หลวงพ่อเมืองสามหมอก คิดเครื่องดึงดูดเมฆฝน
เผยใช้ศาสตร์ที่อยู่เหนือความคาดหมาย เพื่อช่วยเหลือชาวบ้านที่กำลังประสบกับภัยแล้งอยู่ ขณะนี้ โดยนำไปติดตั้งฟรีให้กับประชาชนในภาคอีสาน...
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (15 มิ.ย.) ที่สำนักปฏิบัติธรรมสวนบูรณะรักษ์ธรรม เลขที่ 38/1 ต.แม่แรม อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ พระอาจารย์รัตน์ รัตนญาโณ อายุ 62 ปี 32 พรรษา เจ้าอาวาสวัดดอยเกิ้ง อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน ได้แถลงข่าวการประดิษฐ์เครื่องดึงดูดเมฆฝน จำนวน 5 เครื่อง เพื่อนำไปติดตั้งฟรีให้กับประชาชนในภาคอีสาน เพื่อช่วยเหลือชาวบ้านที่กำลังประสบกับภัยแล้งอยู่ขณะนี้ พร้อมกับพาผู้สื่อข่าวจากหลายสำนักทั้งทีวี วิทยุ และหนังสือพิมพ์ ไปดูที่ลานหน้ากุฎิ ซึ่งมีช่าง 3 คนกำลังช่วยกันทำเครื่องช่วยดึงดูดเมฆฝน
รายงานข่าวแจ้งว่า ลักษณะเครื่องดังกล่าวประกอบไปด้วยแท่งเหล็ก สูงประมาณ 2 เมตร แล้วนำท่อน้ำมาม้วนรอบเป็นเกลียว โดยตรงกันแท่งเหล็กจะมีก้อนหินรูปพีรมิด ทรงสามเหลี่ยม มุม 60 องศา จำนวน 7 ก้อน นำพีระมิดมาจัดเรียงแนวตั้ง แล้วพันรอบด้วยสายยาง ก่อนบรรจุน้ำเข้าไป ภายในติดตั้งปั๊มน้ำจากถังน้ำสีฟ้าขณาด 30 ลิตร เมื่อเปิดปั๊มน้ำทำงาน แรงดันจากปั๊มน้ำจะทำให้น้ำหมุนวนรอบพีระมิด จนเกิดเป็นเกลียววนจากขวาไปซ้าย พระอาจารย์รัตน์ ได้สาธิตเปิดให้ผู้สื่อข่าวดู และระบุว่าเครื่องดังกล่าวใช้งบประมาณ 8 พันบาทเท่านั้น และเครื่องดังกล่าวคิดค้นมาตั้งแต่ปี 2540 เริ่มทดลองอย่างจริงจังเพิ่งประสบความสำเร็จ
พระอาจารย์รัตน์ กล่าวว่า เมื่อเร็วๆนี้ ได้นำเครื่องดังกล่าวเปิดตั้งไว้ที่วัดดอยเกิ้ง อ.แม่สะเรียง เปิดเครื่องทิ้งไว้ตั้งแต่วันที่ 6-15 มิ.ย.ที่ผ่านมา พบว่าเกิดฝนตกลงมาในทุกเย็นในรัศมี 19 ก.ม. รอบๆวัดจนชุ่มชื้นไปหมด พอดีเห็นข่าวทางทีวีว่า ตอนนี้ประชาชนกำลังเดือดร้อนเรื่องภัยแล้ว ฝนกไม่ตกตามฤดูกาล ทางลูกศิษย์ จึงบริจากปัจจัยมาจำนวนหนึ่งให้ทางอาตมา สร้างเครื่องดูดเมฆฝนจำนวน 5 เครื่องที่กำลังก่อสร้างในวันนี้ โดยสร้างเสร็จไปแล้ว 1 เครื่อง เหลือระหว่างประกอบอีก 4 เครื่อง นำไปมอบให้กับชาวบ้านในภาคอีสาน ประกอบไปด้วย จ.มหาสารคา จ.อุดรธานี และจบุรีรัมย์
เจ้าอาวาสวัดดอยเกิ้ง กล่าวต่อว่า พระไม่มีมุสา ที่อาตมาทำขึ้นมาไม่ได้ทำเพื่อเชิงการค้า ทำแล้วนำไปมอบให้ชาวบ้านฟรีๆ ที่มาที่ไปของเครื่องนี้มาจาก เมื่อประมาณสิบปีก่อนอาตมาได้นั่งสมาธิ และนิมิตไปพบ หลักวิธีการทำดังกล่าวโดยบังเอิญ พร้อมกับอธิบายการทำงานของเครื่องจะอาศัย แรงดึงดูดที่เกิดขึ้นจะถูกผลักขึ้นมาด้านบนของเครื่อง และจะทำให้น้ำบริเวณรอบวิ่งมาแทนที่และอากาศไหลตัวจนเกิดลมขึ้น ขณะที่เครื่องทำงานจะมีการดึงความชื้นและดึงดูดฝนให้ตกลงมารอบรัศมีของเครื่อง
พระอาจารย์รัตน์ กล่าวถึงการเกิดแรงดึงดูดอันมหาศาลว่า เพจราะระบบการทำงานดังกล่าว เกิดจากหลังงานจากวัตถุ 80% เกิดจากพลังจิตอีก 20% และพลังงานนั้นเกิดจาก หินรูปพีระมิด ที่เป็นองค์ประกอบสำคัญของเครื่องดึงเมฆ เนื่องจากทำจากแร่ชนิดหนึ่งที่ถูก ค้นพบในถ้ำแห่งหนึ่งใน อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน ผลงานดังกล่าวได้ดัดแปลงมาจากเครื่องใช้ลดมลพิษในอากาศ ที่เคยคิดค้นเมื่อปี 2548 มีลักการทำงานคล้ายๆกัน ซึ่งตอนนั้นหลังเป็นข่าวออกไป ก็มีฝรั่งมาขอไปจดสิทธิบัตร แต่อาตมาไม่ให้ไปเพราะอาตมาไม่ได้ทำในเชิงพาณิชย์ ทำแล้วแจกให้ฟรีๆเท่านั้น
เจ้าอาวาสวัดดอยเกิ้ง กล่าวอีกว่า เคยมีนักวิชาการทั้ง นาซ่า จากสหรัฐอเมริกา และจากประเทศอื่นมาดูจำนวนมาก ร่วมทั้งอดีต รมว.กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สมัย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรเป็นนายกก็มาดูด้วยเช่นกัน แต่พวกเขาเหล่านั้นก็มาดูก็ดูเฉยๆ เพราะอาตมาก็ชี้แจงว่าอาตมาค้นพบได้วิธีการอย่างนี้ ถึงแม้ว่าจะมีไม่หลักทางวิชาการมารองรับ ก็ตาม เพราะจะเอาวิชาการมารองรับได้ เพราะสิ่งที่อาตมาค้นพบพบเป็นเพียงสิ่งแรก อาจจะมีค้นไม่เชื่อ แต่ก็พร้อมที่ท้าให้มีการพิสูจน์
พระอาจารย์รัตน์ กล่าวด้วยว่า หากคนอื่นนำมาลอกเลียนแบบ อาจทำได้เหมือนแต่คงไม่สามรถให้เครื่องทำงานเหมือนอาตมาได้ ตอนนี้ทางอาตมาก็อยากจะเผยแพร่สิ่อที่ค้นพบ เพื่อช่วยเหลือความทุกข์ของประชาชนในเรื่องฝนแล้ง หากหน่วยงานราชการ หรือว่าสถาบัน องค์กรใดๆต้องการนำไปทำต่อยอดแต่ไม่ใช่ทำเพื่อการค้า ก็สามารถมาคุยกันได้
ขณะที่พระอาจารย์รัตน์ กำลังชี้แจงกำลังผู้สื่อข่าวอยู่นั้นปรากฎว่า เหนือท้องฟ้าสที่สำนักสงฆ์เมฆเริ่มทะยอยมาปกคลุม และครึ้มไปหมด
<LABEL>ไทยรัฐออนไลน์</LABEL>
<SMALL>วันพุธที่ 16 มิถุนายน พ.ศ.2553</SMALL>
หลวงพ่อเมืองสามหมอก คิดเครื่องดึงดูดเมฆฝน - ข่าวไทยรัฐออนไลน์
หลวงพ่อเมืองสามหมอก-คิดเครื่องดึงดูดเมฆฝน
ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย NoOTa, 16 มิถุนายน 2010.
หน้า 1 ของ 4
-
-
สาธุ หากเป็นดังที่กล่าวมาจริงแล้วก็นับว่าเป็นข่าวดีที่สุด ขออนุโมทนาด้วยความเคารพ สาธุ
-
นี่มัน... HAARP เมืองไทยนี่นา....
-
ยุคพลังงานใหม่
วิทยาศาสตร์อ งงไหมเนี่ย -
ต้องศึกษาดู
-
สาธุ สาธุ สาธุ ขอให้สำเร็จประโยชน์ทุกประการเทอญ อนุโมทนาด้วยค่ะ
-
ตอนนี้ก็ใช้อยู่ที่บ้านเครื่องหนึ่ง เป็นเครื่องสร้างสนามแม่เหล็กเทียม ดีเชียวล่ะ
ทำให้ลมหายใจละเอียดขึ้น ลึกขึ้น ความคิดฟุ้งซ่านก็จะถูกแรงดึงเข้าไปสู่เครื่องเข้าไปสู่น้ำได้เร็วกว่าน้ำธรรมดามาก ๆ สนามแม่เหล็กก็จะถูกสร้างเทียมขึ้นมา
แต่ช่วงหลังรู้สึกว่าเครื่องประสิทธิภาพลดลงไม่รู้เป็นเพราะอะไรเหมือนก้ัน -
"ขออนุโมทนาสาธุครับ"
-
อนุโมทนา สาธุ
รัฐบาล น่าจะมีงบ ให้ท่านทำสัก 1000 เครื่อง นะ เมืองไทยจะได้ไม่ขาดน้ำ -
จำได้ว่าเคยมีรายการทีวีไปถ่าย ปรากฏว่า มีลมพัดแรงและความชื้นสัมพันธ์ในอากาศเพิ่มขึ้น
ถึงไม่ทำเชิงพาณิชย์ก็ึิดว่าควรจดลิขสิทธิ์ไว้กันคนขโมยผลงาน -
อนุโมธนา ครับ
-
สาธุ หากเป็นดังที่กล่าวมาจริงแล้วก็นับว่าเป็นข่าวดีที่สุด ขออนุโมทนาด้วยความเคารพ สาธุ
-
อนุโมทนาด้วยครับ ถ้าทำได้จริง ต่อจากนี้ไปคงจะไม่ต้องทรมานแมวด้วยการแห่นางแมวแล้วสาดน้ำแมวอีกต่อไป หุหุ ...ทำน้องแมวเหมียวตกงาน
-
สุดยอดเลยครับ พลังงานใหม่ อนุโมทนากับหลวงพ่อครับ อยากสนับสนุนงบหลวงพ่อในการทำแจกจังครับ:cool:
-
:boo:ดีเดียวขอกรอบละนะ
-
ปัญญาสมาธิ มีอะไรที่เรายังไม่รู้อีกนานัปประการ อนุโมทนา สาธุ ครับ
-
ข่าวปี2008
พระอาจารย์รัตน์ รัตนญาโณ เจ้าอาวาสวัดดอยเกิ้ง อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน โชว์เครื่องพิรามิดที่คิดค้นขึ้นเอง เผยสามารถช่วยลดมลพิษทางอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพ
<!-- BBCode Start --><!-- BBCode End -->
พระไทยประสบความสำเร็จผลิดเครื่องลดมลภาวะโลกร้อนได้สำเร็จ นำไปทดลองใช้ในประเทศฟิลิปปินส์ได้ผลเป็นที่น่าพอใจ มีตัวแทนจากองค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติหรือนาซ่า และดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา วิศวกรผู้ออกแบบระบบลงจอดของยาน อวกาศไวกิ้งเพื่อลงจอดบนดาวอังคาร จะเข้าพบเพื่อศึกษาเครื่องดังกล่าวด้วย
เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 1 สค. 2551 ที่สำนักสงฆ์บูรณรักษ์ธรรม อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ พระอาจารย์รัตน์ รัตนญาโณ เจ้าอาวาสวัดดอยเกิ้ง อำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้เปิดแถลงข่าวกับสื่อมวลชนว่า ได้ประสบความสำเร็จในการคิดค้นและประดิษฐ์เครื่องลดมลภาวะทางอากาศได้สำเร็จ ซึ่งเครื่องดังกล่าวประกอบด้วยพีรามิดรูปทรงสามเหลี่ยม มุม 60 องศา จำนวน 7 ก้อน โดยนำพิรามิดมาจัดเรียงแนวตั้งแล้วพันรอบด้วยสายยาง ก่อนบรรจุน้ำเข้าไป ภายในติดตั้งปั๊มน้ำภายใน เมื่อปั๊มน้ำทำงาน แรงดันจากปั๊มน้ำจะทำให้น้ำหมุนวนรอบพีรามิดเป็นจนเกิดเป็นเกลียว วนจากขวาไปซ้ายตามศูนย์แรงดึงดูดของกาแลกซี่ทางช้างเผือก แรงดึงดูดที่เกิดขึ้นจะถูกผลักขึ้น มาด้านบนของเครื่องและจะทำให้น้ำบริเวณรอบจะวิ่งมาแทนที่ และทำให้อากาศไหลตัวจนเกิดลม ขึ้น และขณะที่เครื่องทำงานจะมีการดึงความชื้นและดึงดูดฝนให้ตกลงมารอบรัศมีของเครื่องในระยะ 5 กิโลเมตร นอกจากนี้ยังจะดึงมลพิษทางอากาศเข้ามาทำลายจนทำให้อากาศสะอาด
สำหรับพีรามิดซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญของเครื่องทำจากแร่ชนิดหนึ่งซึ่งถูกค้นพบในถ้ำแห่งหนึ่งใน อำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน ซึ่งเแร่ดังกล่าวยังไม่มีการต้งชื่อในทางวิทยาศาสตร์ โดยแร่ดังกล่าวจะถูกนำมาผสมกับซีเมนท์และทำเป็นรูปพีรมิดก่อนนำไปจัดเรียงไว้ในเครื่อง
พระอาจารย์รัตน์ กล่าวว่า เครื่องลดมลภาวะที่ทำขึ้น เป็นการผสมผสานกันระหว่าง หลักการทางวิทยาศาสตร์และพลังจิตจากสมาธิ ซึ่งในการทำงานจะใช้พลังงานจากวัตถุ 80 เปอร์เซ็นต์ ส่วนที่เหลืออีก 20 เปอร์เซ็นต์เป็นพลังจิต หากใครผลิตเลียนแบบก็ไม่สามารถใช้ได้เนื่อง จากไม่มีส่วนผสมของพลังจิต โดยเครื่องลดมลภาวะได้ใช้เวลาศึกษาและทดลองมานานกว่า 3 ปี จึงประสบความสำเร็จ โดยในช่วงที่จังหวัดเชียงใหม่ประสบปัญหาสมลพิษทาวงอากาศจนต้องประกาศภาวะฉุกเฉินในปี 2548 ได้นำเครื่องลดมลภาวะไปติดตั้งบริเวณแจ่งศรีภูมิ อำเภอเมืองเชียงใหม่ และปรากฏว่าทำให้อากาศบริเวณดังกล่าวมีค่ามลพิษน้อยกว่าจุดอื่นอย่างเห็นได้ชัด อย่างไรก็ดีเครื่องที่คิดค้นขึ้นมา ไม่คิดจะทำขายเชิงพาณิชย์ แต่ต้องการช่วยเหลือผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนอย่างแท้จริง โดยขณะนี้ได้ผลิตเครื่องได้ทั้งหมด 9 เครื่อง หากในพื้นที่ใดที่ประสบปัญหาภัยแล้งสามารถมายืมเครื่องไปใช้ฟรี
พระอาจารย์รัตน์ กล่าวด้วยว่า ต้นปีที่ผ่านมา ได้มีบริษัทเอกชนจากประเทศฟิลิปินส์ได้ยืมเครื่องไปใช้ ปรากฏว่าสามารถลดมลพิษได้กว่าร้อยละ 80 และบริษัทดัง กล่าวได้พยายามขอจดสิทธิบัตรแต่เราไม่ยอมเพราะผิดสัตถุประสงค์ อย่างไรก็ตามขณะนี้เครื่องลดมลภาวะได้รับความสนใจจากนักวิทยาศาตร์เป็นอย่างมาก โดยก่อนหน้านี้ได้มีเจ้าหน้าที่จากองค์การสหประชาชาติเดินทางมาทดลองและศึกษาถึง 2 ครั้ง ซึ่งในวันที่ 6 สิงหาคมนี้ จะมีทีมแพทย์ จากประเทศเยอรมันเข้ามาศึกษา จากนั้นในวันที่ 9 สิงหาคม จะมีตัวแทนจากองค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติหรือนาซ่า เข้าพบนอกจากนี้ในวันที่ 20 สิงหาคมดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา วิศวกรผู้ออกแบบระบบลงจอดของยาน อวกาศไวกิ้งเพื่อลงจอดบนดาวอังคาร จะเข้าพบเพื่อศึกษาเครื่องดังกล่าวด้วยเช่นกัน
ข่าวโดย : เชียงใหม่นิวส์
แล้วผลพิสูจน์เป็นอย่างไรบ้างครับ ความก้าวหน้า หรือคืบหน้าไปถึงไหนแล้วเนี่ย ข้อมูลทำไมมันน้อยมาก
ทั้งๆที่เรื่องนี้ น่าจะสำคัญมาก เพราะน่าจะแจ๋วกว่า haarp ด้วยซ้ำราคาก็แสนถูก
ถ้าเป็นต่างประเทศถ้าใช้งานได้ดีจริงคงมีการผลิตนำมาใช้กันแล้ว บ้านเราไม้ล้างป่าช้าอันละล้านยังซื้อยกเข่งมาใช้
เพราะเครื่องมือชนิดนี้มีคุณค่ามีประโยชน์ ต่อโลกผลิตยิ่งเยอะน่าจะยิ่งดีมิใช่หรือ
ความคิดเรื่องสิทธิ์บัตรนั่นมันเรื่องผลกำไร เรื่องของการเห็นแก่ตัว
ถ้ามันดีจริงใช้ใด้จริง น่าจะสร้างแจกไปทั่วโลกซะด้วยซ้ำ ไม่ใช่มัวห่วงสิทธิบัตร (หัวการค้าจริงๆ)
หรือถ้ากลัวอากาศในโลกมันจะดีขึ้นก็ทนดมควันกันต่อไป
เก็บเงินไว้รักษาเมร็งปอดให้ลูกหลานเราดีกว่างั้นสิ -
เมืองไทยก็มีเครื่อง haarp เหมือนกันนี้หว่า หุหุ
อนุโมทนา ครับ -
เคยมีนักวิชาการทั้ง นาซ่า จากสหรัฐอเมริกา และจากประเทศอื่นมาดูจำนวนมาก ร่วมทั้งอดีต รมว.กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สมัย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรเป็นนายกก็มาดูด้วยเช่นกัน แต่พวกเขาเหล่านั้นก็มาดูก็ดูเฉยๆ
ฝรั่งคิดรวบจดสิทธิ์บัตรเป็นของตัว แต่คนไทยตามีไว้ดูเฉย ๆ หูมีไว้ฟังเฉย ๆ ต่อให้มีนักวิชาการรับรองแคไหนก็ช่างไม่ได้รับการสนับสนุน ยกเว้นถ้านายทุนทำจะใช้งานได้จริงหรือไม่ ผู้บริหารของประเทศก็ให้การสนับสนุนอย่างดี เหมือนเครื่องตรวจหาวัตถุระเบิด นักเรียนอาชีวะไทยก็ทำได้ แต่ก็ไม่ให้การสนับสนุนหัวสมองคนไทยหรือเด็กไทย เสียดายปราชญ์เดินดินของไทยจริง ๆ -
ได้จริงก็ดีเลย แต่ น่าจัจดลิขสิทธิ ของไทย เดียวต่างชาติมาเอาไปอีก นะ
หน้า 1 ของ 4