ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    จากที่ได้เดินทางไปกราบครูบาอาจารย์ ที่ท่านทรงอภิญญา ท่านเมตตาทั้งสอนวิชาและเตือนเรื่องภัยพิบัติเอาไว้ดังนี้

    -ท่านอยากให้เร่งปฏิบัติธรรม ยกระดับจิตกัน อย่าได้ประมาท รวมทั้งท่านเตือนว่า อาจมีบางท่านหย่อนไป หลุดไป ไม่ผ่านพ้นเกณฑ์รอด เราจะทำใจได้ไหม คนรู้จัก คนใกล้ตัว คนในครอบครัว หากต้องจาก ต้องพรากกัน ทำใจได้ไหม

    -ท่านที่มีวาระั มีวาสนาบารมี ก็จะเร่งรัดการปฏิบัติ จนรอดทั้งตนเอง และ ช่วยคนอื่นให้รอดได้ด้วย

    - พระอภิญญา ท่านเริ่มออกจากป่า และมาปรากฏ ในรูปในเพศฆราวาสที่เราอาจนึกไม่ถึง ดังนั้นขอจงอย่าได้ดูถูก หรือปรามาสคน ไม่ว่าเป็นใคร จากจริยาเขาก็ดี จากรูปลักษณ์ก็ดี ความรวยจน ความสะอาด สกปรกก็ดี

    ซึ่งเรื่องนี้ผมเองเคยพบด้วยตนเอง เป็นคนจรจัดข้างถนน รูปลักษณ์ไม่อาบน้ำมานาน แต่จิตนิ่งทรงฌาน ไม่แสดงอาการของคนสติไม่ดีเลย

    ขอให้ปีใหม่นี้เป็นปีที่ทุกๆท่าน เปลี่ยนปรับตนเอง ให้เป็นคนใหม่ ลด ละ เลิก บาป อกุศล ความประมาท เพลิดเพลินทั้งปวง

    เร่ง ความเพียร มุ่งจิตพัฒนาจิตใจเราให้ก้าวหน้าในบุญ ในธรรมให้ยิ่งขึ้นไปครับ
     
  2. เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192

    มหาสังฆทานวันที่ 29 พ.ย.52 ที่ผ่านมา
    รวบรวมปัจจัยจากกองทุนพลังจิตพิชิตภัยพิบัติ
    พี่เกษมและพี่ๆ น้องๆ ที่มาร่วมบุญ และฝากมาร่วมบุญ
    ได้มหาสังฆทานชุดใหญ่....1 ชุด
    ชุด 1,000 บาท............1 ชุด
    ชุด 500 บาท..............2 ชุด
    และถวายเป็นปัจจัยอีก 140 บาท
    รวมยอดถวายมหาสังฆทานทั้งสิ้น 4,140 บาท<!-- google_ad_section_end -->

    เนื่องในวาระดิถีปีใหม่นี้ ขอเชิญพี่น้องทุกท่านร่วมถวายมหาสังฆทาน ณ.บ้านสายลม วันอาทิตย์ ที่ ๓ มกราคม ๒๕๕๓ เวลา ๙.๓๐ น.ค่ะ<!-- google_ad_section_end -->

    <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->ดอกขจร<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2776190", true); </SCRIPT> สมาชิกเว็บพลังจิต 26-12-2009, 12:27 AM
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • page1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      102.3 KB
      เปิดดู:
      2,234
    • Y6293559-3.JPG
      ขนาดไฟล์:
      51.2 KB
      เปิดดู:
      75
  3. เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    รัสเซียวางแผนเบี่ยงทางโคจรดาวหางพุ่งเฉียดโลก



    บีบีซี นิวส์ ออนไลน์ 1 ม.ค. - นายอนาโตลี เปอร์มินอฟ ผู้อำนวยการสำนักงานอวกาศแห่งชาติของรัสเซีย เปิดเผยว่า รัสเซียมีแผนจะเบี่ยงเส้นทางโคจรของดาวหาง ซึ่งจะเข้าใกล้โลกหลายครั้งตั้งแต่ปี 2572

    นายเปอร์มินอฟ กล่าวกับสถานีวิทยุเสียงรัสเซียว่า สภาวิทยาศาสตร์ของสำนักงานอวกาศแห่งชาติรัสเซียจะประชุมกันเพื่อหารือในประเด็นนี้ และว่าในที่สุดแล้วแผนการเบี่ยงเส้นทางโคจรของดาวหาง จะเป็นความร่วมมือระหว่างประเทศ นายเปอร์มินอฟไม่ได้ให้รายละเอียดมากนักเกี่ยวกับแผนของรัสเซีย แต่สำนักข่าวอินเทอร์แฟกซ์ รายงานว่า รัสเซียจะไม่ใช้อาวุธนิวเคลียร์เพื่อเบี่ยงเบนเส้นทางโคจร

    นายเปอร์มินอฟ กล่าวว่า เราควรใช้เงินหลายร้อยล้านดอลลาร์สหรัฐ และสร้างระบบที่จะทำให้โลกสามารถป้องกันการพุ่งชนของดาวหาง ดีกว่าที่จะรอคอยให้การชนเกิดขึ้นและมีคนตายนับแสนนับล้านคน

    ทางด้านองค์การการบินและอวกาศแห่งชาติของสหรัฐ (นาซา) กล่าวไว้เมื่อเดือนตุลาคมว่ามีโอกาส 1 ใน 250,000 ที่ดาวหางชื่ออโพฟิสจะพุ่งชนโลกในปี 2579 ก่อนหน้านี้มีการคำนวณว่าโอกาสพุ่งชนมีถึง 1 ใน 45,000 โดยในปี 2572 ดาวหางจะเข้าใกล้โลกห่างเพียง 30,000 กิโลเมตร.-สำนักข่าวไทย

    2010-01-01 10:16:47

    ฟิลิปปินส์ลดระดับเตือนภัยภูเขาไฟมายอน



    มะนิลา 2 ม.ค. - นักภูเขาไฟวิทยาฟิลิปปินส์ประกาศลดระดับการเตือนภัยโดยรอบภูเขาไฟมายอน ซึ่งถือเป็นสัญญาณว่าอันตรายจากการปะทุมีแนวโน้มลดลงแล้วจากเมื่อ 3 สัปดาห์ก่อน ที่เริ่มพ่นเถ้าถ่านและลาวาออกมา

    สถาบันด้านภูเขาไฟและแผ่นดินไหวของฟิลิปปินส์ แถลงว่า การลดระดับเตือนภัยเท่ากับว่าประชาชนหลายหมื่นคนที่อพยพออกมาจากเขตอันตรายโดยรอบภูเขาไฟในระยะ 8 กิโลเมตรสามารถกลับเข้าบ้านเรือนได้แล้ว แต่เตือนว่าแนวโน้มภูเขาไฟคุกรุ่นยังคงมีอยู่ จึงขอให้ประชาชนอยู่ห่างจากเขตอันตรายในระยะ 6 กิโลเมตรโดยรอบภูเขาไฟ ก่อนหน้านี้ประชาชนราว 50,000 คน ที่อาศัยอยู่ใกล้ภูเขาไฟต้องอพยพออกมา ภายหลังประกาศเตือนภัยปรับขึ้นเป็นระดับ 4 จาก 5 ระดับเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม ซึ่งหมายความว่าจะมีการระเบิดครั้งใหญ่ .-สำนักข่าวไทย

    2010-01-02 10:25:32

    น้ำในแม่น้ำแดงลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบกว่าร้อยปี



    ฮานอย 31 ธ.ค.-น้ำในแม่น้ำแดงที่ไหลผ่านกรุงฮานอย นครหลวงของเวียดนาม มีระดับน้ำลดลงสู่ระดับต่ำที่สุดในรอบกว่าศตวรรษ ซึ่งอาจมีสาเหตุมาจากภาวะโลกร้อน

    เจ้าหน้าที่เวียดนาม กล่าวว่าเมื่อเช้าวันอังคารที่ผ่านมา ระดับน้ำของแม่น้ำสายนี้วัดได้เพียง 2.2 ฟุต ซึ่งต่ำที่สุดในรอบกว่าร้อยปี ระดับน้ำที่แห้งขอดในแม่น้ำสายนี้ ทำให้เรือประมงเกยตื้นไม่สามารถออกหาปลาได้

    รองผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์น้ำและอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติ กล่าวว่า แม้ยังไม่มีหลักฐานวิทยาศาสตร์ชัดเจนว่าเกิดจากภาวะสภาพอากาศแปรเปลี่ยน แต่เขาคิดว่าน่าจะมีความเกี่ยวข้องกัน ระดับน้ำที่ต่ำเป็นประวัติการณ์เพราะภาวะฝนแล้ง ผลกระทบจากสภาพอากาศแปรปรวนเอล นินโญ และการก่อสร้างโครงการไฟฟ้าพลังน้ำทางภาคใต้ของจีนและทางเหนือของเวียดนาม ทำให้เชื่อว่า แม่น้ำส่วนใหญ่ทางเหนือของเวียดนามจะแห้งขอดต่อไปถึงเดือนมีนาคมหรือเมษายนปีหน้าเป็นอย่างน้อย. -สำนักข่าวไทย

    2009-12-31 16:46:32

    ฝนตกหนัก-ดินถล่มที่บราซิล เสียชีวิตพุ่งเป็น 44 ราย



    เซาเปาโล 2 ม.ค.-ดินถล่มและน้ำท่วมหลังฝนตกหนักที่บราซิล ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 44 คนในนครรีโอเดจาเนโร ซึ่งเจ้าหน้าที่คาดว่ายอดผู้เสียชีวิตอาจเพิ่มขึ้น เนื่องจากจะมีฝนตกหนักลงมาอีก

    เจ้าหน้าที่บราซิลพบศพผู้เคราะห์ร้าย 22 คน เมื่อวันศุกร์ ภายหลังโรงแรมขนาดเล็กและบ้านเรือนโดยรอบพังถล่มลงมาที่ชายหาดอังกรา โดส เรส หนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของบราซิล สถานีโทรทัศน์แพร่ภาพโรงแรมและบ้านเรือนอยู่ใต้ซากกองโคลนจากภูเขา หน่วยกู้ภัยพร้อมด้วยเฮลิคอปเตอร์และกองเรือประสบความยากลำบากในการเข้าไปช่วยเหลือในพื้นที่เกิดเหตุซึ่งเต็มไปด้วยกองดินและน้ำท่วม

    ขณะที่พยากรณ์อากาศในบราซิลคาดว่า ในอีกไม่กี่วันนี้จะมีฝนตกหนักลงมาอีก ซึ่งจะทำให้การกู้ภัยลำบากมากขึ้นและจะทำให้เกิดดินถล่มตามมาอีก.-สำนักข่าวไทย

    2010-01-02 08:49:34

    หิมะถล่มเทือกเขาที่โปแลนด์นักปีนเขาตาย 2 เจ็บ 3



    โปแลนด์ 31 ธ.ค.-เกิดเหตุหิมะถล่มในบริเวณเทือกเขาทา-ทร่าของโปแลนด์ สังเวยชีวิตนักปีนเขาไป 2 คนและบาดเจ็บอีก 3 คน

    แยน คริสตอฟ หัวหน้าหน่วยพยาบาลอาสาสมัครของเทือกเขาทา-ทร่า เปิดเผยว่า นักปีนเขาทั้ง 5 คนประสบเหตุหิมะถล่มในขณะกำลังเดินทางอยู่ที่เชิงเขาไรซี่ ซึ่งมีความสูงประมาณ 2,500 เมตร ส่งผลให้นักปีนเขาเสียชีวิต 2 คนและอีก 3 คนบาดเจ็บ โดยหนึ่งในนั้นมีอาการสาหัส อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่กู้ภัยเกรงว่า อาจยังมีผู้เคราะห์ร้ายติดอยู่ใต้กองหิมะอีก จึงออกค้นหาต่อรวมถึงนำสุนัขมาช่วยดมกลิ่นค้นหาด้วย.-สำนักข่าวไทย

    2009-12-31 11:04:51

    คาร์บอมบ์ถล่มสนามวอลเลย์บอลปากีสถาน ตายเพิ่มเป็น 88 คน



    เปชวาร์ 2 ม.ค.-เกิดเหตุคนร้ายขับรถยนต์พุ่งเข้ามาระเบิดตัวเองกลางสนามแข่งขันวอลเลย์บอลกลางแจ้งทางตะวันตกเฉียงเหนือของปากีสถานเมื่อวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 88 คน และบาดเจ็บ 37 คน นับเป็นเหตุนองเลือดรุนแรงที่สุดในรอบกว่า 2 เดือน

    ครั้งนี้มือระเบิดพุ่งเป้าหมายมาที่ฝูงชนจำนวนมาก นับเป็นเหตุระเบิดนองเลือดล่าสุดรับปีใหม่ 2553 ในปากีสถาน ซึ่งมีเหตุโจมตีรุนแรงจากกลุ่มตอลีบานมากขึ้นในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ขณะที่กลุ่มติดอาวุธล้างแค้นตอบโต้ที่กองทัพปากีสถานปฏิบัติการไล่ล่าฐานที่มั่นของกลุ่มหัวรุนแรงทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ

    ด้านทางการอังกฤษออกแถลงการณ์ประณามเหตุโจมตีครั้งนี้ และประกาศจะร่วมมือกับปากีสถานจัดการกับกลุ่มหัวรุนแรง หลังจากที่คนร้ายจุดระเบิดรุนแรงท่ามกลางแฟนกีฬาที่มาชมการแข่งขันวอลเลย์บอลในหมู่บ้านชาห์ ฮาซัน ข่าน ที่เขตบันนู ซึ่งอยู่ใกล้กับที่มั่นของกลุ่มตอลีบานในจังหวัดเซาท์วาซิริสถาน ทำให้มีผู้เสียชีวิต 88 คน และบาดเจ็บ 37 คน ในจำนวนนี้มีเด็กและทหารด้วย ส่วนบ้านเรือนกว่า 20 หลังที่ตั้งอยู่สองฟากของสนามแข่งวอลเลย์บอลกลางแจ้งพังถล่มลงมา โดยมีคนในครอบครัวหลายคนติดอยู่ข้างใน นับเป็นเหตุนองเลือดมากที่สุดหลังจากที่เคยมีเหตุระเบิดรถยนต์กลางตลาดในเมืองเปชวาร์เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม ทำให้มีผู้เสียชีวิต 125 คน .-สำนักข่าวไทย

    2010-01-02 08:16:46

    เหตุยิงคนในศูนย์การค้าฟินแลนด์ มีผู้เสียชีวิต 4 คน



    เฮลซิงกิ 31 ธ.ค. – ตำรวจฟินแลนด์รายงานว่า มีผู้เสียชีวิต 4 คน ในเหตุมือปืนบุกเดี่ยวกราดยิงในศูนย์การค้าแห่งหนึ่งในเมืองเอสปู เมืองใหญ่อันดับ 2 ของฟินแลนด์ นับเป็นเหตุกราดยิงครั้งใหญ่ครั้งที่ 3 ในรอบ 2 ปี

    ผู้เสียชีวิตทั้ง 4 คน เป็นชาย 3 คน และหญิง 1 คน ตำรวจระบุว่า ผู้ก่อเหตุเป็นชาย อายุ 43 ปี สวมชุดดำและเคยมีประวัติการก่ออาชญากรรม เหตุเกิดขึ้นเมื่อตอนสายวันนี้ตามเวลาท้องถิ่น โดยชายดังกล่าวได้กราดยิงโดยไม่เลือกหน้าบนชั้น 2 ของศูนย์การค้า อย่างไรก็ตาม ยังไม่แน่ชัดว่า มือปืนถูกจับกุมแล้วหรือไม่ ขณะที่ข่าวบางกระแสระบุว่า เขายังคงหลบหนี ศูนย์การค้าเซลโล มีร้านค้าย่อยมากกว่า 170 ร้าน และเปิดให้บริการเมื่อปี 2548

    ฟินแลนด์มีประชากร 5.3 ล้านคน และมีอาวุธปืนอยู่ในมือของเอกชนถึง 1.6 ล้านกระบอก นอกจากนี้ ยังเป็น 1 ใน 5 ประเทศ ที่มีพลเรือนเป็นเจ้าของอาวุธปืนมากที่สุดในโลก.- สำนักข่าวไทย

    2009-12-31 18:03:24

    เกิดอุบัติเหตุรถไฟด่วนชนกันสองรายในอินเดีย



    ลัคเนา 2 ม.ค. -เจ้าหน้าที่การรถไฟอินเดีย กล่าวว่า เกิดเหตุรถไฟด่วนชนกันถึง 2 ราย 4 ขบวนที่รัฐอุตตรประเทศทางภาคเหนือของอินเดียวันนี้ มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 4 คน ซึ่งอุบัติเหตุทั้งสองราย คาดว่ามาจากหมอกลงจัด

    อุบัติเหตุรายแรกเกิดขึ้นจากการที่รถไฟด่วนชนท้ายรถไฟอีกขบวนห่างไปทางตะวันตกเฉียงใต้ของเมืองลัคเนา มีผู้โดยสารบาดเจ็บอย่างน้อย 10 คน จากนั้นอีก 45 นาทีถัดมา รถไฟด่วนที่ให้บริการระหว่างเมืองชนกันอีก 2 ขบวนห่างไปทางตะวันตกเฉียงใต้ของเมืองลัคเนาราว 80 กิโลเมตร มีผู้เสียชีวิต 4 คน เจ้าหน้าที่อินเดีย กล่าวว่า ทัศนวิสัยในพื้นที่เกิดเหตุทั้งสองแห่ง ลดลงที่ราว 30 เมตร เนื่องจากหมอกทึบซึ่งทำให้เกิดอุบัติเหตุดังกล่าว.- สำนักข่าวไทย

    2010-01-02 13:20:56

    อินเดียและปากีสถานแลกเปลี่ยนรายชื่อสถานที่ตั้งโรงงานนิวเคลียร์



    อิสลามบัด 1 ม.ค. - ปากีสถานและอินเดียแลกเปลี่ยนรายชื่อสถานที่ตั้งโรงงานนิวเคลียร์ประจำปี โดยมีจุดประสงค์เพื่อปกป้องโรงงานนิวเคลียร์หากเกิดสงคราม ทั้งสองประเทศได้ทำข้อตกลงนี้มาตั้งแต่ปี 2531 ในข้อตกลงสั่งห้ามการโจมตีโรงงานนิวเคลียร์ของกันและกันและมีโทรศัพท์สายด่วนที่สามารถติดต่อถึงกันได้ทันทีเพื่อป้องกันความขัดแย้งทางนิวเคลียร์ที่เกิดมาจากอุบัติเหตุ

    ความสัมพันธ์ระหว่างอินเดียกับปากีสถาน ซึ่งเป็นชาติมหาอำนาจนิวเคลียร์ในเอเชียใต้ เสื่อมโทรมลงมากหลังจากเกิดเหตุโจมตีหลายครั้งที่นครมุมไบ เมืองหลวงทางการเงินของอินเดียเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2551 รัฐบาลอินเดียเชื่อว่าเป็นฝีมือของกลุ่มก่อการร้ายลัชการ์อีไทบาในปากีสถาน ซึ่งก่อนหน้านั้นในปี 2545 ทั้งสองประเทศเกือบทำสงครามกัน หลังจากเกิดเหตุโจมตีรัฐสภาของอินเดีย ทางการนิวเดลีอ้างว่าเป็นฝีมือของกลุ่มลัชการ์อีไทบาเช่นกัน แต่หลังจากที่ทั้งสองประเทศตรึงกำลังทหารนับแสนนายเผชิญหน้ากันบริเวณชายแดน เหตุการณ์ค่อยคลี่คลายลงหลังจากนานาชาติเข้ามาไกล่เกลี่ย.-สำนักข่าวไทย

    2010-01-01 16:54:43

    นำเวเนซุเอลา ไม่กลัวถูกรัฐประหารตามทำนายของนิวส์วีค



    เวเนซุเอลา 1 ม.ค. - ประธานาธิบดีฮิวโก ชาเวซ ของเวเนซุเอลา ประกาศการรัฐประหาร หากจะมีขึ้นในปีนี้ตามคำทำนายของนิตยสารนิวส์วีคของสหรัฐจริง ก็จะล้มเหลวอย่างไม่ต้องสงสัย

    ประธานาธิบดีชาเวซ กล่าวเป็นเชิงเยาะเย้ยฝ่ายที่เป็นปฏิปักษ์กับตนว่า หากต้องการทำรัฐประหารโค่นล้มตนจากตำแหน่งจริงๆ แล้ว ก็จะต้องไปหากองกำลังจากภายนอกประเทศมาก่อการ เพราะกองทัพเวเนซุเอลาจะไม่มีวันให้ความร่วมมืออย่างแน่นอน พร้อมกับย้ำว่า โอกาสในการทำรัฐประหารโค่นล้มตนเหมือนเช่นเมื่อปี 2545 หากมีขึ้นอีกก็จะล้มเหลวลงอีกอย่างแน่นอน

    ทั้งนี้นิตยสารนิวส์วีคของสหรัฐว่า ปีนี้นายชาเวซจะตกจากเก้าอี้ประธานาธิบดีด้วยการรัฐประหาร และนายฟีเดล คาสโตร ผู้นำคิวบา สหายที่สนิทที่สุดของนายชาเวซ จะอสัญกรรม ซึ่งนายชาเวซ กล่าวว่า นิวส์วีคได้ทำนายเช่นนี้มาแล้วหลายครั้งและไม่เคยเป็นความจริงสักครั้ง. -สำนักข่าวไทย

    2010-01-01 09:28:34

    ชาวจีนกว่า 6 แสนคนเยือนไต้หวันเมื่อปีที่แล้ว



    ปักกิ่ง 2 ม.ค. - นักท่องเที่ยวชาวจีนกว่า 6 แสนคนเยือนไต้หวันเมื่อปีที่แล้ว ท่ามกลางความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นระหว่างสองฝ่าย

    หนังสือพิมพ์ไชน่า เดลี ของทางการจีน รายงานว่า นักท่องเที่ยวจีนจำนวน 606,100 คนใช้จ่ายเงินกันคนละเกือบ 1,800 ดอลลาร์สหรัฐ (เกือบ 60,000 บาท) ระหว่างพักอยู่ที่เกาะไต้หวัน ผู้บริหารสำนักงานด้านการท่องเที่ยว กล่าวว่า ตลอดหลายปีแห่งการแบ่งแยกกัน ทำให้ไต้หวันเป็นที่สนใจของนักท่องเที่ยวชาวจีน นับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2551 ทั้งจีนและไต้หวันเริ่มให้บริการเที่ยวบินระหว่างกันตามปกติ ซึ่งมีนักท่องเที่ยวชาวจีนราว 660,000 คนมาเยือนไต้หวัน และใช้จ่ายเงินคิดเป็นมูลค่า 1,130 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (37,290 ล้านบาท) . - สำนักข่าวไทย

    2010-01-02 12:54:28

    ประชากรญี่ปุ่นในปี 2552 ลดต่ำสุดนับแต่สงครามโลกครั้งที่ 2



    โตเกียว 1 ม.ค. - กระทรวงสวัสดิการสังคมญี่ปุ่น ระบุว่า ประชากรญี่ปุ่นในปี 2552 ลดลงราว 75,000 คน เป็นการลดลงมากที่สุดนับแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 ท่ามกลางปัญหารายจ่ายด้านสวัสดิการผู้สูงอายุที่พุ่งสูงขึ้น

    กระทรวงสวัสดิการสังคมประเมินว่าในปี 2552 มีพลเมืองญี่ปุ่นเกิดในประเทศ 1,069,000 คน ขณะที่ยอดคนตายอยู่ที่ 1,144,000 คน ส่งผลให้ญี่ปุ่นมีประชากรลดลงต่อเนื่องกันเป็นปีที่ 3 โดยที่คนวัยชรามีอายุยืนขึ้น ขณะที่คนหนุ่มสาวจำนวนมากยังไม่ยอมมีครอบครัวเพราะมีภาระจากวิถีการดำเนินชีวิต และหน้าที่การงาน

    แนวโน้มนี้ก่อให้เกิดวิกฤติด้านภูมิศาสตร์ประชากร ซึ่งประชากรสูงอายุเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และเพิ่มแรงกดดันด้านการเงินในระบบสวัสดิการสังคมที่ตกเป็นภาระของประชากรวัยทำงานที่มีจำนวนน้อยกว่า. -สำนักข่าวไทย

    2010-01-01 14:48:01

    ที่มา http://news.mcot.net
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  4. เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>เปิด 10 สถานการณ์คุกคามสุขภาพคนไทย “หวัด 09-เอดส์-โรคเรื้อรัง”</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>1 มกราคม 2553 19:25 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>


    สสส.เปิด 10 สถานการณ์คุกคามสุขภาพคนไทย ทั้งหวัดใหญ่ 2009 เอดส์ โรคเรื้อรัง อุบัติเหตุ เหล้า บุหรี่ นับวันยิ่งรุนแรง เหยื่อส่วนใหญ่เป็นเด็กและเยาวชน ต้องจ่ายค่ารักษาสุขภาพ 134,587 ล้านบาท ชี้มาตรการที่ผ่านมายังอ่อน แนะเน้นสร้างความเข้มแข็งในครอบครัว-ชุมชน ลดพฤติกรรมเสี่ยง สร้างระบบบริการเข้มแข็ง

    นพ.พินิจ ฟ้าอำนวยผล ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ กล่าวว่า ปัญหาสำคัญของคนไทยที่พบมากที่สุดคือปัญหาด้านสุขภาพ จากการประเมินสถานการณ์ด้านสุขภาพคนไทยปี 2552 โดยการสนับสนุนจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) พบว่า มาตรการและการควบคุมโรคต่างๆ ที่ผ่านมา อาจยังไม่ได้ผลเท่าที่ควร เพราะยังมีปัญหาสุขภาพกว่า 10 สถานการณ์ของโรคที่ต้องแก้ไขอย่างเร่งด่วน ได้แก่

    1.ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ที่มีผู้ป่วยและเสียชีวิตกระจายอยู่ทั่วทุกพื้นที่ จากรายงานผู้เสียชีวิตถึงวันที่ 19 ธ.ค.มีจำนวน 191 ราย

    2.โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ พบว่าคนส่วนใหญ่ไม่ป้องกัน จากผลสำรวจใช้ถุงยางอนามัยเพียงร้อยละ 10 เท่านั้น

    3.โรคเรื้อรัง อาทิ เบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ และหลอดเลือด รวมถึงโรคมะเร็งป่วย ซึ่งมีผู้ป่วยที่ต้องนอนรักษาในโรงพยาบาลรวมกว่า 1.4 ล้านคน

    4.อุบัติเหตุ ซึ่งในรอบปี 2552 เกิดอุบัติเหตุ 23,000 ครั้ง เสียชีวิต 3,000 ราย สร้างความสูญเสียกว่า 600 ล้านบาท ส่วนใหญ่เกิดขึ้นจากความประมาทในการขับขี่

    5. ปัญหาสุขภาพจิต ในปี 2552 พบว่าคนไทยอายุ 15 ปีขึ้นไป มีคะแนนสุขภาพจิตที่ต่ำกว่าคนทั่วไปร้อยละ 14.7

    6.พฤติกรรมสูบบุหรี่ แอลกอฮอล์ ยาเสพติด ที่เพิ่มขึ้นตั้งแต่ปี 2546 เป็นต้นมา โดยพบว่าปี 2549 มีผู้สูบบุหรี่ 35,000 ล้านมวนต่อปี รวมไปถึงการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นเกือบ 2 เท่า คือเพิ่มจาก 1,500 ล้านลิตร ในปี 2539 เป็น 2,500 ล้านลิตร ในปี 2549 และปัญหายาเสพติดก็เริ่มกลับเข้ามามีบทบาทมากขึ้น

    7.สิ่งแวดล้อม อาทิ การติดเชื้อต่างๆ จากสารเคมี ยากำจัดศัตรูพืช โดยพบมากกว่า 81 ราย ต่อประชากรแสนคน

    8.ปัญหาความรุนแรง เริ่มก่อตัวขึ้นในกลุ่มเด็กและเยาวชนอย่างเท่าตัว ในปี 2550 มีเด็กและเยาวชนถูกจับกุมด้วยคดีทำร้ายร่างกายกว่า 7,700 คดี เพิ่มจาก 4,800 คดีในปี 2546

    9.วิกฤตเศรษฐกิจและความมั่นคงทางอาหาร เห็นได้จากการถูกเลิกจ้างทำให้จำนวนคนว่างงานเพิ่มมากขึ้น จำนวน 460,000 คนในปี 2551 หรือเพิ่มขึ้น ร้อยละ 3.4 และในปี 2552 พบจำนวนคนว่างงานเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.7 เทียบกับปี 2551 และ

    10.ค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพ ซึ่งคนไทยมีค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพรวมแล้วกว่า 134,587 ล้านบาท

    นพ.พินิจ แนะนำวิธีจัดการกับปัญหาเพื่อให้วิกฤติสุขภาพของคนไทยดีขึ้นควรเน้นหนัก 3 เรื่องใหญ่ๆ คือ

    1.เน้นสร้างความเข้าใจในเด็กและเยาวชนเป็นหลัก เพราะเป็นกลุ่มเสี่ยงของปัญหาสุขภาพที่หลากหลาย อาทิ ปัญหาเพศสัมพันธ์ โรคเอดส์ การตั้งครรภ์ ยาเสพติด ความรุนแรง ปัญหาสุขภาพจิต การฆ่าตัวตาย

    2.สร้างความเข้มแข็งของชุมชนในการจัดการปัญหาสิ่งแวดล้อมโดยลดการใช้สารเคมี เน้นการพึ่งพาตนเอง เสริมสร้างความสมานฉันท์ในสังคม จัดระบบการดูแลผู้ที่มีปัญหาสุขภาพในชุมชน ได้แก่ ผู้พิการ ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ผู้ที่มีปัญหาสุขภาพจิต และ

    3.สร้างความเข้มแข็งของระบบบริการสุขภาพแบบผสมผสาน เน้นการส่งเสริมสุขภาพ ป้องกันโรค เฝ้าระวังการระบาดของโรคอุบัติใหม่ คัดกรองความเสี่ยงโรคเรื้อรัง รวมทั้งปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของประชาชนในพื้นที่ ควบคู่ไปกับการรักษาโรคเรื้อรังที่ต่อเนื่อง เพื่อลดโอกาสเกิดความพิการและเสียชีวิต โดยการสนับสนุนจากโรงพยาบาล ในรูปแบบของเครือข่ายบริการสุขภาพระดับอำเภอ

    ที่มา http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9520000161170
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  5. HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,877
    โศกนาฏกรรมตายหมู่จากภัยพิบัติ ล้างเผ่าพันธุ์มนุษย์ในรอบปี 52








    โศกนาฏกรรมตายหมู่จากภัยพิบัติ "อุบัติเหตุ แผ่นดินไหว-พายุ-เครื่องบินตก" ล้างเผ่าพันธุ์มนุษย์ในรอบปี 52 (มติชนออนไลน์)

    อุบัติภัย






    1 ม.ค. เวลา 00.30 น. "ย่างสด 66 รายตายคาผับซานติก้า "

    ภายหลังจากเสียงพลุส่งท้ายปี 2551 ถูกจุดขึ้นเฉลิมฉลองรับปีใหม่ยังไม่ทันสิ้นสุด เสียงร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวดและขอความช่วยเหลือของมนุษย์กลุ่มหนึ่ง ที่ดิ้นรนเอาชีวิตรอดจากเปลวเพลิงและกลุ่มควันที่พวยพุงกระจายเต็มพื้นที่ ผับชื่อดัง "ซานติก้า" อยู่ระหว่างซอยเอกมัย 9 และ11 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ

    เจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยรถดับเพลิงนับ 10 คันพุ่งออกจากจุดเคาท์ดาวน์ตรงไปยังจุดเกิดเหตุใน"ซานติก้า" ซึ่งมีนักท่องราตรีติดค้างอยู่ภายในอาคาร 2 ชั้น กำลังหนีตายกันอลหม่าน ล้มลุกคลุกคลาน เบียดเสียดกันกรูไปที่ประตูทางออก บางคนที่พอมีสติก็ทุบกระจกกระโดดหน้าต่างหนีออกมาได้ แต่มีคนกว่าครึ่งร้อยที่ติดอยู่ภายในและถูกไฟคลอกตายและได้รับบาดเจ็บกว่า 200 คน หลังจากเพลิงลุกไหม้อย่างรวดเร็ว

    ผ่านไป 1 ชั่วโมง เพลิงได้สงบลงเหลือไว้เพียงศพที่ไหม้เกรียมแทบจำไม่ได้นอนกองทับกันอยู่ บริเวณทางลงห้องน้ำชั้นใต้ดินทางที่จะขึ้นไปทางประตูด้านหน้า และยังมีศพกระจายกันอยู่ทั่วบริเวณภายในผับ เหตุการณ์ครั้งนี้เจ้าหน้าที่สรุปว่าเกิดจากประกายไฟของพลุเอฟเฟ็คต์ที่นำ มาจุดหน้าเวทีการแสดงคอนเสิร์ตจนไฟลุกไห้ผับแห่งนี้ทำให้มีผู้เสียชีวิต ทั้งหมด 66 ราย

    4 ธ.ค. 23.50 น. "พลุต้นเหตุชนวนบึ้มไนท์คลับรัสเซีย ดับสยอง 102 ศพ"

    เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยส่งท้ายปี เหตุระเบิดที่ไนท์คลับ "แลม ฮอร์ส" (Lame Horse) ในเมืองเพิร์ม ห่างจากกรุงมอสโคว ประเทศรัสเซีย มีผู้เสียชีวิต 102 ศพ ส่วนใหญ่สำลักควันไฟ เกิดอาการผวาหนักจนขาดสติและรีบลนลานวิ่งหนีตายกันจ้าละหวั่นบาดเจ็บอีก 60 ราย หลังจากมีการจัดปาร์ตี้ครบรอบ 8 ปีของไนท์คลับ มีการฉลองด้วยการจุดพลุจรวดดอกไม้ไฟจนเป็นเหตุให้เกิดเพลิงไหม้เกิดโศกนาฏ กรรมซ้ำรอย 2 ครั้งในรอบ 1 ปี

    เครื่องบินตก






    1 มิ.ย. "แอร์ฟรานซ์พร้อม 228 ชีวิต หายเหนือทะเลแอตแลนติค"

    เกิดเหตุระทึก เครื่องบินสายการบิน"แอร์ฟรานซ์"ของฝรั่งเศส เครื่องบินโบอิ้ง เอ 330 เที่ยวบินที่ 447 บรรทุกผู้โดยสาร 218 ราย พร้อมลูกเรือ 12 ราย เที่ยวบินจากกรุงริโอ เจอนาไนโร ประเทศบราซิล มุ่งหน้าไปกรุงปารีส ประสบเหตุขาดสัญญาณติดต่อกับหอควบคุม โดยเครื่องบินได้หายจากจอเรดาห์ ณ บริเวณทางตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองนาตัลของบราซิล เหนือทะเลแอตแลนติค

    กว่า 1 สัปดาห์ของปฏิบัติการค้นหาเครื่องบินลำดังกล่าวพร้อมเสียงวิพากษ์วิจารณ์ ถึงการหายไปอย่างลึกลับและเสียงสวดภาวนาให้ทุกคนบนเครื่องรอดชีวิต แต่ในที่สุดทีมค้นหาก็พบศพผู้เสียชีวิตและซากเครื่องบินก็ลอยขึ้นมาให้เห็น เหนือมหาสมุทรแอตแลนติค รวม 17 ศพ และเศษชิ้นส่วนเครื่องบินหลายสิบชิ้นของตกในมหาสมุทรแอตแลนติค หลังจากผ่านไป 2 สัปดาห์เจ้าหน้าที่สามารถกู้ศพขึ้นมาจากทะเลได้ 50 ศพและหมดหวังที่จะหาผู้รอดชีวิตภายใต้มหาสมุทร์ที่กว้างใหญ่เย็นเฉียบ









    15 ก.ค. เวลา 11.33 น. "แอร์อิหร่านตกตายเหมาลำย่างสด 168 ชีวิต"

    โศกนาฎกรรมเครื่องบินสายการบิน "แคสเปี้ยน แอร์ไลน์" บรรทุกผู้โดยสาร 153 คน และลูกเรือ 15 คน รวม 168 ชีวิต ตกกระแทกพื้นหลังเหินได้ไม่ถึง 20 นาที เป็นหลุมลึก10 เมตร ไฟลุกท่วมไม่เหลือซาก

    เครื่องบินสายการบิน "แคสเปี้ยน แอร์ไลน์" บรรทุกผู้โดยสาร 153 คน และลูกเรือ 15 คน รวม 168 ชีวิต จากเมืองหลวงเตหะราน ไปยังเมืองเยเรวาน เมืองหลวงของประเทศอาร์เมเนีย ประสบเหตุตกใกล้เมืองคาซวิน ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ ไม่มีผู้ใดรอดชีวิต หลังเครื่องบินทะยานออกจากสนามบิน "อิม่าม โคไมนี" ในกรุงเตหะรานได้เพียง 19 นาที ตกกระแทกพื้นซากเครื่องบินกระจัดกระจายเป็นวงกว้างถึง 200 ตารางเมตร และทำให้เกิดหลุมลึกถึง 10 เมตร






    14 ก.ย. เวลา 03.40 น. "บินรัสเซียโหม่งโลก ตายหมู่เหมาลำ 88 ชีวิต"

    เกิดเหตุสลดขึ้นอีกครั้งเมื่อเครื่องบินโดยสารรัสเซีย รุ่นโบอิ้ง 737 เที่ยวบินเดินทางจากกรุงมอสโก ไปยังเมืองเพิร์ม ประสบอุบัติเหตุเครื่องตกเมื่อเวลา 03.40 น. ตามเวลาท้องถิ่น ก่อนที่เครื่องบินจะลงจอดในเมืองเพิร์ม ทำให้ผู้โดยสารบนเครื่องบินเสียชีวิตทั้งหมด โดยแบ่งเป็นผู้โดยสารทั้งหมด 82 คน ในนั้นรวมเด็ก 7 ราย ขณะที่มีลูกเรือ 6 คน

    ภัยธรรมชาติ






    26 ก.ย. พายุ "กิสนา" ถล่มฟิลิปปินส์-เวียดนาม-ลาว กวาดเรียบกว่า 500 ศพ

    เกิดอุทกภัยครั้งใหญ่ในฟิลิปปินส์ จากพายุโซนร้อน "กิสนา" พัดกระหน่ำเกาะลูซอน ทำให้เกิดฝนตกรุนแรงสุดในรอบกว่า 40 ปี ที่กรุงมนิลาและในพื้นที่ใกล้เคียงอื่น ๆ บนเกาะลูซอนมีผู้เสียชีวิตกว่า 293 คน ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เกิดจากการจมน้ำ แต่บางคนก็ถูกไฟดูดหรือเสียชีวิตเพราะแผ่นดินถล่ม ส่งผลกระทบต่อประชากร 1.87 ล้านคนในฟิลิปปินส์ มีคนเกือบ 3 แสน 8 หมื่นคนต้องเข้าไปหาที่พักพิงตามค่ายอพยพชั่วคราวที่ทางการจัดไว้ให้ โดยกระจายกันอยู่จากศูนย์ 607 แห่ง

    ชาวฟิลิปปินส์เผชิญสถานการณ์ที่ยากลำบากขาดน้ำสะอาดและอาหารประทังชีวิต จากนั้นพายุนากิสได้พัดถล่มเวียดนามต่อ มีผู้เสียชีวิตจากไต้ฝุ่นกิสนาอีก 162 คน ก่อนที่จะพัดเข้าประเทศกัมพูชามีผู้เสียชีวิต 17 คน

    30 ก.ย. "ธรณีไหวในอินโดนีเซียดูดหาย 1.3 พันคน"

    ขณะที่วาตภัยและธรณีวิบัติภัยยังคงก่อความเสียหายให้กับหลายประเทศ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างหนัก โดยเฉพาะแผ่นดินไหว ในอินโดนีเซีย ที่เมืองปาดัง บนเกาะสุมาตรา 7.6 ริคเตอร์ ฝังกลบชาวบ้านรอบเชิงเขาของปาดังกว่า 4 หมู่บ้าน ที่ถูกแผ่นดินไหวถล่มจนราบเรียบไม่มีอะไรหลงเหลืออยู่เลย

    ที่หมู่บ้านปาเลา ไอยา ชาวบ้านราว 400 คน กำลังชุมนุมกันอยู่ที่มัสยิดเพื่อประกอบพิธีแต่งงาน จู่ ๆ มัสยิดทั้งหลังก็ถูกดูดหายลงไปใต้ดินลึกถึง 30 เมตร เพราะแม้แต่ยอดโดมมัสยิดที่สูงจากพื้นดินกว่า 20 เมตรก็ถูกกลบหายไปจนหมด

    ที่หมู่บ้านลูบุ๊ก หมู่บ้านลาวี และหมู่บ้านจูเมนา ตกอยู่ในสภาพที่ต้องช่วยเหลือตัวเอง เพราะไม่มีความช่วยเหลือใด ๆ เข้าถึงจนถึงขณะนี้ ชาวบ้านช่วยกันขุดศพขึ้นมาได้ 26 ศพ มีผู้ถูกกลบฝังอยู่ใต้ดินอีกราว 618 คน รวมกับยอดผู้เสียชีวิตทั้งหมดเพิ่มจาก 715 คน รวมแล้วมากกว่า 1,300 คนรวมยอดคนหายสาบสูญไป 3,000 คน มีผู้บาดเจ็บต้องรักษาตัวในโรงพยาบาล 2,400 คน และนับแสนคนไม่มีที่อยู่อาศัย บ้านเรือน โรงเรียน มัสยิด โรงพยาบาลและที่ทำการของรัฐบาลมากกว่า 30,000 หลังถูกทำลายเสียหายทั้งหมดคิดเป็น 17 เปอร์เซ็นต์ของสิ่งปลูกสร้างในท้องถิ่นทั้งหมด

    11 ส.ค. โคลนถล่มหลังพายุมรกตกระหน่ำ "ไต้หวัน" ฝังกลบ 700 คน

    พายุมรกตเคลื่อนตัวเข้าถล่มไต้หวัน จนเกิดโคลนถล่มที่หมู่บ้านเสี่ยวหลิน ทางตอนใต้ของเกาะไต้หวันมีผู้สูญหายราว 700 คนถูกฝังกลบ พบผู้รอดชีวิต 200 คน จากหมู่บ้านเสี่ยวหลิน นับเป็นเหตุการณ์น้ำท่วมที่เลวร้ายที่สุด ในรอบ 50 ปี ทหารได้ส่งเฮลิคอปเตอร์ช่วยอพยพผู้คน ออกจากพื้นที่ที่ถูกตัดขาด จากนั้นพายุไต้ฝุ่นมรกตได้พัดถล่มจีน เป็นเหตุให้ต้องอพยพผู้คนราว 1.4 ล้านคน และพายุได้อ่อนกำลังลงในที่สุด

    3 ต.ค. พายุ "ป้าหม่า" ถล่มฟิลิปปินส์คร่าอีก 712 ศพ

    ผ่านไป 1 สัปดาห์หลังจากที่พายุนากิสพัดถล่มฟิลิปินส์ พายุลูกที่ 2 ก็เคลื่อนตัวเข้ากระหน่ำซ้ำอีก โดยพายุป้าหม่าเริ่มพัดถล่มเกาะลูซอนอิทธิพลของพายุไต้ฝุ่นลูกนี้ทำให้เกิด แผ่นดินถล่มหลาย 10 ครั้ง และน้ำท่วมในหลายพื้นที่ซึ่งถูกฝนกระหน่ำคร่าชีวิตประชาชน 712 คน

    22 ธ.ค. ยุโรปหนาวตาย 69 ราย ส่วนใหญ่ "คนไร้บ้าน"

    ขณะที่พายุหิมะได้พัดถล่มหลายพื้นที่ในยุโรปทำให้อุณหภูมิติดลบ 22 องศาเซลเซียส โฆษกตำรวจโปแลนด์ระบุว่า มีผู้เสียชีวิต 6 ราย เมื่อวันศุกร์ ขณะที่วันเสาร์มีผู้เสียชีวิต 15 ราย และอีก 21 รายเสียชีวิตในวันอาทิตย์ ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตจากอากาศหนาวนับแต่ต้นเดือนธันวาคมเพิ่มเป็น 69 ราย ส่วนใหญ่เป็นคนไร้บ้าน เสียชีวิตท่ามกลางหิมะตกหนักและอุณหภูมิต่ำกว่าลบ 22 องศาเซลเซียส ส่วนพื้นที่ภาคใต้ของเยอรมนี อุณหภูมิลดลงต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ถึงลบ 33 องศาเซลเซียส

    ที่กรุงมอสโก ทางการต้องกระจายกำลังเจ้าหน้าที่กว่า 9,000 นาย เพื่อเก็บกวาดหิมะออกจากพื้นถนน ขณะที่การเดินทางทั้งทางรถยนต์ รถไฟ และเครื่องบินได้รับผลกระทบอย่างหนัก รวมถึงเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์จำนวนมากในโครเอเชีย ออสเตรีย และเยอรมนี ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตหลายราย อย่างไรก็ดี คาดว่าอีก 1-2 วัน อุณหภูมิทั่วยุโรปจะเริ่มสูงขึ้น

    "ชาวมะกัน" เจอหิมะตกหนัก สื่อตั้งฉายา "พายุหยุดนักช้อป"

    ที่ฝั่งตะวันออกของสหรัฐฯ ย่านบัลติมอร์-วอชิงตันจะมีหิมะตกหนาถึง 22 นิ้วในคืนวันเสาร์ (20 ธ.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น ขณะนี้หิมะตกในอัตราชั่วโมงละ 2 นิ้ว ทำให้ท่าอากาศยานแห่งชาติเรแกนในกรุงวอชิงตันต้องปิดทำการไปจนถึงเช้าวันอาทิตย์ตามเวลาท้องถิ่น พายุหิมะพัดผ่านรัฐที่อยู่ทางตอนกลางของมหาสมุทรแอตแลนติกโดยกระจายไปถึง เมืองทางเหนืออย่างฟิลาเดลเฟียและนครนิวยอร์กมีความหนา 10-15 นิ้ว




    ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก

    www.matichon.co.th

     
  6. เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    รวมคำทำนายเหตุการณ์ในเดือน มกราคม 2553

    ภาพประกอบจากทางอินเตอร์เน็ต ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับข้อความที่โพสต์

    อ.ปริญญา ตันสกุล

    ช่วง 11 ธ.ค. 2552 ถึง 18 ม.ค.2553 จะเป็นยกที่ 2 ยกนี้ต้องจบเพราะจักรวาลจะไม่ยอมให้ทำลายประเทศไปมากกว่านี้ เพราะปี 2011 จะต้องเจอภัยที่หนักยิ่งขึ้น เลข 11 จักรวาลถือว่าอันตรายสุดๆ<!-- google_ad_section_end --> ​


    อ.อาชวิน จีรจินดา (ตาที่สาม)

    ถ้าฝันไม่ผิด คนกรุงเทพฯ ไม่ได้พบเคอร์ฟิวมาหลายปีแล้ว เคอร์ฟิวคือการห้ามออกนอกบ้าน ระหว่าง 18.00-6.00 น เราเคยเจอครั้งสุดท้ายเมื่อหลายสิบปีมาแล้ว คนรุ่นหลังคงจะไม่ได้เจอ เลยไม่รู้จัก ประมาณ กลางๆ ระหว่าง วันที่ 17 หรือ 18 มกราคม เราอาจจะเจอเคอร์ฟิว เราจะต้องกลับบ้านเลิกงานเร็วขึ้น เพื่อให้เข้าบ้านให้ทันหกโมงเย็น ผลที่จะเกิด​

    1. ผู้คนจะแห่เข้าซุปเปอร์ ซื้ออาหารแห้งตุนไว้ เพราะตลาดธรรมดาจะมีปัญหา เปิดขายไม่ได้ รถขนของวิ่งไม่ได้ ปากคลองตลาด ต้นทางส่งผักจะหยุด ของจะเกลี้ยงซุปเปอร์โดยเร็ว โดยเฉพาะพวก มาม่า น้ำปลา อาหารกระป๋อง ฯลฯ​

    2. อีก 10 เดือน ต่อ มาสูตินารี แพทย์จะต้องทำงานหนัก เพราะเด็กจะเกิดมามากผิดปกติ​

    เขตที่น่าจะหลีกเลี่ยง ช่วง 23-24-25-26 ม.ค. สมุทรปราการ ป้อมพระจุล คลองเตย ช่องนนทรี สีลม บางรัก ผมฝันทั้งนั้น เลยเอาความฝันมาเล่าให้ฟัง อย่าซีเรียสครับ ฝันอย่าเป็นจริงเลย เดี๋ยว..ยุ่งตายห่า<!-- google_ad_section_end --> ​

    ที่มา http://palungjit.org/threads/ความมืดในเดือน-มกราคม-2550-เดือนของฝันร้ายที่เป็นจริง.65426/

    นายกิจจา ทวีกุลกิจ(หมอนิด)

    "...ในเร็วๆ นี้อยากจะให้ระวัง.. “สีเขียวเสียดสี”...กันอย่างรุนแรงจะเกิดขึ้นอย่างไม่คาดคิด และผลจากการเสียดสีกันในครั้งนี้จะเกิด “ประกายไฟ” ขึ้นอย่างน่ากลัว...บ้านเมืองคงต้องบอบช้ำที่เกิดจากการ “เสียดสี” กันของ “สีเขียว”...เศรษฐกิจช้ำหนักขึ้น...ตลาดหุ้นสะเทือนอย่างรุนแรง... “คนเป็นใหญ่” จะเสียชีวิต... “ตะขาบเหล็ก” จะวิ่งพล่านทั่วเมือง...

    เสียงปืนดังไปทั่ว...เสียงระเบิดเกิดขึ้นเป็นแห่งๆ กองกำลังไม่ปรากฏสัญชาติจะร่วมกับแดงไม่ธรรมดา...ผู้คนจะล้มตาย...บุคคลระดับ VIP จะบินออกนอกประเทศ...ความชุลมุนวุ่นวายจะเกิดไปทั่ว...มองหาคน “รูปหล่อ” ไม่เห็น ไม่รู้ใครเป็นใคร...หากมัวแต่ทะเล่อทะล่าก็จบสิ้นทั้งอินทรีย์...ตาอินกะตานา...มัวแต่ทะเลาะกัน...ตาอยู่มาเดี๋ยวเดียวคว้าพุงปลาไปกิน..."

    ที่มา http://www.ryt9.com/s/bmnd/660711

    อุปราคา 'ลางอันตราย'

    อุปราคาครั้งที่ 2 วันที่ 15 ม.ค. 2553 เวลา 14.12 น. เกิด “สุริยุปราคาแบบวงแหวน” คำทำนายโดยสรุปคือ... ต้องระวังด้านการต่างประเทศ ในบางกรณีเกิดความผันแปรครั้งสำคัญทางการเมือง ดินฟ้าอากาศแปรปรวน พืชผล-เศรษฐกิจการค้าเสียหาย อุปราคาครั้งนี้เกิดในราศีมังกร ธาตุดิน ระวังการพังทลายของดิน อาคารบ้านช่อง อาณาเขตมีปัญหา การช่วงชิงผลประโยชน์เยี่ยงโจรเกิดขึ้นมากมายตามโจโรฤกษ์ที่แนวอุปราคาปรากฏ ​

    รัฐบาลคะแนนนิยมตกต่ำเพราะปัญหาเศรษฐกิจ คอร์รัปชั่น สุขภาพประชาชน เกิดปัญหาระหว่างชนชั้นมากขึ้น มีการโจมตีใส่ร้ายบุคคลสำคัญ เกิดการสูญเสีย-การตายเพราะความแตกแยก ต้อง ระวังการสูญเสีย-การลอบสังหารบุคคลสำคัญ การปฏิวัติรัฐประหาร อาจมีให้เห็นอีก​


    "แดง"ประกาศแตกหักกลาง"ม.ค."

    นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) -แดงทั้งแผ่นดิน กล่าวถึงการเตรียมการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงว่า แกนนำคนเสื้อแดงกำหนดที่จะเคลื่อนไหวใหญ่อีกครั้งในช่วงต้นปี 2553 โดยอาจจะเริ่มตั้งแต่กลางเดือนมกราคมเป็นต้นไป ขณะนี้อยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อม เพราะการชุมนุมใหญ่ครั้งต่อไปหวังผลที่จะแตกหัก ที่รัฐบาลประเมินว่าคนเสื้อแดงจะเคลื่อนไหวรับลูกพรรค พท. ช่วงยื่นขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลนั้นเป็นการคาดคะเนที่ผิด เพราะไม่ว่าพรรค พท.จะยื่นอภิปรายหรือไม่ คนเสื้อแดงก็จะออกมาขับไล่รัฐบาลชุดนี้เหมือนเดิม จะไม่มีวันเลื่อนนัดชุมนุมใหญ่อีกแล้ว ​

     
  7. Tossaporn K. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,565
    ค่าพลัง:
    +7,747
    คำทำนายต่างๆ หากไม่ใช่ของพระระดับเกจิอาจารย์ ก็ให้แค่ฟังหูไว้หูก็พอครับ เพราะจะไม่ใกล้เคียงเท่าไหร่นัก แต่ถ้าเป็นคำทำนายจากพระเกจิอาจารย์อันนี้ต้องระวังมากๆครับ
    แต่ยังไงก็ต้องระวังจิ้งจกทักบ้างนะครับ
     
  8. หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,682
    ค่าพลัง:
    +51,931
    *** เมตตาธรรม ****

    เจ้ากรรมนายเวร...เมื่อได้พบ โลกุตตระธรรม
    เจ้ากรรมนายเวร....กลับกลายเป็น ผู้ที่คอยเตือนให้ท่านรักษาสัจจะ ถือสัจจะ ทำทุกวัน
    เพราะ สิ่งพึ่งได้จริง....คือ ผลการกระทำที่ทำได้จริงทั้งการกระทำ ปาก ใจ

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  9. หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,682
    ค่าพลัง:
    +51,931
    *** วินาทีสุดท้าย ****

    สัจจะมาช่วย...แต่ไม่รับสัจจะ
    กรรมจึงตามทัน

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  10. kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    ปีนี้ หากท่านใดอยู่ต่างจังหวัดทำการเกษตรและพอมีที่ มีบริเวณบ้าง ขุดบ่อทำแหล่งน้ำกันเอาไว้บ้างนะครับ

    คลองคู แม่น้ำ แหล่งน้ำ หากพอลงแขก ร่วมใจกันขุดลอกเพิ่มพื้นที่เก็บกักน้ำเอาไว้ได้บ้าง รับน้ำแล้ง รับน้ำหลาก อย่างไรก็เป็นประโยชน์ครับ
     
  11. ศรศิลป์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,232
    ค่าพลัง:
    +3,199
    ดันมามีเหตุการณ์อันธพาลป่วนเมือง ก็อยากให้ประเทศไทยสงบสุขดั่งเดิม คำทำนายหมอนิด มีความแม่นยำกว่าหมอดูคนอื่น เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์
     
  12. เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    โคลอมเบียสั่งอพยพคนหลายพันหนีภูเขาไฟระเบิด



    โบโกตา 3 ม.ค.- ทางการโคลอมเบียสั่งอพยพประชาชน 8,000 คนหลังจากภูเขาไฟกาเลราส ทางตอนใต้ของประเทศปะทุพ่นเถ้าถ่านและหินร้อนออกมา

    ขณะนี้ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตหรือบาดเจ็บจากภูเขาไฟระเบิดแต่เจ้าหน้าที่เตือนว่า ภูเขาไฟยังคงมีอันตรายอยู่ หลังจากปะทุมาแล้ว 10 ครั้งในปีที่ผ่านมา ชาวบ้านที่อาศัยใกล้ภูเขาไฟเคยชินกับคำเตือนภัยจนไม่ยอมอพยพเมื่อมีคำสั่งจากทางการ ภูเขาไฟเกลาราสตั้งอยู่ในเทือกเขาแอนดีส ใกล้ชายแดนโคลอมเบียด้านที่ติดกับเอกวาดอร์ เคยปะทุครั้งใหญ่เมื่อปี 2536 มีผู้เสียชีวิต 10 คน.-สำนักข่าวไทย

    2010-01-03 12:03:39

    เหตุแผ่นดินไหวที่ทาจิกิสถานมีผู้ไร้ที่อยู่ 20,000 คน



    ดูชานเบ 3 ม.ค. - เจ้าหน้าที่ทาจิกิสถาน กล่าวว่า ประชาชนราว 20,000 คนต้องไร้ที่อยู่อาศัยจากเหตุแผ่นดินไหวในพื้นที่แถบภูเขาเมื่อวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น

    เจ้าหน้าที่สำนักงานฉุกเฉินและป้องกันภัยพลเรือน กล่าวว่า ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตจากแผ่นดินไหวขนาด 5.1 ริกเตอร์แถบเทือกเขาปาเมียร์ในวันเสาร์ อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ระบุว่า บ้านเรือนหลายหลังเสียหายและพังทลายลงตามหมู่บ้านหลายแห่งในเขตกอร์โน-บาดัคชานสกี้ ขณะที่เกิดแผ่นดินไหวขึ้นบ่อยครั้งในพื้นที่แถบภูเขาของทาจิกิสถาน .-สำนักข่าวไทย

    2010-01-03 16:31:55

    ออสเตรเลียอพยพคนทางตะวันออกหลังน้ำท่วมหนัก



    ซิดนีย์ 3 ม.ค. - หน่วยบรรเทาทุกข์ออสเตรเลีย อพยพคนหลายร้อยคนออกจากเมืองแห่งหนึ่งในรัฐนิวเซาท์เวลส์ ทางตะวันออกของประเทศ หลังเกิดน้ำท่วมมา 2-3 วัน

    ฝนที่ตกหนักในรัฐนิวเซาท์เวลส์ช่วงวันปีใหม่ ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำเอ่อล้น ที่ดินทำการเกษตรหลายร้อยผืนถูกน้ำท่วมหมด และมี 2 พื้นที่รุนแรงถึงขนาดทางการต้องประกาศเป็นพื้นที่ภัยพิบัติทางธรรมชาติ คาดความเสียหายสูงหลายล้านดอลลาร์ฯ เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถประเมินความเสียหายของพื้นที่ที่ถูกน้ำท่วมได้ ขณะที่เกษตรกรหลายคนดีใจที่มีฝนตก แม้เกิดความเสียหาย เพราะเผชิญภาวะแห้งแล้งมายาวนาน ล่าสุดวันนี้เจ้าหน้าที่บรรเทาทุกข์ตัดสินใจอพยพประชาชนมากกว่า 400 คน ออกจากเมืองคูแนมเบิล

    สำนักงานอุตุนิยมวิทยาออสเตรเลีย เตือนภัยน้ำท่วมในแม่น้ำ 10 สาย ทางตอนเหนือในรัฐนิวเซาท์เวลส์ ขณะนี้แม่น้ำใหญ่หลายสายมีระดับน้ำล้นตลิ่งแล้ว และคาดว่าจะไม่ลดลงในอีกหลายวันหรือหลายสัปดาห์. - สำนักข่าวไทย

    2010-01-03 14:55:40

    หิมะตกหนักที่กรุงปักกิ่งของจีน



    จีน 3 ม.ค. - เกิดหิมะตกหนักที่กรุงปักกิ่งของจีน ทำให้ผู้โดยสารหลายพันคนต้องติดค้าง อยู่ที่สนามบิน และการสัญจรไปมายากลำบาก

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สนามบิน นานาชาติกรุงปักกิ่ง ซึ่งเป็นสนามบิน ที่แออัดที่สุดในประเทศ เที่ยวบินหลายสิบเที่ยว ต้องถูกยกเลิกหรือมีปัญหาล่าช้า ขณะที่เจ้าหน้าที่ต้องปิดทางหลวงหลายสาย ที่ออกจากตัวเมืองหลังมีหิมะตกหนักทำให้ถนนสายต่างๆ ขาวโพลน คาดว่าอุณหภูมิจะลดต่ำถึงลบ 14 องศาเซลเซียส

    ทั้งนี้สภาพอากาศที่เลวร้าย ส่งผลกระทบเป็นบริเวณกว้างทางเหนือและทางตะวันออกเฉียงเหนือของจีน โดยคาดว่า หิมะและสภาพอากาศที่หนาวเย็นจะเกิดขึ้นต่อเนื่องตลอดสัปดาห์แรกของปีใหม่ นอกจากนี้ คาดว่า มณทลเสฉวน ยุนนาน และเทศบาลนครฉงชิ่ง จะต้องเผชิญกับหมอกหนาจัดอีกด้วย. -สำนักข่าวไทย

    2010-01-03 12:33:41

    รถไฟชนกันที่อินเดีย มีผู้เสียชีวิต 10 คน เจ็บอีก 40



    อินเดีย 3 ม.ค. - เกิดเหตุรถไฟชนกันที่อินเดียทำให้มีผู้เสียชีวิต 10 คน และบาดเจ็บราว 40 คน

    อุบัติเหตุรถไฟชนกันเกิดขึ้นเมื่อวานนี้ ที่เมืองกานปุระ ซึ่งเป็นเมืองอุตสาหกรรมทางภาคเหนือของอินเดีย เมื่อขบวนรถด่วนได้พุ่งเข้าชนขบวนรถไฟที่จอดอยู่ในสถานีใกล้เคียง ทำให้ผู้โดยสารจำนวนมาก ต้องติดค้างอยู่ภายในตู้โดยสารและพบว่ามีผู้เสียชีวิต 10 คน นอกจากนี้ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บประมาณ 40 คน ส่วนสาเหตุนั้นคาดว่าเกิดจากหมอกลงจัด ชาวอินเดียนั้นนิยมเดินทางด้วยรถไฟ แต่ก็มักจะเกิดอุบัติเหตุขึ้นบ่อยครั้ง ซึ่งแสดงให้เห็นว่าจะต้องมีการปรับปรุงเรื่องความปลอดภัยเป็นการด่วน. -สำนักข่าวไทย

    2010-01-03 11:12:22

    ยอดผู้เสียชีวิตจากโคลนถล่มบราซิลบราซิลเพิ่มอย่างน้อย 64 คน



    บราซิล 3 ม.ค. - ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์โคลนถล่มในบราซิล เพิ่มเป็นอย่างน้อย 64 คนแล้ว

    เจ้าหน้าที่กู้ภัยบราซิลยังคงเดินหน้าใช้เครื่องมือหนักค้นหาร่างผู้เสียชีวิต จากเหตุการณ์โคลนถล่ม บนเกาะฮิลฮา แกรนด์ ทางภาคตะวันออกเฉียงใต้ของบราซิล ตั้งแต่ช่วงปีใหม่ ล่าสุดพบร่างผู้เสียชีวิตแล้ว 64 คน แต่คาดว่าน่าจะยังมีร่างผู้เสียชีวิตที่จมอยู่ใต้กองโคลน อย่างไรก็ดี ทางการบราซิล ระบุว่า ยังไม่พบว่ามีชาวต่างชาติเสียชีวิตจากเหตุการณ์โคลนถล่มในครั้งนี้ แม้บริเวณที่เกิดเหตุจะเป็นเมืองท่องเที่ยวก็ตาม. -สำนักข่าวไทย

    2010-01-03 10:20:29

    จีนเผยหวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ระบาดถึงชนบทแล้ว



    ปักกิ่ง 3 ม.ค.- กระทรวงสาธารณสุขของจีนแจ้งว่า ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ได้ระบาดไปถึงชนบทอย่างรวดเร็ว และอาจมีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นมากในช่วงตรุษจีนเมื่อผู้คนหลายล้านคนมุ่งหน้ากลับบ้านเกิด

    จีนแจ้งว่า จนถึงขณะนี้มีผู้เสียชีวิตจากไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่แล้ว 648 คน จากจำนวนผู้เสียชีวิตทั่วโลก 12,220 คน และได้เริ่มโครงการฉีดวัคซีนป้องกันขนานใหญ่ เว็บไซต์กระทรวงสาธารณสุขจีนระบุว่า การระบาดตามเมืองใหญ่ เช่น ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ และโรงเรียนต่าง ๆ ลดลงอย่างเห็นได้ชัด แต่ยังคงพบการระบาดตามหมู่บ้านและชุมชน รัฐบาลกังวลอย่างยิ่งว่าจะเกิดการระบาดอย่างรวดเร็วเนื่องจากกำลังจะเข้าสู่ช่วงเวลาหนาวจัดและใกล้จะถึงเทศกาลตรุษจีนในเดือนกุมภาพันธ์ เกรงว่าหลายคนจะนำโรคกลับไปยังบ้านเกิด

    ซึ่งจะทำให้การควบคุมโรคทำได้ลำบากหากระบาดไปถึงพื้นที่ยากจนและด้อยการพัฒนา นอกจากนี้ยังวิตกเรื่องประชาชนจำนวนมากยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกัน กระทรวงสาธารณสุขระบุว่า ทางการกำลังเร่งจัดส่งเวชภัณฑ์ไปยังจังหวัดทางตอนกลางและตะวันตก 17 แห่งเพื่อรับมือกับผู้ป่วยหนัก.-สำนักข่าวไทย

    2010-01-03 12:04:53

    สหรัฐปิดสถานทูตในเยเมนหลังอัลกออิดะห์ขู่โจมตี



    ซานาอา 3 ม.ค. – สหรัฐปิดสถานทูตในเยเมนหลังกลุ่มอัลกออิดะห์ขู่โจมตี พร้อมเตือนให้เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นพักอยู่ที่บ้านจนกว่าจะได้รับการยืนยันความปลอดภัย

    สถานทูตสหรัฐประจำประเทศเยเมนแถลงหยุดทำการวันนี้ หลังกลุ่มอัลกออิดะห์คาบสมุทรอาหรับขู่จะโจมตีทรัพย์สินของสหรัฐในเยเมน อีกด้านหนึ่งเจ้าหน้าที่สหรัฐเปิดเผยว่า สหรัฐกำลังหาช่องทางขยายความร่วมมือด้านกลาโหมและข่าวกรองกับรัฐบาลเยเมนเพื่อเพิ่มการกดดันกลุ่มติดอาวุธอัลกออิดะห์ในคาบสมุทรอาระเบีย

    แหล่งข่าวรายงานว่า ชายชาวไนจีเรียที่ก่อเหตุพยายามระเบิดเครื่องบินสหรัฐพร้อมผู้โดยสาร 300 คนในวันคริสต์มาสที่ผ่านมา อาจได้รับการฝึกฝนจากกลุ่มติดอาวุธในเยเมน ขณะที่กลุ่มอัลกออิดะห์ชี้ว่า ความพยายามระเบิดเครื่องบินดังกล่าวมีขึ้นเพื่อตอบโต้สหรัฐที่เข้ามามีบทบาทในเยเมนรวมทั้งให้การสนับสนุนทางการปราบปรามกลุ่มมุสลิมติดอาวุธ.-สำนักข่าวไทย

    2010-01-03 16:26:11

    อิหร่านยังยื่นคำขาดให้มหาอำนาจยอมรับข้อตกลงโครงการนิวเคลียร์



    อิหร่าน 3 ม.ค.- ทำเนียบขาวสหรัฐ แถลงว่า อิหร่านยังคงยืนยันตามจุดยืนของตัวเอง ด้วยการยื่นคำขาดกับชาติมหาอำนาจโลกให้ยอมรับข้อตกลงของอิหร่านเรื่องโครงการนิวเคลียร์

    นายไมค์ แฮมเมอร์ โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐ กล่าวว่า ไม่สนใจข้อเรียกร้องของอิหร่าน โดยระบุว่า ข้อเสนอของทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ หรือไอเออีเอ ก็เพียงพอสำหรับอิหร่านแล้ว ในขณะที่รัฐบาลอิหร่านยังคงยืนยันตามจุดยืนเดิม ทั้งนี้ไอเออีเอเสนอให้อิหร่านส่งแร่ยูเรเนียมไปเสริมสมรรถนะที่รัสเซียและฝรั่งเศสเพื่อใช้เป็นเชื้อเพลิงในเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ แต่อิหร่านไม่ยอมรับข้อเสนอนี้ตามกำหนดเส้นตายเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม และอาจส่งผลให้สหประชาชาติลงมติคว่ำบาตรอิหร่านในรอบใหม่. -สำนักข่าวไทย

    2010-01-03 14:11:57

    ที่มา http://news.mcot.net
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  13. kittitpx เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    570
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +2,000
    คำทำนายดวงเมือง"สยามประเทศ"อีก๓ปีข้างหน้า ของคุณ บอล (คนเปิดกรรม)

    จากกระทู้การเปิดกรรมกับคุณ"บอล"ปี๕๓ และคำทำนายดวงเมือง"สยามประเทศ"อีก๓ปีข้างหน้า
    คัดลอกความตอนหนึ่ง ดังนี้

    ผมขอทำนายว่าดวงเมื่องปี ๕๓และนับจากนี้ถัดไปอีกประมาณสองปีนั้นผมขอทำนายว่า สิ่งที่ไม่เคยเกิดในเมืองไทยมาก่อน ก็จะเกิดทั้งเชื่อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ต่างๆ การเมืองจะหาทางลงตัวได้ยาก จะเกิดการเปลี่ยนแปลง คนไทยจะเกิดการแบ่งแยกสี คนเป็นกลาง ไม่ขวักไข่วฝ่ายใดจะพลอยลำบายไปด้วย มารกิเลสจะครอบงำประเทศไทย สยามประเทศจะเกิดการล้มตายกันมากมาย จึงจะเลิกล้างกัน มารจะเป็น
    <O:p
    ใหญ่ และจะทำให้ผู้ไม่ขวักไข่วฝ่ายใดจะลำบาก เกิดการคดโกงกินกันเป็นกลุ่มเป็นพวกเป็นพ้องกันมากมาย(คนของใคร คนของมัน ใครดีใครอยู่) จะเกิดเหตุการณ์คดโกงจนประเทศสยามแทบจะไม่เหลือคนดีเลย ถัดมาจากนั้นประมาณ สองปีให้หลังจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง ทุกหัวละแหงในบ้านเราและทุกๆพื้นที่ในโลก ดวงเมืองสยามประเทศแย่มา ประมาณร่วมๆสามปีถัดจากนั้นจะถึงดวงโลกทั้งหมดทั่วทุกหัวละแหง(ดวงเมืองแย่ดวงโลกตก) จะเกิดการชำระล้างอย่างใหญ่หลวง ตามดังทำนายของพระพุทธเจ้า(พระพุทธโคดม)ให้ไปศึกษาพระไตรปิฎกดูก็จะทราบถึงคำทำนายต่างๆของพระพุทธองค์(ธรรมะของพระพุทธองค์ทรงตรัสไว้ดีแล้ว) ถัดจากการชำระล้างในครั้งดังกล่าวทุกๆศาสนาจะรวมกันเป็นหนึ่งเดียวจะไม่มีการขวักไข่วแบ่งแยกกัน มีความรักใคร่
    <O:p
    ปรองดองกัน กลัวต่อการทำบาป จะหันหน้าเข้าปฎิบัติแต่กรรมดี พุทธศาสนา(คำสอนของพระพุทธโคดม)จะอยู่ดำรงต่อไปยังหมดพระพุทธกาล จะเห็นได้ว่าพระพุทธศาสนาจะไม่มีล่มสลาย จะต่อยอดไปตลอดตราบนานเท่านาน เปรียบดังกงล้อพระพุทธศาสนา(กงล้อธรรมจักร)ที่ยังหมุนอยู่ไม่มีวันหยุดลงไปได้ ผู้ที่จะผ่านพ้นต่อเหตุการณ์ชำระล้าง ในยุคนั้น(อีกสามปีข้างหน้า)มนุษย์จะเริ่มมีอายุมากขึ้น ส่วนสูงมากขึ้น เพราะมีธรรมชั้นสูง เปรียบดังมนุษย์ในต้นพระพุทธกาลก็ไม่ปาน

    <O:p</O:pให้ชาวพุทธหมั่นศึกษาตามคำสองของพระพุทธเจ้า ซึ่งพระองค์ทรงตรัสไว้ดีแล้ว ชาวพุทธเรายังพอมีเวลาก่อนการชำระล้างในการปฎิบัติตามหลักคำสอน นับแต่บัดนี้ประมาณสามปี เราเป็นผู้คิดดี ทำดีปฎิบัติดียึดมั่นในความเป็นกลางมีเบี่ยงเบนไปทางไหน(ในทุกๆด้านไม่ว่าการเมืองในบ้านเราก็ตาม) หมั่นเดินสายกลางตามคำสอน ปฎิบัติไม่ตึงเกินไป ไม่หย่อนเกินไป อย่าละในการปฎิบัติ บรรดาญาติธรรมปฎิบัติได้ดังกล่าวจะเป็นผู้รอดพ้นก้าวเข้าสู่ยุคต่อไปในพระพุทธศาสนา เจริญในธรรมกันทุกๆท่านครับ

    <O:p</O:p
    อนุโมทนา <O:p</O:p
    <O:p</O:p<O:p</O:p<O:p</O:p<!-- google_ad_section_end -->
    __________________
    <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->บอล เรืองตะวัน คนเปิดกรรม<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->
     
  14. Lazaza เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    991
    ค่าพลัง:
    +5,549
    ======================================

    3 ม.ค. 53
    เรื่องเก่าที่ไม่เก่า

    9 ธ.ค. 52
    ปลาช่อนยักษ์ 2 ตัว
    ยังมี ซึนามิอีก สองรอบ กำลังเตรียมการเก็บกวาดอยู่

    15 ธ.ค. 52
    รถจี๊ปทหารกับรถพ่วงขนอาวุธ
    ให้ระวังสงครามระหว่างประเทศ

    16 ธ.ค. 52
    กินคำสุดท้าย เงินเดือนๆสุดท้าย ไชโย.....เพลงดีมีสาระ คนเอน

    24 ธ.ค. 52
    น้ำท่วมจากภูเขา
    เกิดที่บลาซีลแล้ว ประเทศไทยก็ต้องระวัง

    30 ธ.ค. 52
    2หัว - 1ร่าง
    ปัญหาของสอสอ กำลังจะเกิด

    องค์อินทร์ - ๙๗
    ทำการแทน

    ======================================
    ภาพฐานผาแบ่นบางส่วนค่ะ








    ---------------------------------------------------------------------
    หลงทางเสียเวลา แต่ไหนแต่ไรมา พระพุทธเจ้าท่านสอนแต่เรื่องทุกข์ และการพ้นทุกข์เท่านั้น<STYLE>body{background-image:url("http://palungjit.org/attachments/a.758354/");}</STYLE>
     
  15. เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    เกิดแผ่นดินไหวนอกชายฝั่งฟิลิปปินส์-หมู่เกาะโซโลมอน


    มะนิลา 4 ม.ค. - สำนักสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐ รายงานว่า เกิดแผ่นดินไหว 5.3 ริกเตอร์ นอกชายฝั่งเกาะมินดาเนา ทางใต้ของฟิลิปปินส์ และเกิดแผ่นดินไหวรุนแรง 2 ระลอก ช่วงไม่ถึง 1 ชม. ใกล้หมู่เกาะโซโลมอน ในมหาสมุทรแปซิฟิกด้านตะวันตก เช้าวันนี้ แต่ไม่มีเตือนภัยสึนามิ

    สำนักสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐ (ยูเอสจีเอส) รายงานว่า แผ่นดินไหวในฟิลิปปินส์เกิดขึ้นเมื่อเวลา 05.38 น. ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งตรงกับเวลา 04.38 น. ในไทย มีศูนย์กลางห่างจากเมืองดาเวา ไปทางตะวันออกเฉียงใต้ราว 102 กม. และอยู่ลึกลงไป 46 กม. ด้านศูนย์เตือนภัยสึนามิในมหาสมุทรแปซิฟิก ซึ่งมีสำนักงานในฮาวาย ไม่ได้ประกาศเตือนภัยการเกิดคลื่นสึนามิ

    ส่วนแผ่นดินไหวใกล้หมู่เกาะโซโลมอน เกิดขึ้นเมื่อเวลา 08.48 น. วันนี้ ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งตรงกับเวลา 04.48 น. ในไทย ยูเอสจีเอส รายงานเบื้องต้นว่า แผ่นดินไหวระลอกแรกมีขนาด 6.5 ริกเตอร์ มีศูนย์กลางห่างจากเมืองกิโซของหมู่เกาะโซโลมอนไปทางตะวันออกเฉียงใต้ค่อนไปทางใต้ราว 143 กม. และอยู่ห่างจากกรุงโฮนีอารา นครหลวงไปทางตะวันตกเฉียงเหนือค่อนไปทางตะวันตกราว 309 กม. อยู่ลึกลงไป 10 กม. หลังจากนั้นไม่ถึงชั่วโมงก็เกิดแผ่นดินไหวขนาด 7.2 ริกเตอร์ ตามมา สำนักงานบริหารมหาสมุทรและชั้นบรรยากาศแห่งชาติสหรัฐ ระบุว่า แผ่นดินไหวไม่ทำให้เกิดคลื่นสึนามิ. - สำนักข่าวไทย

    2010-01-04 07:50:54

    บราซิลอาจสั่งปิดโรงไฟฟ้านิวเคลียร์หลังเกิดน้ำท่วมและโคลนถล่ม


    อังกรา โดส เรส, บราซิล 4 ม.ค. – นายทูกา จอร์ดาโอ นายกเทศมนตรีเมืองอังกรา โดส เรส ของบราซิล เปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า ทางการบราซิลอาจสั่งปิดโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ 2 แห่ง ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับเมืองอังกรา โดส เรส ทางตอนใต้ของประเทศ เพื่อเป็นการป้องกันไว้ก่อน หลังจากเมืองดังกล่าวประสบเหตุน้ำท่วมและโคลนถล่ม ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 68 คนแล้ว

    นายกเทศมนตรีจอร์ดาโอเปิดเผยว่า ยังไม่มีปัญหาด้านการดำเนินงานในโรงไฟฟ้าอังกรา 1 และอังกรา 2 แต่ถ้าหากยังเกิดเหตุโคลนถล่ม ทางการก็จำเป็นต้องสั่งปิดโรงไฟฟ้าดังกล่าว เนื่องจากทางการไม่สามารถอพยพพลเมืองที่มีมากกว่า 35,000 คนได้อย่างทันท่วงทีหากเกิดเหตุร้ายแรงขึ้น เพราะบางส่วนของถนนสายหลักได้รับความเสียหายจากโคลนถล่ม ทั้งนี้ การปิดโรงไฟฟ้าทั้ง 2 แห่ง จะไม่ส่งผลกระทบต่อการจ่ายกระแสไฟฟ้าให้รัฐรีโอเดจาเนโร ซึ่งมีแหล่งพลังงานทางเลือก นายจอร์ดาโอยังเผยอีกว่า ได้เตรียมพร้อมแผนอพยพฉุกเฉินสำหรับพลเมืองท้องถิ่นแล้ว ด้านเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นเปิดเผยว่า บ้านเรือนราว 500 หลังในพื้นที่เสี่ยงภัย ถูกประกาศให้เป็นพื้นที่ห้ามเข้าออกในเมืองดังกล่าวแล้ว

    เหตุโคลนถล่มดังกล่าวเกิดจากฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งคร่าชีวิตผู้คนไปอย่างน้อย 68 คน ทั่วรัฐรีโอเดจาเนโร นับตั้งแต่วันพุธที่ผ่านมา ทำให้มีผู้สูญหายหลายสิบคน และประชาชนมากกว่า 4,000 คน จะต้องอพยพออกจากที่อยู่อาศัย ขณะที่เมื่อวานนี้ ทีมกู้ภัยยังคงออกค้นหาผู้เคราะห์ร้ายจากเหตุโคลนถล่มที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ซึ่งมีแขกราว 40 คนพักอยู่ภายในขณะเกิดเหตุ. -สำนักข่าวไทย

    2010-01-04 12:11:45

    ภาคเหนือของจีนหนาวจัดในรอบหลายปี


    ปักกิ่ง 4 ม.ค. – เจ้าหน้าที่ของทางการจีน ได้สั่งปิดโรงเรียนหลายแห่ง และเสริมรถโดยสาร รวมทั้งสั่งให้ประชาชนหลายพันคนช่วยกวาดน้ำแข็งออกไปจากถนนและทางเดินในวันนี้ โดยกรุงปักกิ่ง ต้องรับมือกับสภาพอากาศอันหนาวเย็นที่สุดในรอบหลายปีที่ผ่านมา

    ภาคเหนือของประเทศจีน เริ่มต้นสัปดาห์แห่งการทำงานแล้ว หลังจากอากาศหนาวเย็นและพายุหิมะได้ปกคลุมทั่วทั้งภาคเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้ทางหลวงหลายสายกลายเป็นอัมพาต และเที่ยวบินจำนวนมากต้องถูกยกเลิก ด้านนายสง เจียนกั๋ว หัวหน้าสำนักงานจัดการการจราจรของกรุงปักกิ่ง คาดการณ์ว่า อุณหภูมิอันหนาวเย็นและถนนซึ่งปกคลุมไปด้วยน้ำแข็ง จะส่งผลกระทบต่อการจราจรอย่างหนักในวันนี้ อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้ยังไม่มีสัญญาณบ่งบอกว่าอากาศหนาวเย็นจะทำให้เกิดเหตุวุ่นวายยาวนานหลายสัปดาห์ หรือทำให้ระบบไฟฟ้าขัดข้อง แต่อากาศอันเลวร้ายจะทำให้ราคาอาหารเพิ่มสูงขึ้น เที่ยวบินล่าช้า และธุรกิจจำนวนมากในกรุงปักกิ่ง และเมืองอื่น ๆ ต้องหยุดชะงักเป็นเวลา 2-3 วัน

    นอกจากนี้ อากาศอันหนาวเย็นยังส่งผลกระทบต่อความต้องการแก๊สอีกด้วย เนื่องจากอากาศอันหนาวเย็นจัดในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ทำให้เกิดการขาดแคลนแก๊สขึ้น สำนักงานอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติจีน ออกคำเตือนในพื้นที่ทางตอนเหนือที่ห่างไกลของประเทศว่า อุณหภูมิอาจลดลงไปถึง -32 องศาเซลเซียส ขณะที่ในกรุงปักกิ่ง อาจอยู่ที่ -10 องศาเซลเซียส ในเวลากลางวัน และมีการคาดการณ์ว่า อากาศจะยังคงหนาวเย็นต่อไปในช่วงต้นสัปดาห์. -สำนักข่าวไทย

    2010-01-04 13:16:41

    พายุหิมะทำให้เครื่องบินในเกาหลีใต้ไม่สามารถให้บริการได้


    โซล 4 ม.ค. – เจ้าหน้าที่ท่าอากาศยานของเกาหลีใต้เปิดเผยว่า หิมะที่ตกลงมาอย่างหนักทำให้เครื่องบินหลายสิบลำที่ท่าอากาศยานสำคัญของเกาหลีใต้ ไม่สามารถให้บริการได้ในวันนี้ และสร้างความเสียหายอย่างรุนแรงในบริเวณตอนกลางของประเทศ รวมทั้งกรุงโซลด้วย

    เจ้าหน้าที่อุตุนิยมวิทยาเปิดเผยว่า ทางการได้ประกาศคำเตือนพายุหิมะในกรุงโซลและพื้นที่โดยรอบแล้ว ซึ่งมีหิมะตกหนากว่า 17 ซม.ในเวลาเพียง 4 ชั่วโมงเท่านั้น ทำให้ท่าอากาศยานกิมโปในกรุงโซลต้องยกเลิกเที่ยวบินขาเข้าและขาออกรวม 90 เที่ยวบิน เนื่องจากมีหิมะตกลงมาอย่างหนัก ขณะเดียวกัน มีรายงานว่า ท่าอากาศยานอินชอนก็ต้องยกเลิกเที่ยวบิน 4 เที่ยวบิน และกว่า 40 เที่ยวบินต้องล่าช้าออกไป

    พายุหิมะดังกล่าว ยังส่งผลกระทบต่อการจราจรบนถนนหลายสายในกรุงโซลและเมืองอื่น ๆ รวมถึงถนนและทางหลวงสายต่าง ๆ ในประเทศอีกด้วย อย่างไรก็ตาม คาดว่า หิมะจะหยุดตกในวันนี้ โดยรัฐบาลของกรุงโซลเปิดเผยว่า ได้ระดมกำลังข้าราชการพลเรือนกว่า 3,500 คน และยานพาหนะ 1,200 คัน เพื่อกวาดหิมะออกจากถนนสายหลักทุกสายแล้ว -สำนักข่าวไทย

    2010-01-04 10:13:27

    เครื่องบินโดยสารเยอรมนีลื่นไถลออกนอกรันเวย์


    เยอรมนี 4 ม.ค. - สายการบินแอร์ เบอร์ลิน ของเยอรมนี ประสบอุบัติเหตุลื่นไถลออกนอกรันเวย์ ที่สนามบินในเมืองทางตะวันตกของประเทศ แต่ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

    เจ้าหน้าที่สนามบินเมืองดอร์ทมุนด์ เปิดเผยว่า เครื่องบินโดยสารโบอิ้ง 737-800 ของสายการบินแอร์ เบอร์ลิน กำลังจะทะยานออกจากสนามบินเมืองดอร์ทมุนด์ เพื่อมุ่งหน้าไปยังเกาะคานารีของสเปน ก่อนที่นักบินจะตัดสินใจยกเลิกนำเครื่องขึ้นท่ามกลางสภาพอากาศแปรปรวน แต่ระหว่างที่เครื่องบินกำลังลดความเร็วได้เกิดลื่นไถลออกนอกรันเวย์

    อย่างไรก็ดี เครื่องบินสามารถหยุดได้ไม่ห่างจากรันเวย์มากนัก โดยไม่ได้รับความเสียหาย ขณะที่ผู้โดยสาร 165 คน และลูกเรือ 6 คน ไม่ได้รับบาดเจ็บ ส่วนสาเหตุที่ทำให้นักบินยกเลิกการนำเครื่องขึ้น เนื่องจากพบความผิดปกติทางเทคนิคของเครื่องบิน. - สำนักข่าวไทย

    2010-01-04 01:23:10

    เกิดการสู้รบนองเลือดในโซมาเลีย


    บีบีซี นิวส์ ออนไลน์ 4 ม.ค. - เจ้าหน้าที่ด้านสิทธิมนุษยชน รายงานว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 47 คน และบาดเจ็บ 100 คน จากการสู้รบที่เมืองดูยูซา มาร์รีบ ทางตอนกลางของโซมาเลีย การสู้รบทำให้ประชาชนอพยพละทิ้งบ้านเรือนออกจากเมือง ซึ่งกลายเป็นสนามรบระหว่างกลุ่มที่สนับสนุนรัฐบาลโซมาเลีย กับกลุ่มกบฏมุสลิม

    รายงานระบุว่า ฝ่ายกบฏมุสลิมอัลชาบับ ได้เข้ายึดเมืองไว้นาน 2-3 ชั่วโมง ก่อนถูกกลุ่มอาห์ลู ซุนนา ที่สนับสนุนรัฐบาลโซมาเลีย ขับไล่ออกไปได้ ผู้สื่อข่าวระบุว่า กลุ่มอาห์ลู ซุนนา ก่อตั้งขึ้นโดยกลุ่มที่ไม่นิยมความรุนแรงเพื่อส่งเสริมอิสลามสายกลาง แต่ได้ตัดสินใจเมื่อปีที่แล้วว่าจะจับอาวุธขึ้นต่อสู้กับฝ่ายกบฏอัลชาบับ ซึ่งเกี่ยวข้องโยงใยกับอัลกออิดะห์

    เจ้าหน้าที่สังเกตการณ์ ยืนยันว่า ผู้บาดเจ็บล้มตายส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่การสู้รบ และมีพลเรือนบางส่วนที่ถูกสังหารด้วย ผู้อพยพที่หนีการสู้รบยังไม่ยอมกลับเข้าเมือง ต้องพักอาศัยอยู่กลางแจ้งท่ามกลางสภาพอากาศที่ร้อนจัด

    รายงานหลายกระแสที่ยังไม่ได้รับคำยืนยัน ระบุว่า กลุ่มกบฏอัลชาบับ ได้กลับมารวมตัวกันอยู่ในพื้นที่นอกเมืองดูยูซา มาร์รีบ.-สำนักข่าวไทย

    2010-01-04 11:15:25

    นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าไขปริศนาสิงโตทะเลที่ซานฟรานซิสโกได้แล้ว


    บีบีซี นิวส์ ออนไลน์ 4 ม.ค.-นักวิทยาศาสตร์ในสหรัฐ เชื่อว่า อาจหาเหตุผลมาอธิบายได้แล้วว่าทำไมสิงโตทะเลจำนวนมากจึงหายไปจากท่าเรือ 39 สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของนครซานฟรานซิสโก

    ผู้เชี่ยวชาญพากันงุนงงกับปรากฏการณ์สิงโตทะเลหายตัวไปอย่างลึกลับในเดือนธันวาคม แต่สิ่งนี้อาจคลายความสงสัยไปได้เพราะมีผู้พบเห็นฝูงสิงโตทะเลอพยพขึ้นไปทางเหนือ นอกชายฝั่งรัฐโอเรกอน นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่า มีความเป็นไปได้ที่สิงโตทะเลอพยพขึ้นไปหาอาหารในช่วงฤดูหนาว แม้เป็นการอพยพจำนวนมากผิดปกติ

    ปรากฏการณ์ฝูงสิงโตทะเลมารวมตัวกันอยู่ที่ท่าเรือ 39 ในอ่าวซานฟรานซิสโก เกิดขึ้นเมื่อ 20 ปีที่แล้วโดยที่ไม่ทราบเหตุผลแน่ชัด จำนวนสิงโตทะเลเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเป็น 1,700 ตัว ทำให้บริเวณนี้กลายเป็นแหล่งดึงดูดนักท่องเที่ยวไม่แพ้สะพานโกลเดน เกต และรถรางซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของเมือง

    ก่อนหน้านี้ มีการคาดการณ์ถึงสาเหตุที่สิงโตทะเลหายไปจากอ่าวซานฟรานซิสโกว่าอาจเป็นเพราะสัญชาตญาณหนีภัยแผ่นดินไหวที่กำลังจะมาถึง แต่จากการพบฝูงสิงโตทะเลที่นอกชายฝั่งรัฐโอเรกอนช่วยไขปริศนาความลึกลับ
    นักวิทยาศาสตร์ระบุว่าเป็นเรื่องปกติที่สัตว์จะอพยพย้ายถิ่นขึ้นไปทางเหนือเพื่อหาอาหาร แต่กรณีของสิงโตทะเลที่อ่าวซานฟรานซิสโกครั้งนี้นับว่าผิดปกติมาก เนื่องจากเป็นการอพยพจำนวนมากอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน.-สำนักข่าวไทย

    2010-01-04 12:02:37

    สหรัฐปิดอาคารผู้โดยสารสนามบินนูอาร์ก


    นิวเจอร์ซีย์ 4 ม.ค.-สถานีโทรทัศน์ซีเอ็นเอ็น รายงานอ้างสำนักงานบริหารความปลอดภัยด้านการขนส่งของสหรัฐ (ทีเอสเอ) ว่า ท่าอากาศยานนานาชาตินูอาร์ก ลิเบอร์ตี้ ในรัฐนิวเจอร์ซีย์ ของสหรัฐ ปิดอาคารผู้โดยสารหลังหนึ่งเมื่อคืนนี้ หลังชายคนหนึ่งเล็ดลอดเข้าไปในพื้นที่ผู้โดยสารที่ผ่านการตรวจความปลอดภัยแล้ว

    โฆษกทีเอสเอ ระบุว่า ตำรวจกำลังค้นหาชายคนหนึ่งที่เดินจากพื้นที่สาธารณะเข้าไปในช่องทางออกของฝั่งผู้โดยสารที่ผ่านการตรวจความปลอดภัยแล้ว ทำให้ต้องปิดอาคารผู้โดยสารซี และไม่อนุญาตให้เที่ยวบินที่อาคารหลังนี้ออกเดินทาง

    ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่ท่าอากาศยาน แต่ยังไม่ชัดเจนว่า ชายคนดังกล่าว ผ่านการตรวจความปลอดภัยแล้วกลับเข้าไปอีก หรือไม่เคยผ่านการตรวจเลย ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องย้ายผู้โดยสารที่ผ่านการตรวจความปลอดภัยแล้วทั้งหมดออกไปตรวจใหม่อีกครั้ง เหตุที่เกิดขึ้นทำให้เที่ยวบินหลายเที่ยวต้องล่าช้า ส่วนใหญ่เป็นเที่ยวบินของสายการบินคอนติเนนตัล แอร์ไลนส์. -สำนักข่าวไทย

    2010-01-04 09:50:41

    ผู้นำปาเลสไตน์ไปอียิปต์หารือฟื้นเจรจาสันติภาพกับอิสราเอล


    รามัลเลาะห์ 3 ม.ค.- ประธานาธิบดีมาห์มุด อับบาสของปาเลสไตน์จะเดินทางไปอียิปต์ในวันนี้เพื่อหารือความเป็นไปได้ในการฟื้นการเจรจาสันติภาพกับอิสราเอล

    โฆษกของอับบาสเผยว่า ผู้นำปาเลสไตน์จะพบกับประธานาธิบดีฮอสนี มูบารัค ของอียิปต์ที่เมืองชาร์มเอลเชค ริมทะเลแดงในวันจันทร์เพื่อหารือความคืบหน้าในการฟื้นการเจรจาสันติภาพ หลังจากผู้นำอียิปต์พบกับนายกรัฐมนตรีเบนยามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอลเมื่อสัปดาห์ก่อน ขณะที่นักการทูตเผยว่ารัฐบาลสหรัฐกำลังเตรียมหนังสือสร้างหลักว่าอิสราเอลและปาเลสไตน์จะพยายามฟื้นการเจรจาสันติภาพที่ชะงักไปเมื่อหนึ่งปีก่อนเมื่ออิสราเอลทำสงครามถล่มฉนวนกาซา

    โฆษกผู้นำปาเลสไตน์เผยด้วยว่า ชาติอาหรับและประชาคมโลกพยายามสร้างบรรยากาศที่เอื้อต่อการกลับสู่โต๊ะเจรจากับอิสราเอลบนพื้นฐานที่ว่าอิสราเอลต้องยุติกิจกรรมทั้งหมดเกี่ยวกับนิคมชาวยิว นอกจากนี้ปาเลสไตน์ยังต้องการแนวทางเฉพาะเจาะจงสำหรับการเจรจาได้แก่ การกำหนดชายแดนของรัฐปาเลสไตน์ในอนาคตให้ครอบคลุมดินแดนทั้งหมดของปาเลสไตน์ที่ถูกอิสราเอลยึดไปในสงครามปี 2510.-สำนักข่าวไทย

    2010-01-03 17:30:30

    ที่มา http://news.mcot.net
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  16. เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>อินเดียหนาวตายแล้ว 33 ศพ</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>4 มกราคม 2553 15:06 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>

    หิมะตกในเมืองศรีนาคารืเมื่อวานนี้ (3 ม.ค.)

    เอเอฟพี - สภาพอากาศที่หนาวเหน็บทั่วตอนเหนือของอินเดีย ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 33 คนในสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่สภาพอากาศที่เลวร้ายยังเป็นอุปสรรคในการบินและการเดินทางของรถไฟ

    สำนักข่าวเพรสทรัสต์ของอินเดียรายงานว่า ผู้เสียชีวิตทั้ง 33 อยู่ในรัฐอุตตรประเทศ โดยส่วนใหญ่หนาวตายเพราะอุณภูมิที่เย็นยะเยือก ขณะที่สถานีโทรทัศน์หลายแห่งรายงานว่า ทั่วประเทศมีผู้เสียชีวิตจากอากาศหนาวเย็นแล้วกว่า 100 คน

    สภาพอากาศที่เลวร้ายทำให้ทางการในกรุงนิวเดลีตั้งเตนท์ที่อยู่อาศัยให้แก่คนไร้บ้าน ขณะที่ฝนยังตกลงมาซ้ำเติมสภาพอากาศที่เลวร้ายให้แย่ลงไปอีก ตารางการเดินทางทั้งโดยเครื่องบินและรถไฟยังถูกปรับเปลี่ยนกันวุ่นวาย เพราะมีหมอกหนาจัด นอกจากนี้ ทัศนวิสัยไม่ดียังทำให้รถไฟเกิดอุบัติเหตุถึง 3 ขบวน มีผู้เสียชีวิต 10 คน ทำให้มีการเปลี่ยนเที่ยวบินและยกเลิกเที่ยวบินด้วย

    ที่มา http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9530000000229

    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>โปแลนด์หนาวจัด'ลบ 25 องศา'สังเวยแล้ว 122 ศพ</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>4 มกราคม 2553 23:35 น</TD></TR></TBODY></TABLE>

    อากาศหนาวจัดในโปแลนด์

    เอเอฟพี - พบผู้เสียชีวิต 13 รายจากสภาพอากาศหนาวจัดในโปแลนด์ ในช่วงสุดสัปดาห์วันหยุดปีใหม่ หลังอุณหภูมิดำดิ่งถึงลบ 25 องศาเซลเซียส ส่งผลให้หน้าหนาวนี้มีพลเรือนวอร์ซอว์ตายรวมแล้ว 122 คน

    ตำรวจโปแลนด์เปิดเผยเมื่อวันจันทร์(4) ว่าผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นพวกไร้ที่อยู่อาศัยอายุระหว่าง 35 ถึง 50 ปี ที่มีภาวะอุณหภูมิร่างกายลดต่ำลงกว่าปกติเพราะดื่มแอลกอฮอล์

    ตำรวจและเจ้าหน้าที่เทศบาลนครเรียกร้องประชาชนชาวโปแลนด์ให้ความช่วยเหลือบุคคลไร้ที่อยู่อาศัยด้วยการแจ้งตำแหน่งของพวกเขาแก่เจ้าหน้าที่ ขณะที่เจ้าหน้าที่ได้จัดเตรียมที่พักพิงพิเศษช่วงฤดูหนาวให้แก่พวกเขา

    นับตั้งแต่ช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน ในโปแลนด์ พบประชาชนหนาวตายแล้ว 122 คน ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่ไม่ปกติสำหรับประเทศหนึ่งที่ต้องเผชิญกับสภาพอากาศอันเลวร้ายในช่วงฤดูหนาว

    ในฤดูหนาวปีที่แล้ว จากปลายปี 2008 ถึง 8 มกราคม 2009 มีผู้เสียชีวิตจากภาวะอุณหภูมิร่างกายลดต่ำลงกว่าปกติทั้งสิ้น 82 คนในโปแลนด์ ขณะที่หน้าหนาวที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ณ ประเทศแห่งนี้เพิ่งเกิดขึ้นไม่นานคือช่วงปลายปี 2005 ถึงต้นปี 2006 ซึ่งมีผู้เสียชีวิตถึง 233 คน

    ที่มา http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9530000000500
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  17. doodee1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    458
    ค่าพลัง:
    +1,718
    วันที่ 04 มกราคม พ.ศ. 2553 ปีที่ 19 ฉบับที่ 6976 ข่าวสดรายวัน

    เต่ามะเฟืองยักษ์วางไข่ชายหาด


    เต่ายักษ์ - เต่ามะเฟืองขนาดใหญ่ อายุประมาณ 40 ปี น้ำหนักประมาณ 300 กิโลกรัม ขึ้นมาวางไข่จำนวนกว่า 100 ฟอง บนชายหาดท้ายเหมือง อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา เจ้าหน้าที่วอนช่วยกันอนุรักษ์เพราะเป็นสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ เมื่อ 3 ม.ค.

    เมื่อเวลา 02.30 น. วันที่ 3 ม.ค. เต่ามะเฟืองขนาดใหญ่อายุประมาณ 40 ปี น้ำหนักประมาณ 300 กิโลกรัม ขนาดลำตัวยาว 2.07 เมตร กว้าง 1.10 เมตร ขึ้นวางไข่บริเวณชายทะเลหาดท้ายเหมือง ห่างจากหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ ลป.3 (ปาง) ประมาณ 800 เมตร จำนวน 113 ฟอง โดยเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาลำปีหาดท้ายเหมืองพบว่าเป็นตัวเดียวกันกับที่เคยขึ้นวางไข่เมื่อวันที่ 24 ธ.ค. ครั้งนั้นเต่าตัวนี้วางไข่จำนวน 99 ฟอง คาดว่าจะฝักเป็นตัวออกสู่ทะเลประมาณวันที่ 24 ก.พ. สำหรับไข่ชุดใหม่จำนวน 113 ฟองเจ้าหน้าที่คาดว่าจะฝักเป็นตัวประมาณวันที่ 3 มี.ค. อย่างไรก็ตามคาดว่าเต่าตัวนี้จะขึ้นมาวางไข่อีกครั้งหนึ่งภายใน 10 วันข้างหน้านี้ หรือประมาณวันที่ 12 ม.ค.
    นายวัฒนา พรประเสริฐ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาลำปี-หาดท้ายเหมือง กล่าวว่า ปัจจุบันพบว่าเต่ามะเฟืองขึ้นวางไข่ที่หาดท้ายเหมือง จ.พังงา เป็นประจำทุกปีเพียงแห่งเดียวในประเทศไทย แต่ก็ยังน่าวิตกว่าอาจสูญพันธุ์ในเวลาอันใกล้นี้ เนื่องจากปริมาณการขึ้นวางไข่ของเต่ามะเฟืองลดลงมาก ประกอบกับยังมีผู้นิยมรับประทานไข่เต่าทะเลอยู่ ฉะนั้นจึงเห็นว่านักท่องเที่ยวและราษฎรในพื้นที่ทุกคนควรเห็นความสำคัญของการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะเต่าทะเลให้อยู่คู่หาดท้ายเหมืองต่อไปตราบนานเท่านาน ด้วยการไม่ลักลอบเก็บไข่เต่าทะเล หรือรับประทานไข่เต่าทะเล ตามความเชื่อที่ว่าไข่เต่าทะเลเป็นอาหารบำรุงร่างกาย โดยเฉพาะสามารถช่วยเพิ่มสมรรถภาพทางเพศได้ จากการศึกษาวิจัยพบว่าไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด
    "สำหรับชายทะเลหาดท้ายเหมืองนั้นถือว่าเป็นแหล่งวางไข่ของเต่าทะเล ซึ่งเป็นสัตว์ใกล้สูญพันธุ์หลายชนิด ได้แก่ เต่ามะเฟือง เต่าตนุ เต่าหญ้า โดยเฉพาะเต่ามะเฟืองจะพบขึ้นมาวางไข่มากที่สุดเป็นประจำทุกปี จากสถิติย้อนหลังตั้งแต่ปี 2546 ถึงปัจจุบันพบว่าเต่ามะเฟืองขึ้นมาวางไข่ที่หาดท้ายเหมืองจำนวน 17 ครั้ง ได้ไข่เต่าจำนวน 9,909 ฟอง ฝักเป็นตัว 869 ตัว คิดเป็นร้อยละ 8.96 สำหรับเต่าหญ้านั้นยังไม่พบสถิติขึ้นมาวางไข่ในรอบ 7 ปีที่ผ่านมา ส่วนเต่าตนุนั้นพบขึ้นวางไข่เพียง 3 ครั้งในรอบ 7 ปี ได้ไข่เต่า 348 ฟอง ฝักเป็นตัวจำนวน 226 ตัว คิดเป็นร้อยละ 64.94 สาเหตุสำคัญของจำนวนเต่าทะเลที่ลดจำนวนลงอย่างน่าเป็นห่วงก็เนื่องจากการทำประมง และการขยายตัวของธุรกิจท่องเที่ยวที่ทำให้พื้นที่วางไข่ของเต่าทะเลถูกรบกวนจากการก่อสร้าง รวมทั้งนักท่องเที่ยวด้วย" นายวัฒนากล่าว
    นายก้องเกียรติ กิตติวัฒนาวงศ์ นักวิชาการประมง ประจำกลุ่มสัตว์ทะเลหายาก สถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเล ชายฝั่งทะเลและป่าชายเลน จ.ภูเก็ต เปิดเผยถึงสถานการณ์ขึ้นวางไข่ของเต่าทะเลฝั่งอันดามันว่า เดือนพ.ย-มี.คของทุกปีเป็นฤดูวางไข่ของเต่าทะเล และช่วงที่พบว่ามีเต่าขึ้นมาวางไข่มากที่สุดคือ เดือนธ.ค-ม.ค สำหรับปีนี้คาดว่าแนวโน้มการวางไข่จะมีมากกว่าปีที่ผ่านมา เนื่องจากสภาพอากาศที่เหมาะสมและไม่ร้อนเกินไป ล่าสุดพบการวางไข่ในพื้นที่หาดท้ายเหมืองและเกาะพระทอง จ.พังงา แล้ว กว่า 15 รัง รวมทั้งที่เกาะลันตาและเกาะไผ่ จ.กระบี่ ซึ่งเป็นพื้นที่ไม่เคยพบการขึ้นมาวางไข่ของเต่าทะเลมาก่อน
    อย่างไรก็ตาม การที่เต่าทะเลขึ้นมาวางไข่ที่เกาะลันตาและเกาะไผ่นั้นถือว่าเป็นการขยายพื้นที่การวางไข่ออกไปจากเดิมที่เคยพบ สาเหตุที่เต่าทะเลขยายพื้นที่วางไขเนื่องจากมีการก่อสร้างโรงแรมที่พักบริเวณชายหาด ทำให้รบกวนแหล่งวางไข่ของเต่าทะเล ถือว่าเป็นสาเหตุใหญ่ที่ทำให้เต่าทะเลต้องย้ายสถานที่การวางไข่ไปอยู่ในจุดที่เงียบสงบและมีความเป็นธรรมชาติ
    นายก้องเกียรติกล่าวว่า สำหรับเต่าทะเลที่ขึ้นวางไข่นั้นส่วนใหญ่เป็นเต่าตนุ ขณะที่เต่ามะเฟือง ซึ่งใกล้สูญพันธุ์พบว่าขึ้นวางไข่น้อยมาก แต่ปีนี้พบเต่ามะเฟืองวางไข่ที่หาดท้ายเหมืองแล้ว 2 รัง ถือเป็นเรื่องที่ดี เชื่อว่าแนวโน้มการขึ้นมาวางไข่เริ่มดีขึ้น ส่วนอุปสรรคสำคัญของการวางไข่ของเต่า นอกจากปัญหาการก่อสร้างที่รบกวนแล้ว ยังมีเรื่องของอุณหภูมิเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ซึ่งแม่เต่าจะเลือกอุณหภูมิที่เหมาะสมที่สุดเพื่อให้ลูกเต่ามีโอกาสรอดชีวิต และเมื่อปี 2541 เป็นปีที่เกิดเอลนิโญพบว่าเต่าทะเลขึ้นมาวางไข่ลดลงจากช่วงปกติกว่าร้อยละ 50

    ปีนี้น้ำวิกฤตหนัก แล้งเยือนจ.แพร่

    แพร่ - นายสมเพชร กาทุ่ง หัวหน้ากลุ่มงานส่งเสริมและพัฒนาสถาบันเกษตร สำนักงานเกษตรจังหวัดแพร่ เผยถึงสถาน การณ์ภัยแล้งในฤดูกาลนี้คาดว่าจะประสบกับปัญหาการขาดน้ำโดยเฉพาะน้ำทำการเกษตรให้กับกลุ่มเกษตรกรจำนวน 100 ราย เพราะปีนี้จังหวัดแพร่มีปริมาณน้ำต้นทุนน้อย และจะเพียงพอต่อการปลูกพืชที่ใช้น้ำน้อยและมีระยะสั้น ตามแผนการส่งน้ำให้แก่พืชฤดูแล้งในเขตโครงการในระยะนี้ไปจน ถึงกลางเดือนมีนาคม จำนวน 17,500 ไร่เท่า นั้น และที่สำคัญอ่างเก็บน้ำขนาดกลางเช่นอ่างเก็บน้ำแม่สอง อ่างเก็บน้ำแม่ถาง และอ่างเก็บน้ำแม่มาน ไม่สามารถส่งน้ำช่วยเหลือการเพาะปลูกพืชฤดูแล้งในเขตโครง การได้ ปัญหาการขาดแคลนน้ำจึงวิกฤตกว่าปีที่ผ่านมา
    เพื่อเตรียมรับสถานการณ์การขาดแคลนน้ำขอความร่วมมือเกษตรกรที่จะปลูกพืชฤดูแล้ง ปี 2552/53 ในเขตโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาแม่ยม ตั้งแต่อำเภอสอง อำเภอหนองม่วงไข่ อำเภอเมือง อำเภอสูงเม่น และอำเภอเด่นชัย งดปลูกข้าวนาปรัง หากจะปลูกพืชควรปลูกพืชที่ใช้น้ำน้อย หากไม่มีแหล่งน้ำสำรองในการเพาะปลูกให้พิจารณาถึงความเสี่ยงต่อการขาดแคลนน้ำที่จะทำให้พืชผลเสียหาย และควรใช้น้ำอย่างประหยัด

    คลื่นซัดชายฝั่งวอนช่วยชาวประมงไร้ที่อยู่

    สุราษฎร์ธานี - นายอนุชา โมกขะเวส อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ลงตรวจสอบพื้นที่ หลังรับแจ้งว่าชาวบ้านเดือดร้อนจากกรณีคลื่นชัดกัดเซาะชายฝั่งมีชาวบ้านท้องอ่าวกว่า 20 ครัวเรือน อาชีพทำการประมง ตั้งบ้านเรือนอยู่ริมหาดท้องอ่าวระยะทางประมาณ 1 ก.ม. รับความเดือดร้อนหนักในช่วงมรสุมเดือนพ.ย.-ธ.ค. เนื่องจากคลื่นทะเลแรงและสูงประมาณ 3 เมตร ชาวบ้านเรียกว่าคลื่นยักษ์ พัดเข้ากัดเซาะชายฝั่งจนทำให้ถนนริมหาดได้รับความเสียหาย ราษฎรสัญจรไปมายากลำบาก บ้านเรือนบางหลังได้รับความเสียหาย อำเภอมีการเสนอแผนการช่วยเหลือจากส่วนกลางมาตลอดแต่ยังมีงบประมาณไม่เพียงพอในการก่อสร้างเขื่อนกั้นคลื่น
    นายอนุชา กล่าวว่า จะพิจารณาว่ามีแนวทางใดบ้างหรือหน่วยงานใดที่เกี่ยวข้องว่าจะสามารถลงมาแก้ไขปัญหาได้ ทั้งนี้ดูจากสภาพความเสียหายน่าจะต้องใช้โครงการขนาดใหญ่ที่ใช้งบประมาณฉุกเฉินลงมาช่วยเหลือ อย่างไรก็ตาม ทราบว่าขณะนี้กรมโยธาธิการและผังเมืองสำรวจออกแบบเขื่อนกั้นน้ำไว้แล้วรอเพียงการจัดสรรงบประมาณ
    ด้านนายสุเทพ แสงนันทวี ผู้ใหญ่บ้าน ม.6 ต.ดอนสัก กล่าวว่า อยากให้ทางผู้เกี่ยวข้องเร่งแก้ไขโดยด่วนโดยเฉพาะการสร้างเขื่อนกั้นน้ำและซ่อมแซมถนน ทั้งนี้ ตั้งแต่ปี 2505 เป็นต้นมาพบว่าที่ดินถูกกัดเซาะไปแล้วประมาณ 500 เมตรซึ่งพื้นที่ดังกล่าวมีทั้งสวนมะพร้าวและเคยเป็นที่ตั้งของโรงเรียนบ้านท้องอ่าวด้วย

    นักวิจัยสหรัฐพบโปรตีนใหม่ในเซลล์ มีฤทธิ์ต่อสู้เชื้อไวรัสไข้หวัด



    วารสารเซลล์ เผยว่า นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยการแพทย์ฮาร์วาร์ด สหรัฐอเมริกา พบโปรตีนต่อต้านไวรัสภายในเซลล์ ซึ่งมีคุณสมบัติต่อสู้กับการติดเชื้อไวรัสไข้หวัด พุ่งเป้าพัฒนาเจาะลึกหวังใช้เป็นแนวทางคิดค้นวัคซีนรับมือไข้หวัดให้ดีขึ้นในอนาคต
    ผลวิจัยของม.การแพทย์ฮาร์วาร์ด ค้นพบกลุ่มของยีน หรือพันธุกรรมที่ทำหน้าที่เป็นเหมือนทหารคุ้มกันเซลล์จากไวรัสไข้หวัดใหญ่ โดยยีนกลุ่มนี้สามารถต่อสู้กับไวรัสไข้หวัดใหญ่ได้ทุกเวลา
    นักวิจัยใช้เทคนิคการวิจัยใหม่เรียกว่า "อาร์เอ็นเอ" ในการทดลอง ซึ่งเทคนิคนี้จะปิดการทำงานของยีนเป็นรายตัว แล้วจึงนำเซลล์ใส่เข้าไปในไวรัสไข้หวัดใหญ่ ผลที่ได้คือ จะเห็นโปรตีนที่มีฤทธิ์ต่อสู้ไข้หวัดใหญ่ ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการติดเชื้อไวรัสตามธรรมชาติ และถ้ากำจัดโปรตีนนี้ออกไป ไวรัสไข้หวัดใหญ่จะสามารถแบ่งตัว หรือเพิ่มจำนวนตัวเองได้เร็วขึ้นกว่าเดิม 5-10 เท่า
    "ดังนั้น ถ้าสามารถกระตุ้นให้เซลล์ผลิตโปรตีนชนิดนี้ก็จะทำให้ร่างกายมีประสิทธิภาพในการต่อต้านไข้หวัดใหญ่มากขึ้น และพบด้วยว่าโปรตีนในตระกูล "IFITM3" สามารถป้อง กันไวรัสได้หลายชนิด เช่น ไวรัสไข้หวัดใหญ่ ชนิดเอ ซึ่งพบในไข้หวัดตามฤดูกาล ไวรัสเวสต์ไนล์ และไวรัสไข้เลือดออก แต่โปรตีนนี้ป้องกันไวรัสเอชไอวี หรือไวรัสโรคตับอักเสบไม่ได้ อย่างไรก็ตาม การทดสอบในห้องทดลองพบว่า อาจจะป้องกันไวรัสชนิดอื่น เช่น ไวรัสไข้เหลือง" นักวิจัย ระบุ
    ทั้งนี้ คณะผู้วิจัยกล่าวด้วยว่า ถ้าหากไวรัสเล็ดลอดแนวป้องกันชั้นแรกของโปรตีน และเข้าไปถึงในเซลล์ได้จะมีสัญญาณเตือนภัยไปยังส่วนอื่นของร่างกายให้ผลิตโปรตีนต่อต้านไวรัสมากขึ้นเพื่อรับมือ

    เชิญร่วมพิธีเข้านิโรธกรรมครั้งที่8 เกจิดัง-ครูบาอริยชาติ



    ข่าวจากวัดแสงแก้วโพธิญาณ ต.เจดีย์หลวง อ.แม่สรวย จ.เชียงราย แจ้งว่า ครูบาอริยชาติ อริยจิตโต พระเกจิอาจารย์ชื่อดังเมืองเหนือ กำหนดทำการเข้านิโรธกรรมครั้งที่ 8 ในวันที่ 2 มกราคม 2553 และออกจากนิโรธกรรมในวันที่ 9 มกราคม 2553 เวลาประมาณ 03.00 น. (คืนวันที่ 8 เช้าวันที่ 9 ตี 3) เป็นการปฏิบัติตามแบบโบราณาจารย์ในสายของครูบาเจ้าศรีวิชัย นักบุญแห่งล้านนา โดยเน้นธุดงควัตร 13 เข้านิโรธกรรมที่ไม่เหมือนผู้ใด คือเป็นการทำแบบลำบาก ซึ่งครูบาอริยชาติได้ตั้งสัจจะอธิษฐานเอาไว้ว่า ในชาตินี้จะขอกระทำนิโรธกรรมเพียง 9 ครั้ง และจะกระทำโดยไม่ซ้ำที่ และไม่กำหนดว่าจะทำติดต่อกันหรือไม่ โดยการทำนิโรธกรรมตามแบบฉบับของครูบาเจ้าศรีวิชัยนี้ ท่านให้ขุดหลุมลึก 1 ศอก กว้าง 2 ศอกพอดีเข่า แล้วสร้างซุ้มฟางครอบให้มีความสูงแค่เลยหัว 1 ศอก โดยจะยืนไม่ได้ ไม่ถ่ายหนัก ไม่ถ่ายเบา ฉันแต่น้ำ 1 บาตร ที่นำเข้าไปด้วย มีผ้าขาวปู 4 ผืนรองนั่งแทนความหมายคือ อริยสัจ 4 ได้แก่ ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค มีเสาซุ้ม 8 ต้น แทนความหมายมรรค 8 ยอดซุ้มปักธงฉัพพรรณรังสี อันมีความหมายถึงปัญญา ราชวัตรล้อมซุ้มมี 9 ชั้น แทนความหมายของโลกุตรธรรม 9 คือ มรรค 4 ผล 4 นิพพาน 1 รวมเป็น 9 ซึ่งการทำนิโรธกรรมของครูบาอริยชาติจะเข้าในสถานที่สัปปายะห่างไกลผู้คน โดยมีชาวบ้านจัดเวรยามรักษาในรัศมี 100 เมตร เพื่อป้องกันการรบกวน ซึ่งก่อนที่จะทำการนิโรธกรรมนั้นจะต้องมีพระสงฆ์ 5 รูปรับรองความบริสุทธิ์ ซึ่งก็เป็นที่รู้กันดีในหมู่ศิษยานุศิษย์อยู่แล้วว่า การได้ร่วมทำบุญตักบาตรกับพระผู้ซึ่งออกจากนิโรธกรรมนั้นจะได้รับอานิสงส์ใหญ่หลวงโดยฉับพลันโดยทันทีเทียบเท่าระดับจักรพรรดิสมบัติ มีสวรรค์ และพระนิพพานเป็นเบื้องหน้าช่วยให้หมดทุกข์ หมดโศก หมดโรค หมดภัย มีโชคมีลาภ และหากแม้ตั้งจิตอธิษฐานในสิ่งที่เป็นกุศลกรรมแล้วก็จักสำเร็จสมหวังสมดังปรารถนาทุกสิ่งทุกประการ

    การนี้ ขอเชิญผู้มีจิตศรัทธาทุกท่านมาร่วมกันสร้างบุญสร้างกุศลสร้างบารมีร่วมกับครูบาอริยชาติ ซึ่งในวันที่ 9 มกราคม 2553 ยังเป็นวันคล้ายวันเกิดของท่านอีกด้วย โดยจะมีการทำบุญตักบาตรกับพระสงฆ์อีกมากมาย มีพิธีหล่อหัวใจรูปปั้นเหมือน ครูบาศรีวิชัยโลหะองค์ใหญ่สุดในโลก หล่อพระทองคำบริสุทธิ์หน้าตัก 5 นิ้ว บริจาคข้าวสาร 9 คันรถ ผ้าห่ม 1 หมื่นผืนแก่คนยากไร้ เป็นต้น และรายได้จากการทำบุญและรายได้จากการให้บูชาวัตถุมงคลที่อธิษฐานจิตในระหว่างที่ครูบาอริยชาติเข้านิโรธกรรมทั้งหมดก็จะร่วมสมทบทุนสร้างโบสถ์ วิหาร หอฉัน ศาลา กำแพง ห้องน้ำ และถาวรวัตถุต่างๆ ภายในวัด รวมถึงเป็นทุนในการสร้างครูบาศรีวิชัยโลหะองค์ใหญ่ที่สุดในโลกอีกด้วย สอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับงานได้ที่วัดแสงแก้ว โทร.08-5614-3764, 08-5865-4224

    เป็นไปได้"-เป็นไปแล้ว เรื่องราวพิลึกแห่งปี



    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>
    </TD></TR></TBODY></TABLE>1.สาว30คลอดลูก

    ไร้หัวและแขนขา


    วันก่อนที่บ้านเลขที่ 132 ม.5 ต.ควนพัง อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช คลาคล่ำไปด้วยชาวบ้านที่แตกตื่นแห่เดินทางไปดูศพของเด็กทารกแรกเกิดที่ผิดปกติ ไม่มีหัว ไม่มีแขน

    ทารกเป็นเพศหญิง ไม่มีศีรษะ ไม่มีแขนทั้งสองข้าง มีเฉพาะลำตัวและขาทั้งสองข้างเท่านั้น ชาวบ้านที่เดินทางมาดูต่างจุดธูปเทียนบูชา พร้อมยกมือไหว้ท่วมหัวบนบานขอให้มีโชคลาภ

    นางปัญญา สังข์ศิริ อายุ 47 ปี กล่าวว่า เด็กทารกเป็นลูกแฝดของนายสุพัฒน์ สังข์ศิริ อายุ 32 ปี และนางสายใจ ศรีรักษา อายุ 30 ปี หลานชายและหลานสะใภ้ เด็กคลอดออกมาเป็นแฝดเมื่อเวลา 09.00 น. ที่ร.พ.ร่อนพิบูลย์ เป็นแฝดหญิง

    คนแรกคลอดออกมาปกติสมบูรณ์ทุกอย่าง น้ำหนักประมาณ 1.8 ก.ก. แต่คนที่สองคลอดออกมาไม่สมบูรณ์ แพทย์ระบุว่าเด็กเสียชีวิตตั้งแต่อยู่ในครรภ์

    น.พ.นพพร ชื่นกลิ่น นายแพทย์สาธารณสุข จ.นครศรีธรรมราช กล่าวว่า ในทางวิชาการนั้นลักษณะเช่นนี้ถือว่าเป็นลักษณะของแฝดไม่สมบูรณ์ คือลักษณะของแฝดนั้นมาจากไข่ใบเดียวกันและไข่คนละใบ ในลักษณะเช่นนี้ไม่สามารถแยกได้ว่าเป็นไข่ใบเดียวหรือสองใบ เนื่องจากไม่สามารถดูใบหน้าได้

    โดยรวมคือความไม่สมบูรณ์ของการเจริญในครรภ์นั่นเอง

    แต่ชาวบ้านไม่คิดอย่างนั้น





    2.โชเฟอร์งง-ต้นไม้

    กลางถนนแปดริ้ว


    แปลกพิลึก ชาวบ้านผู้สัญจรผ่านเส้นทาง ถนนเลียบคลองชลประทาน สายหัวไทร-บางแตน ต่างมึนงงไปตามๆ กัน

    หลังมือดีแอบนำต้นกล้วย และต้นไม้น้อยใหญ่ลงปลูกกลางถนนในหลุมลึก เป็นแถวเรียงรายตลอดทางความยาวกว่า 14 ก.ม.

    ถนนเส้นนี้เป็นทางสัญจรผ่านถนนเลียบคลองชลประทาน สายหัวไทร-บางแตน ที่เชื่อมต่อระหว่าง อ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา และอ.บ้านสร้าง จ.ปราจีนบุรี

    สภาพถนนพังเสียหายเป็นหลุมบ่อลึกจำนวนมากเต็มพื้นผิวการจราจรไปตลอดเส้นทาง รวมทั้งยังมีน้ำขังอยู่ในหลุม ทำให้ชาวบ้านใน 3 ตำบล คือ ต.บางกระเจ็ด ต.หัวไทร ต.บางแตน รวมทั้งผู้คนที่ใช้เส้นทางสัญจรผ่าน เดินทางกันอย่างยากลำบาก

    นายชาญ วิลัยพัฒน์ อายุ 58 ปี ชาว ต.บางกระเจ็ด กล่าวว่า ถนนสายนี้เป็นถนนคันคลองเชื่อมต่อระหว่าง 2 อำเภอ ใน 2 จังหวัด ชาวบ้านมีความจำเป็นต้องใช้เส้นทางเป็นจำนวนมาก แต่กลับไม่ได้รับการเหลียวแลจากหน่วยงานใด จึงเชื่อว่าผู้ที่นำต้นไม้มาปลูกใส่ในหลุมกลางถนนน่าจะทำเพื่อประชดหน่วยงานที่รับผิดชอบถนนสายนี้

    ด้านนายสุรพงค์ เกตุกัปตัน อายุ 35 ปี ผญบ.ม.9 ต.บางกระเจ็ด กล่าวว่า เดิมทีถนนสายนี้กรมชลประทานเป็นผู้รับผิดชอบ ต่อมาอ้างว่าโอนไปให้กรมทางหลวงชนบท เป็นผู้รับผิดชอบ แต่เมื่อไปสอบถามกับทางหลวงชนบท ก็ได้รับคำตอบว่า ยังไม่ได้รับการโอนมาให้ <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=right border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>
    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    "ที่ผ่านมาทางหลวงชนบทจะเข้าไปทำการซ่อมแซมผิวถนน แต่ทางกรมชลประทานไม่ยินยอมให้ซ่อมแซม โดยระบุว่า ถนนสายดังกล่าวเป็นคันกั้นน้ำเลียบชายคลอง ให้รื้อพื้นผิวเพื่อปรับผิวใหม่ได้ลึกไม่เกิน 50 ซ.ม. ทางกรมทางหลวงชนบทจึงไม่สามารถดำเนินการได้ ผลเสียและความเดือดร้อนต่างๆ จึงมาตกอยู่กับประชาชน"

    ขัดขากันเอง ชาวบ้านก็รับกรรม





    3.พบ"งูจิ๋ว"มี2หัว

    ชาวบ้านเก็บบูชา


    ชาวบ้านในพื้นที่หมู่ที่ 1 ต.หนองตรุด อ.เมือง จ.ตรัง เดินทางมารวมตัวกันที่บ้านเลขที่ 76/2 หลังจากรับแจ้งว่าพบงูปะหลาด มี 2 หัว ลำตัวสีดำ ตัดด้วยลายขวางสีเงิน ความยาวประมาณ 6 นิ้ว

    นางยุพิน คงประสม อายุ 52 ปี เจ้าของบ้านบอกว่า ในขณะที่กำลังจะเข้าห้องน้ำก็พบเห็นงูตัวดังกล่าวนอนขดอยู่บริเวณพื้น จึงตะโกนเรียกให้ลูกสาวนำแก้วน้ำ เพื่อมาจับงู 2 หัวตัวนี้เก็บไว้ และตั้งแต่จำความได้ พร้อมทั้งสอบถามผู้สูงอายุในหมู่บ้าน ก็ไม่เคยมีใครพบเห็นงูในลักษณะเช่นนี้มาก่อน

    ขณะที่ชาวบ้านเรียกงูชนิดนี้ว่า งูปล้องเงิน แต่มีความประหลาดที่มีขนาดเล็กกว่างูปล้องเงินทั่วไป และมี 2 หัว นางยุพิน เชื่อว่างูตัวนี้จะนำโชคลาภมาให้ตนเองและครอบครัว จึงจะเก็บรักษางูตัวนี้ไว้เพื่อบูชาอย่างดี และจะไม่ยอมยกให้ใคร เพราะถือว่างูต้องการมาอยู่กับตนเองแล้ว

    ส่วนชาวบ้านที่แห่มาขอดูงูประหลาดนั้น เจ้าตัวบอกว่ายินดี และไม่ขัดข้องที่จะนำงูออกมาโชว์ให้ดู เพราะถือเป็นความเชื่อเฉพาะบุคคล ใครจะนำไปตีเป็นเลขเด็ดตัวใดนั้นถือว่าเป็นโชคของใครก็ของคนนั้น

    ด้าน นายวีระศักดิ์ ศรีสัจจัง หน.เขตห้ามล่าสัตว์ป่าเขาน้ำพราย อ.ห้วยยอด กล่าวถึงกรณีงูปล้องเงินประหลาดขนาดจิ๋วและมี 2 หัว ที่ชาวบ้านตำบลหนองตรุดพบเห็นนั้น เป็นเรื่องธรรมชาติที่สามารถเกิดขึ้นได้ เนื่องจากเกิดจากความผิดพลาดของการผสมพันธุ์ของงูในช่วงวางไข่ อาจทำให้เซลล์ของไข่งูไม่สมบูรณ์

    ทั้งนี้ งูปล้องเงิน-ปล้องทอง เป็นงูประเภทที่ไม่มีพิษ แต่ก็อยากเตือนชาวบ้านว่า อย่าเพิ่งไว้วางใจ เพราะเมื่อพิสูจน์แล้วอาจจะไม่ใช้งูปล้องเงิน-ปล้องทองก็เป็นได้ เพราะฉะนั้นไม่ควรให้งูตัวดังกล่าวฉกหรือกัดเป็นอันขาด ซึ่งอาจจะเป็นอันตราย

    จากงูที่เชื่อว่าจะพาโชค อาจนำความตายมาเยือนก็เป็นได้





    4.ไม่สนข้าวเปลือก

    ไก่(ก็)กินเบียร์


    ไม่น่าเชื่อว่ามีไก่ชอบกินเบียร์เป็นอาหารจนเป็นที่ฮือฮาของชาวบ้าน อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี

    เจ้าของไก่อยู่ที่หมู่ 9 บ้านชลประทานโครงการแม่น้ำปราจีนบุรี เลี้ยงไก่พื้นบ้านเพศเมีย สีดำ อายุ 5 เดือน ตัวหนึ่ง เป็นไก่ที่ผิดแปลกไปกับไก่ตัวอื่นๆ ที่กินข้าวเปลือกและแมลงเป็นอาหาร

    ส่วนไก่ตัวนี้ชอบกินเบียร์ แต่ละวันมันจะกินเบียร์เย็นๆ เป็นอาหาร ไปกับเจ้าของบ้าน วันละประมาณครึ่งแก้ว

    ไก่ตัวนี้มันมีชื่อว่า "เจ้าตอส"

    นายลำเจียก บุญปลูก อายุ 60 ปี เจ้าของไก่เล่าว่า นำไก่ตัวนี้มาเลี้ยงตั้งแต่เป็นลูกเจี๊ยบ หลังจากมีสุนัขตัวหนึ่งคาบมาแล้วเข้าไปแย่งมาจากปากสุนัข จึงทำให้เจ้าตอส ตัวนี้รอดตายจากสุนัขหวุดหวิด

    จนกระทั่งมันโตและมีความคุ้นเคยกันมาก

    ตอนเย็นๆ จะมีเพื่อนบ้านชอบมานั่งดื่มเบียร์บ้านเป็นประจำ ถ้าเจ้าตอสเห็นก็จะกระโดดขึ้นไปหาทุกครั้ง ก็เลยเอาเทเบียร์ใส่แก้วให้มันกิน มันก็ใช้ปากจุ่มลงไปในแก้วเหมือนกับไก่กินน้ำทั่วไป แล้วค่อยๆ ยกคอขึ้นให้เบียร์ไหลลงคอโดยไม่มีความสะทกสะท้านกับรสชาติของเบียร์แต่อย่างใด

    กินได้ทุกวันโดยไม่มีอาการมึนเมา จนทำให้ชาวบ้านฮือฮาในเรื่องไก่ที่ชอบกินเบียร์

    นับเป็นเรื่องแปลกของผู้พบเห็น

    ส่วนจะเป็นเบียร์ยี่ห้อไหน "เจ้าตอส" ไม่เกี่ยง





    5."ช้าง"กับ"หมา"

    ต่างพันธุ์รักกันได้


    ณ ศูนย์บริบาลช้างภาคเหนือ ต.กึ๊ดช้าง อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ นางแสงเดือน ชัยเลิศ เจ้าของศูนย์ฯ นำชมบริเวณศูนย์บริบาลช้าง

    บริเวณนี้มีสุนัขพันธุ์ไทยชื่อ "น้องหญิง" เพศเมีย และ "เจ้าเพส" สุนัขเพศผู้ คลอเคลียกับ "พลายโฮป" นับเป็นเรื่องฮือฮาอย่างมากเมื่อหมาทั้งสองตัวชอบไปนอนกับช้าง โดยทั้งช้างทั้งสุนัขต่างหยอกล้อเล่นกันอย่างมีความสุข เป็นภาพประทับใจกับผู้พบเห็นเป็นอย่างมาก

    นางแสงเดือน เล่าว่า ศูนย์ฯแห่งนี้จะรับเลี้ยงดูช้างป่วยหรือได้รับบาดเจ็บ นอกจากนี้ยังเลี้ยงดูช้างชรา โดยมีสัตว์แพทย์และอาสาสมัครชาวต่างประเทศให้การดูแลช่วยเหลือ

    สำหรับช้างพลายโฮป กับสุนัขในศูนย์ที่อยู่ด้วยกันและหยอกล้อกันทุกวันนั้น เป็นสุนัขในระแวกหมู่บ้าน ตนเอามาเลี้ยงตั้งแต่เล็กๆ ส่วนช้างชื่อพลายโฮป นั้นแม่ของเจ้าโฮปที่เสียชีวิตไป ซื้อจากชาวเขาเผ่ากะเหรี่ยงมาตั้งแต่เล็กๆ เช่นกัน

    "ปกติแล้วช้างกับสุนัขจะไม่ค่อยอยู่ด้วยกัน ช้างจะไม่ชอบสุนัข ส่วนสุนัขก็มักจะพยายามไปเล่นกับช้างหรือเห่า ทำให้ช้างรำคาญ ส่วนพลายโฮปกับสุนัขทั้งสองตัวนี้แปลก ตอนแรกๆ เจ้าโฮป จะเอางวงไล่ลูกสุนัขไม่ให้เข้าใกล้ แต่สุนัขก็ตื้อ ต่อมามีนักท่องเที่ยวจะเข้าไปหาพลายโฮป สุนัขทั้งสองตัวเห่าและปกป้องไม่ให้นักท่องเที่ยวที่เข้ามาใกล้พลายโฮป ทำให้ช้างโฮป มันรู้สึกว่าสุนัขเป็นมิตรและคอยปกป้องมัน"

    "ต่อมาจึงปล่อยให้สุนัขทั้งสองเข้าใกล้ และตั้งแต่นั้นมาก็จะยอกล้อกันเล่นทุกวันและนอนด้วยกัน โดยเจ้าโฮป ถือเป็นช้างเชือกเดียวในศูนย์ที่ยอมให้สุนัขทั้งสองเข้าใกล้"

    นางแสงเดือน บอกอีกว่า น้องหญิง กับ เจ้าเพส อยู่เล่นกับพลายโฮปแทบจะตลอดเวลา เป็นภาพประทับใจที่ใครได้เห็น

    คนๆ ที่ทะเลาะกันอยู่ ดูตัวอย่างไว้





    6.ต้นไม้ประหลาด

    ล้มลงแล้วลุกเอง


    ที่บ้านเลขที่ 331 หมู่ 3 บ้านแม่ปะใต้ ต.แม่ปะ อ.แม่สอด จ.ตาก ติดถนนสายแม่สอด-วังแก้ว ชาวบ้านหลายร้อยคน พากันเดินทางไปยังบ้านของนางสมสวน ปู๊ดปั๋น อายุ 54 ปี พร้อมนำดอกไม้ธูปเทียนกราบไหว้ต้นมะกอกขนาดใหญ่ กว้างประมาณ 1 คนโอบ สูงราว 5 ม. อายุประมาณ 30 ปี เพื่อความเป็นสิริมงคลและขอเลข

    โดยตั้งชื่อ "เจ้าแม่มะกอก" พร้อมนำพวงมาลัยและผ้า 3 สีมาพันรอบต้น นอกจากนี้เจ้าของต้นไม้ยังนำเชือกมาล้อมไว้เป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าอีกด้วย

    นางสมสวน เล่าว่า ต้นมะกอกต้นนี้ล้มลงมาทับบ้านเมื่อปีที่แล้ว จึงตัดกิ่งก้านออกหรือแต่ต้นนอนราบอยู่พื้นดินอยู่ด้านหลังบ้าน จนเมื่อค่ำวันก่อนชาวบ้านเห็นปรากฏการณ์แทบช็อกเนื่องจากจู่ๆ เกิดปาฏิหาริย์ต้นไม้ตั้งตรงขึ้นมาเองโดยที่ไม่มีร่องรอย ชาวบ้านที่ทราบข่าวต่างพากันแห่มาดูเป็นจำนวนมาก

    "เกิดมาจนกระทั่งอายุขนาดนี้แล้วยังไม่เคยพบเห็นเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อน นับว่าเป็นเรื่องที่น่าแปลกประหลาดใจมาก"

    ส่วนทางด้านนายบุญเทิง บุญทา อดีต อบต.แม่ปะ บอกว่า สันนิฐานต้นมะกอกอาจจะมีอายุราวประมาณ 30 ปี มีลักษะแห้งกรอบและเบามาก บริเวณใต้ต้นไม้อาจจะมีหลุมขนาดใหญ่ หลังจากที่มีฝนตกลงมาอย่างหนักต้นไม้จึงตั้งตรงขึ้นมาเองได้

    ถึงอย่างไรชาวบ้านก็ยังเชื่อถึงเรื่องลี้ลับ ส่วนทางพ่อค้าแม่ค้านำอาหารประเภทเครื่องดื่ม และขนม นำมาขายรายได้วันละไม่ต่ำกว่า 500-1000 บาท ทำให้สถานที่ดังกล่าวคึกคัก

    ถือเป็นการร้างรายได้ให้ชุมชน

    ส่วนเรื่องเหลือเชื่อก็แล้วแต่คน
     
  18. เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ผมขออธิบายทำความเข้าใจที่ถูกต้อง เรื่องของพระศรีอาริย์กึ่งพุทธกาลนี้หน่อยนะครับ เพราะมีคนเข้าใจผิดเป็นจำนวนมาก ว่าพระองค์จะมาประกาศตัวเป็นศาสดาองค์ใหม่ ในอนาคตอันใกล้นี้ ซึ่งไม่ถูกต้องตามความเป็นจริง

    ตามที่พระสมณโคดมพุทธเจ้า ได้ทรงประกาศพระพุทธศาสนาเอาไว้เมื่อ 2,500 กว่าปีมาแล้ว และจะยังดำรงค์คงอยู่ต่อไปตราบจนครบ 5,000 ปี จึงไม่มีการเกิดศาสนาใหม่ขึ้นมาในขณะนี้แต่อย่างใดทั้งสิ้น พระศรีอาริยเมตไตรยที่ได้จุติลงมาในเวลานี้ ก็เพื่อจะมาสืบทอดอายุของพระพทธศาสนาของพระสมณโคดมพระพุทธเจ้า ให้ถูกต้องเที่ยงแท้ตรงตามพุทธโอวาทเดิม และเจริญรุ่งเรืองไปจนครบ 5,000 ปี ไม่ได้ทรงมาประกาศศาสนาใหม่แต่อย่างใด

    ศาสนาที่เคยรุ่งเรืองในลังกา ก็คือพระพุทธศาสนาที่พวกเรานับถือกันอยู่ในปัจจุบันนี้ ไม่ได้ต่อยอดเป็นศาสนาใหม่แต่อย่างใด ถ้าจะมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นตามคำทำนาย ก็จะเป็นเพียงการรวมนิกายต่างๆ เข้ามาเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ทำให้ไม่มีการแบ่งแยกออกเป็นนิกายต่างๆ อีกต่อไป จึงคงเหลืออยู่แต่คำสอนดั้งเดิมแท้ของพระสมณโคดมพระพุทธเจ้าเท่านั้น
     
  19. kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    ขอย้ำว่า พระศรี และพระโพธิสัตว์หลายพระองค์ท่านทรงจุติลงมาเพื่อสืบต่อ ยอยก พระบวรพุทธศาสนาของพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันท่านให้รุ่งเรือง คล้ายสมัยพุทธกาล

    คือ บรรลุธรรมง่ายขึ้น ปฏิบัติจนเกิดผลแห่งการปฏิบัติได้กระจ่างแก่ใจ

    ซึ่ง เกิดผล ให้ มีผู้บรรลุธรรมมากขึ้น(เพราะการปฏิบัติไม่ยาก) ปรากฏ ในยุคสมัย ที่มากไปด้วย พระอริยะเจ้า พระสุปฏิปันโน พระโพธิสัตว์ คล้ายสมัยพุทธกาล

    พระพุทธศาสนาเจริญรุ่งเรืองอีกครั้ง ปรากฏดินแดน แห่งสัมมาทิฐิ ความสุขสงบร่มเย็นไปอีก 1000 ปี

    และเมื่อพระศรีที่ปรากฏองค์ แสดงปาฏิหาริย์ ด้วยอำนาจแห่ง"เมตตา" ต่อเหล่า ชาวโลกทั้งปวง จนเป็นที่ประจักษ์ตามคำทำนายของทุกศาสนา ผู้ที่นับถือท่านก็กลับมารวมตัว ในพระพุทธศาสนาอีกครั้ง

    โดยปราศจากการบังคับ การฆ่าฟัน แต่เป็นไปด้วย จิตอันประจักษ์ด้วยศรัทธาในธรรมอย่างแท้จริง ว่ามีเหตุ มีผล เกิดผลแห่งการปฏิบัติ

    ท่านไม่ได้ประกาศศาสนาใหม่ แต่ทรงให้ความเคารพ ให้เกียรติพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน มาสืบต่อพระพุทธศานาให้ยาวนานตราบเท่า ห้าพันปี เพื่อประโยชน์ของสรรพสัตว์ที่จะได้อาศัยร่มเงาแห่งพระพุทธศาสนาเข้าสู่การดับทุกข์จนถึงซึ่งพระนิพพานในที่สุด
     
  20. เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ออสเตรเลียประกาศภัยพิบัติน้ำท่วมทางตะวันออกเฉียงใต้



    ซิดนีย์ 4 ม.ค.- ทางการออสเตรเลียประกาศภัยพิบัติน้ำท่วมในเมืองเกษตรกรรมทางภาคตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศในวันนี้ หลังน้ำท่วมหนักทำให้ประชาชนหลายร้อยคนต้องอพยพออกจากบ้านเรือน

    สำนักอุตุนิยมวิทยาออสเตรเลีย รายงานว่า แม่น้ำคาสเซิลรีห์แตะระดับสูงสุดที่ 5.14 เมตร ที่เมืองคูนัมเบิล รัฐนิวเซาท์เวลส์ เมื่อช่วงก่อนเที่ยงวันนี้ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งตรงกับเวลา 08.00 น.ในไทย ซึ่งก่อนหน้านั้นประชาชนราว 1,200 คน ได้รับคำแนะนำให้อพยพออกจากบ้านเรือนไปอยู่ในที่สูง ขณะที่นางคริสตินา เคนีลลี มุขมนตรีรัฐนิวเซาท์เวลส์ ประกาศให้เมืองนี้เป็นเขตภัยพิบัติ เพื่อให้สามารถอนุมัติเงินฉุกเฉินช่วยเหลือเกษตรกร และประชาชนหลายร้อยคน

    ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่เกรงว่าระดับน้ำในแม่น้ำสายนี้จะเพิ่มสูง 5.5 เมตร ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 40 ปี และจะเอ่อล้นตลิ่งจนทำให้บ้านเรือนหลายร้อยหลังตกอยู่ในอันตราย แต่สถานการณ์เริ่มคลี่คลายลงเมื่อช่วงเช้า ซึ่งระดับน้ำลดลงเล็กน้อย เป็นการบ่งชี้ว่าระดับน้ำผ่านพ้นระดับสูงสุดมาแล้ว

    อุทกภัยครั้งนี้มาจากอิทธิพลของพายุลอเรนซ์ ซึ่งเคยมีกำลังแรงเป็นพายุไซโคลนทำให้เกิดฝนตกหนักในรัฐนิวเซาท์เวลส์มาตั้งแต่ปลายเดือน ธ.ค. ส่งผลให้หลายเมืองถูกตัดขาดจากน้ำท่วมหนัก แต่โชคดีที่ไม่มีผู้เสียชีวิต นอกจากนี้ ยังเกิดน้ำท่วมในรัฐควีนส์แลนด์ ซึ่งอยู่ห่างไปทางตอนเหนือ

    ขณะเดียวกันรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย ต้องเผชิญปัญหาไฟป่าครั้งเลวร้ายที่สุดในรอบ 50 ปี ที่เผาทำลายชุมชนห่างไกลแห่งหนึ่งเมื่อสัปดาห์ก่อน มีบ้านถูกไฟเผาวอด 38 หลัง และสร้างความเสียหายให้พื้นที่ป่า และพื้นที่เกษตรกรรมไปหลายพันไร่. -สำนักข่าวไทย

    2010-01-04 14:36:37

    กรุงโซลเผชิญหิมะตกหนักสุดในรอบเกือบทศวรรษ



    เกาหลีใต้ 4 ม.ค.-เมืองหลวงของเกาหลีใต้ต้องเผชิญหิมะตกหนักที่สุดในรอบเกือบทศวรรษ ทำให้การจราจรเป็นอัมพาต

    กรมอุตุนิยมวิทยาเกาหลีใต้รายงานว่า วันนี้กรุงโซลมีหิมะตกหนักวัดได้สูงถึง 21.5 เซนติเมตร นับเป็นปริมาณมากที่สุด นับตั้งแต่เคยเกิดหิมะตกหนักเมื่อปี 2544 สภาพอากาศเลวร้ายดังกล่าวยังผลให้ต้องยกเลิกเที่ยวบินที่จะเดินทางจากสนามบินนานาชาติคิมโป เที่ยวเช้าวันจันทร์ทั้งหมด 46 เที่ยว ขณะที่การจราจรในเมืองหลวงเป็นอัมพาต จนถึงขณะนี้ เจ้าหน้าที่หลายพันคนยังคงเร่งกำจัดหิมะที่กีดขวางการจราจร.-สำนักข่าวไทย

    2010-01-04 15:13:02

    อากาศหนาวจัดในอินเดีย เสียชีวิตแล้วกว่า 40 คน



    ลัคเนา 4 ม.ค. – เจ้าหน้าที่ของทางการอินเดียกล่าวว่า มีผู้เสียชีวิตจากอากาศหนาวเย็นที่แผ่ปกคลุมภาคเหนือของอินเดียแล้วกว่า 40 คน ส่งผลให้ทางการต้องสั่งปิดโรงเรียน และจัดหาฟืนสำหรับทำความอบอุ่นให้แก่ประชาชนที่เดือดร้อน

    โฆษกตำรวจกล่าวว่า รัฐอุตตรประเทศ ซึ่งมีประชากรมากที่สุดในอินเดีย มีผู้เสียชีวิตจากอากาศหนาวจัดแล้วถึง 30 คน นับแต่เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่กล่าวว่า โรงเรียนและวิทยาลัยทั้งหมดจะปิดเป็นเวลา 4 วัน จนถึงวันพฤหัสบดีนี้ โดยเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการป้องกันด้านสุขภาพ นอกจากนี้ ทางการรัฐอุตตรประเทศยังได้จัดสรรเงิน 100 ล้านรูปี (ประมาณ 71 ล้านบาท) เพื่อซื้อผ้าห่มและฟืนแจกจ่ายให้แก่ประชาชนที่กำลังได้รับความเดือดร้อน โดยเหยื่อส่วนใหญ่เป็นคนไร้บ้าน รายงานระบุว่า อุณหภูมิในช่วงเวลากลางคืนในพื้นที่ภาคเหนือของอินเดียขณะนี้ลดลงอยู่ระหว่าง -3.8 - 9 องศาเซลเซียส

    ส่วนที่รัฐพิหาร รัฐซึ่งมีประชากรมากที่สุดเป็นอันดับสองของอินเดีย มีรายงานผู้เสียชีวิตจากอากาศหนาว 11 คน นับแต่เมื่อวันอาทิตย์ และทางการสั่งปิดโรงเรียนในพื้นที่ทั้งหมด 3 วัน นับจากวันนี้

    โฆษกท่าอากาศยานกรุงนิวเดลี รายงานว่า มีเที่ยวบินโดยสาร 50 เที่ยว ประสบปัญหาล่าช้า ขณะที่ 50 เที่ยว ถูกยกเลิก และอีก 25 เที่ยว ต้องเปลี่ยนแปลงกำหนดการบินใหม่เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา.- สำนักข่าวไทย

    2010-01-04 18:24:54

    แผ่นดินไหวหมู่เกาะโซโลมอน บ้านพังยับกว่า 500 หลัง



    โซโลมอน 4 ม.ค.-ความคืบหน้าเหตุแผ่นดินไหวหมู่เกาะโซโลมอน พบบ้านเรือนประชาชนพังยับกว่า 500 หลังคาเรือน

    เหตุแผ่นดินไหวบริเวณใกล้กับหมู่เกาะโซโลมอน ทางตะวันตกของมหาสมุทรแปซิฟิก วัดแรงสั่นสะเทือนได้ 7.2 ริกเตอร์ เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ล่าสุดพบบ้านเรือนประชาชนในบริเวณหมู่เกาะเสียหายราว 500 หลังคาเรือน คาดว่าจะทำให้ชาวบ้านหลายพันคนไร้ที่อยู่อาศัย ขณะที่มีผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยจำนวนหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่สามารถรายงานความเสียหายที่แน่ชัดได้ จนกว่าคณะผู้ตรวจสอบจะเดินทางถึงที่เกิดเหตุ.-สำนักข่าวไทย

    2010-01-04 16:10:49

    จีนมีผู้เสียชีวิตจากไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 659 คน ในปี 2552



    ปักกิ่ง 4 ม.ค. - ทางการจีนเปิดเผยวันนี้ว่า มีผู้เสียชีวิตจากไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ทั้งหมด 659 คนในปี 2552 โดยเกือบทั้งหมดเสียชีวิตในช่วงเดือน พ.ย.และ ธ.ค.ที่ผ่านมา พร้อมทั้งออกคำเตือนว่ายังคงมีการแพร่ระบาดของโรคดังกล่าวในบางพื้นที่ของประเทศ

    กระทรวงสาธารณสุขจีนเปิดเผยในแถลงการณ์ว่า พบผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่จากไวรัสชนิดเอ เอช 1 เอ็น 1 ทั้งหมด 120,940 คน นับตั้งแต่มีการตรวจพบไวรัสชนิดดังกล่าวในปีที่ผ่านมา ก่อนหน้านี้ รายงานนับจนถึงปลายเดือน ต.ค. 2552 ระบุว่า พบผู้เสียชีวิตจากโรคดังกล่าวเพียง 6 คน แต่หลังจากนั้นในช่วงต้นเดือน ธ.ค. ยอดผู้เสียชีวิตได้เพิ่มขึ้นเป็น 180 คน และกลายเป็น 659 คน เมื่อสิ้นเดือน ธ.ค.ที่ผ่านมา นอกจากนี้ กระทรวงสาธารณสุขยังกล่าวอีกว่า ยังคงมีการแพร่ระบาดของโรคดังกล่าวในบางพื้นที่ และตัวเลขของผู้เสียชีวิตรวมทั้งผู้ป่วยอาการหนักยังอยู่ในระดับค่อนข้างสูง พร้อมทั้งระบุว่ายังคงมีอุปสรรคในการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคในพื้นที่ชนบทและโรงเรียนหลายแห่ง

    เจ้าหน้าที่กระทรวงได้ออกคำเตือนการแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ในช่วงฤดูหนาว พร้อมกำลังเร่งผลักดันให้เพิ่มความระมัดระวังในช่วงวันหยุดเทศกาลตรุษจีน เนื่องจากประชาชนหลายร้อยล้านคนจะหลั่งไหลไปเยี่ยมครอบครัว. - สำนักข่าวไทย

    2010-01-04 17:22:45

    อิหร่านเผยจับชาวต่างชาติหลายคนระหว่างการประท้วงต่อต้านรัฐบาล



    เตหะราน 4 ม.ค. - นายเฮย์ดาร์ มอสเลฮี รัฐมนตรีข่าวกรองอิหร่านเปิดเผยวันนี้ว่า อิหร่านจับกุมชาวต่างชาติหลายคนในเหตุชุมนุมประท้วงต่อต้านรัฐบาลเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 8 คน

    รัฐมนตรีข่าวกรองอิหร่านกล่าวว่า ชาวต่างชาติดังกล่าวเดินทางเข้ามายังอิหร่านก่อนหน้าเทศกาลอาชูรอเพียง 2 วัน โดยทางการอิหร่านยังได้ยึดกล้องถ่ายรูปและอุปกรณ์ของชาวต่างชาติดังกล่าว แต่รายงานไมได้ระบุว่าชาวต่างชาติที่ถูกจับกุมมีจำนวนกี่คนและสัญชาติใด

    ตำรวจอิหร่านยังคงควบคุมตัวประชาชน 300 คน จาก 500 คน ที่จับกุมในกรุงเตหะราน เมื่อวันที่ 27 ธันวาคมที่ผ่านมา เมื่อบรรดาผู้สนับสนุนฝ่ายค้านออกมาชุมนุมประท้วงในช่วงเทศกาลอาชูรอ. - สำนักข่าวไทย

    2010-01-04 19:33:45

    รถไฟพุ่งชนโรงแรมในฟินแลนด์



    ฟินแลนด์ 4 ม.ค.53. -เกิดอุบัติเหตุรถไฟโดยสารพุ่งชนโรงแรมในกรุงเฮลซิงกิประเทศฟินแลนด์ ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 คน

    รถไฟโดยสารขบวนดังกล่าวซึ่งไม่มีผู้โดยสาร พุ่งชนโรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ ซึ่งอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟกรุงเฮลซิงกิเมื่อวานนี้ ด้วยความเร็วประมาณ 30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ส่งผลให้เจ้าหน้าที่บนรถไฟได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย 1 คน เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องเร่งอพยพพนักงานและลูกค้าในโรงแรม รวมถึงอาคารที่อยู่ใกล้เคียงออกนอกพื้นที่ เนื่องจากเกรงว่าอาคารอาจพังถล่มลงมาหากมีการเคลื่อนย้ายขบวนรถไฟออกไป เจ้าหน้าที่การรถไฟระบุว่า อุบัติเหตุเกิดขึ้นเนื่องจากระบบห้ามล้อของรถไฟขัดข้อง. -สำนักข่าวไทย

    2010-01-04 23:34:35

    มลภาวะในฮ่องกงพุ่งแตะระดับคุกคามชีวิตประชาชน



    ฮ่องกง 4 ม.ค. - กระทรวงปกป้องสิ่งแวดล้อมของฮ่องกง รายงานว่า มลภาวะทางอากาศบริเวณท้องถนนในฮ่องกง ขึ้นแตะระดับภัยคุกคามต่อชีวิต 1 วัน ในทุก ๆ 8 วันของปีที่แล้ว

    ดัชนีมลภาวะบนท้องถนนบ่งชี้ว่า ตลอดปีที่แล้วมีถึง 44 วันที่มีมลภาวะทางอากาศสูงมากในเขตตอนกลาง เพิ่มขึ้นจากปี 2551 ซึ่งมีเพียง 39 วัน และมากกว่าปี 2548 ซึ่งมีเพียง 13 วัน ทั้งนี้ มลภาวะทางอากาศที่ถูกจัดอยู่ในระดับสูงมาก จะมีค่าดัชนีเกินกว่า 100 ซึ่งมีผลทำให้คนที่ป่วยเป็นโรคหัวใจและทางเดินหายใจมีอาการแย่ลง ส่วนคนที่มีสุขภาพแข็งแรงอาจมีอาการระคายเคืองนัยน์ตา ไอ จามและเจ็บคอ

    เขตมงก๊ก ซึ่งมีประชากรอาศัยอยู่อย่างหนาแน่น ตรวจพบว่ามีจำนวนวันที่มีมลภาวะทางอากาศอยู่ในระดับสูงมากถึง 37 วัน เพิ่มขึ้นจากเมื่อ 5 ปีก่อน ซึ่งมีเพียงวันเดียวในรอบปี ส่วนที่เขตคอสเวย์ เบย์ แหล่งซื้อสินค้าและที่อยู่อาศัย มีจำนวนวันที่มีมลภาวะทางอากาศสูงมากถึง 25 วัน เพิ่มขึ้น 5 เท่าจากปี 2548

    มลภาวะทางอากาศในฮ่องกงยังคงเลวร้ายลง เนื่องจากการปล่อยมลภาวะออกมาจากโรงงานอุตสาหกรรมของจีนติดกับทางเหนือของฮ่องกง การปล่อยมลภาวะออกมาจากระบบขนส่งและโรงไฟฟ้าในฮ่องกง ซึ่งในช่วงไม่กี่เดือนมานี้พบว่า ทั่วฮ่องกงถูกปกคลุมไปด้วยหมอกควันหนาทึบ.- สำนักข่าวไทย

    2010-01-04 18:26:51

    Avatar กวาดรายได้ทั่วโลกกว่าหมื่นล้านบาท



    4 ม.ค. หนังฟอร์มยักษ์ของผู้กำกับ เจมส์ คาเมรอน เรื่อง Avatar ยังแรงไม่หยุด เพราะนอกจากจะขึ้นอันดับ 1 หนังทำเงินของอเมริกา 3 สัปดาห์ซ้อนแล้ว ล่าสุดรายได้รวมทั่วโลกของหนัง เรื่อง Avatar ยังผ่านหลัก 1,000 ล้านเหรียญ หรือราว 35,000 ล้านบาท

    ติดอันดับ 4 หนังที่ทำเงินสูงสุดตลอดกาล รองจาก Titanic, The Lord of the Ring : the Return of the King และ Pirates of the Caribbean: Dead Man"s Chest เท่านั้น และเพราะหนังยังไม่ถูกถอดจากโรง เลยทำให้มีหลายคนลุ้นให้หนัง Avatar ทำรายได้แซงหน้า ไททานิค ผลงานชิ้นเก่าของตัวเองที่เป็นหนังทำสูงสุดตลอดกาลของโลก.-สำนักข่าวไทย

    2010-01-04 18:57:24

    ที่มา http://news.mcot.net
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

แชร์หน้านี้