-
ความฝันก็เป็นความคิด
แต่ถ้าจิตพัฒนาแล้ว ความฝันจะไร้อามรมณ์ร่วม
คราวนี้เราก็ลดเหตุเรื่องราว ความเพลินใจ มารู้สึกกายใจ ดู รู้กายรู้ใจอย่างที่เป็น
-
.....ถึงตอนนี้ ควรวางจิตให้ถูก คือ จิตมันรู้อะไร นึก อะไร ให้รู้ ว่า จิตมันไปรวมอารมณ์น้อมเอา เข้าไปในความรู้ ความเห็นนั้นๆหรือเปล่า เช่น คนสมัยก่อนเค้าทรงเจ้า คือเค้าจะกำหนดจิต แล้วทำสมาธิน้อมเอาสิ่งนู้นเข้ามา สิ่งนั้นเข้ามา เมื่อรวมกัน จึงเป็นเช่นนั้นๆ อาจจะรู้อะไรแปลกได้ แต่การน้อมจิตไปนั่นน่ะ ไม่เป็นตัวของตัว คือเปรียบกับที่กล่าวมานั่นล่ะ จิตสามารถสื่อกันได้ ถ้าเราเผลอน้อมเอาอารมณ์เข้ามาแต่พิจารณาแล้วปล่อยไว้ที่มันอย่างนั้น เราก็เพียงรู้ คือรู้ไว้ เฉยอยู่ เราก็จะไม่เป็นคนทรงเจ้า คือ เรารู้แต่เราไม่น้อมเอาอารมณ์นั้นเข้ามา คือ อารมณ์มันจรมาแบบนั้นน้ะ ถ้าเปลี่ยนความรู้สึกที่เรามีผู้รู้นี่ ปั๊ป สติกลับมาที่ตัว อย่างนั้นน้ะ คือ ถึงแม้จะมีกำลังมากน่ากลัวบังคับเราได้อย่างนั้นน้ะเราจะไม่เป็นอิสระ คือ ความรู้ความเห็นนั้นๆ มันบังคับเราอยู่ เหมือนอย่างเราลงไปว่ายน้ำ เปรียบน้ำกับอารมณ์นั้นๆ เราอยู่ในน้ำแต่เรามองไม่เห็นสิ่งที่ลอยมากับน้ำ จะกระทบกระทั่งเราได้น้ะ แต่ถ้ามีผู้รู้ เท่ากับเราอยู่ ริมน้ำ มองเห็น อะไรๆ ได้น้ะประโยคหลัง นี่ยกคำกล่าวของหลวงปู่ดูลย์ มาเปรียบเปรยไว้เป็นแนวทางในการปฎิบัติ แต่ไม่เข้าใจก็ถามได้ คือ เคยผ่านมาแล้วน่ะ เจอทั่งแรงเบา ถูก ผิด บิดเบือน เลอะเลือน ผ่านมาแล้ว ครับ ส่งคำถามไว้ หน้าห้องได้เลย ท่านอื่นๆที่ปฎิบัติ จะได้มาตอบเป็นแนวทางกันด้วยครับ หรือ ข้อความก็ได้ ยินดีแก้ข้อสงสัยให้ครับ หรือ อีกนัยโดนสะกดจิต หรือ ลงของลงกระหม่อมมาแบบนั้น ก็เป็นได้ครับ เรื่องพลังจิต หรือมนต์คาถา ก็จะอีกแนว
-
.......จิตตอนนี้เป็นทุกข์อยู่รึเปล่า เปรียบเราอยู่กับทุกข์มีอารมณ์ทุกข์ เรารู้มันรึเปล่า ความทุกข์นั่นน้ะ มันทำให้เราเป็นเช่นไร ความรู้สึกนั้นๆ มันเกิดขึ้นมาอยู่กับเรานานเท่าไรแล้ว แก้มันได้ แค่เรียนรู้ แล้วปล่อยมันไป ว่าทุกข์เดี๋ยวมันก็หาย สุข ก็ไม่นาน สักว่ามันเป็นเช่นนั้น ของมันอยู่ตรงนั้น แต่ความรู้สึกมันมากินใจเราตรงนี้คือที่ใจท่านน้ะ อย่างนั้น ทุกข์มันจะหมด มันก็เลยกลัว คือ จิตมันไม่เข้าใจทุกข์ว่าเป็นที่กล่าวมาเท่านั้นเองล่ะ อันนี้ขอตอบไว้ก่อน ให้มีกำลังใจในการปฎิบัติก่อน โพสส์เมื่อ 5.oo pm 17 ธค.
-
เบื้อองต้น รู้จักสัมมาทิฏฐิ รู้จักความเป็นตัวเรา รู้จักทุกข์ มีสคิบ่อยๆระลึกที่กายใจ เช่น พอเราโกรธ ระลึกใบหน้าเราจะร้อนๆ หรือ ขึ้นมาที่ใจพุงขึ้นมา ระลึกบ่อยๆ
ความรู้อยู่ที่จิต
ระลึกบ่อยๆ พากเพียรบ่อยๆ
หรือ ระลึกความฟุ่งซ่านก็ได้
เมื่อสิ่งนี้มี สิ่งนั้นจึงมี
ความฟุ่งซ่านมี ความเหนื่อยจากการฟุ้งซ่านจึงมี
5555
ความรู้อยู่ที่จิต ของใครของมัน เป็นไปตามสภาวะแต่ละคนของการหมายรู้หรือที่มีที่เป็น ภพ ชาติ
ของการเกิด การเลี้ยงดู ปัจจัยต่างๆ
-
ความรู้อยู่ที่จิต
ใครขี้โกรธมันจะรู้ของมันว่า ลักษณะการโกรธเป็นอย่างไร
หรือ พวกทำสมาธิเก่งมันก็จะไม่รู้จักพวกคนฟุ้งซ่าน ไม่รู้เหตุ แถมยินร้ายด้วย ไอนี้ฟุ้งซ่านมันบ้า
ความรู้อยู่ที่จิต ของใครของมัน
-
อาการสวนด่า ในช่วงที่ฟังธรรมะ
สมัยก่อนผมก็เป็นเหมือนกัน
มีคอมเมนต์สวนในใจตลอด
ชอบปรามาสอยู่เสมอๆ
ต่อมาฝึกปล่อยวางตัวตน
ตามทางของ หลวงพ่อฤาษีลิงดำ
จึงเริ่มปล่อยวางตัวตนของเรา ลงได้
-
นั้นไง ถ้ารู้ใจชอบปรามาส ชอบด่า นั้นไงคือ รู้
รู้เพื่อตามเป็นจริง
ไม่ใช่รู้เพื่อจะไปแต่งตกว่าตัวเราดีนะครับ
เรารู้ว่า สิ่งที่เคยทำมา สิ่งที่เคยยินร้าย ย่อมปรากฏตามเป็นจริง
โอ้หนอ ตัวเราหนออย่าให้เป็นอย่างนี้เลย
โอ้หนอ ตัวเราหนออย่าให้เป็นอย่างนั้นเลย
เอาละว่ะเห้ย เป็นยังไงเป็นอย่างนั้น มารยาไปทำไป
ก็ตัวเราร้ายกว่าที่คิดนี้หว่า แฮ่ๆ
-
สิ่งปรากฏและรับรู้ คือ ปรมัตถ์ธรรม