เพื่อให้สมกับห้องอภิญญา ในเวบนี้
เราเคยคิดว่าตัวเองบรรลุโสดาบัน --"
ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย หลบภัย, 11 พฤษภาคม 2013.
หน้า 2 ของ 4
-
^พี่แอคถามได้น้ำลายหกจริงๆ ดีนะทานข้าวเย็นแล้ว
-
-
สมาธิพระอริยะเจ้าตามคำสอนขององค์สมเด็จพระอรหันต์สัมมาสัมพุทธเจ้า
ภิกษุในธรรมวินัยนี้ สงัดจากกาม สงัดจากอกุศลธรรม
บรรลุปฐมฌาน มีวิตกวิจาร มีปีติและสุขอันเกิดแต่วิเวกอยู่
บรรลุทุติยฌาน มีความผ่องใสแห่งจิตในภายใน เป็นธรรมเอกผุดขึ้น
ไม่มีวิตกไม่มีวิจาร เพราะวิตกวิจารสงบไป มีปีติและสุขเกิดแต่สมาธิอยู่
มีอุเบกขามีสติสัมปชัญญะ เสวยสุขด้วยนามกายเพราะปีติสิ้นไป
บรรลุตติยฌานที่พระอริยะสรรเสริญว่า ผู้ได้ฌานนี้ เป็นผู้มีอุเบกขา มีสติ อยู่เป็นสุข
บรรลุจตุตถฌานไม่มีทุกข์ ไม่มีสุข เพราะละสุขละทุกข์และ
ดับโสมนัสโทมนัสก่อนๆ ได้มีอุเบกขาเป็นเหตุให้สติบริสุทธิ์อยู่ -
สัมมาสมาธิ คือ ฌานพระอริยะเจ้าฌานที่ 4
ภิกษุ ทั้งหลาย
. ! ภิกษุในกรณีนี้ สงัดแล้วจากกามทั้งหลาย สงัดแล้วจากอกุศลธรรมทั้งหลาย เข้าถึงฌานที่หนึ่งอันมีวิตกวิจาร มีปีติและสุขอันเกิดแต่วิเวก แล้วแลอยู่เพราะวิตกวิจารรำงับลง, เธอเข้าถึงฌานที่สอง อันเป็นเครื่องผ่องใสแห่งใจในภายใน ให้สมาธิเป็นธรรมอันเอกผุดขึ้น ไม่มีวิตกไม่มีวิจาร มีแต่ปีติและสุขอันเกิดแต่สมาธิ
แล้วแลอยู่ เพราะปีติจางหายไป, เธอเป็นผู้เพ่งเฉยอยู่ได้มีสติ มีความรู้สึกตัวทั่วพร้อม และได้เสวยสุขด้วยนามกายย่อมเข้าถึงฌานที่สาม อันเป็นฌานที่พระอริยเจ้าทั้งหลายกล่าวสรรเสริญผู้ได้บรรลุ ว่า “เป็นผู้เฉยอยู่ได้ มีสติ มีความรู้สึกตัวทั่วพร้อม” แล้วแลอยู่ เพราะละสุขและทุกข์เสียได้ และเพราะความดับหายไปแห่งโสมนัสและโทมนัส
ในกาลก่อน เธอย่อมเข้าถึงฌานที่สี่ อันไม่ทุกข์และไม่สุขมีแต่สติอันบริสุทธิ์เพราะอุเบกขาแล้วแลอยู่, นี้เราเรียกว่าสัมมาสมาธิ. -
เพื่อจะได้เป็นประโยชน์ต่อผู้เข้ามาศึกษา นำไปปฏิบัติ
เชื่อว่าหลายๆท่านก็มีจริตในแนวทางนี้ ในภาคสมาธิ ในกรณีที่ยังเป็นปุถุชน
ส่วนท่านใด ไม่มีจริตในแนวทาง นี้ก็ขอให้ข้ามไป -
สติ คือ ธรรมของพระอริยะเจ้า
สติของพระอริยะเจ้ากับสติของสัตว์โลกนั้น แตกต่างกัน
สติของพระอริยะเจ้ากับสติของสัตว์โลก แตกต่างกันตรงไหน คำตอบ ตรงฐานของสติ
สติสัตว์โลก ส่งออกไปรู้ข้างนอกจิต รู้ได้ทีละอย่าง
สติของพระอริยะเจ้า มิได้ส่งออกไปรู้ข้างนอก และมีปกติเป็นรู้ทั่วพร้อม
การรู้ทั่วพร้อมของพระอริยะเจ้า เกิดจาก สติบริสุทธิ์ คือ จิตไปรู้เอง โดยปราศจากการกำหนด เพราะอาศัยความบริสุทธิ์ของจิต เป็นมหาสติ -
ขอถามอีกคำถามครับ ผู้นั้นต้องการเจริญอริยมรรค เพื่อให้ครบองค์8
แต่ในกรณีที่ผู้ทำฌานไม่ได้เลย หรือทำฌานได้ แต่ไม่สามารถทำให้ถึงฌานที่4
แล้วอย่างนี้ ผู้นั้นจะเข้าถึงกับสัมมาสมาธิ หรือไม่ครับ
เพราะมีบางประเภทที่ไม่ใช่ ฌานลาภีบุคคล -
สติไม่ต้องเพ่งอะไร รู้แค่ไหนก็แค่นั้น อย่าเผลอ เท่านี้เอง
ท่านเข้าถึงตั้งแต่ตั้นจนจบ ถึงวิมุตติเลย -
ใช้กำลังสมาธิ คือ สติเป็นใหญ่
ใช้ปัญญา คือ การปล่อยวาง ความไม่ปรุงแต่ง -
เดิมทีตั้งใจว่าวันนี้จะเข้ามาตอบกระทู้เป็นวันสุดท้ายแล้ว ก็เพราะคงหาเวลาได้ยากที่มาอธิบายอีกเลย แนะนำพระอรหันต์ที่สอนการปฏิบัติได้ง่ายให้ทราบ
-
จริงท่านน่าจะตั้งทู้แนะนำ เผื่อใครมีปัญหาติดขัดอะไร จะได้เข้ามาถามได้ -
-
หลวงพ่อสมบูรณ์ ที่ท่านทดสอบ1 ได้นำมาแนะนำ
เคยได้ฟังในยูทูบ ท่านสอนดีครับ -
ขอบคุณค่ะ ท่านทดสอบ 1! คำถามมีอยู่ ระหว่างสติ กับ สมาธิ ปุถุชน ควรทำอะไรก่อน แล้วถ้าสำเร็จธรรมแล้ว พระอริยะจำเป็นต้องทำสมาธิอีกหรือไม่คะหมายถึงการสร้าง
-
สัมมาสมาธิ เกิดจากการตั้งมั่นของสติ ด้วยตัวของสติเอง
น้องหลบภัย สงสัยอะไรอีกไหม จากวันนี้กว่าจะได้ถามตอบกันอีกคงอีกนานเลยนะ -
เมื่อเข้าถึงการหลุดพ้น เกิดสติบริสุทธิ์ เป็นสมาธิโดยปกติจิต โดยไม่ต้องไปทำอะไรแล้วครับ
ความปกติของจิต ซึ่งก็คือ จิตเดิมปกติไม่มีอวิชชา จึงเป็นสภาวะธรรมของผู้หลุดพ้น -
ถ้ามีจิตเดิมแล้วแสดงว่าจิตเป็นเรา
แต่อีกนัยหนึ่ง บอกว่าจิตไม่ใช่เรา มันดูขัด ท่านทดสอบ พออธิบายได้ไหมคะ -
จิตเดิมแท้ เป็นประภัสสร มีสภาวะเป็นวิมุตติ อยู่เดิม -
หน้า 2 ของ 4