ผม...เป็นคนหนึ่งที่เชื่อเรื่องภัยพิบัติ แต่ออกมาเตือนแล้วงัยละโดน..กันไม่เห็นเหลือซาก กรณีคุณลุงทองใบ พ่อของคุณปลาบู่ จะโดนจับเข้าคุกอีก
ใครที่ออกมาเตือน ก็หาว่าเป็นบ้า..มีแต่โทษมากกว่า
ผมว่าปล่อยให้มันเป็นตามธรรมชาติดีกว่า ...เขาเรียกว่ากรรมจัดสรร งัย ใครทำดี ก็คงอยู่รอด ใครไม่ดีก็ปล่อยให้ลอยน้ำไป...อยากเป็นบัว เหล่าไหน ใน 4เหล่า ก็คิดเอาเอง พระพุทธเจ้าทรงสอนให้เราใช้ปัญญา แต่ในทางกลับกัน ก็ต้องช่วยตัวเองด้วย หากไม่ช่วย แล้วเอาเท้าลาน้ำก็ปล่อยเขาไปเหอะ
อีกอย่างที่จะบอก ก็คือ ยิ่งเตือน มันยิ่งเลือน..แล้วไม่อยากให้คนที่ไม่ดีเอา ข่าวภัยพิบัติ ไปหาผลประโยชน์ด้วย มันน่าอาย
ใครเห็นด้วยกับการเลิกเตือนภัยพิบัติ
ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย pratoolek, 2 มกราคม 2012.
หน้า 1 ของ 2
-
อ้างอิง:
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%"><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-RIGHT: 1px inset" class=alt2>ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ ZZ
ผม...ลองพูดถึงตัวเอง...นะครับ
ผมอยู่เวบนี้มานานพอควร...คุ้นเคยกับเรื่องพวกนี้ดี
ทั้งจริงและไม่จริง...ทั้งจริง 20% ลวง 80%...หรือแบบ 50-50
แต่งเติม...ทั้งเจตนาและไม่เจตนา (เพราะฟังต่อๆกันมา...เป็นทอดๆ...ข้อมูลข่าวสารก็เปลี่ยนไป)
คำเตือนเรื่องภัยพิบัติ
ก็เหมือน...ที่ท่าน ดร.เสรี...ท่านกล่าวไว้ว่า...เรามีวิธีบริหารความเสี่ยงอย่างไร
คนไม่รู้...ก็ดีครับ...ไม่ต้องเตรียมอะไร...อยู่ไปวันๆ...ทำงาน...ทำการ...ทำเงิน...กันไปวันๆ
ส่วนพวกที่รู้แล้ว...ไม่อยากบอกเพราะ
บอกไปก็...ไม่เชื่อ....เพราะมันเป็นเรื่องเหลือเชื่อ...เดี๋ยวคนบอกจะโดนด่าว่า..ปล่อยไป...กรรมใครกรรมัน
หรือ...รู้ว่า...บอกแล้วจะโดนด่าโดนว่า...แต่ก็ต้องบอก...เพราะท่านมีเมตตา...โดนด่าไม่เป็นไร...ดีกว่าตายหมู่เป็นไหนๆ
ภาวะสังคมไร้ที่พึ่งพิง
น้ำท่วมคราวนี้ (และซึนามิคราวที่แล้ว)...พวกเราหลายคน (ใน war room และกลุ่มชุมชนริมชายฝั่งอันดามัน) ... ได้มีความคิดเห้นตรงกันอย่างหนึ่ง...ว่า
ข้อมูลของภาครัฐ...ไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง...เรารับฟังข้อมูลจากภาครัฐ...แต่ก็ Cross-Check...กับข้อมูลของจริงเช่นกัน
ยกตัวอย่าง...ในทีวี...แจ้งว่า...นักลงทุนชาวญี่ปุ่น...ไม่ย้ายฐานการ ผลิต....แต่ในความเป็นจริง (ในฐานะที่อยู่ในแวดวงนี้)...มันคนละเรื่อง
การรวมกลุ่มแลกเปลี่ยนข่าวสารกัน...จึงจำเป็น...และรวดเร็วกว่าข้อมูลจากภาครัฐ...มากกมาย
น้ำท่วมคราวนี้...พวกเราหลายคน...เตรียมตัวทัน...ก็ขอแสดงความยินดีด้วย
น้ำท่วมภาคใต้ (หาดใหญ่) คราวนี้...ไม่รู้ว่า...จะมีใครเตรียมการทันไหม ?...เพราะมัวสนใจเรื่อง...เด็กชายปลาบู่
โลกเราไม่เหมือนเดิม
อยากจะบอกว่า...ในฐานะอดีตคน EGAT ...รู้ว่า...ความแข็งแรงของเขื่อนต่างๆ...มีมาตรฐานแค่ไหน (ในทางวิศวกรรม)
แต่ขณะเดียวกัน...เราก็ต้องไม่ลืมว่า...โลกของเราเปลี่ยนไปไม่เหมือนเดิม...อีกแล้ว
- แผ่นดินไหว 9 ริคเตอร์ที่ญี่ปุ่น...และที่ชิลี...ทำให้แกนโลกเอียงมากขึ้นไปอีก
- น้ำแข็งละลายมากขึ้นทุกปี...เพราะชั้นบรรยากาศของเรา...มีรูรั่ว...รับรังสีจากดวงอาทิตย์โดยตรง
- ระดับความรุนแรงของพายุมีมากขึ้น...และสามารถก่อตัว...ในใกล้ๆชายฝั่ง
- ฤดูกาลที่เปลี่ยนแปลงไป...โดนที่ไม่มีใครทราบว่า...เรากำลังอยู่ในฤดูอะไรแล้ว
- คำเตือนของ IPCC เมื่อ 16 ปีที่แล้ว...ยังไม่ได้รับการเหลียวแลจากภาครัฐ หรือแม้แต่ภาคประชาชน (ส่วนใหญ่...เพราะมัวแต่สนใจเงินในกระเป๋า...มากกว่าที่จะสนใจ...สภาพแวด ล้อม)
เหล่านี้...ไม่มีใครสามารถรับประกันได้ว่า...เขื่อนของเรายัง...ปกติดี...เพราะข้อมูลของเรา...พบว่า
น้ำในเขื่อนแทบทุกเขื่อน...93% Up...หากเกิดแผ่นดินไหวใหญ่...สปินเวย์...ก็ไม่แน่ว่า...จะปล่อยน้ำออกมาได้ทันไหม ?
ไม่รวมถึง...รอยเลื่อนที่มีพลัง...ที่พาดผ่านประเทศของเรา
ช่วงปีใหม่นี้ (ไม่เฉพาะคืนวันส่งท้าย)...war room...จึงยังคงเฝ้าระวัง...แผ่นดินไหว...มาตลอด
รับรู้...แต่ไม่ตื่นตระหนก...ส่วนพวกที่ตื่นตระหนกไปแล้ว...ก็ไม่รู้ว่า...จะทำอย่างไร...เพราะเราบอกกันหลายครั้งแล้ว...ว่า...อย่าตระหนก (รับรู้ไว้เพื่อเป็นข้อมูล...และเพื่อการเฝ้าระวัง)
ณ.วันนี้ ผมไม่อาจยืนยัน...แทนพระแม่ธรณี...ท่านได้ว่า...แผ่นดินจะไม่ไหว....และไม่เกิดเหตุการร้ายต่างๆ
แต่สิ่งที่เราทำได้...ในฐานะคนเฝ้าระวังภัยพิบัติ...คือ....ทำหน้าที่ของเรา
ผมคงไม่โทษ...คุณลุงที่แกบอกว่า...เขื่อนแตก...แล้วเขื่อนไม่แตก (เราก็ไม่อยากให้แตกอยู่แล้ว)
ผมคงไม่โทษ...หมอดูที่บอกจะมีปฏิวัติ...แล้วยังไม่มี
ผมคงไม่โทษ...ไบเบิ้ล...ที่บอกว่า...น้ำจะท่วมโลก...แต่ยังไม่ท่วมสักที
เพราะผมทราบว่า...กรรม...มันมีวาระของมัน...เราผู้ใต้กฏของกรรม...ไม่อาจฝืน...กฏของกรรม....ไปได้
ได้แต่ก้มหน้า...ก้มตา...ทำหน้าที่ของเรา...และแอบหวังว่า...เมื่อถึงวันนั้น...เราๆท่านๆ...จะได้อยู่รอดปลอดภัย...กันทุกคน...นะครับ
[ เก็ก...แทบแย่...ฟังเพลงดีกว่า...5555 ]
</TD></TR></TBODY></TABLE>
<EMBED height=360 type=application/x-shockwave-flash width=640 src=http://www.youtube.com/v/w823qghzF38?version=3&feature=player_detailpage allowScriptAccess="always" allowfullscreen="true"> -
............................
-
ไม่ต้องเตือนแล้วครับ ผมว่าคนรู้ก็เยอะพอควรแล้ว หากเขารู้กันแล้วเชื่อไม่ประมาท ก็เป็นวาสนาของเขาไป หากเขาเคยได้รับรู้ แล้วมันไม่เกิดตามที่เขาได้รู้ แล้วเขาเลือกจะไม่เชื่อ ก็ปล่อยพวกเขาไปเถอะครับ กรรมใคร กรรมมัน
-
ปล่อยให้มันเ็ป็นไปตามโชคชะตาดีกว่า
-
ไม่ต้องห่วงสิ่งที่ลุงพูดมามันเิกิดขึ้นแน่ แต่คนฟังตีความผิดไปก็เลยหาว่าลุงผิด อีก38 ปีมันปี 2555 ใช่ไหม 2555 ให้ระวังไว้ 31ธันวาไม่ใช่อีก37ปี ย่าง38
-
ไม่อยากให้เลิกเตือน
เพราะคนในห้องนี้เข้ามาอ่านคำเตือน คำทำนาย
เชื่อว่าอยู่บนพื้นฐานของความไม่ประมาท
และเป็นการอ่านเพื่อเตรียมตัวเตรียมใจไว้ล่วงหน้า
มองว่าคนส่วนใหญ่ที่เข้ามาอ่านกระทู้ทำนองนี้
ก็มาอ่านมารับข้อมูลอย่างมีสติ ไม่ได้ตื่นตระหนกเกินเหตุนะ
ส่วนน้อยที่จะอ่านแล้วpanicเกินเหตุ
ซึ่งดูแล้วก็ไม่น่าจะมาจากบอร์ดนี้
น่าจะเป็นสมาชิกชุมชนจากเวบอื่น...
ที่เอาข้อความจากบอร์ดนี้ไปโพสที่เวบอื่น
พอเอาไปโพสเวบอื่น
ใครที่ไม่เคยอ่านเรื่องแนวๆนี้มาก่อน
มาอ่านเข้าก็panic เป็นธรรมดา
แต่สำหรับคนในบอร์ดนี้
ถือว่ามีภูมิต้านทาน(ทางใจ)เยอะแล้ว
คุ้นเคยกับข้อมูลทำนองนี้แล้ว
เลยดูว่าไม่น่าจะเป็นกลุ่มคนที่ตื่นตระหนกตามคำทำนาย..น่ะนะ -
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>2012 หากโลกาวินาศ ไทยทั้งชาติ จะรับมืออย่างไร?</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=40><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=middle align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=middle align=left>2 มกราคม 2555 </TD><TD vAlign=middle align=left>
<TD></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=middle align=center></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย...สุกัญญา แสงงาม
จากคำพยากรณ์ของชาวมายา ว่า ปี 2012 จะเป็นวันสิ้นโลก จนปรากฏภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ “2012 วันสิ้นโลก” ปลุกคนทั่วโลกให้หวาดกลัว ขณะเดียวกัน ภัยพิบัติดินฟ้าถล่ม ดินทลาย พายุถาโถม
จนหวั่นเกรงว่า โลกกำลังจะแตกดับ จริงๆ ประจวบกับประเทศไทย เกิดมหาอุทกภัย แถมมีโหรหลายสำนักออกมาทำนายในทิศทางเดียวกันว่า ไทยจะเกิดภัยพิบัติรุนแรงเพิ่มขึ้น
</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=right><TBODY><TR><TD width=5></TD><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400><TBODY><TR><TD vAlign=top width=400 align=center> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=center></TD></TR></TBODY></TABLE>พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี หรือ ว.วชิรเมธี พระนักเทศน์ชื่อดัง และผู้อำนวยการสถาบันวิมุตตยาลัย กล่าวในการเสวนาธรรมเรื่อง
“2012 หากโลกาวินาศ ไทยทั้งชาติจะรับมืออย่างไร” ว่า
ภัยพิบัติเกิดขึ้นอย่างแน่นอน เพราะโลกร้อนขึ้น
ส่งผลให้สภาวะอากาศแปรปรวน เกิดแผ่นดินไหว น้ำแข็งขั้วโลกละลาย
ปีนี้ บางประเทศเกิดแผนดินไหว สึนามิ ไทยเกิดน้ำท่วม อย่างไรก็ตาม มั่นใจว่า ถ้าปี 2012 ไทยเกิดน้ำท่วมอีก เรา “เอาอยู่” แต่ต้องปราศจาก 3 เรื่อง
1.คอร์รัปชั่น
2.ความขัดแย้งทางการเมือง
3.การแตกความสามัคคีของคนในชาติ
“ขณะนี้ สิ่งที่สังคมไทยต้องการที่สุด ไม่ใช่งบประมาณมหาศาล แต่สังคมไทยต้องการที่สุด คือ คนที่รู้จริง และกล้าพูดความจริง เข้ามาแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น” ท่าน ว.วชิรเมธี กล่าว
ท่าน ว.วชิรเมธี ให้แง่คิดกับพุทธศาสนิกชน ในการเลือกรับข้อมูลข่าวสารในยุคปัจจุบัน ควรเลือกรับอย่างมีสติ ซึ่งปัญหาหนึ่งของคนไทยในยุคนี้ เป็นยุคตื่นตระหนกขาดการไตร่ตรอง ขาดการหาความรู้ เลือกรับสารตามความเชื่อ
อย่างดูหนัง “2012 วันสิ้นโลก” เชื่อว่าจะเกิดขึ้นจริง พร้อมกันนี้ การส่งข่าวสารผ่านเฟซบุ๊ก พออ่านปุ๊บก็ส่งต่อๆ กัน สร้างความกลัวให้คนหมู่มาก
เพราะฉะนั้น ก่อนจะส่งสารต่อไปนั้น ควรศึกษาให้ท่องแท้เสียก่อน
อย่างไรก็ตาม หากมีเหตุการณ์ร้ายแรงใดๆ เกิดขึ้น โลกเรามีองค์การใหญ่ อย่างนาซ่า ที่มีเครื่องมือที่ทันสมัย คงจะรับรู้ล่วงหน้าและเตรียมการรับมือ ไม่ให้เกิดภัยร้ายอย่างแน่นอน
</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=right><TBODY><TR><TD width=5></TD><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400><TBODY><TR><TD vAlign=top width=400 align=center> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=center></TD></TR></TBODY></TABLE>ดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา นักวิทยาศาสตร์จากองค์การนาซา พูดด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า
ในทางวิทยาศาสตร์ โลกเราไม่ได้แตกดับกันง่ายๆ
ตามหลักทางวิทยาศาสตร์ขณะนี้ โลกเรามีอายุขัยครึ่งหนึ่ง แล้วจะอยู่ได้อีก 4,500 ล้านปี ถึงจะดับ
เนื่องจาก ดวงอาทิตย์จะขยายตัวใหญ่ขึ้นอีก 60 เท่า และมีความร้อนมากขึ้น
เกิดจากปฏิกิริยาระบบไฮโดรเจนรวมตัวกัน กลายเป็นฮีเลียม และฮีเลียมก็สะสมกันมากขึ้น พอรวมตัวกันมากขึ้น ก็จะกลายเป็นระเบิดฮีเลียม ทำให้โลกร้อนมาก และจะโดนเผาผลาญหมด
อย่างไรก็ตาม ปีหน้าโลกยังไม่ดับสูญ แต่ปัญหาต่างๆ โดยเฉพาะ ภัยธรรมชาติของโลก จะเพิ่มขึ้น รุนแรงขึ้น
ปี 2555 การคำนวณทางวิทยาศาสตร์ พบว่า ดวงอาทิตย์จะเกิดปฏิกิริยา ทำให้มีการระเบิดบนดวงอาทิตย์ และทุกครั้งที่เกิดการระเบิด ก็จะทำให้มีแผ่นดินไหว เกิดขึ้นบนโลก
เพราะตอนนี้โลกมีการปรับสมดุล เปลือกโลกมีการเคลื่อนไหวที่เร็วขึ้น ทำให้เกิดรอยเลื่อน ในแถบภาคเหนือของไทย จนเกิดแผ่นดินไหวขึ้น ประมาณ 5 ริกเตอร์ แต่ขณะนี้ ยังไม่สามารถระบุวันเวลาที่เกิดได้
ด้านโหราจารย์กรหริศ บัวสรวง โหราจารย์ชื่อดังของไทย ลั่นวาจาอย่างชัดเจนว่า ไม่มีทางที่ปี 2555 โลกจะถึงกาลอวสาน แต่ทั่วโลก จะเกิดภัยพิบัติมหาโหดแน่นอน
เพราะฉะนั้น ทุกคนจะต้องมีสติ เตรียมตัวรับมือกับภัยธรรมชาติ ที่เกิดจากน้ำ หรือแผ่นดินไหว เริ่มตั้งแต่เดือน เม.ย.- พ.ค. เป็นต้นไป
ก่อนหน้านี้ องค์การนาซา เคยสำรวจลักษณะภูมิประเทศในประเทศไทย พบว่า มีสถานที่ที่ปลอดภัยอยู่ 2 แห่ง คือ จ.ชัยภูมิ และ จ.เพชรบูรณ์
ส่วนเชียงใหม่ ก็ปลอดภัย แต่บางอำเภอเท่านั้น ไม่ใช่จะให้ขายบ้าน ไปซื้อที่ดิน 2 จังหวัดนี้นะ
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลไทยจะต้องเตรียมรับมือ โดยศึกษาจากน้ำท่วมครั้งนี้ว่า เส้นทางน้ำเดินไปทิศทางไหน ครั้นมีน้ำมา ก็ให้หาทาง ระบายน้ำลงสู่ทะเล โดยเร็วที่สุด
โหราจารย์กรหริศกล่าวว่า ปฏิทินชนเผ่ามายัน ตามคำทำนายนั้น ไม่เคยทำนายว่า ปีใดจะเป็นปีที่สิ้นสุด ที่ผ่านมา มนุษย์ตีความกันเอง
มองว่า เรื่องที่เผ่ามายันกล่าวไว้นั้น เราควรฟัง เพื่อปรับเปลี่ยนทัศนคติในการดำเนินชีวิต แค่ทุกคนปฏิบัติตัวยู่ในศีล 5 ก็สามารถใช้ชีวิตอยู่รอด ตามหลักพุทธศาสนาแล้ว
รู้อย่างนี้แล้ว ขอให้ทุกคนมีสติ เตรียมรับมือกับเหตุการณ์ต่างๆ ขอเพียงคนในชาติ สามัคคีกัน ร่วมแก้ไขปัญหา เพื่อให้ได้รับผลกระทบน้อยที่สุด ก็จะสามารถ ผ่านพ้นภัยพิบัติ ทั้งปวงไปได้
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE> -
เห็นด้วยค่ะ
หากภัยมา ก็ขอบคุณเขาค่ะที่มาเตือนเรา เราก็รอบคอบมากขึ้นและมีสติไว้
ดิฉันเชื่อว่า คนเรา อย่ามัวแต่ทำอาไร ตามความพอใจหรือไม่พอใจของตนเองเลยค่ะ และไม่ดีต่อจิตภายใน ไม่มีใครทำอาไรถูกใจเราไปเสียหมดหรอกค่ะ เป็นกำลังใจให้คุณลุงทองใบค่ะ เชื่อว่า ใครเล่าที่อยากจะทำให้คนอื่นเดือดร้อน ลุงคงไม่มีเจตนาและรู้เท่่าไม่ถึงการณ์ว่าจะเกิดปัญหาขึ้นแบบนี้ ให้อภัยลุงเถิดค่ะ ท่านตำรวจ ลุงเขาก็ประชาชนชางบ้านซื่อๆใจดีมีเมตตาคนหนึ่งนะคะ สาธุ -
ผมมีคำถาม อยากเรียนถามท่านเจ้าของกระทู้กรุณาให้ความกระจ่างกับผู้ด้อยปัญญาเช่นผมหน่อยเถิด ขอบพระคุณมากครับ
1.การเตือนภัยพิบัติทำให้มีผู้ประมาทและผู้ไม่ประมาทหรือไม่
2.การไม่เตือนถัยพิบัติทำให้มีผู้ประมาทและผู้ไม่ประมาทหรือไม่
ขอบพระคุณครับ :) -
การเตือน...เหมือนโกงความตายโกงอนาคต ทำให้สิ่งที่น่าจะเกิดกลับไม่เกิดหรือเลื่อน และสิ่งนั้นจะเกิดแบบผิดเพี้ยนไปในลักษณะที่หนักกว่าเก่าในอนาคตสำหรับผู้ถูกเตือน ฉะนั้นต้องขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้เตือนที่รู้จริงในเรื่องราวของอนาคตว่าสมควรโกงมั้ยในเรื่องนั้นๆ บางครั้งการทำบุญวันนี้ก็เป็นบาปในอนาคตได้
-
ถ้าเป็นการเตือนแบบ วิทยาศาสตร์ อย่างมีหลักการ ควรมีต่อไป
เพราะโลกกำลังเปลี่ยนแปลง ย่อมมีภัยธรรมชาติ เป็นธรรมดา
การศึกษา ความเปลี่ยนแปลงของโลก ก็พอจะรู้ได้ว่า จะเกิด
อะไรขึ้นได้บ้าง พื้นที่ไหน ควรระวังเรื่องได ก็พอจะเตือนกันได้
เพราะข่าวแนววิทยาศาสตร์ มีออกมาให้ศึกษาวิเคราะ กันมากมาย
เดี๋ยวคนเก่งๆ เขาก็วิเคราะออกมาบอกกล่าว ให้พวกเราได้รู้กันบ้างแหละ.!
และส่วนตัวคิดว่า การเตือนแนวนี้ น่าเชื่อถือกว่า
การเตือนแบบนั่งฌาณ เลิกไปได้เลย ก็จะดี
แล้วหันมาใช้คำเตือน ให้มีสติเตือนตน ไม่ให้ประมาท
ดีกว่ามานั่งฌาณแล้วมาเตือนเรื่องวันเกิดภัยพิบัติ เพราะเรื่องแบบนี้
แยกญาณจริง ญาณหลอกยาก ใครจะไปรู้ ขนาดคนนั่งฌาณเอง
บางคนยังแยกไม่ออก แล้วเที่ยวมาบอกกล่าวให้คนตื่นตระหนก
เพราะคนเราแต่ละคน ใช่ว่า ฟังแล้วจะมีสติทำใจให้สงบได้ทุกคนไป
แล้ว การเตือนแบบนี้ ชอบออกมาแนวรุนแรงเจาะจงลงพื้นที่ ใครอยู่
พื้นที่ไหนก็ตื่นกันเป็นแถว ........ แล้วไง.......??? -
ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ ZZ
รับรู้...แต่ไม่ตื่นตระหนก...
ส่วนพวกที่ตื่นตระหนกไปแล้ว...ก็ไม่รู้ว่า...จะทำอย่างไร
...เพราะเราบอกกันหลายครั้งแล้ว...ว่า...อย่าตระหนก
(รับรู้ไว้เพื่อเป็นข้อมูล...และเพื่อการเฝ้าระวัง)
--------------------------------------------------------------------
ควรเตือนต่อไป -
ปูก็เป็นคนหนึ่งที่ชอบออกมาเตือนภัยพิบัติ... ตั้งแต่ที่บอกยุโรปจะเกิดเรื่อง แล้วก็มีการจลาจลที่อังกฤษ... ต่อมาก็เรื่องแผ่นดินไหวแรง
บางครั้งก็คิดเหมือนกันว่า "ควรเตือนในสิ่งที่เราเห็นไหม" อย่างที่มาเตือน 5 ข้อ เมื่อ 5 ต.ค. ว่า บริษัทยักษ์ใหญ่และปานกลางจะล้มละลาย ร่วมหุ้น ปลดคนงานมากมาย แล้วอีกเดือนเดียว ก็เกิดจริงๆ เพราะน้ำท่วม 7 โรงงาน ก็เป็นอะไรที่เห็นมาก่อนจะเกิด ว่าน้ำจะท่วมใหญ่ แต่ก็ไม่ได้ช่วยอะไร เพราะมันก็ท่วมจริงๆ ... ขนาดญาติเราเตือนเป็นเดือนว่า ให้จ้างคนมายกของขึ้นชั้น 2 ยังไม่เชื่อเราเลย... เฮ้อ ก็นะ มันเป็นชะตากรรมของแต่ละคน ... ใครที่เชื่อ ก็รอดกะการสูญเสียไป ใครไม่เชื่อก็ต้องสูญเสียทรัพย์สิน
-
พุทธแท้อยู่กับปัจจุบันขณะเท่านั้น ไม่หลงอดีต ไม่หลงอนาคต ไม่ประมาทในการดำเินินชีวิต ด้วยการศึกษาพระธรรมคำสอนให้ถ่องแท้ นำมาปฏิบัติให้เหมาะสมกับชีวิตประจำวัน
คนเราเกิดมาแล้วต้องตายทุกคน กังวลอะไรกัน ห่วงอะไรกัน ที่สุดก็แค่ตาย ดูปัจจุบันว่าเกิดมาชาตินี้ได้ทำในสิ่งที่ชาวพุทธควรทำหรือยัง งานที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ลุล่วงหรือยัง อยู่ในศีลในธรรมบ้างหรือยัง
อย่าลืมนะ เรื่องภัยพิบัติเป็นเรื่องของธรรมชาติ ถ้ามันจะเกิดมันก็ต้องเกิด ไปห้ามไม่ได้
ถ้าเตือนเพื่อให้ิเิกิดความระมัดระวัง มีคนเชื่อแล้วป้องกัน และได้เกิดเหตุการณ์ตามคำเตือนจริงก็ดี ผู้คนยกย่องสรรเสริญ คนเตือนได้เป็นฮีโร่ เพราะกลายเป็นผู้หยั่งรู้ดินฟ้า แต่ถ้าเตือนแล้วไม่เกิดขึ้นจริงนี่ผิดศีลข้อมุสาฯ นะ เพราะฉะนั้น อย่าเตือนดีกว่า เวปมีอุดมการณ์เพื่อเผยแพร่พระพุทธศาสนา จึงไม่ควรมีเรื่องการเตือนภัย ควรนำเสนอเรื่องศีลธรรมมากๆ เพราะสังคมขาดศีลธรรม ปัจจุบันจึงวุ่นวายด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่อง -
เลิกไปเลยครับ แนว จากญาณ สมาธิ หรือนั่งเทียน ฯลฯ เพราะมันไม่มีใครทำนายได้ถูกเลย (ใครว่าทำนายได้ถูกเอามาดูหน่อย) แล้วมีประโยชน์ตรงไหน ... ทำให้คนส่วนใหญ่ยิ่งไม่เชื่อถือหนักเข้าไปอีก หาว่าบ้า เพ้อเจ้อ บ้าง อยากดังบ้าง อะไรบ้าง สิ่งที่เห็นอาจจะเห็นจริง แต่มันไม่ใช่ความจริง อาจจะแค่หลอกตัวเอง หรือนึกภาพไปเองก็ได้ จิตคนเรามันปรุงแต่งได้ตลอดเวลา...
แนวทางศาสนาพุทธ ให้ฝึกจิต ฝึกสมาธิ เพื่อความสงบ สว่าง เพื่อให้เกิดปัญญา เพื่อหลุดพ้น ไม่ใช่เพื่อมาอวดญาณกันว่าใครแม่นกว่า หรือเพื่อมาเตือนภัยพิบัติ หรือมาอวดอิทฤทธิ์ใด ๆ ... สรุป เลิกให้หมดเลยก็ดี หันมาเน้นแนวปฏิบัติธรรมกันดีกว่า... -
NAMOBUDDHAYA ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด
ที่บอกว่าเตือนแล้วไม่เกิดขึ้นจริงแล้วผิดศีลนี่ยิ่งไม่ใช่เลย
องค์ประกอบของการมีศีลครบหรือศีลขาด อันดับแรกคือ เจตนาจะโกหกหรือพูดบิดเบือนจากความจริงหรือไม่นะครับ
ที่คุณบอกว่า " พุทธแท้อยู่ในปัจจุบันเท่านั้น ไม่หลงอดีต ไม่หลงอนาคต
ใช้ชีวิตไม่ประมาท" นั่นถูกนะครับ
แต่คุณก็แย้งคำพูดของคุณเอง คือ คนเราจะใช้ชีวิตโดยไม่ประมาท
ไม่ได้แสดงว่า จะไม่ต้องรู้อนาคต หรือ ไม่ต้องคาดการณ์โดยข้อมูลอนาคต
พระพุทธองค์สอนให้ทำดีปัจจุบัน เพื่อประโยชน์ปัจจุบันและอนาคตนะ
ไปศึกษาให้ดีๆ
การจะเสวยสุคติ เว้นทุคติ จนไปถึงพระนิพพานก็ต้องวางแผนและทราบข้อมูลเพื่ออนาคตเช่นกัน
ประเด็นที่แท้จริงคือ........" อย่าวิตกจนมากเกินไป " ต่างหาก
ต้องแก้ให้ถูกจุด ตีโจทย์ให้แตก
วิเคราะห์ข่าวสารเป็น ปล่อยวางเป็น
และอีกประการ ข้อมูลที่อ้างอิง จากหลายท่านก็อิงรูปธรรมทางวิทยาศาสตร์
และ หลายท่านก็ไม่ใช่พวกโหรอยากดัง นักโหราศาสตร์สติเฟื่อง ร่างทรง คนงมงายกับนิมิตรจนฟั่นเฟือน หรือพวกที่ฉวยโอกาสสร้างชื่อเสียงให้กับตัวเองไม่ ดูเจตนาและผลงาน ของผู้ที่เป็นห่วงคนอื่น ที่จะเปิดโอกาสให้คนเค้ารอดได้ และ
......ดูดีๆ กลับชักนำให้หลายคนเข้าหาศาสนาได้ แม้จะเริ่มจากสวดมนต์
ทำสมาธิเพราะกลัวตายก็ตาม......... -
การเตือนไม่ใช่เรื่องที่ผิด เป็นการสื่อสารอย่างหนึ่ง ซึ่งผู้รับข้อมูลเป็นสำคัญว่าจะรับได้มากน้อยเพียงใด รับแล้วตีความเช่นไร หลังตีความแล้วจัดการยังไงต่อ นั่นเป็นเรื่องที่แต่ละบุคคลพิจารณาและตัดสินใจเลือกที่จะแสดงออกต่อสิ่งที่ได้รับมาอย่างไร ด้วยตัวของข้อมูลนั้นได้แสดงชัดเจนว่าเป็นความเชื่อส่วนบุคคล บอกที่มาที่ไปอยู่แล้ว และมิได้บังคับให้ต้องเชื่อ จึงขออย่าโทษบุคคลที่เค้ามาเตือนเลยครับ ถ้าเค้าไม่มีเมตตา ไม่มีเจตนาที่ดี เค้าคงไม่เสี่ยงสร้างเรื่องให้คนอื่นมาต่อว่า ดูหมิ่น หรอกนะครับ ;aa43
-
-
เตือนภัย และ เตือนตน
1.เตือนต่อไปเถอะ
2.เตือนตน ให้ระวังอย่าให้กฏหมาย(ที่มีไว้เอาผิดคนดี) เอาความผิดกับเราได้:boo: โดยศึกษากรณี พ่อของ ด.ช.ปลาบู่เป็นตัวอย่าง
ทำดีนี่ ทำยาก แท้น้อ....
หน้า 1 ของ 2