เสียงพระพุทธเจ้าเป็นเสียงที่ตายใจได้ตลอดมา ท่านเรียกว่า สฺวากฺขาโต ภควตา ธมฺโม พระธรรมที่ประกาศกังวานให้โลกทั้งหลายได้ทราบกระเทือนถึงสามแดนโลกธาตุมาเป็นเวลานานแสนนานกี่กัปกี่กัลป์ พระพุทธเจ้าพระองค์ใดมาตรัสรู้ก็ประกาศธรรมสอนโลกกระเทือนถึงสามโลกธาตุด้วยกันหมด พระพุทธเจ้าของเราองค์ปัจจุบันนี้ก็ประกาศกระเทือนถึงสามแดนโลกธาตุ หมื่นโลกธาตุ ฟังซิ ท่านแสดงไว้ในธัมมจักกัปปวัตตนสูตร หมื่นโลกธาตุสะเทือนสะท้านไปด้วยกันหมด ด้วยอำนาจแห่งธรรมของพระพุทธเจ้าท่านประกาศเตือนไปๆ
สัตว์ทั้งหลายที่มีอุปนิสัยก็ได้ขวนขวายความดีงามเข้าสู่จิตใจของตน ใจก็มีวันก้าวหน้าเจริญ ที่สุดของใจก็คือนิพพาน ถึงนิพพานแล้วเป็นธรรมธาตุไปเลย ท่านเรียกว่านิพพานเที่ยง คือจิตดวงนี้ปราศจากสมมุติทั้งมวล เป็นวิมุตติล้วนๆ แล้ว เป็นนิพพานเที่ยง กฎ อนิจฺจํ ทุกฺขํ อนตฺตา เข้าไม่ถึงเลย อนิจฺจํ ความไม่เที่ยงทุกฺขํ ความเป็นทุกข์ อนตฺตา ความไม่ใช่ตนไม่ใช่ตัวอะไรเหล่านี้ปัดออกหมด ไม่มีในพระนิพพาน เหล่านี้เป็นสมมุติทั้งมวล
จิตเวลาได้ชำระสะสางตนให้ดีเรียบร้อยแล้วด้วยอรรถด้วยธรรม คือความดีงามทั้งหลายที่เราสร้างมา เข้าไปซักฟอกที่จิตใจของเรา เมื่อถึงที่สุดแห่งใจนี้แล้วเรียกว่าเป็นธรรมธาตุ นิพพานเที่ยงขึ้นมา นอกนั้นไม่เที่ยง สามโลกธาตุ แม้ไปตกนรกอเวจีกี่กัปกี่กัลป์ก็ไม่เที่ยง มีการเปลี่ยนแปลงโยกย้ายผันแปรไปเหมือนกัน แต่ว่าช้าเร็วต่างกัน เช่นตกนรกตั้งหลายกัปหลายกัลป์ ว่าจะเที่ยงอยู่นั้นก็ไม่ใช่ ค่อยเปลี่ยนแปลงขึ้นมาตามระยะช้าหรือเร็วตามกฎอนิจจังของตัวเอง แล้วก็ขึ้นมาพ้นจากนรกได้ แล้วพลิกแพลงเปลี่ยนแปลงตัวเป็นคนดี พลิกจากชั่วทั้งหลายขึ้นไปทางดี ดีเรื่อย พลิกขึ้นถึงนิพพาน นั่นเที่ยงที่นี่ พอถึงนิพพานแล้วเที่ยง
ใจนี้จะเที่ยงได้ จะตายใจได้เมื่อถึงนิพพานแล้วเท่านั้น นอกนั้นยังตายใจไม่ได้ จึงต้องได้ประคับประคองระมัดระวังรักษาอยู่เสมอ ไม่งั้นผิดพลาดได้ ไปทางความทุกข์ได้ เสียหายแก่ตัวเองได้ ท่านจึงให้ประคับประคองรักษาตัวเองตลอดไป จนกระทั่งถึงที่สุดวิมุตติพระนิพพานแล้วหมด จิตใจที่ถึงวิมุตติหลุดพ้นแล้วหมดโดยสิ้นเชิง สมมุติทั้งหลายมีอยู่ก็จริงท่านก็ปฏิบัติ เช่นอย่างพระอรหันต์ท่านปฏิบัติต่อโลกสมมุติ กิริยาอาการเหล่านี้ท่านก็ปฏิบัติรักษา ความยอมรับของสังคมว่าผิดว่าถูก ท่านก็ยอมรับว่าผิดว่าถูกไปตามสมมุตินิยม ทั้งๆ ที่จิตนั้นพ้นไปหมดแล้ว
เสียงธรรม ตายใจได้เมื่อถึงนิพพานแล้วเท่านั้น
ในห้อง 'ธรรมเพื่อความหลุดพ้น' ตั้งกระทู้โดย J.Sayamol, 3 มีนาคม 2011.
-
ไฟล์ที่แนบมา:
-
-
โมทนาสาธุครับหม่อมพี่
-
อนุโมทนาสาธุ ครับ
-
-
อนุโมทนาครับ อ่านแล้วให้คิด ว่าโอวาทธรรมสั้นๆเท่านี้อ่าน๗วันก็ไม่จบ
วิทยาศาสตร์...เขาว่ามนุษย์ และสัตว์วิวัฒนาการมาจากสัตว์เซลล์เดียว แต่
พุทธศาสตร์.....กลับพิสูจน์ให้เป็นประจักชัดแล้วว่า ดวงจิตทุกดวงนั้น จะวิวัฒนาการไปสู่จุดหมายสูงสุดเดียวกันหมด....คือพระนิพพาน
ทีนี้ใครจะถึงช้า...ใครจถึงเร็ว.....ใครจะไปถึงก่อน...ใครจะไปถึงหลังเท่านั้น
คนที่มีปัญญา มีความเพียร มีกำลังใจเข้มแข็ง ก็จะลัดตัดตรง...สู่จุดหมายได้ไวกว่า......ไม่ต้องทุกข์มากเหมือนกับคนที่กำลังใจอ่อน เหลาะแหละ ขาดความเด็ดเดี่ยว เด็ดขาด...ชอบที่จะปล่อยตัวปล่อยใจให้เป็นไปตามลมตามแล้ง เป็นไปตามบุญตามบาป พัดพาให้ล่องลอยไป หลงอยู่ในวังวนเดิมๆ....จุดหมายของเขาก็จะเสียไป...ผลอันจะพึงได้แก่เขาก็เสียไปด้วย ต้องทุกข์มากกว่า....สัตว์จึงหลงท่องเที่ยวอยู่ในภูมิอันน่าสงสารนี้นับเป็นอเนกอนันตชาติ
(โม้ให้ฟังน่ะครับ)
รู้แล้วทำ....กับรู้แล้วไม่ทำมันต่างกันมากนะ -
อนุโมทนา ครับ
-
อนุโมทนาครับ
-
สาธุด้วยค่ะ
-
ขออนุโมทนาด้วยครับ
-
อนุโมทนาสาธุ ธรรมที่ให้พ้นความแห่งทุกข์
-
อนุโมทนาสาธุ
-
วิญญาณนิพพาน ทีมงานอาสาฯ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด
อนุโมทนาครับ ขอบคุณมากครับ