อยากเล่า ขอเล่านิดนึง เนอะ ไม่ได้เป็นคนเก่งอะไรหรอกเนอะ
แต่ว่ามันเป็นประสบการณ์จาก การฝึกนี่แระ คือทำสติปัฐาน 4 มาเป็นปีนะ
บ่อยๆ ก็จะท่อง อะสังวิสุโลปุสะพุพะ ทำสติไปกับความรู้สึกตัวเนอะ คือเป็นคนชอบนอนกางเต้นไง อยู่บ้านตัวเองก็ชอบกางเต้น อยู่แล้ว ไม่ค่อยชอบ นอนในบ้านเท่าไร มีช่วงปีใหม่นี่แระไปกางเต้น ที่ฟาร์มของตัวเอง ได้เวลาสักประมาณ ตี 1 -2 นี่แระ ต้องสะดุ้งตื่นเห็นแสงเขียวๆ นวล หลายดวง และแรงที่เขาจับเรา พวกเขาบอกว่า นี่แน่ะ เก่งนักเหรอ พวกเขายืนบนหน้าอก หลบภัย จับแขน ขาเหมือนจะฉีกเนื้อเราเรารู้สึกถึงพลังงานได้ และความกดดัน และเริ่มจะกลัว แต่ด้วยที่เป็นคนที่ทำสติปัฐฐาน 4 อยู่บ้าน สติเขาบอกให้วิ่งเข้าบ้านแค่นั้นแระ เราก็ไปปรากฏอยู่ในบ้าน ไปเรียกทุก คนให้ตื่น เราสัมผัสคนในบ้านไม่ได้ แค่คิดมันวิ่งแว๊บไปเลย แต่นึกขึ้นได้ว่า ตัวเราอีกร่างนอนอยู่ในเต้นนี้หว่า เอ้ยไปหาร่างคืนมาดีกว่า เป็นไงเป็นกัน สักครู่ ก็เห็นตัวเรามาอยู่ในร่างเราแระ แต่ก็ไม่รู้ทำไง พวกเขาก็ยังไม่ไป จู่ๆหลบภัยก็ภาวนา อะสังวิสุโสปุสะปุพะ เขาบริกรรมของเขาเอง สาบานว่าไร้เจตนาจริงๆ บริกรรมเสร็จนะมีพลังรอบๆ ตัวเราไปปะทะกับผี มันเป็นสัญญาเก่าๆ มั้ง ไม่รู้เหมือนกัน ขึ้นมาเนอะ รู้แระ ว่าอาการ ทีบผีกระเด็นนี่เป็นไง ไปคนละทิศละทางเลย สักพัก ลืมตา โทรหาคนคนหนึ่งบอกว่า นี่ๆ ถูกผีหลอก คนนั้นบอกว่า
อ้าวก็ฝึกไปซี้ จะไปกลัวอะไร เป็นนักปฏิบัติแล้วกลัวผีน่าอายไหม :'( ก็คนที่บอกเราเนี้ย เขานอนไปบ้านเขาเนอะแม้ ช่างกล้า :mad:แล้วแม่ก็ไปถามหลวงพ่อ เนอะ ว่าหลบภัยโดนผี ในบ้านหลอกได้ไงหลวงพ่อบอกว่า สถานที่นี้เเป็น สภานที่พวกหนีอหิวา มาตายกันเป็นร้อยเลย
พวกเขายังวนเวียน อยู่ที่นั้นแระ :boo: อ้าวตายแล้ว
เอ่อ ว่าแต่ว่า มีใครต้องการซื้อที่ไหม จะขายฟาร์มแระ:':)'(
เรื่องจริง :mad:
ภาวนาเองแบบไม่ได้เจตนา (ประสบการณ์)
ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย หลบภัย, 9 มีนาคม 2011.
หน้า 1 ของ 2
-
[
[MUSIC]http://palungjit.org/attachments/a.1398630/[/MUSIC]ไฟล์ที่แนบมา:
-
-
คนกลัวผีคงไม่เเปลกหลอกครับ ก็มันไม่คุ้นนี่หน่า
บางคนเคยนอนพิจารณาอสุภะกับศพจริงๆทั้งคืน
เวลากลัวเจอผีจริงๆยังกลัวเลยหุๆ -
ปรับภูมิ ให้เค้าไปเกิดสหาย มีวิธีตั้งเยอะ ไป ค้นหาดูในเว็ปนี้แหละ
-
ตามมาอ่านครับ
ตามมาอ่านครับ ฟาม ที่ว่าอยู่เเถวไหนหรือครับจะได้ไม่ไปผ่านเเถวนั้น กลัว -
บทสวดบทที่คุณสวด มีความหมายว่อย่างไรรบกวนบอกหน่อย เผื่อจะได้หัดสวดบ้าง
-
โปรดใช้คำภาษาไทยให้ถูกต้องด้วยครับ
-
อะสังวิสุโลปุสะพุภะ" คือ
เป็นพระพุทธคุณ 9 ประการของพระพุทธเจ้า(นวหรคุณ) ใช้เป็นพุทธานุสสติในการเจริญพระกรรมฐาน หมายถึงระลึกเอาคุณพระพุทธเจ้ามาเจริญภาวนา เจริญมากๆ จนกระทั่งจิตใจเป็นสมาธิ ก็จะระงับนิวรณ์ต่างๆในชั่วระยะอยู่ในฌาน สมเด็จพระพุฒาจารย์อาจ อาสภเถระท่านแนะนำว่า ต้องสวดมากๆ เพื่อทำให้พระพุทธคุณติดอยู่กับใจ หรือให้ใจติดกับพระพุทธคุณ เมื่อใจติดกับพระพุทธคุณดีแล้ว เรียกว่าจิตเป็นสมาธิ พอจะนึกถึงคุณพระพุทธเจ้า ใจวิ่งไปหาพระพุทธคุณเลยทีเดียว หรือพระพุทธคุณมาปรากฏแก่ใจทันที อย่างนี้เรียกว่าเจริญได้ที่แล้ว.....ต้องสวดต้องท่องกันให้ได้ เพราะไม่ได้นี่แหละ เวลาภาวนา พระพุทธคุณ ก็ไม่มาคุ้มครองปกป้องรักษาเรา มีเหตุเภทภัย ก็คุ้มครองอะไรไม่ได้ และเพราะเราไม่เจริญพระพุทธคุณนี่แหละ เราก็ไม่รู้จักคุณพระพุทธเจ้าจริงๆ พระพุทธเจ้าก็เลยไม่รู้จักเรา เมื่อเราไปไหนมาไหน พระพุทธเจ้าก็ไม่ตามรักษา.....พระพุทธคุณนี้ ถ้าเจริญได้จริงๆ ใจรักจริงๆ ไปไหน พระพุทธเจ้าไปด้วย พระพุทธเจ้าเสด็จไปโปรด ให้เราได้เล็ดลอดปลอดภัย ให้เราได้มีความสุขด้านจิตใจจริงๆ.........พระพุทธคุณ 9ประการนั้น คือ อิติปิโส ภควา สมเด็จพระผู้มรพระภาคพระองค์นั้น...
พระพุทธคุณ 9 ประการนี้ ย่อเหลือพระคุณละ 1 อักษร ดังนี้ คือ.-
1)อะ (อรหัง)-เป็นพระอรหันต์ ไกลจากกิเลส.....
2)สัง(สัมมา สัมพุทโธ)-ตรัสรู้ความจริงด้วยพระองค์เอง โดยถูกต้อง.......
3)วิ(วิชชา จรณะสัมปันโน)-ทรงสมบูรณืด้วยวิชาสมบัติและจริยาสมบัติ........
4)สุ(สุคโต)-เสด็จไปดี......
5)โล(โลกวิทู)-ทรงรู้เท่าทันโลกทั้ง 3..........
6)ปุ(อนุตตโร ปุริสทัมมสารถิ)-ทรงเป็นสารถี ฝึกบุรุษที่ควรฝึกได้ ไม่มีผู้ใดเสมอเหมือน.......
7)สะ(สัตถา เทวมนุสสานัง)-ทรงเป็นครูสอนทั้งเทวดาและมนุษย์........
พุ(พุทโธ)-ทรงเบิกบาน ยิ้มแย้มแจ่มใส.......
9)ภะ(ภควา)-เป็นผู้ทรงแจกพระอมตะมรดก.......
ย่อเป็น 9 คำ อ่านได้ว่า" อะ-สัง-วิ-สุ-โล-ปุ-สะ-พุ-ภะ".......โดบสวดเป็นอนุโลมตั้งแต่ 1-9 และสวดย้อนกลับเป็นปฏิโลมว่า "ภะ-พุ-สะ-ปุ-โล-สุ-วิ-สัง-อะ -
ให้ทำบุญไปให้เขามากๆ พวกนี้ อย่าไปทะเลาะกับเขา ทะเลาะกับผีไม่ดี ผมผ่านมาแล้วนะ บอกได้เลยว่า ซวย
เหมือนทะเลาะกับ คนพาล
ทำบุญไป บางตนอาจจะได้ดิบได้ดี เขาอาจจะอุปถัมค้ำชูเราได้
ก็บางที ที่เราป่วยบ้าง อะไรบ้าง ก็ผีพวกนี้แหละ เขามาขอส่วนบุญ
ทะเลาะกับผี ถ้าเราชนะครั้งหนึ่ง มันก็ก่อเวร เหมือนทะเลาะกับคนพาล
เพราะมันอยากจะเอาชนะเราคืน
ครั้นพอมันเอาชนะเราไม่ได้ มันก็รอจังหวะ ให้สบช่อง พอสบช่องปั๊บ มันเอาเลย
นั่นแหละ ฉันใดก็ฉันนั้น -
ภาพนี้น่ากลัวจังดูดีดีสิ
Thanks: ฝากรูป dictionary -
ร้องเพลงผิดคีย์ให้เขาฟังจิ ผีกาเจิงเลย แต่ว่าน่ากลัวแฮะ คนดีผีคุ้ม แต่นี่มันคนดีผีคลุมนี่นา มีตังจะซื้อนะฟาร์ม ตะว่าหาร็อตเตอร์รี่ รางวัลที่หนึ่งสิบหกใบให้ก่อน สาธุครับ บลึ๋ย
-
ในกรณีแบบนี้..จะภาวนาอะไรก็ได้..แต่จะดีกว่าถ้าคิดส่งบุญโดยแปรสภาพบุญให้เป็นนะครับ..ผมรับรองว่าเค้าจะมานั่งคุกเข่ารอให้คุณส่งบุญให้...หลังจากเริ่มแรก
อาจมาทางเสียง แล้วต่อมาก็ในนิมิตร(อาจมีการคุยกันบ้าง)..พอสุดท้ายมานั่งคุกเข่ารอ.พอติดต่อได้คุณจะรู้เองว่าเค้าได้รับ
หรือเปล่า..
อนุโมทนาด้วยนะครับ... -
พวกเขายังวนเวียน อยู่ที่นั้นแระ :boo: อ้าวตายแล้ว
เอ่อ ว่าแต่ว่า มีใครต้องการซื้อที่ไหม จะขายฟาร์มแระ:':)'(
เรื่องจริง :mad:<!-- google_ad_section_end -->
บนโลกใบนี้จะหาที่ว่างจากสัตว์ที่ไม่เคยนอนตายไม่มี
-
-
แสงที่เป็นสีเขียวจะเป็นจำพวกวิญญาญทางด้านมืดรวมถึงพระเครื่องบางประเภท
แสงสีเหลืองทองสว่าง มักเป็นพุทธคุญ. -
คาถาสะเดาะกุญเเจนี่เอง
ซาวน์น่ากลัวมากครับ = = *** -
อิติปิโส ย่อหรือเปล่า
คงต้องตั้งสติ ฝึกแผ่เมตตา ปรับภพภูมิให้เขา
ต่อไปจะได้มีพรรคพวกเยอะๆ -
เจตนาจริงๆ ไม่ได้เน้นเรื่องที่ถูกผีรังแกหรอกนะคะ
เพียงแต่ต้องการชี้ให้เห็นว่า หากเราฝึกสติ และเพียร สม่ำเสมอ
เมื่อถึงเวลานี่ จิตจะรวมเป็นอัตโนมัติ จะช่วยเหลือ ตนเองได้
ให้สังเกตุว่า " ภาวนาเองโดยไม่เจตนา" หลบภัย ใช้ประโยคนี้เป็นหัวข้อกระทู้
'ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูหิ" เมื่อเราประสพกับตัวเรา เราก็ยิ่งความเพียรขึ้นไปอีก
และมั้นใจ เชื่อในพระรัตนไตร เข้าไปอีก แบบไม่ต้องพึ่งสัญญา
การแผ่เมตา นี่ปกติเป็นคนไหว้พระสวดมนต์ กรรมฐาน แผ่เมตตาทุกครั้ง
เมื่อถึงเวลาจะรู้เอง
-
อีกเรื่องหนึ่ง คือ การขับรถ เกือบจะแหกโค้ง(ปกติขับรถเร็ว) เหมือนกัน
ปกติจะ ตกใจมากๆ แต่ด้วยสติ มันรวมเอง เวลามีภัย
เขาสั่งให้เราลดอุปทาน ก็เลยรอด เป็นแบบนี้ ทุกครั้งเวลามีภัย
เชื่อว่า นักปฏิบัติทุกคยต้องเจอเหมือนกัน แต่ให้ฝึกตามรู้ไปด้วย
จะเข้าใจในสภาวะนั้นๆ
อนุโมทนากับผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติ และ กุศลจิตที่ดี -
ผมเคยฝันว่าเจอผี เเล้วผมก็ท่องพระคาถาชินบัญชรมาเลย เริ่มรู้สึกตัวในฝันเเล้วก็ตื่น
หน้า 1 ของ 2