ผมเคยนั้งสมาธิตอนอายุสิบกว่าปี ตอนนั้นผมรู้สึกว่าตัวผมได้โตขึ้นรู้สึกว่าข้างในแก้มเต็มไปด้วยเนื้อร่างกายใหญ่คับห้อง จนนั่งระยะหนึ่งเกิดวะตะสงสาร มีคำถามว่าเรามีตัวตนข้างในเรามีวิญญาณจริงหรือ นึกถึงจักรวาลที่สุดเขตแดน มองแขนขาตัวเองรู้สึกวิเศษที่เครื่อนไหวขยับได้ อะไรทำให้เราคิดเครื่อนไหวได้ หรือวิญญาณของเรา เมื่อเราดับเราไปไหน วิญญาณเรามีไหม พอมาอีกทีรู้สึกโศกเศร้าในร่างกาย และสิ่งรอบๆตัว รู้ศึกว่าโดดเดี่ยวเควี้งคว้าง จนนั่งได้ระยะหนึ่งมีอะไรแปลกๆเข้ามา จนผมต้องหยุดไป เพราะอาจารย์ท่านได้ไปธุดงเสียแล้ว จนผมทำงานได้เริ่มนั่งใหม่ตอนนี้ผมทำได้แค่จิตใจสงบเท่านั้นครับผม คงเป็นเพราะความเป็นห่วงหลายๆอย่างจึงทำให้ไปได้ช้ากว่าตอนเป็นเด็กครับผม (เคยนอนแล้วพอตื่นมาเห็นร่างกายยังนอนอยู่ต้องพยานอนกลับไปหลายครั้งกว่าเราจะตื่นจากฝันนั้นจริงๆเป็นอย่างนี้มาหลายครั้งมันเหมือนฝันกิ่งความจริงครับผม ผมไม่มีความรู้มันจึงดูน่ากลัวครับผม)
พระเครื่องในคอผู้เฒ่าประจำบ้าน.. น.๔๘๙ สุดยอดแห่งแดนใต้..
ในห้อง 'วิธีดูพระเครื่อง-เครื่องรางของขลัง' ตั้งกระทู้โดย บุพนิมิต, 9 สิงหาคม 2010.
หน้า 43 ของ 728
-
ส่วนคุณอาร์มชิ นี่ตอนเด็กคงกิเลสน้อยกว่าตอนนี้แน่เลย จึงกลับมาไม่ได้ เหมือนผมเลย 555++ สู้ต่อครับ ผมก็จะสู้ต่อ แต่ออกพรรษาผมก็กลับมาดื่มน้ำเมาอีกครั้งแล้วครับ เลวดีจริงๆผมเนี่ย -
-
แต่ก่อนฝึกมโนยิทธิ...คุณนันต้องดับกิเลส "โทสะ" ให้ได้ก่อนครับ...เมื่อเกิดโทสะให้พิจารณาถึงเหตที่ทำให้มันเกิด เหตุที่มันยังคงอยู่ แลเหตุที่จะทำให้มันดับไปได้....
คนโกง...นั้นเกิดแต่กรรมของเขาผู้นั้น...
หากเขาเข้าใจกรรม...เขาย่อมไม่คิดโกง....
เขาโกง...เพราะมีโลภะกิเลส...และคงอยู่นาน ตั้งอยู่ในตัวเขานาน...เขามีความสุขกับการตั้งอยู่ของโลภะกิเลสที่เกิดแก่ตัวเขาขณะนั้น...จึงยังไม่มีเหตุที่จะดับไป...จนกว่ากรรมจะส่งผลให้สิ่งที่เขาได้มามันเสื่อมสูญไป...โลภะกิเลสเขาดับเมื่อใด...ผลที่เขาได้รับ...ย่อมนำความทุกข์ตามกรรมที่เขาทำมาสู่ตัวเขาเองเมื่อถึงเวลาที่เขาหมดบุญครับ....
อย่าไปเกิดโทสะเพราะกรรมของคนอื่นเลยครับคุณนัน...ฮ่าๆๆๆๆ
สาธุ สาธุ สาธุ.... -
หากจะเดินให้ถูกทาง...คงต้องอาศัยครูบาอาจารย์ท่านชี้แนะล่ะครับ....
สุราพาเพลินใจครับ...งดได้ล้วนเป็นกุศลต่อร่างกายครับ....
ผมเองก็...ฉายา "ลูกชายเซียนเมา" ครับ...ตอนนี้เลิกเด็ดขาดแล้วครับ.... -
-
-
เร่งเข้าน่ะครับพี่อาร์มชิ ผมก็จะเร่ง มันไกล้ได้เวลาแล้ว -
อ่ะนะพวกเราแต่ละคนถ้าทางมีวาสนาบารมีร่วมกันมาก่อน ถึงได้มาพบปะกันอีก แถมพูดเรื่องธรรมะพี่ยิ่งชอบ นี่ก็พึ่งกลับจากเผาศพมาวันนี้ไม่ค่อยว่างเลยไม่ได้เข้ามาพึ่งเข้ามาอ่าน กระทู้หลายเลย ดีครับการภาวนาคือ การปล่อยวาง สิ่งที่เราพบเจอในสมาธิมันเป็นเพียงทางที่เราต้องผ่าน สิ่งที่สำคัญคือสติ ถ้าเรามีสติก็คือเรามีภาวนา ผมเคยเดินจงกรมตั้งแต่ฉันข้าวเสร็จประมาณ 08.30 น. ไปจน 17.00 น.ทุกวัน ครูบาอาจารย์ท่านบอกว่า ดีออกกำลังกายดี ผมต้องกลับมาคิดว่า เราก็ทำความเพียร ครูอาจารย์ว่าเราออกกำลังกาย อ๋อเพราะเราไม่มีสตินี่เอง จิตมันคิดดีคิดชั่ว คิดรักคิดชอบเกลียดชัง เขาตลอดทั้งวัน ไม่เคยอยู่กับใจตัวเราเองเลย ส่งจิตออกนอกกายใจตลอดเวลา เป็นสัมภเวสี แสวงหาที่เกิด พอเราเข้าใจแล้ว ต่อไปเราก็ตั้งสติอยู่กับภาวนาไปเรื่อยๆ สงบเราก็ไม่เอา ไม่สงบเราก็ไม่เอา วางใจให้อยู่กับสติรู้เฉย อยู่กับการภาวนา ไม่ช้าใจมันก็สงบ ที่ไม่สงบเพราะเราเกิดความอยาก ที่จะให้สงบ มันจึงไม่ถึงความพอดี
-
กสินเป็นการฝึกที่จะทำให้ผู้ฝึกเข้าถึงจตุถณานได้ แต่ต้องมีครูอาจารย์คอยดูครับเพราะอาจจะผิดทางเพราะติดฤทธิ์ได้ กสินเป็นการเพ่งจิตให้อยู่กับรูปในิมิตเช่นดิน น้ำ ลม ไฟ สี เป็นต้น ควรระมัดระวังแต่ถ้าท่านมีอุปนิสัยมาก็อนุโมทนาด้วยครับดีทั้งนั้นอย่างน้อยก็ทำใจเราให้สงบ
-
เฉียบ.............................. -
-
แต่หากได้พบกับพระผู้ปฏิบัติ...ย่อมได้พบผู้ชี้ทางที่ดี แลอาจได้พบผู้ที่สามารถบอกเราได้ว่า..บุญเรามีเท่าใด กรรมเรามีเท่าใด....
แต่ทุกอย่างจะล้วนไร้ความหมาย ไม่มีสำคัญเท่า...หากเรามุ่งมั่นที่จะปฏิบัติแลเคร่งครัดตามรอยพระพุทธองค์ครับ....
ครูอาจารย์ผู้ประเสริฐ...แลแตกฉานในข้อปฏิบัติ...หากเราได้พบจริง...ย่อมประเสริฐกว่าที่จะลองผิดลองถูกด้วยตนเองครับ....
ผมเพียงแค่ทำสมาธิเพื่อให้จิตสงบ...ไม่ฟุ้งซ่าน...
ไม่วิตกกังวลในเรื่องที่ไม่ที่ไม่ใช่เรื่องของตนเอง....
หรือคอยกำราบความคิดในเชิงลบ...ซึ่งบางครั้งแล่นเข้ามาในหัวโดยไม่รู้ตัว....
ได้แค่นี้...ถือเป็นสายกลางของผมแล้วครับ...
หากใกล้ชิดพระมากไปกว่านี้...เกรงว่าจะใฝ่รู้ทางธรรมมากเกินไป...เดี๋ยวคงได้บวชไม่สึกครับ ฮ่าๆๆๆๆๆ -
ทางธรรมหากเลือกเดินได้...ล้วนสร้างบุญบารมีครับ... -
หุหุหุ...สุดยอดครับพี่หน่อง...
อันนี้เข้าถึงแก่นแท้จริงครับ...
หลุดจากจุดนี้ไป...ก็บรรลุธรรมแล้วครับพี่ ฮ่าๆๆๆๆ -
"ที่ไม่สงบเพราะเราเกิดความอยาก ที่จะให้สงบ มันจึงไม่ถึงความพอดี"
จุดสุดยอดของการเจริญสติ...อยู่ตรงนี้ครับ...
หากพ้นตรงนี้ไปได้...ก็เข้าสู่สมาธิจิตจริงๆครับ...
ลองพิจารณาดูบ่อยๆนะครับ...สงบจริงๆ หรือเพราะเราคิดไปเองว่ามันสงบ...
เพราะหากท่าน armchi สงบจริงๆ...ท่าน armchi ต้องไปได้ไกลกว่านี้ได้อีก...
สาธุ สาธุ สาธุ....(ขนลุกเลยเรา หุหุหุ) -
น้องๆหลายท่าน ยังต้องการคำชี้แนะจากผู้บรรลุแล้วอย่างพี่พีอยู่ด้วยเช่นกันนะครับ...
ฮ่าๆๆๆๆ..... -
-
หน้า 43 ของ 728