เคยได้ยินบ่อยๆเรื่องรู้ไม่ถึงฐาน ก็น่าจะเข้าที่ต้องมีสติระลึกอยู่ที่ฐานภาวนาก่อน พอหลุดออกก็รู้ ตอนกลับมาที่ฐานแล้ว ตรงนี้รึป่าวปู่ที่ว่ายังไม่ถือว่าเป็นสติอัตโนมัติ
สติขั้นฝึกฝน VS สติปัญญาขั้นอัตโนมัติ
ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย หลบภัย, 30 พฤศจิกายน 2012.
หน้า 2 ของ 10
-
-
ผมอยากถาม ว่า
พี่เกิดบอกว่า สามารถทำให้สติเกิดได้
ปัญหามันอยู่ที่ว่า
ก่อนที่จะเกิดสติ นั่นนะ พี่เกิดทำยังไง อยากรู้ตรงนี้ -
นั่นเป็นองค์คุณ ของอรหันต์ท่าน..ชาวบ้านอย่างเราเขาเรียกสัญชาตญาณที่ทำอะไรโดยไร้เจตนา..อรหันต์ท่านมีสติเต็มรอบแล้วเป็นเครื่องอยู่ครับ
จะมีแต่กิยา ผู้มีสติเป็นเครื่องอยู่จึงจะเป็นผู้ไม่ตาย..ไม่เคยได้อ่านรึ พี่รึสีตาหวาน อิอิ:'( -
แล้วช่วงก่อนที่ไม่เกิดสตินั่น อันนั้นมันเป็นยังไง -
คุยกันตรงๆนะครับ คนที่จะมีสติอัตโนมัติได้นั้น..เขาต้องเกิดสติก่อนแล้วแน่นในใจเขาแล้ว..เกิดสติแล้วเน้นตรงนี้ครับ..สติเขาเกิดแล้วเป็นสมาธิจิตแล้ว เพราะเขาอัญญะมัญญะซึ่งกันและกัน..
เห็นเวลาคนตกใจ สำหรับคนที่เกิดสติแล้ว ตามกำลังสติของเขานะ หากสติเต็มที่เขาไม่สะเทือนเลยไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น..เอาปืนมายิงข้างหูก็ยังเฉย ไม่มีสะดุ้งแม้ความตาย แม้ในฝันยังเป็นอาการแบบนี้เลยผมจะบอกให้
หากคนที่เกิดสติแบบยังไม่แน่นพอ หรือเพิ่งเกิดสติต่อเนื่องได้ไม่นาน แต่เขามีสติเป็นเครื่องอยู่ในใจเขาตลอดเวลาที่ภาวนา เมื่อเกิดเหตุใดที่ทำให้เขาตกใจจิตเขา..จะวิ่งเข้าหาพุทธโธหรือเครื่องอยู่อย่างอื่นในใจ ที่เขาภาวนาทันที ..
ตรงนี้แหละ..ที่มีสมี..บางตัว มันเอาไปสอนว่าเป็นสติอัตโนมัตเพื่อหาเงินเข้าบัญชีตนเอง แต่ตัวมันเองไม่เคยผ่านสติจริงๆมาสักครั้งเลย
.. ใครจะคัดค้านก็เชิญแลกเปลี่ยนสนทนากันได้เลยครับ..จะได้เข้าใจ สติอัตโนมัติสักที ไม่ใช่ถึงขนาดเป็นสติของพระอริยะเจ้าหรอกครับ..แค่คุณเกิดต่อเนื่องและทรงสติได้แนบแน่นแค่ไหนเท่านั้น..จิตคุณจะมีเขาเป็นเครื่องอยู่แล้วครับ เพราะสมาธิจิตจะเกิดพร้อมกันแบบแนบแน่นไปทีละนิดละหน่อยตามขั้น ลำดับ ความแรงของสติ ของผู้ฝึกเองครับ เอ้าว่ามาครับ
^ อันนี้เหรอครับที่พี่เกิดโพส
ยกมาประโยคแรกเลย
คุยกันตรงๆนะครับ คนที่จะมีสติอัตโนมัติได้นั้น..เขาต้องเกิดสติก่อนแล้วแน่นในใจเขาแล้ว..เกิดสติแล้วเน้นตรงนี้ครับ
เห็นไหมว่า เขาต้องเกิดสติก่อน
ไอ้ที่ ว่าเกิดสติก่อน แล้ว วิธีที่จะทำให้เกิดสติก่อนของพี่เกิด ทำยังไง -
ทำไมพี่สับสน พูดกลับไปกลับมา กลับสุดท้ายก็บอกว่า มีแต่พระอรหันต์เท่านั้น
อ้าวแล้วที่บอกว่า สับสนเคยผ่านมาแล้วคืออะไร ไม่ได้มีเจตนาซ้ำเติม
อยากแก้ทิฐิ เฉยๆ
โปรดบอกความจริง -
:mad:เอ้าผมตอบให้ก็ได้ ผมก็ฝึกสมาธิธรรมดานี่แหละครับ สติเขาเกิดพร้อมกันอัญญะมัญญะ..ผมก็ใช้ธรรม มาพิจราณาทุกข์ที่เกิดกับผมในชีวิตปัจจุบันการใช้ชีวิตประจำวัน (จิตสลดจากทุกข์ปัจจุบัน-จะช่วยได้มากในการฝึก)..ผมนั่งสมาธิพิจราณาธรรมไปด้วย จนเกิดอาการปฏิเวธ
.. เข้าใจในเนื้อหาของธรรมอย่างเข้าใจ ซาบซึ้งอะไรก็ว่าไป..ถ้าคุณไม่เผลอหลับหรือคิดไปเรื่องอื่น..นั่นแหละแสดงว่ามีสติแล้ว..เกิดความเพียรแล้วตรงนี้ อาการปฏิเวธจะเกิด (ตรงนี้เคยเล่าไปแล้วครับ) ถุกต้องเลยเรียกเพียรชอบ..รู้ชัดเจนเป็นเรื่องๆจะตามมา ตามกำลังสมาธิที่ใช้พิจราณาธรรมในขณะนั้นๆครับ แล้วอย่าถามอีกนะพี่ปราบ หลายรอบแล้วครับ อิอิ:cool: -
-
ถามหน่อยว่า ขั้นปฏิบัติ กับขั้น ปฏิเวธ มันเหมือนกันไหม
ขั้นปฏิบัติ เป็นขั้นการสร้างเหตุ
แต่ขั้นปฏิเวธ มันคือผลงาน
ทีนี้ ผลงานกับเหตุ มันตัวเดียวกันไหม
เอ๊า ว่าไงล่ะ -
อ่านนี่แล้ว กลับกลอกจริงๆ หุหุ
ดูโพสก่อนหน้านี้
สติไร้เจตนา เป็นองค์คุณ ธรรมฝ่ายโลกุตระ นั่นคือ สติสัมโพฌชงค์ (สัมมาสติ)
เรียกว่า สติตัวจริง
ไม่ได้มีแต่พระอรหันต์หรอก ปุถุชนเดินสติปัฏฐาน
ที่เริ่มเข้าสู่ รูปนามปริเฉท วิปัสนาญาณอ่อนๆ ก็ได้สัมผัสเช่นกัน -
ไม่ใช่อัตตโนมัติแบบอริยะท่านทรงอารมณ์ ใช้สติหรือมหาสติเป็นเครื่องอยู่..กำลังสติ..มันต่างกัน..คนที่ไม่เคยเกิด ไม่เคยผ่าน พูดยังไงก็ไม่เข้าใจผมก็เลยยกตัวอย่างให้เห็นชัดๆว่า ..การมีสติอัตตโนมัติ ไม่จำเป็นต้องเป็นอริยะ..ผู้ที่กำลังฝึกสติให้ต่อเนื่อง เขาก็มีสติอัตตโนมัติได้เช่นกัน..เข้าใจรึยัง
หลบภัย..
..ไปอ่านสติอัตตโนมัต ให้เข้าใจคำว่า.."สติไร้เจตนา" นี่เป็นคำที่ใช้ หรือเป็นองค์คุณของอรหันต์หรืออริยะ ท่านที่ทรงสติ จะใช้คำนี้..
ไอ้สมี..บางตน ที่ฝึกจิตบนศาลามันใช้บ่อยคำนี้ มันไม่จริงคนธรรมดาจะใช้คำนี้เขาเรียกสัญชาติญาณ เข้าใจรึยัง :':)@ -
เข้าใจปู่แล้วอาการที่ปู่ว่าเนี่ยยังไปเกาะผู้รู้อยู่เลยแล้วก็ยังต้องยึดกันเหนียว จะว่าไปไม่ได้เรียกว่ามีสติอัตโนมัติหรอกขณะนั้นเผลอไปก่อนจะกลับเข้าพุทโธ ซึ่งถ้าจะอัตโนมัติพุทโธต้องแนบกับลมหายใจ(ตัวรู้ จนปล่อยหมด จะมีแค่รู้เฉยอยู่ เห็นเกิดดับตามจริงในขณะนั้นๆ ซึ่งตรงนี้จะมีแค่รู้ๆๆๆๆ)จนกว่าจะออกมาอีกจึงสามารถไปกำหนดได้ว่าไปรู้อะไรยังไงมาเทียบเพื่อคุยเสวนาอีกที
-
พี่เกิดไม่สนใจฟังตะหาก -
เคยผ่านมาแล้ว แรกๆ นานจะมาที แต่หากเราทำสติปัฐฐาน 4 ไปเรื่อยๆ
สติอัตโนมัติ ก็จะถี่ขั้น และแข็งแรงขึ้น
คิดว่าเราไม่เข้าใจเหรอ
หากพูดความจริงเราเข้าใจ และเข้าใจในความมั่วนั้นได้ ไม่ยากเพราะอะไรรู้ไหม เพราะเราไม่เคยคิดว่าผู้อื่นไม่รู้ หรือเรารู้มากกว่า ตามความคิดและสติเราให้ทัน สัญชาติญาญก็ตัวนึง แต่ขณะนั้นระลึกได้ไหมว่าสัญชาติญาญกำลังเกิด
พึงสังเกตุ หากสติอัตโนมัติเราจะระลึกได้จนจบ เลยทีเดียวเชียว ไม่ได้โม้นะ
-
นี่รอชมอยู่ ว่าทำยังไง สติพี่เกิด ถึงเกิดได้ อิอิ รอชมอยู่นะ
-
:'( หากผิดก็บอกมาตรงไหน ผมก็ชวนคุยอยู่แล้ว คุณกลับมาด่าว่าผมกลับกลอก-ลูกสาวก็ใช้คำเดียวกัน..
คุณปฏิบัติธรรมยังไง พ่อ ปู-ลูกปู..คุณไม่เปลี่ยนเลยคุณปราบเทวดา-รึสีตาหวาน-วิษณุ12..ผิดก็บอกต้องมาต้องใช้คำหยาบมาปรามาส มาด่าผมทำไม คุณคิดร้ายจริงๆทั้งพ่อ-ทั้งลูก อิอิ..
ยังงี้ผมไม่คุยแล้วไปดีกว่าน่าเบื่อ คุณปรับปรุงตัว ทั้งพ่อ-ทั้งลูกเลย อย่าเจ้าคิด-เจ้าแค้น มันไม่เจริญในธรรมเลย สาธุ:':)':)':)'( -
สติอ่อนแอจริงๆ อ่านแล้วเป็นคำหยาบไปได้
สติตัวจริง หรือตัวปลอมน่ะ อิอิ
เกิดสติตัวจริง แต่ เกิดมาได้ไงหว่า ไม่ยอมบอก -
อ้างอิง:
เดี๋ยวจะหาว่าไม่กล้าฟันธง..คนเคยผ่านมา หรือเคยเกิดสติ..ผมนี่แหละเคยผ่านของจริงมาเลยจะรอ อย่าช้าไปเอาต้นตอมาดูหน่อย ผมจะเถียงมา
..สติอัตโนมัติ..นี่มาเลย อิอิ
^
บินมาเยี่ยงพญาอินทรี
อ้างอิง:
..ผมก็ยังอยู่ที่นี่ ผมก็ตอบอธิบายข้างล่างขยายให้แล้ว..ทำไมคุณ พ่อ-ลูก มาถามแบบเจตนาร้าย ใส่ความ จับผิด แทนที่จะชวนผมสนทนา..หรือบอกเฉยๆว่าผิดตรงไหน
หากผิดก็บอกมาตรงไหน ผมก็ชวนคุยอยู่แล้ว คุณกลับมาด่าว่าผมกลับกลอก-ลูกสาวก็ใช้คำเดียวกัน..
คุณปฏิบัติธรรมยังไง พ่อ ปู-ลูกปู..คุณไม่เปลี่ยนเลยคุณปราบเทวดา-รึสีตาหวาน-วิษณุ12..ผิดก็บอกต้องมาต้องใช้คำหยาบมาปรามาส มาด่าผมทำไม คุณคิดร้ายจริงๆทั้งพ่อ-ทั้งลูก อิอิ..
ยังงี้ผมไม่คุยแล้วไปดีกว่าน่าเบื่อ คุณปรับปรุงตัว ทั้งพ่อ-ทั้งลูกเลย อย่าเจ้าคิด-เจ้าแค้น มันไม่เจริญในธรรมเลย สาธุ
ู ^
บินหนี เยี่ยงพญากระจิบ(k)
ไว้พรุ่งนี้ บินมาใหม่นะพี่เกิด พร้อมเสมอ (k) ^^ -
สติ(สติธรรม)อัตโนมัติ ไม่ใช่สติที่เกิดขึ้นมาโดยอัตโนมัติ
แต่เป็นสติที่ทรงตัวอยู่อย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว
โดยที่ไม่มีเจตนา ใ้ห้สตินี้ทรงตัวอยู่ แต่สตินี้ทรงตัวอยู่ได้ด้วยตัวเอง
สติที่เกิดโดยอัตโนมัติของพวกคุณ เกิดจากการตักเตือนตนบ่อย ๆ
ค่อยกระตุ้นตนบ่อย ๆ ให้มีความรู้สึกตัว ที่บอกว่าดูกายดูใจเนือง ๆ นั่นแหละ
ให้ดูยินดี ยินร้าย นั่นแหละ เป็นการฝึกการหัดให้กระตุ้นเตือนตนเองให้มีสติบ่อย ๆ
นี่เป็นสติที่เกิดโดยอัตโนมัติ ขอย้ำสติที่เกิดโดยอัตตโนมัิติ
ไม่ใช่สติที่ทรงตัวอยู่อย่างอัตโนมัติ ไม่ใช่สติที่ทรงตัวอยู่โดยไม่ได้เจตนา
ถ้าไม่พยุงสตินี้ไว้ สติตัวนี้เกิดแล้วก็ดับไป อย่างที่คุณเข้าใจกันนั่นแหละ
สติตรงนี้ไม่ต้องทำสมาธิก็เกิดขึ้นได้ เพียงแต่มีความเข้าใจแล้วกระตุ้นเตือนตนบ่อย ๆ
เตือนอยู่เนือง ๆ ก็เกิดได้แล้ว
สติตรงนี้เมื่อดับไปก็เผลอได้ กิเลสลากเอาไปกินตอนนี้
แต่สติอัตโนมัติ หรือ สติที่พ้นเจตนาที่แท้จริง
คือสติที่หยั่งถึงภายในแล้ว หยั่งถึงจิตแล้ว จิตมีสติสืบเนื่องอยู่แล้ว
ไม่ต้องคอยให้เกิดอัตโนมัติ แต่จิตมีสติสืบเนื่องอยู่แล้ว
การเป็นอัตโนมัติหรือพ้นเจตนา ก็คือ
ผู้ปฏิบัติไม่เจตนาที่จะพยุงสตินี้ให้ทรงตัวอยู่
แต่สตินี้ทรงตัวอยู่ได้ด้วยตนเอง
นี่คือสติอัตโนมัติ หรือ สติพ้นเจตนา
ส่วนสติอัตโนมัติ หรือ สติพ้นเจตนา ที่คุณเข้าใจว่า
ก่อนหน้ายังไม่มีสติ แต่มีสติขึ้นมาเองโดยอัตโนมัติ โดยไม่เจตนา
นี้ไม่ใช่สติอัตโนมัติ หรือ สติพ้นเจตนา ที่แท้จริง -
พี่เตชผมฟุ้งๆแล้วไปเจอคำถามที่ว่าสติต่อเนื่องอย่างไร เป็นสติที่เกิดดับพร้อมจิตไหม
หรือเป็นสติที่นิ่งอยู่ ตื่นอยู่ตลอดไปเห็นการเกิดดับของจิตในแต่ละขณะ
ตรงนี้มันฟุ้งไปที่ว่าก็สติเป็นสิ่งที่เรียกว่าการระลึกจึงน่าจะเกิดดับพร้อมจิตหรือไม่ครับพี่เตช
หน้า 2 ของ 10