มิตซูโอะ ชิบาฮาชิ แถลงข่าวแล้ว

กรณีนี้ ไม่ใช่เรื่อง แปลก

 ญาท่านสีทนศาลาพันห้องนั้น สึกตอนอายุ ๙๒ ไปเอาเมียอายุ ๑๖ 

คนบวชคนสึกมันเป็นธรรมดาโลก บางคนบวชมานานกว่าท่านอาจารย์มิตซูโอะก็ยังสึก 

ท่านอาจารย์หนูใหญ่ศิษย์หลวงปู่มั่น นั่งภาวนาได้ฌานได้ญาณเห็นนู้นเห็นนี่ท่านก็ยังสึก

พระอริยคุณาธาร ขอนแก่นท่านก็สึก ในวงพระกรรมฐานเราก็มีให้เห็นอยู่ ไม่แปลกดอก 
credit หลวงปู่ไดโนเสาร์

นอกจากนี้ก็มี เสฐียรพงษ์ วรรณปก สามเณรเปรียญธรรม 9 ประโยครูปแรกใน ร.9 (ในหลวงทรงเป็นเจ้าภาพบวชให้) ก็สึก มีเมียมีลูก รวมตั้งแต่เป็นเณรก็อยู่ในผ้าเหลืองร่วม 20 ปี

แล้วก็มี "พระเทพสิทธิญาณรังสี" หรือ หลวงตาจันทร์ อดีตเจ้าอาวาสวัดป่าชัยรังสี ต.บ้านเกาะอ.เมือง จ.สมุทรสาคร ก็สึก พอสึกแล้วประกาศแต่งงาน แต่ฝ่ายหญิงไม่สนด้วย ตอนนี้ใบ้หวยกับเล่นลิเกจนดัง

แต่อย่างน้อย ท่านมิตซูโอะ ชิบาฮาชิ (รวมถึงท่านต่างๆที่กล่าวมาข้างต้น) ก็ไม่ได้สึกเพราะปาราชิก และไม่ปรากฏว่า ทำผ้าเหลืองให้มีมลทินระหว่างบวชเลยแม้แต่น้อย

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=sHlg3gcOYkI]มิตสุโอะแถลง - YouTube[/ame]

 

ถึงจะสึก ยังไงก็เป็นพระอริยเจ้าได้เหมือนกัน

 

เราไม่รู้ว่าท่านไหนบรรลุธรรมขั้นไหน พระอริยเจ้ามีหลายระดับ

สำหรับทิด มิตซูโอะ มีความเป็นไปได้คือ ปุถุชน หรือไม่ก็พระโสดาบัน หรือไม่ก็พระ สกิทาคามี

แต่ไม่ใช่พระอนาคามีหรือพระอรหันต์ เพราะพระอนาคามีและพระอรหันต์สามารถตัดกามราคะได้เด็ดขาดแล้ว

 

หนูว่าอาจารย์เพ้อเหมือนเด็กหนุ่มแรกรัก
สงสารอาจารย์ค่ะ
หนูชอบอ่านหนังสือที่ อาจารย์เขียน รวบรวม อาจารย์สอนแต่สิ่งๆที่ดีงามให้คนเค้าได้อ่าน แต่อาจารย์กลับมาแพ้ใจตัวเอง
หนูขอบคุณอาจารย์ที่ไม่ทำให้พระพุทธศาสนามัวมอง อาจารย์เลือกทางเดินของอาจารย์

 

คำพูดสวนทางกับสัจจะธรรม

การใช้ชีวิตคู่ ทุกข์ ทุกข์ทั้งนั้น

กิเลส ตัณหาพาใหล้หลงแท้ๆ

 

มาพบเจอ คู่บารมีอะไรกันละ

เด็กกว่านี้ ตายไห้เห็น ไปทั่ว

ชีวิต จะหลุดลอย บ่ายคล้อยต่ำแล้ว

มนุษย์และสัตว์ เกิดมา ความตาย จะมาถึง

วันไหน ก็ไม่มีใครรู้....

ยังมัวเมากิเลส อายุก็ ปาเข้าไป ไม่ใกล้ฝั่งแล้ว

กิเลสมันหลอกว่าคู่บารมี ตัณหาพาให้หลง

หลงออกไปไกลจากสัจจะ..

 

คนโบราณเขาว่า ฝนจะตก พระจะสึก คนจะคลอดลูกห้ามไม่ได้

ทิด โอะ ท่านคงไม่เคยสัมผัส ความรักฉันชายหญิงมาก่อน
จึงเป็นของแปลกใหม่ในชีวิตท่าน และกระตุ้นผลักดันให้ท่าน
ลิ้มลองของใหม่เป็นประสบการณ์สักครั้ง

แต่ผมเห็นว่า ทิด โอะ ท่านชนะใจตัวเองนะที่ไม่ทำผิดศีลธรรมให้ผ้าเหลืองต้องด่างพร้อย ต่างกับอลัชชีที่นุ่มห่มเหลืองบางตน และ
ทิด โอะ ท่านทำตามธรรมเนียมไทยทุกประการ คือ บวชเรียน ก่อน แล้วจึงแต่งงาน ผมจึงไม่เห็นว่า ท่านทำอะไรผิดตรงไหน ^_^

 

สิ่งที่บ่งบอกว่าดวงจิตบริสุทธิ์ขนาดไหน วัดกันที่ระดับของสติ
ไม่ได้วัดกันที่ รูปร่างหน้าตา เพศ สถานะการแต่งงาน หรือ สีผ้าที่ห่ม

ถ้ามองกันอย่างหยาบๆ โลกๆ นางวิสาขามีลูกมากมาย เพราะหลงในกาม หรืออย่างไร?

 

นางวิสาขาเป็นพระโสดาบัน ยังละกามราคะไม่ได้
ยังมีความรักมีเศร้าโศกเสียใจได้อยู่ มีวันนึง หลานรักตายนางร้องไห้ไปหาพระพุทธเจ้า จนพระพุทธเจ้าต้องเตือนสติว่า ลูกหลานของนางมากเทียบได้กับคนค่อนเมืองก็ต้องมีคนตายบ้างเป็นเรื่องปกติ ที่ใดมีรักที่นั่นมีทุกข์ รัก 100 ทุกข์ 100 ไม่มีรักก็ไม่ทุกข์เลย
(กล่าวโดยสรุป)

และกามไม่ได้หมายถึงเรื่องเพศอย่างเดียว แต่รวมถึง รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส ทั้งหมด

พระอริยเจ้าจึงกล่าวว่า เมื่อเห็นแจ้งว่ากายเป็นทุกข์ล้วนๆ ก็จะเห็นว่ากามนั้นเป็นสิ่งที่เกี่ยวเนื่องด้วยกายจึงเป็นสิ่งที่เป็นทุกข์ตามไปด้วย จึงละกามราคะได้ และเมื่อละความพอใจใน กาม ได้ ก็จะละ ปฏิฆะ คือความหงุดหงิด เศร้าใจ ตามมาด้วย เพราะ กามราคะกับปฏิฆะเหมือนด้านของเหรียญ

เมือหยิบเหรียญขึ้นมา ก็จะได้ด้านหน้าและด้นหลังของเหรียญ ติดมาพร้อมกันทีเดียว

 

ท่านวิสาขาเป็นฆราวาสใครๆก็ทราบว่าท่านมีสามีได้ถึงแม้จะเป็นพระโสดาตั้งแต่7ขวบ แต่ถ้านักบวชที่ประกาศตัวเป็นอ.จสอนธรรมตัดกิเลส-ดับทุกข์ บวชมาตั้ง38พรรษา อยู่ๆสึกออกไปมีเมียโดยไม่มีใครรู้มาก่อน อันนี้เลยรู้สึกแปลกๆ แต่ไม่ผิดอะไรเพราะเป็นเรื่องส่วนตัว

 

ท่านคงเลือกที่จะไปสวรรค์ชั้นเจ็ดแทนที่จะไปนิพพานครับ

 

พระศาสดากล่าวว่า พระอริยะจะไม่ลดฐานะตนเอง

 

หลวงปู่.ครูบา อาจารย์มิตซูโอะเป็นใคร
ครูบาอุปฐาก.เป็นหยังครับผม องค์พ่อแม่ถามทำไมครับผม
หลวงปู่.ก็เมื่อเช้าเห็นโยมในศาลามาเล่าให้ฟัง ผมก็อือๆนอไปกับเขา แต่ผมไม่รู้เรื่องนี้
ครูบาอุปฐาก.โอ๋ ขอโอกาสกราบเรียนองค์พ่อแม่ ท่านอาจารย์มิตซูโอะท่านเป็นคนญี่ปุ่นที่มาเรียกกรรมฐานในสายพ่อแม่ครูบาอาจารย์หลวงปู่ชา วัดหนองป่าพง บวชมา๓๐กว่าปีแล้วท่านก็สึกกลับบ้านท่านที่ญี่ปุ่น เมื่อเช้าแม่ออกมาบอกว่าท่านสึกไปมีเมีย ที่ญี่ปุ่นครับผม
หลวงปู่.โอ๋ มันก็ดีแล้วนี่แล้วเอามาเล่ากันทำไม
ครูบาอุปฐาก.ขอโอกาสองค์พ่อแม่ ดียังไงครับผมพระกรรมฐานบวชมา ๓๐ กว่าปีแล้วมาสึกไปมีเมีย
หลวงปู่.โอ้ย ญาท่านสีทนศาลาพันห้องนั้น สึกตอนอายุ ๙๒ ไปเอาเมียอายุ ๑๖ นี่ผมก็ยังไม่ถึง ๙๒ เด้อ(พูดแล้วท่านก็หัวเราะ)
คนบวชคนสึกมันเป็นธรรมดาโลก บางคนบวชมานานกว่าท่านอาจารย์มิตซูโอะก็ยังสึก ท่านอาจารย์หนูใหญ่ศิษย์หลวงปู่มั่น นั่งภาวนาได้ฌาณได้ญาณเห็นนู้นเห็นนี่ท่านก็ยังสึก พระอริยคุณาธาร ขอนแก่นท่านก็สึก ในวงพระกรรมฐานเราก็มีให้เห็นอยู่ ไม่แปลกดอก ถ้าเรายังไม่แน่นอนในพระสัทธรรมมันก็มีโอกาสสึกกันทุกคน เพิ่นสึกออกไปหน่ะดีแล้ว ถ้าวิบากกรรมที่แก้เป็นพระไม่ได้มันต้องสึกออกไปแก้ก็ต้องตามไปแก้มัน คุณเอ้ย คนสึกก็ใช่ว่าจะเสียหาย ใช่ว่าจะเลวไปซะหมด คนอยู่ก็ใช่ว่าจะบริสุทธิ์ ใช่ว่าจะดีไปเสียหมด หยั่งกำลังว่าสู้ไม่ไหวก็สึกออกไปนั้นถึงจะเป็นการที่น่ายกย่อง มาสู้ทนหลอกชาวบ้านเป็นมหาโจรอยู่มันก็ตกนรกนั้นแหล่ว คนที่ทำกรรมฐานมาตั้ง๓๐ปีเพิ่นบ่ได้ปึกได้โง่เด้อ เพิ่นคิดเพิ่นตัดสินใจแสดงว่ากำลังของกรรมฐานที่สั่งสมมาประคับประคองอยู่ การที่เพิ่นตัดสินใจถือว่าคิดดีแล้วในแนวของเพิ่น ที่เอามาว่ามานินทากันนั้นเพราะมันขัดใจเรามันเข้ากิเลสเรา ว่ากันคะนองปาก คุณเอ้ย เล่นกันพระเหมือนเล่นกับไฟ ว่าเพิ่นชั่ว ถ้าเพิ่นชั่วเราไม่ได้บุญนะเราเท่าตัว ว่าเพิ่นชั่วเพิ่นบ่ได้ชั่วเราเป็นบาปเราขาดทุน ว่าเพิ่นแล้วมีแต่เท่าทุนกับขาดทุนหากำไรไม่ได้ ลงทุนแบบนี้ไม่งอกไม่เงยนะ เอาใจไปคิดเรื่องคนอื่นมันก็ทุกข์เรื่องคนอื่น แต่เอาใจมาไว้กับสติมาไว้กับเรานี้มันบ่ทุกข์มันมีแต่กำไร เพิ่นไปดีแล้วก็แล้วกันไปคุณเอ้ยทุกคนหันหน้าเดินไปหาพระนิพพานกันหมดนั้นหล่ะ ถึงช้าถึงเร็วขึ้นอยู่กับเราเดินกับเราลงทุนดอก มาพบพระพุทธเจ้า พบพระธรรมคำสั่งสอน พบครูบาอาจารย์พระเจ้าพระสงฆืแล้วอย่าให้ขาดทุนเด้อให้เอากำไรจากเพิ่นเด้อ

ข้อความจาก
www.facebook.com/pages/หลวงปู่ไดโนเสาร์/383172221728079

 

กรณีให้สัมภาษณ์อาจารย์มิตซุโอ๊ะ

คำว่าคู่บารมีทำให้นึกถึงตอนพระเจสันท่านบวช หลังจากนั้นก็แจ้งคู่หมั่นจะบวชไปเรื่อยๆ ส่วนฝ่ายหญิงทั้งครอบครัวแค่ตกใจและร่วมอนุโมทนาบุญด้วยถึงเรียกว่าคู่บุญหรือเปล่า กรณีของท่านยังบวชอยู่แต่สึกอย่างด่วน แต่ยังไงก็เป็นเรื่องส่วนตัวของท่าน พระพุทธองค์สละทิ้งทั้งทรัพย์สมบัติและลูกเมียเพื่อค้นหาความจริงของชีวิต

 

อันนี้ กลับลำดับความสำคัญกันนะครับ

นางวิสาขา ทางโลก ทางสมมติ เขาเห็นกันว่าเป็น "ฆราวาส" แต่แท้จริงแล้ว ตามสัจธรรม ตามปรมัตถ์ ท่านเป็น "พระ"

ส่วนการห่มผ้าเหลืองนี่ ทางโลก ทางสมมติ เขาเห็นกันว่าเป็น "พระ" แต่แท้จริงแล้ว ใจอาจจะยังเหมือนฆราวาส

ดังนั้น อย่าสำคัญผิดที่ ให้ดูที่ความเป็นจริง ไม่ใช่ที่สมมติของโลก

 

เห็นไม่ต่างจากคุณ ความเข้าใจก็ไม่ต่างกันครับ

 

ธรรมดาโลกไม่เห็นแปลก เราเองก็ยังเป็นผู้แพ้อยู่
รับผิดชอบตนเอง ชำระตัวเอง
สังเวียนนี้ไม่ว่าใคร แพ้ไปเกิดใหม่

 

คนที่ช็อค ผิดหวัง หรือเสียใจ ที่พระมิตซูโอะ ลาสิกขาบทไปมีภรรยา เป็นเพราะไปยึดถือว่าพระมิตซูโอะเป็นของตนเองหรือเปล่า หรือเป็นเพราะตั้งเกณฑ์ไว้สูงหรือเปล่า

ดิฉันเคยไปปฏิบัติธรรมกับพระมิตซูโอะหนึ่งครั้ง และไปแบบช่วงสั้นๆ อันเป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาดูงานอีกหนึ่งครั้ง เคยซื้อหนังสือมาอ่าน ... ดูเหมือนจะเน้นเรื่องหลักเรื่องเดียว คือ อาณาปาณสติ เน้นจนเสมือนว่า การดูลมหายใจเข้าออกนั้นสามารถแก้ปัญหาได้ทุกอย่าง ซึ่งดิฉันก็ไม่ได้เห็นด้วยนัก เพราะกรรมแต่ละอย่างมีมูลที่ต่างกันไป ไม่น่าจะใช้วิธีเดียวแก้ไขได้ทุกเรื่องเหมือนยาครอบจักรวาล ... แต่ก็ฟังได้ ไม่ค้าน คิดว่าอย่างน้อยพระก็ยังสอนแนวทางปฏิบัติตามหลักพุทธศาสนาได้หนึ่งเรื่อง ดีกว่าไม่ได้สอนอะไรเลย

ดิฉันเคยผ่านเหตุการณ์ที่เคยช็อคกับพระซึ่งปฏิบัติดีปฏิบัติชอบมาตลอดมาแล้ว (เชื่อว่าดีกว่าพระมิตซูโอะเสียด้วยซ้ำไป) แต่สุดท้ายก็สึก และมีภรรยา ตอนนั้นต้องบอกว่าเราช็อคกันทั้งบ้านเลย หวยเลยไปออกที่ร้านทอง เพราะเรายกขบวนกันไปร้านทอง ดูของสวยๆ งามๆ แก้เครียด ซื้อทองกันมาทุกคน ;-) จิตใจตอนแรกเศร้ามาก และแสดงปฏิกริยาตอต้านผู้หญิงที่เป็นภรรยาคนนั้นมาก แต่เมื่อเวลาผ่านไป ได้เห็นความเป็นไปของครอบครัวนี้ ก็เริ่มเข้าใจว่ากรรมคงจัดสรรมาเช่นนั้นเอง จากพระที่มีผู้คนนับหน้าถือตา กายภาพมีสง่าราศี อ้วนท้วนสมบูรณ์ ไม่เคยต้องดิ้นรนอะไรกับชีวิต ก็กลายเป็นคนที่ต้องทำมาหากิน (ยังดีที่มีวิชาชีพเลี้ยงตัว) ภรรยาที่เคยคิดว่าจะฝากผีฝากไข้ให้ดูแลก็กลับกลายเป็นตายก่อนทั้งที่ปกติผู้หญิงคนนี้ก็ไม่มีโรคประจำตัวอะไร (พระเสียอีกเป็นทั้งความดัน เบาหวาน โรคไต ธาลัสซีเมีย โรคเก๊าท์ แรงๆ ทั้งนั้น) ผลก็คือช่วงบั้นปลายชีวิตแม้จะมีคนอื่นดูแลแต่ก็ถูกโกงบ้าง ถูกทิ้งๆ ขว้างๆ บ้าง ... แต่ด้วยความที่เป็นคนดี ก็ยังคงดีและมีเมตตา รักษาศีลและทำบุญสม่ำเสมอ นี่เป็นสิ่งหนึ่งที่บอกว่าคนที่ดียังไงก็ดี อยู่ในผ้าเหลืองหรือนอกผ้าเหลืองถ้าเป็นคนดีก็ดีวันยังค่ำ

ก็เลยมองกรณีพระมิตซูโอะลาสิกขาบทเป็นเรื่องธรรมดา เป็นเรื่องของปุถุชนที่ยังละกิเลสไม่ได้ ก็ยังดีที่มีสปิริต รู้ตัวว่าไม่เหมาะกับเพศสมณะก็ลาออกไป

ชีวิตนับจากนี้ทิดมิตซูโอะคงต้องเผชิญกับความเป็นจริง ต้องทำงาน ต้องเจอปัญหามากมายที่ไม่เคยพบในโลกแห่งสงฆ์ การทำงานถ้าหากจะใช้แนวทางที่คุ้นเคย คือ การสอนธรรมะ ก็อาจจะไม่เป็นที่นิยมเคารพมากมายเหมือนกับตอนเป็นพระ เพราะคนบางส่วนก็เสียศรัทธา เสียความรู้สึกจนอาจจะยอมรับไม่ได้ ในขณะเดียวกันตัวทิดมิตซูโอะเองก็อาจสั่งสอนใครไม่ได้เต็มปากอยู่เรื่องหนึ่ง คือ การไม่หวั่นไหวต่อกิเลส สอนไม่ได้เพราะตัวเองก็ไม่ใช่ตัวอย่างที่ดี

ทางฝ่ายผู้หญิงเองมองบางมุมก็น่าเห็นใจนะ เขาอาจจะฐานะดีแล้วดังนั้นไม่จำเป็นต้องหาสามีที่รวยก็ได้ การได้สามีที่ดีน่าจะดีกว่า ก็คงเห็นแล้วล่ะว่าคนๆ นี้บวชมาก็นานหลายปี มีเกียรติประวัติเป็นที่ยอมรับว่าอยู่ในศีลในธรรมระดับสั่งสอนคนอื่นได้ ถ้าได้เป็นสามี ก็น่าจะเป็นสามีที่ดี อีกประการหนึ่ง ผู้หญิงอาจมีความสุขกับการเป็นผู้นำ การได้นำให้ทิดมิตซูโอะได้พบกับโลกใบใหม่ ความรู้สึกที่แปลกใหม่ น่าจะเป็นอะไรที่ทำให้เขาอิ่มเอมใจ แต่ก็อาจจะไม่ได้มีความสุขเต็มที่นัก ในญี่ปุ่นไม่มีใครรู้จักก็โอเค แต่ถ้าควงกันมาเมืองไทยเค้าก็อาจจะต้องเจอสายตาตำหนิหรือดูแคลนว่าสึกพระมาทำ.... ก็น่าสงสารอยู่นะ

กรรมจัดสรรมาแล้ว และนั่นคือชีวิตของเขาทั้งสองคน ให้เขาไปผจญ/เผชิญกันเอง อย่าไปอะไรกับเขาเลย ถ้ายังนับถือต่อไปได้ก็นับถือ ถ้าคิดว่าสิ้นศรัทธาแล้วก็ไม่มีใครว่าอะไร

 

ถ้าท่านไม่ทำให้ศาสนาเสียหาย ก้อไม่ผิดหรอกครับ

 

ถ้าถึงระดับอนาคามีไม่สึกแน่นอนคะ โดยเฉพาะสึกมาแล้วมาแต่งเมีย เพราะคนจะได้อนาคามีตัดกามกิเลสได้อย่างบริบูรณ์แล้ว