,,,,,ใด้ความรู้ลึกๆแบบไม่หมกเม็ด อ่านแล้วพอเข้าใจบางอย่างใด้ดีขึ้นมาก มีคำพูดที่ผมมักใด้ยินบ่อยว่า ทางที่ขีดใว้แล้ว ก็ควรให้เป็นไปอย่างนั้น แต่ผมกลับคิดว่า ความจริงนั้นมีอยู่ รอเพียงคนนำมาเปิดเผยเท่านั้น ขอบคุณมากครับคุณลุง,,,,,,
ผม...พระ...และ...สาระยุคก่อน
ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย modpong, 8 พฤษภาคม 2010.
หน้า 176 ของ 364
-
สวัสดีครับ คุณอา modpong และ ท่านสมาชิกที่แวะมาค้นหาปัญญาในกระทู้นี้ทุกๆท่าน
พอจะบอก "ความเป็นจริง" ให้ทราบบ้างได้มั้ยครับเกี่ยวกับ "วงการภายใน" ของหลวงปู่ทิม เพื่อเป็นประโยชน์แก่คนรุ่นหลังที่ไม่ทราบความจริง -
-
..อันนี้..ผมต้องขออภัยด้วย..ผมพูดแค่นี้..คงพอแล้ว...ลองไปหา..เซียนเก่าๆหน่อย..อายุ ๕๐ ขึ้นไป..เพราะยังพอทัน..เหตุการณ์ได้บ้าง..เอาที่เขาเป็น..สายกลาง..ไม่ใช่ภาคตะวันออก.แถวกรุงเทพนี่ก็ได้..อยู่ในวงการ ๓๐ ปีขึ้น..ส่วนใหญ่ก็จะทราบครับ..อยู่ที่จะพูด..หรือ..ไม่พูด......
-
สวัสดีครับคุณอา..... รบกวนถามนิดนึงครับพอดีไปอ่านเจอ เรื่องเอาไข่ขาวมาติดเป็นกาวไว้สำหรับ ซ่อมพระที่หักได้อันนี้ไม่ทราบว่าเท็จจริงอย่างไร สามารถทำได้หรือเปล่าครับแล้วจะมีผลกับเนื้อพระอย่างไรไหมครับ รบกวนคุณอาด้วยครับผม.....ขอบพระคุณมากครับ
-
พูดพระเครื่องหลวงปู่ทิม โดยเฉพาะพระพิมพ์ขุนแผนทีไรเป็นประเด็นทุกครั้ง พูดกันไม่จบเพราะเป็นผลประโยชน์ล้วนๆ คุณอาmodpong ว่าจริงมั๊ยครับ
-
ครับ... บอกแค่นี้ก็พอจะเข้าใจ ผมทันแค่ยุคนี้ครับคุณอา ในเรื่องสายนี้ก็เคยได้ยินได้ฟังมาบ้างเหมือนกันครับ เพียงแต่อยากจะทราบข้อมูลหลายๆด้าน ส่วนตัวสายนี้ผม ไม่เอา ครับ....
ตอนบวชผมบวช 11 ปี และบังเอิญโชคดีได้ติดตามเกจิอาจารย์ชื่อก้องในยุคนี้ (ไม่ขอเอ่ยนามนะครับแต่บอกไปคนรู้จักแน่ๆ ตอนนี้ท่านก็ยังอยู่ และ ยังมีวัตถุมงคลออกมาอยู่เรื่อยๆ)ได้อยู่วงในติดตามท่านไปปลุกเศกในที่ต่างๆบ่อยมากๆๆ (ผมตามไปประคอง+ถือย่ามเกือบทุกงานตั้งแต่บวชได้เข้าพรรษา 2)จึงพอจะได้รู้ได้เห็นมามากพอสมควรครับเกี่ยวกับการสร้างพระหรือเครื่องราง พีธีพุทธาภิเศกต่างๆในยุคปัจจุบัน ส่วนตัวผมว่า สื่อต่างๆ พวกพ้องและผลประโยชน์ (มหาศาล)มีความสำคัญมากๆครับเท่าที่ได้เห็นมาเอง สำหรับวงการพระเครื่องยุคนี้ส่วนใครเก่งจริงไม่เก่งจริง ดีไม่ดี มันอีกเรื่องนึง สื่อจัดให้ได้หมด........... -
รบกวนคุณอาฯอีกแล้วครับ เมื่อวานกลับไปบ้านพ่อแม่ ไปดูโต๊ะหมู่ เปิดกล่องเก็บพระ ที่ส่วนใหญ่เป็นพระที่รับแจกมา เพราะพ่อแม่ไม่ค่อยสนใจทางนี้เท่าไหร่ บังเอิญไปเห็นกริ่งองค์นี้ คาดว่าคงมีคนให้พ่อมา แต่ไม่ได้ถามพ่อว่ามาจากไหนวัดไหน เพราะรู้ว่าถามไปก็คงไม่ทราบแน่นอน เลยถ่ายรูปมาถามคุณอาฯครับ ไม่ทราบว่าเป็นอย่างไรครับ
ไฟล์ที่แนบมา:
-
-
คงไม่ต้องตอบ..ละมั้ง..ฮ่ะ..ฮ่ะ..ฮ่ะ
-
..มันคล้าวกาว..ครับ..แต่เขาเอามาผสม..มันเหนียวก็จริง..แต่รับแรงไม่ได้..มาก..บางท่านก็เอามา..ผสมกับผงพระที่บดละเอียด..อุดปะ..ก็ตัวมัน..โดนน้ำเข้าไปเรื่อยๆ..ก็ละลาย..มันติดไม่ทน..เขาเรียกว่า..ซ่อมแบบไม่ถาวร..ไม่แข็งแรง
..แต่ถ้าเอามา..ผสมกับ..ปูนสตุ(เปลือกหอยเผา...แช่น้ำทิ้งไว้..๒-๓ คืน..แล้วเอาขึ้นมา..)..ลักษณะนี้..ก็คือ..วิธีโบราณ..ช่วยเสริม..เพราะปูนมันก็มี..คุณสมบัติการยึดเกาะอยู่แล้วด้วย...ภาพเขียนสีตามผนังโบสถ์..เขาก็เอา..ไข่ขาวไปผสมด้วย..ครับ..เพิ่มการยึดเกาะ..
-
..ดูจากรูป..ก็มีเอกลักษณ์..เฉพาะตัว...มีวัดแน่..แต่วัดไหน..ผมก็ไม่ทราบเหมือนกัน..เพราะ..หลังปี ๒๕๐๐..ออกกันมา..เยอะมาก..เพียงแต่แน่ๆ..ไม่ใช่วัดสุทัศน์ครับ..เพราะมีบัว..ด้านหลัง....
-
-
มาอีกแล้วค่ะ คุณ ลุง เก๊แท้ไม่ถามเหมือนเดิมค่ะ ที่ตัวตะกรุด มีรอยจาร และที่รูปเหรียญเขียนเอาไว้ว่า วัน 6 เดือน 11 ปีมะโรง เทวา ศก ขอบคุณค่ะ
ไฟล์ที่แนบมา:
-
-
...อันนี้..ไม่ถามก็..จะบอก..เขาเรียก
"ของทำเล่น"..เก๋มาก..มีเหรียญเงินเจ้าคุณเฒ่า..ม้วนติดตะกรุด้วย....
......ของเก๊..สนิทใจ..ไม่ต้อง..สนใจหรอกครับ..ว่าจะ..จาร..อะไร...
-
ขอขอบคุณ
ทุกท่านที่ได้postมา............................
...............................การพิจารณาพระ...ของคนรุ่นเก่า...............................
จมูก(ต่อ)
............................พระเนื้อว่าน...................................................
............แน่นอน...พระเนื้อว่านอันดับ ๑ จะเป็น..พระอะไรไปไม่ได้....นอกจาก
.........หลวงปู่ทวดปี ๒๔๙๗ วัดช้างไห้..(ปีผมเกิด..พอดี..แต่..ผมไม่มี).........
........พระหลวงปู่ทวด..มีมวลสาร..ที่เป็นว่าน..ต่างๆ..นาๆ..ผสมอยู่ในเนื้อ.........
...ทำให้มี..กลิ่น..เป็น..ลักษณะเฉพาะตัว...เลียนแบบไม่ได้(ด้วยประการทั้งปวง)
..ยุคนี้..เนื้อก็เลียนแบบได้ใกล้เคียงแล้ว...แต่เค้าเน้นทีเนื้อ..ไม่ใช่กลิ่น...ผมเคย
เห็นมา..ระหว่างที่ไปสนามวัดมหาธาตุ..ตามปกติ..มีคนเอา..หลวงปู่ทวดมาปล่อย
..มีเซียน ๒ คน..เอามาส่องกัน..แล้วไม่ขาด..คนหนึ่ง..บอกขึ้นว่า..สงสัยต้องรอ..
พี่..หรือ..อาอะไร..ไม่ทราบฟังไม่ชัด(ถึงชัด.ก็..คงจำไม่ได้ครับ..ร่วมสี่สิบปีแล้ว)..
..แกมา..ดมให้..ผมเลยไปถามลุงขาซี้ผม..แกบอกว่าจริง..มีอยู่ ๒-๓ คนที่ดมขาด
..ถ้าแก..บอกว่าใช่ละ..ไม่ต้องส่องด้วยซ้ำ..แน่นอนมาก..ไม่มีพลาดเลย..นักดมเหล่านี้
..เชี่ยวชาญ..หลวงปู่ทวด..โดยเฉพาะ..ตอนนั้น..วัดเมือง..วัดพะโคะ..ยังถูก..อยู่เลย
(สมัยนั้น..นอกจาก ๓ วัดนี้..วัดอื่นที่ออกมา..รุ่นปี ๒๕๐๕ -๐๖ เขาไม่เล่นกันครับ..
ในสนามกลางที่กรุงเทพ...ไม่มี..ราคา(ถูกมาก)...เรื่องจริง.............................)
.............พระเนื้อว่าน..จึง..เหมาะอย่างยิ่ง..สำหรับดม..และชี้เป็นชี้ตาย..กันได้....
..ผมมาลองดม..วัดเมือง..และ..วัดพะโคะ..ก็จริงครับ..กลิ่นเป็นเฉพาะวัด..และ..
ชัดเจนมาก..ไม่เหมือนกัน..จะกัน..นักดมเหล่านี้ได้..ก็เลี่ยมทอง..อัดพาราฟินของ
หมอฟันให้สนิท..ละ..ยังงี้..จบ..ดูเนื้อ..พิมพ์ไปอย่างเดียว........................
...........................................................................................................
................................พระเนื้อดิน.....................................................
.......ดินเผาใหม่..กับ..ดินเผาเก่า...นี่กลิ่นชัดเจนอยู่แล้วครับ..กลบยาก.....
....ที่ผมบอกนั่นหละ..ลองไปดม..หม้อดินสมัยนี้..เอาที่เขาทำไว้ใส่ขนม..หรือ..
ที่เกาะเกร็ด..ทำเป็นของที่ระลึก..หรือเอา..หม้อดินสิบปี..ยี่สิบปี..มาดมก็ได้....
มันจะมีกลิ่นดิน..ที่เขาเรียกกันว่า.."กลิ่นหม้อใหม่"..เหลืออยู่..พระดินเผา..ก็เช่นกัน
..ถ้าดมบ่อยๆ..จะรู้และจับได้..อายุ ๔๐-๕๐ ปี..ก็ยังมีกลิ่นอยู่..คนไม่ชำนาญหรือไม่
เคยบอกไม่เห็นมี..อย่างผมจมูกเสียแล้ว..ปัจจุบัน..ยังจับได้....................
(...บ้านไม่มี..หม้อดิน..ก็ลองไปดม..กระถางต้นไม้ดินเผา..ก็ได้..จะได้รู้ว่ากลิ่นหม้อ
ใหม่..มันเป็นยังไง................................................................)
............แต่พระอายุ..เป็น..มากกว่า ๒๐๐ ปี..พวกพระกรุ..ต่างๆ..จะแทบไม่มีกลิ่น
แบบหม้อใหม่..แต่จะเป็นกลิ่นดินเผาเก่า..อ่อนๆแทน..ซึ่งมันคนละกลิ่น...คนที่หัด
ดม..ต้องดมพระเก่าเป็นจำนวนเยอะๆ..ถึงจะจับได้..แล้วในกลิ่นดินเผาเก่านี้..แต่ละ
เนื้อ..แต่ละกรุ..ก็ไมเหมือนกัน..เพราะอาจจะมี..กลิ่นว่าน..หรือ..วัสดุธรรมชาติบาง
อย่างที่ผสมอยู่..แทรกมาด้วย..นางพญา..อย่างนึง..ผงสุพรรณ..อย่างนึง..
..กำแพง..อย่างนึง...ลำพูนอย่างนึง...........(เรื่องนี้..ผมก็ได้..ไปคุย..กับนักดมมา
ด้วย..ผมเอง..ก็ลองกับ..พระกรุดินเผาที่บ้าน..ตั้งใจดม(หยุดบุหรี่..ไปครึ่งวัน..ล้าง
จมูก..เรียบร้อย)..ก็จริงครับ..กรุบ้านกร่าง..กับ..กรุลำพูน..นี่คนละกลิ่นเลย....
...หลวงพ่อจุก..ลพบุรี..ก็ด้วย..แต่กลิ่นจะ..บางๆ..............
................ฉะนั้น..พระปลอมมา..แบบธรรมดา..นี่..เสร็จ..ไม่รอด..ขนาด..พวกเอา
อิฐโบราณ..มาแกะ..นี่ดม..ก็บอกได้..เพราะพระ..แต่ละกรุมีเอกลักษณ์....
...............................ต่อตอนหน้าครับ...........................................
..........................................................สวัสดี........................................ -
พระเนื้อว่าน...................................................
............แน่นอน...พระเนื้อว่านอันดับ ๑ จะเป็น..พระอะไรไปไม่ได้....นอกจาก
.........หลวงปู่ทวดปี ๒๔๙๗ วัดช้างไห้..(ปีผมเกิด..พอดี..แต่..ผมไม่มี).........
........พระหลวงปู่ทวด..มีมวลสาร..ที่เป็นว่าน..ต่างๆ..นาๆ..ผสมอยู่ในเนื้อ.........
...ทำให้มี..กลิ่น..เป็น..ลักษณะเฉพาะตัว...เลียนแบบไม่ได้(ด้วยประการทั้งปวง)
..ยุคนี้..เนื้อก็เลียนแบบได้ใกล้เคียงแล้ว...แต่เค้าเน้นทีเนื้อ..ไม่ใช่กลิ่น...ผมเคย
เห็นมา..ระหว่างที่ไปสนามวัดมหาธาตุ..ตามปกติ..มีคนเอา..หลวงปู่ทวดมาปล่อย
..มีเซียน ๒ คน..เอามาส่องกัน..แล้วไม่ขาด..คนหนึ่ง..บอกขึ้นว่า..สงสัยต้องรอ..
พี่..หรือ..อาอะไร..ไม่ทราบฟังไม่ชัด(ถึงชัด.ก็..คงจำไม่ได้ครับ..ร่วมสี่สิบปีแล้ว)..
..แกมา..ดมให้..ผมเลยไปถามลุงขาซี้ผม..แกบอกว่าจริง..มีอยู่ ๒-๓ คนที่ดมขาด
..ถ้าแก..บอกว่าใช่ละ..ไม่ต้องส่องด้วยซ้ำ..แน่นอนมาก..ไม่มีพลาดเลย..นักดมเหล่านี้
..เชี่ยวชาญ..หลวงปู่ทวด..โดยเฉพาะ..ตอนนั้น..วัดเมือง..วัดพะโคะ..ยังถูก..อยู่เลย
(สมัยนั้น..นอกจาก ๓ วัดนี้..วัดอื่นที่ออกมา..รุ่นปี ๒๕๐๕ -๐๖ เขาไม่เล่นกันครับ..
ในสนามกลางที่กรุงเทพ...ไม่มี..ราคา(ถูกมาก)...เรื่องจริง.............................)
.............พระเนื้อว่าน..จึง..เหมาะอย่างยิ่ง..สำหรับดม..และชี้เป็นชี้ตาย..กันได้....
..ผมมาลองดม..วัดเมือง..และ..วัดพะโคะ..ก็จริงครับ..กลิ่นเป็นเฉพาะวัด..และ..
ชัดเจนมาก..ไม่เหมือนกัน..จะกัน..นักดมเหล่านี้ได้..ก็เลี่ยมทอง..อัดพาราฟินของ
หมอฟันให้สนิท..ละ..ยังงี้..จบ..ดูเนื้อ..พิมพ์ไปอย่างเดียว........................
...........................................................................................................
สุดยอดเลยครับคุณอาmodpong อีกความรู้นึงครับ ส่วนผมดมได้แค่พระใหม่พระเก่าเท่านั้นครับ -
หวัดดีครับพี่mopong:cool:
-
-
สวัสดีครับพี่ modpong ตามอ่านสาระดีๆ มาเรื่อยๆ วันนี้ถึงหน้า 150 พูดกันถึงเรื่องพระกริ่ง พระชัยวัฒน์ ประมาณปี 82-83 ซึ่งผมมีพระทรงพระกริ่งอยู่หนึ่งองค์ แต่เป็นเนื้อผง พิมพ์สามเหลี่ยม ด้านหลังมียันต์ และ พ.ศ. 2482 ใต้ฐานฝังตะกรุดด้วย ไม่รู้ประวัติเลยครับ เป็นของพ่อ (เสียชีวิตไปก่อนที่ผมจะสนใจเรื่องพระ เลยไม่ได้ถามความเป็นมา) เผื่อจะเคยผ่านตาพี่มาบ้าง
ไฟล์ที่แนบมา:
-
-
...ไม่เคย..ผ่านตา..เลยครับ..เห็นยันต์..ก็แปลก..คงไม่ใช่วัดสุทัศน์..แน่ๆครับ...เพราะถ้า..สายวัดสุทัศน์..ที่ทำพระเนื้อผง..ทั้งหลาย..ทั้งพระครูมูล..และ..เจ้าคุณสุพจน์(พระพุทธมนต์วราจารย์)..แห่งวัดสุทัศน์..ท่านก็จะใช้ยันต์หลัก..คือ พุทธ..ซ้อนกัน ๓ ชั้น..เวลาจาร..ก็ใช้อันนี้..เจ้าศรีท่านจารก็ใช้อันนี้...น่าสนใจครับ..แต่ต้องหาวัดให้เจอ..ซะก่อน..
หน้า 176 ของ 364