เจอประจำผมตอนเป็นพระ
พอสึกมาหายไปไหนหมดกะไม่รู้
55
ห้องแมวยิ้ม สัพเพ เหระ อะไรก็เอามาลงกระทู้นี้ได้ครับ
ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย zalievan, 9 ธันวาคม 2018.
หน้า 281 ของ 356
-
เอาไปขยายติดข้างฝาบ้านไว้ แล้วจะดีเอง..
555555555 -
55ถ้าเอาจะเมียสึกก่อนเด้อ
เกรงใจผ้าเหลือง
เลี้ยงดูเรามา -
บ่ๆตัวหลอนตามเณร55
-
นาคจะได้พ่นน้ำด้วยไง..
555555555 -
พวกไม่นิยมศีลถึงเป็นนาค
เมือวานศีลขาดพึ่งเป็นมา55 -
อดีต อดีต มันผ่านไปแล้ว..
แค่นาคอยากพ่นน้ำ เล่นน้ำ เฉยๆ.. -
นั้นละเนาะคนเรา
พอทุกข์มากะโว้ยวาย
ตัวทำตัวเองทั้งนั้น -
ไปล่ะ..
แบตจะหมดละ.. -
เราให้อาหารมัน
มันกะโตเรื่อยๆ
ต้องให้มันยอมเรากิเลส -
เดาว่าอยู่ในพุทธเกษตร
น่าจะอยู่ได้แค่ถึงสิ้นสุดกัป
เว้นแต่ความวิบัติของจักรวาลด้วยธาตุทั้งสี่จะไปไม่ถึง
เดาว่าในนั้นไม่ได้มีแค่พระอรหันต์ตามนิกายทางจีนด้วย -
จักรวาลประกอบด้วยรูป และนาม รูปนามแตกดับ ก็เหลือ รูปและนามอยู่ดี มีสิ่งใดเหลืออย่ทธรรมขาติก็มีอยู่ นั่แหละ นิพพานไม่เกิดไม่ดับ ไม่มาไม่ไป มีอยู่ เป็นอยู่อย่างนั้น -
พนะอรหันต์อยู่ที่ไหน ทุกนิกาย อยู่นิพพานคือธรรมชาติรอบตัว ที่ไม่เคยเกิดดับ
บอกได้เท่านี้แหละคนชั่วมันแยะ -
และ
หรือ
ความหมายภาษาไทยเข้าใจยากจริงๆ -
....
เฮ้อ.!
อ้าว ผมก็ต้องมีกิเลสสิ ผมก็บอกอยู่ว่าผมอยากเป็นพระพุทธเจ้า -
แล้วมันต่างกันตรงไหน -
ทุกคนมี อารมณ์พระอรหันต์ ติดตัวมาตั้งแต่เกิดแล้ว
อารมณ์ของพระอรหันต์ ตอนที่เป็นเด็ก จะมีมากกว่าผู้ใหญ่เสียอีก
เด็กๆ จึงบรรลุธรรม ได้เร็วกว่าผู้ใหญ่
เพราะอะไร ก็เพราะว่า มีประสพการณ์น้อยกว่า
จึงไม่สงสัย หรือ ติดกับ อยู่กับ ประสพการณ์แย่ๆ เหล่านั้น
เวลาที่เด็กตัดสินใจ จะตัดสินใจด้วยใจ
ไม่ใช่ตัดสินใจตามประสพการณ์
เด็กบางคน บรรลุธรรมตั้งแต่อยู่ในท้องมารดา ก็มี
เราขอเตือนว่า ภาวะของการเป็น พระอรหันต์
มีติดตัวมาตั้งแต่ต้น ตั้งแต่ที่เราเกิดแล้ว
ไม่ใช่เพิ่งมาค้นพบ ตอนที่เป็นผู้ใหญ่แล้ว
แต่ความเป็น พระอรหันต์ จะถูก
ประสพการณ์ที่ดี และ ร้ายของเรา คอยบิดเบือนเรา
ให้เราเป็นคนที่มี ความคิดมาก หรือ คิดเยอะ
จะทำอันนั้น ก็กลัวอันนี้ จะทำอันนี้ ก็กลัวอันโน้น
จะทำอันโน้น ก็กลัวผิดพลาดไปเสียหมด
เราจึงไม่ได้ทำอะไรเลย
แต่ความจริงในเรื่องการฝึกปล่อยวาง
ท่านจะต้องฝึกให้ คนอื่นมาหลอกท่าน
แล้วท่านก็ฝึกปล่อยวาง ในสิ่งที่เค้ามาหลอกให้ได้
นี่จึงเรียกว่า การฝึกปล่อยวาง
จะต้องปล่อยวางทันที เมื่อเรากำลัง สุขใจ หรือ เสียใจ
แต่ผู้ที่ฝึกใหม่ๆ อาจจะต้องใช้เวลาหลายวัน
ในการปล่อยวาง ซักเรื่องหนึ่ง
แต่ถ้าเป็น พระโสดาบันไปแล้ว
เค้าจะไม่คิดเรื่องนั้น เกิน 1วัน
แต่ถ้าเป็น พระอรหันต์ พออารมณ์ต่างๆ มากระทบปุ๊บ
ก็จะปล่อยวางแทบจะทันที -
เข้าให้ถึงเดี๋ยวก็รู้เอง..
จิตที่บริสุทธิ์ จะมีอะไรเข้าไปปะปน "บริสุทธิ์" ได้ล่ะ..
จิตที่พ้นแล้วไม่มีอะไรเกาะเกี่ยวได้.. -
-
ความจริง ตอนเป็นเด็ก จิตของเราบริสุทธิ์ดีอยู่แล้ว
แต่ที่ยังไม่สามารถบรรลุธรรมได้
เพราะยังปล่อยวางของเล่นของตนเองลงไม่ได้
และ ไม่มีพระอริยะเจ้า มาคอยสอน
เพราะไม่มีวาสนาต่อกันนั่นเอง
แต่พอเราโตเป็น ผู้ใหญ่
เราได้เจอประสพการณ์ร้ายๆ มา
ทำให้จิตที่บริสุทธิ์อยู่แล้ว กลับกลายเป็น จิตร้ายๆไป
วิธีแก้ ก็คือ เราเข้าญาน บ่อยๆ อย่างสม่ำเสมอ
คิดถึงแต่เรื่องเข้าญาน จะทำให้จิตไม่ไปยึดติดอยู่กับ อดีต
อย่าไปคิดถึงเรื่องเก่าๆ ที่มันแทงใจ
คิดแต่เรื่องที่มันเป็นประสพการณ์ที่ดี
ทำจิตให้อยู่ กับปัจจุบัน ไม่ไปคิดถึงเรื่องอนาคต
คิดแต่ อริยาบทสี่ หรือ อริยบทห้า ก็คือ
เมื่อยืน ก็ให้คิดตามว่า กำลังยืนอยู่
เมื่อเดิน ก็คิดตามว่า กำลังเดินอยู่
เมื่อหยุด ก็คิดตามว่า กำลังหยุดอยู่
เมื่อนั่ง ก็คิดว่า กำลังนั่งอยู่
เมื่อนอน ก็คิดตามว่า กำลังนอนอยู่
นี่จึงเรียกว่า การฝึกจิตให้เป็นปัจจุบัน
จิตจะไม่ยึดเรื่องใน อดีต หรือ อนาคต อีก
จิตจะเป็นปัจจุบันได้เร็ว
ที่นี้พอจิตของเรา เป็นปัจจุบันได้แล้ว
เวลาที่เราจะฝึกจิต หรือ ฝึกพิจารณาอะไร
ตามหลักไตรลักษณ์ จึงจะพิจารณาได้ดี
หน้า 281 ของ 356