หลวงพ่อเมืองสามหมอก-คิดเครื่องดึงดูดเมฆฝน

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย NoOTa, 16 มิถุนายน 2010.

  1. โอมศรา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    433
    ค่าพลัง:
    +3,688
    หลวงพ่อท่านชื่อ

    พระครูอนุสนธิ์ประชาทร

    ครับ

    หลวงพ่อท่านได้คิดค้นสิ่งแปลกใหม่หลาย ๆ อย่างครับ เช่น

    สมาธิหมุน
     
  2. ขม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    370
    ค่าพลัง:
    +1,521
    สุดยอดเลยครับพระอาจารย์ อุดรบ้านผมแล้งครับ(ช่วงนี้ ฝนตกอาทิตย์ละครั้ง สองครั้ง)
    อำเภอโนนสะอาด ที่ผมอยู่ไม่มีน้ำปะปาใช้เกือบ 2 เดือนแล้วครับ
    อยากได้ซักเครื่องจริงๆ
    ขอบคุณนะครับที่นำข้อมูลดีๆมาฝากสมาชิก
     
  3. ิbannawat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    37
    ค่าพลัง:
    +104
    สาธุครับหลวงพ่อ

    ลองไปหาอ่านวิธีทางบรรลุธรรมของท่านก็ไม่ธรรมดาแล้วครับ
    อนุโมทนาสาธุครับ
     
  4. toyhonda เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    542
    ค่าพลัง:
    +1,782
    :cool:ขอกราบอนุโมทนา แทนชาวบ้านที่ต้องเผชิญกับภัยแล้งด้วยค่ะ ถ้าเครื่องนี้มีประสิทธิภาพดังกล่าวจริงจะเป็นคุณประโยชน์ต่อส่วนรวมมหาศาลเลยค่ะ สาธุ..สาธุ..สาธุ
     
  5. natthapatpun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,124
    ค่าพลัง:
    +25,214
    อนุโมทนาสาธุค่ะ
    เหมือนจะมีอะไรดลใจให้ได้มาเจอ
    เพราะกำลังหาที่ตั้งวัดสาขาในเชียงใหม่อยู่พอดี
    อนุโมทนาสาธุกับเจ้าของกระทู้ที่นำมาเผยแพร่ด้วยค่ะ
    ขอให้ท่านเจริญในธรรมยิ่ง ๆ ขึ้นไป
     
  6. pmntr เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    631
    ค่าพลัง:
    +2,244
    แค่จิตเมตตา ที่กรุณาสงเคราะห์ก็ดีแล้ว
     
  7. กุญแจไขปริศนา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มกราคม 2009
    โพสต์:
    903
    ค่าพลัง:
    +979
    อนุโมทนาครับ
    ที่เหลือก็พวกที่มีอิทธิพลนั่นแหละที่จะยอมให้งานพวกนี้ออกสู่โลกกว้างหรือไม่
     
  8. boriphat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มกราคม 2006
    โพสต์:
    542
    ค่าพลัง:
    +2,124
    นักวิชาการทั้งหลาย
    น่าจะมาช่วยกันระดมความคิด
    ให้มีออกมามีประโยชน์แนวนี้บ้างก็ดีนะครับ
     
  9. pangbualun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 เมษายน 2010
    โพสต์:
    140
    ค่าพลัง:
    +285
    เครื่องนี้เกิดจากพลังจิต20%และแร่ศักดิ์สิทธิ์ในถ้ำอีกจำนวนนึ่ง ต่างชาติเอาไปก็ไม่น่าจะใช้ได้ ถ้าเกิดจากวัตถุอย่างเดียวก็น่าห่วงเหมือนกัน..
     
  10. ธนพา Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    27
    ค่าพลัง:
    +53
    อนุโมทนา สาธุครับ
    ผมคิดว่ารัฐน่าจะสบับสนุนผลงานชิ้นนี้
    หรืออาจทดลองทำเครื่องนี้ให้ใหญ่ขึ้นแล้วลองเปิดการทำงาน
    น่าจะได้ผลเป็นที่น่าพอใจ ขนาดต่างชาติเค้ายังสนใจ
    เราคนไทย ผลงานคนไทยทำไมไม่สนับสนุนกัน({)
     
  11. tumkuk เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    586
    ค่าพลัง:
    +1,851
    จิตทำอะไรได้มากกว่าที่คิด...
     
  12. chermelot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กันยายน 2009
    โพสต์:
    121
    ค่าพลัง:
    +464
    ขออนุโมทนากับหลวงพ่อค่ะ

    เมืองไทยมีอะไรดีๆหลายอย่าง แต่ทำไมคนบ้านเราถึงไม่ให้ความสนใจ ไปสนใจแต่พวกมะกัน
     
  13. mib8gdviNz เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    1,009
    ค่าพลัง:
    +1,524
    อนุโมทนาครับ
    นี่แหละครับ
    อุปกรณ์ วิทยาศาสตร์+พลัังจิต ของจริง!!
     
  14. EakChutidet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    199
    ค่าพลัง:
    +856
    ขออนุโมทนา ขอความเจริญในธรรมจงบังเกิดแก่ทุกท่านทุกรูปทุกนาม หากการกระทำใดๆ ของข้าพเจ้าล่วงเกินท่านทั้งหลายไม่ว่าจะเป็นวจีกรรม,มโนกรรม ข้าพเจ้าขออโหสิกรรมมา ณ ที่นี้
     
  15. huten เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    2,808
    ค่าพลัง:
    +15,229
    อนุโมทนา ค่ะหลวงพ่อ เป็นบุญอันยิ่งใหญ่ต่อมวลมนุษย์โชคดีมากสำหรับคนไทย
    ที่มีพระนักประดิษฐ์
     
  16. ooghost เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2010
    โพสต์:
    195
    ค่าพลัง:
    +119
    อนุโมทนา ขอรับ

    ใกล้เข้สู่ยุคใหม่ของโลกเต็มทีแล้วสินะ เริ่มมีเกริ่น ๆ มาบ้างแล้ว

    อยากให้ทุก ๆ ท่านหันมาหมั่นทำความดีกันเยอะ ๆ นะครับ สาธุ :VO
     
  17. ratercracker เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    484
    ค่าพลัง:
    +729
    โปรดใช้วิจารณญานในการชม


    แร่ที่ได้มาจากในถ้ำนั้น เรียกว่า แร่ มโนธาติดำ เป็นแร่ชนิดเดียวกับที่ถูกฝังอยู่ใต้พีรามิดที่อียิป เพื่อต้องการกำเนิดพลังงานมหาศาล เพื่อวัตถุประสงค์บางอย่าง
    พระอาจารย์รัตน์ท่ายเคยบอกว่าเพื่อกำเนิดพลังงานเส้นแสงซึ่งถูกใช้ในยุคแอตแลนติส จึงจมดิ่งสู่ใต้ทะเล แต่ถ้าตามแนวคิดของผมเพื่อช่วยเพิ่มพลังงานโน้มถ่วงของจานบิน (ufo)ตอนจะทะยานขึ้นฟ้ามากกว่านะ
     
  18. ratercracker เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    484
    ค่าพลัง:
    +729
  19. ratercracker เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    484
    ค่าพลัง:
    +729
    แนวคิดของผม เกี่ยวกับ ufo และ พีรามิด (คัดลอกมาจากกระทู้เก่าขี่เกียจพิม)

    โปรดใช้วิจารณญานในการอ่าน

    แรงโน้มถ่วงของโลก เกิดจากการหมุนรอบตัวเอง โดยมี มวลและความเร็วในการหมุนรอบตัวเองเป็นปัจจัยหลัก โดยโลกมีมวลประมาณ 6000 ล้านล้านล้าน ตัน มีความเร็วการหมุนรอบตัวเอง ประมาณ 465 เมตรต่อวินาที จึงเกิดแรงโน้มถ่วงขึ้น ที่พื้นผิวโลก 9.8 นิวตัน

    อันที่จริงแล้วแรงโน้มถ่วงของโลกผกผันโดยตรงกับแรงโน้มถ่วงของดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ด้วยแต่ไม่ขอพูดถึงในที่นี้

    สมมุตนะสมมุติ

    หลักการก็คือว่าผมต้องการให้ยานสร้างแรงโน้มถ่วงให้ได้ 9.8 นิวตัน เท่ากับแรงโน้มถ่วงของโลก ซึ่งจะให้ยานหมุนตามเข็มนาฬกา เพราะโลกหมุนทวนเข็มนาฬิกา โดยตัวของยานแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ แกนกลางที่เป็นห้องนักบิน และส่วนตัวของยานที่มีลักษณะคล้ายจานบินประกบอยู่รอบแกนกลาง โดยใช้สนามแม่เหล็กในการเชื่อมต่อทั้ง 2ส่วนนี้ เพราะความเร็วในการหมุนของยานนั้นเร็วมากหากใช้ลูกปืนคงเละเป็นผงแน่ ฉะนั้นจึงต้องใช้แกนอากาศ จึงไม่เกิดความร้อนจากแรงเสียดทาน หลักการนี้เลียนแบบมาจากรถไฟฟ้าของญี่ปุ่นที่ ล้อรถนั้นไม่ได้แตะรางรถไฟฟ้าแต่ลอยอยู่ เพราะใช้ประโยชน์จากสนามแม่เหล็ก ทำให้รถลอยอยู่ได้และคลื่อนที่ด้วยความเร็วโดยไม่หลุดราง

    สมมุตรว่าเราสร้างยานที่มีมวล 6 ล้าน ล้าน ตัน เส้นผ่าศูนกลาง 1 กิโลเมตร เพราะตัวของยานทำจากโลหะกับแท่งแม่เหล็กเป็นหลัก เราต้องทำให้ยานหมุนด้วยความเร็ว 465 ล้านกิโลเมตร ต่อวินาที จึงจะสามารถสร้างสนามโน้มถ่วงได้ เท่ากับสนามโน้มถ่วงของโลกได้ทำให้รอบๆยานอยู่ในสภาวะสุญญากาศได้ แต่ก็นั่นแหละเราไม่สามารถทำให้ยานหมุนเร็วกว่าแสง 3 แสน กิโลเมตร/วินาที ได้ เพราะฉะนั้นเราจะต้องมีตัวช่วยในการสร้างสนามโน้มถ่วงของยาน เพื่อให้ยานสามารถหนีแรงดึงดูดจากพื้นผิวโลกไปได้ในช่วงต้น


    อากาศยานและแหล่งกำเนิดพลังงาน

    ปัญหาอีกอย่างก็คือไม่มีพื้นที่ใดบนพืนผิวโลกที่รองรับน้ำหนักของยานลำนี้ได้ แม้แต่ท่าอากาศยานที่แข็งแรงที่สุดในขณะนี้ แต่มีอยู่ที่นึงซึ่งตั้งตระหง่านอยู่กลางทะเลทราย ที่นักวิทยาศาสต์ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าสร้างมาเพื่อจุดประสงอันใด ซึ่งสร้างจากหินสังเคราะห์ที่มีความแข็งแรงมากกว่าซีเมนในปัจจุบันมาก มันคือมหาพีรามิดคูฟู แห่งเมืองกีซานั่นเอง สร้างจากหิน 2.6 ล้านก้อน น้ำหนักของหินมีตั้งแต่ 2 ตัน ถึง 70 ตัน น้ำหนักรวมประมาณ 6 ล้านตัน ซึ่งผมคาดว่าน่าจะรับน้ำหนักของยานที่จะสร้างได้ การขับเคลื่อนของยานนั้น เราไม่สามารถทำให้รอบๆยานเกิดภาวะสุญญากาศได้ด้วยการหมุนเพียงอย่างเดียว ฉะนั้นแค่ ทำให้ยานเบาขึ้นจนเกือบไม่มีน้ำหนักเป็นใช้ได้ จากนั้นเราก็ใช้พลังงานจากพีรามิดเพื่อช่วยพลังงานโน้มถ่วงให้กับยาน เพื่อให้เกิดภาวะสุญญากาศ เมื่อเราก็สามรถหนีจากพื้นผิวโลกที่มีสนามแรงโน้มถ่วงเข้มที่สุด พอขึ้นไปถึงชั้นบรรยากาศที่มีสนามโน้มถ่วงน้อยๆ ทีนี้ทุกอย่างก็ง่ายละ

    พลังงานไฟฟ้านับล้านโวล ที่ได้จากการหมุนรอบตัวเองตัดไดนาโมขนาดยักที่แกนกลางของยานนั้น สามารถนำมาใช้เป็นพลังงานขับเคลื่อนของยาน เมื่อพุ่งทะยานขึ้นบนฟ้าแล้ว

    หมายเหตุ แรงโน้มถ่วงของพื้นที่ใดๆในอวกาศก็แล้วแต่ เกิดจากแรงเหวี่ยงจากดวงดาวนั้นๆ ทำให้อวกาศบริเวณรอบๆยืดหรือหดในลักษณะเล้นโค้งซึ่งขึ้นอยู่กับมวลและความเร็วของดาวดวงนั้น ซึ่งในความเป็นจริงนั้นเรื่องของสนามโน้มถ่วงนี้มันมีความสัมพันมาตั้งแต่ แรงโน้มถ่วงของหลุมดำที่ขับเคลื่อนกาแลกซี่ ครอบคลุมมายังระบบสุริยะของเรา และแรงโน้มถ่วงของดวงอาทิตย์ก็ครอบคลุมดาวเคราะห์ทั้ง 9 ดวง รวมทั้งโลกของเรา และแรงโน้มถ่วงของดวงจันทร์ก็มีผลต่อโลกด้วย เป็นต้น<!-- google_ad_section_end -->
     
  20. ratercracker เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    484
    ค่าพลัง:
    +729
    คำกล่าวของพระอาจารย์รัตน์ ปี 2547

    บนดาวอังคารจะมีวัตถุรูปทรงสามเหลี่ยมพีระมิดอยู่มากมายเพื่อใช้ประโยชน์ในการสะเทินพลังงานความร้อนและแสงจากดวงอาทิตย์ และยิ่งไปกว่านั้นพีระมิดยังเป็นอุปกรณ์สำคัญที่ช่วยมนการเดินทางท่องจักรวาลหรือเดินทางไปยังดาวดวงอื่นๆ โดยเฉพาะดาวเคราะห์โลกของเรา

    การเดินทางในแต่ละครั้ง สิ่งที่พวกเขาใช้เป็นพาหนะคือสิ่งหรือวัตถุที่พวกเราเคยเห็นและเรียกกันว่า “ยาน” หรือ “จานบิน” อาจจะมีหลายๆรูปแบบ ก่อนการเดินทางพวกเขาต้องตรวจสอบหรือเช็คก่อนว่าจะใช้ “เส้นแสง” เส้นใด เดินทางไปยังจุดหมาย หลังจากนั้นผู้ที่จะเดินทางก็จะเข้าสู่กระบวนการ โดยเริ่มจากการนำยานพร้อมลูกเรือที่จะเดินทางเข้าไปยังพีระมิดใหญ่ เพื่อใช้พลังจิตเปลี่ยนสภาพของยานพาหนะจากวัตถุให้เป็นพลังงานแสงและพุ่งทะลุออกไปทางยอดแหลมของพีระมิด เข้าสู่เส้นทางของ “เส้นแสง” ที่ได้เลือกไว้แล้ว และเมื่อเข้าสู่เขตบรรยากาศของโลกแล้ว ถ้าหากพวกเขาอยากปรากฏตัวต่อสายตาของชาวโลก พวกเขาจะใช้พลังจิตเปลี่ยนสภาพของยานพาหนะจากพลังงานแสงให้เป็นวัตถุ
    ดังที่พวกเราบางคนเคยมีโอกาสได้พบเห็นมาบ้างแล้วในระยะที่ไกลพอสมควร เนื่องจากถ้ายานหรือจานบินปรากฏให้เห็นในระยะสายตาปกติ อาจจะทำให้เกิดอันตรายต่อนัยน์ตาหรือเซลล์ในร่างกายของมนุษย์โลกได้ เนื่องจากความถี่ของเสียงที่เกิดจาการทำงานของเครื่องยนต์ในยานอยู่ในระดับที่มีความถี่สูงมากเกินกว่าที่ร่างกายของมนุษย์จะรับได้ เราจึงได้เห็นจานบิน หรือฝูงจานบินในระยะที่ไกลๆ เท่านั้น

    แนวความคิดและความเชื่อในพลังของพีระมิดในยุค 5,000 ปีของอารยธรรมอียิปต์แห่งลุ่มแม่น้ำไนล์ เป็นความเชื่อในสิ่งชีวิตหลังความตายว่า พวกเขาจะได้ไปอยู่ในเมืองที่มีความศิวิไลซ์มากที่สุด เส้นทางที่จะพาพวกเขาไป คือ โพรงพลังงานที่เป็นศูนย์กลางของโลกตั้งอยู่ภายในพีระมิดองค์กลาง ฉะนั้นพวกเขาจึงนำศพและสมบัติไปเก็บไว้ในห้องโถงพีระมิดให้ปลอดจากกการทำลายของพลังงานแม่เหล็กโลก ศพจึงไม่เน่าเปื่อยและรอวันที่จะมีชีวิตคืนกลับมาใหม่อีกครั้ง นอกจากนั้นพีระมิดทั้ง 3 องค์ได้ถูกสร้างเพิ่มเติมจนกลายเป็นมหาพีระมิดที่มีขนาดแตกต่างกันเป็นองค์ใหญ่ องค์กลาง และองค์เล็ก ตามลำดับ ดังที่ปรากฎอยู่ในปัจจุบันนี้


    องค์สฟิงซ์และพีระมิดทั้ง 3 องค์มีความสัมพันธ์ มีความหมายซึ่งกันและกันเป็นอย่างยิ่ง ลึกลงไปใต้พื้นดินของเท้าคู่หน้าข้างขวาขององค์สฟิงซ์ จะเป็นแร่มโนธาตุสีดำชนิดเดียวกับที่เป็นแผ่นหินที่ใหญ่สีดำที่ปิดทับส่วนที่เป็นโพรงพลังงานภายในพีระมิดองค์กลางซึ่งกลไกของการทำงานจะเกิดขึ้นเมื่อครบวาระ 10,000 ปี และผู้ทรงพลังจิตให้กลับมาเกิดใหม่ เพื่อทำหน้าที่ตามสัจจะที่เคยให้ไว้ โดยการใช้พลังจิตดึงกระแสลมปราณจากดาวอังคารมาที่จมูกของสฟิงซ์เท่ากับเป็นการปลุกหรือสร้างความมีชีวิตใหม่ให้แก่องค์สฟิงซ์พลังกระแสลมปราณจะพุ่งลงไปหาแร่มโนธาตุสีดำ ที่อยู่ใต้เท้าขวาข้างหน้า พลังมโนธาตุและพลังกระแสลมปราณจะพุ่งต่อไปยังโพรงพลังงานศูนย์กลางของโลกซึ่งอยู่ใต้พีระมิดองค์กลาง และดันแผ่นหินสีดำเผยออก และ “ลม” หรือพลังงานยังถูกดันต่อไปถึงศูนย์กลางของพีระมิดอีก 2 องค์ จนในที่สุด “ลม” หรือ “พลังงาน” นั้นถูกดันไปจนถึงอาณาจักรแอตแลนตีส ที่ฝังตัวนิ่งสงบอยู่ใต้มหาสมุทรแอตแลนติก
     

แชร์หน้านี้