ไม่ได้คิดเองครับ ตอนนี้ผมอายุ 53 ปีแล้ว เคยบวชเรียนมาแล้ว 1 พรรษา ได้ศึกษาความรู้จากพระไตรปิฏกมาตั้งแต่ยังเป็นเด็ก ได้เคยพบฟังธรรมและถวายสังฆทาน กับพระราชพรหมยาน(หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) ในตอนที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ ได้ปฏิบัติธรรมในสายมโนมยิทธิ ที่วัดท่าซุง จนได้พบเห็นความเป็นจริงของพระนิพพาน พรหมโลก เทวดา ตลอดจนได้ไปเห็นภพภูมิของ เปรต อสุรกาย สัตว์นรก มาแล้ว และพระที่ฝึกมโนมยิทธิให้ผม ก็บอกว่าจิตผมเป็นพระโสดาบันแล้วครับ ซึ่งผมก็ไม่ทราบว่าจะเป็นพระโสดาบันระดับไหน แต่ถ้าเป็นเรื่องจริงละก็พวกคุณควรจะหยุดปรามาสผมได้แล้วนะครับ
ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่
ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.
หน้า 1520 ของ 1646
-
-
กรรมมีจริง ผลของกรรมมีจริง
สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก
“กรรมมีจริง ผลของกรรมมีจริง”
“กรรมดีให้ผลดีจริง กรรมชั่วให้ผลชั่วจริง”
“ผู้ใดทำกรรมใดไว้ จักเป็นผู้รับผลของกรรมนั้น ผู้ไม่ได้ทำหาต้องได้รับไม่”
ความเข้าใจผิดในเรื่องนี้มีอยู่ให้ได้ยินได้ฟังอยู่เนื่องๆ เช่น มารดาบิดาทำไม่ดีต่างๆ นานาให้เห็น เกิดเหตุการณ์รุนแรงแก่ชีวิตบุตรธิดา ก็มักกล่าวกันว่า ลูกรับเคราะห์แทนมารดาบิดาบ้าง หรือลูกรับกรรมแทนมารดาบิดาบ้าง ความจริงไม่เป็นเช่นนั้น กรรมของผู้ใด ผลย่อมเป็นของผู้นั้น จะรับผลกรรมแทนกันไม่ได้ ไม่มี
มารดาบิดาทำไม่ดี ทำบาปทำอกุศล ยังอยู่ดีมีสุขเพราะผลของบาปอกุศลยังส่งไม่ถึง แต่บุตรธิดาที่ไม่ทันได้ทำบาปทำอกุศล กลับต้องมีอันเป็นไปต่างๆ นั้น นั่นเป็นเรื่องของการรับผลของบาปอกุศลที่ทำไว้ในภพชาติก่อน ที่ตามมาส่งผลในภพในชาตินี้แน่นอน บุตรธิดาผู้ได้รับผลไม่ดีต่างๆ นานา ต้องทำกรรมไม่ดีไว้ในภพชาติหนึ่งแน่นอน แต่เราไม่รู้ไม่เห็นเท่านั้น ไม่ใช่บุตรธิดารับผลกรรมแทนมารดาบิดา
ผู้จะเกิดร่วมกัน เป็นแม่เป็นพ่อเป็นลูกกัน ต้องมีกรรมดีกรรมชั่วในระดับเดียวกัน ไม่แตกต่างห่างไกลกัน จึงทำให้เหมือนลูกรับกรรมแทนพ่อแม่ผู้ทำบาปอกุศล ลูกที่มารับผลไม่ดีต่างๆ ขณะที่พ่อแม่ผู้ประกอบกรรมไม่ดีนั้น นั่นเพราะกรรมไม่ดีของลูกส่งผลทันในระยะนั้น จึงทำให้ยากจะเข้าใจได้ จึงทำให้เกิดความสับสนกันมาก กรรมของคนหนึ่ง ผลจะไม่เกิดแก่อีกคนหนึ่งแน่นอน
แสดงกระทู้ - พ่อแม่ทำบาปอกุศล บุตรธิดารับเคราะห์แทนจริงหรือ ?? • ลานธรรมจักร -
พ่อแม่ทำกรรมไว้กรรมนั้นจะตกทอดมาสู่ลูกหรือไม่ ?
ถาม : เวรกรรรมเป็นของคนหนึ่งคนใดโดยเฉพาะไม่สามารถจะรับแทนกันได้ ?
ตอบ : รับแทนกันไม่ได้จ้ะ ไม่ต้องห่วงหรอก ถ้าเราทำไม่ดีลูกก็ไม่ต้องรับหรอก ถ้าลูกทำไม่ดีเราก็ไม่ต้องรับหรอก ต่างคนต่างทำ ต่างคนต่างได้ แต่ว่าบางครอบครัวเหมือนยังกับว่าพ่อแม่ทำแล้วลูกได้รับมันเป็นเพราะว่าคนที่เกิดมาครอบครัวเดียวกันเขาจะทำบุญทำบาปมาใกล้เคียงกัน บางทีอาจจะทำกรรมอย่างเดียวกันมา ถึงวาระ ถึงเวลามันสนองเข้าพอดี ก็เลยคิดว่าตัวเองทำแล้วคนอื่นได้ คนข้างเคียงได้ ไม่ใช่ ใครทำใครได้ตรงไปตรงมา คิดไม่ถึงน่ะพ่อแม่ทำไม่ดีกับคนอื่นเอาไว้แล้วมาเกิดกับลูกตัวเอง ก็คิดว่าพ่อแม่ทำ แล้วลูกได้รับ ไม่ใช่ล่ะจ้ะ บังเอิญลูกมันทำกรรมชนิดนั้นมา กรรมมันถึงวาระมันมาสนองเข้าพอดี แต่มันก็ดีไปอย่างถ้าเข้าใจอย่างนั้มันทำให้คนกลัวๆ เหมือนกันจะเลิกทำชั่วไปซะหน่อย
http://palungjit.org/threads/พ่อแม่ทำกรรมไว้กรรมนั้นจะตกทอดมาสู่ลูกหรือไม่.151275/ -
โดยพื้นฐานแล้วผมเข้าใจว่าคุณเกษมมีเจตนาดีที่จะโพสต์ข้อความเตือนผู้อื่นให้ระวังเรื่องภัยพิบัติ ถึงแม้ในเวลาต่อมาได้พิสูจน์ให้เห็นหลายครั้งแล้วว่า เรื่องที่ยกมาเหล่านั้นเมื่อถึงเวลาตามที่ทำนายไว้ก็ไม่ปรากฏเรื่องราวตามคำทำนายแต่อย่างใด รวมถึงบางกรณียังน่าเคลือบแคลงสงสัยว่ามีผู้แสวงหาผลประโยชน์ในทางที่ไม่ถูกไม่ควรแอบแฝงอยู่หรือไม่อีกด้วย
สำหรับข้อความเกี่ยวกับพระพุทธศาสนาที่คุณเกษมยกมา ถึงแม้จะมีเจตนาบริสุทธิ์เช่นกัน แต่บางครั้งพอได้อ่านผมก็สงสัยว่า ข้อความเหล่านั้นถูกตรงตามหลักธรรมคำสอนในพระพุทธศาสนามากน้อยเพียงใด โดยเฉพาะครั้งหลังนี้เมื่อได้อ่านข้อความที่คุณเกษมยกมาเกี่ยวกับกฎแห่งกรรมด้านบนแล้ว ทำให้ต้องไปอ้างถึงข้อความของท่านที่อธิบายเรื่องนี้ไว้ดีแล้วมา เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้อ่านเข้าใจคลาดเคลื่อนไปได้
ถ้าจะมองว่าพระโสดาบันมีความมั่นคงในพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ จะเป็นไปได้หรือไม่ที่พระโสดาบันจะยกคำสอนที่คลาดเคลื่อนไปจากพระธรรมวินัย โดยเฉพาะเรื่องพื้นฐาน เช่น เรื่องกฎแห่งกรรมนี้มาได้ ในความเห็นของผม ถ้าใครคิดว่าตนเองเป็นพระโสดาบันแล้วยังทำอย่างนี้อยู่ น่าจะลองพิจารณาคุณธรรมของตนเองให้ดี ๆ อีกสักครั้งนะครับ -
ดิฉันต้องขออภัย...หากเข้าใจผิดว่าคุณเกษมเป็นศิษย์หลวงพ่อฯ...แล้วทำให้ท่านเคือง...ด้วยเหตุที่เขาชอบเอา...คำสอนของหลวงพ่อมาโพสต์จับแพะชนแกะไง...ดิฉันศรัทธาหลวงพ่อไม่คลอนแคลนถึงแม้จะไม่ได้เป็นศิษย์สายตรง...แต่นับถือและศึกษาคำสอนของท่านแทบจะทุกสื่อ..ไม่ว่าจะเป็นหนังสือ...คลิปเทศนา..หรือในเว็ปไซต์..และนำมาปฏิบัติ.ถึงแม้จะไม่ได้กราบตัวเป็นๆของท่านก็ศึกษาธรรมมะที่ท่านสอนเสมอ...;41 -
สำหรับข้อความว่า "ทายาทแห่งกรรม" นั้น อธิบายอย่างนี้ครับ (ยกมาเฉพาะข้อความที่เี่กี่ยวข้องนะครับ)
กฎแห่งกรรม โดย พระเทพวิสุทธิกวี (พิจิตร ฐิตวณฺโณ)
(๒) กมฺมทายาท เป็นผู้รับผลของกรรม
กฎข้อที่ ๒ กมฺมทายาทา เราเป็นผู้รับผลของกรรม อย่างพ่อแม่ทิ้งทรัพย์สมบัติไว้ ลูกหลานก็ได้ผลของทรัพย์สมบัตินั้น เป็นทายาทรับมรดก เรานี้หว่านกรรมชนิดใดเอาไว้เราก็ต้องเป็นทายาทเก็บเกี่ยวกรรมนั้น เราเป็นทายาท จะให้คนอื่นเป็นทายาทไม่ได้ เราต้องเป็นทายาท คือ ผู้รับผลของกรรมนั้น
ไม่ว่าจะหว่านพืชคือกรรมชนิดไหนเราจะต้องได้รับกรรมชนิดนั้น เราต้องเป็นทายาทของกรรม กฎข้อที่ ๒ นี้เห็นชัดๆ เลยว่า เราทำกรรมไม่ว่าชนิดใดต้องได้รับกรรมชนิดนั้น เราเป็นทายาท
การให้ผลของกรรม - พระเทพวิสุทธิกวี - ลานธรรมเสวนา -
2 มี.ค. 56 กรรมพันธุ์
ครอบครัวใดเกิดมาดีทั้งพ่อแม่และบุตรถือว่าได้สร้างกรรมดีกันมา ครอบครัวใดพ่อแม่ดีลูกออกมาไม่ดี(ไม่สมประกอบ)ถือว่าได้สร้างกรรมดีและไม่ดีร่วมกันมา บางครอบครัวเกิดมาพิการทั้งครอบครัวก็มีถือว่าได้สร้างกรรมที่คล้ายกันมาแล้วมารวมกัน
จึงไม่มีการยืนยันว่าใครถูกใครผิดที่แน่ๆในครอบครัวนั้นอย่างน้อยก็ทุกข์ทางใจที่เกิดมาเป็นครอบครัวเดียวกัน นี่แหละกรรม
พรหมรินทร์ ราชา๙๗ -
ปัญหา คนบางคนถืออุเบกขา ไม่ยุ่งกับคนอื่น ไม่สรรเสริญผู้ควรสรรเสริญโดยกาลอันควร ไม่ติเตียนผู้ควรติเตียนโดยกาลอันควร เฉยๆ เสียสบายดีเหมือนกัน พระพุทธองค์ทรงเห็นอย่างไรในคนประเภทนี้?
พุทธดำรัสตอบ “....ดูก่อนโปตลิยะ บุคคล ๔ จำพวกนี้ มีปรากฏอยู่ในโลก คือ
- ผู้กล่าวติเตียนผู้ควรติเตียนโดยกาลอันควร ตามความเป็นจริง (แต่) ไม่กล่าวสรรเสริญผู้ควรสรรเสริญตามความเป็นจริงโดยกาลอันควร ๑
-ผู้กล่าวสรรเสริญผู้ควรสรรเสริญตามความเป็นจริงโดยกาลอันควร (แต่) ไม่
ติเตียนตามความเป็นจริง โดยกาลอันควร ๑
-ผู้ไม่กล่าวติเตียนผู้ควรติเตียนตามความเป็นจริง โดยกาลอันควร ทั้งไม่กล่าว สรรเสริญผู้ควรสรรเสริญตามความเป็นจริงโดยกาลอันควร ๑
-ผู้กล่าวติเตียนผู้ควรติเตียนตามความเป็นจริง โดยกาลอันควร ทั้งกล่าวสรรเสริญผู้ควรสรรเสริญตามความเป็นจริงโดยกาลอันควร ๑
“ดูก่อนโปตลิยะ บรรดาบุคคล ๔ จำพวกนี้ บุคคลผู้กล่าวติเตียนผู้ควรติเตียนตามความเป็นจริง โดยกาลอันควร และกล่าวสรรเสริญผู้ควรสรรเสริญตามความเป็นจริงโดยกาลอันควร นี้ เป็นผู้งามกว่า และประณีตกว่าบุคคล ๔ ประเภทนี้ ข้อนั้นเพราะเหตุไร เพราะมีความงาม คือความเป็นผู้รู้จักกาลในอันควรสรรเสริญและติเตียนนั้น ๆ....”
โปตลิยสูตร จ. อํ. (๑๐๐)
ตบ. ๒๑ : ๑๓๑-๑๓๔ ตท. ๒๑ : ๑๗๗-๑๗๙
ตอ. G.S. II : ๑๐๘-๑๐๙ -
พระโสดาบันไม่ถือมงคลตื่นข่าวครับ การถือลักษณะท้องฟ้าว่าจะเกิดเรื่องดีร้ายนี่จะถือว่าเป็นการถือมงคลตื่นข่าวหรือไม่ก็น่าคิดเหมือนกันนะครับ โดยเฉพาะเมื่อลักษณะท้องฟ้าดังกล่าวที่ว่าเตือนอะไรได้นั้น เมื่อถึงเวลาตามที่ทำนายไว้ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นตามคำทำนายเลย
การยกข้อความเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้มาโพสต์อยู่เป็นประจำ ผู้โพสต์ก็น่าจะพิจารณาอยู่เหมือนกันนะครับ ว่าตนเองใช่พระโสดาบันหรือไม่ครับ -
อยากรู้ว่าตนเองเป็นโสดาบันหรือไม่ ฟังดูนะครับ ไม่ต้องไปให้ใครวัดระดับหรือพยากรณ์ให้เพราะการบรรลุธรรมเป็นปัจจัตตัง
[ame=http://www.youtube.com/watch?v=JizoBFu7r74&playnext=1&list=PL7B06B53988DAA083&feature=results_main]คุณสมบัติพระโสดาบัน พระอาจารย์คึกฤทธิ์ โสตถิผโล 1 - YouTube[/ame] -
ผมก็แปลกใจนะ พวกที่ชอบเหน็บแนมคนอื่น วันๆทำประโยชน์อะไรบ้าง ผมเห็นพี่เกษมอุตสาห์หาข้อมูล ข่าว ความรู้ต่างๆมาให้อ่าน ก็ยังมาว่าโน่นเหน็บนี่ ไม่มีใครมาบังคับให้เชื่อ ครับ และผมเชื่อว่าคนที่อ่านคิดเองได้ที่จะเชื่อหรือไม่เชื่อ มาเหน็บแนมคนทำดีให้รกกระทู้น่ารำคาญมากครับ
-
คนที่ทำดีมีประโยชน์ก็น่าอนุโมทนากับเขาครับ แต่ถ้ามีใครยกข้อความที่คลาดเคลื่อนต่อพระธรรมวินัยมาอ้าง ในฐานะพุทธบริษัทเราก็ควรแก้ไขให้ตรง จะได้ไม่ทำให้ผู้อื่นเข้าใจผิดพลาดตามไปได้ครับ
-
-
ชักไปไกลแล้ว
ถึงกับกล่าวอ้างคำพูดผู้อื่นว่า ตนสำเร็จขั้นโน้นขั้นนี้
ทั้งๆที่ ท่านเกษมเองก็อ้าง ตนเองเป็นลุกศิษย์พระธัมชโย
มีการกล่าวอ้างเรื่องนี้
แต่ไม่เคยกล่าวว่าตนเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อฤาษี
และน่าจะเคยทราบว่าหลวงพ่อพูดถึงพระธัมชโยเยี่ยงไร
ก็ยังไปนับถือพระธัมชโยเป็นอาจารย์
ก็ไม่น่าจะเอาวัดท่าซุง มโนยิทธิมาอ้าง ในเรื่องที่สมประโยชน์ตน
แต่กรณีนี้ เมื่ออ้างว่า ตนอาจบรรลุโสดาบัน
กลับการอ้างไปถึงวัดท่าซุง และการฝึกมโนยิทธิด้วย
จะเป็นการระคายเคืองต่อพระเดชพระคุณหลวงพ่อได้
ปกติ ผู้ที่สำเร็จย่อมรู้แก่ใจตน ว่าจิตตนนั้นเป็นเยี่ยงไร
มิต้องให้ผู้อื่นมาพยากรณ์ตนว่า ตนสำเร็จแล้วหรือไม่
อีกประการหนึ่งโสดาบันนั้น
ต้องละสังโยชน์3
ข้อหนึ่งในนั้น คือทรงศีล 5 บริสุทธ์
รักในศีลยิ่งนัก มิว่าอย่างไรจะไม่เจตนาละเมิดศีลอย่างเด็ดขาด
ตรงนี้อาจจะกำหนดได้ยากว่า ทรงศีล5 ระดับไหน
แต่เคยมีผู้เปรียบเทียบทำนองนี้ว่า
ถ้ามีผู้เอาปืนมาจี้หัว บอกให้ดื่มเหล้าแก้วนี้
โสดาบันจะพูดตอบทันทีว่า
ยิงเลย.... -
ปล. ขอปรามาสอีกที แรงๆ และดัง ๆ ให้ได้ยินไปถึงพวกผู้วิเศษที่ปั่นหัวคุณอยู่ -
อีกประการเรารู้สึกได้ว่า
ท่านเกษมมีความเป็นธรรมกาย
มากกว่าที่จะคิดว่าตนเป็นลูกหลานหลวงพ่อ
เพราะความเห็นใดๆ ของหลวงพ่อ
ถ้าไม่ขัดหรือเป็นการเสริมวัดธรรมกายหรือพระธัมชโย
ท่านเกษมอาจเชื่อหรือนำมาอ้างได้
แต่ถ้าขัดหรือแย้งกับพระธัมชโย ท่านเกษมก็ปฏิเสธ
เราจำได้ ท่านเกษมเคยนำเรื่องพระธัมชโยทำนายคติของสตีฟจอบส์ ในปัจุบัน
และน่าจะตอนนั้นด้วยกระมัง
ที่ท่านเกษมกล่าวถึงการทำนาย คติของฮิตเลอร์ในขณะนั้น โดยพระธัมชโย
เราแย้งว่า ในส่วนฮิตเลอร์ แน่ใจหรือว่าถูก
เพราะในสายอภิญญาอีกสายหนึ่ง รู้เห็นอีกอย่าง
ท่านเกษมคงรู้ว่าเราหมายถึงอะไร และอย่างไร
แต่ท่านเกษมโพสตอบว่า ท่านรู้ว่าเราหมายถึงอะไร
และท่านเกษมโพสตอบว่า
คนที่บอกแบบนั้นน่ะ เขาน่าจะรู้เห็นผิด หรือไม่จริง
ทั้งๆที่ท่านเกษมรู้ดีว่า ความรู้เห็นอันนั้น เป็นขององค์พระเดชพระคุณหลวงพ่อ -
ถ้าดิฉันเป็นคุณเกษมตอนนี้...
จะโพสต์ข้อความต่อไป...
ไม่มีอารมณ์ใดๆ...มากระทบ...
ความคิดของใคร...อารมณ์ใครเป็นยังงัยก็เป็นยังงั้น...
สรรพสิ่งก็เป็นของมันอย่างนั้นแล......
บททดสอบยิ่งสูงยิ่งเยอะและยิ่งยาก..... -
ปล.ผู้ดูแลห้องภัยพิบัติและการเตรียมการ จะปลดกระทู้นี้ออกจากกระทู้แนะนำก็ได้นะครับ จะได้ไม่เป็นที่ครหานินทาของใครๆอีกต่อไป -
ทำเป็นเนียน..รับมุกได้จังหวะ ได้ช่องออกตัวเลยนะครับ ว่าเขาเสนอแนวคิดเห็นท่าจังหวะเหมาะมา รีบเออออรับเลยเชียวนะครับ ขอให้ตอบคำถามที่ถามไปหน่อยเถิดครับ ผมว่าไม่เสียหายอะไร..จะได้กระจ่างว่าพระท่านองค์ใหนพยากรณ์ท่านว่าเข้าระดับโสดาบัน
ท่านอย่าตระหนี่ถี่เหนียวครูบาอาจารย์ เผื่อท่านอื่นจะได้ถูกพยากรณ์เป็นอริยะมั่งครับ พระของท่านเกษมเป็นของแท้ ย่อมไม่น่ากลัวการเผาลนพิสูจน์ทราบ
ถูๆไถๆแถข้างๆคูๆโพสก์เดินหน้าต่อ แต่ไม่ตอบให้เป็นปัญญาเขาเข้าใจ เมื่อไหร่จะจบ..ท่านเกษมคิดว่าตัวเป็นระดับอริยบุคคลแล้ว ประตูนรกย่อมปิดแล้ว..อย่าได้กลัวความจริงครับ..ออกมาตอบข้อสงสัย ที่พวกปัญญาไม่แข็งแรงสอบถาม..อานิสงค์ย่อมสูงส่งตามระดับอริยะบุคคลครับ -
ซึ่งเหตุการณ์ทั้งหมดนี้ เกิดขึ้นเมื่อประมาณ 30 ปีที่แล้ว ในตอนที่ผมยังเป็นนักศึกษา ได้มีโอกาสไปฝึกกรรมฐานที่วัดท่าซุงนะครับ ที่ผมนำเรื่องนี้มาบอกเล่าผมไม่ได้ต้องการมาอวดตัวเองนะครับ แต่เพราะคุณ kb 2500 ตั้งธงเอาไว้ในใจว่าผมเป็นพวกหลอกลวง งมงาย เสียสติ ฯลฯ และ้เข้ามาปรามาสผมครั้งแล้วครั้งเล่า ผมจึงจำเป็นต้องบอกให้ทราบว่า ผมก็เป็นนักปฏิบัติธรรมที่ปรารถนาพระนิพพานคนหนึ่ง ปรารถนาจะเป็นพระอรหันต์องค์หนึ่งในศาสนาของพระสมณโคดม ไม่ชาตินี้ก็ชาติหน้า การที่ผมจะเป็นพระโสดาบันจริงหรือไม่ ไม่ใช่เรื่องสำคัญ เพราะผมปรารถนาจะไปให้ถึงพระนิพพานให้ได้ในชาตินี้ครับ
หน้า 1520 ของ 1646