเวียตในจังหวัดอิดลิบของซีเรีย" (Russian MoD disputes HRW report claiming Soviet chem bomb was used in Syria’s Idlib)
เหนื่อนหน่ายกับองค์ลวงโลกเหล่านี้จริงๆ กระทรวงกลาโหมของรัสเซียได้ปฏิเสธการคาดการณ์ (speculation) ในรายงานขององค์กรเฝ้าระวังด้านสิทธิมนุษยชน (HRW) ของยูเอ็น เกี่ยวกับการโจมตีด้วยอาวุธเคมีในซีเรีย ซึ่งใช้ภาพถ่ายทางออนไลน์และการสัมภาษณ์ต่างๆ เพื่อสรุปว่า "ระเบิดเคมียุคโซเวียตที่ทิ้งลงทางอากาศ (Soviet-made air-dropped chemical bomb) ถูกใช้ในเมืองคานเชคูน (Khan Sheikhoun)"
สัปดาห์นี้องค์กรด้านสิทธิมนุษยชนสากลได้เผยแพร่รายงานฉบับหนึ่งเกี่ยวกับการใช้ "สารทำลายประสาท (nerve-agent use)" ในซีเรียตามที่มีการกล่าวหา (alleged) ซึ่งแสดงด้วยภาพต่างๆที่ HRW เชื่อว่าเป็นชิ้นส่วนของระเบิดที่ผลิตในสมัยโซเวียต อ้างว่าพบใจเมือง Khan Sheikhoun ในจังหวัดอิดลิบ ประเทศซีเรีย
ชิ้นส่วนต่างๆที่พวกกบฏอ้างว่าเป็นระเบิดลูกหนึ่งที่บรรจุอาวุธเคมีถูกนำไปเปรียบเทียบกับระเบิดเทียม KhAB-250 ของโซเวียตที่จัดแสดงอยู่ในพิพิธภัณฑ์ ร่วมกับภาพอื่นๆที่เผยแพร่โดย HRW
กระทรวงกลาโหมของรัสเซียได้แสดงความคิดเห็นต่อรายงานดังกล่าวเมื่อวันอังคารนี้ โดยได้ตั้งคำถามเกี่ยวกับการใช้ภาพถ่ายจากพิพิธภัณฑ์ในกรุงมอสโค ในฐานพเป็นหลักหลักฐานสนับสนุน และตั้งข้อสังเกตว่า HRW ไม่ได้ไปทำการตรวจสอบบนภาคพื้นดินเลย
[ก็แค่ละครปาหี่ฉากหนึ่งของฝ่ายตะวันตกเพื่อดิสเครดิตรัสเซียและฝ่ายรัฐบาลซีเรียเท่านั้น พวกกบฏและผู้ก่อการร้ายเหล่านั้นก็เป็นลูกน้องของสหรัฐและแก๊งนาโต้ จะเขียนสคริปต์ให้พูดยังไงก็ได้ จากนั้นก็ใช้องค์ระหว่างประเทศที่ตนเองควบคุมได้เขียนรายงานออกมา ให้ดูมีความน่าเชื่อถืออีกนิด แต่องค์กรนี้กลับไม่เคยไปแตะจุดที่เกิดเหตุเลยซักครั้งเดียว - ผู้แปล]
"อย่างแรกเลยนะครับ วัตถุระเบิด KhAB-250 สมัยโซเวียตนั้น ไม่เคยได้รับการส่งออกไปนอกสหภาพโซเวียตเลย (USSR) และระเบิดเหล่านั้นแต่ละลูกก็ถูกปลดประจำการไปตั้งแต่ปี 1960s แล้ว" พล.ท. Igor Konashenkov โฆษกกระทรวงกลาโหมของรัสเซียกล่าวในแถลงการณ์เมื่อวันอังคารนี้
HRW พูดแบบเจาะจงในรายงานของตนเองว่า พวกเขา "ได้สัมภาษณ์ผู้คนจำนวน 60 คนที่มีความรู้เกี่ยวกับการโจมตีด้วยอาวุธเคมี และทันทีหลังเกิดเหตุ และได้ทบทวนภาพถ่ายหลายสิบใบและวีดีโอเกี่ยวกับสถานที่ปะทะและบรรดาเหยื่อที่โพสต์ทางออนไลน์และได้รับข้อมูลโดยตรงจากคนท้องถิ่น" อย่างไรก็ตามกลุ่มนี้ได้เน้นย้ำว่า "ไม่สามารถที่จะทำการตรวจสอบภาคพื้นดินในสถานี่เกิดเหตุได้" (…unable to conduct ground investigations of the attack sites.) [รายงานของ HRW ที่นั่งเทียนเขียนที่ประเทศสหรัฐโดยไม่ต้องลงพื้นที่ มีความน่าเชื่อถือไหมครับ? - ผู้แปล]
ฝ่าย HRW ขยายภาพถ่ายทางอากาศและใช้ภาพจากท้องถิ่นแสดงให้เห็นถึง "หลุมระเบิด" (crater) ซึ่งอ้างว่าเป็นการปะทะ (impact) จากระเบิดที่บรรจุแก๊สซาริน (sarin) ซึ่งอ้างว่าถูกหย่อนจากเครื่องบินรบของซีเรีย
อย่างไรก็ตาม พล.ท. Konashenkov กล่าวว่าวัตถุระเบิดดังกล่าวที่ทาง HRW กล่าวหาว่าถูกใช้ในเมือง Khan Sheikhoun และในที่อื่นๆนั้น จะไม่ทิ้งหลุมระเบิดในจุดที่เกิดเหตุเลย
"เมื่อมีการใช้งาน ระเบิด KhAB-250 จะระเบิดในกลางอากาศ ที่ความสูงระหว่าง 30 - 70 เมตร ดังนั้นมันจึงไม่มีหลุมระเบิดเหลือให้เห็นเลย" (When deployed, the KhAB-250 [bombs] exploded midair, at the height of between 30 and 70 meters, so no crater would have been left from it.) โฆษกกระทรวงกลาโหมรัสเซียกล่าว
[อุยยยยยส์... เจอคนจริงเข้าให้แล้วไหมหละ HRW เติมเงินหน้าแตกเลย หมอไม่รับเย๊ะอีกแล้วครับท่าน นี่รายงานขององค์ระดับโลกนะนี่ ห่วย! ดูคลิปของ HRW พวกกบฏใช้มือเปล่าจับระเบิดและชิ้นส่วนของระเบิดที่อ้างว่าบรรจุสารเคมีซาริน ตอนที่พวกกบฏทำทีไปเก็บหลักฐานจากหลุมระเบิดก็สวมหน้ากากกันฝุ่น ถุงมือพลาสติก สวมรองเท้าแตะ ไม่มีชุดนิรภัยป้องกันสารพิษเลย แต่ไม่ตาย ตลกมาก! - ผู้แปล]
พล.ท. Konashenkov กล่าวอีกว่า ในความเป็นจริงแล้ว ระเบิดปริศนาที่ว่านั้น "ไม่เคยบรรจุแก๊สซารินเลย (have never been loaded with sarin.)"
[หน้าที่ขององค์ที่จะเข้าไปตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุเพื่อหาหลักฐานและทำเรื่องนี้ให้กระจ่างก็คือ องค์กรห้ามการใช้อาวุธเคมี (OPCW) ของยูเอ็น ซึ่งจะต้องประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญจากฝ่ายต่างๆอย่างเป็นกลาง ป่านนี้สหรัฐและอียูก็ยังไม่สามารถแต่งตั้งคณะกรรมการผู้ตรวจสอบที่เป็นกลางได้เลย เล่นเตะถ่วงเวลาออกไปเรื่อยๆ ทั้งๆที่รัสเซียและฝ่ายรัฐบาลซีเรียประกาศว่ายินดีให้ความร่วมมือ แต่การทำงานของ OPCW กลับไม่คืบหน้า - ผู้แปล]
กลาโหมของรัสเซียสรุปว่า "ยิ่งกลุ่มประเทศตะวันตกขัดขวางกระบวนการนี้มากเท่าไร ก็จะยิ่งกลายเป็นนิทานหลอกเด็กหรือกลายเป็นคนเล่านิทานมากขึ้นเท่านั้น ก็เหมือนกับ HRW และพวกปลิ้นปล้อนจากแก๊ง White Helmets และอื่นๆนั่นแหละ"
[ก่อนหน้านี้สื่อตะวันตกก็พากันประโคมข่าวว่า นี่ไงหลักฐานว่ากองทัพฝ่ายรัฐบาลซีเรียเก็บอาวุธเคมีไว้ที่ฐานทัพอากาศ Shayrat ในจังหวัด Homs ที่ทรัมป์สั่งให้เรือรบของสหรัฐโจมตีด้วยโทมาฮอว์ค 59 ลูก (เข้้าเป้า 23 ลูก) โดยไม่รอการสืบสวนสอบสวน ด้วยภาพถ่ายภาชนะเก็บวัตถุระเบิดสมัยโซเวียต (ไม่ใช่ KnAB-250) มันจะต้องเป็นอาวุธเคมีแน่ๆ ต่อมานักข่าวรัสเซียก็ลงพื้นที่ ไปถ่ายคลิปทำข่าวจากกองระเบิดเหล่านั้น ซึ่งบางถังมีรูรั่วด้วย ไม่เห็นได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากสารเคมีที่พวกสื่อตะวันตกมโนขึ้นมาเลย นั่น! ตะวันตกหน้าแตกไปครั้งที่หนึ่ง (เคยโพสต์เรื่องนี้มาแล้ว) จากนั้นสหรัฐและสมุนก็ไม่ละความพยายาม ล่าสุดก็อ้างว่า ต้องเป็นระเบิด KhAB-250 แน่เลย หน้าแตกอีกครั้ง - ผู้แปล]
The Eyes
เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
https://www.facebook.com/fisont
https://vk.com/theeyesproject
03/05/2560
------------
https://www.rt.com/news/386910-hrw-claims-soviet-chemical-syria/
https://www.hrw.org/report/2017/05/...idespread-and-systematic-use-chemical-weapons
https://sputniknews.com/middleeast/...a-hrw-allegations-soviet-chemical-bomb-syria/
http://tass.com/defense/944260


https://www.therussophile.org/debun...ns-containers-in-syrias-shayrat-airbase.html/

 

ปอกเปลือก ทรราช
รู้หรือไม่ว่าในสงครามเกาหลี 1950 - 1953 และสงครามเวียตนาม 1955 - 1975 สหรัฐใช้ระเบิดไปทั้งหมดกี่ล้านตัน ฆ่าคนไปกี่ล้านคน?




















-----------
1.) สงครามเกาหลีสหรัฐใช้ระเบิดทั้งหมด 635,000 ตัน รวมทั้งระเบิดนาปาล์ม (Napalm) 32,557 ตัน มากกว่าระเบิดทั้งหมดที่สหรัฐใช้ในแปซิฟิกในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองซะอีก
2.) ยอดการสูญเสียชีวิต (Casualties)
- ก.ต่างประเทศสหรัฐระบุตัวเลขว่าทหารสหรัฐเสียชีวิตจำนวน 33,686 นายจาก
- พลเรือนเกาหลีใต้เสียชีวิต 373,599 คน ทหาร 137,899 นาย
- แหล่งข่าวตะวันตกคาดว่าหทารอาสาสมัครกองทัพจีน (PVA) เสียชีวิตราว 400,000 นาย ได้รับบาดเจ็บประมาณ 486,000 นาย ทหารเกาหลีเหนือเสียชีวิต 215,000 นาย ได้รับบาดเจ็บ 303,000 นาย
- ข้อมูลอย่างเป็นทางการจากจีนระบุว่า มีทหาร PVA ของจีนเสียชีวิต 114,000 นาย และอีก 34,000 นายที่ไม่ได้สู้รบในสนามรบ ได้รับบาดเจ็บ 340,000 นาย สูญหายระหว่างสงคราม 7,600 นาย ถูกจับเป็นเชลยสงคราม 7,110 นาย
- ฝ่ายจีนยืนยันว่ามีทหารเกาหลีเหนือเสียชีวิต 290,000 นาย ถูกจับตัวได้ราว 90,000 ส่วนใหญ่เป็นพลเรือน
- จีนและเกาหลีเหนือคาดว่ายอดการเสียชีวิตของทหารอเมริกันประมาณ 390,000 และทหารเกาหลีใต้ประมาณ 660,000 นาย และทหารยูเอ็น 29,000 นาย
- เมื่อเร็วๆนี้นักวิชาการคาดว่ายอดการเสียชีวิตทั้งหมดจากทุกฝ่ายในสงครามเกาหลีอยู่ที่ประมาณ 1,200,000 ล้านกว่าคน
3.) วันที่ 5 พฤศจิกายน 1950 เสนาธิการร่วม (JCS) ของสหรัฐได้ออกคำสั่งให้ให้ทิ้งระเบิดปรมาณู (นิวเคลียร์) ใส่ฐานทัพของกองทัพจีน (PRC) ในแมนจูเรียเพื่อเป็นการตอบโต้ฝ่ายจีน หากกองทัพจีนข้ามพรมแดนเข้าไปในเกาหลี หรือหากเครื่องบินทิ้งระเบิดของกองทัพจีน หรือกองทัพ KPA ของเกาหลีเหนือโจมตีเกาหลี (ใต้)
ประธานาธิบดีสหรัฐในสมัยนั้นได้มีคำสั่งให้ขนย้ายระเบิดนิวเคลียร์ Mark 4 จำนวน 9 ลูกไปยังฝูงบินทิ้งระเบิดที่ 9 ของกองทัพอากาศสหรัฐ ซึี่งปฏิบัติภารกิจเกี่ยวกับอาวุธต่าง... และได้ลงนามในคำสั่งให้ใช้ระเบิดนิวเคลียร์เหล่านั้น (Mark 4) กับเป้าหมายจีนและเกาหลี แต่ในที่สุดก็ไม่ได้มีการส่งต่อคำสั่งดังกล่าว (ไปให้ฝ่ายปฏิบัติ)
ระเบิดนิวเคลียร์ Mark 4 (หนัก 4,900 - 4,940 กก.) เป็นรุ่นที่พัฒนาต่อยอดจาก Mark 3 Fat Man หนัก 4,670 กก. ที่สหรัฐใช้โจมตีเมืองนางาซากิประเทศญี่ปุ่น มื่อวันที่ 9 สิงหาคม 1945 สหรัฐผลิตระเบิดนิวเคลียร์ Mark 4 มาทั้งหมด 550 ลูก ส่วน Mark 3 จำนวน 120 ลูก
4.) หลังจากยุติสงครามเกาหลีได้ 2 ปี สหรัฐก็หันไปก่อสงครามเวียตนามอีก (1955 - 1975) ใช้ระเบิดไปทั้งสิ้น 7 ล้านตัน สามเท่าของระเบิดที่สหรัฐทิ้งในยุโรปและเอเซียในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง (2.1 ล้านตัน) และมากกว่าในสงครามเกาหลีถึง 10 เท่า
- สหรัฐทิ้งระเบิดในกัมพูชา 500,000 ตัน
- ในเวียตนามเหนือ 1 ล้านตัน
- ในเวียตนามใต้ 4 ล้านตัน
- ในประเทศลาว 2 ล้านตัน มีระเบิดประมาณ 80 ล้านลูกในลาวที่ไม่ระเบิดและยังคงกระจายอยู่ตามพื้นที่ต่างๆทั่วประเทศ
จากนั้นสหรัฐก็บอกกับทั่วโลกว่าข้านี่แหละคือพระเอก ผู้ช่วยชีวิตชาวโลกให้ลอดพ้นจากการกดขี่ข่มเหง สมัยนั้นเกาหลีเหนือและจีนยังไม่มีอาวุธนิวเคลียร์ สหรัฐจึงได้ใจอยากจะก่อสงครามที่ไหนก็ได้ตามอำเภอใจตนเอง วันนี้เกาหลีเหนือบอกว่าอาวุธนิวเคลียร์ก็คือเกราะป้องกันตนเองที่ดีที่สุดสำหรับเกาหลีเหนือ มันคือเครื่องรับประกันสันติภาพ เป็นสิ่งรับประกันว่าจะสหรัฐจะไม่รุกรานเกาหลีเหนืออีก ดังนั้นเมื่อสหรัฐและพันธมิตรของสหรัฐมีอาวุธชนิดนี้ไว้ในครอบครองได้ ทำไมเกาหลีเหนือถึงจะมีบ้างไม่ได้ เพราะว่าในอดีตเคยถูกกดขี่ข่มเหงฆ่าล้างเผ่าพันมาแล้วทั้งจากญี่ปุ่นและสหรัฐ
เกาหลีเหนือต้องการที่จะคงอธิปไตยของตนเองเอาไว้ ไม่ต้องการเป็นขี้ข้าเมืองขึ้นของจักรวรรดิสหรัฐเหมือนเกาหลีใต้และญี่ปุ่น และที่สำคัญแม้ว่าเกาหลีเหนือจะมีจีนและรัสเซียหนุนหลัง แต่หลังยุติสงครามเกาหลีชั่วคราวแล้ว เกาหลีเหนือก็ไม่ได้อนุญาตให้ต่างชาติแม้กระทั่งจีนเข้าไปตั้งฐานทัพในเกาหลีเหนือเลย ซึี่งจากต่างเกาหลีใต้ที่ในความเป็นจริงแล้วได้สูญเสียทั้งอธิปไตยและดินแดนไปให้สหรัฐเรียบร้อยแล้ว ปัจจุบันนี้สหรัฐก็ขู่ว่าจะนุกเกาหลีเหนืออีกรอบ เกาหลีเหนือบอกว่า วันนี้ไม่เหมือนวันวาน เกาหลีเหนือก็มีนุกเหมือนกัน
The Eyes
เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
https://www.facebook.com/fisont
https://vk.com/theeyesproject
03/05/2560
------------
https://en.wikipedia.org/wiki/Korean_War
https://en.wikipedia.org/wiki/Mark_4_nuclear_bomb
https://en.wikipedia.org/wiki/Fat_Man
https://en.wikipedia.org/wiki/Vietnam_War
https://rachelblevins.com/2017/04/30/us-north-korea/

 

ปอกเปลือก ทรราช
รู้แล้วหนึ่งในสาเหตุที่ประธานาธิบดีดูเตอร์เต้ แห่งฟิลิปปินส์บอกว่าไม่สะดวกไปพบกับทรัมป์ที่ทำเนียบขาวตามคำเชิญของทรัมป์ นอกจากติดคิวไปคุยกับปูตินที่กรุงมอสโคแล้ว ก็เพราะว่าติดอยู่ตรงกลางเหล่าทหารเรือหญิ่งน่ารักๆ ของจีนในฟิลิปปินส์นี่เอง ไม่ธรรมดานะลุงนะ และยังบอกด้วยว่า เรือดีนี่ อยากจะซ้อมรบร่วมกับจีนจริงๆ ทรัมป์ได้ยินแล้วคงจะอยากจะกัดลิ้นตัวเองตายให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเลยมั๊ง
-----------
http://news.xinhuanet.com/english/2017-05/02/c_136251731.htm

 

ปอกเปลือก ทรราช
บีบี้แห่งอิสราเอลพยายามเสี้ยมให้รัสเซียกับอิหร่านแตกคอกันโดยอ้างว่าอิหร่านเป็นภัยคุกคามต่อรัสเซีย มีแค่นี้เองหรือความฉลาดของยิว?
-----------
นายเบญจามิน บีบี้ เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอลบ่างช่างยุ พยายามเสี้ยมให้รัสเซียกับอิหร่านแตกคอกัน เพื่อที่ตัวเองจะได้ฉกผลประโยชน์ในซีเรียง่ายขึ้นโดยการกล่าวว่า การขยายอิทธิพลของอิหร่านในตะวันออกกลางเป็นภัยคุกคามต่อรัสเซีย นั่นแหละครับสันดานยิวเลยหละ
"พวกเรากล่าวว่า อิหร่าน - และผมก็ได้บอกประธานาธิบดี [วลาดิเมียร์] ปูติน [แห่งรัสเซีย] เกี่ยวกับเรื่องนั้น - ไม่เพียงเป็นภัยคุกคามต่อพวกเราเท่านั้น แต่ในที่สุดแล้วจะเป็นภัยคุกคามต่อคุณด้วย" บีบี้กล่าว
นายกยิวกล่าวอีกว่า "พวกเรารู้สึกเป็นกังวลใจเกี่ยวกับแกนรัสเซีย-อิหร่าน แน่นอน รัสเซียมีคำอธิบายมากมายเกี่ยวกับพฤติกรรมของตนเอง: รัสเซียต้องการที่จะขัดขวางชัยชนะของพวกดาอิช เพื่อเอาชนะพวกมัน แต่แน่หละ มันไม่ได้หมายความว่าพวกเราพร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงพวกดาอิชให้อิหร่าน เพื่อให้พวกเฮชบอลเลาะห์ หรือพวกกลุ่มติดอาวุธชีอะห์ใช้ดินแดนของซีเรีย (ใช้) ส่วนของซีเรียในที่ราบสูงโกลานเพื่อโจมตีพวกเรา การปรากฏทางทหารอย่างถาวรของอิหร่านและดาวเทียมของอิหร่านในซีเรียเป็นเรื่องที่ไม่อาจจะยอมรับได้สำหรับอิสราเอล"
[นี่มันเป็นเรื่องระหว่างซีเรีย อิหร่าน และรัสเซีย อิสราเอลเกี่ยวอะไรด้วย? ในซีเรียก็มีทั้งชีอะห์และซุนนี คณะรัฐมนตรีทุกคนในรัฐบาลอัสซาดเป็นซุนนี อัสซาดเป็นชีอะห์ พวกเขาก็อยู่ด้วยกันได้ อ้อ… ภริยาของปธน.อัสซาดก็เป็นซุนนีด้วย มีลูกด้วยกันถึง 3 คน มันไม่เกี่ยวกับเรื่องชีอะห์หรือซุนนี มันอยู่ที่ว่าแล้วอิสราเอลมาแส่อะไรด้วย ที่ราบสูงก็เป็นของซีเรีย อิสราเอลหน้าด้านยึดไปครอบครอง ยูเอ็นบอกให้คืนให้ซีเรีย อิสราเอลก็ไม่ยอมคืน
นี่ยังจะมายุให้รัสเซียแตกคอกับอิหร่านอีก มันไม่ง่ายอย่างนั้นหรอกครับบีบี้ แสดงว่าเริ่มกลัวอิหร่าและรัสเซียแล้วหละสิ ยิ่งฝ่ายรัฐบาลซีเรียและพันธมิตรนำโดยรัสเซียและอิหร่านมีชัยชนะเหนือพวกดาอิชและพวกกบฏซีเรียมากขึ้นเท่าไร ฝันร้ายก็จะคืบคานไปหาอิสราเอลมากขึ้นเท่านั้น เฮชบอลเลาะห์จะช่วยซีเรียทวงคืนที่ราบสูงในไม่ช้าแน่นอน นี่ปูตินแห่งรัสเซียนะครับ ไม่ใช่พวกซาอุดิอาระเบียที่จะยอมก้มหัวให้อิสราเอล มุกนี้ไม่เวิร์คหรอกบีบี้เอ๋ย ผลประโยชน์ระหว่างรัสเซียกับอิหร่านนั้นสูงกว่าอิสราเอลยิ่งนัก - ผู้แปล]
https://sputniknews.com/middleeast/201705031053221249-iranian-expansion-bad-russia/
The Eyes
เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
https://www.facebook.com/fisont
https://vk.com/theeyesproject
03/05/2560

 

ปอกเปลือก ทรราช
ฝรั่งเศสเดินขบวนประท้วงต่อต้านนาย Emmanuel Macron โดยบอกว่า "No Hollande 2.0!" เพราะว่า Macron คือร่างทรงของ Hollande นั่นเอง ตอนแรกหมอนี่คัดค้านนโยบายแยกฝรั่งเศสออกจากกลุ่มอียูของนาง Le Pen วันนี้บอกว่า สนับสนุนนโยบาย Frexit บ้าง นั่นแหละลิ้นนักการเมือง (2 เม.ย.60)
-------------

 

ปอกเปลือก ทรราช
เจ้าหน้าที่ FSB ของรัสเซียรวบตัวแก๊งท่อน้ำเลี้ยงไอซิสในซีเรียได้ 5 ตัว พวกนี้ทำหน้าที่หาเงิน และโอนเงินให้กับขบวนการก่อการร้ายไอซิส ยึดบัตรเครดิต บัตรเอทีเอ็ม ได้เป็นจำนวนมาก พร้อมด้วยหลักฐานการโอนเงิน ในพื้นที่ทางตะวันตกของรัสเซีย แถวนั้นถิ่นพวกมันเลยหละ (2 พ.ค.60)
-----------

 

ปอกเปลือก ทรราช
เจ้าหน้าที่ FSB ของรัสเซียรวบตัวแก๊งท่อน้ำเลี้ยงไอซิสในซีเรียได้ 5 ตัว พวกนี้ทำหน้าที่หาเงิน และโอนเงินให้กับขบวนการก่อการร้ายไอซิส ยึดบัตรเครดิต บัตรเอทีเอ็ม ได้เป็นจำนวนมาก พร้อมด้วยหลักฐานการโอนเงิน ในพื้นที่ทางตะวันตกของรัสเซีย แถวนั้นถิ่นพวกมันเลยหละ (2 พ.ค.60)
-----------

 

ปอกเปลือก ทรราช
ใครกำลังยั่วยุใครกันแน่? สหรัฐประกาศความสำเร็จในการปล่อยขีปนาวุธบอลลิสติกข้ามทวีป Minuteman III ลูกที่สองภายใน 1 สัปดาห์ หลังเกาหลีเหนือทดลองขีปนาวุธลึกลับแต่ไม่สำเร็จ
-----------

วันที่ 3 พ.ค.60 RT พาดหัวข่าวว่า "US successfully launches second Minuteman III ballistic missile in 7 days (PHOTOS, VIDEO)"

ขีปนาวุธิสัยโค้งข้ามทวีปซึ่งไม่ติดหัวรบ (นิวเคลียร์) (ICBM) ถูกปล่อยออกจากฐานทัพอากาศแห่งหนึ่งของสหรัฐในรัฐแคลิฟอร์เนียเพียงแค่เจ็ดวันหลังการปล่อยครั้งแรก

ขีปนาวุธ ICBM สามระดับพุ่งออกจากฐานทัพอากาศ Vandenberg ในเวลา 07:02GMT วันพุธ เดินทางเป็นระยะทาง 4,200 ไมล์ (6,759 กิโลเมตร) มุ่งไปยังเป้าหมายใกล้เมือง Kwajalein Atoll ในหมู่เกาะมาร์แชล (Marshall Islands)

การทดลองขีปนาวุธ Minuteman III ครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากการปล่อยขีปนาวุธประเภทเดียวกันนี้เมื่อวันที่ 26 เมษายนจากฐนทัพอากาศแห่งเดียวกัน การเคลื่อนไหวในครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางความตึงเครียดที่กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็วในคาบสมุทรเกาหลี แม้ว่าภารกิจนี้จะมีการวางแผนไว้ล่วงหน้าถึง 10 เดือนแล้วก็ตาม 30th Space Wing แถลง [หมายความว่าสหรัฐเตรียมการจะหาเรื่องรุกรานเกาหลีเหนือไว้ตั้งแต่เมื่อ 10 เดือนที่แล้วว่างั้นเถอะ? - ผู้แปล]

กองบัญชาการการโจมตีทั่วโลกกองทัพอากาศสหรัฐ (US Air Force Global Strike Command) กล่าวว่า "การทดลองขีนปนาวุธ Minuteman III มีวัตถุประสงค์เพื่อสำรวจและตรวจสอบประสิทธิภาพ ความพร้อม และความแม่นยำของระบบอาวุธ" (The Minuteman III tests are aimed to validate and verify the effectiveness, readiness and accuracy of the weapon system.)

กองบินอวกาศที่ 30 แถลงว่า "การทดลองปล่อยขีปนาวุธ ICMB เหล่านี้เป็นการตรวจสอบความแม่นยำและความน่าเชื่อถือของระบบอาวุธ ซึ่งให้ข้อมูลที่มีประโยชน์เพื่อรับประกันความปลอดภัย ความมั่นคงและการยับยั้งอาวุธนิวเคลียร์อย่างมีประสิทธิภาพ"

[ตรรกะของสหรัฐก็คือ การใช้อาวุธนิวเคลียร์ก็เพื่อยังยับการใช้อาวุธนิวเคลียร์ (จากประเทศอื่น?) อุปมาเหมือนกับการมีอาวุธปืนไวัในครอบครองก็เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้อื่นมาทำร้ายตนเองด้วยอาวุธปืน หรือการยิงผู้อื่นก่อนก็เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้อื่นยิงตนเองก่อน

เกาหลีเหนือเขาก็อ้าง "ตรรกะและเหตุผล" เดียวกันนี้ ดังนั้นเขาจึงต้องพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์เพื่อป้องกันการรุกรานจากสหรัฐ แต่สหรัฐบอกว่า การกระทำของเกาหลีเหนือ "เป็นการยั่วยุ" และ "เป็นภัยคุกคามต่อสันติภาพในภูมิภาค" เกาหลีเหนือจะต้องปลดอาวุธนิวเคลียร์ทั้งหมดของตนเอง มิฉะนั้นอาจจะเกิดสงครามคาบสมุทรเกาหลีขึ้นมาก็ได้

ในมุมมองของเกาหลีเหนือมองว่า พวกขุนโจรห้าร้อยเตรียมยกพวกจะมาปล้นบ้านเรา และตะโกนเข้ามาในบ้านว่า เอ๊ยยยย! คิมน้อย เจ้าของบ้าน รีบวางอาวุธทั้งหมดซะ เราจะเข้าไปปล้นแล้ว อย่าได้ต่อสู้ขัดขืนเป็นอันขาด ห้ามยิงตอบโต้เมื่อเรายิงเข้าไปข้างในบ้านของคุณ ถ้าเราฆ่า ข่มขืน ยึดทรัพย์สมบัติของคุณ คุณก็ห้ามตอบโต้เป็นอันขาด เพราะว่านั่นคือการยั่วยุ และเป็นภัยคุกคามต่อโจร ถ้าคุณกระทำเช่นนั้นถือว่าเป็นการขัดมติยูเอ็น เราจะเผาบ้านคุณไม่ให้เหลือซากเลย คิมน้อยจะยอมไหมหละ?

เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา เกาหลีเหนือได้ทำการทดลองขีปนาวุธลึกลับ คาดว่าน่าจะเป็น KN-17 ยิงไปตกในทะเลญี่ปุ่น (Sea of Japan / ทะเลเหนือ) ไม่ไกลจากชายฝั่งของเกาหลีเหนือ สหรัฐ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ เดือนดาลมากบอกว่านั่นคือการยั่วยุของเกาหลีเหนือ และเรียกร้องให้สหประชาชาติเพิ่มการคว่ำบาตรเกาหลีเหนืออีก เอาให้หนักกว่าเดิม ทางรัฐบาลญี่ปุ่นก็พยายามจะแก้กฎหมายให้อำนาจกองทัพมากขึ้นในการปฏิบัติการทางทหารในต่างประเทศ คาดว่าจุดประสงค์แอบแฝงก็คือเพื่อปลดแอกตนเองจากการกดขึ่ของสหรัฐนั่นแหละ แต่ใช้ภัยคุกคามจากเกาหลีเหนือเป็นข้ออ้าง

เมื่อสองวันที่ผ่านมาสหรัฐประกาศว่าได้เดินระบบป้องกันภัยทางอากาศด้วยขีปนาวุธ THAAD ของตนเองในเกาหลีใต้เรียบร้อยแล้ว พร้อมรับมือจากการโจมตีจากเกาหลีเหนือ ท่ามกลางเสียงคัดค้านจากภาคประชาชนชาวเกาหลีใต้ ขีปาวุธ THAAD ของสหรัฐตั้งอยู่ที่เมือง Seongju ห่างจากกรุงโซลลงไปทางใต้ 250 กิโลเมตร มีรัศมีทำการ 200 กิโลเมตร ไม่ครอบคลุมเมืองหลวงของเกาหลีใต้ คุ้มกันได้เฉพาะฐานทัพส่วนใหญ่ของสหรัฐในเกาหลีใต้เท่านั้น ตกลงว่า THAAD นี่มีไว้เพื่อปกป้องเกาหลีใต้หรือว่าปกป้องกองทัพสหรัฐในเกาหลีใต้กันแน่? อย่างหลังชัวร์!

แต่ปธน.ทรัมป์ของสหรัฐบอกว่า รัฐบาลเกาหลีใต้จะต้องจ่ายค่าติดตั้ง THAAD มูลค่า 1,000 ล้านดอลล่าร์ให้สหรัฐ เกาหลีใต้บอกว่า เนื้อไม่ได้กินหนังไม่ได้รองนั่ง มันเอาของมาวางไว้ในบ้านเรา ห้ามไม่ให้เจ้าของบ้านแตะต้อง ทุกอย่างอยู่ในการควบคุมของกองทัพสหรัฐ ยังจะมีหน้ามาเรียกเก็บค่าคุ้มครองอีก ฝันไปเถอะ สหรัฐจึงย้ายไปตั้งที่อื่น ที่ห่างไกลจากกรุงโซล ไม่ยอมจ่ายใช่ไหม งั้นถ้ากรุงโซลถูกเล่นงานจากฝ่ายเหนือก็เรียกแม่ชีไปช่วยปัดลูกลูกระเบิดและจรวดแทนก็แล้วกัน เกาหลีใต้คิดหนัก ขี้ข้ามีสิทธิ์ปฏิเสธไหมครับ? วันนี้ยังไม่จ่าย- ผู้แปล]

The Eyes
เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
https://www.facebook.com/fisont
https://vk.com/theeyesproject
04/05/2560
------------
https://www.rt.com/usa/386963-second-minuteman-icbm-launch/
http://www.cnbc.com/2017/05/03/anger-grows-in-south-korea-over-us-anti-missile-system.html

 

ปอกเปลือก ทรราช
หน่วยแพทย์ไร้พรมแดน (Doctors Without Borders) ซึ่งเป็น NGO นานาชาติ (ฝรั่งเศส) ประกาศระงับการปฏิบัติงานในพื้นที่รอบนอกกรุงดามัสกัส อ้างว่าถูกโจมตีจากกองกำลังของพวกกบฏและรถพยาบาลหลายคนก็ถูกจี้ไปโดยพวกกบฏ ในขณะเดียวกัน พวกกบฏกลุ่มต่างๆในพื้นที่ก็ต่อสู้กันเองเนื่องจากความขัดแย้งภายในและแย่งพื้นที่กันรวมทั้งพยายามจะมีอิทธิเหนือกลุ่มอื่น บางกลุ่มก็ใช้ประชาชนเป็นเครื่องมือในการชุมนุมเดินขบวนต่อต้านอีกฝ่าย พวกกบฏหัวรุนแรงเหล่านี้เฉพาะที่อยู่ในพื้นที่รอบนอกกรุงดามัสกัสโดยเฉพาะที่เขตกูตาตะวันออได้รับการสนับสนุนจากซาอุดิอาระเบีย และนาโต้นำโดยสหาัฐ ก่อนหน้านี้ร่วมมือกันอ้างว่าเพื่อต่อต้านรัฐบาลอัสซาด วันนี้ถูกล้อมกรอบโดยกองทัพฝ่ายรัฐบาลอัสซาด จึงหันไปกัดกันเองภายใน RT รายงาน 3 เม.ย.60
------------

.

 

ปอกเปลือก ทรราช
ข้อมูลบางแห่งบอกว่าจริงๆแล้ว สหรัฐเคยติดตั้งระเบิดนิวเคลียร์ในเกาหลีใต้มาแล้ว ก่อนที่เกาหลีเหนือจะเริ่มโครงการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ซะอีก แต่ถอนกลับไป ต่อมาเกาหลีใต้ก็เริ่มพัฒนาโครงการอาวุธนิวเคลียร์ของตนเองบ้าง ก่อนเกาหลีเหนือจะเริ่มโครงการฯ ด้วยซ้ำ แต่ถูกสหรัฐกดดัน เกาหลีใต้จึงล้มเลิกโครงการกลางทาง แต่เกาหลีใต้หันไปพัฒนาโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์แทน ปัจจุบันนี้ เกาหลีใต้มีโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ทั้งหมดราว 24 แห่ง และกำลังก่อสร้างเพิ่มอีก 4 แห่ง แจ่มไหมหละ? ในขณะที่สหรัฐ ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ห้ามเกาหลีเหนือพัฒนาโครงการอวกาศ (รวมทั้งดาวเทียมด้วย) แต่เกาหลีใต้และญี่ปุ่นกลับสามารถทำได้ สหรัฐอ้างว่า เกาหลีเหนือเป็นเผด็จการ ละเมิดสิทธิมนุษยชน ดังนั้นเกาหลีเหนือจึงไม่สมควรมีอาวุธนิวเคลียร์ สหรัฐมีความชอบธรรมที่จะรุกรานเกาหลีเหนือ แต่อิสราเอลที่ปกครองด้วยระบอบลัทธิทหารกลับมีทั้งนิวเคลียร์และโครงการอวกาศมากมาย ซาอุดิอาระเบีย ปกครองด้วยระบอบกษัตริย์ เป็นประเทศระดับต้นๆที่ขึ้นชื่อในเรื่องการละเมิดสิทธิมนุษยชน ไม่ต่างจากอิสราเอลและเกาหลีเหนือ แต่สหรัฐก็ไม่ทำอะไร เพราะว่าซาอุดิอาระเบียใช้เงินดอลล่าร์สหรัฐในการค้าขายน้ำมัน และเป็นลูกค้ารายใหญ่ที่สุดที่ซื้ออาวุธจากสหรัฐ และซาอุดิอาระเบียบก็เป็นพันธมิตรที่สำคัญของอิสราเอลและสหรัฐในตะวันออกกลาง สหรัฐจึงไม่มีเหตุผลที่จะต้องรุกรานซาอุดิอาระเบีย และที่สำคัญสหรัฐสามารถใช้ฐานทัพของซาอุดิอาระเบียได้ตามอำเภอใจ
------------
http://www.nti.org/learn/countries/south-korea/
.

 

ปอกเปลือก ทรราช
นักวิชาการสหรัฐยืนยันว่า สหรัฐเคยติดตั้งอาวุธนิวเคลียร์ของตนเองในเกาหลีใต้มาแล้ว
-------------

.

 

Jeerachart Jongsomchai

... “ธนาคารกลางอเมริกายังคงเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อไป แม้ว่าเศรษฐกิจยังไม่ดีขึ้น”

... ธนาคารกลางอเมริกาเพิ่งขึ้นดอกเบี้ยไปเมื่อกลางเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
อีกประมาณ 0.25% ทำให้ดอกเบี้ยรวมไปอยู่ที่ 0.75-1.00% ที่เป็นการขึ้นครั้งแรกของปี 2017 และเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 3 เดือน และครั้งที่ 3 ในรอบ 10 ปี หลังจากสิบปีที่ผ่านมาออกมาตรการคิวอีปล่อยเงินมาบรรเทาการถดถอยทางเศรษฐกิจจากวิกฤติซัมไพรม์ เข้ามาช่วยเหลืออาชญากรทางการเงินของโลกลูกน้องตัวเอง หลังจากกินอิ่มล้มบนฟูกไปแล้ว จากนั้นก็ปล่อยเงินในระบบมากๆ กดดอกเบี้ยต่ำๆ จนเมื่อคิดว่าเศรษฐกิจอยู่ได้แล้วผ่านไปสิบปี จึงเริ่มขึ้นดอกเบี้ยไปเมื่อปลายปีที่แล้วเป็นครั้งแรก

... แต่ปรากฏว่าการขึ้นนี้มีนักวิเคราะห์บอกว่า การรีบขึ้นดอกเบี้ยไปนั้นยังไม่ควร เพราะจึงๆต้องให้เวลาดอกเบี้ยส่งผลต่อเงินเฟ้อที่ต้องใช้เวลาพอสมควร กว่าจะเห็นผล และข้อมูลอื่นก็บอกว่ายังไม่สมควร การเติบโตของอเมริกาก็ยังต่ำ จีดีพีไตรมาสแรกของปี 2017 ก็โตแต่ 0.7% การใช้จ่ายของคนก็ยังแน่นิ่ง เงินไหลในระบบน้อยแปลว่าเศรษฐกิจยังไม่ดีเพียงพอ การว่างงานยังสูง การเพิ่มขึ้นของการสร้างงานก็ต่ำ

... โดยฝ่ายกรรมการบอกว่าจะหวังพึ่งกับนโยบายของ “ทรัมป์” ที่จะพยายามสร้างเมกกะโปรเจคในการสร้างสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานขนาดใหญ่ทั่วประเทศเพื่อหวังจะ “สร้างงาน” มากขึ้น ลดอัตราการว่างงานลง ( เช่นโครงการสร้างกำแพงกั้นชายแดนอเมริกากับเม็กซิโก น่าละอายจริงๆ ) ซึ่งโครงการดังกล่าวจะช่วยเริ่งให้อัตราเงินเฟ้อถึงเป้าที่ประมาณ 2% ที่วางแผนไว้ในระยะยาว เฟดคาดการณ์ว่าอัตราเงินเฟ้อจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 1.9% ในปี 2017 นี้

... คาดว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งของเฟดในปีนี้ จะเกิดขึ้นในเดือนมิถุนายน และธันวาคม นี้ เฟดยังคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะมีการขยายตัว 2.1% ในปีนี้ โดยมีเป้าหมายที่จะให้มี “การลดภาระตัวเลขของพันธบัตรใน Balance Sheet ให้น้อยลง” หลังจากหนี้พันธบัตรมีมากเหลือเกิน นับตั้งแต่มีการปล่อยคิวอีเอาเงินเพื่อไปซื้อพันธมัตรเน่าของบริษัทต่างๆที่สร้างวิกฤติไปทั่วโลกมากองไว้ในกองคลังของธนาคาร ต้องหาทางกำจัดทิ้งไปในหลายรูปแบบภายในปีนี้

... การขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่องแบบนี้ จะทำให้เงินดอลล่าร์แข็งค่าขึ้น พันธบัตรรัฐบาลอเมริกาก็แพงขึ้น เงินจะไหลมาหาอเมริกามากขึ้นตามมาในเร็ววันนี้ จะทำให้ “ตลาดอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศก็จะผันผวน” ปรับตัวกันยกใหญ่ สกุลเงินประเทศเล็กน้อยไอ้จุกไอ้จ้อยก็จะอ่อนค่าลง นักลงทุนก็จะแห่ถอนการลงทุนออกไป เพื่อเอาเงินไปถมที่อเมริกา และอเมริกาก็เอาเงินพวกนี้มาสร้างประเทศ สร้างกำแพงกั้นพรมแดนเม็กซิโก เอาเงินไปซื้ออาวุธฆ่าชาวปาเลสไตน์ ชาวซีเรีย เป็นสังคมเป็นประเทศแห่งการหมุนเงิน “นักกู้เงินมือวางอันดับหนึ่งของโลก” ที่อีกมือหนึ่งก็ถือปืนเอาไว้ขู่และยิงเจ้าหนี้ไปด้วยในเวลาเดียวกัน

.
http://www.reuters.com/article/us-usa-fed-idUSKBN17Z28S
http://www.cnbc.com/2017/04/05/fed-set-to-unwind-balance-sheet-this-year.html
http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/745429

...

https://www.facebook.com/jeerachart.jongsomchai?fref=ts

 

ปอกเปลือก ทรราช
วันก่อนนี้เจ้าชายรองมกุฏราชกุมารของซาอุดิอาระเบียบอกว่า ซาอุดิอาระเบียไม่มีทางเลือกตั้งนอกจากรุกรานเยเมนเท่านั้น วันนี้เหล่านักรบฮูติแห่งเยเมนจึงสนองความตั้งใจของเจ้าชายซาอุดิอาระเบียด้วยการระเบิดพาหนะทหารกองทัพซาอุดิอาระเบียทิ้งรายวันในดินแดนเยเมน และถ่ายคลิปโชว์ในอินเตอร์เน็ทแบบนี้ นี่คือรางวัลสำหรับผู้รุกราน (3 พ.ค.60)
-----------

.

 

เฟดมีมติคงดอกเบี้ย เมินตัวเลข ศก.อ่อนแอส่งสัญญาณปรับขึ้นตามกรอบเดิม โดย MGR Online 4 พฤษภาคม 2560 04:00 น. (แก้ไขล่าสุด 4 พฤษภาคม 2560 11:17 น.)


เจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด)

เอเอฟพี - ธนาคารกลางสหรัฐฯ ในวันพุธ (3 พ.ค.) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ตามเดิม และเมินการเติบโตทางเศรษฐกิจที่อ่อนแอเร็วๆ นี้ โดยส่งสัญญาณว่าจะยังคงอยู่บนเส้นทางปรับขึ้นดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป

คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินธนาคารกลางสหรัฐฯ (FOMC) ลงมติอย่างเป็นเอกฉันท์ คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ 0.75-1.0 เปอร์เซ็นต์ ตามที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดหมายไว้

ในถ้อยแถลงที่อธิบายการตัดสินใจ ดูเหมือนจะเป็นการกระชับมุมมองเกี่ยวกับแนวโน้มการปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งในปีนี้ ซึ่งคาดหมายไว้ว่าน่าจะเกิดขึ้น ณ ที่ประชุมประจำเดือนมิถุนายนและกันยายน

ถ้อยแถลงของ FOMC ระบุว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ซึมเซาในช่วงไตรมาสแรก โดยจีพีดีขยายตัวแค่ 0.7 เปอร์เซ็นต์ ต่ำที่สุดในรอบ 3 ปี เป็นประเด็นแค่ชั่วครั้งคราว พร้อมเน้นย้ำถึงตลาดแรงงานและการจ้างงานที่แข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ

“คณะกรรมาธิการมองการเติบโตชะลอตัวระหว่างช่วงไตรมาสแรกว่าน่าจะเป็นแค่ชั่วคราว และยังคาดหมายว่าจะมีการปรับทีท่าในนโยบายทางการเงินอย่างค่อยเป็นค่อยไป กิจกรรมทางเศรษฐกิจจะขยายตัวในระดับปานกลาง” ถ้อยแถลงระบุ

“ตลาดแรงงานยังคงเข้มแข็งแม้การเติบโตในกิจกรรมทางเศรษฐกิจชะลอตัว” ถ้อยแถลงบอกต่อ ด้วยตัวเลขการจ้างงานแข็งแกร่งและอัตราคนว่างงานลดลงอีกครั้ง ซึ่งตอนนี้อยู่ที่ 4.5 เปอร์เซ็นต์

เฟดปรับขึ้นดอกเบี้ยมาแล้ว 2 ครั้งในเดือนมีนาคม และธันวาคม ท่ามกลางมุมมองในทางบวกในช่วงวันแรกๆ แห่งวาระการดำรงตำแหน่งของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งให้สัญญาเกี่ยวกับการลดภาษีและเพิ่มการใช้จ่ายในโครงสร้างพื้นฐาน

นักเศรษฐศาสตร์จำนวนมากก็ไม่สนใจต่อตัวเลขทางเศรษฐกิจที่อ่อนแอในช่วงไตรมาสแรกเช่นกัน เนื่องจากมันถูกเหนี่ยวรั้งจากการบริโภคที่ลดลง ซึ่งพบเห็นบ่อยครั้งจนแทบกลายเป็นเรื่องปกติในช่วง 3 เดือนแรกของปี

คำแถลงของเฟดบอกด้วยว่า ในขณะที่ตัวเลขใช้จ่ายภาคครัวเคือนเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แต่พื้นฐานที่สนับสนุนการเติบโตของการบริโภคยังคงแข็งแกร่ง ขณะที่อัตราเงินเฟ้อยังทรงตัวใกล้ๆ ระดับเป้าหมาย 2 เปอร์เซ็นต์

http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9600000045007

 

รัสเซียคืนดีตุรกีโดยสมบูรณ์ “ปูติน-แอร์โดอัน” จับมือแก้วิกฤตซีเรีย-เล็งยกเลิกคว่ำบาตรการค้า โดย MGR Online 4 พฤษภาคม 2560 01:12 น. (แก้ไขล่าสุด 4 พฤษภาคม 2560 11:25 น.)


ประธานาธิบดีเรเจป ตัยยิบ แอร์โดอัน ของตุรกี(ซ้าย) จับมือกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินแห่งรัสเซีย(ขวา) ระหว่างแถลงขาวร่วม หลังการหารือที่เมืองโซชิ ของรัสเซีย เมื่อวันพุธ(3พ.ค.)

รอยเตอร์ - ผู้นำรัสเซียและตุรกีในวันพุธ (3 พ.ค.) ย้ำกับสาธารณะต่อคำสัญญาระหว่างพวกเขาในการร่วมมือกันยุติความขัดแย้งในซีเรีย แม้เหตุก๊าซพิษโจมตีพลเรือนในเมืองแห่งหนึ่งของซีเรีย เป็นบททดสอบความสัมพันธ์ที่เปราะบางระหว่างสองชาติ ขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีทั้งสองยังประกาศทิ้งวิกฤตด้านการทูตระหว่างกันไว้เบื้องหลังและกลับมาคืนดีกันโดยสมบูรณ์

ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย และประธานาธิบดีเรเจป ตัยยิบ แอร์โดอัน ของตุรกี ที่ต่างถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจากเหล่ารัฐบาลตะวันตกต่อประวัติด้านสิทธิมนุษยชน ได้จัดทำข้อตกลงซีเรียร่วมกัน แม้ต่างฝ่ายต่างสนับสนุนคนละฟากฝั่งของคู่ขัดแย้งในสงครามกลางเมือง

ทั้งสองพบปะกันที่เมืองโซชิ ดินแดนตากอากาศริมทะเลดำของรัสเซียในวันพุธ (3 พ.ค.) นับเป็นการเจอกันครั้งแรกตั้งแต่เกิดเหตุสารเคมีโจมตีเมืองข่าน ชัยคุนของซีเรีย เมื่อวันที่ 4 เมษายน

ในตอนนั้น แอร์โดอันกล่าวโทษรัฐบาลซีเรีย พันธมิตรของรัสเซีย ส่วน ปูติน บ่งชี้ว่ามันเป็นการจัดฉากเพื่อดิสเครดิตประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาดแห่งซีเรีย

ระหว่างให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวหลังการหารือ ปูตินและแอร์โดอัน บอกว่าพวกเขายังพุ่งเป้าทำงานร่วมกันเพื่อยุติความขัดแย้งในซีเรีย ซึ่งแปรเปลี่ยนประเทศแห่งนี้เป็นสมรภูมิเพาะเชื้อกลุ่มนักรบอิสลามิสต์หัวรุนแรง “เรายืนหยัดอยู่เคียงข้างสหายรัสเซียของเราในการต่อสู่กับก่อการร้าย” แอร์โดอันแถลงข่าวโดยมีปูติน ยืนอยู่ข้างๆ

ผู้นำทั้งสองบอกว่าพวกยังคงหนุนหลังกระบวนการสันติภาพ ซึ่งมีขึ้นที่กรุงอัสตานา เมืองหลวงของคาซัคสถาน และมีมอสโก อังการาและเตหะราน เป็นผู้สนับสนุนร่วม แม้ว่าในการเจรจารอบล่าสุดตัวแทนจากพวกฝ่ายค้านติดอาวุธของซีเรียระบุว่าพวกเขากำลังระงับการเข้าร่วม

แอร์โดอัน และปูติน ยังส่งเสียงสนับสนุนข้อเสนอที่ได้รับการหนุนหลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯ ในการกำหนด “เซฟโซน” ในซีเรีย เพื่อปกป้องพลเรือนจากการสู้รบ

ในประเด็นก๊าซพิษ ปูตินและแอร์โดอันไม่ได้พาดพิงความเห็นต่างก่อนหน้านี้กรณีที่ฝ่ายใดควรถูกกล่าวโทษ โดยแอร์โดอันบอกว่าเขาเห็นด้วยกับปูติน ว่าใครก็ตามที่อยู่เบื้องหลังต้องโดนลงโทษ

รัสเซียเข้าแทรกแซงทางทหารในซีเรีย เพื่อสนับสนุนให้ อัสซาด ได้ครองอำนาจประธานาธิบดีต่อไป ส่วน ตุรกี สนับสนุนกลุ่มฝ่ายต้านติดอาวุธที่พยายามโค่นอำนาจเขา

ตุรกียิงเครื่องบินของกองทัพอากาศรัสเซียตกใกล้ชายแดนตุรกี-ซีเรียในปี 2015 ก่อวิกฤตด้านการทูตและกระตุ้นให้ต่างฝ่ายต่างออกมาตรการคว่ำบาตรทางการค้า อย่างไรก็ตามในการหารือเมื่อวันพุธ (3 พ.ค.) ทั้งปูตินและแอร์โดอัน บอกว่าพวกเขาได้ทิ้งวิกฤตดังกล่าวไว้เบื้องหลังแล้ว

พวกนักการทูตบางส่วนมองว่าความเป็นพันธมิตรระหว่างแอร์โดอันและปูติน ได้มอบความหวังหรืออย่างน้อยก็เป็นโอกาสในการดึงบังเหียนคู่ขัดแย้งในสงครามซีเรียเข้าสู่การเจรจา หลังสู้รบกันมานานกว่า 6 ปี คร่าชีวิตผู้คนหลายหมื่นศพและประชาชนหลายล้านคนต้องพลัดถิ่น

ข้อจำกัดทางการค้าบางอย่างถูกบังคับใช้ตามหลังเครื่องบินรัสเซียถูกยิงตก ก่อความระคายเคืองในความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียและตุรกีมาตั้งแต่นั้น อย่างไรก็ตามหลังการหารือที่เมืองโซชิในวันพุธ (3 พ.ค.) อาร์คาดี ดวอร์โควิช รองนายกรัฐมนตรีรัสเซีย บอกว่าตุรกี ยอมยกเลิกข้อจำกัดห้ามนำเข้าข้าวสาลีของมอสโกภายในไม่กี่วันนี้

ปูติน กล่าวระหว่างแถลงข่าวราวมว่า แม้มีความเคลื่อนไหวดังกล่าว แต่ ณ ปัจจุบันรัสเซียจะยังคงข้อจำกัดบางอย่างต่อตุรกีเอาไว้ตามเดิม ไม่ว่าจะเป็นมาตรการห้ามนำเข้ามะเขือเทศและคำสั่งระงับโครงการยกเว้นวีซ่าแก่นักท่องเที่ยวตุรกี

ประธานาธิบดีรายนี้บอกว่ารัสเซียจะกลับมาซื้อมะเขือเทศตุรกีอีก แต่จำเป็นต้องใช้เวลาเพื่อให้แน่ใจว่าเกษตรกรรัสเซียที่ลงเงินปลูกมะเขือเทศภายในประเทศ จะไม่ลงทุนอย่างสูญเปล่า

http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9600000044995

 

เวเนฯ ตึงเครียด ฝ่ายค้านชุมนุมใหญ่ต้านแผนร่างรัฐธรรมนูญใหม่ของ ปธน.มาดูโร โดย MGR Online 3 พฤษภาคม 2560 23:33 น. (แก้ไขล่าสุด 4 พฤษภาคม 2560 11:26 น.)



เอเอฟพี - เวทีชุมนุมของพวกฝ่ายค้านผู้เดือดดาลของเวเนซุเอลา ในวันพุธ (3 พ.ค.) ประกาศประท้วงบนท้องถนนครั้งใหญ่ต่อต้านแผนเขียนรัฐธรรมนูญใหม่ของประธานาธิบดีนิโคลัส มาดูโร และกล่าวหาเขายึดติดอำนาจหลีกเลี่ยงการเลือกตั้งใหม่แม้เกิดเหตุความไม่สงบนองเลือด

ประเทศที่อุดมไปด้วยน้ำมัน แต่กลับเผชิญวิกฤตขาดแคลนอาหาร ยาและสิ่งจำเป็นพื้นฐาน อย่างเช่นสบู่และกระดาษชำระ ต้องเผชิญกับเหตุประท้วงต่อต้านมาดูโร หลายต่อหลายครั้งในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา และบ่อยครั้งที่การชุมนุมเลี้ยวเข้าสู่ความรุนแรง จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บล้มตาย

สำนักข่าวเอเอฟพีอ้างข้อมูลของแหล่งข่าวในสำนักงานอัยการระบุว่ายอดผู้เสียชีวิตจากเหตุความรุนแรงนับตั้งแต่การประท้วงปะทุขึ้นเมื่อวันที่ 1 เมษายน เพิ่มขึ้นเป็น 31 ศพแล้ว

พวกผู้ชุมนุมวางแนวขยะและถังขยะปิดกั้นถนนสายต่างๆ ในเวเนซุเอลาในวันอังคาร (2 พ.ค.) ในการประท้วงที่ดูเหมือนจะรุนแรงขึ้น หลังจาก มาดูโร แถลงแผนตั้งสภาประชาชนเพื่อเขียนรัฐธรรมนูญใหม่ ซึ่งเท่ากับเป็นการกีดกันรัฐสภาที่มีฝ่ายค้านครองเสียงข้างมากออกจากกระบวนการทางการเมือง และหลีกเลี่ยงการเลือกตั้งใหม่

สภาประชาชนแห่งนี้จะไม่มีพรรคการเมืองเข้าร่วม โดยสมาชิกจะประกอบด้วยตัวแทนจากภาคส่วนต่างๆของสังคม อย่างเช่นแรงงาน, เกษตรกรและชุมชนอื่นๆ ที่ภักดีต่อมาดูโร โดยประธานาธิบดีรายนี้อ้างว่ามันเป็นตัวแทนของทุกภาคส่วน แทนที่จะเป็นกลุ่มคนที่เป็นฐานเสียงของฝ่ายค้านเพียงอย่างเดียว

สถานีรถไฟฟ้าใต้ดินในกรุงการากัสถูกปิดและกองกำลังด้านความมั่นคงถูกส่งเข้าประจำการตามจุดสำคัญๆ
ในตอนเช้าวันพุธ (3 พ.ค.) ในขณะที่ผู้ชุมนุมชุดแรกๆ เริ่มรวมตัวกัน ขณะที่พันธมิตรฝ่ายค้าน MUD ประกาศว่าประท้วงล่าสุดนี้จะเป็นการเดินขบวนครั้งใหญ่



“แผนของมาดูโร มีเป้าหมายคือไม่ต้องการปรึกษาประชาชน แต่เลือกให้พรรครัฐบาลเป็นคนปรับแต่งรัฐธรรมนูญอีก” เฟดดี กูเอวารา รองประธานรัฐสภาที่ฝ่ายค้านครองเสียงข้างมาก ระบุ “เผด็จการทุกรายต้องล่มสลาย ละครที่เขาต้องการจัดฉากจะไม่สามารถพรากความเข้มแข็งไปจากเรา ประชาชนบนท้องถนน”

ด้าน มาดูโร กล่าวหาพวกฝ่ายค้านว่ากำลังเลือกใช้หนทางแห่งความรุนแรง “พวกเขากำลังเคลื่อนเข้าสู่ขั้นของการก่อความไม่สงบด้วยอาวุธ ในกรณีแวดล้อมที่อันตรายนี้ ทางเดียวที่จะรับประกันสันติภาพคือสภาประชาชนเพื่อเขียนรัฐธรรมนูญ”

เขาบอกว่าจะเดินทางไปยังสภาเลือกตั้งแห่งชาติเพื่อเริ่มกระบวนการจัดตั้งสภาประชาชน แม้ฝ่ายค้านกล่าวหาว่าความเคลื่อนไหวดังกล่าวของมาดูโร คืออุบายลดโอกาสจัดการเลือกตั้งใหม่ ที่เสี่ยงทำให้เขาต้องตกเก้าอี้

ศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีมีกำหนดจัดขึ้นในปีหน้า เมื่อวาระการดำรงตำแหน่ง 5 ปีของมาดูโร สิ้นสุดลง หลังเขาได้รับเลือกมาในปี 2013 ทั้งนี้ จากผลการสำรวจความคิดเห็นล่าสุด พบว่ามีประชาชนมากกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ที่ตอบแบบสอบถาม ไม่สนับสนุนมาดูโร โดยพวกเขากล่าวโทษผู้นำรายนี้ต่อวิกฤตเศรษฐกิจที่กระพือภาวะขาดแคลนอาหารและเหตุจลาจล

มาดูโรบอกว่า รัฐธรรมนูญใหม่มีความจำเป็น เพื่อปัดเป่าสิ่งที่เขาให้คำจำกัดความว่าความพยายามรัฐประหารที่มีต่างชาติหนุนหลังเพื่อโค่นอำนาจเขา อย่างไรก็ตาม พวกฝ่ายค้านตอบโต้กลับ กล่าวหาเขาว่าพยายามทำรัฐประหารตัวเอง

http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9600000044987