เล่า(เขียน)เรื่องได้ดีมากๆครับ เคยส่งเรื่องหรือไปตีพิมพ์ที่ไหนบ้างครับ ชีวิตคุณจะได้เป็นอุทาหรณ์สอนคนอื่น คนที่ไม่มีโอกาาอ่านในเวปมีอีกเยอะครับ
... แล้วเราจะเล่าให้ฟัง ...
ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย สายฝนฉ่ำเย็น, 1 กุมภาพันธ์ 2011.
หน้า 9 ของ 54
-
อ่าวจะไม่ได้ อ่านแล้วหรอเนี่ย อุตส่าตั้งหน้าตั้งตา รอเปิดเข้ามาอ่านทุกวัน
หนูชอบเรื่อง ของพี่ อ้อ มากเลยอ่ะ ไม่เขียนต่อ ละหนูจะไปหาอ่านที่ไหน ต่อเนี่ย
เศร้า T^T -
ดีจังครับ ความ "ฉ่ำเย็น" คนเดิมกลับมาแล้ว
^________^ -
เอาบุญมาฝากค่ะ คุณสายฝนฯ และเพื่อนๆทุกคน พึ่งกลับมาจากปฏิบัติธรรมที่วัดอัมพวัน กลับมาถึงเปิดกระทู้คุณสายฝนฯก่อนเลย
ฮ่า .. แต่ว่าหมดแรงอ่านแล้ว พรุ่งนี้ค่อยมาติดตามนะคะ โดนพระอาจารย์ดัดแข้งดัดขา 7 วันเต็ม -
-
มีคนถามว่าดูใจยังไง....จับแค่ลมหายใจเข้าออก...ลบความนึกคิดในบุคคลอื่นๆ...สิ่งต่างๆ...ออกไปให้หมด...เหลือเพียงดูลมหายใจเข้าออก...ความนิ่งในตนเอง...จะทำให้พบตนเองว่า....จริงๆ แล้ว เราต้องการอะไร...แล้วเราจะทำอย่างไร...ในสิ่งที่ต้องการ...และไม่กระทบตนเอง (ให้เป็นทุกข์) ไม่กระทบคนอื่น (เบียดเบียนคนอื่นให้เป็นทุกข์)....แล้วพิจารณาว่า...เรา “ดีพอสำหรับการเกิดมาแล้วหรือยัง”....โดยส่วนใหญ่คือ “ยัง” .... เพราะยังต้องเคาะเอากิเลสให้ค่อยๆ ออกจากตัวตนของเรา...อัตตาสูงมากไป...ก็ต้องแรงเคาะมากหน่อย...ใช้เวลาเยอะหน่อย...เน๊าะ....
สวัสดีล่วงหน้า....วันพระพรุ่งนี้นะคะ...อนุโมทนา สาธุค่ะ ^______^ -
สวัสดีวันพระค่ะ....
เมื่อวานมีโอกาสได้สนทนาธรรม...และฟังธรรม...จากผู้ใหญ่ท่านหนึ่ง...
ภาพที่ท่านนำเสนอในคำพูดเรื่องการดูใจ....ชัดเจน...จนรู้สึกว่า...ใช่....
ท่านพูดว่า...“การดูใจของตนเอง...เหมือนเรากำลังขับรถและอยู่ในรถ...
ในขณะที่เราอยู่ในรถ...เราไม่รู้หรอกว่า...รถของเรามีรอยขูดขีดตรงไหน..
มีรอยชน..กระทบตรงไหน...สีจางมั๊ย...กระจกยังคงใสอยู่หรือเปล่า....
แต่ให้เราลองลงมาจากรถของเรา...แล้วยืนมองดูรถของเรา....เราจะเห็น..
ได้ทันทีว่า...รถเรามีรอยขูดขีด ต่างๆ เหล่านั้นหรือไม่....และต้องซ่อมแซม
หรือเปลี่ยนแปลงแก้ไขอย่างไร...ให้รถสวยสด เงางามดั่งเคย....เช่นเดียวกับ
ใจของเรา...ถ้าเราไม่มองดูใจ...จะรู้ได้อย่างไรว่า....รอยขูดขีด (กิเลสต่างๆ)
เหล่านั้น...เป็นรอยใหญ่หรือเล็ก....เราจะรักษา...หรือ....จะให้มันเกาะ...
จนรถ(ใจของเรา)ผุพัง...ไปตามความหนาของรอยนั้น.....ย่ิงมีรอยลึก...หนา
ความผุพังก็มากตามเช่นกัน”.......สู้สู้ นะคะ
อนุโมทนา สาธุกับทุกท่านค่ะ.... -
เป็นกำลังใจให้ค่ะ ขอให้ทุกอย่างผ่านไปด้วยดี -
แวะมาอ่านค่ะ ขอให้พี่อ้อสู้ๆๆ นะ ไว้หมีจะขอคำแนะนำบ้างค่ะ
-
วิธีการออกจากสมาธิ ในระหว่างที่รู้ลมด้วยครับ คงจะเป็นประโยชน์มาก
คือเมื่อสักครู่ประมาณก่อน 1 ทุ่ม ผมก็นั่งรู้ลมไปเรื่อย ๆ ครับ น่าจะรู้จน
เลยส่วนบนของหัวมาหน่อย แล้วผมออกจากสมาธิ แผ่เมตตา......
รู้สึกปวดหัวและมึนครับ ปุจฉา.........มีขั้นตอนยังไงครับ
สวัสดีวันพระครับ อนุโมทนาในธรรมทานนังด้วยครับ -
คุณสายฝนฯชื่ออ้อหรือคะ งั้นเรียกคุณอ้อเลยละกันนะคะ
ฮ่าฮ่า..ทิพย์ตามอ่านตั้งแต่วันแรกที่คุณอ้อเล่าเลย และจะเข้า
มาเกาะกระทู้ทุกชั่วโมง เพราะอ่านแล้วสนุกอยากติดตาม
แฮ่ .. แต่วันนี้ก็คงอดอ่านอีกแล้ว เพราะพรุ่งนี้คุณหลานรับปริญญา
จัดงานเลี้ยงที่บ้าน ต้องหาซื้อของทั้งวัน หมดแรงตามเคย
ไว้งานเสร็จแล้ว จะมาเกาะกระทู้ใหม่นะคะ จบเมื่อไหร่ อย่าลืมรวมเล่มนะคะ
ทิพย์จะอุดหนุนซัก ๙ เล่ม ^^ -
แวะกลับมาอีกรอบ หลังจากเปิดไปหน้าที่ค้างไว้เมื่อ ๘ วันก่อนก็ไม่สามารถ
หยุดอ่านได้ ทั้งๆที่ง่วงเหลือเกินพออ่านไปความง่วงก็หายหมด กลายเป็นคราบ
น้ำตาขึ้นมาแทนและก็ได้อ่านต่อจนจบ โดยที่ไม่คิดว่าคุณอ้อจะรวมเป็นหนังสือจริงๆ
ขอบคุณนะคะ ที่ทำให้ทิพย์เข้าใจคำว่ากตัญญูเพิ่มมากขึ้น แต่ขอสารภาพว่ายังอ่าน
กลอนไม่จบอ่านไปได้ไม่กี่วรรค น้ำตาก็ไหลไม่หยุดเหมือนกันค่ะ การเล่าเรื่องของคุณ
เป็นคำพูดง่ายๆอ่านง่ายๆ แต่ทำไมถึงทำให้ทิพย์เสียน้ำตาได้ไม่หยุดยิ่งเรื่องตอนคุณตา
จะเสียอ่านไปเหมือนโดนถ่ายอารมณ์คนเขียนออกมาทิพย์ก็น้ำตาไหลไม่หยุดเหมือนกัน
เอาไว้ทิพย์ตั้งสติให้ได้ดีกว่านี้ก่อน และให้งานเสร็จก่อนจะกลับมาตั้งสติอ่านอีกครั้งนะคะ
เรื่องราวที่คุณเขียน ทิพย์ขออนุโมทนาบุญด้วยนะคะ เพราะมันขัดเกลาจิตใจได้จริงๆ -
ก่อนออกจากสมาธิ...ปรับระดับจิตให้กลับมาสู่ระดับเดิมก่อน...เพราะตอนนั้น...ความเป็นสมาธิถูกอัดแน่น เต็มพลัง...พลังของจิตและสมาธิจึงขึ้นสูง...ค่อยๆ ผ่อนลมหายใจ...ลงมาเรื่อยๆ จนรู้สึก เบา สบายแล้ว ค่อยๆ ออกจากสมาธิ....ออกมาแล้วกำหนดแผ่เมตตาไปเรื่อยๆ เช่นเดียวกัน จะนานแค่ไหน อย่ากำหนด....จนลมหายใจและจิตกลับมาสู่ สภาวะก่อนที่จะทำสมาธิค่ะ...อาการต่างๆ ที่ว่ามาจะไม่เป็นค่ะ....เคล็ดนี้ ต้องขอบคุณ คุณได้ฤกษ์ค่ะ...เพราะเมื่อก่อนภาวนาทีไร...ออกจากสมาธิมา...ปวดหัว ตุ๊บ ตุ๊บ ค่ะ มึนหัว...ยังนึกสงสัยว่า เอ๊ะ ... แทนที่นั่งไปจะสบาย ทำไมกลายเป็นอาการแบบนี้ไปได้...ยังไม่เท่านั้น พอลงมาจากห้องพระ...ใครพูดอะไรผิดหูหน่อย...ระเบิดลงกลางบ้านเลยค่ะ...ได้คุยกับคุณอ๊อด เธอเลยแนะวิธีนี้ให้ เพราะเธอก็เคยเป็นมาเช่นกัน....ลองดูนะคะ...ถ้าได้ไม่ได้อย่างไร....กลับมาบอกกันด้วยนะคะ...จะได้เป็นวิทยาทานให้กับผู้อื่นด้วยค่ะ...
อีกอย่าง...อ้อปฏิบัติในแนวสมถะกรรมฐาน...จึงไม่ค่อย เน้นในเรื่องอาการมากเท่าไหร่...ดูลมหายใจ เมื่อนิ่ง จะเหมือนคนใกล้จะหลับ เหมือนช่วงที่เราสบายที่สุดก็คือเวลาที่ใกล้จะหลับนั่นแหละค่ะ....จากนั้นทุกอย่างก็เป็นไปตามความน่ิงของจิต...จนเมื่อได้เวลาสมควรแล้ว....จึงทำแบบที่อธิบายให้คุณไปนั่นแหละค่ะ...
แต่ที่สำคัญนะคะ...อย่าลืม ส่งบุญ กรวดน้ำ นะคะ กรวดน้ำ ด้วยน้ำ ฝากพระแม่ธรณีท่าน ท่านเป็นดิน เจ้ากรรมนายเวรที่เขาอยู่ล่างๆ ลงไป...ที่ไม่สามารถมาร่วมอนุโมทนาบุญกับเราได้....ฝากพระแม่ธรณีส่งให้นะคะ...เมื่อได้รับ ได้ร่วมอนุโมทนาบุญ ก็เกิดการอโหสิกรรมซึ่งกันและกัน....นะคะ
สาธุค่ะ ^__^ -
จริงๆ แล้ว อ้อแต่งกลอนไม่เป็นค่ะ....พยายามหลายหนแล้ว...เวลาแม่สร้อยฯ เธอไปแต่งกลอนให้กระทู้ “พระแม่สุนันทาฯ” จะแต่งกลับให้เธอ ... ก็ทำไม่สำเร็จ ... แต่กลอนนี้ ใช้เวลาแต่งเพียงแค่วันเดียว...ที่สำคัญ....อ้อยัง...งง...อยู่เลยว่า...แต่งได้ยังไง...ถ้าอ่านดีๆ...จะได้คำสอนของ “พ่อ” ที่บอกผ่านหลานเพื่อให้ “ลูก” ได้มีสติ และรู้ถึง คำสอนที่พยายามบอก....ถึง...ความรักที่มีให้กัน ให้ “รักกัน สามัคคีกัน”...เพราะท่านเห็นถึงกรรมของท่านที่เคยได้สร้างมา...ทำให้ลูกของท่าน “ไม่รักกัน”... จนเมื่อจวบวันสุดท้าย ยังคงบอกให้อ้อ “ให้อภัย” “ให้ยกอโหสิกรรม” เพราะ...ท่านทราบแล้ว...สังขารท่านดับแล้ว...แต่ใจของดิฉัน...ยังคงมีรอยตะปูที่ตอกลึกอยู่ รอยใหญ่ๆ รอยหนึ่ง...ที่ยากจะทำให้รอยนั้นกลับมาเป็นความราบเรียบเหมือนเดิมได้...ท่านจึงบอกให้ “ทำเพื่อตานะลูก ให้เอ็งทำเพื่อตา”ท่านบอกในวันที่ไปทำร้อยวันให้ท่าน ... นั่นแหละค่ะ ... อ้อถึงต้องบอกว่า “กายกรรม วจีกรรม มโนกรรม กรรมหนึ่งกรรมใด ที่หนูเคยทำ หรือ หนูเคยถูกกระทำมา ไม่ว่าจะเป็นตัวหนูเอง หรือ กับคนในครอบครัวของหนู โดยเฉพาะ แม่ของหนู ทั้งตั้งใจไม่ตั้งใจ ทั้งเจตนา ไม่เจตนา ทั้งรู้เท่าถึงการณ์และรู้เท่าไม่ถึงการณ์ หนูขออโหสิกรรมซึ่งกันและกันด้วย พร้อมทั้งหนูขอยกอโหสิกรรมทั้งหมดให้” ..... และฉันก็บอกกับบุคคลนั้นว่า “ตาขออ้อไว้” .... จากนั้นทุกอย่างก็จบ ... คือ ใจเราไม่นึกถึง ไม่พยายามแม้แต่จะนึกถึง ... เหมือน มันหายเข้าไปในก้นลึกของหัวใจ ... ได้แต่มองความเป็นไปที่กำลังเดินด้วย “กรรม” ของเขาเท่านั้นเอง .....
-
แล้วผมจะรอดูพี่อ้อที่ช่อง5ตอน 6 โมงเย็นนะครับ 555
-
พี่เพิ่งมาอ่านกระทู้นี้ของอ้อเจออ่านตั้งแต่เช้าอ่านไปขายของไป
เพิ่งจะมาจบเอาตอนนี้เอง ดีมากเลยจ้าอ่านแล้วได้ข้อคิดหลายอย่างถ้าอ้อออกหนังสือแล้วอย่าลืมถามแม่ชีใหญ่นะเรืองสินสอดน่ะหากแม่ตายแล้วต้องทำไงพี่ก็มีกรรมเรื่องนี้เหมือนกัน
เมื่อปีก่อนที่อ้อมานำสาสน์จากพระองค์มาถึงพี่ น่าจะเป็นช่วงจังหวะชีวิตที่อ้อก็พบวิกฤเหมือนกัน ไม่น่าเชื่อว่าอ้อทุกข์ขนาดนั้น อ้อยังสามารถเป็นทูตสันวไมตรีได้อย่างยอดเยี่ยม คุยได้โดยที่คนที่คุยด้วยมิได้ล่วงรู้เลยว่าจริงๆๆ แล้วคนที่เป็นทูตนั้นน่าจะอยู่ในอาการโคม่ามากกว่า คนรับสาสน์เสียอีกขอบใจจริงๆๆนะสำหรับทุกอย่างที่อ้อเคยช่วยพี่มา จนพี่สามารถฝ่าวิกฤตนั้นมาได้จนมีวันนี้ได้ ขอบใจจริงๆๆ แต่ทั้งนี้และทั้งนั้นพี่เชื่อว่าไม่เคยมีเรื่องบังเอิญระหว่างเรา แต่เป็นเพราะบุญเราสัมพันธ์กันถึงได้มาพบมาเจอกันอีก แม้จะจากกันมากี่ภพชาติก็ยังได้มาเจอกันอีก สักวันพี่คงได้มีโอกาสได้พบตัวเป็นๆๆๆของอ้อนะ หนังสือวางแผงเมื่อไรพี่จะไปเหมา อิ อิ .....
-
จนต้องปล่อยให้รีโมทหลุดมือไป ไม่งั้น...เถียงกันไม่หยุด...เพราะ..
พอลงจากรถโรงเรียนมาได้...อาการเหมือน ถูกฝังระบบความจำมาเป็นอย่างดี
วางกระเป๋าปุ๊บ ถอดรองเท้าปั๊บ จับรีโมทปั๊บ ..... แม่ครับ ขอซีเรียลกับนมด้วย...
นั่น....ลูกชายที่แสนดี....แค่แย่งรีโมททีวียังไม่พอ...สั่งเหมือนเด็กชงเหล้าเลย....5555555++++ -
สาธุธรรมกับพี่ด้วยนะคะ -
ประมาณ 2 วันที่แล้ว อ้ายตัวผมนี่มันดันเจือกไม่เข้าเรื่องราว
เฮ้อ..เพราะความอยากแท้หนอ ไปล่วงละเมิดเกินขอบเขต
โฮะ โฮะ เจอเต็มกระบอกเลยเชียว อย่าว่ากันน้า ขออภัยและ
ขอขมากรรมด้วย นะจ๊ะ
เพิ่มเติมข้อความ
อยากจะเล่าให้ละเอียดกว่านี้ แต่ก็ต้องจนใจ เพราะเกี่ยวด้วยกับใครบางคน
ที่อยู่เบื้องสูงจนมิกล้าแม้จะเอ่ย...เฮ้อ...ตอนนี้คิดไม่ออกจิงเจง
ใก้ลถึงเวลาที่จะไปเข้างาน แล้วด้วย กุ้มอ่ะ กุ้ม -
หน้า 9 ของ 54