คือ ผมนั่งสมาธิแล้วมันรู้สึกสงบ
ต่อมาจิตบอกว่าถ้าทำไปนานๆจะเห็นวิญญาน ผมเลยรู้สึกกลัวๆยังไงไม่รู้
มีวิธีอย่างไรไหมครับ แนะนำหน่อย ตอนนี้ผมไม่กล้านั่งสมาธิแล้ว
นั่งสมาธิแล้วรู้สึกกลัวทำไงดี
ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย pongkhum, 11 มกราคม 2013.
หน้า 1 ของ 2
-
โดนมันหลอกเอาหนะสิ...
วิญญาณเขาก็อยู่ของเขาแบบนั้นแหละ เราเห็น หรือ ไม่เห็น เขาก็อยู่เป็นปกติของเขาอยู่แล้ว จะไปกลัวทำไม
ก่อนเรามาเกิดเป็นคน เราก็เป็นแบบนั้นมาก่อน ในชาตินี้อีกไม่กี่สิบปี พอเราตายลงไป เราก็เป็นแบบนั้น จะไปกลัวอะไรกับสิ่งที่เราเคยเป็น และกำลังจะเป็นในอนาคต?
ไอ้ที่ว่ากลัว นี่กลัวอะไร บอกความรู้สึกมาให้ชัดสิ จะได้แก้อารมณ์ให้ -
ไม่ได้เป็นจิตจริงๆหรอกคับที่บอก
มันน่าจะเป็นตัวอุปาทาน ปรุงแต่ง
หรือไม่ก็เจตสิก ไม่ก้มารแหละคับ มันคอยขวางทางก้าวหน้าอย่างนี้แหละคับ -
เคยเป็นมาก่อนค่ะและปัจจุบันก็ยังเป็นบ้างขอให้ท่านน้อมจิตนึกถึงแต่ภาพพระพุทธองค์หรือพระพุทธรูปที่ท่านชอบให้ท่านนำหน้าท่านขอแสงฉัพพรรณรังสีของพระุพุทธองค์นำทางท่านน่ะคะ่ ขอให้จำไว้ว่าครูบาอาจารย์ที่มาในนิมิตที่จะมาสอนท่านหรือที่ท่านเห็นในอนาคตจะหันหน้าให้ท่านไม่มีเอียงข้างหรือหันหลังและเครื่องทรงจะตรงเปะทุกประการไม่มีเพี้ยน หากแม้ผิดเพี้ยนแม้แต่เพียงนิดเดียวนั้นคือท่านโดนนิมิตรนั้นหลอกเสียแล้วพึงระวังค่ะ..ครูบาอาจารย์เราสอนมาแบบนี้น่ะคะ่...นั่งสมาธิเพื่อความสงบนั้นดี แต่ถ้านั่งสมาธิเพื่อความอยากที่จะได้โน่นได้นี่หรืออยากได้อภิญญาพึงระวังอุปทานจะตบกบาลเพราะโดนกันมานักต่อนักแล้วค่ะ
-
ขอบคุณทุกคนนะครับ คือผมนั่งสมาธิมาได้หลายเดือนแล้ว ก็เริ่มสงบขึ้นๆ นะครับ อยู่มาวันหนึงมีเหตุเกิดแล้วผมรู้ว่าการที่เราสงบมากๆจะเห็นอะไรที่ไม่เคยเห็น มีพี่ที่ทำงานเขานั่งสมาธิมานาน และเขาบอกว่าเขาถอดจิตออกจากร่างได้ และสามารถไปโน่นไปนี่แล้วเห็นต่างๆ สื่อวิญญานได้ (แต่ผมก็ไม่เคยเชื่อแกหรอก) ก็มีไม่กี่วันนี่แหละ ผมนั่งไปแล้วรู้สึกสงบกว่าที่คิดและนิ่งไม่ฟุ้งซ่านรู้สึกสบาย ในความสงบ อยู่ดีๆก็มีแสงสว่างนิด(แบบกำลังเร่งหลอดไฟนะครับ)อยู่ดีๆก็คิดกลัวเห็นผี เห็นอะไรที่คนอื่นไม่เห็นแล้วฟุ้งซ่าน ก็เลยกลัวแล้วก็กังวล ตั้งสมาธิจับก็ไม่ได้ เลยเป็นตอนนี้ผมไม่กล้านั่งสมาธิเลยครับ ผมจะเลิกงานแล้วอาบน้ำ ก็กว่าจะได้นอน ก็ดึกอยู่ ประมาณ 4ทุ่ม
ผมจะได้สวดมนต์ทุกคืนและนั่งสมาธิต่อเป็นประจำ ได้นอนก็เกือบ 6 ทุ่ม เดี่ยวนี้คืนที่ผ่านมาไม่กล้านั่งสมาธิได้แต่สวดมนต์ไหว้พระอย่างเดียว สมาธิไม่นิ่งเลยครับ แต่ตอนสวดมนต์จิตยังนิ่งกับการสวดมนต์อยู่ไม่วอกแวก ไม่รู้จะแก้ยังไงดี เล่าให้ฟังครับ -
รุ้สึกยังไง เป็นยังไง กำหนดรู้ยังงั้น
นั่งสมาธิแล้วรู้สึกกลัวทำไง ? -
ส่วนหนึ่ง คือ สัญญามันจำเรื่องที่เขาเล่าให้ฟังนั่น พอสงบความจำก็โผล่ พอโผล่มันก็กลัว พอกลัวก็ไม่กล้า ฯลฯ แต่พอสงบ ก็ชอบ พอชอบก็จะเอาอีก ธรรมชาติเป็นดังนี้
-
คำถามคือกลัวอะไร
วิญญาณ ผี ก็คือ คนที่ตายไปแล้ว
กลัวทำไม
จริงๆแล้วก่อนเจริญพระกรรมฐานนั่งสมาธิ
สิ่งสำคัญก็คือ เตรียมใจ
การเตรียมใจโดยเบื้องต้นพื้นฐาน คือ การมอบกายถวายชีวิตนี้แด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
หรือภาษาชาวบ้านแปลว่า ยอมตายเพื่อถวายเป็นพุทธบูชา
จะได้เป็นกำลังใจ ไม่กลัวแม้แต่ภัยอันตรายทั้งปวง
อนึ่ง.. คิดว่าผี หรือ วิญญาณจะมาทำอะไรหรือครับ กลัวทำไม
ปล.ถ้าคิดว่าภาพที่เห็นเป็นอุปาทาน ให้ไปดูความหมายของคำว่าอุปาทานประกอบด้วย -
พอ จิต บอกกับตัวเองว่า ถ้าทำไปนานๆจะเห็นวิญญาน
มันเลยไป จับ ความกลัว เข้ามาแทน ทำให้ไม่กล้านั่งสมาธิ นั้นเองครับ
เพราะไป ยึดมั่น ถือมั่น ยึดเอาความกลัว แล้วไม่ยอมปล่อยวาง มันเลยเป็นแบบนี้
วิธี ลองถาม ตัวเอง ครับ ว่า กลัวอะไร กลัวเพราะอะไร
. -
เที่ยวผู้หญิงไม่กลัว
ตีหัวหมา ด่าแม่เจ๊ก ไม่กลัว
แต่พอจะทำความดีกลัว
คนเรานี่ก็แปลกเนาะ
ทำความดี ถือศีล ภาวนา ทำสมาธิ
ถ้าตายตอนนั้น อย่างน้อย พระท่านบอกว่าขึ้นสวรรค์
พูดโกหก พูดเพ้อเจ้อ ขับมอไซด์กวนเมือง
กินเหล่า เล่นการพนัน อะไรที่ผิดศีล ผิดธรรม
ทำได้ มัน สะใจ ไม่เเคยกลัว มีแต่ท้าทายความตาย
ถ้าตายตอนนั้น ลงนรกเลยนะจ๊
อย่าไปกลัวดีสิ มีแต่เค้ากลัวเลวกัน
เพราะความเลวจะทำไห้เราตกต่ำ -
อืม ของคุณนี่ ให้สู้กับมันตรงๆ นะครับ กลัว ก็นั่งสมาธิเข้าไปเลย
นั่งเข้าไปดูให้ถึงที่สุดเลยนะ ไอ้ความกลัวตัวนี้
กระชากหน้ากากมันออกมาให้ได้นะ ว่า ผีมันหลอกคุณ หรือ ใจคุณ มันหลอกตัวเอง
คืนนี้กับพรุ่งนี้ ลองทำดู ได้ผลอย่างไร มาบอกกันอีกที -
ต้องฝืนไปอีกหน่อยคับ กำลังสมาธิยังไม่เพียงพอ..ฝืนด้วยการเฉยๆ
ไม่ต้องไปใส่ใจ.อีกซัก ๒ ถึง ๓ ครั้งในแต่ละสัมผัส.ก็จะดีขึ้นเองครับ -
ฝึกบ่อยๆครับตอนแรกผมก็กลัวนั่งสมาธิแล้วใช้ผ้าคุมร้อนมากทรมานตัวเองสุดๆเลย แต่พอนั่งมาเลื่อยๆ ก็ไม่รู้สึกกลัวแล้ว คนเราตอนทำความดีต้องมีสิ่งดีๆคุ้มครองแน่ครับ คนเราตายไปก็ต้องเป็นผีเป็นวิญญาณกันทุกคนสุดแล้วแต่ว่าจะได้เป็นวิญญาณประเภทไหน
เราตายไปเราก็ต้องเป็นแบบนั้น สักวันเราก็ต้องไปเป็นแบบนั้น ทุกวันนี้คิดแบบนี้ครับเลยทำให้ใจสู้ไม่กลัวสิ่งพวกนี้เท่าไหร่ -
ขออนุโมทนาสาธุ ธรรมใดที่ท่านสำเร็จแล้ว ขอข้าพเจ้าสำเร็จด้วยเทอญ สาธุๆๆ จิตที่ฝึกดีแล้ว นำสุขมาให้
-
ติดสิ่งไหน ให้พิจารณาสิ่งนั้น
ติดเรื่องความกลัวก็พิจารณาความกลัว สิ่งที่เรากลัว จนความกลัวนั้นมันหายไป
ต้องพิจารณาให้เห็นถึงเหตุ และการเกิดขึ้น ตั้งอยู่และดับไปของเหตุนั้น
แม้ว่าเราจะพิจารณาจนรู้ถึงเหตุผลและความเป็นมาของมันแล้ว ใช่ว่าความกลัวมันจะหายไป แต่ต้องพิจารณาซ้ำแล้วซ้ำเล่า เพื่อที่จะได้รู้เท่าทัน เพื่อที่จะได้รู้ว่าหนทางอันนำไปสู่ความดับของเหตุนั้นจะไปจากเราโดยวิธีใด หรือจะอยู่กับเหตุนั้นได้อย่างไร
(ตัวเรา ของเรา ยังไม่มีจริงเลย ผีจะมีจริงได้อย่างไร ใดๆในจักรวาลมีแต่เพียงรูปและนามแค่นั้นเอง) -
ผมก็เคยเป็นครับเรื่องกลัว หลักก็ต้องสู้
และการพิจารณาประกอบว่าก่อนนี้เคยกลัวอะไรบ้าง ระลึกให้เห็นแล้วถามตัวเองว่ามันจบไปแล้วใช่ไหม
ครั้งนี้ก็ต้องเป็นอย่างนั้นอีก มันต้องจบ ก็สู้ไปโดยไม่ต้องสนใจมันอีก ไม่นานก็ผ่านไปได้
การปฏิบัติก็สู้กับจิตนี้ละ
ไม่สู้ไม่มีทางชนะได้ -
แรก ๆผมก็เป็นนะ ก่อนนั่งสมาธิ ลองกราบพระ สวดมนต์ดูไหม
ไม่ก็พิจรณาว่ามันของเกินดับเรื่องความกลัว เมื่อรู้แล้วก็ดับไปเป็นปกติ
ถ้ายังมากวนใจอีกก็ลองนึกถึงท่านท้าวเวสสุวรรณก็ได้ -
อยู่กับ ณ ปัจจุบันเท่านั้นครับ
-
ปฏิบัติ ทำสมาธิ แล้ว ต้องกลัว จนไม่กล้านั่ง
อิอิ
มัวเมาใน กิเลส อกุศลกรรม ลงนรกไม่กลัว
แต่พอจะ สร้างกรรมดี บุญ กุศล กลัวขึ้นมาทันใด ต้องหาเหตุให้ไม่กล้านั่ง ปฏิบัติ สร้าง บุญ กุศลกรรม ดันมีเหตุให้กลัว ไม่กล้วปฏิบัติ ...
. -
นะโมตัสสะภาคาวะโตอรหัตโตสัมมาสัมพุทธัสสะ
ภิกษุทั้งหลาย เมื่อเธอทั้งหลายอยู่ในป่าหรืออยู่โคนไม้ หรืออยู่ในเรือนว่างก็ตาม
พึงระลึกถึงพระสัมมาสัมพุทธะเจ้าเถิด ความกลัวก็จะไม่พึงมีเเก่พวกเธอทั้งหลาย
เเต่ถ้าเธอทั้งหลาย ระลึกถึงพระพุทธเจ้า ซึ่งเป็นผู้เจริญแห่งโลก เป็นผู้ประเสริฐแห่งนิรชน มิได้ไซร้
ก็พึงระลึกถึงพระธรรมอันเป็นเครื่องนำออกจากทุกข์ ที่เราเเสดงไว้ดีเเล้วเถิด
เเต่ถ้าเธอทั้งหลาย ระลึกถึงพระธรรมอันเป็นเครื่องนำออกจากทุกข์ ที่เราเเสดงไว้ดีเเล้ว มิได้ไซร์
ก็พึงระลึกถึงพระสงฆ์ผู้เป็นเนื้อนาบุญของโลกไม่มีเนื้อนาบุญยิ่งกว่าเถิด
เอวัง พุทธัง สะรันตานังธัมมังสีงฆัญจะภิกขะโว
ภิกษุทั้งหลาย เมื่อเธอทั้งหลาย ระลึกถึงพระพุทธ พระธรรม เเละพระฆงฆ์อยู่อย่างนี้
ความกลัวก็ดี ความหวาดสะดุ้งก็ดี ความขนพองสยองเกล้าก็ดี. จักไม่มีเลยดังนี้
หน้า 1 ของ 2