เปิดร้านอาหาร เอากำไรเกินควร ไม่เต็มใจบริการ ไม่เอาใจใส่ลูกค้า คิดหวังแต่ผลกำไร ขาดการเกื้อหนุนเกื้อกูลผู้อื่น ไม่ว่าจะเป็นลูกน้องในร้าน ญาติ มิตร สหาย สมณะ ชี พราหมณ์ เพราะเห็นแต่ประโยชน์ส่วนตนเป็นใหญ่..
นี่แหละวิบากกรรมที่มาขวางทางปัญญา..
ปัญญาจึงไม่เจริญสักที ย่ำอยู่กับที่ไม่ไปไหน..
เอิ๊กๆ..
รู้กับสติสิ่งใดเกิดก่อนกัน
ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย ธรรมแท้ว่าง, 20 มีนาคม 2020.
หน้า 5 ของ 16
-
-
สมมติว่า มีคนกล่าวว่า วิสุกทิ 7
ให้ "เกาะจิตไว้ ไม่เสีย"
คนมีปัญญาดี จะ อาสัยสดับ
สัมมาทิฏฐิ มีจิตตั้งตรงใน
การ ออกจากภพ
พูดง่ายๆ คือ มี การมนสิการว่า
ไม่เที่ยง
พอคนกล่าวว่า เกาะจิตไว้ไม่เสีย
ก้คือ กำหนดรู้จิตว่า ไม่เที่ยง
มีการหมายรู้(สัญญา)ด้วย
สัมมทิฏฐิ
พอเกาะจิตได้สำเร็จ คือ มีภูมิ
รูชัดว่าจิตไม่เที่ยงสถานเดียว
ไม่ปลิ้นปล้อนตลบแตลงหวง
จิต รักษาจิต เหนจิตเปนตน
มีตนในจิต
ก้จะเหนว่า ม้า ตัวแรก คือ มนสิการ
ว่าไม่เที่ยง เปนพลัดแรก
แล้วต้องลง อย่าค้างเติ่ง เปนสัญญา
ว่า ไม่เที่ยง
พอขึ้นใหม่อีกรอบ การหมายรู้
ตามสัมมาทิฏฐิไม่หายไป ก้จะ
เริ่มเหน ความวิสุทธิในแต่ละ
ลำดับลำดา ไม่เสีย -
ถ้าเหลือ ถ้า อยาก โน่น อยาก นี่ ก็เป็นได้แค่ นัก ปฏิ สัตว์..
ท่องเที่ยวตามภพน้อย ภพใหญ่..
เอิ๊กๆ.. -
รู้เท่าจะแก้เองหว่ะ
พระโมคคัลลานะ แก้กรรมเต็ม
เม็ดเต็มหน่วย คนเขาตามฆ่า
เพราะเณรคุณต่อแม่ เหนแม่
จากไปเปนโอกาสบวดเบียด
เลยโดนทุบกายแหลกแม้นแต่
กระดูกก้เปนน้ำวุ้น นี่ พระ
โมคคัลลานะแก้กรรมแบบเต็ม
เม็ดเต็มหน่วย
เปนเพียงเศษกรรมเองนะ ที่ต้อง
ตายอย่างตายโห ขนาดนั้น
แต่....มีความรู้ชัดว่า สามารถ ปั้น
โคลนให้เปนดาว ท่านก้รวมร่าง
แจงแวง ไปกราบศาสดา แล้ว
ก้กลับมา เพละ ที่เดิม -
เกิดใหม่ แต่ กายเดิม..
เอิ๊กๆ.. -
มีผู้ช่วย 1คน
ส่วนตัวลุงแมวเองเป็น หน.แผนกเก็บล้าง
ไม่มีผู้ช่วยลงมือเองส่วน
ใหญ่อยู่หลังร้าน
แต่อาศัยความเป็นพ่อคอยสังเกต
ความโปร่งใสเพื่อให้เกิดธรรมมาภิบาล
ขึ้นในระบบของร้าน
ทุกๆ ด้านเช่นด้านความสะอาดปลอดภัย
ของลูกค้า ระยะนี้งดบริการนั่งรับประทาน
ในร้านเด็ดขาดโดยเฉพาะลูกค้ามาเป็นกลุ่มเป็น
ก้อนต้องซื้อหิ้วออกจากร้านทั้งหมด
มีแอลกอฮอลเช็ดทำควาสะอาด
มือจับประตูเลื่อนทุก 2 ถึง 3 ชม.
เปิดร้านเลยเที่ยงวันลูกค้าโวยมารอนาน
ไม่ใช่ขี้เกียจแต่ไม่รีบรวย เพราะสุขภาพ
สำคัญกว่าเงินต้องพักผ่อนอย่างเพียงพอ
และทำเศรษฐกิจแบบพอเพียง
รับค่าตัววันนึงไม่ถึง 300 บาท
นอกนั้น
ไม่เคยได้คิดว่าจะหาช่องทางรับทาง
ไหนอีก... แบบนี้แหล่ะเรียกว่าพอเพียง
และธรรมมาภิบาล หน้าร้านตรงกับ 7- 11
ต้องสะอาดเท่า 7
ไม่งั้นสู้ระบบทุนกินรวบไม่ได้นะเอ้อ..
ดังนั้น ข้างนอกดูหรูและยิ่งใหญ
แต่ข้างใน
ธรรมมาภิบาลและพอเพียงความเสี่ยง
(เจ๊ง)จึงเป็น 0 -
กล่องไม้ขีดไฟ เป็นที่รู้จักกันดี
พระพุทธองค์ ท่านก็อธิบายไว้แล้ว
แบบง่ายสุดเท่าที่คนจะเรียนรู้ตามอยู่แล้ว
คำที่พระศาสดาตรัสก็เรียบง่าย
มันก็ปรากฏในตำรา อยู่แล้ว
ปัญหามันที่คนฟังต่างหาก ระดับความเข้าใจมันต่างกันๆ
ก็ไม่ผิดอะไร เป็นเรื่องธรรมดา
คงไม่มีใครอธิบายแบบจะจะเท่าพระศาสดา... -
ไม่รู้ เกิดก่อน
ส่วน "รู้" เป็นธาตุ อมตะ
ไม่เคยเกิด ไม่เคยตาย ไม่เคยเกิด ไม่เคยดับ ไม่เคยไม่รู้.. -
เองมั๊ย ตอนดึกๆ รู้สึกปลอดโปร่ง รู้สึกจิตใจสงบ วิเวก.. -
คุยเรื่องศีลไปแม็บๆ โผล่มาถามว่าเอาอะไรไปขัด..
นี่แหละท่านเอ๋ย เขาเรียกว่า คนไม่สนใจฟัง คนไม่ตั้งใจฟัง..
ปัจจุบันเป็นอย่างไร อดีตก็เป็นอย่างนั้น..
ปัจจุบันเป็นอย่างไร อนาคตก็เป็นอย่างนั้น..
กรรมทั้งหลายให้ดูปัจจุบัน
เห็นปัจจุบันก็เห็นอดีตก็เห็นอนาคต.. -
"สุตมยปัญญา" พร่องอยู่เป็นนิจ..
โดยขาดการ "โยนิโสมนสิการ" -
กล่องไม้ขีดไฟ เป็นที่รู้จักกันดี
อันนี้เขียนตามควาเข้าใจผม
เรื่องสติ
สติ ภาษาไทยแปลว่า ความระสึกได้
สติมันทำงานอย่างไร
เมื่อเกิดทุกคนก็มีเจ้าสติติดมาอยู่แล้ว
ประจำทวารทั้งหก
ตาหูจมูกลิ้นกายสัมผ้สใจนึกคิด
เมื่อเกิดผัสสะขึ้น เกิดภาวะรับรู้(วิญาณขันธ์มันทำงาน
วิญญาณหก
จักขุวิญญาณ
โสตะวิญญาณ
ชิวหาวิญาณ
ฆานวิญญาณ
กายวิญญาณ
มโนวิญญาณ
เรียกว่า เมื่อเกิดผัสสะ เกิดการรับรู้
สติก็ทำงาน ระสึกขึ้นมาว่ารู้อะไร?
เวทนาก็ทำงาน
สรุปขนวนการของขันธ์ก็ทำงาน.. -
กล่องไม้ขีดไฟ เป็นที่รู้จักกันดี
ยังไม่เขียนเรื่อง จิต เจตสิกนะ..
-
มีอะไรเป็นใหญ่หนอ? -
-
ใช่เรียกว่าคนหมดสติหรือเปล่า?
แล้วตอนคนเป็นลมหมดสติ สติหายไปไหน?
จิตไปไหน? -
ต้องมีโดนกันบ้างอย่างน้อย 1 ราย
ไม่ตายก็รอด
ขอแสดงห่วงใยด้วยครับ
กุศลาธรรมมา อกุศลาธรรมมา
อัพพยากตาธรรมมา
อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา -
-
-
หน้า 5 ของ 16