รอดพ้นภัยพิบัติ "เร่งลัดบรรลุโสดาบัน" หลักสูตร 30 ชั่วโมง (ชั่วโมงที่ 11)

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย karan20, 16 ตุลาคม 2011.

  1. karan20

    karan20 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2010
    โพสต์:
    1,297
    ค่าพลัง:
    +2,379
    รอดพ้นภัยพิบัติ "เร่งลัดบรรลุพระโสดาบัน"
    หลักสูตรออนไลน์ 30 ชั่วโมง
    (ชั่วโมงที่ 11)

    เกริ่นนำ

    รอดพ้นภัยพิบัติ "เร่งลัดบรรลุพระโสดาบัน" ดำเนินมาถึงบทที่ 11
    หลังจากผ่านมา 10 บท ก็ถึงเวลาที่ควรจะประเมินกันเสียที

    ลองประเมินตัวเราเองว่า รู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงใด ๆ บ้างหรือยัง วัดกันง่าย ๆ คือเรื่องศีล
    ยังไม่ต้องพูดถึงว่ารักษาได้บริสุทธิ์หรือไม่ หรือรักษาได้ต่อเนื่องหรือไม่
    เอากันแค่ว่ามีใจที่จะรักษาศีลหรือยัง
    เรารักพระพุทธเจ้าขนาดว่าเกรงใจท่านที่เรายังไม่ได้ตั้งใจรักษาศีลหรือยัง

    อยากให้เราทบทวนตัวเองคือ เราต้องการบรรลุพระโสดาบันจริงหรือเปล่า
    ถ้าตั้งใจจริง เราได้ทำตามคำแนะนำต่าง ๆ ครบถ้วนหรือไม่
    เช่น ทำการบ้านหรือไม่ โดยเฉพาะการฟังไฟล์เสียง MP3 และการตอบคำถามต่างๆ

    การอ่านแบบ " ไหนดูหน่อยสิ " คงไม่สามารถทำให้บรรลุพระโสดาบันได้


    ในยุคภัยพิบัตินี้แค่การบริจาคทานไม่เพียงพอนะครับ
    สิ่งสำคัญคือการเคารพพระรัตนตรัยอย่างแท้จริงและมีศีลที่บริืสุทธิ์เท่านั้น
    ครูบาอาจารย์ท่านว่าอย่างนั้น ขอเชิญทุกท่านพิจารณาและตัดสินใจเอาเอง

    ก่อนเข้าสู่การเรียนรู้ในชั่วโมงนี้ ขอย้ำว่าต้องทำการบ้านของทุกบทนะครับ.



    สรุปทบทวนจากชั่วโมงที่ 10

    การจะเป็นพระโสดาบัน คือมีศีล 5 บริสุทธิ์นั้น
    พระโสดาบันรักษาศีลด้วยเพราะรักและเคารพในพระพุทธเจ้า พระธรรม พระอริยสงฆ์
    พระโสดาบันรักษาศีลโดยใช้พรหมวิหาร
    คือรักษาศีลเพราะมีความเมตตากรุณาต่อตัวเองและสัตว์ทั้งหลาย
    เมื่อรักษาศีลเพราะมีจิตเมตตากรุณาจึงไม่ปราถนาจะเบียดเบียนใคร ๆ
    ยิ่งเป็นสัตว์เล็กสัตว์น้อย ยิ่งเมตตาเพราะเห็นว่า
    ที่เขาต้องมาเสวยกรรมเป็นสัตว์เดรัจฉานแบบนี้ก็มีทุกข์มากอยู่แล้ว
    สัตว์เหล่า ๆ นี้ ในอดีตก็เป็นมนุษย์มาก่อนแต่ไม่มีศีล
    สัตว์เหล่า ๆ นี้บางทีอาจจะเคยเป็นญาติ เป็นพ่อแม่หรือคนรักของเราก็ได้

    หากเจริญเมตตาแบบนี้จนจิตเริ่มชิน ศีลจะเริ่มค่อย ๆ เป็นฝ่ายรักษาเราแทน
    จิตจึงรู้สึกเบาเพราะศีลไม่ได้เป็นภาระ
    แต่กลายเป็นเหมือนเสื้อชูชีพคอยประคับประคองใจและกายในยุคแห่งภัยพิบัติ

    การรักษาศีลนั้น ต้องประกอบด้วยเมตตาและปัญญา
    การยอมรักษาศีล แท้จริงคือการยอมให้ศีลรักษาเรา



    (ชั่วโมงที่ 11)

    เพื่อนทาง Facebook ของเราคนหนึ่งบอก แต่เดิมเข้าใจว่า
    การเข้าถึงอริยบุคคล ชั้นโสดาบันขึ้นไปถึงพระอรห<wbr>ันต์จะต้องได้ด้วยการภาวนา (ภาวนามยปัญญา)
    ไม่คิดว่าการฟังกับอ่านจะสา<wbr>มารถเข้าถึงภาวะโสดาบันขึ้น<wbr>ไปได้
    แต่ได้ลองอ่านดูสิบตอน สร้างกำลังใจได้อย่างมากทีเ<wbr>ดียว

    ผู้เขียนได้ตอบว่า ถ้าอ่านและฟังแล้วคิดตาม ใช้ปัญญาพิจารณา จะเข้าถึงพระโสดาบันได้ไม่ยาก<wbr>
    ประกอบกับพระโสดาบันนั้นใช้ปัญญาเล็ก<wbr>น้อย สมาธิเล็กน้อย แต่มั่นคงในศีล หนักแน่นในพระรัตนตรัย
    ไม่ลืมว่าเราต้องตาย รักพระนิพพาน เพียงเท่านี้พระโสดาบันจึงเป็นของไม่ยาก

    ผู้เขียนพยายามไม่ใช้ศัพท์เทคนิค เพื่อไม่ให้การเป็นพระโสดาบันนั้นยากเกินความเป็นจริง
    แต่เพราะอย่างนั้นเองก็อาจมีผู้สงสัยว่ามันจะง่ายขนาดนั้นจริงหรือ
    ศัพท์แสงจึงเป็นสิ่งที่ต้องเพิ่มเข้ามาเท่าที่จำเป็นเพื่อความเข้าใจ การอ้างอิง และเพื่อให้ดูน่าเชื่อถือ

    เพื่อนของเรากล่าวถึงคำว่า ภาวนามยปัญญา เรามาทำความรู้จักคำนี้กัน
    คำว่า ภาวนามยปัญญา ก็หมายถึงการเจริญในวิปัสสนาญาณนั่นเอง
    วิปัสสนาญาณเกิดขึ้นจริง แต่ไม่ได้เกิดขึ้นจากสมาธิความสงบที่หลายคนมีความเข้าใจกัน
    ฐานของวิปัสสนาญาณจะต้องเริ่มจาก สุตมยปัญญา (ปัญญาจากการฟัง รวมการอ่านด้วย)
    เกิดเป็นสัมมาทิฏฐิ ปัญญาความเห็นชอบ อ้างอิง

    สุตตมยปัญญา คือ ปัญญาสำเร็จจากการฟังพระธรรม
    เพราะได้ฟังพระธรรมจึงเข้าใจความเป็นจริง ของนามธรรมและรูปธรรม
    ในบางแห่งกล่าวถึงสุตตมยปัญญาว่า เป็นปัญญาของสาวกทั้งหลาย
    เพราะสาวกฟังพระธรรมจึงเข้าใจเหตุผลและรู้แจ้งอริยสัจจ์ อ้างอิง

    แปลง่าย ๆ ว่า พระพุทธเจ้าท่านตรัสรู้เองโดยไม่ต้องฟังผู้่ใดสอน
    ส่วนพวกเราเป็นสาวก ก็ต้องฟังธรรมที่ท่านสอนแล้วน้อมจิตน้อมใจเข้าพิจารณาจนเกิดปัญญา

    [๘๔๕] อาฬวกยักษ์ทูลถามว่าคนได้ปัญญาอย่างไรหนอ
    พระผู้มีพระภาคตรัสตอบว่า บุคคลเชื่อธรรมของพระอรหันต์ เพื่อบรรลุนิพพาน ฟังอยู่ด้วยดีย่อมได้ปัญญา อ้างอิง

    ดังนั้นเราจึงไม่ควรเห็นการฟังและการอ่านธรรมะแล้วคิดพิจารณาตามนั้นเป็นเรื่องเล็กน้อย

    เพราะการคิดก็คือการวิปัสนา
    หรือกล่าวอีกอย่างได้ว่า การวิปัสสนาก็คือการคิดนั่นเอง อ้างอิง

    หลวงพ่อพระราชพรหมย<wbr>าน หรือหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง ท่านเทศนาว่า
    "...การเจริญวิปัสสนาก็ไม่มีอะ<wbr>ไรยาก
    ความจริงวิปัสสนานี้มีวิธีเจริญ<wbr>ง่ายมาก ง่ายกว่าระดับสมาธิมาก
    คือยกอารมณ์ให้เข้าถึงความเป็นจ<wbr>ริง คล้อยตามความเป็นจริง
    ไม่ฝืนความจริง รับรู้ รับทราบตามกฎของความเป็นจ<wbr>ริงตลอดเวลา
    และไม่พยายามฝ่าฝืนกฎธรรมดาเป็นอัน<wbr>ขาด.."

    "..นักวิปัสสนาที่ยังต้องอาศัย<wbr>เวลาที่สงัด ยังต้องยึดแบบนั้น...
    ท่านว่ายัง<wbr>ไกลต่อมรรคผลมาก นักวิปัสสนาที่เข้าระดับวิปัสสน<wbr>าจริง
    ท่านเอาธรรมชาติที่ปรากฏเฉพาะหน<wbr>้าเป็นเครื่องพิจารณา.."



    เทคนิคอย่างหนึ่งที่ครูบาอาจารย์แนะนำคือ ให้ฟังบ่อย ๆ ฟังแล้วคิดตาม
    โดยเฉพาะให้เลือกคำเทศนาที่ครูบาอาจารย์ท่านตั้งใจบรรยายในเชิงนำให้เราคิดตาม (นำเราวิปัสสนา)
    คำเทศนาหรือคำบรรยายที่ว่านี้จะมีลักษณะฟังง่าย และแจกแจงให้เราเห็นรายละเอียดโดยที่เราเพียงค่อย ๆ คิดตาม
    เช่นถ้าท่านบอกว่า การเกิดเป็นทุกข์ แต่ท่านไม่ลงรายละเอียด แบบนี้เราต้องคิดเอง
    แต่ครูบาอาจารย์บางท่านจะแจกแจง บรรยายพรรณนา เหมือนมีไกด์คอยนำทางความคิดเรา
    ถ้ามีไกด์นำทางแบบนี้ เราก็เดินง่ายขึ้น เร็วขึ้น

    ผู้เขียนจึงย้ำอยู่เสมอว่าต้องฟังไฟล์ MP3 ที่ให้เป็นการบ้าน
    การฟังให้ได้ผล คือควรฟังในที่สงบ ปิดไฟให้มืด เพื่อจำกัดการรับรู้ทางสายตา
    และมีสมาธิอยู่ที่ประสาทหู พร้อม ๆ กับคิดพิจารณาตามไป

    การตอบคำถามที่ว่าประทับใจประโยคใด เป็นเหมือนการสอบว่าเรามีสมาธิกับการฟังมากแค่ไหน
    อันที่จริงอาจจะจำประโยคแบบเป็นคำพูดเป๊ะ ๆ ไม่ได้
    แต่ถ้าตั้งใจฟังจะต้องจับประเด็นได้หรือมีประเด็นที่เราประทับใจ

    ให้ฟังบ่อย ๆ โหลดไฟล์ใส่ในมือถือ
    แล้วเปิดฟังตั้งแต่ก่อนเข้านอน ขณะนอน จนกระทั่งเมื่อตื่นนอนขึ้นมาก็ได้ยินเป็นเสียงแรก
    ในภาวะหลับลึกนั้น เสียงที่ได้ฟังเหมือนช่วยโปรแกรมจิตใต้สำนึก
    เราไม่อาจรู้ได้้เลยว่าเราจะบรรลุเพราะไฟล์ไหนหรือคำพูดประโยคไหน
    เช่นเดียวกับที่เราไม่สามารถบอกได้ว่าเราโตมาจากข้าวเมล็ดไหน


    ไฟล์ MP3 การบ้านของวันนี้ คือเสียงเทศน์ของท่านจิตโต
    ท่านเป็นพระลูกศิษย์ของหลวงพ่อฤาษีวัดท่าซุง
    ดังนั้นเวลาที่หลวงพี่จิตโตกล่าวถึงคำว่า " หลวงพ่อ "
    ขอให้ทราบว่าหมายถึงหลวงพ่อพระราชพรหมยาน หรือหลวงพ่อฤาษีวัดท่าซุง

    ไฟล์ MP3 การบ้านของบทที่ 11 นี้
    เมื่อฟังแล้วท่านจะเข้าใจว่าทำไมการฟังแล้วคิดตามจึงช่วยให้บรรลุธรรมในระดับพระโสดาบันได้อย่างไม่ยากเลย


    สวัสดี.


    - จบชั่วโมงที่ 11 -

    การบ้านของชั่วโมงที่ 11 :
    1. แสดงความคิดเห็น รู้สึกอย่างไรกับบทเรียนวันนี้
    2. ดาวน์โหลดไฟล์ MP3 ที่แนบมานี้ไปฟัง [​IMG] การบ้านบทที่ 11.mp3
    วิธีการฟัง :
    ให้ปิดไฟ หรือนั่งในที่มืดด้วยท่าสบายผ่อนคลาย
    ควรฟังในที่สงบหรือที่อันควรแก่การฟังธรรม
    ฟังอย่างตั้งใจและค่อย ๆ พิจารณาตามไปตลอดการฟัง
    3. จากไฟล์เสียงที่ได้ฟัง ท่านประทับใจหรือชื่นชอบประโยคใดเป็นพิเศษ


    ส่งการบ้านและพูดคุยกันได้ที่นี่
    สำหรับท่านที่ไม่ได้สมัครสมาชิกเว็บพลังจิต เชิญพูดคุยแนะนำกันได้ที่ Facebook กาขาว


    ทบทวนย้อนหลัง
    รอดพ้นภัยพิบัติ "เร่งลัดบรรลุโสดาบัน" หลักสูตร 30 ชั่วโมง (ชั่วโมงที่ 1)
    รอดพ้นภัยพิบัติ "เร่งลัดบรรลุโสดาบัน" หลักสูตร 30 ชั่วโมง (ชั่วโมงที่ 2)
    รอดพ้นภัยพิบัติ "เร่งลัดบรรลุโสดาบัน" หลักสูตร 30 ชั่วโมง (ชั่วโมงที่ 3)
    รอดพ้นภัยพิบัติ "เร่งลัดบรรลุโสดาบัน" หลักสูตร 30 ชั่วโมง (ชั่วโมงที่ 4)
    รอดพ้นภัยพิบัติ "เร่งลัดบรรลุโสดาบัน" หลักสูตร 30 ชั่วโมง (ชั่วโมงที่ 5)
    รอดพ้นภัยพิบัติ "เร่งลัดบรรลุโสดาบัน" หลักสูตร 30 ชั่วโมง (ชั่วโมงที่ 6)
    รอดพ้นภัยพิบัติ "เร่งลัดบรรลุโสดาบัน" หลักสูตร 30 ชั่วโมง (ชั่วโมงที่ 7)
    รอดพ้นภัยพิบัติ "เร่งลัดบรรลุโสดาบัน" หลักสูตร 30 ชั่วโมง (ชั่วโมงที่ 8)
    รอดพ้นภัยพิบัติ "เร่งลัดบรรลุโสดาบัน" หลักสูตร 30 ชั่วโมง (ชั่วโมงที่ 9)
    รอดพ้นภัยพิบัติ "เร่งลัดบรรลุโสดาบัน" หลักสูตร 30 ชั่วโมง (ชั่วโมงที่ 10)
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 พฤศจิกายน 2011
  2. eee

    eee สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    26
    ค่าพลัง:
    +23
    การบ้านของชั่วโมงที่ 11 :
    1. แสดงความคิดเห็น รู้สึกอย่างไรกับบทเรียนวันนี้
    ตอบ รู้สึกพอใจกับการศึกษาธรรมในพุทธศาสนา จากวันนี้ไปก็จะตั้งใจฟังเทศน์ ทำบุญกุศลเพื่อไปถึงซึ่งพระนิพพาน ขอขอบพระคุณท่านผู้เขียน และเรียบเรียง รวมถึงครูบาอาจารย์ เทวดา พรหมทุกองค์ที่ทำให้ได้พบพานทางสว่างค่ะ
    2. ดาวน์โหลดไฟล์ MP3 ที่แนบมานี้ไปฟัง [​IMG] การบ้านบทที่ 11.mp3
    วิธีการฟัง :
    ให้ปิดไฟ หรือนั่งในที่มืดด้วยท่าสบายผ่อนคลาย
    ควรฟังในที่สงบหรือที่อันควรแก่การฟังธรรม
    ฟังอย่างตั้งใจและค่อย ๆ พิจารณาตามไปตลอดการฟัง
    ตอบ ฟังแล้วค่ะ
    3. จากไฟล์เสียงที่ได้ฟัง ท่านประทับใจหรือชื่นชอบประโยคใดเป็นพิเศษ
    ตอบ 3.1ให้พิจารณาทุกข์เฉพาะรเองเดียวให้มันแตกฉานไปเรื่อยๆ จนรู้สึกว่า การเกิดนี่เป็นทุกข์จริงๆ อย่าคิดส่งเดช คิดเหมาไปเองจะไม่ได้อารมณ์ ไม่มีการคิดที่จะละจริงๆ ให้คิดจนรู้สึกว่าการเกิดเป็นทุกข์จริงๆ เราจะไม่กลับมาเกิดอีกแล้ว ตั้งแต่นี้จะไม่ทำชั่วตลอดชีวิต จะรักษาความดีด้วยชีวิตของเรา
    3.2 จุดธูปหรือตั้งจิตอธิษฐานว่า เราเป็นผู้ปรารถนาที่จะได้บรรลุหรือเข้าใจในคำสอนของพระพุทธเจ้า ขอให้ลูกได้บรรลุในชาตินี้เถิด อย่างน้อยที่สุดให้ถึงซึ่งความเป็นพระโสดาบัน อย่าให้ลุกมีความโง่งมงายเหมือนอย่างที่ผ่านมาเลย
     
  3. karan20

    karan20 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2010
    โพสต์:
    1,297
    ค่าพลัง:
    +2,379
  4. magnagiled

    magnagiled เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    596
    ค่าพลัง:
    +1,444
    น้ำเข้าบ้านจนได้ ต้องขนคอมขึ้นบนใช้เน็ตไม่ได้ละ

    พึ่่งเรียนถึง ชม.ที่ 4 เอง ขอ copy ไปฝึกนะครับ

    การบ้านหลังน้ำลดใช้เน็ตได้ จะมาส่งนะครับอาจารย์
     
  5. karan20

    karan20 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2010
    โพสต์:
    1,297
    ค่าพลัง:
    +2,379
    สาธุ สาธุ สาธุ....ธรรมรักษา
     
  6. thitarat

    thitarat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    226
    ค่าพลัง:
    +203
    สวัสดีค่ะ

    ขอส่งการบ้านบทที่ 11 ค่ะ

    ผ่านไป 10 บทแล้ว รู้สึกว่าตัวเองมีความระแวดระวังในการปฏิบัติมากขึ้น มีความไม่ประมาทมากขึ้น จากที่แต่เดิมเคยคิดว่าตัวเองทำดีแล้ว ก็เริ่มรู้สึกว่าดี แต่ยังไม่พอ และยังต้องเรียนรู้เพิ่มอีกมาก

    การเรียน 10 บท ทำให้สามารถละตัวตน ละกิเลสได้บางอย่างที่เกิดขึ้นได้ และทำให้รู้สึกว่าเรากำลังจะเริ่มมาได้ถูกทางแล้ว

    ส่งการบ้านแต่ละข้อค่ะ

    1. บทนี้อ่านแล้วรู้สึกดีใจว่า การเป็นโสดาบันต้องใช้ปัญญา และสมาธิเพียงเล็กน้อย แต่ต้องรักษาศีล แต่ก็รู้สึกว่า ตัวเองไม่ได้ต้องการมีปัญญา และสมาธิเพียงเล็กน้อย ทำให้รู้สึกว่าเราต้องพยายามพัฒนาศีล สมาธิ และปัญญา ไปพร้อมๆกัน

    จากการอ่านทำให้ดิฉันทราบว่า ภาวนามยปัญญาเป็นอย่างไร และทำให้ดิฉันได้เข้าใจเพิ่มเติมว่านักวิปัสสนาที่เข้าถึงระดับวิปัสนาจริงท่านจะเอาธรรมชาติที่ปรากฎเฉพาะหน้าเป็นเครื่องพิจารณา ทำให้รู้ว่าตัวเรานี้ไม่ต้องพิจารณาอะไรไปไกล พิจารณาใกล้ตัวให้รู้ ให้เข้าใจก็พอ (ซึ่งต่างจากการศึกษาในทางโลกเป็นอย่างมาก)

    2. ในการฟังเสียงธรรม ทำให้ดิฉันรู้สึกว่า เราต้องพิจารณาในความทุกข์ รู้ทุกข์ ให้ถึงธรรม รู้ว่าตัวเองทำอะไร และต้องการจะไปไหน อย่างไร ต้องรู้ให้ชัดแจ้งเพิ่มขึ้นจากเดิม ความเข้าใจแบบถ่องแท้เกี่ยวกับทุกข์เป็นสิ่งที่ดิฉันต้องพยายามพิจารณาและปฏิบัติเพิ่มเติม นอกเหนือไปจากความเข้าใจในเรื่องพระรัตนตรัย และความตาย ที่ตัวเองยินดีเข้าใจอย่างถ่องแท้ ทำให้รู้สึกว่า โลกนี้ยังมีอะไรให้เรียนรู้อีกมากในสายธรรม ซึ่งสิ่งที่ต้องเรียนรู้นั้นไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นจากภายนอก หากแต่เป็นเรื่องภายในใจที่เราต้องเรียนรู้ เข้าใจ และรู้เท่าทันความทุกข์ และนิวรณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นในใจเรา ซึ่งสิ่งต่างๆเหล่านี้จำต้องอาศัยเวลา และต้องฝึกฝนให้มีภาวนามยปัญญาเพื่อให้เราเข้าใจได้ชัดแจ้ง

    ขอบพระคุณและอนุโมทนสาธุการนะคะ

    ฐิตารัตน์
     
  7. diya

    diya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มกราคม 2010
    โพสต์:
    1,950
    ค่าพลัง:
    +13,031
    ส่งการบ้านชั่วโมงที่ 11 ค่ะ

    การบ้านของชั่วโมงที่ 11 :
    1. แสดงความคิดเห็น รู้สึกอย่างไรกับบทเรียนวันนี้

    ตอบ บทเรียนวันนี้ทำให้ต้องกลับมาพิจารณากันอีกครั้งว่าเรามีใจที่จะตั้งใจรักษาศีล 5 แล้วหรือยัง ตอบ มีความตั้งใจอย่างยิ่งค่ะ

    2. ดาวน์โหลดไฟล์ MP3 ที่แนบมานี้ไปฟัง [​IMG] การบ้านบทที่ 11.mp3
    วิธีการฟัง : ให้ปิดไฟ หรือนั่งในที่มืดด้วยท่าสบายผ่อนคลาย ควรฟังในที่สงบหรือที่อันควรแก่การฟังธรรมฟังอย่างตั้งใจและค่อย ๆ พิจารณาตามไปตลอดการฟัง ...ฟังแล้วค่ะ...


    3. จากไฟล์เสียงที่ได้ฟัง ท่านประทับใจหรือชื่นชอบประโยคใดเป็นพิเศษ
    ตอบ ...หิวก็เป็นกรรมอย่างหนึ่ง...

    ...การเกิดเป็นทุกข์นี่จริงอย่างที่พระพุทธเจ้าตรัส...
    ...เราจะไม่เกิดมาทุกข์แบบนี้อีกแล้ว...
    ...เราจะรักษาความดีของเรา...
    ...พอเธอเกิดความรู้สึกว่าโลกนี้น่าเบื่อจริงๆ นั่นล่ะเธอเริ่มก้าวเท้าสู่พระโสดาบันแล้ว...
    ...ความทุกข์ที่มีเธอไปทำความเข้าใจให้แจ่มแจ้งเถิด แล้วเธอจะรักพระพุทธเจ้ามาก...
    ...นับแต่วันนี้เป็นต้นไป ขึ้นชื่อว่าการพอใจในการที่จะเกิดอีกไม่มีสำหรับเรา...
    ...พยายามให้นิวรณ์มันห่างออกจากใจเราบ่อยๆ...
    ...สิ่งหนึ่งที่เธอไม่ควรมองข้ามคือการทำกำลังใจให้เต็ม...
    ...มันง่ายขนาดนั้นเลยหรือ มันง่ายสำหรับคนที่เห็นทุกข์แล้วต่างหาก...
    ...หนทางการปฏิบัติเพื่อการพ้นทุกข์ไม่ได้ยากเย็นอะไรเลย อยู่ที่กำลังใจของเราว่าอยากพ้นทุกข์จริงมั้ย เราขอเป็นลูกของพระพุทธเจ้า หนูจะปฏิบัติตามด้วยความเคร่งครัด เอาชีวิตเข้าแลก ยอมตาย...
    ...ก้าวแรกของเธอเราต้องทำตรงนี้ให้ได้ก่อน ไม่ต้องห่วงเรื่องการไปนิพพานในชาตินี้ไปได้มั้ย ได้แน่นอน...
    ...หนูเอาจริงนะ ไม่ได้เอาเล่นๆ นะ เอาจริงนะ...

     
  8. gogogourmet

    gogogourmet สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    37
    ค่าพลัง:
    +24
    ผ่านมาแล้ว10บท บางเรื่องก็เข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้างก็พยายามกลับไปทบทวนบ่อยๆ ใจที่หนักๆในการควบคุมศีลให้ครบก็เบาสบายขึ้นเพราะได้เข้าใจแล้วว่าต้องมีความเมตตาเป็นพื้นฐานค่ะ

    1. แสดงความคิดเห็น รู้สึกอย่างไรกับบทเรียนวันนี้
    -อยากขอบคุณครูบาอาจารย์ที่เมตตาบรรยายธรรมให้เราได้ฟังค่ะ
    3. จากไฟล์เสียงที่ได้ฟัง ท่านประทับใจหรือชื่นชอบประโยคใดเป็นพิเศษ
    -เมื่อใดที่อารมณ์ทรงอยู่คล้ายโสดาบันเม่ือไร เธอยิ้มได้แล้วว่าตายเมื่อไรก็ได้ไม่ตกนรกแล้ว
     
  9. karan20

    karan20 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2010
    โพสต์:
    1,297
    ค่าพลัง:
    +2,379
    สาธุ สาธุ สาธุ...

    ทบทวนบ่อย ๆ
    1. ทบทวนโดยการฟังและคิดตามเพื่อการวิปัสสนา
    2. ทบทวนโดยการปฏิบัติ คือเมื่อเจอทุกข์ในชีวิตประจำวัน
    ให้นำสิ่งที่ได้จากข้อ 1. มาทบทวนอีก

    มีอะไรไม่เข้าใจสอบถามได้นะครับ
    หากไม่เกินกำลังสติปัญญา ผมก็จะแนะนำให้
     
  10. My Buddha

    My Buddha เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    246
    ค่าพลัง:
    +2,473
    สมบูรณ์แบบเลยค่ะ ขอลอกการบ้านส่งนะคะ :cool:
     

แชร์หน้านี้

Loading...