ตัวผมนั่นมีความปราถนา ประมาณว่า อยากช่วยเหลือคนอื่นให้พ้นทุกข์
คือไปพระนิพพาน สอนธรรมให้คนอื่น สอนไปเรื่อยๆ ไม่จำเป็นจะกี่อสงไขยก็ตาม แต่อย่างรู้ๆกันอยู่ ตราบใดที่ไม่ใช่พระพุทธเจ้า หรือพระอรหันต์ จะสอนเก่งไปนิพพานเลยเป็นไปไม่ได้ แต่อย่างน้อยๆ ก็สอนคนเหล่านี่ให้รู้จัก ความดี เพื่อเป็นปัจจัยให้ไปนิพพาน ในชาติต่อไป
ถามว่าเหนือยไหมมันก็เหนื่อยเพราะเกิดเยอะแน่นอน แต่อย่างน้อยตายไปก็มีสวรรค์ หรือพรหมมเป็นที่พักผ่อน ชั่วคราว พอหมดอายุก็ ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ
สรุปสั้นๆ คืออยากช่วยเหลือคนไปเรื่อย พาคนเข้านิพพาน ถ้าเป็นไปได้นะ ถ้าไม่ได้ก็สอนทำความดีเบื้องต้น พอคนเหล่านั้นได้พบพระพุทธเจ้าท่าน พระท่านก็เทศน์คนเหล่านั้นได้บรรลุธรรมไปนิพพาน ในที่สุด ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ
มีใครคิดแบบนี้บ้าง
มีใครปราถนาเป็นพระพุทธเจ้าแต่
ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย ballbeamboy2, 9 พฤศจิกายน 2015.
-
-
ผมไม่เคยนะครับ แต่ชาติก่อนๆเคยใหมไม่ทราบนะ
ในเว็ปมีคนคิดแบบนี้เยอะนะเมื่อก่อน
ประมาณว่าอยากสอนให้คนอื่นเข้านิพพาน
แต่ไม่น่าจะมีใครทำได้
เรื่องเจตนาบริสุทธิ์น่ะ อาจจดีจริง
แต่ว่ามันยากที่จะมีใครซักคนมานั่งฟังคำสอนในสิ่งที่ แม้ตัวผู้สอนก็ยังทำไม่ได้
ขนาดเจ้าชายสิทธะยังต้องบรรลุธรรมก่อนจึงจะสอนผู้อื่น
โบราณว่าไว้ จะสอนอะไรให้ดูตัวเอง
หากเจ้าตัวยังทำไม่ได้ แต่อยากสอนผู้อื่น เกรงว่าจะได้รับเพียงคำตำหนิเท่านั้นนะครับ -
เป็นไปไม่ได้ที่จะสร้างบารมีไปเรื่อยๆ โดยไม่บรรลุมรรคผลหรือสำเร็จเป็นพระพุทธเจ้า
หากคุณสร้างบารมีไปเรื่อยถึงจุดนึงคุณจะได้คำพยากรณ์จากพระพุทธเจ้า หากเปลี่ยนใจเป็นสาวกก็จะสำเร็จมรรคผลตรงนั้น หากไม่เปลี่ยนใจก็จะเป็นนิตยโพธิสัตว์
และเมื่อได้รับคำพยากรณ์ว่าจะได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าแล้ว ก็นับเวลาถอยหลังได้เลย และไม่มีใครในโลกธาตุนี้จะทำให้คำพยากรณ์ของพระพุทธเจ้าทั้งหลายผิดพลาดได้
คนที่อยากจะสร้างบารมีให้ยิ่งใหญ่กว่าพระพุทธเจ้าทั้งหลาย หรือจะสร้างบารมีตลอดไปแสดงว่ายังไม่เข้าใจ และไม่รู้ว่า"กฎ"ในการสร้างบารมีเป็นพระพุทธเจ้านั้นตายตัว จะเปลี่ยนแปลงตามใจอยากไม่ได้ พระพุทธเจ้าทั้งหลายในอดีตก็ก็ต้องทำตามกฏที่ว่าทุกพระองค์ -
ขอตอบเพิ่ม
อัธยาศัยของพระโพธิสัตว์นั้นมีอยู่ 6 ประการที่ พระศรีอาริยเมตไตรยบรมโพธิสัตว์ ตรัสบอกพระมาลัยมี
๑. พอใจที่จะบวช หรือ เนกขัมมัชฌาสัย คือ พอใจที่จะบวช รักเพศบรรพชิตยิ่งนัก
๒. พอใจความเงียบสงบ หรือ วิเวกัชฌาสัย คือ พอใจในความวิเวกเงียบสงบยิ่งนัก
๓. พอใจบริจาคทาน หรือ อโลภัชฌาสัย คือ พอใจในการบริจาคทาน สละความโลภตระหนี่
๔. พอใจในความไม่โกรธ หรือ อโทสัชฌาสัย คือ พอใจในความไม่โกรธ เจริญเมตตาในสัตว์ทั้งปวงอยู่เนืองนิตย์
๕. พอใจในความไม่ลุ่มหลง หรือ อโมหัชฌาสัย คือ พอใจในการที่จะพิจารณาสิ่งที่เป็นคุณและเป็นโทษ ไม่ลุ่มหลงในอบาย เสพสมาคมกับบัณฑิตคนมีสติปัญญายิ่งนัก
๖. พอใจที่จะยกตนออกจากภพ หรือ นิสสรณัชฌาสัย ไม่ยินดีในการเวียนว่ายตายเกิดอยู่ในวัฏสงสารในภพน้อยภพใหญ่ มีความประสงค์ในพระนิพพานยิ่งนัก
ซึ่ง ข้อ6 นั้นจะเป็นอัธยาศัยที่ต้องการนิพพาน แม้จะรู้ว่าไม่มีทางสำเร็จมรรคผลแต่ใจนั้นพอใจนิพพาน ไม่ได้อยากเวียนตายเวียนเกิด แต่ที่ต้องลงมาเกิดเพื่อสร้างบารมีเพราะมหากรุณากระตุ้นเตือนทำให้ต้องลงมา
อีกทั้ง อุเบกขาบารมี จะเป็นตัวจำกัดไม่ให้พระโพธิสัตว์ ปราถนาบำเพ็ญบารมีเรื่อยไป นั่นเพราะอุเบกขาบารมีจะทำให้พระโพธิฯพอใจในการทำเหตุ(สร้างบารมีเพื่อเป็นพระพุทธเจ้า) แต่จะอุเบกขาในผลคือพอใจที่จะได้รื้อถอนขนสัตว์ แต่จะพาคนบรรลุได้มากหรือน้อยท่านจะไม่สนใจ ถือว่าเป็นเรื่องของตัวสัตว์เอง ดังนั้นพวกที่ปราถนาความเป็นใหญ่หรือพิเศษกว่าพระพุทธเจ้าพระองค์อื่นๆแสดงว่ายังขาดอุเบกขาบารมี
และผลแห่งการหลงผิดปราถนาความเป็นใหญ่ก็จะย้อนมาทำร้ายพระโพธิสัตว์และบริวาร ตย.ก็ธรรมชัยโยแห่งธรรมกาย ที่หลงผิดและทำกรรมหนักมหาศาลต้นเหตุก็เพราะความอยากใหญ่เหนือกว่าพระพุทธเจ้าทั้งปวง อยากจะเป็นพระพุทธเจ้าภาคปราบที่มีอำนาจสูงสุดซึ่งเป็นเรื่องผิดเพี้ยน(ปล.ผมไม่รู้หรอกว่าเขาเป็นพระโพธิสัตว์หรือไม่ ถ้าจะเดาก็คิดว่าอาจจะเป็นแต่บารมียังอ่อนนัก จึงหลงผิดได้มหาศาลแบบนี้) -
แบบนี้ยังไงคับ -
1 เริ่มตั้งแต่เบื้องต้นเลยคุณปราถนาพุทธภูมิเพราะอะไร หากฟังหรืออ่านพุทธประวัติแล้วเกิดความชอบใจในความดีความบริสุทธิ์หรือความยิ่งใหญ่ของของพระพุทธเจ้า แล้วอธิฐานพุทธภูมิเพื่อความเป็นอย่างนั้นบ้าง คุณต้องมาสำรวจใจคุณก่อนเลยว่ามีมหากรุณาไหม เวลาเห็นสัตว์ตกทุกข์ได้ยากแล้วอยากจะช่วยรึเปล่า ส่วนใหญ่คนที่ปราถนาเป็นพระพุทธเจ้ามีมาก แต่มีจำนวนน้อยที่ปราถนาเพราะอาศัยกรุณาเป็นที่ตั้ง และในจำนวนที่น้อยนั้นที่จะมีกำลังใจห้าวหาญอดทนบำเพ็นญบารมีไม่ท้อถอยล้มเลิกกลางทางยิ่งหายาก ผมเคยพูดในนี้เลยว่าถ้าคนปารถนาพุทธภูมิเพราะอยากใหญ่ อยากเด่นอยากดัง อยากให้มีคนนับถือ ให้เลิกปราถนาพุทธภูมิเถอะเพราะไม่มีทางสำเร็จ ขนาดคนที่มีมหากรุณายังทำสำเร็จยากเลย
2 เรื่องมหายาน/เถรวาท ผมไม่ได้ศึกษามหายานแต่ผมมั่นใจในคำสอนของเถรวาทว่ามีการทรงจำและเก็บบันทึกได้เกือบครบถ้วนมาแต่สมัยสังคยานาครั้งแรก ถ้ามันขัดกับมหายานคุณควรตัดใจเชื่อเพียงอย่างใดอย่างหนึ่ง เพราะความจริงมันมีเพียง1 เมื่อเชื่อตามหลักคำสอนที่ถูกและตรงแนวทางพุทธภูมิของคุณก็จะตรงไม่บิดเบือนไป ตย.ที่ขัดกันมากๆคือเรื่องบารมี เถรวาทมี 10 มหายานมี 6
ผมขอแนะคุณตรงๆเลยนะ คุณไปหาอาจารย์เรียนวิปัสนาเถอะ เพราะการเจริญวิปัสนาจะได้คุณประโยชน์มหาศาล เพราะจะยกระดับจิตวิณญาน เพิ่มบารมี อบรมศีล สมาธิ ปัญญาไปในตัว เข้าใจสภาวะของจิต แม้กระทั้งทราบได้ว่าตนบำเพ็ญบารมีถึงขั้นไหนแล้ว -
คนที่โดนบังคับให้อยู่โดยที่ไม่บรรลุก็พระอินทร์ไงครับ(ฮา) ท้าวกุเวรด้วย
ไม่เก่งจริงอย่าอยู่ครับ(ถ้าจะหาแฟน ได้ฤกษ์แน่) -
ต้นโพธิ์นั้นเมื่อเติบใหญ่แข็งแรงให้ร่มเงาร่มเย็นเป็นที่พึ่งพึงแก่เหล่าสัตว์ทั้งหลายได้ฉันใด จึงควรช่วยกันถนอมรักษาดูแลต้นโพธิ์ไว้ตั้งแต่ยังเล็ก เพื่อยังประโยชน์ใหญ่ในภายภาคหน้า