พิมพวดี สื่อวิญญานบาป.....บุญ

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย มหาหินทร์, 8 พฤศจิกายน 2005.

  1. มหาหินทร์ ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2005
    โพสต์:
    21,454
    ค่าพลัง:
    +181,786
    ผมก็นึกว่ากรรม กรรมแน่แท้ เพราะแม้แต่สัตวแพทย์เขาจะทำการผ่าตัด เขายังใช้ยาระงับความรู้สึก ระงับความปวด นี่ผมเป็นคนแท้ๆ ยังโดนแบบนี้ ว่าแล้วท่านก็เอามีดกรีดลงบนคิ้วขวาเรื่อยไป ผมสะดุ้งสุดตัวด้วยความเจ็บปวด ร้อนครวญครางออกมา....

    ท่านอาจารย์ก็บอกว่า
     
  2. มหาหินทร์ ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2005
    โพสต์:
    21,454
    ค่าพลัง:
    +181,786
    ก่อนที่หนูพิมพ์จะจากไปนั้น ผมได้ถามแกว่ามีอะไรขาดเหลือบ้างไหม ผมจะทำบุญอุทิศไปให้....

    หนูพิมพ์บอกว่า แกไม่มีอะไรขาดเหลือ พร้อมบริบูรณ์หมด....

    แต่เสียดายอยู่อย่างหนึ่งคือ แกยังทำการฝีมือไม่เสร็จ ขอให้ผมนำผ้าขาว กว้างศอกเศษ ยาวศอกเศษ ด้ายมันสีน้ำเงิน กับเข็มโครเชต์ไปวางไว้หน้ารูปแกที่ศาลาพิมพวดี ด้วย เพราะคุณพ่อของแกเอาไปทิ้งเสียแล้ว ทั้งๆ ที่แกยังปักรูปดอกไม้ไม่เสร็จ ก็มาตายเสียก่อน
     
  3. มหาหินทร์ ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2005
    โพสต์:
    21,454
    ค่าพลัง:
    +181,786
    คืนนั้น ผมนอนหลับได้ดีมาก อาการปวดประสาทมีรบกวนนิดหน่อย ตอนที่หลับก็หลับสนิท ไม่มีอะไรมาแผ้วพานในใจ ผมก็เข้าสมาธิต่อไปเรื่อย ๆ เมื่อรู้สึกตัว….

    เช้าวันอาทิตย์ ผมถวายบังคมลาสมเด็จพระราชบิดา ลาพยาบาล ลาแพทย์ที่ช่วยเหลือ…
    .
    ก่อนกลับบ้านผมถือรูปหนูพิมพวดีไว้ในมือ แล้วสั่งให้รถแวะไปที่วัดมกุฏกษัตริยารามก่อน เพื่อไปดูศาลาพิมพวดี ไปดูรูปหนูพิมพ์ผู้มีพระคุณ….


    ผมยกมือขึ้นอุทิศส่วนกุศลให้เธอ และบอกเธอว่า จะทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้ เมื่อสวดมนต์ก็จะอุทิศส่วนกุศลให้เธอทุกวัน จนกว่าผมจะตายไป และขอให้ได้พบกันเป็นพ่อลูกทุก ๆ ชาติ….
     
  4. มหาหินทร์ ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2005
    โพสต์:
    21,454
    ค่าพลัง:
    +181,786
    ผมขอจบเรื่องนี้ ด้วยความเชื่อว่า ....

    จิต และวิญญาณ นั้น มีจริง เพราะผมได้ประสบกับตัวเองมาแล้ว ดังที่เล่าให้ท่านฟังนี้…
    .

    ทุกคน ในรถทัวร์นั้น ต่างเงียบกริบ เมื่อผมเล่าเรื่องจบลง....

    คุณเสนาะ นิลกำแหง สมาชิกผู้หนึ่งในคณะที่เราไปเที่ยวเล่นกอล์ฟกัน ได้ยินขึ้นพูดว่า ….
    “ผม..เสนาะ นิลกำแหง....คุณหมออาจินต์ อาจจะยังไม่รู้จักผมละเอียดนัก เพราะเพิ่งเดินทางมาเที่ยวกันเป็นครั้งแรก ผมขอเรียนว่า เด็กหญิงที่เป็นโรคอ้วนแล้วเสียชีวิต ที่ตึกวิบูลลักษณ์นั้น เป็นเรื่องจริง เพราะเด็กผู้หญิงคนนั้นเป็นลูกสาวของผม เธอเสียชีวิตที่โรงพยาบาลศิริราช ด้วยโรคอ้วน เนื่องจากฮอร์โมนผิดปกติ ไม่มีทางรักษาให้หายได้ เมื่อ พ.ศ. 2502 และจำนวนพี่น้องที่เธอบอกกับหมอเป็นความจริงทุกประการครับ…

    ผมขอยืนยัน และไม่ต้องไปถามที่ไหนอีกแล้ว”

    ผมก็ยกมือไหว้ท่าน เพราะท่านแก่กว่าผม แล้วเรียนท่านว่า....
    “ผมเพิ่งรู้ว่า คุณเสนาะเป็นบิดาของหนูที่เป็นโรคอ้วนตายวันนี้และเดี๋ยวนี้เอง”

     
  5. มหาหินทร์ ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2005
    โพสต์:
    21,454
    ค่าพลัง:
    +181,786
    บาป บุญ คุณ โทษ ตาย แล้วเกิด คุณเชื่อหรือ ว่า มีจริง หรือ ไม่มี



    เรื่องนี้ อาจจะมีคติอยู่บ้างพอสมควร....

    ขอท่านผู้อ่านทุกคน จงได้รับกุศลผลบุญนี้ทุกท่าน และหากข้อเขียนนี้เกิดประโยชน์ในทางการบุญการกุศลแก่ท่านแม้แต่น้อยนิดก็ตาม ขอให้ได้รับกุศลนี้โดยทั่วกัน

    และหวังว่าท่านผู้อ่านทุกคน คงมีใจเมตตา อุทิศส่วนกุศลของท่านที่บำเพ็ญกุศลแล้ว แก่หนูพิมพวดี โหสกุล

    เพื่อที่เธอจะได้ประสบสุขต่อไปทุกชาติทุกภพ....ในฐานะที่เธอเป็นผู้ให้ความสว่าง ว่า ....“บาปบุญมีจริง กรรมและผลแห่งกรรมมีจริง” แก่ผม และทุกท่าน
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  6. มหาหินทร์ ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2005
    โพสต์:
    21,454
    ค่าพลัง:
    +181,786
    พอผมเล่าเรื่องจบลง ทุกคนในรถทัวร์คันนั้น เงียบสนิททุกคน หันหน้ามามองหน้าผม

    และคุณเสนาะ นิลกำแหง ซึ่งท่านเดินมาที่ผมตรงที่ผมยืนพูดแล้วพูดว่า
    “แม้ผมจะเชื่ออะไรยาก แต่เรื่องนี้ทำให้ได้คิด และได้อะไรอีกแยะ”
    “คุณหมอน่าจะพิมพ์เรื่องนี้ไว้ไห้ได้อ่านกันหลายๆ คน เพราะประจักษ์พยานหลายๆ คนยังมีชีวิตอยู่ รวมทั้งคุณหมอด้วย ที่จากไปก็มีเพียงสองท่าน คือคุณทวี บุณยเกตุ และคุณชิตสุวรรณปัทม์ แต่ผู้อื่นยังมีชีวิตอยู่ แม้แต่คุณเสียง โหสกุล กับภรรยา ท่านศาสตราจารย์หมออุดม และตัวผมเอง (คุณเสนาะ นิลกำแหง)

    ถ้าทิ้งไว้ไม่เผยแพร่ให้ทราบทั่วๆ กันไว้ อีกหน่อยเรื่องก็จะเงียบหายไป แล้วจะเกิดเรื่องใหม่ที่คลาดเคลื่อนต่อความเป็นจริงมาแทน แบบเรื่องนางนาค พระโขนง ก็เป็นได้”

     
  7. มหาหินทร์ ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2005
    โพสต์:
    21,454
    ค่าพลัง:
    +181,786
    ต่อคำถามที่เกิดขึ้นในใจตอนนี้....

    ผมขอตอบว่า ผมนะเชื่อเรื่องวิญญาณมีจริง จิตมีจริง และกรรมดี กรรมชั่วมีจริง
    และผลแห่งกรรมดี กรรมชั่ว ก็ตอบสนองกับเราจริง ด้วยครับ

    “เพียงแต่ว่า จะช้าหรือจะเร็วเท่านั้นครับ”
     
  8. มหาหินทร์ ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2005
    โพสต์:
    21,454
    ค่าพลัง:
    +181,786
    บทอุทิศส่วนกุศล

    1.อิทัง ปุญญะ ผะลัง ผลบุญใดที่ข้าพเจ้า(ทั้งหลาย)ได้บำเพ็ญมาแล้วตั้งแต่ต้น จวบจน ณ บัดนี้ ข้าพเจ้า(ทั้งหลาย) ขออุทิศส่วนกุศลนี้ ให้แก่เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย ที่เคยล่วงเกินมาแล้ว ตั้งแต่ชาติก่อนก็ดี ชาตินี้ ก็ดี ขอเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย จงโมทนาส่วนกุศลนี้ และขอจงอโหสิกรรมให้แก่ข้าพเจ้า นับตั้งแต่วันนี้ ตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพาน

    2. และ ข้าพเจ้า(ทั้งหลาย) ขออุทิศส่วนกุศล นี้ ให้แก่เทพเจ้าทั้งหลาย ที่ปกปักรักษาข้าพเจ้า และ เทพเจ้าทั้งหลาย ทั่วสากลพิภพ และพระยายมราช ขอเทพเจ้าทั้งหลาย และพระยายมราช จงโมทนาส่วนกุศลนี้ และขอจงเป็นสักขีพยานในการบำเพ็ญกุศล ของข้าพเจ้า ในครั้งนี้ ด้วยเถิด

    3. และ ข้าพเจ้า(ทั้งหลาย) ขออุทิศส่วนกุศลนี้ ให้แก่ท่านทั้งหลายที่ล่วงลับไปแล้ว ที่เสวยความสุขอยู่ก็ดี เสวยความทุกข์อยู่ก็ดี เป็นญาติก็ดี ไม่ใช่ญาติก็ดี ขอท่านทั้งหลายจงโมทนาส่วนกุศลนี้ พึงได้รับประโยชน์ ความสุข เช่นเดียวกับข้าพเจ้า จะพึงได้รับ ณ กาลบัดเดี๋ยวนี้เถิด

    4. ผลบุญใด ที่ข้าพเจ้า(ทั้งหลาย) ได้บำเพ็ญมาแล้ว ณ โอกาสนี้ ขอผลบุญนี้ จงเป็นปัจจัยให้ข้าพเจ้า(ทั้งหลาย) ได้เข้าถึงซึ่งพระนิพพาน ในชาติปัจจุบันนี้ ด้วยเถิด.

    อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ ภะคะวา พุทธัง ภะคะวันตัง อภิวาเทมิ (กราบ)
    สวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม ธัมมัง นมัสสามิ (กราบ)
    สุปฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ สังฆัง นะมามิ (กราบ)

    พระเดชพระคุณองค์หลวงพ่อพระราชพรหมยาน(องค์หลวงพ่อฤาษีฯ) แห่งวัดท่าซุง อุทัยธานี ได้อธิบายไว้ว่า....

    ข้อที่ 1 ในขณะที่ท่านเข้ากรรมฐานอยู่นั้น “สมเด็จโตฯ” ได้มาบอกว่า....
    “คุณ คนที่เกิดมาในโลกนี้นะ ที่จะไม่ทำความชั่วเลย นั้น ไม่มี ในเวลาขณะที่ใกล้จะตาย กรรมนิมิตทั้งที่เป็นบุญ และเป็นบาป ก็จะมาคอยให้ผล จะเป็นเสียงบ้าง เป็นภาพบ้าง นับว่าเป็นอันตรายมากสำหรับคนที่ทำบาปมาแล้ว.... ฉะนั้น.... การทำบุญทุกครั้ง จึงสมควรแนะนำเขา ให้อุทิศส่วนกุศล ให้แก่เจ้ากรรม นายเวร ของเขาด้วย บาปกรรมจะได้เบาลง ฝ่ายบุญก็จะชนะ นำเขาไปสู่สุขคติได้.

    ข้อที่ 2 ท่าน “พญายมราช” มาบอกกับท่านว่า....
    “ลูกหลานของท่าน ก็เหมือนลูกหลานของผม ผมก็รัก เป็นห่วงทุกคน แต่ในเมืองผีนี้ ไม่มีการเล่นพรรค เล่นพวก หรือเล่นเงิน เหมือนในเมืองมนุษย์ ผิดก็ว่ากันไปตามผิด ถูกก็ว่ากันไปตามถูก ตรงไปตรงมา.... ถ้าพวกเขาตายไป และมาถึงที่นี่แล้ว ผมจะถามถึงความดีที่ทำไว้ 3 ครั้ง ถ้านึกไม่ออก บอกไม่ได้ ก็จำเป็นต้องเอาไปลงนรกทั้งหมด.... ฉะนั้น.... ขอให้แนะนำพวกเขาว่า เมื่อทำบุญแล้ว ให้ตั้งใจอุทิศส่วนบุญ ส่วนกุศล ให้แก่ เทพเจ้าที่รักษาตัวของเขา และเทพเจ้าทุก ๆ พระองค์ ทั่วสากลพิภพ และพญายมราช ด้วย แล้วก็ขอให้พญายมราชเป็นสักขีพยาน เท่านี้แหละ ถ้าเขาตายมาแล้ว หากถามเขา เขานึกไม่ได้ ก็จะได้บอกให้ เขาก็จะได้ไปสู่ที่ดีก่อน.... องค์หลวงพ่อฯ ถามว่า คำอุทิศแบบนี้ ใช้ได้เฉพาะญาติของเราเท่านั้นหรือ ? พญายมราชบอกว่า ใช้ได้ทั้งหมด ใครจะใช้ก็ได้.


    ข้อที่ 3 การอุทิศส่วนกุศลให้คนที่ตายไปแล้ว เป็นญาติก็ดี ไม่ใช่ญาติก็ดี นั้น องค์หลวงพ่อฯ เห็นเองว่า....
    คนส่วนมากทำบุญไปแล้ว ก็เจาะจงให้แต่ญาติ พวกที่ไม่ใช่ญาติ ตั้งใจมารับบุญ มาแล้วก็ไม่ได้ เขาไม่เจาะจงให้ ก็ต้องเศร้ากลับไป “บุญ”เป็นของไม่หมด
    ฉะนั้น.... เราควรอุทิศส่วนกุศลให้ทั้งที่เป็นญาติ และไม่ใช่ญาติ วิญญาณทั้งปวงที่มา จะได้มีความสุขถ้วนหน้า

    ข้อที่ 4 บทสุดท้าย ที่ขอให้ถึงซึ่งพระนิพพานในชาติปัจจุบันนี้ ด้วยเถิด นั้น องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ท่านได้เสด็จมาบอกแก่องค์หลวงพ่อฯ ว่า....
    คนที่ไปสอนให้แก่พวกเขาทั้งหลาย ที่ให้อธิษฐานว่า ขอให้ถึงซึ่งพระนิพพานในอนาคตกาล โน้นเทอญ นั้น มันจะไปถึงได้อย่างไรสักทีละ เกิดมาแต่ละชาติ ๆ ก็อธิษฐานอย่างนี้ มันก็คดมา คดไป จนหาไม่เจอ....
    ฉะนั้น.... ให้คุณไปแนะนำชาวพุทธของเราใหม่ว่า ผลบุญใดที่ข้าพเจ้าได้บำเพ็ญแล้ว ณ โอกาสนี้ ขอผลบุญนี้ จงเป็นปัจจัยให้ข้าพเจ้าได้เข้าถึงพระนิพพานในชาติปัจจุบันนี้ ด้วยเทอญ ถ้าผู้ใดฉลาดก็จะเข้าพระนิพพานในชาตินี้ได้ ถ้าไม่ฉลาด ก็จะได้รวดเร็วกว่า ขอให้ถึงในอนาคตกาลข้างหน้า นั้น แล.
     
  9. มหาหินทร์ ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2005
    โพสต์:
    21,454
    ค่าพลัง:
    +181,786
    คำอธิบายบทอุทิศส่วนกุศล เพิ่มเติมในข้อที่ 2. (ตามความเข้าใจของผมเอง)

    คำอุทิศส่วนกุศล มีด้วยกัน ๔ ท่อน แต่ละท่อนมีความหมายที่เป็นที่เข้าใจอยู่แล้ว

    ที่จะขอ “อธิบาย” เพิ่มเติม ก็มีเพียงหัวข้อที่ ๒ เท่านั้น เหตุผล และความเป็นมาของบทอุทิศส่วนกุศลนี้ องค์หลวงพ่อฯท่านได้มีเมตตาบอกไว้ว่า “ท่านพญายมราช” ได้มาบอกไว้ เพื่อให้ลูกหลานขององค์หลวงพ่อฯ ไว้ใช้

    และได้อธิบายความสำคัญในท่อนที่ ๒ ให้ทราบว่า คนเราทุกคนในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่ นั้น ย่อมทำทั้งความดี และชั่ว(ผิดศีล) ในเมื่อตายไป ก็ต้องผ่านการสอบสวนที่ “สำนักพระยายม” ซึ่งวิธีการสอบสวนก็คือ ท่านพระยายมราชจะสอบถามว่า ในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่นั้นได้ทำความดีอะไรไว้บ้าง ถ้านึกได้ตอบได้ว่าเคยทำความดีอะไรไว้ ท่านจะให้ไปรับผลของกรรมดีไปสู่ “สุขคติ“ แต่บางคนอาจจะทำความเลว(ผิดศีล)ไว้มาก เมื่อท่านถามว่าเคยทำความดีอะไรไว้ ตัวอกุศลกรรมที่เป็นกรรมเลวก็จะปิดบัง ทำให้นึกไม่ออก จำไม่ได้ ว่าเคยทำกรรมดีอะไรไว้บ้าง ซึ่งหากเป็นเช่นนี้ ท่านจะสอบถามเพียง ๓ ครั้ง ถ้ายังตอบไม่ได้ ท่านผู้นั้นต้องไปรับผลของกรรมเลวในนรก เสียก่อน ซึ่งต้องทุกข์ทรมานมาก เมื่อหมดโทษจากนรกแล้ว จึงค่อยไปรับผลของกรรมที่เป็นความดีบนสวรรค์ หรือพรหมในภายหลัง

    แต่ ถ้าคนผู้นั้นเคยใช้บทอุทิศส่วนกุศลนี้ ซึ่งในท่อนที่ ๒ ได้ขอให้เทพเจ้าและท่านพระยายมราช เป็น“สักขีพยาน” ในการบำเพ็ญกุศลในครั้งนั้น ๆ และเมื่อพระยายมราชสอบสวนถึง ๓ วาระ แล้ว หากยังนึกไม่ออก ตอบไม่ได้ ท่านพระยายมราช ก็จะบอกว่า คนผู้นั้น ได้เคยขอให้ท่านเป็น“สักขีพยาน” ว่า คนผู้นั้นได้ทำบุญอะไรไว้บ้าง ท่านก็จะบอกเรื่องบุญที่เคยทำไว้ จะทำให้คนผู้นั้น นึกถึงกรรมดีได้ แล้วผลบุญทั้งหมด ก็จะรวมตัวกัน

    ท่านพระยายมราช ก็จะส่งให้คนผู้นั้นไปรับผลของ “กรรมดี”ในสุขคติเสียก่อน แล้วจะเตือนคนผู้นั้น ให้บำเพ็ญความดีต่อ บนสวรรค์ เพราะว่าหากไม่ทำความดีต่อ ถ้าหมดบุญบารมีแล้ว ก็ต้องมารับผลของกรรมชั่ว คือต้องดิ่งลงสู่ มหานรก ต่อไป ....

    ผลของการอุทิศส่วนกุศล อย่างน้อยก็หนีนรกไปได้ 1 ชาติ และจากนี้ไปอีกประมาณ
    1 ล้านปีมนุษย์ “พระศรีอาริยเมตไตรย” จะทรงลงมาตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ถ้าคนผู้นั้น อยู่บนสุขคติ เป็นเทวดา นางฟ้า ซึ่งมีความเป็นทิพย์ ได้ฟังเทศน์ จากพระพุทธองค์ท่านเพียงจบเดียว ก็มีโอกาสเป็น “พระอริยะเจ้า” ได้ อันมีพระโสดาบัน เป็นต้น พระอรหันต์ เป็นที่สุด ก็จะสามารถหนีกรรม(เลว)ได้สิ้นสุด อย่างแน่นอน

    เห็นประโยชน์ไหมครับ....
    เหมือนกับว่าเราต้องคดีอาญา แต่เรามีผู้พิพากษาเป็นพยานความดี เราก็ย่อมชนะคดี ไม่ต้องโทษทัณฑ์ แน่นอน

    ฉะนั้น วิธีนี้ก็เป็นวิธีการลดความเสี่ยงจากนรกได้เป็นอย่างดี อีกวิธีหนึ่ง สมควรอย่างมาก ที่จะแนะนำให้คนที่เรารัก คนที่เราเคารพ หรือญาติๆ ให้ใช้บทอุทิศส่วนกุศลนี้ กันเข้าไว้ เพื่อที่จะได้มี ท่าน”พระยายมราช” เป็น “สักขีพยาน” ตัวเราเอง ก็จะมีส่วนช่วย คนเหล่านั้น “ไม่ให้ตกนรก” ก็จะเป็น บุญกุศล ที่สูงอย่างยิ่ง

    มีกรรมหนัก ที่ไม่สามารถหนีนรกได้ ถ้าบุคคลผู้นั้นกระทำความผิด ที่ต้องโทษด้วย อนันตริยกรรม 5 อันเป็นกรรมที่หนักมาก ก็จะไม่สามารถช่วยให้รอดนรกไปได้ เช่นกัน โทษของอนันตริยกรรม ๕ มีดังนี้

    1. ฆ่าแม่ 2. ฆ่าพ่อ 3. ฆ่าพระอรหันต์
    4. เจตนาทำร้ายพระพุทธเจ้า ให้เพียงแค่ห้อพระโลหิต 5. ยุยงให้สงฆ์แตกแยก

    ทั้ง ๔ ข้อแรก คงผิดกันยาก.... แต่ข้อที่ ๕ อาจจะผิดกันได้ง่าย เช่น สอนธรรมะค้านคำสอนพระพุทธเจ้า ยุยงให้พระ และคณะสงฆ์ ให้มีความไม่พึงพอใจซึ่งกันและกัน ถ้าใครกระทำความผิด ที่ต้องโทษด้วย อนันตริยกรรม ๕ แล้ว ความดีต่าง ๆ ที่กระทำไว้ ไม่ว่าบุญนั้นจะยิ่งใหญ่มากมาย เพียงใดก็ตาม ต้องยกไปรอไว้ก่อน จนกว่าที่จะชดใช้กรรมที่ต้องโทษด้วย อนันตริยกรรม ๕ ในนรก “อเวจี” ให้หมดเสียก่อน จึงค่อยไปรับผลของกรรมดีที่ได้สร้างไว้


    ลักษณะการตาย และการอุทิศบุญ ให้แก่ผู้ที่ “ตายโหง”
    องค์หลวงพ่อฯ ได้มีความเมตตาบอกไว้ว่า คนที่ตายจะมี 2 สาเหตุ คือ ....

    สาเหตุที่ 1. เพราะ “สิ้นอายุไข” เช่น แก่ตาย ป่วยตาย อันนี้ เป็นไปตามกฎไตรลักษณ์ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ไม่ว่าใคร ก็จะไม่อยู่เหนือกฎเกณฑ์นี้ไปได้เลย หลวงปู่ หลวงพ่อ ครูบาอาจารย์ ที่มีฤทธิ์ มีเดช มีภูมิธรรมสุดยอดอย่างไร ท่านต่างก็พากันละสังขารไปทั้งนั้น องค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า ผู้เป็นเอกของโลก ท่านก็ละสู่พระปรินิพพาน....
    หากใครตายด้วยเหตุนี้ แล้ว หลังจากการตายก็ไปเสวยผล ตามบุญ และกรรม ที่สร้างไว้ก่อนตาย

    สาเหตุที่ 2. เพราะ สาเหตุที่เกิดจาก “อุปฆาตกรรม” เช่น อุบัติเหตุ, ถูกฆ่า ฆ่าตัวตาย หรือที่เรียกว่า “ตายโหง” อันนี้ เป็นเพราะว่า กรรมเก่า ที่เนื่องด้วยปาณาติบาตในอดีตชาติของพวกเขาเหล่านั้น เขามาริดลอน ทำให้ต้องตายก่อนที่จะสิ้นอายุไขของพวกเขา เมื่อพวกเขาตายไปด้วยเหตุนี้ จะเป็น “สัมภเวสี” จึงยังไม่สามารถเสวยผลบุญ และบาป ที่สร้างไว้ก่อนตาย จะเป็นวิญญาณที่เร่ร่อน อดอยาก ต้องทนทุกข์เวทนาจากการหิว จนกว่า จะถึงเกณฑ์อายุไขของตน....

    แต่ทว่า หากญาติมีความรู้ มีความฉลาด ก็จะทำบุญอย่างน้อยที่สุด ควรเป็น “สังฆทาน” แล้วอุทิศส่วนกุศล แบบเจาะจง ให้แก่เขาผู้นั้น เขาก็จะสามารถโมทนาบุญ และสามารถเสวยผลในสุคติ ได้ทันที....


    การอุทิศส่วนกุศล(เจาะจง) ให้แก่ผู้ที่ถึงแก่ชีวิตด้วยเหตุของ อุปฆาตกรรม(ตายโหง อุบัติเหตุ, ถูกฆ่า หรือฆ่าตัวตาย)

    อิทัง ปุญญะ ผะลัง ผลบุญที่ข้าพเจ้าได้บำเพ็ญมาแล้วตั้งแต่ต้น จวบจน ณ บัดนี้ พึงได้รับประโยชน์ ความสุข แก่ข้าพเจ้าเพียงใดก็ตาม ข้าพเจ้าขออุทิศส่วนกุศลนี้ ให้แก่ นาย / นาง........................... ขอให้ นาย / นาง.......................... จงโมทนาส่วนกุศลนี้ พึงได้รับประโยชน์ ความสุข เช่นเดียวกับข้าพเจ้า จะพึงได้รับ ณ กาลบัดเดี๋ยวนี้ เถิด.
    (หากไม่รู้จักชื่อ ก็เพียงคิดถึงเขา หรือนึกถึงภาพ หรือปรากฏการณ์ใด ๆ ที่เกิดขึ้น อันที่เรารู้ได้ ก็ได้เช่นกัน)
     
  10. มหาหินทร์ ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2005
    โพสต์:
    21,454
    ค่าพลัง:
    +181,786
    ผู้ร่วมสมทบทุนในการจัดพิมพ์หนังสือ(เล่ม 2 เล่มที่ มหาหิน ได้นำมาเผยแพร่ นี้)

    หลวงปู่ครูบาชัยยะวงศาพัฒนา วัดพระพุทธบาทห้วยต้น อ.ลี้ จ.ลำพูน 2,000 บาท
    พระสมพงษ์ สุภาจาโร วัดพระพุทธบาทห้วยต้น อ.ลี้ จ.ลำพูน 4,000 บาท
    คุณดุสิต จตุรงค์โชค (สำนักพิมพ์จามจุรีโปรดักท์) 3,000 บาท
    พ.ต.อ.สุข-นางราตรี พุกกะพันธุ์ 1,000 บาท
    นายจำรัส – นางสนิท นุตสาระ 1,000 บาท
    น.ส.แน่งน้อย ธีระชาติ 1,000 บาท
    พล.ต.ต.สมชาย สุทธินนท์ 500 บาท
    คุณกาญจนา ตั้งวงศ์ศิริ 2,000 บาท
    ครอบครัวสกุล พุกกะพันธุ์ 5,000 บาท
     
  11. มหาหินทร์ ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2005
    โพสต์:
    21,454
    ค่าพลัง:
    +181,786
    ผู้สนใจหนังสือเล่มนี้ เพื่อเผยแพร่ หรือแจกเป็นธรรมทาน ในงานต่าง ๆ

    สามารถติดต่อได้ที่....

    ดร.พรนพ พุกกะพันธ์
    1154 / 63 ซอยขุนนาม ถนนสามเสน
    เขตดุสิต กรุงเทพฯ 10300
    โทรศัพท์ 01-7322129 หรือ 02-2437319

    พิมพ์ที่ จามจุรีโปรดักค์ เลขที่ 78 / 145-146 ถนนพระราม 2 แขวงแสมดำ
    เขตบางขุนเทียน กทม. 10150 โทร.02-4515517

    (ไม่ทราบว่า มีการเปลี่ยนแปลงไปแล้ว บ้างหรือไม่)
     
  12. มหาหินทร์ ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2005
    โพสต์:
    21,454
    ค่าพลัง:
    +181,786
    ขอกราบโมทนาในบุญกุศลที่ท่าน ดร.พรนพ พุกกะพันธ์ ได้บำเพ็ญไว้ดีแล้ว....

    กระผมได้ขอกราบอนุญาตเผยแพร่ เพื่อหวังในอานิสงส์แห่งธรรมทาน สืบเนื่องไป....

    บุญใดที่ข้าพเจ้าได้บำเพ็ญไว้แล้ว ตั้งแต่อดีตชาติ จวบจน ณ บัดนี้ อานิสงส์ใดที่จะพึงมี พึงปรากฏ ขอท่าน ดร.พรนพ พุกกะพันธ์, คุณหมออาจินต์ บุณยเกตุและย่อมรวมไปถึงคุณพิมพวดี หนูอ้วนและผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ขอทุกท่านจงโมทนา....

    พึงได้รับประโยชน์ และความสุข ยิ่ง ๆ ขึ้นไปด้วยเถิด....

    กราบโมทนาในบุญ คุณ ความดี ของทุก ๆ ท่าน เป็นอย่างสูง….
    นายมหาหิน มีเนตร์ขำ
     
  13. มหาหินทร์ ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2005
    โพสต์:
    21,454
    ค่าพลัง:
    +181,786
    ขอฝากบุญไว้ ณ ที่นี้....

    ท่านที่อ่านจบแล้ว อย่าเก็บความรู้นี้ไว้ โดยเปล่าประโยชน์....
    พึงเผยแพร่ ให้ผู้อื่นได้อ่าน ได้รับทราบ ต่อ ๆ กันไป....
    อันจะเป็นประโยชน์แก่ท่านเอง ด้วยเป็นธรรมทาน.....
    ดัง พุทธดำรัส คำตรัสสอนของสมเด็จพระประทีปแก้ว ที่ว่า....
    สัพพะทานัง ธัมมะ ทานัง ชินาติ....การให้ธรรมะเป็นทาน ย่อมชนะทานทั้งปวง....

    อันจะเป็นเหตุให้ ความสำนึกในคุณธรรม ของสังคมส่วนรวม ก็จะดีขึ้น สูงขึ้น….

    ขอโมทนา คุณ ความดี กับทุก ๆ ท่านที่ตั้งใจเผยแพร่ธรรม....
     
  14. มหาหินทร์ ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2005
    โพสต์:
    21,454
    ค่าพลัง:
    +181,786
    บาป บุญ คุณ โทษ ตาย แล้วเกิด คุณเชื่อหรือ ว่า มีจริง หรือ ไม่มี

    อ่านจบ หรือยังครับ....

    ตอนนี้ ผมเองก็ง่วงสุด ๆ แล้ว เกือบ 6 โมงเช้าแล้ว....
    (b-green)
     
  15. มหาหินทร์ ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2005
    โพสต์:
    21,454
    ค่าพลัง:
    +181,786
    คุณ Linglek
    ได้อ่านต่อไหมครับ....
     
  16. artty เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    662
    ค่าพลัง:
    +2,386
    ขอบคุณมากนะคะ อ่านจบแล้วเรียบร้อยค่ะ สิ่งที่สอนให้อาร์ตเข้าใจก็คือ บาปที่เราทำไว้ไม่ว่าจะในอดีตชาติก็ดีหรือในปัจจุบันก็ดี บาปกรรมนั้นก็จะเป็นเหมือนเงาที่ติดตามตัวเราไปทุกที่ อาร์ตเชื่อเรื่องนี้มากๆ ถึงแม้นจะทำบุญมากเท่าใดบางครั้งอาจจะยังไม่เท่ากับสิ่งที่เรากระทำไว้กะเจ้ากรรมนายเวรในอดีต สิ่งที่ดีที่สุดสำหรับความคิดอาร์ตนั้นก็คือ การเจริญพระกรรมฐาน จะเป็นสิ่งเดียวที่สามารถช่วยให้บุคคลหรือวิญญาณที่ได้รับความทุกข์ทรมาน ให้ได้รับกุศลจากการเจริญพระกรรมฐาน ให้เค้าผู้นั้นหรือวิญญาณตนนั้นๆมีสภาวะที่ดีขึ้นหลุดพ้นจากทุกข์ทรมาน นี่คือสิ่งที่คิดนะคะ บางคนอาจคิดต่างจากอาร์ตก็ได้ไม่มีปัญหาจ๊ะ
     
  17. artty เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    662
    ค่าพลัง:
    +2,386
    อาร์ตเชื่อว่าบาปบุญมีจริง
     
  18. มะลิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    76
    ค่าพลัง:
    +596
    ขอบคุณมากๆเจ้าค่ะ ขออนุญาตเก็บไว้ที่เครื่องและส่งให้เพื่อนอ่านด้วยเจ้าค่ะ
     
  19. LingLek เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    85
    ค่าพลัง:
    +203
    เรื่องจริงเป็นงี้เอง จบมะค่อยเหมือนกะที่ดูละครมา แต่ขอบคุณค่ะที่ต่อจบจบซะละเอียดเลย เห็นมะคืนกว่าจะโพสจบก็เล่นอยู่ดึกเหมือนกันนิ๊ ... เป็นกำลังใจให้ก้า
     
  20. หลับตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    717
    ค่าพลัง:
    +3,151
    อ่านจบเรียบร้อยแล้ว ติดตามแต่แรกอ่านจนถึงตี 3 แล้วก็ไปนอน ขอโมทนาคุณมหาหินมากครับที่นำแบบเต็มมาเผยแพร่ ผมเคยอ่านมาแล้ววัยเด็กแต่ไม่ละเอียดเท่านี้
     

แชร์หน้านี้