เรื่องเล่า ก่อนนอนคืนนี้..ของเหล่าคนผู้มีตาทิพย์

ในห้อง 'จิตวิทยา & สุขภาพ' ตั้งกระทู้โดย The Third Eyes, 12 พฤศจิกายน 2008.

  1. CHAYA MARUTY เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2007
    โพสต์:
    1,005
    ค่าพลัง:
    +10,787
    สมเด็จพระนเรศวร ที่ วัดใหญ่

    เล่นที่ซีเอ็มพับ ได้ 6 เดือน ก็ได้รับการต่อสัญญา
    อีก 1 สัญญา คือ อีก 6 เดือน แต่ในช่วงต่อสัญญานี้
    วงผมได้พัก 7 วัน ผมจึงจะกลับไปเยี่ยมบ้าน
    เพราะได้ทราบข่าวว่า คุณแม่ท่านไม่ค่อยสบายนัก
    และคุณแม่ก็ได้ขอร้องให้ผม ไปเช่าบูชา พระพุทธชินราช
    ที่จังหวัดพิษณุโลกให้ด้วย ให้บูชาองค์ที่หน้าตัก 6 นิ้ว
    เป็นอย่างน้อย


    ..ตามปกติแล้ว การกลับ อุดร
    หรือหนองคายนั้น จะต้อง นั่งรถทัวร์ บริษัท จักรพงษ์ทัวร์
    หรือหนองบัวลำภูทัวร์ จากเชียงใหม่ ถึง อุดร ทีเดียวเลย
    คราวนี้ ก็ต้องแวะลง ที่ พิษณุโลกก่อน
    จึงได้นั่งรถธรรมดาไป ออกจากเชียงใหม่ เช้า
    สาย ๆ ก็ถึงแล้วครับ พอถึงพิษณุโลก
    ก็ได้นั่งรถสองแุถวไปวัดที่พระพุทธชินราชประดิษฐานอยู่
    คนพิษณุโลกเรียกวัดนี่ว่า วัดใหญ่ครับ พอถึงวัด
    ผมก็ตรงเข้าไปในพระอุโบสดเลย และกราบขอพรพระพุทธชินราช



    พระพุทธชินราชนี้ สวยงามสมดั่งคำเล่าลือจริง ๆ ครับ
    งามเสียจนหาที่จะติมิได้ทีเดียว เรียกว่า มองดูพระท่านจนอิ่มตาอิ่มใจอยู่นานทีเดียวครับ...........
    .....แต่พอมองไปทางด้านซ้ายมือ ผมเห็นมีรูปปั้นสมเด็จพระนเรศวร ยืนเด่นเป็นสง่าอยู่ เป็นครั้งแรกครับ ที่ผมได้เห็นรูปปั้นของพระองค์ นอกนั้นก็จะเห็นแค่รูปถ่ายจากรูปวาดครับ
    จึงเกิดความปีติ เป็นล้นพ้น ว่า โอ ช่างเป็นวาสนาของเราแล้ว ที่จะได้ทำการสักการะ พระองค์ท่าน เพราะพระองค์ท่าน
    ทรงเป็นกษัตริย์นักรบในดวงใจ ที่รักและเคารพสูงสุดมาตั้งแต่ตอนเป็นเด็กแล้ว วันนี้ช่างเป็นโอกาศดีจริง ๆ .


    ..
    .......จึงได้คลานเข่าเข้าไปใกล้ ๆ รูปปั้นพระองค์ท่าน
    จึงเข้าไปถวายบังคม 3 ครั้งด้วยความปีติ .....
    ..พอถวายบังคม 3 ครั้งเสร็จ ก็ได้เงยหน้าสบพระเนตร
    และพระพักตร์พระองค์ท่าน ...
    ..ความรู้สึกของผมที่มีความสุข และปีติ
    ก็มีอัน อันตรทานหายไปหมดสิ้น .....
    ...มีเพียงความกลัว.................กลัวอย่างจับจิตจับใจขึ้นมาแทนที่ ..
    .....กลัวจนตัวสั่นเทา มือสั่น ตัวกระดุกกระดิกไม่ได้
    เรียกว่ากลัวแทบจะฉี่ราด ไม่กล้าจะเงยหน้าไปสบพระพักตร์ของท่านเลย
    จนคนที่ไหว้อยู่ข้าง ๆ
    มาประคองผมออกไปนั่งอยู่ใกล้ ๆ กับประตู ....



    ....หลังจากที่ ออกมาจากเบื้องพระพักตร์พระองค์แล้ว
    ซักพัก อาการก็ดีขึ้น ก็มาคิดพิจรณาว่า
    มัีนเกิดอะไรขั้นกะเรากันแน่ ทำไมถึงเกิดความกลัวท่าน
    มากขนาดนี้ คิดยังไงก็คิดไม่ออก
    เพราะ เรารักท่านมากมายและรักมานาน
    แต่พอมาเจอรูปปั้นนี่ ทำไมจึงเกิดความกลัว
    แล้วคนอื่นทำไมไม่เป็นเหมือนเรา .....



    .ผมเดินออกจากโบสถ์ด้วยความงงงวย
    สติไม่เต็มร้อย เดินไปเช่าบูชาพระพุทธชินราชเสร็จแล้ว
    ก็ออกจากวัด ไปที่ สถานีขนส่งเตรียมกลับบ้าน ด้วยความ งง ตลอด .
    .นั่งรถจาก พิษณุโลก ถึง อุดร ก็ยังคิดแต่เรื่องนี้

    ว่าทำไม ๆๆๆ แต่ก็ไม่มีเหตุผลมาอธิบายได้
    ก็ยังความแปลกใจให้ผมมาตลอดว่า ทำไม
    ถึงได้กล้วท่านขนาดนี้ จนอีกหลายปีต่อมาจึงได้เข้าใจ
    ซึ่งจะได้เล่าในตอนต่อไปครับ;aa13
     
  2. CHAYA MARUTY เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2007
    โพสต์:
    1,005
    ค่าพลัง:
    +10,787
    ตอบ ท่านพี่โอม น่ะครับ ว่า ผมไม่ค่อยสันทัดเรื่องภาษานักหรอกครับ ยิ่งถ้าเอาความหมายลึก ๆ แล้ว ยิ่งแย่ใหญ่เลยครับ ตอนเีรียนก็ค่อนข้างเกเรวิชานี้เสียด้วยครับ ....ในรัชสมัยของพระองค์ท่าน ราว 20 ปี รวมทหารพระองค์ท่าน ทั้งที่ ตาย รอด อยู่ ชั่วรัชกาล คงมีทหาร รวมแล้ว ไม่น่าต่ำกว่า 5 แสนคน .....ผมคิดว่า คงจะไม่แปลกอะไรน่ะครับ ที่ ผม อาจเป็นทหารของพระองค์ท่าน 1 ใน 5 แสนคนนี้ กลับชาติมาเกิด อาจไม่ใช่ทหารที่มีความสำคัญมาก หรือเป็นแม่ทัพนายกองคนใหญ่คนโต ผมอาจเป็นเพียง พลทหารธรรมดา ๆ ก็ได้ แต่นั้นก็ไม่สำคัญเท่ากับความจงรักภักดี ที่มีต่อพระองค์ท่าน ซึ่งผมมิอาจแปลเป็นอักษรได้ แต่ผมจะให้กลอนที่ผมได้แต่งขึ้นบอกแทนก็แล้วกันน่ะครับ






    ..........ถวาย บังคม ก้มศิระ แทบฝ่าพระบาท
    ความภักดี ยังข้ามชาติ มาถึงนี่
    เคยถวาย อารักขา ด้วยชีวี
    400 ปี มิลืมเลือน เหมือนวันวาน

    ..........ดาบสองมือคู่ใจไปทั่วทิศ
    พร้อมด้วยมิตร ทหารกล้า พระองค์ท่าน
    เข้าสู้ศึก ปัจจะมิตร คิดรุกราน
    รักษาบ้าน เมืองไว้ ให้อยู่ดี

    ............ตายแล้วเกิด มาใหม่ อีกชาติหนึ่ง
    ยังคงซึ้ง พระคุณ ธ.ทรงศรี
    หากพระองค์ ทรงบัญชา ให้ราวี
    ตายอีกที เพื่อพระนเรศ ดัง เจต ฯ เอย ;aa13
     
  3. นโมโพธิสัตโต ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ผู้ดูแลเว็บบอร์ด สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,166
    กระทู้เรื่องเด่น:
    24
    ค่าพลัง:
    +29,754
    OOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOO


    โมทนา สาธุ ครับ
    ที่ถามไปเมื่อกี้ เพื่อเป็น key word ให้ท่านชยาเข้าใจบางอย่าง
    ที่ท่าน กล่าวไปที่โพสก่อนหน้านี้เท่านั้น

    ที่ว่า ท่านรู้สึกรักพระองค์ท่านมาก แต่ พอเงยหน้า ก็รู้สึกกลัว จนสั่น

    เท่านั้นเอง


    ภักดี นั่นคือ ท่านใช้ให้ไปตาย โดยเราไม่มีความผิด ก็ยังยิ้มและปิติ ภูมิใจที่ได้สนองพระราชโองการ ไม่คาดคะเนความคิดท่าน
    สั่ง ก็คือสั่ง ไม่มีวันเปลี่ยนแปลง


    จงรัก นั่นคือ คำใกล้เคียงคำว่า สวามิภักดิ์

    บางคนอาจจะจงรัก เพราะความตาย และอาญา บังคับอยู่

    แต่สำหรับท่าน ไม่ใช่ เพราะเหตุนั้น


    กำลังอาศัย บางคำ จูนจิตให้ทราบคำตอบจากใจท่านในภพนั้น เท่านั้น



    ผมแค่กำลังกล่าวกับท่านชยาว่า.... ท่านคือผู้ทีจงรัก (ด้วย)ภักดี


    จึงแสดงอาการ ทั้งรักและเกรงกลัว



    ภพชาติปัจจุบันนี้ ณ ปัจจุบันขณะ ดวงพระวิญญาณคงไม่สั่งให้ท่านไปตายไหนอีกแล้ว

    อาจทรงโมทนากับการบำเพ็ญบุญกุศล ดำรงตนบนเส้นทางแห่งธรรมที่ท่านกำลังดำเนินอยู่ และ ถวายสักการะพระองค์ท่านด้วยปฏิบัติบูชา อันนำความเจริญก้าวหน้ามาสู่ตน และ ชีวิตทั้งหลาย


    ...สัญญาเดิมที่เป็นอกุศล จะจางคลายสะบั้นลง ไม่อาจก่อตัวเป็นสมุทัย
    จะเหลือเพียงเจตนาใหม่อันเป็นกุศลแก่ทุกชีวิต คือ ธรรม







    ...........ถ่ายทอดแล้ว..........



    ขออภัยที่ขัดจังหวะครับ / เอวัง
     
  4. เต๊ะจุ๊ย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    212
    ค่าพลัง:
    +695
    โอย อาจารย์
    โกยก็ช่างมันฮะ

    จุ๊ยคิดว่าคนที่จะสอนจุ๊ย ก็มีแค่กลุ่มอาจารย์เท่านั้นแหละครับ
    คนอื่นๆคงไม่มาสอนอะไรผมหรอก
    เอาง่ายๆ ผมก็ตั้งไว้ ให้พวกอาจารย์มาสอนผมแหละครับ

    คิดได้งี้แล้ว ก็เลยไม่กลัวมั้ง..ครับ
    แต่มันก็ประมาทจริงๆแหละครับ
     
  5. CHAYA MARUTY เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2007
    โพสต์:
    1,005
    ค่าพลัง:
    +10,787
    ....................................ขอบคุณท่านพี่โอม มากครับ ที่ไขข้อสงสัยให้กระจ่างครับ............;aa36;aa25
     
  6. Narasimha Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    13
    ค่าพลัง:
    +76
    อันวจีได้หวานลิ้นคลองหูก็นำพาความสุขสดชื่นไปทีนั้น

    เรานั้นได้มาอาสัยร่างเด็กหนุ่มเพื่อมาเตือนสอนผู้ที่มี

    วาสนาผูกผันกัน แต่รู้ว่ามนุษย์นั้นอาจหยั่งได้ไม่เท่ากัน

    ตามบุญที่ผูกพันกันมา ใครรู้ว่าเราคือใครก็คงมีไม่น้อย

    แต่ใครที่มันไม่รู้ก็ย่อมไม่แปลก จะโทษใครก็หาไม่

    ในสังเวนี้เราไม่ได้อยากมาเกลื่อกกล้วเพื่ออย่างใด

    อันสิ่งที่คนทำไว้นั้นเราทราบรู้แต่ผลที่ได้รับนั้นมากมาย

    เหนือคนานับ เรามิจำเป็นต้องทำ เเต่การกระทำทุกอย่างย่อม

    มีผลของมันปะนึ่งโยนหินลงน้ำย่อมเกิดละลอกเคลื่อน

    ผู้ใดนึกถึงเราภาวณาถึงเรา แม้มีภัยก็ไม่สามารถทำอะไรได้

    เราจักมาเตือนถึงภัยที่จะเกิดขึ้นนันเร็วกว่าที่คิดนัก

    ขอจงประสพโชคชัยอนันต์
     
  7. CHAYA MARUTY เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2007
    โพสต์:
    1,005
    ค่าพลัง:
    +10,787
    พบเพื่อนทหารสมเด็จพระนเรศวรเจ้า ที่เคยร่วมรบในอดีตชาติ

    หลังจากเล่นดนตรีที่เชียงใหม่ได้ อีก 2 ปี
    ก็ต้องย้ายที่เล่นไปจังหวัด พิจิตร สกลนคร
    กาฬสินธุ์ และจังหวัดสุดท้ายที่เล่นดนตรี
    ก็คือ บุรีรัมย์ ที่เล่นที่จังหวัดบุรีรัมย์นี้คือ
    อีลิท 2008 ได้ไปเช่าบ้านของผู้จัดการอีลิท
    ชื่อพี่แมวครับ พี่แมวเป็นคนน่ารัก และใจดีมาก
    มีโอกาศผ่านไปจังหวัดนั้น
    ผมก็จะแวะเยี่ยมเสมอครับ.......


    .....มีวันหนึ่งครับ ไม่ได้ซ้อมดนตรี
    พี่แมวก็มาชวนไปดูหมอดู ด้วยพี่แกอยากรู้ว่า
    ทำไม เธคเรา ทำไมคนน้อย ไม่ค่อยมีคนมาเที่ยว
    ผมว่าง ก็เลยรับปากว่า ไปพี่ ด้วยว่า
    ผมเองก็อยากจะปรึกษาหมอดูเหมื่อนกัน
    เพราะช่วงนั้น ผมระหองระแหง กะแฟนอยู่
    ว่า จะดี จะเลิก กันอยู่ครับ .....


    ..ก็ออกเดินทางโดยรถปิกอัพของพี่แมว
    บ้านของหมอดูนี่อยู่ อ. สตึกครับ
    ออกจากตัวเมืองไป ราว 40 กม. ....
    พอไปถึงจอดรถเสร็จ ก็เข้าบ้านหมอดู หมอดูชื่อ วิรุฬ ครับ
    เป็นบ้านไม้ 2 ชั้น มีคนมารอเต็มบ้านครับ
    ต้องได้เข้าคิวกัน ผมได้คิวสุดท้ายเลย ...
    ..เค้าให้ถามคำถามได้เพียง 3 ข้อครับ....


    ...พี่แมวก็ได้ถามข้อสงสัยไปแล้ว ทีนี่ ถึงคิวผม....
    .ผมก็ได้เตรียมคำถาม 3 ข้อ โดยข้อที่หนึ่ง ผมถ้าว่า


    1. ผม และแฟน จะต้องได้เลิกกันไหม ..
    . เค้าก็ให้ผมเขียนชื่อผมและแฟนลงบนกระดาษ
    พอเขียนเสร็จ เค้า ก็บอกว่า เราสองคนหมดบุญ
    ที่จะได้อยู่ร่วมกันแล้ว เลิกกันเร็ว ๆ นี่แน่นอน
    ผมก็ได้ถามต่อไปว่า แล้วมีวิธีที่จะเพิ่มบุญได้ไหม
    เค้าตอบว่ามี แต่ แฟนผมจะไม่ทำด้วย โดย
    ให้ตักบาตรร่วมขันเป้นเวลา 29 วัน ถ้าขาดวันใด
    ก็ต้องนับใหม่ และต่อมาผมได้เลิกเล่นดนตรี
    กลับมาอยู่บ้านแฟน และชวนแฟนตักบาตร .
    ..ผลก็คือ เค้าไม่ทำให้แม้แต่วันเดียวครับ .
    ..และก็ต้องได้เลิกกันตามคำทำนาย


    2. ผมเป็นทหารพระนเรศวรหรือไม่...............
    .....และได้เล่าเรื่องที่กลัวพระองค์ท่านพี่โบสถ์พระพุทธชินราช
    ให้เค้าฟังด้วย.........................เค้าตอบว่า ยังไม่ถึงเวลารู้
    และเค้าไม่มีหน้าที่ต้องบอกเรื่องนี่ให้ผมรู้....
    .ผมก็ เอ้า ไม่ต้องรู้ตอนนี่ก็ได้ และข้อสุดท้าย


    3. ผมจะได้ออกเทป ตามที่ได้ตั้งใจไว้หรือไม่......
    .....คำตอบ คือ ได้...แต่ไม่ดัง..................ก็เป็นไปตามนั้นครับ................เดี๋ยวมีต่อครับ
     
  8. visnu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,844
    ค่าพลัง:
    +23,778
    ทุกสิ่งที่คาดไว้เป็นดังคาดทุกประการ 5-5-5
     
  9. visnu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,844
    ค่าพลัง:
    +23,778
    วันนี้ เจออะไรแปลกๆตอนประมาณ ตี1กว่าคือเห็นดาวตกแต่ทำไมดาวตกสีแปลกๆและวิ้งใน

    แนวตัดขวาง ปรกติดาวตกต้องวิ้งจากบนลงล้าง แต่นี่วิ้งจากซ้ายไปขวา แล้วสีก็แปลกๆ

    พอใช้จิตดูปรากฏว่าไม่ใช่ดาวเพราะในสิ่งที่พุ้งไปนั้นมีตะปูมีดโกนและผี เลยงงว่าคืออะไร

    ก็เลยตั้งใจดูปรากฏว่าอีกปลายข้างหนึ่งหลังจากที่สิ่งนั้นพุ้งไปหาได้ยินเสียงเหมือนเสือหรือ

    สิงโตคำราม แล้วก็ปรากฏสิ่งที่พุ้งไปกลับย้อนไปทางที่มาด้วยความเร็วมากกว่าเดิม

    แล้วซักพักก็เห็นเหมือนเดิมอีก คือมีแสงจากขวาไปซ้ายแล้วได้ยินเสียงจากทางซ้าย

    แล้วก็มีแสงดวงใหญ่จากทางซ้ายกลับไปทางขวาแต่เร็วกว่าเดิมแถมดวงใหญ่ด้วย

    เห็นอยู่ 3-4 ทีด้วยความอยากรู้เลยมานั้งสมาธิตรวจดูให้รู้ก็ปรากฏว่าสิ่งที่เห็นก็คือคุนสัย

    นั่นเองคือมีคนปล่อยใสคนนึ่งแต่คนนั้นอาจจะมีอาคมมากกว่ามั้งก็เลยสะท้อนกลับ แต่เท่าที่

    ดูคนที่ทำใสท่าทางจะไม่ค่อยจะเก่งมั้งครับเพราะโดนของตีกลับตั้งหลายทีน่าจะเดี้ยงไปแล้ว

    มั้งครับ เนี่ยแหละหน้า อวิชาแค่คิดจะทำคนอืนก็เป็นบาปแล้วแล้วการทำบาปก็จะมีกรรมมา

    บังตาทำให้เห็นผิดเป็นชอบไม่เห็นสิ่งที่จะเกิดกับตน
     
  10. CHAYA MARUTY เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2007
    โพสต์:
    1,005
    ค่าพลัง:
    +10,787
    หมอผี กะ นักวิทยาศาสตร์

    หลังจากดูหมอเสร็จเรียบร้อย ก็ได้มานั่งพักพูดคุยกับหมอวิรุฬ
    เรียกว่าคุยกันถูกคอเป็นอย่างมาก ราวกับสนิทกันมาก่อน
    จากการพูดคุยนั้นทำให้ผมแปลกใจว่า ทำไม
    เป็นหมอดูอยู่บ้านนอก แต่ทำไมรู้เรื่องราววิทยาศาสตร์
    มากมาย รู้จักแม้กระทั่งทฤษฎีสัมพันธภาพของไอน์สไตล์
    และยังแตกฉานทั้ง ปฎิบัต ปริยัติ เรียกว่า
    รอบรู้ก็ว่าได้ .

    ......จากนั้นมาผมก็เป็นแขกประจำของบ้านหมอวิรุฬ
    พอว่างจากการดูหมอ ก็มักจะมาพูดคุย
    ถกปัญหา อจินไตยกัน เป็นการพัฒานสมองพัฒนาปัญญา
    วิรุฬได้สอนผมหลายอย่างที่เป็นประโยชน์ในการปฎิบัติตนในชีวิตประจำวัน
    และในการนั่งสมาธิ แบบง่าย เช่น ถ้าอยากมีฤทธิ์
    รู้อดีต อนาคต แบบเค้า ก็ไม่ยาก
    เค้าก็หยิบกระป๋องโค๊กขึ้นมาแล้วบอกว่า
    จำภาพมันให้ได้ นึกเมื่อไรให้เห็นทันที ถ้าเห็นคล่องแล้ว
    ให้ฝึกหมุน ให้กระป๋องมันหมุนโดยที่เราบังคับให้หมุนซ้ายก็ได้
    หมุนขวาก็ได้ เอามันมาเห็นที่ข้างหน้าก็ได้ เอามันไปวางที่ท้ายทอย
    ก็ต้องเห็นให้ได้......นี่เป็นการฝึก โอทากสิน
    แบบง่าย ๆ ครับท่านผู้อ่าน นอกจากนี้
    เรายัง ปูเสื่อนอนดูดาวตอนกลางคื่น
    และฝึกให้ผม เข้าสมาธิแบบลืมตา โดยมองไปยังท้องฟ้า

    ..........โดยปกติแล้วเวลาเราดูดาว
    เราจะเห็นดาวเรียงกันอยูแบบ ฝากระดาน
    เหมือนเอาดาวไปแขวนบนฝากระดาน
    คือมองไม่เห็นระยะห่างของดวงดาว
    แต่ความจริงแล้วหาได้เป็นเช่นนั้นไม่
    เพราะระยะระหว่างดาวแต่ละดวงนั้น
    ห่างกันมากมายมหาสารเป็นปีแสง
    เพียงแต่การรับรู้ของตาเรา
    ไม่สามารถแยกแยะความเร็วของแสงดาวแต่ละดวง
    ทีแสงส่งมากระทบตาเราได้ ก็คิดดูซิครับ
    ว่า ดวงจันทร์ ดาวศุกร์ และดาวพฤหัส อยูห่างกันไม่รู้เท่าไร
    แต่เราก็ยังมองมันเป็นพระจันทร์ยิ้มแฉ่งได้
    นั้นหมายความว่า ทุกคนที่มองเป็นพระจันทร์ยิ้ม
    ไม่สามารถแยกระยะได้ครับ แต่เมื่อใด
    ที่เราเข้าสมาธิถึงอุปจาระสมาธิ โดยลืมตามองดาวอยู่
    เราจะเห็นระยะของดาวแต่ละดวงได้ตามความเป็นจริง
    เพราะความเร็วจิตเท่ากับความเร็วแสง
    และคืนนั้นผมได้ทดลองดู ในขณะที่จิตผมค่อย ๆ
    เข้าอุปจาระ ผมก็ค่อย ๆ เห็นดวงดาวแต่ละดวง
    ค่อย ๆ ห่างออกจากกันจนเห็นระยะได้ว่า
    ดวงนี้ไกล ดวงนี้ใกล้ และสิ่งที่แปลกอีกอย่างคือ
    แสงดาวไม่กระพริบ ก็เป็นไปตามทฤษฎีสัมพันธภาพ
    ว่่า หากเราวิ่งด้วยความเร็วเท่ากับแสง
    เราจะเห็นทุกสิ่งหยุดนิ่ง ในขณะนั้น
    ความเร็วจิตผมเท่ากับแสง ผมจึงเห็นแสงหยุดนิ่ง...........................เดี๋ยวมีต่อครับ;aa36
     
  11. CHAYA MARUTY เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2007
    โพสต์:
    1,005
    ค่าพลัง:
    +10,787
    ของดี ที่เพื่อนให้

    ;aa36ทุกครั้งที่ได้คุยกับ หมอวิรุฬ แกก็มักจะมีปัญหาให้ผมไปขบคิดกลับมาตอบแกอยู่เสมอ
    ผิดบ้างถูกว่าก็เรียกว่าได้มาคุยกันครับ นอกจากนั้นยังได้ทำนายอนาคตผมให้ด้วยว่า
    ต้องได้มาทำงานอยู่กรุงเทพ และจะเปลี่ยนทีพัก อยู่ เกือบ 10 ครั้ง จึงจะได้มีบ้านเป็นของตัวเอง


    ซึ่งก็จริงตามนั้น และเมื่อผมได้หมดสัญญาจากที่เล่นดนตรีที่บุรีรัมย์ ผมก็บอกแกว่า
    จะเลิกเล่นดนตรี กลับไปอยู่บ้านแฟน แกก็หัวเราะว่า เลิกได้เดือนเดียว เดี๋ยวก็ได้ทำต่อ
    แต่ว่าไม่ใช่การเล่นประจำ ก็เป็นไปตามทำนายครับ เพราะ กลับไปอยู่บ้านแฟนได้ 1 เดือนก็เลิกกับแฟน
    แล้วพอดี เพื่อนมาชวนไปออกเทป ก็เลยไปทำเทปกับเพื่อนครับ


    ..........ก่อนที่ผมจะจากหมอวิรุฬกลับบ้าน แกบอกว่า แกจะให้ของดี เอาไว้ ติดตัว
    แกยื่นตลับสีเขียวคลายตลับยาหม่องมาให้ ผมก็รับมาแล้วเปิดดู เห็นเห็นเหง้ากล้วย เล็ก ๆ
    มีน้ำมันอยู่เล็กน้อย แกบอกว่า เป็น นางตานี ครับ อ้าว ยุ่งละซิ ทำไมถึงต้องให้นางตานีไปอยู่ด้วย ...ชีวิตรู้สึกต้องยุ่ง ๆ กับ นางตานี นี่หลายองค์แล้วครับ
    แกบอกว่า การได้ทำนายผมว่า จะได้ไปทำงานอยู่กรุงเทพนี้ จะมีผู้หญิง ซึ่งเคยทำบุญด้วยกันมาในอดีตชาติ ( ภรรยาในอดีตชาติ )
    จะมาพบเป็นจำนวนมาก ( โห ....อย่าคิดว่าเป็นเรื่องสนุกน่ะครับ ทุกข์ทั้งนั้นครับ ) ทั้งเจ้ากรรมนายเวรที่เป็นผู้หญิงก็มีมาก จะมายุ่งในชีวิตผม
    และจะทำให้เสียงาน นางตานีนี่ล่ะ จะเป็นผู้กันสตรีเหล่านี้ให้ ผมจะได้มีสมาธิทำงาน
    สร้างหลักปักฐานได้ มิฉะนั้นก็จะเก็บเงินไม่ได้เหมือนที่ผ่านมา .................ผมก็รับไว้.......และเดินทางกลับบ้าน.........;aa13
     
  12. จิตตานุปัสสนา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    5,840
    ค่าพลัง:
    +16,082
    หนุกจิงๆ อยากไปดูหมอแล้วสิคราวนี้ อิอิ เอิ๊กๆ
     
  13. raquaz เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    175
    ค่าพลัง:
    +3,831
    ให้เร็วครับท่านพี่ รออ่านๆ หุหุหุ
     
  14. CHAYA MARUTY เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2007
    โพสต์:
    1,005
    ค่าพลัง:
    +10,787
    อ้าว นึกว่าจะมาช่วยกันเขียน ..อิ ๆๆๆๆๆ
    ;aa36
     
  15. kittitpx เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    570
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +2,000
    โมทนาครับ พี่ไชยา คำกลอนของพี่ฟังแล้วซึ้งใจจริงๆ พี่แต่งกลอนดีมากครับ
     
  16. CHAYA MARUTY เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2007
    โพสต์:
    1,005
    ค่าพลัง:
    +10,787
    แมวดำวิ่งตัดหน้า..................ลางร้าย

    หลังจากที่ผมเลิกกับแฟน ตามคำทำนายของหมอวิรุฬแล้ว
    ก็ได้เข้ากรุงเทพ มาำทำงานในบริษัทเทป
    ในตำแหน่ง โปรดิวเซอร์ และผุ้จัดการฝ่ายผลิต
    ปีนั้นคือ ปี 2540 ได้มาเช่าอพาร์ทเมนต์ BEST HOUSE
    แถวเพชรบุรีตัดใหม่ อยู่ชั้น 14 สูงมากครับ
    ปีนั้นเป็นปีที่มีความเปลี่ยนแปลงในชีวิตของผมมาก
    เลยทีเดียว คือผมได้รับโทรศัพท์จากคุณพ่อ
    ว่า คุณแม่ผมท่านป่วยหนัก ปกติแล้วคุณแม่ผมท่านป่วย
    เป็นประจำครับ ตั้งแต่คลอดน้องคนสุดท้องเมื่อปี 2514
    ก็ป่วยมาตลอด ผมก็เตรียมตัวเดินทางกลับบ้าน


    โดยจะไปขึ้นรถที่สถานีหมอชิต พอลงลิฟท์มาที่ชั้น 1
    กำลังจะลงบันไดอาพาร์ทเมนต์ .........แมวดำ ....
    ....แมวดำครับ ไม่รู้ว่ามาจากไหน มาวิ่งตัดหน้าผมไป
    ผมใจหายว๊าบ นึกถึงคุณแม่ ว่าจะเป็นอย่างไร ตอนนั้น
    จมุกก็ได้กลิ่นฟอร์มาลีนฉุนกึกขึ้นมาทันที .....


    ....ผมรู้ทันทีเลยว่า คุณแม่ป่วยคราวนี้ อาจไม่รอด
    แต่ก็ทำใจดี ๆ เอาไว้ เผื่อลางสังหรณ์อันนี้จะไม่จริง..
    พอถึงหนองคาย ก็ต้องต่อรถไป อ. บึงกาฬ
    เพราะ คุณพ่อได้ย้ายคุณแม่ไปที่โรงพยาบาลบึงกาฬ
    เพราะ มีคนดูแลมากกว่า น้องชาย 2 คนของผม
    และภรรยาน้อง อยู่ที่ บึงกาฬหมดเลย
    คุณแม่ผมท่านเป็นเบาหวานครับ
    และเส้นเลือดฝอยในสมองแตก ...

    ท่านไม่ได้สติครับ
    ผมเฝ้าคุณแม่อยุ่ ราว 1 สัปดาห์ หมอบอกว่า
    อาการคุณแม่ดีขึ้น คุณพ่อก็เลยให้ผมกลับกรุงเทพ
    เพื่อให้มาทำงาน ผมก็เย็นใจเห็นว่าอากาำรดีขึ้นแล้ว
    ก็นั่งรถกลับกรุงเทพ........................เดี๋ยวมีต่อครับ;aa36
     
  17. CHAYA MARUTY เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2007
    โพสต์:
    1,005
    ค่าพลัง:
    +10,787
    ปรารถณา พระนิพพาน

    ผมดีใจมากที่ลางสังหรณ์ผม คราวนี้ไม่แม่น
    ผมจึงจองตั๊วรถแล้วเดินทางกลับในคืนนั้นเลย
    จาก บึงกาฬผมก็หลับมาเรื่อย จนมาถึงโคราช
    ผมก็ตื่นขึ้นเพราะเสียงโทรศัพท์มือถือ คุณน้าผม
    ท่านโทรมา บอกว่า ตอนนี้คุณแม่อาการเพียบหนัก
    ต้องส่งตัวเข้ามารักษาด่วนที่หนองคาย


    ตอนนี้ผม ก็ชักยังไง ๆ ซะแล้ว รึว่า
    จะเป็นไปตามลางสังหรณ์ ก็ไม่ทราบ
    พอตอนเช้า ถึงกรุงเทพ ผมก็โทรศัพท์์ไปที่บ้าน
    ก็ปรากฎว่า คุณแม่ผมท่านสิ้นลมพอดี
    ผมจึงไปลางานต่อกลับบ้านไปทำพิธีศพคุณแม่
    และบวชหน้าไฟให้ท่าน.....................


    จากการที่ผมได้สูญเสียคุณแม่ และต้องเลิกกับแฟน
    ทำให้ผมคิดอะไรได้หลายอย่างมาก ๆ
    ทำให้ผมรู้สึกเบื่อชีวิต เบื่อการเกิด การเจ็บ การตาย
    ทำให้ผมตัดสินใจได้อย่างแน่วแน่ว่า .........
    ชาตินี้ขอเป็นชาติสุดท้าย จะไม่ขอเกิดอีก จะทำทุกอย่าง
    เพื่อเข้าพระนิพพานให้ได้ในชาตินี้ ผมตัดใจในวันนั้น
    ได้อย่างแน่นอน
    และมั่งคง ที่จะยึดเอาพระรัตนตรัย เป็นที่พึ่งสูงสุด
    และจุดหมายสุงสุดคือพระนิพพาน;aa36
     
  18. MAGNETICS เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    502
    ค่าพลัง:
    +995
    อนุโมทนา พี่ชยา คะ...








    จ๊ากกก... ลืม



    ทิกเกอร์_ทิกเกอร์ <<<นู๋เองๆ...
     
  19. CHAYA MARUTY เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2007
    โพสต์:
    1,005
    ค่าพลัง:
    +10,787
    วิมานปรากฏ .........รู้อายุขัย

    และในคืนนั้น คืนของวันที่ผมได้ตัดใจอธิฐานไม่ขอเกิด
    ขอปรารถณาพระนิพพาน ผมก็เข้าสมาธิตามปกติ
    และก็ตามด้วยนอนในสมาธิ และก็หลับไป พอถึงใกล้รุ่ง
    จิตตื่นขึ้นมากอีกครับ แต่เป็นการจิตตื่นที่แปลกที่สุด
    เท่าที่เคยนอนในสมาธิมา ไม่ว่าผมจะหลับตา
    หรือลืมตา ผมก็ยังคงเห็นสิ่งที่อยู่ต่อหน้าผมสองสิ่งคือ


    ผมเห็น เป็นวิมาน 1หลังและคล้าย ๆ จะเป็นเจดีย์ 1 เจดีย์
    อยู่ทางด้านขวามือของผม ชัดเจนใสแจ๋วมากเลยครับ
    ด้านหน้าของผมยิ่งแปลก ผมเห็นหนังสือเล่มหนึ่ง
    ลอยอยู่บนฝาผนังห้อง เป็นหนังสือเล่มใหญ่มากครับ
    ถ้าคำนวนจากสายตา คงเป็นเมตรครับ แล้วหนังสือเล่มนั้น
    ก็ค่อย ๆ เปิดออก.......เมือเปิดจนหมด ผมก็มองเห็น


    มีชื่อผม อยู่ในหนังสือแล้วคาดด้วยแถบ สีทอง เหลืองอร่ามงดงาม
    แต่ข้างล่างอีกบรรทัดลงมานี่ซิครับ มีตัวเลขว่า 37-38
    ผมรู้ด้วยจิืตทันทีว่า นั่นคืออายุขัย ของผมครับ
    จากวันนั้นผมก็ปักจิตลงที่พระนิพพานไม่มีเปลี่ยนแปลง
    ไม่ว่าจะทุกข์จะสุข ก็ไม่ได้มีทีท่าว่าอยากจะมาเกิดอีกเลย
    ลองคิดเล่น ๆ ว่าเกิดชาติหน้า ให้เราเป็นเจ้าจักพรรดิราช
    ปกครองโลก จะเอาไหม ใจมันยังไม่เอาเลยครับ
    ไม่อยากเกิดอย่างเดียวเลย ในหนังสือเล่มนั้นบอกว่า
    อายุขัยผม 37-38 แต่ตอนนี้ ผม 42 แล้ว

    ทำไมผมยังไม่ตาย เดี๋ยวมีต่อครับ ว่าทำไมครับ;aa13
     
  20. นโมโพธิสัตโต ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ผู้ดูแลเว็บบอร์ด สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,166
    กระทู้เรื่องเด่น:
    24
    ค่าพลัง:
    +29,754
    โมทนาสาธุครับ กับมโนเจตนานี้ กองทัพธรรมจะได้มีขุนพลแก้ว ที่รบกับกิเลส ได้อย่างห้าวหาญ ไม่น้อยหน้ากว่าการรบทางโลก

    สะบั้นภพชาติ ส่งอานิสงส์ต่อทุกชีวิตที่เกี่ยวข้อง บุพการี และ เจ้าชีวิตในอดีตที่คุณชยายกไว้เหนือเกล้าตลอดมา ....ผมเชื่อว่า ท่านก็โมทนาสาธุ กับสิ่งที่คุณตั้งใจไว้ด้วยครับ สาธุ สาธุ สาธุ

     

แชร์หน้านี้