ผม...พระ...และ...สาระยุคก่อน

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย modpong, 8 พฤษภาคม 2010.

  1. modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933
    .........
    ..หวัดดี..หลานBear..ธรรมจักร..น้องthong..กำธรน้องรัก..หลานสวนพลู..พลศิริน้องรัก
    ..และ..onigiri..รวมถึงทุกคนในครอบครัวผม..
    ..........................................................................................
    .....สมเด็จองค์ต่อมา..รูปที่ ๒ ส่วนใหญ่..นักเลงพระดี๋ยวนี้..จะไม่ค่อยคุ้น...เพราะท่าน
    ..ไม่ปรากฏว่า..มีการทำพระ..หรือ..เครื่องรางของขลัง..ชัดเจน..ถ้าจะมีทำก็น่าจะทำให้เฉพาะ
    คน..มากกว่า..แต่จริงๆแล้วท่านเก่งมาก..และเป็นที่นับถือ..และ..โปรดปรานของ
    รัชกาลที่๕..มากกว่าสมเด็จองค์อื่น....
    .........ท่านครองอยู่..วัดสุทัศน์ฯ..เป็นอาจารย์..ของ..รัชกาลที่๕...
    ...และ..เป็นอาจารย์ของ..สมเด็จสังฆราชแพ......
    ..ท่านคือ..สมด็จพระวันรัต แดง ..................
    ....สิ่งหนึ่ง..ที่ท่านสร้างขึ้น..และ..อยู่คู่กับ..วัดสุทัศน์ฯคือ........
    ..พระสุนทรีวาณี..และ..คาถาสุนทรีวาณี......
    ...บทความจาก..เจ้าคุณพระราชวิจิตรปฏิภาน..ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสุทัศน์ฯ(ท่านผู้นี้..ถือ
    ว่า..คนทั่วไปน่าจะรู้จัก..เพราะเป็น ๑ ในยอดนักเทศน์ยุคนี้ ออกทีวีบ่อย..โวหารฉียบคม)
    ...ได้บอกล่าถึง..คุณวิเศษของสมเด็จฯท่านไว้..หลายเรื่อง..คือ..
    ......พระคาถาสุนทรีวาณี...ท่านเป็นผู้ประดิษฐ์ถอดมาจากคาถาอีกบท...
    ...เป็นคาถาสุดยอดเมตตา..มหามงคล..รุ่งเรือง..
    .......ตามที่บอกไว้นั้นว่า..รัชกาลที่๕ นับถือ..ท่านมาก..ก่อนจะเสด็จไปเยือนยุโรป..ก็
    เสด็จไปกราบลา..ท่านได้ทำนายว่าไปครั้งนี้จะเกิดเหตุมีการท้าทาย(..การรู้เห็นเหตุการณ์
    ล่วงหน้า..ก็คือ ๑ ในวิชาอภิญญา)..กับ..รัชกาลที่ ๕ ท่านเลยมอบ..พระคาถาสุนทรีวาณี..
    ให้ไป..(หลายท่าน..สงสัยว่า..เอ้..เท่าที่ทราบมานะ..ไม่ใช่เจ้าคุณเฒ่าเหรอ..ที่มอบคาถา
    มงกุฏพุทธเจ้าให้ไป...ผมคยสืบเรื่องนี้..แต่ไม่รู้ว่ามาจากไหน..เล่าต่อๆกันมา..ไม่เคลียร์
    ..แต่ผมว่า..ท่านเจ้าคุณราชวิจิตร..ชี้แจงมาน่าจะเชื่อถือได้มากกว่า..เพราะท่านเป็นพระ
    นักวิชาการ..และ..นักค้นคว้า..ถ้าเลื่อนลอยท่านคงไม่เอามาเล่า..แถมไอ้ที่แน่..เพราะมี
    หลักฐานยืนยัน..สืบเนื่อง..ก็แสดงว่า..เรื่องนี้น่าจะเป็นเรื่องจริง...)....นอกจากนั้นท่านก็
    ทรงนิมิตเกี่ยวกับคาถานี้..ออกมาเป็นภาพ..นางฟ้า(..ก็คือ..รูปพระสุนทรีวาณี..ของท่าน
    เจ้าคุณศรีฯ..ที่ได้ทำขึ้นมานั่นแหละครับ)..และ..ให้ช่างวาดตามนั้น..เขียนติดไว้ที่..
    ตำหนักท่านด้วย.....
    .....ก็..ป็นจริงดั่งที่ท่านทำนายไว้..ซึ่งรัชกาลที่๕..ได้ใช้คาถานี้ ๒ ครั้ง..ครั้งแรก..ขณะที่
    กำลังก้าวเหยียบขึ้นบนเรือรบ..เพราะพระองค์ท่านรู้ว่า..ฝรั่งมันดูถูกท่านจำป็นต้อง..
    สำแดง..อะไรบางอย่าง..ปรากฏว่า..พอเท้าหยียบที่กราบเรือ..เรือรบลำเบ้อร่อ..ถึงกับ
    ยุบและโคลงในทันที..สร้างความแตกตื่นให้พวกฝรั่งเป็นอันมาก..อีกครั้ง(ที่พวกเรา..
    คุ้นเคยกัน)..ก็คือ..ฝรั่งเอาม้าที่ดุร้ายและพยศ..แกล้งเอามาให้พระองค์ขี่...พระองค์ท่าน
    เสกหญ้าด้วยคาถานี้...ให้ม้ามันกิน..ปรากฏว่า..ม้าตัวนั้นกลับกลายเป็นม้าเชื่อง...
    ให้พระองค์..ขี่โดยดี..........
    ....เรื่องนี้..พระองค์ท่านเมื่อเสด็จกลับมาเมืองไทย..ก็รีบกลับไปเยี่ยมสมเด็จฯท่าน..
    แล้วเล่าให้ฟังถึงความศักดิ์สิทธิ์..ของคาถา..และได้ดูภาพต้นฉบับที่สมเด็จฯแขวนไว้
    ..ก็เลย ขอยืมไป..บูชาที่วัง..เป็นเวลา๕ปี..ตราบจนเมื่อ..สมเด็จฯท่านประชวรแล้ว..
    รัชกาลที่ ๕ เสด็จไปเยี่ยม..สมเด็จฯท่านจึงขอคืน..แล้วรัชกาลที่๕ก็นำมากลับมาให้ไว้
    ที่วัดสุทัศน์..จนปัจจุบันนี้....
    .....อันนี้ละครับ..ทำให้เรื่องนี้..จึงน่าเชื่อถือ..เพราะมีความต่อเนื่องและเกี่ยวพันกัน...
    ..(ทางพวกฮินดู..ได้เห็นภาพพระสุนทรีวาณี..ก็..บอกว่า..คือ..พระสุรัสวดี..)
    ..................................................................

    ................................

    .................รูปหล่อพระสุนทรีวาณี..ในโบสถ์วัดสุทัศน์ฯ.................
    ....................(ขอบคุณภาพจาก @ปักกาเป้า)

    สมเด็จพระวันรัต (แดง) ได้อธิบายว่า “รูปสุนทรีวาณี” นั้น หมายถึง พระโอษฐ์ของพระพุทธเจ้า ตามที่มาในพระคาถานี้ เป็นหลัก
    มุนินทะ วะทะนัมพุชะ คัพภะสัมภะวะ สุนทะรี
    ปาณีนัง สะระณัง วาณี มัยหัง ปิณะยะตัง มะนัง ฯ
    วาณี หมายถึง นางฟ้า คือพระไตรปิฎก มุนินทะ วะทะนัมพุชะ คัพภะสัมภะวะ สุนทะรี
    มีรูปอันงดงาม เกิดแต่ท้องแห่งดอกบัว คือพระโอษฐ์แห่งพระพุทธเจ้า ผู้เป็นจอมปราชญ์ทั้งหลาย
    ปาณีนัง สะระณัง เป็นที่พึ่งแห่งสัตว์ผู้มีปรารถนาทั้งหลาย มัยหัง ปิณะยะตัง มะนัง จงยังใจแห่งข้าพเจ้าทั้งหลายให้ยินดี
    ..................................................

    .............................ต่อตอนหน้า...................................
     
  2. สวนพลู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    6,596
    ค่าพลัง:
    +18,651
    ขอบพระคุณความรู้ดีๆครับ แต่สมัย ม.ปลาย ก็เจอพวกรุ่นแก่ๆเอามาโชว์พระปิลันธ์ แต่ผมละอ่อนอยู่ ก็ดูไม่เป็นครับ แม้กระทั่งตอนนี้ ก็ไม่เป็นครับ เพราะไม่เคยได้จับ เห็นแต่ในหนังสือดัชนีพระสมัยก่อน แต่เด๋วนี้พอซื้อมาอ่าน ผมว่าในเล่มน่าจะมีพระปลอมอยู่ด้วยครับ แต่วันนี้จะเอาพระคาถานี้ไปศึกษาครับ ไม่เคยได้ยินมาก่อนครับเพราะอาจจะไม่มีบรรจุในหนังสือสวดมนต์ครับและความรู้ยังน้อยนิด เป็นกำลังใจให้คุณอาต่อไปครับ
     
  3. modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933
    ...........................................
    ...นี่ยังไม่จบนะ..เรื่องคาถาสุนทรีวาณี..นี่..อาว่า..
    สุดยอดมาก..เพิ่งรู้เหมือนกัน..แต่ก่อนรู้จักว่า..เป็นพระของจ้าคุณศรีฯ..ก็คิดแค่ว่า..แปลก..สวยดีท่านั้น..อาก็สนใจ..แต่..พระกริ่ง..พระชัยวัฒน์..ซะมากกว่า...พอมาศึกษาประวัติของ..สมด็จพระวันรัต แดง..นี่แหละ..ถึงมีรายละเอียดให้ทราบ....อยากทราบรายละอียดที่มา..ที่ไป..นี่..ก็
    ไปอ่านที่นี่เลย..ตามเว็บของเจ้าคุณพระราชวิจิตนี้เลย
    http://www.katitham.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=539310035&Ntype=22
     
  4. split เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2013
    โพสต์:
    118
    ค่าพลัง:
    +582
    คาถานี้ไม่เคยได้ยินที่ไหนเลยครับ ขอบคุณความรู้ใหม่ๆครับ
     
  5. bearkery เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    1,668
    ค่าพลัง:
    +6,383
    ขอสอบถามแตกประเด็นหน่อยนะครับ
    คุณลุงครับแล้วแบบนี้เรื่องที่ผมเคยอ่านผ่านตามาเกี่ยวกับพระคาถามงกุฎพระพุทธเจ้า (อิติปิโส วิเสเสอิฯ) จะมีความสัมพันธ์กับรัชกาลที่ 5 หรือไม่ครับ (ในความคิดเห็นของคุณลุงนะครับ) และถ้ามีคุณลุงคิดว่ามีความสัมพันธ์กับหลวงปู่ หลวงพ่อท่านใดครับ .......ผมเคยได้อ่านมาว่า สมเด็จพุตฒาจารย์โต (พรหม รังสี) ได้มอบพระคาถามงกุฎพระพุทธเจ้าให้แก่รัชกาลที่ 5 ก่อนท่านเสด็จประพาสยุโรปครับ .....ซึ่งเนื้อหาเรื่องราวเหตุการณ์ต่างๆ เหมือนที่คุณลุงเปี๊ยบเลยครับ ........ต้องขออภัยที่ขอสอบถามแตกประเด็นนะครับ
     
  6. modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933
    ...................................................
    ....ต้องทำความเข้าใจก่อน..เรื่องที่ลุงเล่านี้..เอามาจากบทความของ..พระ..เจ้าคุณราชวิจิตรปฏิภาณ..ท่านเป็นพระชั้นสูง..ถ้าไม่จริง..ท่านก็ผิดศีล..เปล่าๆปลี้ๆ..แล้วท่านจะมาเล่า..ทำไม..
    ..แล้วเหตุที่น่า..เชื่อถือ..ก็อธิบายไปแล้ว...
    ......และ..ก็บอกไปแล้วว่า..ไอ้ที่รู้มาก่อนหน้านี้..
    ไปสืบมาแล้ว..เลื่อนลอย.....
    ....สอนไปแล้ว..เรื่องความสมเหตุสมผล...
    ..ถ้าไอ้ที่ก่อนหน้ามาเลื่อนลอย..แล้วจะยังไปเชื่อต่อ..ทำไม....
    ..กลับไปอ่านซ้ำอีก ๓ รอบที่ลุงเขียน..นะ..แล้วคิดตามด้วย...
    ....ยิ่งไอ้ที่..มาบอกว่า..สมเด็จโตบอก..ยิ่งไร้สาระเข้าไปใหญ่....ไม่เข้าใจจริงๆ..สอนไป..พูดไปจนปากเปื่อย..ปากแฉะ...ว่าจะเชื่ออะไร..ให้มันมีความสมเหตุ..สมผล..คิดซะก่อนที่จะเชื่อ..
    ..สมเด็จโต..มรณะ ๒๔๑๕ ร.๕ ประพาสยุโรปครั้งแรก ๒๔๔๐................
    ...แล้วมันเป็นไปได้มั้ย..........
    ...ไอ้หลานคนนี้...นี่..อยู่ใกล้ๆ...โดนเขกกบาลไปแล้ว...สอนไม่จำ
     
  7. สวนพลู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    6,596
    ค่าพลัง:
    +18,651
    กระผมขอวิเคราะห์ว่า คาถามงกุฏพระพุทธเจ้านั้น ส่วนใหญ่เขาไว้คุ้มครองตัว ทำตะกรุดได้ และก็เสกน้ำถอนคุณไสยได้ แต่เสกหญ้านั้น ผมก็เริ่มงงๆ แต่หลวงพ่อท่านก็บอกว่าแล้วแต่จิตจะให้เป็นไปในทางไหน (ซึ่งผมไม่แน่ใจว่าเสด็จพ่อ ร.5 จะถึงขั้นกำหนดจิตได้ตามใจนึกหรือป่าว) หลังจากศึกษาตัวคาถามาพอสมควร พอได้อ่านของคุณอา ซึ่งคาถานี้ ส่งผลด้านเมตตาชัดเจนแจ่มแจ้ง ก็น่าจะมีความเป็นไปได้ที่จะเป็นเช่นนี้ และอาจจะเป็นไปได้ว่า คาถาที่ใช้เหยียบเรือรบ กับ เสกหญ้า เป็นคนละพระคาถากัน ก็เป็นได้ครับ
     
  8. สวนพลู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    6,596
    ค่าพลัง:
    +18,651
    สมเด็จพุฒาจารย์(โต) คนที่จะทันท่านแล้วได้คุยแบบรู้เรื่อง เห็นจะเป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์คือ สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยะวงศ์(ช่วง บุญนาค) ซึ่ง ตอนนั้น เสด็จพ่อ ร.5 ยังเรียนอยู่เมืองนอกอยู่ และก็ยังเด็กอยู่มาก จึงเป็นท่าน ช่วง บุญนาค สำเร็จราชการแทนทุกอย่างในตอนนั้นครับ และสมเด็จโต ท่านก็ชราภาพมากแล้วด้วย ดังประวัติว่า

    เรื่อง จุดไต้เข้าวัง

    เมื่อประมาณ ปี พศ. 2411 ในขณะนั้น เป็นรัชสมัยของ

    พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว

    แต่พระองค์ยังทรงพระเยาว์ จึงจำเป็นต้องมี ผู้สำเร็จราชการแทน นั่นคือ สมเด็จเจ้าพระยา

    พระบรมมหาศรีสุริยวงศ์ (ช่วง บุนนาค) อย่างที่ทราบกันดีว่า ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์

    ผู้นี้มี บทบาทและอิทธิพลอย่างมาก ด้วยมีข่าวลือหนักเกี่ยวกับ ราชบัลลังก์ของล้นเกล้า

    รัชกาลที่ 5 สมเด็จพระพุฒาจารย์ โต พรหมรังสี ท่านได้ จุดไต้ กลางวันแสกๆ

    เดินทางไปยังที่พักของผู้สำเร็จราชการซึ่ง สมเด็จเจ้าพระยาพระบรมมหาศรีสุริยวงศ์

    เคารพนับถือสมเด็จพระพระพุฒาจารย์ โต พรหมรังสี อย่างมาก

    จึงได้ถามว่า

    "เจ้าประคุณสมเด็จ มีปัญหา มีความคับข้องใจอย่างไร จึงได้จุดไต้เข้ามาพบ

    ทั้งๆ ที่เป็นเวลากลางวัน"

    สมเด็จพระพุฒาจารย์ ก็ได้ตรัสตอบว่า

    "เห็นบ้านเมืองมืดมน ตามข่าวที่ได้รับมาว่า จะมีการยึดอำนาจ ในการที่จะไม่ให้มีกษัตริย์

    สืบราชวงศ์ลูกศิษย์ ลุกหา จำนวนมากได้ มาบอก มาเล่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว

    หลายเรื่องหลายราวมากจึงทำให้อาตมาภาพ มีความรู้สึกห่วงใย ต่อบ้านเมือง

    ต่อราชบัลลังก์ จึงได้มาขออนุญาตพบท่านสมเด็จเจ้าพระยาพระบรมมหาศรีสุริยวงศ์

    ในวันนี้"

    เมื่อได้รับฟัง พระอาจารย์ที่เคารพนับถือยิ่ง ถามเช่นนี้ สมเด็จเจ้าพระยาพระบรมศรีสุริยวงศ์

    ก้มลงกราบ และได้ให้คำมั่นสัญญาว่า

    "ตราบใดที่ข้าพเจ้า มีชีวิตอยู่ จะดูแลรักษาราชบัลลังก์นี้ไว้ให้กับสมเด็จพระยุพราช ได้ขึ้น

    ครองราชย์สมบัติตามกฏมณเฑียรบาล ราชประเพณีสืบต่อไป ขอองค์เจ้าประคุณสมเด็จ

    อย่าได้วิตกกังวลไปเลย ขอรับกระผม"

    เมื่อสมเด็จเจ้าพระยาฯ ได้ตรัสตอบให้คำมั่นสัญญา สมเด็จพระพุฒาจารย์ โต พรหมรังสี

    ก็ขอบใจ และขอฝากให้ช่วยดูแลบุคคลที่คิดไม่ดีไม่งาม บุคคลที่คิดทำลายราชบัลลังก์

    ให้อยู่ในสายตาของสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์

    และขอให้คำมั่นสัญญานี้ไว้จนชั่วชีวิต

    ประโยคที่ ท่าน (ช่วง บุนนาค) ที่ให้กับสมเด็จ(โต)ไว้คือ สัจจัง เว อมตะวาจา ครับผม

    สมเด็จโตจุดไต้ - ข่าวไทยรัฐออนไลน์
     
  9. bearkery เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    1,668
    ค่าพลัง:
    +6,383
    ขอบคุณคุณลุงและพี่สวนพลูครับสำหรับข้อมูลเทียบกับปี พศ จริงๆ แล้วผมก็เชื่อตามที่คุณลุงอ้างอิงข้อมูลจากท่านเจ้าคุณพิพิธนะครับ (เมื่อคืนผมตามเข้าไปอ่านในลิ้งค์ทั้ง 2 ภาค เป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ) เมื่อก่อนต้องยอมรับจริง ๆ เพราะเชื่อตาม ๆ กันมาโดยไม่ได้คิดถึงเรื่องปี พศ จริงๆ ครับ แบบนี้ยิ่งดูยิ่งชัดเจนครับ ........ :cool:

    แล้วแบบนี้ต้นสายของพระคาถามงกุฏพระพุทธเจ้า คุณลุงพอทราบที่มาไหมครับว่ามาจากพระอาจารย์ท่านใด ที่ผมเห็นชัด ๆ ก็เหรียญรุ่นแรก ของ หลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม (ผมไม่มีนะครับ เคยเห็นแต่ในรูป) แต่ไม่แน่ใจว่าท่านใช่ต้นสายเลยหรือไม่ครับ
     
  10. MasterTest เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    625
    ค่าพลัง:
    +1,031
    สวัสดีครับคุณครู _/\_
    มาติดตามต่อครับ ^__^
    อ่านถึงตอนพระพุทธเจ้าหลวงเสด็จประพาสยุโรปแล้วผมนึกถึงพระกริ่งสวนเต่าขึ้นมาทันทีเลยครับ พระกริ่งในฝันเลยจริงๆ ^__^
     
  11. MasterTest เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    625
    ค่าพลัง:
    +1,031
    เพื่อเพิ่มอารมณ์ร่วมกับเรื่องราวในกระทู้ครับ ^__^
    ไทยยังคงเป็นไทมาได้เพราะรูปนี้...

    "การบัญชาทัพชั้นเอกคือชนะด้วยอุบาย
    รองมาคือชนะด้วยการทูต
    รองมาคือชนะด้วยการรบ..."

    ซุนวู
     
  12. สวนพลู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    6,596
    ค่าพลัง:
    +18,651
    ต้นสายของพระคาถานี่ยากที่จะสืบครับ หลวงพ่อกวยนำมาใช้ครับ ไม่ใช่ต้นสายอย่างแน่นอน มีมาอย่างน้อยผมว่า น่าจะเป็นสองร้อยปีเป็นอย่างน้อยครับ เหมือนหลายๆคาถา สืบต่อกันมาช้านาน จนไม่ทราบว่าเกจิคณาจารย์ท่านใดท่านสร้างไว้ เพราะว่า อย่างเช่นคาถาไก่เถื่อน เว ทา สา กุ กุ สา ทา เว ฯลฯ เขาว่าท่านสมเด็จพระสังฆาราช(สุก ไก่เถื่อน)เป็นผู้ใช้คาถานี้เสกข้าวให้ไก่ป่ากิน ผมก็คิดว่า ท่านใช้คาถา แต่อาจจะไม่ได้เป็นผู้คิดค้นก็ได้ครับ
     
  13. เฉียวฟง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    1,190
    ค่าพลัง:
    +4,913
    สวัสดีครับ..คุณอา มาติดตามอ่านบทความวิเคราะห์ตอนต่อไปครับ..
     
  14. modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933
    .......................................
    ...ถ้าเผื่อเรา..จำได้..ลุงเคยบอกว่า..ยันต์..หรือ..คาถา..นี่มันมี ๒ แบบ คือ แบบอินเตอร์ คือมีมาแต่ดั้งเดิม..และ..มีหลายสำนักใช้..มันเก่าแก่จน..ไม่ทราบที่มา..มีทั้งแบบง่าย..
    ลงไม่กี่ตัว..กับลงเยอะตัว..ซึ่งยันต์หรือคาถาเหล่านี้..ก็จะมีอยู่ในตำราการเรียนยันต์หรือคาถาทั่วๆไป...
    ..ขึ้นกับความเหมาะสม..อุปเท่ห์ของยันต์หรือ คาถานั้นๆ.....
    ..ซึ่ง..คาถา..และ..ตัวยันต์นี้..ก็เป็นเช่นนั้น..
    ..ชื่อยันต์ก็เป็นยันต์มงกุฏพุทธเจ้าเช่นกัน....
    (อักขระที่อยู่บรรจุในยันต์..ก็คือ..คาถา)
    ...ที่แน่ๆ..และ..คนละสำนักแน่..(ลุงตรวจแล้ว)..ไม่เกี่ยวกัน...
    ..ใช้ก่อน..และ..ปรากฏให้คนอื่นเห็นมาก่อนหลวงพ่อกวย..ก็คือ...
    ...หลวงพ่อครื้น วัดสังโฆ สุพรรณบุรี..เจ้าตำรับตุ๊กแก..อันดับ๑ ของประเทศ...ซึ่งท่านจะประทับยันต์นี้..อยู่บนผ้ายันต์ของท่านเอง...
    .....ยกมาให้ดูว่า..ไม่ต้องไปหาที่มาให้เมื่อยหรอก..อาจจะมากกว่า ๒๐๐ ปี..ด้วยซ้ำ..
     
  15. modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933
    ...................
    ...หวัดดี...หลานสวนพลู..หลานbear..Mastertestศิษย์ครู..April
    ..และ..เฉียวฟงหลานรัก..รวมถึง..คนในครอบครัวผม..
    ...............................
    ..ต่อจากตอนที่แล้ว.........
    ...............................
    .................................................................................
    ......พระคาถานี้..จึงเป็นเหมือนมรดก..แห่งวัดสุทัศน์..ที่สมเด็จฯท่านมอบให้...
    ..ผู้ที่ได้สืบทอด..และ..นำมาใช้การปลุกเสกพระ..ท่านแรก..ก็คือ..ลูกศิษย์ของท่าน
    ...พระสังฆราชแพ นั่นเอง..ถึงแม้จะไม่ใช่..พระคาถาในสูตร..ทำพระกริ่ง..พระชัยวัฒน์..
    ...ท่านก็ใช้..ด้วย..และ..ลูกศิษย์..จนถึง..หลานศิษย์..ไม่ว่า..ปลุกเสกพระครั้งใด..ของ
    วัดสุทัศน์..ก็ต้อง..นำคาถานี้..ไปปลุกเสก..ด้วย.....
    ..........ผมขอเกริ่น..มาแค่นี้..ก็พอ..เพื่อให้ท่าน..ได้ทราบถึง..คุณวิเศษของ..สมเด็จพระ
    วันรัต(แดง)..แห่ง วัดสุทัศน์..ซึ่งเป็นสมเด็จพระราชาคณะ..ในยุคนั้น......
    ..........................................
    ....ส่วนองค์ที่ ๓ ที่ผม POSTรูปเดี่ยว..แยกออกมานั้น...คิดว่า..มีไม่กี่ท่านที่รู้จัก..
    ..แต่ถ้า..นักเลงพระรุ่นเก่า..จะรู้จักท่าน..เพราะพระชุดเดียวที่ท่านทำ..แล้วนำไป
    ..บรรจุกรุ..ที่..วัดอัมพวา..นั้นพุทธคุณ..ยอดเยี่ยม..แม้จะราคาไม่แพง...แต่ก็มีคน
    ..นิยมเอาไปห้อยไม่น้อย..(รวมทั้งผมด้วย)...ที่ท่านนำไปบรรจุเพราะ..ช่วงนั้นท่าน
    เป็นประธาน..ปฏิสังขรณ์ที่นั่น.....ครับ..ขณะนั้น..ท่านเป็นพระราชาคณะชั้นรองสมเด็จ
    (ชั้นพรหม)จารึกชื่อในหิรัญบัตร...ที่..พระธรรมวโรดม..(คนที่..ไม่รู้เรื่อง..จะสงสัย
    อ้าว..คำนำหน้า..เป็น..ธรรม..ไม่ใช่ชั้น..ธรรมเหรอ(รองจากชั้นพรหม)..ไม่ครับ...
    มีข้อยกเว้นใน..บางกรณี..ไม่ใช่ชื่อตรง..แบบ..พระพรหมมุนี...)......
    ...หลังจากในช่วงนั้นไม่นาน..ก็เลื่อนขึ้นเป็น..สมเด็จพุฒาจารย์..แล้วเลื่อนไปสู่..
    สมณศักดิ์สุดท้าย..คือ..สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์.....ครับ..ผมกำลังพูดถึง.............
    .....พระธรรมวโรดม (ฤทธิ์) วัดบพิตรภิมุข(วัดเชิงเลน).............
    ............นั่นคือ..ตำแหน่งขณะนั้น..และครองวัดนั้นอยู่.........
    .........แต่นักเลงพระรุ่นเก่า..จะรู้จักใน..สมณศักดิ์สุดท้าย..และ..วัดสุดท้ายที่ครองคือ..
    ..........................................................................................
    ..สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์(ฤทธิ์) วัดอรุณราชวราราม...............
    ...........................................................................................
    .....ผู้ที่เป็น...อาจารย์..ของ..ลูกศิษย์..ระดับTOP ของ..ประเทศ..และ..ทำของออกมา
    ราคา..แพงกว่า..ท่านเป็น...สิบเป็นร้อยเท่า......
    ....ลูกศิษย์ที่มีชื่อเสียงของท่าน..ก็ไล่มาตั้งแต่....
    ............หลวงปู่ไข่ วัดเชิงเลน.......ทั้งเหรียญ..และ..พระปิดตา..หลักแสน..
    ............หลวงพ่อคง วัดบางกะพ้อม...(..ไปขอเรียนเป็นบางวิชา..คาดว่า..น่าจะเป็นด้านตะกรุด)
    ...........พระพิมลธรรม(นาค) วัดอรุณฯ เจ้าของตะกรุดหนังหน้าผากเสือ..ที่แพงที่สุด
    ในประเทศ
    ..........หลวงพ่อเส่ง วัดกัลยาณมิตร ..เจ้าของ..น้ำมนต์ดอกบัวบาน...สหายสนิทที่สุด
    ของ..หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี...คาดกัน..หลวงพ่อเส่ง น่าจะเป็น..ศิษย์รุ่นท้ายๆเลย..
    ........เป็นต้น...........
    .....ท่านเป็น..พระที่เก่ง..และ..มีอาคม..มาก..จึงมีคนมาขอเรียนวิชาเยอะ..ตั้งแต่
    อยู่..วัดเชิงเลน..แต่ผมว่า..เนื่องจาก..งานปกครองคณะสงฆ์..งานบริหารรัดตัว...
    ..ท่านเลยไม่ค่อนทำของ..แต่ที่แน่ๆ..คือ..ทำให้เฉพาะคน..และไม่มาก..ก็คือ..
    ..........................ตะกรุด.........เป็นที่เลื่องลือว่า..ท่านลงตะกรุดขลังมาก.....
    ...แต่ทีเด็ดของท่าน..และ..น่าจะทำยากคือ.."ผงกลับร้ายกลายเป็นดี".....
    ...ที่ตามประวัติว่า..ท่านใส่ลงใน..พระกรุวัดอัมพวา..ของท่านด้วย..และคง
    ..ปลุกเสก..พระชุดนี้..อย่างเต็มที่..เพราะ..เป็น..พระชุดเดียวของท่าน(เท่าที่ทราบ)
    ...เหมาะอย่างยิ่ง..สำหรับคนกำลังอยู่ในช่วงดวงตก..ราหูทับลัคน์...
    พระศุกร์เข้า..พระเสาร์แทรก................
    ......แค่นี้..ก็คงพออธิบายว่า..สมเด็จฯท่านเก่ง..ขนาดไหน......และ..ถ้าไม่ใช่...
    ระดับพระอภิญญา...จะมีลูกศิษย์ที่เก่งอยู่แล้ว..อย่างหลวงพ่อคง..หลวงปู่ไข่
    มาเรียนด้วย..คงเป็นไปไม่ได้แน่นอน....

    ...................

    ...ภาพของ..สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์(ฤทธิ์) วัดอรุณราชวราราม..กับ..พระกรุอัมพวา..ที่ท่านสร้าง.......
    (ขอบคุณภาพจาก คมชัดลึก )

    ..................ต่อตอนหน้า...................
     
  16. punthai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    153
    ค่าพลัง:
    +320
    อ่านบทความมามากมาย บทความนี้เปิดสมองจริงๆ ทุกอย่างผูกโยงไปหมด
     
  17. bearkery เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    1,668
    ค่าพลัง:
    +6,383
    ผมถามนอกเรื่องมาหลายช่วง
    ตอนนี้ขอกลับมาติดตามต่อตอนต่อไปเหมือนเดิมครับ
     
  18. สวนพลู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    6,596
    ค่าพลัง:
    +18,651
    มาติดตามตอนต่อไปครับ ได้ความรู้พระยุคโบราณกาลด้วย ขอบพระคุณ คุณอาครับ
     
  19. กำธร นครปฐม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    2,756
    ค่าพลัง:
    +7,203
    มารอติดตามอ่านครับ
     
  20. เขมทัต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2007
    โพสต์:
    623
    ค่าพลัง:
    +2,252
    รอติดตามตอนต่อไปครับอา

    ได้ความรู้เยอะจริงๆ
     

แชร์หน้านี้