เสียงธรรม พิสูจน์ตายเกิด-ตายสูญ

ในห้อง 'วัฏสงสารและกฎแห่งกรรม' ตั้งกระทู้โดย J.Sayamol, 15 มีนาคม 2011.

  1. J.Sayamol

    J.Sayamol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2008
    โพสต์:
    6,190
    ค่าพลัง:
    +21,530
    [​IMG]

    เวลานี้เราเกิดมาในท่ามกลางแห่งพระพุทธศาสนา ก็เรียกว่าเป็นบุญลาภของเราแต่ละท่านๆ อย่าให้เสียทีที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ ตามหลักธรรมที่ได้ยกขึ้นไว้ ณ เบื้องต้นนั้นว่า อนิจฺจา วต สงฺขารา สังขารร่างกายของเราทุกๆ ท่านตั้งอยู่ในความไม่แน่นอนทุกขณะ คือ สังขารร่างกายไม่เที่ยง ไม่เพียงไม่เที่ยงอยู่เฉพาะกาลเท่านั้น ไม่เที่ยงไปตลอดเวลา แปรอยู่โดยสม่ำเสมอตั้งแต่ขณะแรกเริ่มปฏิสนธิวิญญาณขึ้นมา จนกระทั่งถึงบัดนี้ และแปรไปจนกระทั่งถึงวาระสุดท้ายคือความตาย

    เราจึงไม่ควรนอนใจในชีวิตจิตใจของเราที่เป็นอยู่นี้ว่าจะไม่ตาย สัตว์ทุกตัวสัตว์ มนุษย์ทุกคนมีป่าช้าเต็มตัว ใหญ่โตกว้างแคบดูในตัวของเราก็ทราบ นี้เป็นป่าช้าหมดทั้งตัว เมื่อตายแล้วหาสาระอันใดไม่ได้ อุปฺปาทวยธมฺมิโน มีเกิดขึ้นกับตายเท่านั้นเป็นคู่เคียงกัน อุปฺปชฺชิตฺวา นิรุชฺฌนฺติ เกิดแล้วต้องตาย นั่นท่านบอกเตสํ วูปสโม สุโข การระงับดับเสียได้ซึ่งความเกิดเป็นรูปเป็นกายเป็นหญิงเป็นชายอะไรนี้เสียได้ ท่านว่าเป็นความสุขอย่างยิ่ง

    พวกเราทั้งหลายปรารถนาอยากเกิดกัน แต่ไม่ปรารถนาอยากตาย เป็นความขัดแย้งต่อความจริง ปีนเกลียวกับความจริง จึงได้ทุกข์อยู่เรื่อย ๆ เพราะความปีนเกลียวความจริง การรู้ตามความจริงปฏิบัติตามความจริง คือหลักธรรมของพระพุทธเจ้า ที่ทรงสั่งสอนไว้นั้นเป็นความถูกต้อง เราจะได้ไม่ประมาท เกิดขึ้นมาอย่างไรแล้วต้องตาย ในขณะที่มีชีวิตอยู่นี้ให้พยายามบำเพ็ญ เราอย่าเชื่อเราจนเกินไปเรามีกิเลส เหมือนคนตาบอดเชื่อตัวเองไม่เชื่อตนตาดี เดินไปที่ไหนชนแต่ไม้โดนแต่ไม้ เจ็บแข้งเจ็บขาก็เจ็บแข้งเจ็บขาคนตาบอดนั้นแล ไม่ใช่เจ็บแข้งเจ็บขาคนตาดี การเชื่อคนตาดีดีกว่าเชื่อตัวเองซึ่งเป็นคนตาบอด คนโง่ควรจะเชื่อคนฉลาดเป็นของดี

    ถ้าเราเชื่อเรามากจนเกินไป โดยไม่คำนึงถึงว่า ผู้ใดบ้างที่จะมีความฉลาดแหลมคมยิ่งกว่าเรา ถือว่าเราเป็นผู้ฉลาดเหนือใครๆ หรือว่าฉลาดเต็มตัว นั้นมักจะโง่เต็มตัวอยู่ทุกขณะ การที่เชื่อย่อมมีเชื่อหลายด้านหลายทาง เช่น เชื่อว่าตายแล้วสูญก็มี นี่เชื่ออย่างจมไปเลย ความที่ว่าตายแล้วสูญนั้น เราค้นหาสาเหตุอันใดมา มีเหตุมีผลอย่างไรพอที่จะยืนยันได้ว่าตายแล้วสูญเล่า

    ตายแล้วเกิดนี่มีหลักมีเหตุผลเป็นเครื่องยืนยัน ดังพระพุทธเจ้าทรงแสดงไว้แล้ว เกิดแล้วตาย ตายแล้วเกิด ท่านเรียกว่าวัฏวน วนไปเวียนมาอยู่ในกำเนิดต่างๆ แล้วแต่กรรมที่มีอยู่ภายในจิตใจจะพาให้ไปเกิดในภพน้อยภพใหญ่ ชั้นสูงชั้นต่ำชั้นใดๆ ไม่เลือก สำคัญอยู่ที่กรรมซึ่งมีอยู่ภายในใจ กรรมดีกรรมชั่วนี่เป็นเชื้ออันสำคัญที่จะยังสัตว์ทั้งหลายให้ไปเกิด และมีความสุขความทุกข์ มีอำนาจวาสนา โง่ฉลาดต่างกัน มีอยู่ที่ตรงนี้ ไม่ได้มีอยู่ที่ความสำคัญเอาเฉยๆ

    เช่นอย่างว่าตายแล้วสูญเป็นต้น อะไรมันสูญ ถ้าหากว่าตายแล้วสูญ พวกเราทั้งหลายที่นั่งอยู่นี้มีมาได้อย่างไร เพราะคำว่าตายแล้วสูญนั้นจะไม่สูญตั้งแต่เพียงเท่านี้ จะสูญมาดั้งเดิมอยู่แล้ว ไม่ใช่จะมาสูญเพียงขณะเรามาพูดนี้เพียงเท่านั้น อะไรมันสูญ ธาตุ ๔ ดิน น้ำ ลม ไฟ เข้าผสมกันแล้ว จิตไปจับจองว่าเป็นเจ้าของมาเกิดเป็นรูปเป็นกาย เป็นหญิงเป็นชาย ปรากฏเป็นตัวเราเป็นสัตว์ต่างๆ มีอยู่เต็มโลกเต็มแผ่นดิน นี่ถ้าโลกเป็นของตายแล้วสูญจริงๆ สัตว์มาเกิดได้อย่างไร เอาอะไรมาเกิด เพราะอะไรๆ มันก็ต้องสูญไปหมด จิตตายแล้วสูญมีความรู้สึกในตัวคนได้อย่างไรเล่า นี่ก็เพราะตายแล้วไม่สูญนั่นเอง มันถึงมีอยู่ให้เห็นอยู่รู้อยู่อย่างนี้

    ผู้ที่ว่าตายแล้วสูญนั้นแล เป็นเหตุที่จะให้ทำความชั่วช้าลามกต่างๆ ได้อย่างเต็มที่ โดยไม่คำนึงถึงผลว่าจะเป็นอย่างไร ความเชื่อตัวเองนั้นแลเป็นเหตุให้เกิดความทุกข์ เราสำคัญว่าตายแล้วสูญ แต่ความจริงมันไม่สูญ เมื่อไปเกิดในภพต่างๆ เพราะอำนาจแห่งการทำกรรมหนัก ก็จะได้รับความทุกข์แก่ตัวเองนั้นแล เช่นเดียวกับคนตาบอดไม่เชื่อคนตาดี ความเจ็บก็จะต้องตัวเองเป็นคนเจ็บ โดนไม้โดนอะไรก็ตาม ความไม่เชื่อคนตาดี ผลสุดท้ายก็คนตาบอดนั้นแลเป็นผู้ได้รับความทุกข์ เพราะความเชื่อตัวเอง

    เราทั้งหลายมืดบอด ไม่มีความสว่างไสวอันใดเป็นเครื่องยืนยัน พอที่จะรับรองเป็นความจริงได้ เกิดมาก็ไม่ทราบว่ามาจากภพใดชาติใด มาปรากฏเป็นมนุษย์อยู่นี้ แล้วตายจากนี้แล้วจะไปไหนอีก เมื่อไม่มีทางออกโดยธรรมแล้วก็ว่าตายแล้วสูญ คนที่เข้าใจว่าตายแล้วสูญนั้นแล เป็นเหตุให้ทำกรรมชั่วช้าลามกได้โดยไม่มีการยับยั้ง เพราะว่าเราเกิดชาติเดียวตายไปแล้วไม่เห็นมีอะไรทั้งนั้น สูญสิ้นไปเลย นี่เป็นความสำคัญ แต่สิ่งที่เป็นเชื้อให้เกิดนั้นได้แก่อะไร ท่านว่าอวิชชาเป็นเชื้อสำคัญ แต่การที่เราจะพิสูจน์ถึงเรื่องความเกิดความตายนี้ เราจะพิสูจน์เพียงความคิดด้นเดาเอาเฉยๆ นั้นไม่ได้ ไม่ยังผู้นั้นให้สิ้นสงสัยได้เลย

    พระพุทธเจ้าผู้ทรงสั่งสอนสัตว์โลก ทรงค้นพบด้วยภาคปฏิบัติของพระองค์ ตรัสรู้ด้วยการปฏิบัติ ไม่ได้ตรัสรู้ด้วยการด้นเดา ด้วยการคิดเอาเฉยๆ เมื่อได้ตรัสรู้ความจริงแล้ว นำความจริงนั้นมาสั่งสอนโลก ธรรมนั้นจึงเป็นของจริงลบไม่สูญ เช่นอย่างว่าตายแล้วเกิดอีก อะไรเป็นเหตุให้เกิดอีก พระพุทธเจ้าก็ทรงทราบแล้วว่าอวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา, สงฺขารปจฺจยา วิญฺญาณํ เป็นต้น อวิชชานั้นแลเป็นเชื้อสำคัญ ที่ฝังอยู่ภายในจิตนั้น พาให้สัตว์ไปเกิดในกำเนิดต่างๆ กันไม่มีที่สิ้นสุดจุดหมายปลายทางเลย การที่จะระงับดับเสียซึ่งความเกิดนั้นดับวิธีใด ท่านสอนวิธีดับ เฉพาะอย่างยิ่งคือ จิตตภาวนาเป็นภาคพิสูจน์อันสำคัญ และจะเห็นความจริงด้วยภาคภาวนานี้เท่านั้น อย่างอื่นเป็นไปไม่ได้

    พระพุทธเจ้าตรัสรู้ด้วยการภาวนา ตรัสรู้ด้วยการปฏิบัติ สาวกทั้งหลายบรรลุธรรมด้วยการปฏิบัติ รู้จริงเห็นจริงด้วยการปฏิบัติ ไม่ได้รู้จริงเห็นจริงด้วยความจำความคาดคะเนเอาเฉยๆ อันนั้นเป็นความสำคัญของคนมีกิเลส ไม่ใช่เป็นความจริงของธรรม พระพุทธเจ้าทรงปฏิบัติธรรม รู้ธรรมด้วยความจริงในพระทัยแล้วจึงนำมาสั่งสอนโลก เพราะฉะนั้นจึงเรียกว่าสวากขาตธรรม ธรรมที่ตรัสไว้ชอบแล้ว

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • a21-1-21.wma
      ขนาดไฟล์:
      7.4 MB
      เปิดดู:
      2,691
  2. ล้างจิต

    ล้างจิต สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    180
    ค่าพลัง:
    +24
    อนุโมทนาบุญค่ะ
     
  3. นายตถาตา

    นายตถาตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มกราคม 2010
    โพสต์:
    830
    ค่าพลัง:
    +705
    สาธุธรรมที่แสดงมานั้นถูกต้องที่สุดแล้ว
     
  4. sawalak

    sawalak Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    132
    ค่าพลัง:
    +53
    อนุโมทนา

    อนุโมทนา สาธุ สาธุ ค่ะ
     
  5. ชนะ สิริไพโรจน์

    ชนะ สิริไพโรจน์ ทีมผูัดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    5,891
    กระทู้เรื่องเด่น:
    14
    ค่าพลัง:
    +35,260
    *
    [​IMG]

    <B><FONT color=#008000><FONT face="Browallia New">เว็บทางนิพพาน <FONT color=blue>เว็บไซด์ เผยแพร่ ธรรมที่นำไปสู่ความหลุดพ้น
     
  6. pnarongr

    pnarongr เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤษภาคม 2005
    โพสต์:
    74
    ค่าพลัง:
    +115
    อนุโมทนา สาธุ...
     
  7. Killeen

    Killeen Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มกราคม 2011
    โพสต์:
    38
    ค่าพลัง:
    +27
    อนุโมทนา สาธุ ครับ
    จริงครับ อยากเกิด แต่ไม่อยากตาย (ไม่รวมพวกคิดสั้นไร้สติที่๋ฆ่าตัวตายน่ะ) แต่ก่อนผมกลัวความตายมาก กลัวจนนอนแทนไม่หลับไปหลายปี ก่อนนอนจะต้องคิดเร่ื่องความตาย กลัวความพลัดพลากจากสิ่งหรือคนรัก ขณะนี้ไม่กลัวแล้ว แปลกแต่จริง พร้อมเสมอที่จะตาย เพราะพระคำสั่งสอนชี้แนะ เรื่องการเกิดแก่เจ็บตาย ซึ่งเป็นธรรมชาติ กลัวไปทำไม ยิ่งกลัวยิ่งขาดสติ เมื่อทำจิตรได้ ความกลั้วหายไปเด็ดขาด พระคำคำสั่งสอนของพระพุทธองค์ สามารถพิสูจน์ได้ทุกข้อ ฉะนั้นเรื่อง เกิดแก่เจ็บตาย ตายแล้วเกิด เกิดแล้วตาย เป็นจริง
     
  8. omio

    omio เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    1,679
    ค่าพลัง:
    +5,213
    ตอนนั้นได้มีโอกาศไปร่วมงานพระราชทานเพลิงศพของพระอาจารย์ฝั้นด้วย

    เสียงของหลวงตาเทศน์ได้ชัดเจน น่าฟังมาก ขอบคุณมากและอนุโมทนาค่ะ
     
  9. Wesnatur

    Wesnatur เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    41
    ค่าพลัง:
    +154
    ขออนุโมนทนาบุญด้วยครับ
     
  10. wonderhuman

    wonderhuman สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    21
    ค่าพลัง:
    +16
    อนุโมทนาค่ะ
     
  11. Chaiwat_Khamhom

    Chaiwat_Khamhom Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2010
    โพสต์:
    710
    ค่าพลัง:
    +91
    ขออนุโมทนา สาธุ สาธุ
     
  12. มะลิดำ

    มะลิดำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 เมษายน 2012
    โพสต์:
    147
    ค่าพลัง:
    +588

แชร์หน้านี้

Loading...