รู้กับสติสิ่งใดเกิดก่อนกัน

ช่วงภายใน 5-10ปี ใครไม่พร้อมทำงาน ทำหน้าที่ ภัยพิบัติ ภัยธรรมชาติ โรคระบาด มาเก็บกลับบ้านเก่า น่าจะดี..

 

แล้วถ้าจะเอาความ ปราณีต จริงๆ

พระโมคคัลลานะ มี สติไหม

พอคนมาทุบ ลอยปั๊ปๆ
พอคนตามาทุบอีก ลอยอีก
กว่าจะ แปร๊ด! ( พวก ชูคอ
นั่งบนพรหมหนังสัตว์ รอคนมา....
คนละเรืองเลย )

ถ้าเป็น พระพุทธองค์ นายจุนทะ เอา สุกรมัทวะ
มาถวาย ท่านก็ รับฉันทันที แล้วรีบสั่งห้ามไม่ให้
เอาไปให้สงฆ์องค์อื่น

นะ

สติ ไวต่างกัน ลิบลับ

 

ขอดูมือขวาหน่อยยยยยยยย

เรื่อง พระศาสดาทรงรับสุกรมัททวะจากนายจุนทะ

ลุง มะขีกเง.... แต่งสลักสรรเสริญพระศาสดาให้ฟังหน่อยฮับ

 

ตอบได้เละมาก เป็นคำตอบที่อ่านแล้วยืนงง
ไปนานหลายนาที
เหมือนไม่เข้าใจในคำถาม
ถามแค่สติ กับรู้ เท่าที่ตนเองเข้าใจก็ได้

 

ปุถุชนไม่มีสติ ใช้ชีวิตประจำวันได้ไง ทำงาน เรียน นี่นั่น บลาๆๆ ...เหม่อๆ เอ๋อๆ ไรงี้

สติมี 2 อย่างลืมรึป่าว
1.มิจฉาสติ ไหนกางสูตรออกมาสิ มีไรมั่ง
2. สัมมาสติ กางสูตรออกมาสิ มีไรมั่ง

 

ก็ตอบตามที่เราเข้าใจ เข้าถึงแล้วนั้นละ..

ท่านจะเข้าใจได้ยังไง วันๆมัวแต่คิดเรื่องดูแลร้านซูชิ วันๆห่วงแต่อนาคตลูก..

พอตอนดึกๆ ตี3 ตี4 แทนที่จะภาวนา ดูกาย ดูใจ กลับมัวมาท่องเว็บบอร์ด..

 

เรากำลังกล่าวถึง อาการ รู้ ซึ่ง เป็น อาการของจิต ซึ่ง จิต คือนายคือตัวรุ้ มีอาการ คือเจตสิกมากมาย
ที่ถามว่า รุ้ กับ สติ สิ่งใดเกิดก่อน ตอบตามธรรม คือ สติ เกิด รู้ จึงเกิด สติ ไม่เกิด รุ้ย่อมไม่เกิด จะเอาอะไรมารู้ เพราะไม่มีเครื่องดักจับ
รู้ ที่เกิดดับ ก็อาศัย สติ ที่เกิดดับ ตามจับรุ้นี่แหละ นี่คือเรากล่าวถึง รู้ กับ สติ

แต่ถ้ากล่าวถึง ตัวรุ้คือจิต มันเกิดก่อน ทุกสิ่ง ตัวรุ้หรือจิต มันมีเจตสิก คืออาการของจิต อาการของจิตหรือกริยา เกิดตามหลัง เกิดตามเหตุปัจจัยที่ทำให้เกิด กริยาบางอย่างมันสั่งสมอยุ่กับจิตมายาวนาน จนสัมปยุตกลายเป้นสิีงเดียวกับจิต จนแยกไม่ออก กลายเป้นอาการของจิตบางอย่างเกิดพรัอมกับจิตไปนั่นเองในปัจจุบันชาตินี้นั่นเอง

ทีนี้เวลากล่าวเรื่อง จิต คือ ตัวรู้ สติ ความรู้ ไม่รู้ หรือเจตสิก อื่นๆมากมาย ตัองมีรายละเอียดเยอะๆจะดี เพราะมีหลายสภาวะซึ่ง จิต แต่ละสภาวะ สติ หรือ อาการรุ้ก็ดี ต่างสภาวะก็ต่างลักษณะ การอธิบายมีความละเอียด อาจทำให้เข้าใจคลาดเคลื่อนได้ คำถามจึงต้องละเอียดจำเพาะเจาะจงด้วยจึงจะดีมากครับ

 

อย่ามาคุยโม้ นะ ว่า ภาวนาอยู่ตลอดเวลา จากตื่นจนหลับ เพราะ ความสามารถ และ ปัญญาท่านเท่านี้ ยังห่างไกลการภาวนาในชีวิตประจำวัน มาก..

 

เชิ๊บ เชิ๊บ มหา คาบ เกิบ เข้า ป่า หมาก นัด..

ผุ ญิง แหล่น ไล่ ล่ะ ผุ ซาย แหล่น ลัด มหา แหล่น เข้า ล้าน ซูชิ เลย บ่ได้ ใส่ เกิบ..

 

จิต คือผู้รุ้ อาการรู้ และไม่รู้ ย่อมเกิดดับเป็นธรรมดา จิตใดสั่งสมสติมาดี ย่อมปรากฎรุ้เกิดขึ้นเป็นธรรมดา

จิตใดขาดสติ ย่อมไม่ปรากฏรุ้ หรือไม่สามารถรุ้สิ่งต่างๆได้

ปุถุชน ย่อม มี ใจ อันปกติ คือ มีสติเกิดดับ มีรู้ทีีเกิดดับ
การมีสตินี่เองเป้นรากฐานของการสร้างปัญญา ตราบใดที่ยังไม่มีสติ ตราบนั้นยังไม่รู้ เมื่อยังไม่รุ้ ก้จะไม่สามารถสร้างปัญญาให้เกิดไดั

 

ท่านช่วยแนะนำวิธีเจริญสติ ให้เจ้าของร้านซูชิ ด้วยสิ..

เพราะ ดูๆ แล้ว เจ้าของร้านซูชิ สติ ดับ เป็น อันมาก..

 

กั๊กๆๆๆ

ไม่พูด มรรค ไปเลยหละ มรรค มีสองอย่าง

มิจฉา กับ สัมมา

ฮิวววววววววส์ งง เต็ก ว่า จะกล่าวไปทำไม
จะบัญญัติไปทำไม

ฉันทะ เป็นที่รวมลง ยกขึ้นได้ไม่กระฉอก ว่ากันไป

แต่ถ้าจะถามว่า " ฉันทะ คือที่รวมลง " จะลาก
มากล่าวทำไม .. มะฮู้เฮื้อง

ก็กลับไป พังติป เลยฮับ ไปคุยกะ เฉลิมฯ โน้น

 

ว่าไง "ทีเจโซ"

เคยได้ยินไหม

"ความไม่รู้" คือ ปัจจัยในการเกิด "จิต"

ถ้า "ความไม่รู้ดับ" จิต จะเกิดได้เป่า ฮับ?

 

อิปัง ฉันดึงโพสคุณปราบมา ก้อพูดสติปุถุชนกะสติคนฝึกนะเว้ย แกร์นั่นแหล่ะยกไปสติอรหันต์หาพระแสงของ้าวเอง

 

กั๊กๆๆๆๆ

เหมือน บัณฑิต กล่าวกันถึง นิพพาน นิพพาน

ปรารภแต่ มรรควิธี ไปนิพพาน

แต่มี เด็กพันทิป เอา สันติ มายัดปาก
พวกปรารภจะไปนิพพาน ชวนถามกลับ
ว่า "มะอึงเป็นคนเป่า"

บัณฑิตแท้ๆ จะ เห็นเลย ทีเสวนาอยู่นี่
ไม่ใช่คน "อาสัย ฉันทะเป็นที่รวมลงสู่..."

 

คือแกร์เนี่ยะ สะระแหน่มาพูดจิตอรหันต์เองเนอะ
แต่ฉันเนี่ยะ ดึงโพสคุณปราบมาถามปุถุชน กะจิตคนฝึก
พูดรอบ 2 แล้ว พอเข้าใจอะไรง่ายๆ แบบนี้ยัง

 

เฉลิมฯ มาแล้วเหรอ....

เฉลิมฯ ไปแล้วเหรอ....

 

เนี่ยะ ทีหลังจะสะระแหน่อะไร ทำการบ้านด้วย
เฉลิมนี่ใครหล่ะ นี่นานมากแล้วนะไม่ได้เล่นพันพิษ
แกร์เองที่เล่นเองอ่ะป่าวที่ไปอ่าน แล้วมาโมเมคนนั่นคนนี้เขาจะเป็นแบบแกร์

หวีฝึกกับ ลพ.เจริญ วัดป่ามะขามเปียก พระที่แกร์ชอบอ่ะ ทวนรอบ 2 แล้วนะ อิอิ

 

ขอแทรกตรงนี้หน่อย..

จิต คือ ผู้รู้..

แล้วเอาอะไรไปรู้อาการ รู้และไม่รู้..

ลองทวนกระแส กลับไปซิ..

ลอง อนุโลม ปฏิโลม ดูซิ..

จะมี "รู้" ที่เป็น ธาตุ อมตะ หรือเปล่า..

 

ปุถุชน มีสติบริบูรณ์ ขับรถได้ ....ถึง นิพพาน ทุกโคนนนนน


ฮิววววววววววส์